วันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

พิศวาสรัก ระเริงกาม

พิศวาสรัก ระเริงกาม
ธรรมสิริ
www.mebmarket.com
แสงจันทร์ในค่ำคืนนี้ส่องสว่างทอแสงนวลไปทั่วทุกพื้นที่ สวยงามเหลือเกิน แต่เงาของสองหนุ่มสาวที่เคียงคู่รักกันกลับดูโดดเด่นสวยงามยิ่งกว่าจันทร์บนฟ้า คืนแรกที่พวกเขาทั้งสองจะได้ร่วมเรียงเคียงหมอนนอนหลับใหลตื่นมาพร้อมคนข้างกายใจ ทั้งคู่รอวันนี้มานานเหลือเกิน “ผมรักคุณมากรู้ไหม”เสียงทุ้มเข้มอบอุ่นกระซิบบอกรักที่กกหู ทำเอาหญิงสาวขนลุกซู่ไปทั้งร่าง รอยสัมผัสที่อ่อนหวาน และมือใหญ่หยาบกระด้างกลับอ่อนโยนยิ่ง ริมฝีปากที่กดแรงและหนักหน่วง ของเขาทำให้เธอหายใจแทบไม่ได้ ปลายลิ้นที่ซอกซอน ตวัดรัดรึง เนิ่นนาน แม้ยามถอนริมฝีปากออก เขาไม่ปราณีต่อความรู้สึกที่ทั้งสองกำลังดำดิ่ง และถลำลงไปใต้เงากฤษณาที่แผ่ซ่านทั่วกาย…ปลายนิ้วของชายหนุ่มเลื่อนไหลสัมผัสแผ่วเบาชวนขนลุก ลูบไล้ที่เนินอก ตะขอเสื้อในหลุดออกแล้ว “ใจเย็นคะ”“ผมไม่ไหวแล้ว...ผมรักคุณมากรู้ไหม คนดีของผม” ลมหายใจที่รวยรินต้นคอมันทำให้สาวเจ้าได้ยินถึงกับล่องลอย และควบคุมอะไรไม่ได้ก่อนจะครางออกมาตามธรรมชาติ “ซี้ด..อู้ยยยย อาซ์ โอ้ว ที่รักค่ะ..ทำไมมันเสียวอย่างนี้”บุรุษหนุ่มได้ยินเสียงของหญิงสาวคนรักครวญครางด้วยความสยิวเสียวซ่านยิ่งทำให้หัวใจของเขาปรารถนามากยิ่งขึ้นเกมรัก เกมสวาทกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว เขาจะทำให้เธอรู้ว่าเขารักเธอมากแค่ไหน และจะทำให้เธอมีความสุขมากที่สุด
แสงจันทร์ในค่ำคืนนี้ส่องสว่างทอแสงนวลไปทั่วทุกพื้นที่ สวยงามเหลือเกิน 

แต่เงาของสองหนุ่มสาวที่เคียงคู่รักกันกลับดูโดดเด่นสวยงามยิ่งกว่าจันทร์บนฟ้า 

คืนแรกที่พวกเขาทั้งสองจะได้ร่วมเรียงเคียงหมอนนอนหลับใหลตื่นมาพร้อมคนข้างกายใจ 

ทั้งคู่รอวันนี้มานานเหลือเกิน 



“ผมรักคุณมากรู้ไหม”

เสียงทุ้มเข้มอบอุ่นกระซิบบอกรักที่กกหู ทำเอาหญิงสาวขนลุกซู่ไปทั้งร่าง 



รอยสัมผัสที่อ่อนหวาน และมือใหญ่หยาบกระด้างกลับอ่อนโยนยิ่ง ริมฝีปากที่กดแรงและหนักหน่วง ของเขาทำให้เธอหายใจแทบไม่ได้ 

ปลายลิ้นที่ซอกซอน ตวัดรัดรึง เนิ่นนาน แม้ยามถอนริมฝีปากออก เขาไม่ปราณีต่อความรู้สึกที่ทั้งสองกำลังดำดิ่ง 

และถลำลงไปใต้เงากฤษณาที่แผ่ซ่านทั่วกาย…

ปลายนิ้วของชายหนุ่มเลื่อนไหลสัมผัสแผ่วเบาชวนขนลุก ลูบไล้ที่เนินอก ตะขอเสื้อในหลุดออกแล้ว



“ใจเย็นคะ”

“ผมไม่ไหวแล้ว...ผมรักคุณมากรู้ไหม คนดีของผม”







ลมหายใจที่รวยรินต้นคอมันทำให้สาวเจ้าได้ยินถึงกับล่องลอย และควบคุมอะไรไม่ได้ก่อนจะครางออกมาตามธรรมชาติ 





“ซี้ด..อู้ยยยย อาซ์ โอ้ว ที่รักค่ะ..ทำไมมันเสียวอย่างนี้”

บุรุษหนุ่มได้ยินเสียงของหญิงสาวคนรักครวญครางด้วยความสยิวเสียวซ่าน

ยิ่งทำให้หัวใจของเขาปรารถนามากยิ่งขึ้น

เกมรัก เกมสวาทกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว





เขาจะทำให้เธอรู้ว่าเขารักเธอมากแค่ไหน และจะทำให้เธอมีความสุขมากที่สุด

วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

นิยายเสียว

"สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ เนตรนภา นามสกุลเป็นความลับ ฉันเป็นลูกสาวคุณยายสมปอง เอ๊ะ!ทำไมเรียกคุณยายหรอคะ เพราะแม่ของฉันแก่ผิวหนังเหี่ยวแบบคุณยายแล้วน่ะสิ ส่วนตัวฉันน่ะหรออายุ 42 ฮิๆ ทำไมภายนอกฉันยังดูอายุ 12 น่ะหรอ เพราะฉันเป็นแม่มดไงล่ะ"
เด็กสาว ไว้ผมหน้าม้า ดวงตากลมโตสีช็อกโกแลต เส้นผมสีดำตรงยาวถึงกลางหลัง
ชุดที่ใส่ประจำคือชุดสไตล์โลลิต้า และวันนี้ชุดที่เธอใส่คือชุดกระโปรงสายเดี่ยวสีชมพูลายคัพเค้ก แขนขาลำตัวเรียวเล็ก ผิวเนียนนุ่มละเอียดขาวใสราวผ่านการดูแลสปาผิวมาอย่างดี เส้นผมยาวตรงของเธอมีกลิ่นมะพร้าวอ่อนๆมาจากแชมพูสระผมขวดโปรดของเธอ
เนตรนภา ยืนยืดแขนบิวลำตัวไปมาหน้าบ้านทาวน์เฮาส์สามชั้น ห้องนอนของเธออยู่ชั้นสอง ส่วนชั้นสามมีห้องนอนของพี่ชายที่ตอนนี้อยู่ต่างประเทศ คุณยายสมปองแม่ของเธอนานๆจะมาตรวจดูลูกที และสาเหตุที่เธอมายืนบิดแขนรับอรุณหน้าบ้านนี้ เพราะเธอมารอ"เหยื่อ" ที่กำลังขับมอเตอร์ไซด์มาส่งพิซซ่าให้เธอ คนนี้เป็นรายที่สิบห้า เธอเริ่มทำแบบนี้ตั้งแต่ได้แหวนเวทย์มนต์จากพี่ชายมา และเธอจะลงมือในเฉพาะช่วงโปรพิซซ่า1แถม1เท่านั้น
30นาทีผ่านไป
บิ๊กไบท์สีเขียวก็ขับมาจอดหน้าบ้าน เนตรนภาหยุดบิดแขน ตอนนี้เธอได้เข้ามารอในบ้านแล้ว เพราะแดดข้างนอกมันร้อน และเธอคิดว่ายืนรอนานไปเลยนอนรอในบ้าน เนตรยกมือหาวเบาๆ ก่อนเดินไปเปิดประตูหน้าบ้านที่มีเสียงกิ่งดังมา
ร่างบางสวมรองเท้าแตะลายปลาฉลาม เดินออกไปทำท่าสะลึมสะลืม
"คุณเนตรนภาใช่ไหมครับ"
"ค่ะ"
"รายการทั้งหมด349บาท จ่ายพอดีใช่ไหมครับ?"
พนักงานถือพิซซ่าพูดขณะมือข้างหนึ่งถือสองถาดซ้อน มืออีกข้างจับปีกหมวกแก้ป เนื่องจากหลบแสงร้อนจากดวงอาทิตย์
"พอดีค่ะ"
เนตรนภาพูดพลางคลี่ยิ้มหวาน มือบางข้างหนึ่งกำเงินมาวางลงบนมือพนักงานหนุ่ม ใช่แล้วข้างนั้นเป็นมือข้างที่สวมแหวนเวทย์มนต์ยังไงละ
แหวนเวทย์มนต์คืออะไรน่ะหรอ แหวนเวทย์มนต์ก็เหมือนคทาวิเศษ ที่ร่ายมนต์คาถาถูกต้องเวทย์มนต์ถึงจะสำแดงฤทธิ์ แล้วที่สำคัญคนใช้แหวนต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับหนึ่ง หรือเป็นพ่อมดแม่มดนั่นเอง
"รับมาพอดีนะครั..."
ร่างสูงที่ถือกล่องพิซซ่าทรุดตัวลง หมวกแก๊ปตกหล่นลงมาเผยให้เห็นเส้นผมสีทอง ชายหนุ่มลักษณะภายนอกเหมือนลูกครึ่ง หมดสติลง ใบหน้าเนียนใสไร้สติซบลงบนหน้าอกคัพc ของเนตรนภา
รอยยิ้มหวานระบายบนใบหน้าของของร่างบาง
ณ ห้องนอนชั้นสองของเนตรนภา ชายหนุ่มขับบิ๊กไบท์ที่มาส่งพิซซ่า ที่ตอนนี้ไม่เหลือคราบพนักงานส่งของ เพราะเสื้อผ้าบนตัวเหลือกางเกงขายาวแค่ตัวเดียว
ร่างสูงชันเข่าบนฟูกบนเตียงใหญ่สีขาว3ฟุต
เนตรนภาเดินมาใช้มือเชยคางพนักงานส่งพิซซ่าให้มองเธอ
นัยน์ตาสีทองของชายหนุ่มสะท้อนภาพเด็กสาวผมสีดำยาวดวงตาสีช็อกโกแลต
"คุณเป็นของฉัน.."
"ผมเป็นของคุณ"
นัยน์ตาสีทองของร่างสูงแลดูเหม่อลอย รอยยิ้มหวานระบายบนริมฝีปากยัยตัวร้าย ร่างหนาสวมกางเกงตัวเดียวชันเข่าโชว์กล้ามเนื้อช่วงอกหอบหายใจ ใบหน้าเปื้อนเหงื่อถูกมือบอบบางลูบคลำก่อนไล้มาแตะบนริมฝีปากหนา
"ใช่แล้วนาย.." มือบางไล้ไปลงไปวนช่วงล่างเสียงอา...พึมพำในลำคอเบาๆก่อนขึ้นมาลูบบริเวณแผงอก ริมฝีปากบางประกบบดขยี้ลงบนริมฝีปากหนา
"เป็นของฉัน!!!"
วงแหวนเวทย์มนต์เริ่มออกฤทธิ์ ร่างสูงปรือตาลงแลกจูบอย่างดูดดื่มจนลืมไปว่าจะต้องไปส่ งพิซซ่าอีกบ้านข้างๆ ลิ้นหนาร้อนๆตวัดดูดกลืนความหวานจากกระพุ้งแก้ม ร่างบางในชุดสายเดี่ยวลายคัพเค้กไร้สายเสื้อใน หน้าอกคัพ c เบียดก้อนเนื้อนุ่มๆลงบนแผ่นหน้าอกหนา มือบางลูบไล้แผงอกไปมาก่อนยื่นมือที่เล็บทำสีแหลมคมจิกลงไปบนหัวนมแล้วบีบ
"อ่าา... ...." ร่างสูงร้องคราง
กลีบดอกไม้ช่วงล่างบอบบางถูเบาๆลงบนเป้ากางเกงที่เริ่มพองโต
"อา า .... .."ชายหนุ่มหลับตาพริ้ม ร่างสูงโก่งตัว แขนสองข้างยันข้างลำตัวแล้วแอ่นลำตัวช่วงล่างให้เป้ากางเกงมาสัมผัสกลีบดอกไม้มากขึ้น
"อ๊าาา าาาา !!!!""
มือบางที่เล็บผ่านการทำสีมาออกแรงบีบที่หัวนมทั้งสองแน่น
ร่างบางถูกลีบดอกไม้ขึ้นลงบริเวณเป้าที่เริ่มขยาย ก่อนโน้มลำตัวบางลงบนร่างที่ทอดสะพานโค้งแล้วจูบที่ซอกคออย่างดูดดื่ม
"อะ แย่จังจะแตกแล้ว"
ร่างบางเอ่ยก่อนถกชุดกระโปรงขึ้นโชว์กางเกงชั้นในลายน้องเหมียว นิ้วเล็กรีบเกี่ยวกางเกงในออก ก่อนเอามาครอบหัวชายหนุ่มลูกครึ่งผมทองที่มีสีหน้ามึนงงเพราะแหวนเวทมนต์ มือบางทาเล็บสีหวานลูบลงบนใบหน้าใสเกลี้ยงเกลา ขาขาวๆยกขึ้นมาค่อมใบหน้า มือบางปล่อยชายกระโปรงที่กำไว้ลงบนเจ้าของเส้นผมสีทอง ก่อนค่อยๆนั่งลงให้กลีบดอกไม้ตรงอยู่บนริมฝีปากหนา
มือบางสองข้างดึงทึ้งเส้นผมสีทองของร่างสูงที่ยังทำสะพานโค้งให้หัวยกขึ้นมาเล็กน้อย จมูกร่างสูงเผลอสูดดมกลิ่นของกลีบดอกไม้งาม
"ที่รัก..." เจ้าของกลีบดอกไม้ เอ่ยเสียงหวาน พลางกดศีรษะให้จมูกชายหนุ่มได้แนบชิดสูดดมกลิ่นมากขึ้น
"ครับ..." ร่างสูงเอ่ยด้วยน้ำเสียงต้องมนต์ ลิ้นหนาร้อนแลบออกมาเลียริมฝีปากโดนไม่รู้ตัว
"กลืนค่ะ!!"
"ครับ"
ลิ้นร้อนตวัดแทรกเข้าไปในกลีบดอกไม้แล้วดูดกลืน น้ำที่ไหลออกมาจากดอกเกสรตามคำสั่ง ร่างบางส่งเสียงพึมพำในลำคอ แล้วบิดโยกลำตัวไปมาขณะถูกเลีย โดยฝ่ามือที่เล็บทำสียังคงฉุดทึ้งอยู่บนเส้นผมสีทอง
..........

วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

แฝดสวาท


ท่ามกลางอากาศร้อนลุ่ม ทั้งที่เวลาขณะนั้นเกือบ4โมงเย็นแล้ว รถยุโรปราคาไม่ต่ำกว่าสามล้านบาท วิ่งฝ่าเปลวแดดอ่อนๆ
อยู่บนถนนสายเอเซียบ่ายโฉมหน้าไปทางจังหวัดนครสวรรค์ แต่พอรถคันนั้นวิ่งถึงหลักกิโลเมตรที่200กว่าๆนับจากกรุงเทพ
ก็ชะลอรถ แล้วเปิดไฟเลี้ยวซ้ายเมื่อเห็นปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งอยู่เบื้องหน้า คนขับรถคือนายฉัตรชัย นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ไฟแรง
ส่วนหญิงสาววัยชราอายุประมาณ60ปี นั่งอยู่อีกด้านข้างๆที่นั่งชายหนุ่ม

"แม่ครับ...เดี๋ยวพอผมเติมน้ำมันรถ แม่ก็ไปเข้าห้องน้ำได้เลยนะครับ.." เสียงทุ้มนุ่มของชายหนุ่มหันไปบอกให้หญิงชราผู้
เป็นแม่รับทราบ ในขณะที่รถหรูราคาแพงคันนั้นค่อยๆแล่นไปจอดเทียบหัวจ่ายน้ำมัน

"แก๊สโซฮอล95...เต็มถังครับ..."

ฉัตรชัยกดปุ่มลดกระจกลงมาจนสุด ก็บอกให้พนักงานเติมน้ำมันสาวของสถานนีบริการน้ำมันแห่งนั้นที่เดินมาประชิดติด
ประตูด้านคนขับทราบ จากนั้นก็หันหน้าไปมองผู้เป็นแม่ที่นั่งอยู่ด้านข้าง แต่ในหางตากลับเห็นพนักงานสาวของสถานี
บริการไม่ได้ขยับตัวไปที่หัวจ่ายน้ำมันตามที่ฉัตรชัยบอกออกไป เธอยังคงจ้องมองหน้าของฉัตรชัย พร้อมยิ้มให้เหมือนดั่ง
คนเคยรู้จักกันมาก่อน

"โอ้โห..เฮียชัด...ไปรวยอะไรมาคะนี่...ขับรถคันโตเชียว..."

ฉัตรชัยหันหน้าไปมองพนักงานสาวผู้นั้นพร้อมเลิกคิ้วหนาเข้มเหมือนงุนงงสงสัยว่าเธอผู้นั้นคงจะจำคนผิด แต่ยังไม่ทัน
ได้บอกออกไป พนักงานสาวก็เดินอ้อมหลังรถไปที่หัวจ่ายน้ำมัน แล้วจัดการเติมน้ำมันให้ตามความต้องการของเขา
เสียก่อน

รอจนน้ำมันเต็มถังตามที่ฉัตรชัยต้องการ เธอก็เดินกลับมา ฉัตรชัยชะโงกหน้าข้ามฝั่งไปดูจำนวนตัวเลขที่จะจ่าย พร้อม
เปิดประเป๋าหยิบบัตรเครดิตออกมา แต่ก็เปลี่ยนใจส่งธนบัตรจำนวนสองพันบาทให้กับเธอแทน

"ถูกหวยรวยเบอร์มาหรอเฮีย..ชัด..."

[post]อีกครั้งที่พนักงานสาวพูดสร้างความงุนงงให้กับชายหนุ่ม แต่พอรับเงินจากมือเขาไปแล้ว ก็วิ่งกลับไปที่แคชเชียร์ ไม่รอ
คำตอบของฉัตรชัยที่จะบอกกับเธอว่า จำคนผิดแล้ว แต่คำพูดของพนักงานผู้นั้น กลับทำให้ใบหน้าของหญิงชราผู้เป็น
แม่ของฉัตรชัยหน้าถอดสี หญิงชราขยับตัวอย่างอึดอัด ถ้าเขาเพียงหันกลับมาคงต้องเห็นความผิดปรกติบนใบหน้าของ
ผู้เป็นแม่อย่างแน่นอน

"ขอบคุณค่ะ...เฮียชัด...เชิญร้านเซเว่นก่อนนะคะ...มีคูปองลดสินค้ามากมายเลยค่ะ..."

พนักงานสาวผู้นั้นพูดจบยกมือไหว้ พน้อมส่งเงินทอนกับบัตรคูปองลดสินค้าในร้านเซเว่นของสถานีบริการแห่งนั้นให้ชาย
หนุ่ม...แล้วเดินเลี่ยงออกไปซุบซิบกับเพื่อนพนักงานอีกคน จนฉัตรชัยค่อยๆเคลื่อนรถออกไปที่จอดใกล้ๆห้องน้ำให้กับผู้
เป็นแม่

"สงสัยหน้าผมคงโหลนะแม่...เด็กนั่นถึงทักคนผิด ฮาๆๆๆ"

ชายหนุ่มหันไปพูดกับผู้เป็นมารดา แล้วหัวเราะขำๆ ไม่ได้ติดใจหรือซีเรียสที่มีคนทักผิด แต่คำพูดแสนธรรมดานั้นกลับทำ
ให้ผู้เป็นมารดาสะดุ้ง อึกอักก่อนจะพูดอ้อมแอ้มออกมาว่า

"คงงั้นแหละลูก..."

จากนั้นเธอก็ค่อยๆเปิดประตูรถคันหรูราคาแพงเดินลงไปเข้าห้องน้ำ แต่ใครจะรุ้ว่าในหัวของคุณแจ่มจรัส กลับคิดไปถึงบุตร
ชายอีกคนที่ถูกแยกไปอยู่กับอดีตสามีของเธอ ชัดชาย...คือชื่อของฝาแฝดผู้น้อง เธอมั่นใจว่าพนักงานสาวคนนั้น คงต้องรู้
จักกับลูกแฝดอีกคนของเธอแน่ๆ

หลังจากผุ้เป็นแม่ลงจากรถเดินไปห้องน้ำ ฉัตรชัยก็ลงเดินไปที่ร้านเซเว่น เพื่อจะหาซื้อของบางอย่าง พอเดินไปถึงหน้า
ประตูร้านเซเว่นเท่านั้น ก็ได้ยินเสียงทักจากแม่ค้าขายล็อตตอรี่ ที่นั่งอยุ่ใกล้ๆประตูร้านอีกครั้ง

"แหม...วันนี้คุณชัดแต่งตัวซะหล่อจนป้าเกือบจำไม่ได้แน่ะ...งวดนี้ยังไม่ได้อุดหนุนหวยป้าเลยนี่คะ..."

แม่ค้าขายหวยไม่พูดเปล่ากลับยึดข้อมือฉัตรชัยไว้ เหมือนคนรู้จักสนิทกันพอสมควร พร้อมกางกระบะไม้ที่บรรจุฉลากกินแบ่ง
รัฐบาลให้ชายหนุ่มดู

"ผมไม่ชอบเล่นหวยครับป้า..."

เป็นอีกครั้งที่มีคนทักผิดจนชายหนุ่มงุนงง แต่คำพูดสุภาพทุ้มนุ่มของเขาก็ทำให้แม่ค้าขายหวยเงยหน้าขึ้นมามองจ้องเขม็ง
ใบหน้าหญิงชราวัยใกล้เคียงกับแม่ของฉัตรชัยขมวดคิ้วเข้าหากัน มองหน้าเขาเขม็ง แล้วพูดหัวเราะๆออกมา

"แน่ะ...วันนี้มามุกนี้กับป้าเชียวหรือคะ...ฮาๆๆ..สงสัยยังไม่มีเลขเด็ดละสิ...ไม่เป็นไรค่า..มีแล้วค่อยมาอุดหนุนป้านะ.."  หญิง
ชราคนขายหวยพูดจบก็ปล่อยข้อมือฉัตรชัย แล้วปิดกระบะไม้ขายหวยของเธอ

"ป้า...ผมไม่ได้เล่นมุกนะครับ..ผมไม่ได้ชื่อชัด...ผมไม่เล่นหวย แล้วผมก็ไม่รุ้จักป้ามาก่อนจริงๆ..." ทันทีที่พูดจบ หญิงชราก็
เงยหน้าขึ้นจ้องหน้าเขาอีกครั้ง พร้อมหัวเราะลงคอดังเอิ๊กๆ

"ไม่ซื้อก็ไม่ซื้อสิคะ...ยังจะมาหลอกป้าอีก พ่อชัดก็..คนกันเองทั้งนั้น..."

หญิงชราคนขายหวยยังคงมั่นใจว่าชายหนุ่มที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเธอนี้ คือนายชัด หรือชัดชาย หนุ่มใหญ่ซึ่งเป็นลูกชายของ
อดีตกำนันสินแน่นอน แล้วคิดว่าคงจะเล่นมุกตลกกับเธอเท่านั้น ส่วนฉัตรชัยก็คร้านที่จะอธิบายหรือซักถาม ในเมื่อเธอมั่น
ใจว่าเขาคือนายชัด บุรุษอีกคนหนึ่งก็ปล่อยให้เข้าใจไปเช่นนั้นตามเดิม

ชายหนุ่มเปลี่ยนใจที่จะเข้าไปในร้านเซเว่นกระทันหัน คงเพราะกลัวจะโดนทักผิดอีกอีกครั้งจากพนักงานประจำร้าน หัน
กลับมาที่รถคันหรู ที่ผุ้เป็นแม่ยืนรออยู่ จากนั้นพอขึ้นรถได้กันทั้งสองแม่ลูก เขาก็สตาร์ทรถเคลื่อนออกไปจากสถานีบริการ
แห่งนั้น ทิ้งปริศนาคาใจเอาไว้เบื้องหลัง

"แม่ครับ..แม่เคยบอกว่าพ่อตายตอนที่ผมยังเล็กๆใช่มั๊ยครับ" ชายหนุ่มพูดขึ้นเมื่อรถเคลื่อนออกจากสถานีบริการแห่งนั้นไป
ได้สักครู่ คุณแจ่มจรัสถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินคำถามจากบุตรชาย นิ่งเงียบไปครู่ถึงได้ตอบออกมาเบาๆว่าใช่..

"หรือว่าก่อนพ่อเสียจะมาทิ้งไข่ไว้แถวนี้น่ะแม่.." พูดจบก็หัวเราะเบาๆ เหมือนมันเป็นเรื่องตลก

"อย่าไปใส่ใจเลยลูก.. ประเทศไทยมีคนเจ็ดสิบแปดสิบล้านคน คงต้องมีคนหน้าเหมือนๆกันบ้างละ..." คุณแจ่มจรัสไม่ตอบ
คำถามกลับพูดไปอีกด้าน แต่ดุเหมือนคำพูดของผู้เป็นแม่ทำให้ฉัตรชัย ไม่ติดใจสงสัยเรื่องนี้ เปลี่ยนหัวข้อการสนทนากับ
มารดาไปยังเรื่องอื่นๆแทน

จนรถหรูราคาแพงใกล้ถึงอำเภอแม่สอดจังหวัดตาก อันเป็นจุดหมายปลายทางที่ชายหนุ่มต้องการมา เพื่อหาซื้อเฟอร์นิเจอร์
ไม้สักหลายชิ้น เอาไปแต่งตกเรือนหอของตนเองในอนาคตที่ถูกกำหนดไว้อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า


อีกด้านหนึ่งของประเทศไทย ที่จังหวัดชัยนาท อันเป็นจังหวัดเล็กๆในภาคกลางของประเทศ ณ.ตำบลเล็กๆแห่งหนึ่ง ที่คน
ในพื้นที่ล้วนเป็นเกษตรกร มีอาชีพทำนาปลูกข้าว ปลูกพืชสวนครัวขุดบ่อเลี้ยงปลาและเลี้ยงเป็ดไก่ ทำตามพระราชดำริ
ของในหลวงในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง เสียงดังแต๊กๆๆของเครื่องสูบน้ำ ที่กำลังสุบน้ำเข้าบ่อเลี้ยงปลาที่แห้งเหือดลด
จำนวนน้ำลงจนมีทีท่าว่าจะเป็นอันตรายกับฝูงปลากินพืชที่ตนเองเลี้ยงไว้

"พ่อ...นู๋ว่าพอเหอะ...ฝนจะตกแล้ว เดี๋ยวน้ำก็เต็มบ่อเองแหละ..." เสียงแหลมเล็กของสาวน้อยวัยแรกผลิ ในชุดผ้าซิ่นสี
น้ำเงิน กับเสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีนวลๆ พูดกับผุ้เป็นพ่อที่กำลังนั่งมวนใบยาสูบอยู่ที่เพิ่งพักเล็กๆ มุงด้วยหญ้าแฝก มีฝาทำด้วย
แฝกเช่นกันอยุ่เพียงสามด้าน

เสียงเครื่องสูบน้ำดังแต๊กๆๆๆ ยังดังสอดแทรกอยู่ท่ามกลางอากาศที่เริ่มสลัวมืดลงเพราะเมฆฝนก้อนใหญ่ อันเป็นฝนแรก
ของฤดูทำนาปี ชายหนุ่มวัยกลางคนเงยหน้ามองท้องฟ้าแล้วพุดกับสาววัยกำดัดแรกผลิที่นั่งอยู่ไม่ห่างนักว่า

"จะเอาอะไรกับฟ้าฝนล่ะยัยแก้ว เดี๋ยวถ้ามันตกมาไม่พอ พ่อก็ต้องมาสูบน้ำเข้าบ่ออีกแหละ..."

พูดยังไม่ทันขาดคำ ก็มีแสงสว่างแปร๊บของฟ้าแลบพร้อมเสียงคำรามครืนๆของฟ้าร้องจากนั้นสายฝนก็เริ่มตกลงมาเป็น
ปรอยละอองเบาๆพร้อมลมแรงที่พัดจนหลังคาหญ้าแฝกกระพือไหว

"พ่อ....แก้วอยากเล่นน้ำฝนอ่ะ..."สาวน้อยขยับตัวมาจับแขนผู้เป็นบิดาเขย่าๆพร้อมทำหน้าออดอ้อนขออนุญาติจากผู้
เป็นพ่อ

"อย่าเลย..เดี๋ยวไม่สบายแม่เอ็งก็จะมาบ่นพ่อ...." ผู้เป็นพ่อตอบเนือยๆ

"แม่ก็บ่นได้ทุกเรื่องแหละพ่อ...นะๆ เล่นน้ำกะนุ๋นะ..."

แก้วสาวน้อยยังออดอ้อนผู้เป็นพ่อ เพราะรู้ดีว่าผู้เป็นพ่อรักและตามใจเธอแค่ไหน อย่าว่าแต่แค่เล่นน้ำฝนนี้เลย ขนาดเธอ
อ้อนผู้เป็นพ่อว่าไม่อยากเรียนต่อหลังจากจบมัธยมต้น ด้วยเธอไม่ค่อยชอบการเรียนหนังสือ ผู้เป็นพ่อยังตามใจ สำมะหา
อะไรกับการอ้อนขอเล่นน้ำฝนในครั้งนี้

ภายในเรือนทรงไทยยกสูงที่ห่างไปกว่า50เมตร หญิงสาววัยกลางคนเดินออกมายืนเมียงมองมาทางสองพ่อลูก แล้วกวักมือ
ไหวๆ ป้องปากตะโกนก้องแข่งกับเสียงฝน แม้จับใจความไม่ได้ แต่ก้คงบอกให้สองพ่อลูกกลับเข้าบ้าน แต่หาได้มีความหมาย
ในสายตาของผู้เป็นบุตรสาวเลย เมื่อเธอค่อยๆถอดเสื้อเชิตแขนยาวออกจนเหลือแต่เสื้อคอกระเช้าสีขาวเพียงตัวเดียว แล้ว
วิ่งลงจากเพิงพักไปกระโดดโลดเต้นท่ามกลางสายฝนที่เริ่มตกหนาตาขึ้น

"พ่อลงมาเหอะ....เร็วๆ...มาเล่นน้ำฝนกัน"

เสียงเล็กๆ แหลมๆ ตะโกนแข่งกับเสียงฝน พร้อมกวักมือหยอยๆ มาทางผู้เป็นพ่อ นายชัดชายเดินไปปิดเครื่องสูบน้ำแล้วหัน
ไปคว้าผ้าขาวม้าฝืนใหญ่เอามานุ่งจากนั้นก็ถอดกางออกเดินลงไปหาบุตรสาว ที่ตอนนี้ตัวเปียกโชก ผ้าซิ่นสีน้ำเงินที่สวมใส่
แนบลู่ไปกับร่างที่เริ่มมีสัดส่วนโค้งเว้าตามวัยที่แรกผลิ ส่วนด้านบนเสื้อคอกระเช้าสีขาวพอโดนน้ำฝนก็บางแนบไปกับตัวจน
มองเห็นบราเก่าๆสีเดียวกับเสื้อได้ชัดเจน

[post]นางหวานเพ่งสายตามองฝ่าสายฝนไปยังสามีและบุตรสาวที่กำลังกระโดดโลดเต้นเล่นน้ำฝนกัน แล้วทอดถอนหายใจออกมา
พรางนึกรำพึงว่าทั้งสามีและลูกสาวตนนั้นเล่นกันเหมือนเป็นเด็ก ไม่รู้จักโต แล้วก้ไม่ระมัดระวังกันเสียเลย แก้วลุกสาวตนเอง
นั้นก็กำลังเป็นสาววัยแรกผลิ สัดส่วนในร่างกายเจริญเติบโตจนเป็นสาวแล้ว ยังกอดรัดพ่อเล่นน้ำฝนโดยไม่ห่วงเลยว่าร่าง
กายสาววัยกำดัดที่กระโดดขี่หลังพ่อนั้น จะทำให้ผู้อื่นมองอย่างไร เพราะว่านี่ไม่ใช่เป็นครั้งแรกที่ตนเองเห็น ครั้นหวานผู้เป็น
แม่จะออกปากเตือนเรื่องการเล่นกันแบบถึงเนื้อถึงตัวเช่นนี้ว่าไม่เหมาะ ก็จะกลายเป็นการชี้โพรงให้กระรอก ถ้าสามีและลูกไม่
ได้คิดอะไรกันแบบที่เธอกำลังห่วงกังวล

สายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักจนทำให้เธอไม่สามารถมองเห็นสามีและลูกสาวว่าตอนนี้กำลังทำอะไรกันอยู่นั้น เพียงถ้าเธอมี
ตาวิเศษมองเห็นได้.เธอคงต้องตระหนกตกใจอย่างแน่นอน เพราะร่างเพรียวของสาววัยกำดัดที่อกเริ่มอวบอูมตั้งเป้นเต้า
งอนงามนั้น กำลังกระโดดขี่หลังของผู้เป็นพ่อ ผ้าชิ่นที่เปียกน้ำลูแนบตัว ถลกรั้งขึ้นมาจนเกือบถึงโคนขาขาว อกอวบแนบ
กับแผ่นหลังแกร่ง เนินสาวกดแนบกับตรงบั้นเอว มือขวากอดรัดคอพ่อแน่น ส่วนมือซ้ายก็วกมาด้านหลังตีไปที่ก้นพ่อที่ตอน
นี้ผ้าขาวม้าสีแดงลายหมากรุกหลุดปลิวไปเหลือเพียงกางเกงในสีมอยานๆตัวเดียวเท่านั้น

ข้างฝ่ายนายชัดชายนั้น มือสองข้างไขว้มารองรับก้นบุตรสาว ด้วยเกรงว่าเธอจะลื่นไถลตกจากหลัง ยามเดินยามกระโดด
เล่นน้ำฝนกันนั้น มีหลายครั้งที่มือทั้งสองข้างพลัดลื่นลงมาจับเลยลึกเข้าไปเฉียดเนินสาวของแก้ว แต่เธอก็หาได้ว่ากล่าว
กระไร พ่อลูกยังคงเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน จนเริ่มหนาว จึงกลับเข้ามายังเพิงพักอีกครั้ง ซึ่งเวลาก้ล่วงเลยไปจนเกือบ
พรบค่ำ แสงไฟจากบ้านทรงไทยเปิดสว่าง แต่ภายในเพิงพักยังมืดสลัว

"พ่อ...หนาวอ่ะ..."

บุตรสาวขยับเข้ามานั่งชิดโอบกอดขอไออุ่นจากผู้เป็นพ่อไม่ห่วงสักนิดว่าตอนนี้อกเต้าเต่งของเธอแนบกับท่อนแขนแกร่ง
แข็งแรงของพ่อ

"พ่อเตือนแล้วว่าอย่าเล่น ก็ไม่เชื่อ ดูสิเสื้อผ้าก็ไม่ได้เอามาเปลี่ยน หนาวเลยสินี่.."

พ่อพูดพร้อมกับโอบกอดบุตรสาวมาแนบอก กลิ่นหอมๆระเหยจากเรือนผมของลูกสาวแรกผลิโชยเข้าจมูก จนชัดชายเผลอ
ตัวสูดดมเรือนผมของบุตรสาว

"อุ่นขึ้นมั๊ยลูก...."

ชัดชายพูดเสียงสั่นๆ พร้อมขยับวงแขนรัดร่างลูกสาวแน่นขึ้น จนอกอูมเต้าเล็กๆของลูกสาวแนบอัดกับแผงอกกว้าง แก้วเอียง
หน้าแนบกับอกพ่อด้านซ้ายตรงหัวใจ จนได้ยินเสียงมันเต้นโครมครามดังลั่นเหมือนจะทะลุออกมานอกอก

ชัดชายหวนนึกไปคืนวันหนึ่งที่ผ่านมาเกือบสองเดือน คืนนั้นหลังจากที่ตนเองเสร็จกิจกับหวานแม่น้องแก้วแล้ว ขณะกำลัง
เคลิ้มหลับ รู้สึกมีมือเล็ก ๆ มาจับท่อนลำที่อ่อนปวกเปียกของตน ขยำบีบเบาๆ แบบกล้าๆ กลัวๆ ตอนแรกนึกว่าเป็นมือของเมีย
ที่นอนอยู่ในมุ้งเดียวกัน แต่ก็เอะใจว่าปรกติหลังจากที่ตนเองเย็ดกับเมียไปแล้ว เมียมักจะหลับสนิท แต่มือเล็กๆที่กำลังบีบ
คลึงลำควยของตนเองนี้ กำลังบีบคลึงเพื่อจะปลุกอารมณ์เงี่ยนของให้คึกคักขึ้นมาใหม่ ซึ่งมันผิดวิสัยของหวาน

ชัดชายจึงรีบลืมตามองฝ่าความมืดสลัวไปยังมือเล็กๆนั้น พบว่ามันสอดลอดมาจากข้างๆมุ้ง ซึ่งคือมุ้งของแก้วบุตรสาวคน
เดียวของตนเอง ชัดชายพยายามกลั้นความรุ้สึกเสียว แม้ว่าตอนนี้ท่อนลำในอุ้งมือเล็กๆจะลุกแข็งโด่งค้ำผ้าขาวม้าออกมา
เหมือนกระโจมอินเดียนแดงก็ตาม เมื่อแน่ใจว่ามือนั้นเป็นมือลูกแก้วชัดชายก็ไม่กล้าปัดมือนั้นพ้นออกจากท่อนลำของตนเอง
คงเพราะไม่อยากให้บุตรสาวรู้ว่าผิด จึงพยายามพลิกตัวตะแคงหันหลังให้ จนมือเล็กๆนั้นหลุดจากการเกาะกุมบีบคลึง


แต่ทว่าพอผ่านไปสักพักมือเล็กๆที่ยังวางพาดอยู่กับก้นของผู้เป็นพ่อนั้นค่อยคืบคลานมาทางด้านหลัง ไต่ไปตามลอนก้นจน
ถึงพวงไข่ใบโต แล้วคลึงเล่นเบาๆมือ จนชัดชายต้องกัดฟันกรอดพยายามระงับความรู้สึกทางเพศ ที่กำลังทวีเพิ่มขึ้น ท่อนลำ
ก็ยังแข็งค้ำตุงผ้าขาวม้าจนน้ำเงี่ยนไหลปริ่มออกมาทางปากควย

"พ่อ..พ่อ..." เสียงลูกแก้วกระซิบเรียกเบาๆ ชัดชายตอบรับอืมม เบาๆ

"พ่อยังไม่หลับใช่ป่ะ...."

"อืมม..."

"นู๋เห็นพ่อทำแม่อ่ะ...เสียงดังมากจนนู๋นอนไม่หลับเลย..."

เสียงเล็กของลูกสาวเหมือนดังก้องจนชัดชายนึกตำหนิตนเองที่ทำอะไรไม่รอบคอบ แต่จะทำเช่นไรได้ในเมื่อบ้านของชัดชาย
ไม่ได้มีฐานะที่จะสามารถกั้นห้องให้บุตรสาวที่กำลังโตได้ ทำได้เพียงให้นอนแยกมุ้งกันเท่านั้น

ขณะที่ชัดชายกำลังคิดอยู่นั้น แก้วบุตรสาวก็เอื้อมมือมากอดผู้เป็นพ่อแต่ฝ่ามือที่กอดนั้นกลับล้วงลงต่ำ จนจับท่อนลำที่แข็ง
เหมือนสากตำน้ำพริกของตนเองอีกครั้ง ชัดชายต้องจับมือลูกสาวออกจากจุดนั้น แต่แก้วก็ยังไต่มือมายึดกุมอีกครั้งเหมือน
ดังว่าสิ่งตนเองจับอยู่นั้นเป็นของเล่น

"แก้ว....อย่าทำแบบนี้สิลูก..มันไม่ดีนะ...."พยายามกระซิบเสียงเบาๆ ไม่ต้องการให้หวานที่นอนเคียงข้างได้ยิน

"ไม่ดี...แล้วพ่อกับแม่ทำกันทำไมอ่ะ...."

เธอยังคงดื้อรั้นเถียงไม่ยอมแพ้ ชัดชายก็อัปจนปัญญาที่จะอธิบายว่ามันไม่ดีอย่างไร ด้วยนิสัยที่ถูกตามใจมาจนเสียเด็กของ
ลูกสาวนั้น จะโทษใครได้ นอกจากตัวเองนั่นแหละที่รักและตามใจจนแก้วกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจตนเอง

"พ่อ..ให้แก้กอดหน่อย.."

เด็กสาวพูดจบก็พยายามตลบชายมุ้งมุดเข้ามาหาผู้เป็นพ่อ ชัดชายรีบยกมือพยายามดันตัวลูกสาวไม่ให้มุดเข้ามา แต่ฝ่ามือ
ที่ยกไปดันตัวลูกสาวนั้นกลับเหมาะเหม็งให้บังเอิญไปดันโดนหน้าอกกลมๆเล็กๆของลูกสาวเหมือนไม่ตั้งใจ

"อุ๊ยยย...พ่อ.."

เสียงลูกสาวร้องเบาๆ แล้วพยายามแอ่นหน้าอกใส่มือผุ้เป็นพ่อ ส่วนมือตนเองที่จับลำลึงค์ของพ่อนั้นก็ยิ่งเน้นบีบรูดทำไป
เหมือนมีใครเคยสอนสั่ง ชัดชายเห็นไม่ได้การแน่ตนเองจึงตลบชายมุ้งมุดเข้าไปหาบุตรสาวกะว่าจะต้องพูดคุยสั่งสอนให้รู้
ว่าสิ่งที่ทำอยุ่นั้นไม่เหมาะสม

พอตลบมุดมุ้งเข้าไปได้ทั้งตัว บุตรสาวก็ใช้จังหวะนั้นกอดร่างผู้เป็นพ่อแน่น ความรุ้สึกบอกชัดชายว่าร่างแก้วบุตรสาวที่
กอดรัดตนเองอยู่นั้น หาได้มีเสื้อผ้าอาภรณ์ชิ้นใดสวมใส่อยุ่เลย อกตูมเต้าเต่งกลมๆเท่าผลส้มแนบส่ายเบียดอยู่กับอกแกร่ง
ของผุ้เป็นพ่อ ส่วนเบื้องล่างเนินสาวแรกแย้มนั้นก็กดเร้ากับท่อนลำของชัดชายอย่างเหมาะเหม็ง

"แก้ว...ปะ..ปล่อยพ่อก่อน...ทำยังงี้ไม่ดีนะลูก.."

ชัดชายพยายามปรามลูก แต่เด็กสาวเหมือนไม่ยอมรับรู้สิ่งใด ณ.เวลานั้นสิ่งที่เธอต้องการจากผุ้เป็นพ่อ คือการกระทำที่
เธอเห้นพ่อแม่ทำกันเมื่อครู่ใหญ่ๆที่ผ่านมา

"แก้ว..ปะ..."

พูดยังไม่ทันหมดประโยคปากชัดชายก็ถูกปากเล็กๆหอมๆของบุตรสาวประกบปิดไว้ เธอพยามยามสอดปลายลิ้นเข้าไปใน
ปากพ่อ แม้ชัดชายจะพยายามเม้มปาก แต่ความเสียวที่ท่อนลำที่โดนเนินสาวของลูกเสียดสีอยู่นั้น ก็ทำให้เขาลืมตัวจน
ต้องเผยอปากให้ลิ้นเรียวเล็กของบุตรสาวเข้าไปชอนไช

แล้วสติความสำนักผิดชอบชั่วดี เส้นแบ่งกั้นระหว่างความเป็นพ่อลูกก็ขาดผึง ชัดชายจูบตอบลูกสาวอย่างเร่าร้อน มือหยาบ
ใหญ่เพราะกร้านงานเอื้อมมือบีบคลึงนมตูมเท่าผลส้มเขียวหวานของลูกสาวคลึงเน้นนวดเบาๆ เสียงแก้วครางแผ่ว อมยิ้ม
เหมือนเด็กได้ของเล่นถูกใจชิ้นใหม่ แอ่นเนินสาวบดเบียดลำใหญ่ของผู้เป็นพ่อ จนน้ำหล่อลื่นไหลทะลักออกมาแฉะเต็ม
ร่องสวาท

"พ่อ..ขา....กะ..แก้วเสียว...."สาวน้อยกระซิบเสียงแผ่วกระเส่าบอกความรุ้สึกให้พ่อทราบ เนินสาวก็ยิ่งบดส่ายกับโคนลำลึงค์
ของพ่อยึกยักๆ

[post]"พ่อรู้ว่าลูกต้องการอะไร..แต่อย่าทำเลยลูก...มันไม่ดี เชื่อพ่อนะลูกแก้ว..."แม้สติความสำนักแทบจะไม่มีหลงเหลือ แต่คำว่า
พ่อและลูกนั้น ก็ยังมีอิทพลให้ชัดชายพูดออกมา

"พ่อ.....ชะ..ช่วยนู๋ด้วย..ซี๊ดดด..."

แก้วเด็กสาวที่เอาแต่ใจตนเอง ไม่ฟังเสียงปรามของผู้เป็นพ่อแม้สักนิด ยังคงแอ่นอกเต้าเต่งใส่มือพ่อ เบื้องล่างก็แอ่เนินสาว
เสียดสีจนโคนควยผู้เป็นพ่อเปียกลื่นเพราะเมือกสาว

"จ๊ะ...เดี่ยวพ่อช่วยนู๋เอง...ตะ..แต่ไม่ใช่แบบที่พ่อทำกับแม่นะลูก....ตกลงมั๊ย .."

แก้วพยักหน้าหงึก ๆ จะด้วยยอมตกลงตามนั้นหรือไม่รู้ว่าสิ่งที่พ่อพูดหมายถึงอย่างไร แต่อารมณ์ความต้องการของเธอก็บอก
กับเธอให้รอดูว่าพ่อจะทำอย่างไร ส่วนชัดชายพอพูดจบก็ผลักร่างเล็กๆของลูกสาวลงนอนหงาย ก้มหน้าลงไปจูบไซ้นมตูม
เต่งตั้งเต้า ส่วนมือก็ล้วงลงไปบีบคลึงเนินสาว แล้วกรีดนิ้วไปตามรอยผ่า แก้วผวาครางอูยแอ่นเนินสาวขึ้นด้วยความ
เสียวซ่าน

ชัดชายใช้ปลายนิ้วบี้คลึงที่เม็ดเสียวเล็กให้บุตรสาว แล้วดูดหัวนมเม็ดเล็กให้เธอจนแก้วครางเสียงกระเส่า เพียงไม่นานเธอ
ก็แอ่นตัวเกร็ง หายใจหอบแรง ร่องเสียวขมิบยวบๆแล้วเกร็งค้างชั่วขณะ จนค่อยอ่อนตัวลงนอนเงียบผู้เป็นพ่อจูบหน้าผาก
บุตรสาวด้วยความรัก แล้วตลบชายมุ้งมุดกลับมานอนต่อด้วยใจเต้นระทึก ท่อนลำยังคงแข็งโปน แต่ก็ค่อยๆอ่อนสงบลงไป
ในเวลาไม่นานนัก ก่อนที่ตนเองจะหลับตั้งใจไว้ว่ารุ่งขึ้นคงต้องเรียกแก้วมาสอนให้รู้ว่าการกระทำที่ผ่านมานั้น มันไม่ใช่สิ่งดี
แต่ชัดชายก็หาได้ทำดั่งที่ตั้งใจจะพูดกับบุตรสาว เพราะหลังจากนั้นพอลับตาแม่ แก้วก็มักจะนัวเนียกับผู้เป็นพ่อจนอารมณ์
กระเจิง แล้วชัดชายก็จำต้องทำให้เธอเหมือนดั่งในคืนวันนั้นอีกหลายๆครั้ง

"พ่อ....คิดอะไรอยู่..."

เสียงแหลมเล็กของแก้วปลุกให้ชัดชายตื่นจากภวังค์ เพราะยามนั้นในเพิงพักที่ฝนยังคงตกกระหน่ำลงมาจนทั้งพ่อทั้งลูก
หนาวสั่น แก้วได้ขยับตัวขึ้นมานั่งบนตักพ่อโดยหันหน้าเข้าชนกัน มือเล็กๆโอบกอดชัดชายแน่น เนินสาวของเธอวางทับ
กดแน่นกับลำลึงค์ของผู้เป็นพ่ออีกครั้ง

"อย่าทำแบบนี้เลยลูก....มันไม่ดี..มันผิดนะลูก ผิดทั้งศิลธรรม ทั้งจารีตประเพณี..." ชัดชายพยายามปรามแก้ว เพราะรู้ว่า
สิ่งที่บุตรสาวกำลังต้งการนั้นคืออะไร

"แล้วกับสาวๆคนอื่น ทำไมพ่อทำได้ล่ะ..."

แก้วเถียงพ่อเสียงอ่อยๆ พยายามแอ่นเนินสาวเบียดท่อนลำของพ่อที่ตุงอยู่ในกางเกงใน ชัดชายได้ยินแก้วพูดเช่นนั้นถึง
ชงักอึ้งค้าง นึกสงสัยว่าบุตรสาวล่วงรู้พฤติกรรมในที่ลับของตนเองได้อย่างไร

"มันต่างกันลูก...นั่นเป็นคนอื่น...แต่แก้วเป็นลูกสาวของพ่อนะ..."

ชัดชายพยายามพูดดีๆ แบบใจเย็นๆ แต่ดูเหมือนสาวน้อยจะไม่เชื่อฟังคำพูดของพ่อตัวเองนัก พยายามที่จะยื่นปากไปจูบ
ปากชัดชายให้ได้

"พ่อต้องช่วยนู๋....แบบก่อนๆก็ได้..ถ้าไม่ทำ นุ๋จะฟ้องแม่ว่าพ่อมีกิ๊กตั้งหลายคนในตลาด.."

แก้วคิดว่าคำขู่นี้น่าจะได้ผล ไม่คำนึงว่าถ้าแม่หวานรู้ว่าตนเองกำลังต้องการในสิ่งเดียวกับที่พ่อทำกับสาวๆในตลาด แม่
ของเธอจะคิดอย่างไร แต่ก็เชื่อมั่นว่าพ่อไม่มีทางบอกเรื่องของแก้วกับพ่อ ให้แม่รู้เด็ดขาด

ดูเหมือนคำขู่จะของบุตรสาวจะได้ผล ชัดชายนั่งนิ่ง เหมือนปลงตกกับชีวิต ด้วยความรัก การตามใจต่อลูกสาวโดยไม่เคย
สอนว่าสิ่งใดผิด สิ่งใดถูกมาตั้งแต่ยังไร้เดียงสา มาบัดนี้จะสอนสั่งอย่างไรก็คงลำบาก อีกประการหนึ่งสิ่งที่ตนเองเคยทำ
ให้กับแก้วในคืนนั้น กับอีกหลายๆครั้งนั้นมันก้ล้วนแล้วแต่เป็นความผิดที่ตามหลอนจิตสำนึกของความเป็นพ่อมาตลอด

"ครั้งสุดท้ายนะลูก...อย่าบังคับพ่อให้ทำแบบนี้อีก...สัญญาได้มั๊ยลูก..." ชัดชายพยายามต่อลอง รอจนแก้วพยักหน้าตอบ
ตกลง มือหยาบใหญ่ของเขาจึงล้วงลงไปจับเนินสาวของลูกบีบคลึงเบาๆ

"อูยยย...เสียวจัง....พ่อ..."

เสียงสาวน้อยที่เอาแต่ใจตนเองครางแผ่ว แอ่นเนินสาวเด้งใส่มือของผู้เป็นพ่อ แล้วครางเสียวอูยๆซี๊ดๆๆ หน้าสวยๆหวานๆ
ถอดแบบมาจากผู้เป็นมารดาแดงกร่ำด้วยแรงตัณหาราคะ...คงจะได้เชื้อนี้มาจากชัดชายผู้เป็นพ่อนั่นเอง

ก่อนที่เหตุการณ์จะดำเนินไปตามครรลองอย่างที่เคยเป็น เสียงตะโกนโหวกเหวกของหวานดังขึ้นไม่ห่างไกลจากเพิ่งพักมาก
นัก ทำให้สองพ่อลูกถึงกับผวา โดยเฉพาะแก้วรีบลุกขึ้นจากตักของผู้เป็นพ่อ หน้าตาบ่งบอกถึงความตกใจและไม่พอใจเป็น
อย่างยิ่ง ที่ความสุขซึ่งกำลังได้จากปลายนิ้วของผู้เป็นพ่อโดนแม่หวานขัดขวางไว้เสียก่อน แต่ชัดชายกลับรู้สึกตรงกันข้าม
แม้ภายนอกจะดูเหมือนตนเองเป็นคนเจ้าชู้ มักมากในเรื่องพรรค์นั้น ลูกสาวหรือเมียใคร ถ้าเข้าตาชัดชายมักจะไม่เคยปล่อย
ให้รอดผ่านไปแม้สักรายเดียว แม้แต่หวานเองก็เถอะ...เมื่อเกือบยี่สิบปีก่อนตอนที่เพิ่งได้ตำแหน่งเทพีสงกรานต์ประจำอำเภอ
ยังโดนชัดชายฉุดเอามาทำเมียเสียเลย


แก้วเดินกระฟัดกระเฟียดตามหลังชัดชายผู้เป็นพ่อกลับมาบ้าน แม้พยายามซ่อนใบหน้าที่หงิงอด้วยความไม่พอใจที่หวาน
ผู้เป็นแม่มาขัดจังหวะสำคัญของหล่อน พรอ้มหมายมั่นปั้นมือว่า รอตอนกลางดึกก่อนเถอะ เธอจะต้องทำกับพ่อชัดชายของ
เธอ เหมือนที่เห็นแม่หวานทำให้ได้

แล้วเหมือนโชคชะตาฟ้าลิขิต หลังจากพลบค่ำไปได้ไม่นาน แม่หวานของเธอก็เข้านอนเร็วกว่าปกติ ยังผลให้พี่ชัดชาย
ตามขยับมุดมุ้งเข้าไปด้วย แก้วจึงจำใจต้องไปนอนลืมพาโพลงอยู่ภายในมุ้งเนื้อบางๆ มองทะลุผ่านไปเห็นร่างตะคลุ่มๆ
ของพ่อ ที่ทาบทับอยู่บนร่างกายเล็กๆของเธอ พร้อมขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวกันเบาๆที่ช่วงกลางลำตัวเพียงแค่นั้น

แก้วล่วงรู้ว่าพ่อชัดชายกับแม่หวานคงทำในสิ่งที่เธออยากได้ อารมณ์ครุกกรุ่นจากเมื่อเย็น ทวีโถมทับสู่ใจสาวอีกครั้ง จน
มือเล็กๆของแก้วต้องขยับซุกเข้าไปในผ้าซิ่น สู่เนินสาวอวบเป็นกระเปาะเล็กๆ มีเส้นขนอ่อนๆเพียงหลอมแหลม เธอลูบ
นิ้วปราดไปตามรอยแยก เหมือนที่พ่อชัดเคยทำให้ แม้ความรุ้สึกเสียวซ่านมันจะต่างกับที่พ่อชัดทำก็ตาม แต่มันยังพอชด
เชยความร้อนลุ่มในใจแก้วให้บรรเทาเบาบางไปได้บ้าง พร้อมนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อเย็น ที่เธออยุ่กับพ่อบนกระท่อม
กลางนา

"ซี๊ดดด...พ่อ..แก้วเสียว...ค่ะ...." แก้วครางเสียวเสียงดังแข่งกับสายฝนที่ยังโปรยปรายลงมา พร้อมแอ่นเนินสาวกระตุก
ยึกๆใส่มือผู้เป็นพ่อ น้ำเงี่ยนไหลทะลักออกมาจากร่องสาวจนนิ้วกลางของผู้เป็นพ่อที่สอดเสียบเข้าไปเปียกชุ่มเลอะลื่น
จนเป็นเมือกลื่นๆ

ร่องสาวบริสุทธิ์เยิ้มแดงอ้า กลีบแคมสาวยังเป็นสีชมพูอ่อนๆของแก้ว ถึงกับทำให้ชัดชายผู้เป็นพ่อควยแข็ง แม้เขาจะ
พยายามระงับใจคิดถึงแต่สิ่งไม่ดี เพื่อหวังไม่ให้เกิดตัณหาความใคร่กับร่างกายของลูกสาว แต่ดูเหมือนกับว่ามันหาได้
ช่วยอะไรได้แม้แต่น้อย เมื่อท่อนลำอวบอ้วนของชัดชายแข็งจนลอดมาตั้งตระหง่านลอดชายผ้าขาวม้าสีกแดงลาย
หมากรุก

"พ่อจ๋า...ควยพ่อแข็งอ่ะ...พ่อเงี่ยนหีแก้วเหมือนกันใช่มั๊ยคะ..."

เสียงใสๆของแก้วปลุกให้ชัดชายตื่นจากภวังค์ ก้มมองหว่างขาตนเองที่ตอนนี้ควยอวบอ้วนสีคล้ำๆ แข็งจนตั้งตัวลอด
ออกมาจากชายผ้าข้าวม้า แล้วพยายามกัดฟันกลั้นใจสาวนิ้วกลางแยงแหย่รูหีแก้วไวๆ หวังเพียงให้ทุกอย่างมันจบสิ้น
เพื่อที่ตัวเองจะได้ไม่ทำผิดมากไปกว่านี้ แต่ความคิดนั้นก็จบสิ้นไปเกือบจะทันทีที่แก้วพูดจบ เมื่อมือเล็กๆของสาววัย17
เอื้อมมือจับควยอวบใหญ่ของพ่ลูบรูดช้าๆ จนหนังควยร่นรั้งเข้าไป เปิดให้ปลายควยหัวแดงๆเงี่ยงบานๆเป็นขอบปลิ้น
ออกมาพร้อมน้ำเงี่ยนที่ไหลปุดเป็นหยดอยู่ตรงปากควย...

"ซี๊ดดดด...แก้ว...อย่าทำแบบนี้สิ...พ่อเสียวควยเหมือนกันนะ..."

ชัดชายกัดฟันบอกลูกสาว พยายามเบี่ยงตัวหนี แต่มือเล็กๆของแก้วก็ไล่คว้าจับลำอวบรุดเล่นซ้ำไปซ้ำมา จนมันกระดก
ตัวงึกๆ ปากเรียวเล็กคายน้ำเงี่ยนออกมาเป็นสายหัวลำแดงกล่ำเหมือนโกรธแค้นสิ่งใดมา

"พ่อ...ทำแก้วสิ...นะคะ...แก้วอยากโดนควยพ่อ...เย็ด...ซี๊ดดด.." เสียงใสๆของแก้วกระซิบแผ่ว ใบหน้าสวยน่ารักแดง
สร้านแสดงออกถึงความเงี่ยนง่านจนสุดทน

"ตะ...แต่ว่า...รูหีของลูกยังเล็กอยู่นะ..พ่อกลัวนู๋จะรับควยพ่อไม่ไหว...." ชัดชายพยามขุ่ให้ลูกสาวกลัว แต่กลับไร้ผลเมื่อ
เธอย้อนถามกลับมาว่าตอนพ่อเย้ดแม่ครั้งแรกก็อายุเท่านู๋

"มะก่อนพ่อยังชมว่าหีนู๋ใหญ่กว่าแม่นี่คะ...ทำไมจะเย็ดไม่ได้....พ่อขา...เย็ดแก้วเหอะ...แก้วเสียว....ช่วยแก้วด้วย.."

แก้วเถียงผู้เป็นพ่อฉอด ๆ พร้อมเปรียบเทียบตรรกกะให้ผู้เป็นพ่อฟัง ว่าแม่หวานตอนที่โดนควยพ่อเย็ดครั้งแรกก็อายุเท่า
เธอ หียังเล็กกว่าเธอด้วยซ้ำ แล้วทำไมครั้งนี้พ่อจึงกลัวว่าจะเย้ดเธอไม่ได้

"เห้อ....ลูกเอ๋ย...."

ชัดชายถอนหายใจเฮือกใหญ่ รำพึงอยู่ในใจว่า หรือว่าวันนี้วันที่ฝนตกอย่างกับฟ้ารั่ว จะเป็นวันที่ชะตาหีลูกแก้วจะขาด
เพราะควยของตนเองเสียแล้วแน่ หลอกล่อขู่เช่นไรเธอก็หาได้หวั่นเกรง ยิ่งพูดลูกสาวก็ยิ่งรูดควยอวบใหญ่ของเขาเล่น
พร้อมส่งเสียงครางกระเส่ามาเร้าอารมณ์จนเหลือที่จะสุดทนต่อไปไหว

"ถ้าพ่อเย็ด...ควยเข้าไปในหี..ลูกแก้วจะมานึกเสียใจในภายหลังไม่ได้นะ...."

[post]เสียงชัดชายบอกเหมือนกับเบื่อระอา แต่ควยอวบใหญ่ของเขากลับยิ่งกระดกงึกๆน้ำเงี่ยนไหลออกมาจากปากควยปุดๆ
จนหยดลงกับพื้นกระท่อม

"ค่ะ...แก้วไม่เสียใจเลย..แก้วอยากให้พ่อเย้ดแก้วเสียวๆ..แรงๆ..แบบที่พ่อเย็ดแม่เลยนะคะ..."

สาวน้อยชะตาหีขาด พูดจบก็เอนตัวลงนอนหงาย ผ้าซิ่นสีกรมม่าที่ถลกลุ่ยร่นรั้งขึ้นมากองอยุ่บนอก ถูกสองมือเธอยก
ถอดออกไปทางหัว พร้อมกับเสื้อยืดที่เปียกชื้น พอถูกดึงรูดออก อกอวบกลมเล็กๆเท่าผลส้มเช้งสีเขียวๆที่วางขายใน
ตลาด แต่อกอวบของแก้วกลับขาวผ่องไร้ใผฝ่า มันขาวใสผ่องเนียนจนแลเห็นเส้นเลือดฝอยๆเป็นแนวเขียวๆ จากนั้น
เธอก็เอนร่างลงนอนหงาย จ้องมองควยอวบใหญ่ของชัดชายผู้เป็นพ่อ ที่จรดจ่ออยู่ไม่ห่างร่องสวาทของเธอ พร้อมกับ
กลืนน้ำลายด้วยความกำหนัด เมื่อเห็นพ่อขยับตัวลุกขึ้นคุกเข่า จับสองขาของเธอล็อคไว้ในวงแข แล้วจับถ่างอ้า จน
แลเห็นรูหีเล็กๆสีแดงเข้ม ที่โดนปลายนิ้วกลางของพ่อขยายรูจนกลวงเป็นรูเล็กๆ แต่พอแก้วขมิบหียวบๆ รูเล็กๆนั้นก็
หดกลับจนแทบจะมองหามันไม่เจอ

"พ่อขา...เย็ดสิ...จ้องหีนู๋อยู่ได้..."

แก้วมองสายตาหื่นกระกายเต็มไปด้วยราคะของพ่อที่จ้องมองโหนกหีของตนเองก็ขวยเขิน เร่งรีบบอกให้พ่อจัดการยัด
ควยให้หายอยากเสียที แล้วพ่อก็ทำตามใจเธอทันที รีบเอามือจับประคองลำควยอวบใหญ่มาจรดจ่อตรงกับร่องหีที่ฉ่ำ
เยิ้ม แล้วออกแรงกระเด้าควยฉวัดเฉวียนแทงเสยผ่านแคมหีสีชมพูเข้มของเธอจนปลายควยสีแดงๆของพ่อกระทบเม้ด
แตดเล็กๆที่ตั้งแข็งจนมันโอนโยก

"ซี๊ดดดด..พ่อขา...เย็ดแตดแก้ว....ฮูยยยย นู๋เสียวหีจนทนไม่ไหวแล้วน๊า...เย็ดหีสิคะพ่อขา..."

แก้วทั้งเสียวหีก็เสียวเสียวแตดก็เสียวจนแตดสั่นระริก แต่ความตั้งใจของเธอยังไม่เปลี่ยน เธออยากให้พ่อยัดควยเข้า
ไปในรูหีให้สิ้นเรื่องสิ้นราว แต่เขากับยังอ้อยอิ่งแทงควยเสยผ่านกลีบหีแคมสาวจนปลายควยกระทบกับโคนแตด ที่สั่น
ระริกอย่างเงี่ยนง่าน จนแก้วอดรนทนต่อไปไม่ไหว ยื่นมือเล็กๆของเธอมาจับลำควยอวบยาวของพ่อกดต่ำลงจนปลาย
ควยแดงๆงัดแคมหีของเธออ้าออก เผยให้เห้นรุหีเล็กๆ ที่ขมิบยวบๆด้วยความเงี่ยง่าน น้ำเงี่ยนไหลทะลักปริ่มออกมา
ตามจังหวะที่แก้วขมิบหี จนนองไหลหยาดลงไปตามง่ามก้นขาวๆของแก้ว

"เตรียมตัวนะ..พ่อจะเย็ดควยเข้าหีนู๋แล้ว..."

เสียงแหบพร่าต่ำของชัดชายร้องบอกให้ลูกสาวเตรียมหีรับควยอวบใหญ่ของเขา หลังจากแก้วพยักหน้าตอบรับ ชัดชาย
ก้ค่อยกดเอวลงช้าๆ เงี่ยงควยบานๆสีแดงกล่ำชำแรกแหวกกลีบหีเข้าดังปึ๊ด...

"โอ๊ยยยยย..พ่อ....นู๋เจ็บ." เสียงแก้วร่ำร้องบ่งบอกถึงความเจ็บ เธอรุ้สึกเหมือนรูหีของเธอจะขาด ทั้งเจ็บแปล็บๆแสบๆ
เสียวๆ ปากรูหีบานอ้าจนตึงเปรี๊ยะ เมื่อปลายควยบานๆแดงๆของพ่อชำแรกแหวกแคมหีของเธอเข้าไป...

"ทนหน่อยนะลูก....หัวควยพ่อเย็ดเข้าไปแล้ว...ซี๊ดดดด...."

ชัดชายกัดฟันกรอดด้วยความเสียวซ่านตรงส่วนปลายของลำควยอวบใหญ่ ที่จมหายเข้าไปในรูหีของแก้วจนมิดเงี่ยงบานๆ
แดงๆ รุ้สึกถึงความคับแน่นและแรงตอดตุ๊บๆถี่ๆของหีลูกสาว แต่ก็ยังคงค้างเอวไว้ไม่กดต่อ หันมายื่นมือใหญ่บีบคลึงอกอวบ
กลมเท่าส้มเช้งของแก้ว บีบคลึงพร้อมบีบบี้หัวนมเม็ดเล็กๆ จนนมอวบขาวของลูกสาวแดงเป็นปื้นเป้นรอยนิ้วมือแดง เสียง
แก้วครางซี๊ดๆ..แอ่นอกหรายกนมแอ่นสุ้มือของผู้เป็นพ่อด้วยความเสียวสยิว ร่องสาวขมิบตอดยวบๆยึกๆ อย่างอัตโนมัติ
ตอดถี่ๆ ยิ่งตอดรูหีของแก้วก้ยิ่งเสียว หลั่งน้ำเงี่ยนไหลออกมาชะโลมลุบจนปลายควยบานๆแดงๆของพ่ออาบชุ่มเลอะลื่น
ควยอวบใหญ่ที่ตอนแรกคับแน่นฟิตรูหี ก็ค่อยๆไหลลื่นลงไปช้าๆ ยิ่งพ่อขยับเอวส่ายงัดซ้ายงัดขวา เงี่ยงควยบานๆก็ยิ่งงัด
ขยายปากรูหีฟิตแน่นของแก้วจนขยายกว้างพอให้ลำอวบใหญ่ของพ่อลึกลงไปช้าๆๆๆ

"ซี๊ดดดด...พ่อขา....เย็ดกันเสียวหีแบบนี้นี่เอง...พ่อกับแม่ถึงเย็ดกันแทบทุกคืน...."

แก้วเอาความลับในมุ้งของพ่อมาขยาย พร้อมบ่งบอกให้ชัดชายรับรู้ว่า ตลอดเวลาที่เขากับหวานเย็ดกันนั้น หาได้รอดหู
รอดตาของลูกแก้วแม้แต่น้อย

"หายเจ็บหีรึยังลูก...."

ชัดชายถามลูกสาวแต่ไม่รอคำตอบ ค่อยๆกดควยอวบใหญ่เข้าไปอีกช้า ๆ จนมันจมหายเข้าไปถึงครึ่งลำยาว สองตามอง
จ้องเห็นแคมหีบางๆใสๆสีชมพูดเข้มของลูกสาว ยุบยวบม้วนตัวเข้าไปในโพรงลึก ครั้นพอดึงเอวลากควยอวบใหญ่ออก
มาช้าๆ เงี่ยงบานๆแดงๆของเขาก็ลากแคมหีของแก้วออกมาจนบานอ้าแบะออก เสียงแก้วซู๊ดปากครางเสียวเหมือนกิน
แกงเผ็ด แอ่นหียกตามลำควยพ่อขึ้นมาด้วยความเสียวสยิวกลัวว่าควยอวบใหญ่จะหลุดออกมาจากรูหี แต่ครั้นชัดชาย
ลากควยอวบอ้วนออกมาจนปลายเกือบหลุด เขาก็ตะบันกระทั้นเอวกระเด้าสวยให้ควยอวบอ้วนแหวกแคมหีจนยุบยวบ
เข้าไปอีกครั้ง

"อูยยยยพ่อขา....แก้วเสียว....เสียวหี..แน่นหี..สุดๆเลยค่ะ...."

"ยังเจ็บหีอีกมั๊ยลูก..."

ชัดชายถามด้วยความเป็นห่วง เมื่อลูสาวสั่นหน้าตอบ เขาก็ตะบันเอวกดลงไปให้ลึกกว่าเก่าอีกครั้ง เสียงแก้วครางอูยๆรับ
สองมือจิกพื้นกระดานปลายเท้าเหยียดเกร็งสั่นระริก หน้าสวยใสน่ารักๆแดงกล่ำ บิดเบี้ยวเหยเกด้วยความเสียวสยิว

"ซี๊ดดดด...พ่อ....เย็ดลงมาอีก...แก้วเสียวหีสุดๆเลยค่ะ....อ่าสฺส์ส์ส์"

แก้วเร่งเร้าพ่อก็ทำตามลากควยอวบยาวออกมาจนแคมหีลูกสาวแบะปลิ้น แล้วจนเกือบหลุดก็กลับตะบันย้ำเข้าไปใหม่อีก
ครั้ง แต่ละครั้งที่ทำ ควยอวบใหญ่จะชำแรกแหวกกลีบสาวจมลึกเข้าไปเรื่อยๆ จนครั้งสุดท้ายที่โหมแรงกระเด้าเย็ดจนเกิด
เสียงดังปึ๊ก ควยอวบอ้วยาวไม่ต่ำกว่า6นิ้วของเขาก็ยัดเข้าไปในรุหีฟิตแน่นกระชับของแก้วจนสุดโคน...

"อืยยยยส์ส์...พ่อขา....เสียวหีสุดๆ แน่นหีจนจุกเลยค่ะ...."

แก้วกระดกแอ่นหีรับพร้อมเกร็งค้างนิ่ง เมื่อควยของพ่อชัดตะบันเย็ดเข้าไปจนสุดโคน พร้อมบดขยี้หนอกโคนควยกับเนิน
โหนกอวบอูมที่มีเส้นหมอยบางๆของเธอ แต่เส้นขนของพ่อนั้นหยิกหยาบ จนแก้วรู้สึกว่าตอนที่พ่อบดควยกับหีของเธอนั้น
ขนหมอยของพ่อทิ่มตำเม็ดแตดของเธอจึงซ่านสยิวจนต้องขมิบรูหีตอบโต้

"ลูกแก้วจ๋า..หีลูกคับแน่นควยพ่อสุดๆเลยจ๊ะ...."

ชัดชายกระซิบบอกลูกสาว พร้อมยื่นปากก้มหน้าลงไปจูบ ริมฝีปากบางกับหนาบดขยี้กัน แล้วแลบลิ้นมาพัวพันดูดตอบโต้
กันไปมา จนน้ำลายจากสองปากคละเคล้ากันจนแยกไม่ออก ส่วนท่อนล่างชัดชายยังบดหนอกโคนควยขยี้เนินหีของลูก
สาวอย่างต่อเนื่อง จนเธอร้องครางดิ้นส่ายหีเสียสีกับควยของเขาระริกๆ

"ซี๊ดดดดด..พ่อขา...แก้วเสียวหี...ช่วยนุ๋ด้วย...."

แก้วร่ำร้องด้วยความเสียวซ่าน ความเจ็บแปล็บๆหายไปจนรู้สึกชาๆเสียวๆ แต่ความคับแน่นของควยพ่อที่แช่อยุ่ในรูหีนั้น
มันเหมือนจะระเบิดหีของเธอออกมาเป็นเสี่ยงๆ ยิ่งยามที่พ่อขยับสาวเอวดึงควยออก แล้วกระเด้ากับเข้าไป ตอนแรกก็ช้าๆ
เสียวๆ แน่นๆ จนอึดอัด แต่เธอแก้วบอกว่าเสียวหีๆ พ่อเลยยิ่งกระเด้าควยรุนแรงขึ้น จนแก้วทนนิ่งต่อไปไม่ไหว ยกเนินหี
ส่ายร่อนสุ้ ทั้งๆที่ไม่เคยมีใครสอนสั่ง มันเป็นไปได้ตามสัญชาติญาณของสาวร่าน เสียงพ่อครางอูยๆ กัดฟันดังกรอดๆ
โหมแรงกระเด้าถี่ยิบจนเสียงดังสนั่นลั่นทุ่งแทบจะกลบเสียงฝน

"อูยยย..ลุกแก้วจ๋า...หีลูกเย็ดมันส์ควยจริง....ซี๊ดดด..."

ชัดชายขยับมือที่ล็อคขาของลูกสาวออก แล้ววางทาบมือกับพื้นกระดาน ทำท่าเหมือนกำลังวิดพื้นออกกำลังกาย ส่วนแก้ว
นั้นกลับเอามือยึดจับขาตนเองถ่างกว้างให้พ่อ พ่อจัดท่ากันได้ใหม่ ชัดชายก็โหมแรงกระเด้าถี่ยิบจนกระตอบเล็กๆไหวโยก
เสียงไม้พื้นกระดานลั่นดังเอี๊ยดอ๊าดๆ

"โอ๊ยยย..พ่อขา...ควยพ่อ..ควยพ่อ..เย็ดมันส์มากเลยค่ะ....ช่วยแก้วด้วย แรงๆเลยค่พ แก้วจำ..จำน้ำหีแตกแล้ว....." แก้วร่ำ
ร้องเสียงกระเส่าหลับหูหลับตาแอ่นเนินสาวรับแรงกระเด้าของพ่อ

"รอพ่อด้วยจ๊ะ....ซี๊ดดดด..พ่อจะแตกแล้ว.... หีลูกตอดควยพ่อจนทนแทบไม่ไหว...ซี๊ดดด"ฉัตรชัยตอบลูกสาวแล้วก้มหน้า
ตะบันกระเด้าเย็ด

"พ่อขา...หีนู๋เย้ดมันส์กว่าของแม่มั๊ยคะ...." แก้วเกิดความรุ้สึกอยากรู้ขึ้นมากระทันหัน

"มันส์กว่าจ๊ะ....หีลูกเย้ดมันส์กว่าแม่เยอะเลย..."

"แล้วพ่อชอบเย้ดหีนุ๋มั๊ยคะ....ซี๊ดดด"

"ชอบสิจ๊ะ...หีแน่นๆรูฟิตๆแบบนี้..หาที่ไหนได้อีก...โดยเฉพาะหีนู๋รับควยพ่อได้เต็มๆรูขนาดนี้...."

ชัดชายกัดฟันตอบโต้กับลุกสาว รู้สึกเสียววุบๆจนขนลุก นึกรู้อยู่ว่าตนเองใกล้จะน้ำแตกใส่หีลูกสาวเต้มแก่ จึงกัดฟันพูด
ตอบโต้หวังบรรเทาความเสียวสยิว ให้ยืดยาวอีกสักนิดสักหน่อยก็ยังดี

"ชอบก็เย็ดหีนู๋ทุกคืนเลยนะคะ...พ่อขา....ซี๊ดดดด..โอ๊ยยยพ่อขา...ผัวขา...น้ำหีเมียจะแตกแล้ว...ชะช่วยเมียด้วย...เย้ด
แรงๆถี่ๆเลยค่ะ...ไม่ต้องกลัวหีเมียบานหีเมียแหก..เย็ดให้เต็มแรงเลยหัวขา..."

พอแก้วเสียวสยิวจนน้ำแทบแตก เธอก็ลืมใปหมดสิ้นว่าคนที่เย็ดกับเธอนั้นคือพ่อ หาใช่เป็นผัวของเธอ แต่กระนั้นพอเธอ
เรียกคำว่าผัวๆเมียๆ ออกไป ชัดชายผู้เป็นพ่อก็ยิ้มชอบ แรงที่มีอยู่ทั้งหมด โนทุ่มออกมารวมพลังอยู่ที่บั้นเอว ที่กระเด้าควย
ใส่หีลูกสาวจนถี่ยิบ แล้วความรุ้สึกเสียวซ่านจากไขสันหลังก็แว๊บเข้ามาจนถึงพวงไข่ใบกลมๆของเขา จนชัดชายต้องกัด
ฟันกรอดข่มความเสียวครั้งนี้เอาไว้

"โอ๊ยยยยย..พ่อ...ผะ...ผัวขา..เมียไม่ไหวแล้ว...ว๊ายยยยยอือออ...อ่าสส์ส์ส์.....เมียตะ..แตกแล้ว..."

ร่างของแก้วแอ่นเกร็งจนกระตุกเมื่อรู้สึกเสียววูบเหมือนตกจากที่สูง ร่องสาวขับน้ำรักออกมาปริ๊บๆสามสี่ครั้ง จนรู้สึกเสียว
ซ่านชาวูบๆเหมือนจะเป็นลม จนร่องสาวขมิบถี่ๆ ในจังหวะนั้นก็รุ้สวึกร้อนวาบๆเป็นระลอกในโพรงหี เมื่อพ่อชัดชายของเธอ
หลั่งน้ำควยฉีดเข้าใส่โพรงหีจนร้อนวูบๆ จนแก้วต้องร้องว๊ายยยแล้วครางฮือๆๆด้วยความเสียวสุขยิ่งกว่าครั้งใดๆที่พ่อทำให้
ในครั้งนี้

แล้วร่างสาวเล็กของแก้วก็อ่อนระทวยมือจับขากางไว้หลุดวางกับพื้น ขาเรียวแบะถ่างกว้าง โดยมีร่างสุงใหญ่ของพ่อกดทับ
ระหว่างขาทั้งสอง ตัวพ่อชัดชายแอ่นกระตุก ใบหน้าหล่อเข้มของเขาบิดเหยเกตอนที่ฉีดน้ำควยใส่โพรงหีของแก้วเป็น
ระลอกๆ จนน้ำกามข้นขาวไหลปรี่ออกมาตามรุสาวก่อนที่เขาจะค่อยๆชักควยอวบใหญ่ที่เลอะลื่นเต้มไปด้วยน้ำควยน้ำหี
ออกมาแล้วพลิกตัวนอนหงายเอามือก่ายกอด บีบนวดอกกลมของแก้วเล่น จนตาเริ่มปรือหลับไปด้วยความเพลีย

"แก้ว ๆ ๆ;...ตื่นได้แล้วลูก จนตะวันแยงตาแล้วยังนอนขี้เซา...เป็นสาวแล้วนะลูก" แม่หวานตะโกนเรียก พร้อมตลบชายมุ้งขึ้น
อย่างถือวิสาสะ จนแก้วใจหายรีบลืมตามองหาร่างชัดชายผู้เป็นพ่อ แต่ทว่าข้างกายเธอกลับว่างเปล่า

"พ่อไปไหนแล้วแม่" แก้วถามขึ้นอย่างร้อนรน
"ไอ้ลูกคนนี้นี่ ตื่นมาก็ถามหาพ่อเชียว.." หวานบ่นเบาๆ ด้วยความรู้สึกอิดหนาระอาใจ ในความสนิทสนมที่เกินขอบเขตุของ
ความเป็นพ่อกับลูกสาวของทั้งคู่

"พ่อเอ็งออกไปนาแต่เช้าแล้ว แก้วลุกขึ้นมาช่วยแม่ให้อาหารหมูหมากาไก่บ้างสิลูก" หวานพูดจบก็เดินผละเข้าไปในครัว
เพื่อจัดเตรียมอาหารมื้อเช้าสำหรับครอบครัวเล็กๆของหล่อน ทิ้งให้แก้วนั่งทบทวนเหตุการณ์อยู่เงียบๆคนเดียว แล้วเด็ก
สาวก็อดยิ้มเขินๆอายๆออกมาเงียบๆ เมื่อนึกได้ว่าเรื่องเมื่อคืนนั้นมันเป็นความฝันที่แสนหวานของแก้วเพียงคนเดียวเท่านั้น



ย้อนกลับไปยังฉัตรชัยขณะกำลังขับรถยุโรปคันหรูกลับมาจากแม่สอด พร้อมคุณแจ่มจรัสผุ้เป็นแม่ ที่นั่งเงียบเหมือนกำลังใช้
ความคิดถึงบางเรื่องบางสิ่งอยู่ จนฉัตรชัยสังเกตุเห็น

"แม่ครับ...มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรอครับ...." ฉัตรชัยเอียงหน้าไปมองมารดาพร้อมถามขึ้น

"เอ่อ...แม่...แม่คิดถึงชัดชายน่ะลูก..." คุณแจ่มจรัสพูดเบาๆ เม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น เหมือนกำลังตัดสินใจในบางเรื่อง

"ชัดชายนี่ใครรึครับ...." ฉัตรชัยย้อนถามผู้เปก็นมารดาด้วยความแปลกใจ

"น้องของพ่อฉัตรนั่นแหละ..." เสียงพูดของมารดายิ่งเบาลงไปอีก แต่กลับมีผลให้ฉัตรชัยตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน เพราะเป็น
เรื่องที่ตนเองไม่เคยคาดคิดมาก่อน

"เดี่ยวนะแม่...ชัดชาย....ที่แม่บอกนี่นะ เป็นน้องของผม...แล้วเป็นคนเดียวกับที่เด็กที่ปั้มทักผมผิดใช่มั๊ยครับ....."

"แม่ก็ไม่ค่อยแน่ใจหรอกลูก...ว่าที่เด็กคนนั้นพูดจะเป็น ลูกชัดชายรึไม่...แต่พ่อฉัตรน่ะ มีน้องชายฝาแฝดชื่อชัดชายจริงๆ...."

"ทำไมผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยครับ...." ฉัตรชัยหันไปถามแม่ด้วยความสงสัย

"เรื่องมันยาวลูก แล้วแม่ก็พยายามจะลืมเรื่องนี้..." เสียงของมารดาฉัตรชัยเริ่มสั่นเครือ

"งั้นที่แม่บอกว่าพ่อผมตาย..เอ่อ..ตั้งแต่ผมยังเด็กๆล่ะครับ...ไม่จริงใช่มั๊ยแม่.."

"จ๊ะ...ไม่ใช่เรื่องจริง...ความจริงก็คือ พ่อเค้าเอาลูกชัดไปจากแม่..." คุณแจ่มจรัสเริ่มร้องไห้ เมื่อนึกถึงความขมขื่นในอดีต
ขณะกำลังเล่าเรื่องราวให้กับลูกชายแฝดคนพี่ฟัง

"พ่อของพ่อฉัตรน่ะชื่อเดช เขาเป็นคนขับรถของคุณยายกับคุณตาของลูก ตอนนั้นแม่กำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยใกล้จะจบ
แล้ว...วันหนึ่งตอนที่คุณตากับคุณยายไปทำธุระที่ต่างจังหวัด..เค้าปีนเข้ามาหาแม่ แล้วข่มขืนแม่..." มารดาของฉัตรชัยเล่า
ไปพร้อมกับเสียงสะอื้นร่ำไห้..

"หลังจากนั้นเค้าก็ขู่แม่ไม่ให้เอาเรื่องไปบอกใคร...แล้วก็ย่ำยี่แม่มาตลอดช่วงที่ปลอดคน จนแม่ท้อง..คุณตาของลูกพอรู้เรื่อง
ก็โมโหมาก ถามแม่ว่าใครเป็นคนทำเรื่องนี้ขึ้น แม่ไม่กล้าบอกว่าเป็นเค้า เพราะแม่กลัวคำขู่ของเขาที่บอกว่าจะฆ่าพวกเราทั้ง
ครอบครัว แม่เชื่อว่าเค้าทำได้เพราะเค้าเป็นคนที่ร้ายกาจมาก แม้ว่าแม่จะโดนคุณตาลงโทษแค่ไหนแม่ก็ไม่กล้าพูด จนแม่
ต้องออกจามหาวิทยาลัยเพราะอับอายไม่กล้าไป...แล้วแม่คลอดลูกกับน้องออกมาเป็นลูกแฝด...ตลอดเวลาก็มาขู่บังคับแม่
เรื่องเงินเรื่องทอง...จนมาวันหนึ่งตอนนั้นลูกอายุได้สี่ห้าเดือน ขณะที่เค้ากำลังขู่เอาเงินจากแม่..คุณตามาได้ยินเข้าก็เลยมี
เรื่องกัน คุณตาโดนเค้าทำร้าย แล้วเค้าก็คว้าเอาลูกชัดพรากไปจากแม่....ตอนที่อยุ่ในปั้มน้ำมัน พอแม่ได้ยินที่มีคนทักลูก
ผิดตัวว่าเป็นลูกชัด แม่ก็กลัวไม่กล้าพูดกับลูก เพราะกลัวพ่อของลูกนั่นแหละ......"

มารดาฉัตรชัยเล่าจบก็ซบหน้ากับฝ่ามือร้องไห้เสียงดังด้วยความเสียใจ...จนฉัตรชัยต้องชลอจอดรถข้างทาง เอื้อมมือไป
โอบไหล่ของมารดาดึงเข้ามากอดประโลม....จนมารดาหยุดร้องไห้จึงขับรถต่อไป

"แล้วเรื่องน้องนี่...แม่จะเอายังไงดีครับ.... "ฉัตรชัยถามมารดาเบาๆ

"พ่อฉัตรว่าแม่จะทำอย่างไรดีล่ะ...แม่ก็คิดถึงสงสารน้องนะ ไม่รุ้ว่าป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง...แต่..." มารดาฉัตรชัยค้างคำพูด
ไว้ อ้ำอึ้ง

"แต่อะไรครับแม่...."

"ก็ถ้าพ่อเค้ายังอยู่...แม่กลัวว่าเค้าจะมาก่อความเดือดร้อนให้แม่กับลูกน่ะสิ..."

"เอางี้นะแม่...ผมจะลองสืบดูก่อนว่าเค้ายังอยู่มั๊ย....ถ้าเค้าไม่..เอ่อ..ตายไปแล้ว..เราค่อยไปหานายชัดน้องของผม" ฉัตรชัย
รู้สึกไม่ดีกับพ่อผู้ให้กำเนิด ที่ทำทารุณโหดร้ายกับมารดาและครอบครัวของตน จึงเลี่ยงคำเรียกพ่อเป็นเค้าแทน

"อืมม...ยังงั้นก็ดีลูก ลองสืบให้แม่ ถ้าเค้ายังอยู่ เราก็อย่าไปยุ่งกับเค้า แต่ถ้าเค้าตายไปแล้ว พ่อฉัตรสัญญากับแม่ได้มั๊ยว่าจะ
พาน้องมาหาแม่...."

คุณแจ่มจรัสจับแขนลูกชายคนโตเขย่าอย่างมีความหวังว่าชีวิตก่อนที่เธอจะตาย เธออยากพบหน้าลูกชายแฝดคนเล็กที่พลัด
พรากจากกันไปกว่าสามสิบปี

"ครับแม่...ผมให้สัญญา..."

หลังจากกลับมาถึงบ้านแล้ว ฉัตรชัยก็มัวแต่ยุ่งอยู่กับงานที่บริษัท กับเรื่องเรือนหอที่ก่อสร้างตัวอาคารทาสีเสร็จแล้ว เหลือ
เพียงตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ ก็พร้อมเข้าอยู่ได้ทันที จึงยังไม่มีเวลาไปสืบเรื่องน้องชายให้กับผู้เป็นมารดา ช่วงเย็นวันหนึ่งหลัง
จากที่เครื่องเรือนบางส่วนได้ทยอยนำมาส่ง แม้จะยังไม่ได้จัดเข้าที่เข้าทาง ด้วยอยากให้คู่หมั้นสาวมีส่วนร่วมในการตัดสิน
ใจ ฉัตรชัยจึงไปรับมล.ลาวัลย์หรือหมิวคู่หมั้นสาว มาดูเรือนหอด้วยกัน เพื่อปรึกษาขอไอเดียจากคู่หมั้นสาวในการจัดวาง
เฟอร์นิเจอร์

ใกล้ถึงเวลานัดฉัตรชัยขับรถไปรับคู่หมั้นจากบ้านจากนั้นก็แวะทานอาหารเที่ยงกันก่อน จนบ่ายแก่ๆจึงพากันมาที่เรือนหอ
แล้วฉัตรชัยก็ได้ประจักษ์ชัดอีกครั้งว่าคุณหมิวนั้น เธอเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นช้างเท้าหลัง เพราะไม่ว่าฉัตรชัยจะเสนอแบบ
แปลนการจัดวางอย่างไร เธอเพียงแต่พยักวงหน้ารุปไข่เรียวสวยของเธอพร้อมยิ้มอย่างอ่อนหวาน บอกให้ฉัตรชัย ทำตาม
แปลนทุกอย่างโดยไม่มีความเห็นส่วนตัวขัดแย้งแม้แต่เรื่องเดียว

เริ่มจากชุดรับแขกไม้สักที่แตรชัยกับมารดาไปซื้อที่แม่สอด พอเอากลับมาวางที่ห้องรับแขกแล้ว ตัวฉัตรชัยกลับรู้สึกว่ามัน
ใหญ่เทอะทะเกินไปจนมองดูห้องรับแขกแคบไปกว่าที่ควรจะเป็น พอถามความคิดเห็นจากคุณหมิว

"หมิวว่าก็ดีนะคะ..ใหญ่โตดูมั่นคงแข็งแรงดีค่ะ...คุณพี่ไม่ต้องเปลี่ยนก็ได้ค่ะ..." เสียงอ่อนๆเรียบๆหวานๆ เหมือนไม่เคย
แสดงอารมณ์ชนิดใดออกมาเลย จนฉัตรชัยต้องยิ้มตอบกลับแล้วพาไปดูห้องอื่นๆต่อไป จนกระทั่งมาถึงห้องนอน

"คุณหมิวครับ..พี่ว่าตู้บิ้วอินนี่ควรจะทาสีขาวหรือจะใช้สีย้อมลายไม้แบบเดิมดีครับ...พี่ว่าสีย้อมไม้มันจะทำให้ห้องนอนเรา
มืดไปนะครับ.."

"อย่าเปลี่ยนสีให้ยุ่งยากเลยค่ะคุณพี่...สีย้อมไม้แบบนี้ แม้จะดูห้องไม่สว่าง แต่ก็ได้ลายไม้สวยดีนะคะ..."

"คุณหมิวชอบเตียงไม้โบราณนี้มั๊ยครับ..." ฉัตรชัยชี้มือไปยังเตียงไม้สักโบราณที่มีเสาแกะสลักสี่ต้น ด้านบนเสานั้นมีมุ้งขาว
ผ้าเนื้อละเอียดประดับโยงเหมือนมุ้งในยุคโบราณ

"ก็สวยดีค่ะคุณพี่..."

[post]ฉัตรชัยนึกไว้ก่อนแล้วว่าจะได้ยินเสียงอ่อนๆเนิบๆ คำพูดทำนองนี้จากคุณหมิว ไอ้นั่นก็ดีแล้วค่ะ ไอ้นี่ก็สวยแล้วค่ะ เธอไม่เคย
มีความคิดเป็นของตัวเองแม้สักเรื่อง สำหรับหนุ่มสาวยุคนี้อาจมองว่าทั้งคำพูด ทั้งกิริยาทั้งความคิดของคุณหมิวดูน่าเบื่อ
แต่สำหรับตัวฉัตรชัยเอง กลับรู้สึกว่าสิ่งนี้เป็นสเน่ห์อย่างหนึ่งที่หาไม่ได้แล้วกับสาวในยุคปัจจุบัน เขาจึงรักถนุถนอมคุ่หมั้น
สาวดั่งไข่ในหิน ไม่เคยมีสักครั้งที่จะคิดล่วงเกินเธอ ทำได้เพียงแค่กุมมือประคองเดินเท่านั้น แต่ครั้งนี้ หลังจากที่ฉัตรชัยดึง
มือคู่หมั้นสาวนั่งลงบนเตียงหนานุ่มซึ่งอีกไม่ถึงสองเดือนข้างหน้าเตียงหลังนี้จะเป็นเสมือนสมรภูมิรักของตนกับคุ่หมั้นสาว
สถานที่แห่งนี้จะเป็นวิมานสวาทของทั้งสองคน

ฉัตรชัยนั่งจ้องวงหน้ารูปไข่สวยหวาน ที่มักมีรอยยิ้ม จนไม่รู้เลยว่าคู่หมั้นสาวอยู่ในอารมณ์แบบไหน ประกอบกับผมยาวสีดำ
สนิทเหยียดตรงจนเลยไปถึงกึ่งกลางหลัง คุณหมิวเธอไว้ผมทรงนี้มาตั้งแต่ฉัตรชัยรุ้จักเธอครั้งแรกเมื่อ6ปีก่อน ตอนที่เธอเพิ่ง
เรียนจบรับปริญญาจากมหาวิทยาลัยเก่าแก่ย่านสามย่าน รอยยิ้มเล็กๆบนใบหน้าสวยหวานทำให้ฉัตรชัยเคลิ้มทุกครั้งที่ได้
จ้องมอง แต่ทุกครั้งก็จะรีบถอนสายตาออกก่อนที่อารมณ์พิสวาทจะก่อตัวขึ้น แต่ในครั้งนี้ฉัตรชัยกลับจ้องมองวงหน้าสวย
ของคู่หมั้นอย่างหลงไหลเคลิบเคลิ้ม โดยไม่คิดที่จะถอนสายตาออกมา อารมณ์ปรารถนาทำให้ฉัตรชัยเผลอตัวก้มหน้าลง
ไปจนหน้าผากแนบกัน คุณหมิวหลบตาคู่สวยกลมโตดำขลับลงต่ำ เห็นเพียงแผงขนตายาวงอนสวยใบหน้าแดงสร้านเมื่อ
ฉัตรชัยยื่นปากประทับจูบตรงหน้าผากโค้งโหนกนูนของคุณหมิว

"ผมรักคุณหมิวเหลือเกินครับ..."

ฉัตรชัยพึมพำเหมือนละเมอ ในขณะที่จุมพิตโค้งหน้าผากโหนกนูนนั้นอีกสองสามครั้ง คุณหมิวก็ยื่นมือเรียวเล็กขาวผ่องผิว
ละเอียดมาแตะหน้าอกฉัตรชัยไว้

"คุณพี่คะ...อย่ารังแกน้องสิ...ยังไม่ถึงเวลานะคะ..." เสียงเนิบๆอ่อนหวานไพเราะของคุณหมิวร้องเตือน

"พี่ขอโทษครับ...คุณหมิวน่ารัก จนพี่อดใจไม่ไหว..." เสียงฉัตรชัยแหบพร่า ด้วยอารมณ์พิสวาท พร้อมก้มจูบต่อมาที่พวงแก้ม
อิ่ม กลิ่นเนื้อหอมละมุนของคุ่หมั้นสาว ยิ่งเหมือนแรงผลักเร้าให้อารมณ์พิสวาทของฉัตรชัยโหมกระพือ

"คุณพี่อย่า..รังแกหมิว......" เสียงคุณหมิวเริ่มสั่น เพราะมันเป็นครั้งแรกที่แก้มสาวของเธอถูกคู่หมั้นหนุ่มใหญ่รุกราน

"ขอพี่จูบเถอะครับ...ยอดรัก...พี่ไม่รังแกคุณหมิวมากไปกว่านี้..พี่สัญญา.." เสียงแหบพร่าเปล่งออกมาจากริมฝีปากหนุ่มใหญ่
ที่บัดนี้ใบหน้าเริ่มแดงกร่ำด้วยความรุ้สึกปรารถนาที่ปั่นป่วนจนใจไม่อยากหยุด

"คุณพี่...ยะ..อย่าค่ะ...พอแล้ว.."

ในความรุ้สึกที่ปั่นปวนทั้งอยากลองเรียนรู้ และหวาดกลัวสิ่งที่จะทำ ทำให้คุณหมิวร้องห้ามคู่หมั้นหนุ่มของเธอเสียงสั่น ใจ
เต้นแรงจนแทบจะกระดอนออกมานอกอกอวบตูมเต่ง ริมฝีปากร้อนๆที่จูบไล้ไปตามแก้มนวลทำให้เธอขนลุกเสียวซ่าน แบบ
ที่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน แต่คู่หมั้นของเธอก็หยุดอยู่เพียงแค่นั้นตามคำสัญญาที่บอกไว้ จนคุณหมิวไม่กล้าจ้องหน้ามอง
ตาของเขาอีกเลย ด้วยความรุ้สึกอับอายที่เผลอตัวปล่อยใจ จนโดนจูบไปหลายครั้ง

ฉัตรชัยผละหน้า ผละริมฝีปากออกจากแก้มนวลของคุณหมิว แล้วจ้องหน้าแดงกร่ำของคู่หมั้นสาวด้วยความรักแรงกล้า ยิ่ง
เห้นอากัปกิริยาเอียงอาย เขาก็เชื่อมั่นว่าเลือกเจ้าสาวไม่ผิดแน่ เธอยังบริสุทธิ์ไร้เดียงสายิ่งนัก ส่วนตัวเขาก็เป็นสุภาพบุรุษ
เกินกว่าที่จะใช้เล่ห์กลสวาทพรากความสาวไปจากเธอก่อนเวลาอันควร หลังจากที่ปรับอารมณ์ความปารถนาจนลดระดับ
ลงมาเป็นปรกติ ฉัตรชัยก็พาคู่หมั้นกลับไปส่งบ้าน ก่อนจะกลับมาเจอมารดานั่งรออยู่ที่ห้องรับแขก

"ลูกฉัตร...มาหาแม่ก่อน.." มารดารีบร้องบอกเมื่อเห็นลูกแฝดคนพี่กลับมาถึงบ้าน

"ครับแม่..." ฉัตรชัยรีบเข้าไปนั่งด้านข้างของมารดาจับมือหญิงชรามากอด

"พานู๋หมิวไปดูเรือนหอมารึลูก..."

"ครับใช่...แม่มีอะไรหรือเปล่าครับ..." เห็นมารดาดูอ่ำอึ้ง จึงรีบถามขึ้นเสียก่อน

"แม่อยากรู้ว่าลูกไป..ไปสืบเรื่องน้องรึยัง.." พอมารดาพูดจบ ฉัตรชัยจึงนึกขึ้นได้ว่า ยังไม่ได้ไปทำธุระเรื่องนี้ให้กับผู้เป็นแม่
เลย เพราะมัวแต่ยุ่งๆอยู่กับงาน และเรือนหอ

"ขอโทษครับแม่...กะว่าพรุ่งนี้จะไปน่ะครับ...พอดีช่วงนี้ผมยุ่งๆอยู่.."

"จ๊ะๆ...แม่ไม่ได้เร่งนะลุก..แค่เตือนกลัวว่าลูกจะลืมน่ะ..."

หลังจากที่รับปากกับมารดาว่าพรุ่งนี้จะไปสืบเรื่องน้องชายฝาแฝดที่ปั้มน้ำมันแห่งนั้นแล้ว แตรชัยก้ขอตัวไปพักผ่อน ปล่อย
ให้มารดามองตามแผ่นหลังด้วยความหวังว่าจะได้พบลูกชายอีกคนที่โดนพรากจากไป



แม้จะผ่านมาแล้วหลายวัน แต่หวานก็ยังจำได้ดี และไม่คิดว่าตนเองตาฝาดไปด้วย แม้วันนั้นฝนตกหนักจนมองเห็นได้เพียง
ระยะไม่ไกลก็ตาม แต่ภาพที่เห็นสองพ่อลูกนั่งกอดกันในเพิงพักท้ายบ่อ ในลักษณะที่ไม่เหมาะสมหันหน้าเข้าหากันนั้น มัน
ทำให้เธอกังวล แม้จะยังไม่แน่ชัดว่าสิ่งที่หวานห่วงกังวลนั้น มันเกิดขึ้นมาแล้วหรือยัง เธอจึงจำต้องตัดไฟแต่ต้นลม โดยการ
พาแก้วลูกสาวคนเดียวที่ถูกสามีเธอตามใจจนจะเสียเด็ก ไปฝากไว้กับร้านตัดเสื้อผ้าบูติค ของญาติห่างๆในตัวจังหวัด แม้
สามีจะทัดทานและแก้วจะไม่ยินยอมไป แต่เธอก็ใช้สิทธิ์ของความเป็นแม่ ซึ่งมักจะไม่ค่อยนำออกมาใช้ พูดคุยกับชัดชาย
จนเขาต้องยอมจำนนต่อเหตุผล ที่เธอบอกเพียงว่า

"ถ้าแก้วมันไม่อยากเรียน แม่ก็คิดว่ามันควรหาอาชีพเลี้ยงตัว...เราสองคนจะเลี้ยงมันจนแก่เฒ่าได้อย่างไรล่ะพ่อ...ให้ไป
ฝึกงานอยู่กับพี่เพ็ญนั่นแหละดีแล้ว เผื่อว่าแก้วมันจะมีหัวมาทางนี้ หมั่นเอาใจใส่งาน ฝึกฝนจนชำนาญ วันข้างหน้ามันก็
จะได้มีอาชีพติดตัว...แม่หวังว่าพ่อคงไม่ทัดทานแม่นะ..."

หวานพูดพร้อมกับจ้องหน้าสามี และลูกสาว แก้วนั้นไม่ใส่ใจคำพูดของแม่อยู่แล้ว พอโดนสายตาของแม่จ้องมาก เธอก็เส
แสร้งหันหน้าออกไปดูโน่น ดูนี่ของเธอ แต่ชัดชายกลับสะดุ้ง เริ่มรู้สึกระแวงในทีท่าของเมีย ซึ่งปรกติมักไม่เคยมีปากมีเสียง
กับตนมาก่อน เหมือนวัวสันหลังหวะ พออีกาบินผ่านมาก็สะดุ้งกลัว จึงช่วยเกลี้ยกล่อมลูกสาวจนเธอยินยอมทำตามคำของ
แม่ ....แต่ใครจะรุ้ล่ะว่า เหตุผลที่แก้วยินยอมไปฝึกงานเสื้อผ้าที่ร้านป้าเพ็ญญาติข้างแม่นั้น หาใช่เพราะเชื่อตามคำพูดของ
มารดาเลยแม้สักนิด เธอกลับคิดไปอีกทางหนึ่งว่าเมื่อไปอยู่ในตัวจังหวัด ห่างตาของแม่ เวลาพ่อมาหาเธอ  เธอกับพ่อน่า
จะมีโอกาสได้อยู่กันตามลำพังเท่านั้นเอง

หลังจากทำความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้วชัดชายกับหวานก็พาแก้วไปส่งที่ร้านเสื้อผ้าบูติคญาติของหวานในตัวจังหวัด
แม้แก้วจะไม่ชอบใจเท่าใดนัก แต่เพื่อจุ่งมุ่งหวังข้างหน้า เธอก็จำยอมอยู่กับป้าเพ็ญโดยไม่เอะอะโวยวาอาระวาด ตามนิสัย
ที่เอาแต่ใจตนเองของเธอ แต่ก่อนที่สองคนผัวเมียจะลาเจ๊เพ๊ญกลับ แก้วรอจังหวะที่แม่เผลอ เข้าไปกระซิบบอกพ่อของ
เธอว่า

"ถ้าพ่อไม่มาหานู๋ ตามที่สัญญานะ นู๋จะหนีกลับบ้านจริงๆ..." พูดจบก็ทำหน้าอ้อนผู้เป็นพ่อพร้อมโผกอดรัดแน่นสักครู่ ก่อน
จะรีบคลายวงแขนออกเมื่อเห็นมารดาหันมามอง

ขากลับบ้านชัดชายแวะเติมน้ำมันที่สถานนีบริการที่ฉัตรชัยกับแม่เคยเข้ามาเมื่อเกือบ10วันที่แล้ว พนักงานสาวชื่อเรรีบถลา
เข้ามาเพื่อเห็นรถชัดชายว่าที่กิ๊กของเธอขับเข้ามา รอจนชัดชายหมุนกระจกรถลง เธอกะจะแซวจะอ่อยเขาเล่น แต่ก็ชะงัก
เมื่อเธอเห็นว่าหญิงสาววัยกลางคนที่นั่งคู่มากับกิ๊กของเธอนั้น คือหวานเมียตัวจริง เธอก็สงบปากคำ รอจนชัดชายบอกให้
เธอเติมน้ำมันให้จนเสร็จแล้วเคลื่อนรถออกไปจอดพักใกล้ ๆ ห้องน้ำ เธอก็เดินกลับมาหาเพื่อนสาวอีกคน

"เห็นมั๊ยอีสา..กูบอกมึงแล้วว่าวันนั้นมึงทักคนผิด...คนนี้ต่างหากคือเฮียชัดกิ๊กของกู.....ดูดิวันนี้อีแก่แม่งเสือกนั่งมาด้วย..."
สาวเรพนักงานประจำหัวจ่ายน้ำมันหันไปคุยกับเพื่อนสาวอีกคน

"แต่เค้าหน้าเหมือนกันจริงๆนะโว๊ยอีเร....คนห่าอะไรวะ เหมือนกันยังกะฝาแฝด...."อีสาตอบโต้เพื่อนสาว พร้อมรุ้สึกอายเล็ก ๆ
เมื่อนึกถึงวันนั้น วันที่เธอปล่อยไก่ไปตัวใหญ่

"กูว่าไม่ใช่พี่น้องฝาแฝดหรอก....จะเป็นพี่น้องกันได้ไงวะ อีกคนรวยเว่อร์ขี่รถคันละตั้งเป็นล้านๆ ส่วนอีกคนขี่กระบะเก่าจน
หมาเห่าสงสัยจะหลุดเป็นชิ้นๆ ฮิฮิๆ" พูดจบสองสาวต่างก็หัวเราะขำกันลั่น

ส่วนชัดชายหลังจากที่จอดรถรอหวานเข้าห้องน้ำ ทำธุระจนเสร็จก็ขับรถกลับบ้านของตน คล้อยหลังไปไม่เกินสองชั่วโมง
รถเบนซ์คันหรูของฉัตรชัยก็ขับเข้ามาที่ปั้มน้ำมันแห่งนั้นอีกครั้ง แต่จุดประสงค์ของการเข้ามาในปั้มน้ำมันครั้งนี้ หาใช่ต้อง
การเติมน้ำมัน เขาขับรถไปจอดด้านหน้าร้านเซเว่น แล้วเดินลงมามองมาทางสองสาวพนักงานประจำหัวจ่ายน้ำมัน แต่ก็
ไม่มั่นใจว่าเธอสองคนนั้น คนไหนคือคนที่เข้ามาทักเขาว่าเฮียชัดกันแน่ สักครู่หนึ่งในสองสาวก็เดินเข้ามาที่ฉัตรชัยยืนอยู่
ข้างๆรถ

"คุณนั่นเอง....ครั้งนั้นนู๋ขอโทษนะคะ..ที่จำคนผิด...ก็หน้าของคุณกับเฮียชัดเหมือนเป็นฝาแฝดกันเลยนี่...."เธอพูดเบาๆ
พร้อมหัวเราะกลบเกลือนความอาย

[post]"ไม่เป็นไรหรอกครับ.....คนเราอาจจะเหมือนกันได้..." ฉัตรชัยกล่าวเบาๆ ไม่อยากให้พนักงานสาวคนนี้สังเกตุได้ว่า เหตุที่
เขามานั้นก็คือจะตามหาตัวน้องชายฝาแฝดของเขานั่นเอง

"ไม่ใช่แค่หน้าเหมือนนะคะ...แต่มันเหมือนมาก เหมือนคุณส่องกระจกดูหน้าตัวเองเลยค่ะ....ผิดกันแต่ว่า เฮียชัดเขาไม่รวย
เวิ่อร์แบบนี้...." พนักงานสาวยังคงยืนยันคำเดิมว่าหน้าของฉัตรชัยกับเฮียชัดของเธอนั้นเหมือนกันเหมือนมองภาพจาก
กระจกเงาทีเดียว

"น่าเสียดายจัง ถ้าคุณมาเร็วกว่านี้สักสองชั่วโมง คุณจะเจอเฮียชัด แล้วจะรู้ว่านู๋ไม่ได้พูดปด...." คำพูดของพนักงานสาวทำ
ให้ฉัตรชัยมั่นใจ มีความหวังว่าเขาจะได้เจอกับน้องชายฝาแฝดในเร็วๆวันนี้

"เอ่อ....แล้วเฮียชัดของนู๋นี่ เค้าอยู่แถวๆนี้หรอครับ..." ฉัตรชัยพยามยามบังคับน้ำเสียงให้เป็นปรกติ เหมือนถามไถ่ชวนคุยเสีย
มากกว่าที่จะให้พนักงานผู้นี้จับสังเกตุถึงความสนใจในตัวเฮียชัดของเธอ

"โอ๊ย...ฮาๆๆ ไม่ใช่เฮียชัดของนู๋หรอกค่ะ..โน่น..." พูดพร้อมกับชี้มือไปยังเพื่อนสาวอีกคน"ของอีเรโน่นมัน...เขาเป็นกิ๊กกันน่ะ....
นู๋ก็ไม่รู้หรอกค่ะว่าเฮียชัดเขาอยู่ที่ไหน คุณอยากรู้ไปทำไมคะ..." พอเจอคำถามย้อนกลับฉัตรชัยก็รีบนึกหาคำตอบ

"ก็คงเพราะอยากเห็นเหมือนที่นู๋บอกนั่นแหละ ว่าหน้าผมกับเฮียชัดนี่เหมือนฝาแฝด ถ้าจริงจะได้ขอถ่ายรูปไปลงเฟรชบุ๊คสัก
หน่อย..ฮาๆๆๆๆ" ฉัตรชัยหัวเราะกลบเกลื่นทำให้ดูเหมือนเป็นเรื่องขำๆ

"งั้นเดี๋ยวเรียกอีเรมาถามมั๊ยคะ..เผื่อมันจะรู้"

พูดจบก็ตะโกนเรียกเพื่อนสาวที่ชื่อเรเสียงดังลั่นพร้อมกวักมือหยอยๆ สาวชื่อเรก็เดินกึ่งวิ่งเข้ามาหา ฉัตรชัยมองเห็นจุดเด่น
ของกิ๊กน้องชายตนทั้งร่างมีเพียงอกที่ใหญ่มากสองเต้ากวัดแกว่งกระเพื่อมยามเดินกึ่งวิ่งเร็วๆเข้ามาหา นอกนั้นก็ดูเหมือน
สาวชาวบ้านธรรมดาทั่วๆไป

"เห้ย..อีเร..มึงรู้ป่ะว่าบ้านเฮียชัดเขาอยู่ที่ไหน... คุณเขาอยากพิสูจน์ที่กูบอกว่าหน้าเฮียชัดกับหน้าคุณเหมือนยังกะเป็นฝา
แฝดกันน่ะ "

"กูไม่ใช่เมียเขาสักหน่อยอีสา จะได้ไปตรัสรู้ว่าบ้านช่องเฮียเค้าอยู่ตรงไหน...."คำตอบของกิ๊กน้องชายฝาแฝดฉัตรชัย ทำให้
ฉัตรชัยรุ้สึกผิดหวังเล็กๆ

"ว๊า.....แบบนี้ผมก็อดถ่ายรูปเฮียชัดของนู๋ไปลงเฟรชบุคน่ะสิ...." ฉัตรชัยทำเสียงบ่นเหมือนเสียดายโอกาส

"แต่ว่า...ป้าสมแกน่าจะรุ้นะคะ..." สาวเรพูดขึ้นมา ทำให้ฉัตรชัยตั้งใจฟัง พร้อมมีความหวังมากขึ้น

"ป้าสมนี่เป็นใครรึครับ..."

"ป้าสมที่ขายล็อตตอรี่ไงคะ...ที่วันนั้นยังทักคุณผิดเลย..." สาวเรชี้แจง ส่วนฉัตรชัยหันไปมองหน้าประตูทางเข้าร้านเซเว่น
ที่ครั้งโน้นเจอแกนั่งขายอยู่ แต่ก็ไร้วี่แวว

"วันนี้ป้าแกไม่มาขายหรอกค่ะ..ต้องอีกสองสามวันใกล้ๆหวยออกแกถึงจะมาขาย..."

สาวที่ชื่อสาที่ดูเหมือนจะฉลาดมีไหวพริบมากกว่าเพื่อนอีกคน รีบบอกเมื่อเห็นฉัตรชัยหันไปมองหาป้าสมที่เคยนั่งขาย
ล็อตตอรี่ตรงทางเข้าร้านเซเว่น

หลังจากที่ฉัตรชัยได้ข้อมูลส่วนนี้มาแล้ว ก็ลาสองสาวขับรถกลับกรุงเทพเพื่อนำเรื่องไปบอกให้มารดารับทราบ ฉัตรชัย
พยายามสืบตามหาน้องชายอย่างเงียบๆ ไม่อยากกระโตกกระตากให้ใครล่วงรู้หลายคนนัก ด้วยเหตุผลที่ว่า เขาอยากเจอ
เพียงน้องชายฝาแฝด ไม่ได้อยากเจอกับคนอีกคนหนึ่งที่เป็นผุ้ให้กำเนิดเขามา



ในเย็นวันนั้นหลังที่สองผัวเมียชัดชายกับหวาน พาลูกสาวไปฝากบ้านพี่เพ็ญในตัวจังหวัด เพื่อฝึกงานด้านเสื้อผ้าแล้วสองคน
ก็กลับมาที่บ้าน

"พ่อ.....คงไม่ว่าแม่นะที่แม่เอาแก้วไปฝึกงานที่บ้านพี่เพ็ญนี่..." หวานเอ่ยขึ้นกับสามีหลังจากที่พรบค่ำทานข้าวปลากันเสร้จ
เรียบร้อย ก่อนที่จะนอนกัน

"อืมมมมม...ก็ดีนะ อย่างน้อยแก้วมันจะได้มีวิชาติดตัว..." สามีนั่งอยู่ตรงชานบ้าน กำลังมวนยาสูบ พูดเสร็จก็พ่นควันสีขาว
ออกมาจากปาก

"ดีแล้วละพ่อ....จะได้ไม่มีปัญหากันทีหลัง...."

หวานพูดทิ้งปริศนาให้สามีคิด ทำให้ชัดชายต้องหันกลับมามองจ้องหน้าภรรยา ด้วยยังไม่แน่ใจว่าหวานรู้เรื่องของตนเองกับ
ลูกสาวมากน้อยแค่ไหน

"ก็พ่อนั่นแหละ...ตามใจแก้วมันจนจะเสียเด็ก....แม่รู้ว่าพ่อรักลูกมาก แต่บางเรื่องก็อย่าไปตามใจมันจนมากเกินไป...มันไม่
งาม..." หวานพูดช้าๆ เหมือนรู้เรื่องอะไรบางอย่าง เพียงแค่ไม่อยากพูดออกมาตรงๆ

"ป่ะ...นอนกันเถอะ..." ชัดชายรีบตัดบทสนทนา ชวนเมียสาวเข้านอน หลังจากที่ดูดยาจนหมดมวนแล้ว

"อ่าว...จะนอนแล้วหรอพ่อ....ลูกไม่อยุ่ยังงี้..พ่อไม่ออกไปหาเด็กๆของพ่อล่ะ...ไม่ต้องเกรงใจฉันหรอก..."

หวานพูดเรียบๆ นิ่มๆช้าๆ ตามลักษณะนิสัยของตนเอง ไม่มีทีท่าหึงหวง หรือแฝงความนัยในคำพูดแม้สักนิด เพราะรู้นิสัย
เจ้าชู้ของสามีดี แต่หลังจากได้ยินคำตอบของสามี เธอถึงกับอายบ่นอุ๊บอิ๊บๆเบาๆไม่ให้สามีได้ยิน

"ไม่ล่ะ...ลูกไม่อยู่ยังงี้สิดี คืนนี้พ่อจะเย็ดแม่ให้หนักเลยฮาๆๆๆๆ.....ไม่ต้องกลัวว่าลุกมันจะตื่นมาแอบดู..."

หวานอดีตเทพีสงกรานต์ประจำจังหวัดเมื่อ17ปีก่อน ยังคงความสวยงามของวงหน้าทรงกลมเรียวไม่ได้แตกต่างไปจาก
อดีตแม้สักนิด จมูกโด่งเล็กๆจากธรรมชาติสร้างมา กับโค้งหน้าผากโหนกนูนบอกลักษณะของอวัยวะเพศให้ผู้คนจินตนาการ
ได้ว่าควรจะนูนโหนกขนาดไหน ดวงตากลมโตดำขลับรับกับขนตางอนยาว แก้มอิ่มปากอวบอิ่มสีแดงเรื่อไม่ต้องเสริมแต่ง
แต้มด้วยลิปสิคแม้สักนิด

หวานเริ่มหายใจจนอกกระเพื่อมเมื่อสามีตรงเข้ามาสวมกอด แล้วจูบแก้มหนักๆหลายๆที เสียงเธอบ่นอุบอิ๊บเบาๆว่าเหม็นบุหรี่
จากปากสามี แต่พอโดนประกบจูบที่ปากแรงๆ แล้วสอดลิ้นเข้าไปในปากอิ่มของเธอก็เงียบเสียง มือหยาบเพราะผ่านงาน
หนักของชัดชายเอื้อมมาบีบคลึงนมอวบใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่ในเสื้อคอกระเช้าลายลูกไม้สีเหลือไพร แม้มันจะคล้อยลง ก็เป็น
เพียงเล็กน้อยเพราะความอวบใหญ่ที่เพิ่มขนาดขึ้นกับใช้เพื่อเลี้ยงดูลูกสาว

ชัดชายคลึงอกอวบใหญ่ของหวานเล่นจนเธอเริ่มบิดตัวด้วยความเสียวสยิว ปลายนิ้วของชัดชายคีบหัวนมสีน้ำตาลเข้มของ
หวานคลึงเล่นจนมันลุกแข็งดันเสื้อคอกระเช้าออกมาเต็มตุ่มไตขนาดเท่าปลายนิ้วก้อยของสามี

"พ่อ....ยังเพิ่งหัวค่ำอยู่เลยนะ...อูยยย...พ่อเบามือหน่อยสิ บีบจนแม่เจ็บหัวนมเลย..." นางตัดพ้อสามีเบาๆ เมื่อชัดชายเพิ่ม
น้ำหนักนิ้วบีบคลึงหัวนมลุกแข็งของเธอหนักขึ้น

"เวลานี้แหละดีแล้ว...จะได้เย็ด...เมียหลายๆทีไงจ๊ะ..."

ชัดชายตอบจบก็ยื่นมือจับชายเสื้อคอกระเช้าสีไพรของเมียสาววัยสามสิบต้นๆ ถอดออกทางหัว นมขาวเต้าตูมเต่งอวบใหญ่
ของเมียต้องแสงไฟสลัวขนดูขาวโพลน แม้เต้าอวบใหญ่จะคล้อยลงกว่าตอนวัยสาว แต่ปลายถันกลับชี้งอนขึ้น เหมือนที่
โบราณบอกลักษณะไว้ว่า เป็นหัวนมชีหน้าผัว

ชัดชายก้มหน้าอ้าปากหนาใหญ่งับหัวนมสีน้ำตาลของหวานเข้าปากดูดแรงๆจนมีเสียงดังจ๊วบๆ สร้างความเสียวสยิวจนหวาน
ต้องยกสองมือประคองจับหัวสามีไว้แน่น

"พ่ออ่ะ....ยิ่งบอกให้เบาๆ ก็ยิ่งทำหนัก อุ๊ยๆ ซี๊ดดด..." หวานแอ่นอกหราเมื่อโดนสามีทั้งดูดด้วยปาก ทั้งดุนปลายลิ้นกับหัวนม
แข็งจนเริ่มแสบ

[post]ชัดชายนั้นปลุกเร้าอารมณ์เมียสาวด้วยความหื่นปารถนาอันรุนแรง เอื้อมมืออีกข้างที่ไม่ได้บีบคลึงนมเมียเลื้อยไปปลดปมผ้า
ซิ่นของหวานจนคลายตัวออกแล้วสอดมือเข้าไปจับโหนกเนินนูนไร้ขนของหวานบีบยวบๆ จนหวานต้องครางเสียวแล้วแอ่น
เนินยกโหนกให้สามีจับบีบเล่นถนัดถนี่ น้ำเสียวเริ่มหลังออกมาเมื่อสามีกรีดปลายนิ้วไปตามรอยผ่าเรียวยาวของเธอ แล้วกด
ปลายนิ้วคลึงเม็ดสวาทที่อยู่เหนีอร่องเรียวเสียวกดคลึงจนมันยุบยวบ

"ซี๊ดดด..พ่อ...เบาๆสิ....เดี๋ยวของหวานช้ำพอดี..."

ตัดพ้อบอกสามีแทบทุกครั้งที่โดนบีบหีเล่นแตด แต่สามีตัวดีก็หาได้ฟังเสียง ด้วยอารมณ์หื่นดิบๆ เถื่อนๆ ส่วนตัวในการร่วม
รัก ที่จะต้องทำแบบหนักๆแรงๆ

"ถ้าหีแกจะช้ำ...มันคงช้ำไปนานแล้วละ...ฮาๆๆๆๆ"

แทนที่สามีจะฟังเสียงร้องขอ กลับยิ่งละเลงปลายนิ้วหนักขึ้น แรงขึ้น จนเมียสาวเสียวสยิว บิดส่ายสะโพกยักยักๆ เหมือนจะ
หนี แต่ก็ไม่หนี เพราะขาค่อยๆถ่างอ้าออกจนร่องเสียวแยกอ้าให้ปลายนิ้วทั้งสองของชัดชายสอดทิ่มพรวดเข้าไปแล้วกระดก
งัดหนักๆถี่ๆ

"ซี๊ดดด..พ่อ....แม่เสียวแล้ว....ยะ..เย็ดแม่สิคะ...."

โดนโลมเล้าหนักมือขึ้นจนหวานทนเสียวสยิวไม่ไหว ต้องร้องบอกขอให้สามีเย็ดเร็วๆ แต่ดูเหมือนชัดชายจะทำหูทวนลม
แทนที่จะลุกขึ้นมาจับควยยัดใส่หีเมียตามที่เธอขอ กลับยิ่งซอยนิ้วทิ่มแทงใส่รูหีเมียถี่ๆ จนน้ำเสียวกระฉอกไหลออกมาเยิ้ม
เต็มร่องเสียงดังแจ๊ะๆๆสนั่นบ้าน

"อูยยยย...ซี๊ดดด...ผัวขา...เมียเสียวหีเสียวแตด...ยะ..เย็ดเมียได้แล้ว.." พอความเสียวซ่านทะยานขึ้นไปถึงระดับ คำเรียก
ของหวานก็มักจะเปลี่ยนไปเช่นนี้เสมอ

ชัดชายขยับลุกขึ้นนั่งปลดปมกางเกงขาก๊วยสีดำของตนเองออก ควยยาวใหญ่สีดำมะเมื่อมก็ดีดเด้งชี้แข็งโด่ออกมาร่วมคืบ
เพราะไม่ได้ใส่กางเกงใน ปลายหัวควยบานเหมือนดอกเห็ดโคนสีแดงกล่ำ น้ำเสียวไหลปริ่มออกมาตรงปากรูควยจนแทบ
หยดลงสู่พื้น

ชัดชายขยับทรุดตัวลงนั่งกลางหว่างขาหวาน ใช้สองมือจับขาเรียวของเมียสาวพับแล้วแบะเข่ากางออก จับควยยาวอวบ
ของตนทิ่มตรงเข้าไปยังรูหีแดงกล่ำที่เยิ้มไปด้วยเมือกลื่น แล้วกดพรืดเข้าไปไม่ชักช้า เสียงหวานครางซี๊ดดดยาวๆ เมื่อ
ปลายควยกลมบานชำแรกผ่านปากรูหี ที่ขมิบตัวยวบๆยาบๆเหมือนปากหอยแครงยามขยับตัวเปิดเปลือกออกมาคลาน
เคลื่อนหาที่อยู่ใหม่

พอลำควยยาวใหญ่แทรกผ่านรูหีคับของเมียเข้าไปได้ไม่ถึงครึ่งลำยาว ชัดชายก็ก้มตัวแนบลงไปประกบปากเมียจูบสอดลิ้น
พัวพันกันอย่างเร่าร้อนรุนแรง แล้วสอดมือสองข้างเข้าซอกรักแร้ของเมียขยับดึงขึ้นจนหวานลุกขึ้นมานั่งทับบนลำขาแข้ง
ของผัว น้ำหนักตัวที่กดลงมาทำให้ลำควยาวของผัวแทงพรวดเข้าไปในรูหีจนสุดกั้น ซี๊ดดด...เสียงครางด้วยความเสียว
ซ่านของผวานดังออกมาพร้อมร่องเสียวที่ขมิบตอดยึกๆยวบๆ รีดน้ำสวาทให้ทะลักไหลออกมาอีกระลอก

"ซี๊ดดดดด...พ่ออ่ะ...เย็ดท่าธรรมดาไม่ได้หรอ..." หวานกระซิบเสียงหวานตามชื่อ กระเส่าด้วยอารมณ์เสียวบอกให้สามีทำ
ท่าพื้นฐานด้วยรู้ว่าสามียกตัวเธอขึ้นมานั่งเช่นนี้คงจะเย้ดเธอด้วยท่าวิตถารเป็นแน่

"น่านะ....ลูกไม่อยู่...ให้ผัวเย็ดหนักๆ เถอะนะ...."

ชัดชายพูดไปพร้อมกับสอดมือล็อคข้อพับหวานแน่น แล้วพยุงตัวลุกขึ้นยืนด้วยกำลังข้อแขนที่แข็งแกร่ง ส่วนหวานแม้จะ
บอกสามีให้เย็ดท่าพื้นฐาน แต่พอร่างบอบบางของเธอโดนยกลอย ขึ้นจากพื้น เธอก็รีบคล้องแขนเรียวกับลำคอแกร่งหนา
ใหญ่ของสามีแน่น แล้วแอบซ่อนหน้าอมยิ้มเขินๆหน้าขาวสวยแดงกล่ำ ขยับสะโพกโยกรับ

ชัดชายขยับยกร่างบอบบางของหวานได้ถนัดมือก็เริ่มกระเด้าควยเย็ด เสียงดังป๊าปๆๆถนัดถนี่ แล้วพาออกเดินไปมารอบๆ
ห้องนอนที่ไม่ใหญ่สักเท่าใดนัก เสียงหวานครางอูยๆซี๊ดๆๆๆ สะโพกขยับรับแรงกระเด้าของผัว สอดรับจังหวะกันได้ไม่ผิด
พลาด เสียงดังป๊าปๆๆๆๆ สนั่นห้อง

ชัดชายพาเมียอุ้มเดินเย็ดรอบๆห้องสักสองรอบก็วางก้นอวบผายกลมขาวผ่องของเมียลงบนตู้ไม้สักดบราณใบเตี้ยๆ ที่ข้าง
ในบรรจุถ้วยโถโอชามของเก่าที่พ่อกำนันทิ้งไว้ให้ เสียงกรุ๊งๆกริ๊งๆของภาชนะกระเบื้องเคลือบกระทบกันถี่ๆ ตามจังหวะซอย
ควยกระเด้าเย็ดของชัดชาย จนตู้ไม้สักโบราณที่ดูแข็งแกร่ง แกว่งโยก เสียงหวานครางอูยๆซี๊ดๆๆดังสนั่น ครั้งนี้เธอไม่จำ
เป็นต้องออมเสียงร้องด้วยลูกสาวของเธอไม่อยู่ในบ้าน เหมือนทุกคราวที่ผ่านมา

"อูยยยยยผัว...ขา....เมียเสียว...เสียวหี...ซี๊ดดด...เย็ด..แรงๆ..หนัก...เลยค่ะ.."

ความเสียวซ่านที่หวานได้รับจากรสควยของผัว ทำให้สาวบ้านนอกผู้เรียบร้อยอย่างเธอ ก็ถึงกลับเตลิดเพลิดหลุดคำพูด
บ้านๆออกมาอย่างเผลอไผล หลับหูหลับตา ห่อปากครางอูยๆซี๊ดๆๆ พร้อมขยับก้นผายอวบขาวผ่องของเธอโยกรับจังหวะ
กระเด้าเย็ดของชัดชายเป็นระวิง

"อูยยยยย...ผัวขา...เมีย..ไม่ไหวแล้ว....ช่วยด้วย...เย็ดถี่...ถี่ๆๆ....จะเสร็จ...แล้วว"

หวานรู้สึกถึงความเสียวซ่านที่ผัวรักมอบให้ในค่ำคืนที่ปลอดจากลูก จนเธอไม่ต้องระแวงว่าลูกวัยสาวของเธอจะได้รับรุ้ได้
ยินเสียง จึงปลดปล่อยความรู้สึกแรงปรารถนาออกมาจนเต็มที่ ไม่ว่าชัดชายจะเปลี่ยนท่าเย็ดไปอีกกี่ครั้งกี่ท่า เธอก็สู้ไม่ถอย
จนท้ายสุดก็กลับมาที่ท่าพื้นฐานเธอนอนหงายถ่างขารอให้สามีมาคล่อมทับ แล้วสอดควยเข้าไปเย็ด เธอก็ใช้ขาเรียวสอง
ข้างโอบเกี่ยวกระชับเอวสามีแน่น กระเด้งสะโพกโยกรับแรงกระเด้า....ที่ทั้งถี่ทั้งหนักแน่น จนเรือนไหว แล้วเสร้จสมกันไป
พร้อมๆกับรอยยิ้มที่มุมปากด้วยความสุข

อีกด้านหนึ่งของกรุงเทพ หลังจากที่ฉัตรชัยขับรถกลับถึงบ้าน ก็เห็นมารดานั่งรอฟังข่าวของน้องฝาแฝดที่ห้องรับแขก

"เป็นไงบ้างพ่อฉัตร...ได้ข่าวน้องมั๊ยลูก..." เพียงฉัตรชัยก้าวขาเข้าบ้าน มารดาก้รีบถามขึ้นอย่างร้อนใจ

"ก็พอได้ครับ...." ฉัตรชัยพูดพร้อมกับทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้ามกับมารดา มือค่อยๆปลดกระดุมเสื้อแขนยาวพับช้าๆ

"ว่าไงล่ะลูก...เล่าให้แม่ฟังไวๆ..." คุณแจ่มจรัสรีบซักถามอย่างร้อนใจ

"คือว่า...." ฉัตรชัยเล่าช้าๆ

"ผมมั่นใจว่าที่เด็กปั้มทักผมผิดคราวนั้นน่ะ คือชัดชายน้องฝาแฝดแน่ๆครับ แต่ตอนนี้ยังไม่เจอตัวกัน...แต่ว่าอีกสองสามวัน
ผมจะกลับไปอีกครั้ง เพราะมีคนรู้ว่าน้องอยู่ที่ไหน...แม่ใจเย็นๆก่อนนะครับ...ผมขอตัวไปพักก่อน ขับรถมาเหนื่อยๆครับ..."

หลังสนทนากับมารดาเรื่องน้องชายฝาแฝดจบ ฉัตรชัยก็เดินเลี่ยงขึ้นชั้นบน เปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมอาบน้ำ แต่ก่อนจะเข้าไป
อาบน้ำฉัตรชัยก็ยกโทรศัพท์โทรหาคุณหมิวคู่หมั้นสาวของตนเองก่อน



ฉัตรชัยหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดหมายเลขของคุณหมิว ขณะรอสัญญาณจากปลายสายอีกฝ่ายหนึ่งก็ถอดเสื้อผ้าออกช้าๆ
จนเหลือเพียงกางในสีขาวเพียงตัวเดียว เสียงคุณหมิวคุ่หมั้นสาวก็ดังขึ้น

"สวัสดีค่ะคุณพี่...." ในน้ำเสียงเจือปนกับเสียงหอบหายใจเล็กๆ

"สวัสดีจ๊ะที่รัก.....ทำอะไรอยู่หรือครับ ดูเหมือนพี่ได้ยินเสียงน้องหายใจแรงๆหอบๆ..." ฉัตรชัยถามไปด้วยความเป็นห่วง...

"ไม่มีอะไรหรอกค่ะ...พอดีหมิวกำลังจะไปอาบน้ำ แล้วได้ยินเสียงโทรศัพท์ เลยรีบวิ่งออกมาน่ะค่ะ..." เสียงหวานๆไพเราะของ
คุ่หมั้นทำให้ฉัตรชัยรู้สึกสนุกที่จะเย้าแหย่เธอเล่น โดยเฉพาะเธอบอกว่ากำลังจะอาบน้ำเช่นเดียวกับตัวเขาพอดี

"อ่ะ...จริงหรอครับ..นี่พี่ก็กำลังถอดเสื้อผ้าจะไปอาบน้ำเหมือนกัน ...เหมือนเรานัดกันไว้เลย..." ฉัตรชัยพยายามเน้นคำพูดที่
ว่ากำลังถอดเสื้อผ้า เหมือนอยากให้ฝ่ายตรงข้ามจินตนาการคำพูดของเขา

"อื้ออออ.....คุณพี่ก็..ทำไมต้องเน้นคำพูดตรงนั้นด้วยคะ..." เหมือนจะได้ผลเมื่อคุณหมิวตอบกลับมาอย่างอายๆ

"ขอโทษจ๊ะ...ก็พี่พุดไปตามความจริงว่าพี่กำลังเปลื้องเสื้อผ้าออกจนเปลือยแล้วกำลังเดินเข้าไปในห้องน้ำอยู่พอดี...." ฉัตรชัย
กรอกเสียงลงไปแล้วทำตามคำพูดทุกอย่าง จนเกิดเสียงเปิดปิดประตูดังแทรกไปยังฝ่ายตรงข้าม

"พอค่ะๆ...แหม..คุณพี่ก็..พูดจนน้องมองเห็นภาพเลย...." คุณหมิวพูดกรั้วเสียงหัวเราะขำๆ เจือปนกับเสียงระคนความตื่นเต้น

"แล้วคุณพี่เอ่อ..มีธุระอะไรด่วนมั๊ยคะ...น้องจะได้อาบน้ำ.." เสียงคุณหมิวที่ฉัตรชัยได้ยินนั้นทั้งหวานทั้งกระเส่าตื่นเต้นจนรู้สึกได้

"ไม่มีธุระอะไรด่วนหรอครับ....พี่แค่คิดถึงน้อง...โดยเฉพาะคิดถึงวันที่เราไปดูเรือนหอด้วยกัน...." ฉัตรชัยเน้นคำพูดด้วยต้องการ
ให้คู่หมั้นสาวนึกภาพบนเตียงในเรือนหอ พร้อมทำเสียงกระเส่าหายใจแรงๆ

"อุ๊ยยย...คุณพี่...หมิวไม่อยากนึกถึงหรอกค่ะ...นึกถึงทีไรใจสั่นทุกที..." คำพูดนั้นแสดงว่าคุณหมิวกำลังนึกถึงอยู่จริงๆ เพราะสุ่ม
เสียงที่เธอตอบกลับมามันบ่งบอกถึงความรุ้สึกของเธอในขณะนั้นให้ฉัตรชัยรับรู้

"น้องหมิวครับ...."

"ขา..."
คุณหมิวตอบกลับมาด้วยเสียงหวานพร้อมขยับขาก้าวเดินเข้าไปในห้องน้ำช้าๆ ปลดผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนใหญ่แขวนไว้ที่ราว
แสตนเลส แล้วยืนจ้องมองรูปร่างของตนเองผ่านกระจกเงาบานใหญ่

"ตอนนี้พี่ยังได้กลิ่นแก้มนวลของน้องอยู่เลยนะครับ..."ฉัตรชัยยั่วเย้าต่อ พร้อมรอยยิ้มในขณะที่เป้ากางเกงในเริ่มโป่งพองขึ้น
มาทีละน้อยๆ

"พอเถอะค่ะคุณพี่....หยุดเย้าแหย่หมิวเถอะค่ะ...เพราะตอนนี้หมิวรุ้สึกยังไงไม่รู้..." เสียงตอบจากคุณหมิวกระเส่าเบาหวิว

"น้องจะวางสายแล้วนะคะ..."

"อย่าเพิ่งสิจ๊ะ....พี่คิดถึงน้องหมิวม๊ากมาก...มากจนตอนนี้ตัวพี่ลุมร้อนไปหมดแล้ว...อยากให้น้องมีตาทิพย์จัง จะได้รู้ว่าตัวพี่
ลุ่มร้อนขนาดไหน..."ฉัตรชัยทำเสียงกระซิบกระซาบแผ่วๆเบาๆ ด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกให้ฟังตรงข้ามรับรุ้ถึงความรุ้สึก

"ไม่เอาหรอกค่ะ...ขืนมีตาทิพย์ ก็ได้เห็นคุณพี่โป๊น่ะสิคะ.."เสียงกระซิบแผ่วเหมือนกำลังสนุกที่ได้รับรู้ว่าคู่หมั้นหนุ่มของเธอ มี
ความรุ้สึกอย่างใดอยู่

"อ่ะ...ไหนบอกว่าไม่มีตาทิพย์.... ไงคะ..แล้วรู้ได้ไงว่าพี่ลุ่มร้อนจนตัวแข็ง..."พูดไปก็ก้มมองเป้ากางเกงในของตัวเองไป สิ่งที่
อยู่ข้างในก็ตุงโป่งออกมาเป็นลำ

"อุ๊ย..คุณพี่...ทะลึ่งจัง....หมิวยังไม่ได้พูดสักคำว่าตัวคุณพี่แข็ง...."

"ยังไม่ได้พูดหรอจ๊ะ...งั้นพี่บอกเองก็ได้ว่าตอนนี้ตัวพี่ลุ่มร้อนจนแข็งไปหมดเลย..." ฉัตรชัยยั่วเย้าต่อ เน้นคำว่าแข็งด้วยเสียง
กระเส่าชวนให้เกิดจินตนาการ

"ค่า...รับทราบเจ้าค่ะ...ว่าคุณพี่ตัวแข็ง...พอแค่นี้นะคะ...อย่าพูดอีกเลย..ใจหมิวหวิวๆๆจนจะเป็นลมแล้ว.." 

 คุณหมิวสารภาพมาเสียงอ่อยๆ พยายามหลับตาไม่อยากให้เกิดภาพในจินตนาการ รู้สึกว่าตนเองกำลังเสียวสยิวขึ้นมาตรง
ส่วนลี้ลับโหนกนูนที่เธอกำลังจ้องมองอยู่ด้วยความภาคภูมิใจ

"อย่าเพิ่งเป็นลมสิคะ...ถ้าน้องหมิวเป็นลมไปตอนนี้..ใครจะช่วยผายปอดให้ล่ะคะ...แล้วถ้ามีใครขึ้นมาเจอ พี่ฉัตรหวงนะคะ
ว่าคนนั้นจะมาเจอน้องหมิวของพี่กำลังโป๊..."

ฉัตรชัยพูดไป เหมือนดั่งว่าตนเองมีตาทิพย์เสียจริงๆ เพราะว่าคู่หมั้นสาวนั้นกำลังโป๊จนร่างขาวผ่องเปลือยไร้อาภรณ์ปกปิด
แม้สักชิ้นเดียว

"เยิ้ว...พี่อ่ะ....รู้ได้ไงคะว่าหมิวกำลังโป๊...."

เสียงหญิงสาวพูดอายๆหัวเราะขำๆ กับคำพูดของคุ่หมั้นหนุ่ม เหมือนมีตาทิพย์ว่าขณะนั้นเธอกำลังโป๊จริงๆ ตลอดร่างสุงระหง
ของเธอหาได้มีอาภรณ์ปกปิดแม้สักเพียงชิ้นเดียว

"เอ้า...น้องหมิวไม่รู้หรือคะว่าพี่ฉัตรมีตาทิพย์จริงๆ...ตอนนี้พี่กำลังจ้องมองเรือนร่างสวยงามของน้องที่เปลือยขาวผ่องไปทั้ง
ตัว...พี่เห็น...ทรวงอกของน้องขาวผ่องอวบเต่งเต้างอนสวย พี่มองต่ำลงมาเห็นเนินหน้าท้องของน้องแบนราบเอวเล็กคอด
กิ่ว รับกับสะโพกกลมกลึง ก้นน้องหมิวอวบงอนแล้ว..แล้วพี่ยังมองเห็นส่วนนั้นของน้องอวบขาวนวล พี่เห็นมือของน้องกำลัง
ยกไปปิดต้องของสงวนบดบังสายตาของพี่..."

ฉัตรชัยพร่ำเพ้อเคลิบเคลิ้มไปตามความรู้สึก แต่ข้างฝ่ายคุณหมิวคุ่หมั้นสาวกลับหน้าแดงระรื่อเขินอายจนต้องเอามือยกไป
ปิดของสงวนตามที่คู่หมั้นบอกจริงๆ

"คุณพี่ขา...หยุดพูดเถอะค่ะ...คำพูดของคุณพี่..ทำ..ทำให้หมิวใจสั่นไปหมดแล้ว..." เสียงหวานสั่นกระเส่าบ่งบอกถึงความ
รู้สึกเสียวสยิวกับคำพูดเล้าโลมของคนรัก

"พี่ฉัตรขอได้มั๊ยครับ..." เสียงฉัตรชัยสั่นกระเส่า รู้สึกอึดอัดเบื่องล่างที่ดุนดันกางเกงในจนโป่งออกมาเป็นลำยาว

[post]"ขออะไรคะ..." เสียงตอบโต้ของคู่หมั้นสาวก็สั่นกระเส่าไม่แพ้กัน

"พี่เอามือไปจับมือน้องหมิวออกจากตรงนั้นนะคะ...พี่ขอมองของสงวนให้เต็มตา ให้ชื่นใจสักครั้ง...."

ฉัตรชัยพูดพร้อมกับดึงกางเกงในสีขาวของตนเองรูดออกมาตามลำขาแกร่ง ด้านฝ่ายคู่หมั้นสาวก็ค่อยเอามือ ที่เกาะกุมปิด
เนินสาวออกช้าๆ เหมือนทำตามคำขอ

"โอ๊วววว...ช่างสวยเหลือเกิน...ส่วนนั้นของที่รักสวยจนใจพี่ฉัตรเต้นโครมๆแล้วรู้มั๊ย"

เสียงฉัตรชัยเริ่มกระเส่าหนักขึ้น เมื่อฝ่ามือยาวใหญ่ของเขารูดท่อนลำยาวช้าๆ ฝ่ายคุณหมิวก็เอียงอายหน้าแดง เมื่อสายตา
ที่มองผ่านกระจก แลเห็นเนินสาวของตนเองชัดๆเต็มตา ว่ามันโหนกเนินขึ้นมาเป็นเนินหลังเต่าขนาดใหญ่เกือบเท่าฝ่ามือ
เล็กๆของตนเองทีเดียว

"พี่คะ....หยุดได้มั๊ย...คะ..พี่ทำให้ใจน้องสั่นหวิว จนน้องกลัว.."

"กลัวเรื่องอะไรคะที่รัก...."

"กลัวว่า...พี่ชายจะนึกว่าน้องเป็นคนไม่ดี"

เสียงเบาหวิวของมล.ลาวัลย์ ที่ถูกเลี้ยงเติบโตมาจากวงผู้ดีสารภาพเอียงอาย มือที่จับกุมปกปิดเนินสาวเน้นน้ำหนักนิ้วไป
ด้วยความรุ้สึกเคลิบเคลิ้มไม่รู้ตัว แม้เพียงรสสัมผัสเล็กๆจากปลายนิ้วตนเอง ก็ทำให้หญิงสาวขนลุกเกลียว โดยเฉพาะตรง
หัวนมสีแดงเม็ดเล็กๆ ถึงกับตั้งแข็งอย่างเห็นได้ชัด

"โถ.....อย่าคิดแบบนั้นเลยที่รัก...ในสายตาของพี่ฉัตร ไม่เคยแม้สักครั้งที่จะมองที่รักเช่นนั้น..น้องหมิวก็ทราบดีว่าพี่รักน้อง
มากแค่ไหนปานใด" ฉัตรชัยกระซิบเสียงกระเส่าปลอบโยนคนรักไม่ให้คิดมากกังวลในเรื่องไม่เป็นเรื่อง

"พี่ขา....ที่เรากำลังพูดกันนี้..เขาเรียกว่าsex phone..ใช่มั๊ยคะ..เอ่อ...มันไม่ดี ไม่ถูกต้อง ไม่ใช่หรือคะ" คู่หมั้นสาวถามมา
เพราะอยากรู้ และกริ่งเกรงว่าสิ่งที่กำลังทำกันอยู่นั้นไม่สมควรทำสำหรับความเป็นกุลสตรีของหล่อน

"คงจะใช่แหละครับ....แต่เราสองคนรักกัน...พูดกันแบนี้ พี่ฉัตรไม่คิดว่าจะเสียหายจนน้องต้องกังวลเลยนะคะ..."

ฉัตรชัยพูดปลุกปลอบใจสาวคนรักไม่ให้คิดมากังวล เมื่อเห็นคนรักเงียบเสียงตอบโต้ มีเพียงเสียงลมหายใจแผ่วแว่วเข้ามา
ให้ได้ยิน ฉัตรชัยก็พอรู้ว่าบัดนี้จิตใจของสาวคนรักกำลังหวั่นไหวกับความรู้สึกเสียวสยิวจากคำพูดของตนเอง มือใหญ่ที่รูด
เล่นลำยาวจึงเพิ่มความเร็วขึ้นอีกนิด จนเสียวซ่านเผลอตัวครางเสียวด้วยความสุขไปให้ฝ่ายตรงข้ามได้ยิน

"พี่ขา...หมิวได้ยินเสียงพี่คราง...เอ่อ...พี่ทำอะไรอยุ่คะ..."

แม้ไม่รู้ว่าคุ่รักหนุ่มทำอะไรอยู่ แต่เสียงครางแผ่วที่ตัวเองได้ยินนั้น ก็ทำให้ใจสาวหวั่นหวิวจนยืนบิดเกร็งหนีบมือที่จุบกุมเนิน
สาวอย่างไม่รู้สึกตัว

"เอ่อ...พี่...พี่จับความแข้งแกร่งของพี่อยู่น่ะครับ..." ได้ยินเสียงสาวคนรักถามมาเช่นนั้น ฉัตรชัยก็พยายามสรรหาคำพูดอ้อมๆ
ที่ไม่ดูเถื่อนดิบ บอกออกไป

"น้องหมิวขา....พี่ฉัตรกำลังรูดเล่นกับความแข็งแกร่งอยู่นะคะ...แล้วน้องหมิวรู้สึกอย่างไรคะที่ได้รู้ ได้ยินเสียงพี่ฉัตรคราง
แบบนั้น"

"พี่ขา....หมิวบอกไม่ถูกค่ะ...รู้แต่ว่าเสียงพี่ ทำให้หมิวใจสั่น ทำให้หมิวเอ่อ...หวิวๆตรงนั้น..." 

เสียงคุณหมิวสารภาพอ่อยๆ มือน้อยๆที่จับกุมเนินสาว สอดยื่นเข้าไปซุกใต้หว่างขาทั้งฝามือแล้วยืนหนีบขาแน่น ความเสียว
ซ่านแผ่กระจายลามโลมจนรู้สึกเหมือนตนเองกำลังล่อยลอยอยู่บนปุยเมฆ

"น้องหมิวขา....พี่...พี่...ซี๊ดดดดด..."ฉัตรชัยจงใจเน้นเสียงครางบ่งบอกความรุ้สึกให้คู่หมั้นสาวรับรู้

"ค่ะพี่....อูยยยยหมิวเสียว....เสียวมากเลยค่ะ...อูยยยยย"

คู่หมั้นสาวตอบโต้คำพูดออกมาด้วยจิตใจเคลิบเคลิ้ม ตาหลับปี๋จินตนาการไปถึงเรือนร่างแข้งแกร่งของชายหนุ่ม มือที่ซุกอยุ่
ใต้หว่างขาเริ่มขยับช้าๆ เน้นๆไปที่เนินสาวจนรุ้สึกถึงความแฉะชื้นที่ไหลทะลักออกมา

"น้อหมิวขา..พี่..พี่ฉัตรรัก...อยากทำรักกับน้องใจจะขาด..." พูดพร้อมกับสาวมือหนักๆ แรงๆ จนเกิดเสียงดังตั๊บๆๆถี่ๆ

"โอ๊ยยยย...พี่คะ...ช่วย...ช่วยน้องด้วย...อูยยยยยเสียว...ใจน้องจะขาดแล้ว..พี่ช่วยน้องด้วย"

ทั้งสองหนุ่มสาวต่างปล่อยอารมณ์ความรู้สึกออกมากันอย่างเต็มที่ ต่างก็ครางเสียวซี๊ดๆๆอูยๆๆออกมากันอย่างไม่เคอะเขิน
เนื่องจากความรู้สึกปรงปรารถนาที่โหมกระพือจนหมดมาดของกุลสตรีและสุภาพบุรุษ จนที่สุดของที่สุดต่างก็ได้รับความ
สุขสมกันจนล้นออกมาเป็นหยาดน้ำกระจัดกระจายเต้มห้องน้ำของทั้งคู่

ep.9

หลังจากคืนที่มล.ลาวัลย์ได้ค้นพบความสุขจากการกระทำของคู่หมั้นหนุ่ม มันก็เหมือนเขาได้ใช้ฆ้อนทำลายกำแพงความ
รู้สึกของคุณหมิวจนพังทะลาย เซ็กส์หาได้น่ากลัวหรือเป็นเรื่องบัดสีตามที่พ่อแม่ ปู่ย่าตายยายของเธอเคยสอนเคยสั่งตั้ง
แต่เธอยังเป็นเด็กน้อย จนมันฝังรากลึกเข้าไปในสมอง จนเธอคิดว่ามันคงลามก คงน่ากลัว จนไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียวที่จะ
ใช้มือจับต้องของสงวน นอกเสียจากจับเพื่อล้างทำความสอาดเท่านั้น เธอค้นพบว่าถ้าจับมันเล่นไปนานๆ มันก็สร้างความ
เสียวซ่าน จนเธอพบความสุขได้อย่างประหลาด เฉกเช่นในคืนวันนั้น

หลังจากคืนนั้น ต่อมาอีกสองสามคืนติดๆกันที่คุ่หมั้นหนุ่มมารับเธอกลับบ้าน ก่อนจะถึงหน้าบ้านของคุณหมิวจะต้องผ่านที่ดิน
รกร้างว่างเปล่า มีไม้น้อยใหญ่ขึ้นรกครึ้ม ฉัตรชัยมักจอดรถชิดขอบทาง แล้วพร่ำสอนให้เธอรุ้จักความเสียวซ่าน จนกว่าคุณ
หมิวจะกลับเข้าบ้านก็เมื่อเธอรู้สึกว่าตรงส่วนนั้นของเธอฉ่ำชื้นแฉะได้ด้วยเมือกแห่งความเสียวซ่าน เช่นนี้ทุกครั้งไป
...........................................................
พอถึงวันศุกร์ที่13 เป็นวันที่ฉัตรชัยตั้งใจจะไปค้นหาคุ่แฝดของตนอีกครั้ง จึงแต่งตัวลงมาจากห้องแต่เช้า เขาพบว่ามารดา
นั่งรออยุ่ที่ห้องรับแขก คุณแจ่มจรัสรีบเงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของฝาแฝดคนโตเดินลงบรรไดมา

"วันนี้ลูกฉัตรจะออกไปตามหาน้องใช่มั๊ยจ๊ะ...." หญิงชรารีบร้องสอบถาม ดวงตาเต็มไปด้วยความหวัง หวังว่าเย็นนี้ตนน่าจะ
ได้รับข่าวดีจากบุตรชายคนโต

"ครับแม่...เลยกะว่าจะไปแต่เช้า..." ฉัตรชัยตอบยิ้มๆ เหมือนให้กำลังใจกับมารดา เขามองจากดวงตาของผู้เป็นแม่ก็รู้ว่า แม่
ฝากความหวังทั้งหมดอยุ่ที่ตัวเขา

"ทานอาหารเช้าก่อนมั๊ยลูก...แม่ทำข้าวต้มหมูทรงเครื่องไว้ให้แล้วจ๊ะ...."

"ไม่ดีกว่าครับแม่..ผมขอกาแฟแก้วเดียวพอ..." มารดารีบร้องบอกให้สาวรับใช้วัยกลางคนไปจัดการให้กับบุตรชายทันที

"เอ่อแม่ครับ...ผมมีเรื่องสงสัยบางอย่างน่ะครับ...แม่พอจะบอกได้มั๊ยครับว่า ..ทำไมคนนั้นเขาถึงได้เอาน้องไปล่ะครับ.."

ฉัตรชัยรอให้สาวรับใช้กลับเข้าไปที่ครัวแล้วจึงสอบถามมารดา ขณะที่กำลังจิบกาแฟช้าๆ แต่มารดาพอได้ยินคำถามกลับ
อึกอักๆ เหมือนไม่อยากตอบ

"เอ่อ..คือ...ว่า...แม่ไม่อยากพูดเลยลูก...เพราะถึงเขาจะไม่ใช่คนดี....แต่เขาก็เป็นผู้ให้กำเนิดนะลูก...เพราะถ้าแม่พูดไปแล้ว
ลูกของแม่คงเกลียดเขามากกว่านี้อย่างแน่นอน..."

"บอกเถอะครับแม่....ถึงอย่างไรผมก็ไม่นับคนที่ทำร้าย..."

ฉัตรชัยเผลอหลุดปากออกมา แล้วรีบหยุดคำพูดไว้แค่นั้น เมือมองเห็นใบหน้าของมารดาซีดเผือด เธอคงอยากลืมเรื่องที่เคย
โดนอดีตสามีทำร้ายร่างกาย แต่พอโดนลูกชายพูด เหมือนไปสะกิดโดนแผลที่ตกสะเก็ดไปแล้วให้มีเลือดไหลซิปๆออกมา
อีกครั้ง

"ขอโทษครับแม่...ผมไม่นับเขาคนนั้นเป็นพ่ออยู่แล้ว...." ฉัตรชัยพูดเบาๆ เสียงเข้มเครียด

"จ๊ะลูก....แม่เล่าให้ฟังก็ได้ว่าสาเหตุที่เขาเอาน้องไปด้วยนั้น ไม่ใช่เพราะเขารักน้องมากกว่าฉัตรหรืออย่างไรหรอก เขาตั้งใจ
คว้าเอาตัวลูกไปจะเป็นคนไหนเขาก็คงไม่ได้ใส่ใจ เป็นเพราะว่าเขาเอาไปเพื่อต้องการเอามาเป็นข้อต่อรองเพื่อจะรีดทรัพย์
จากคุณตาน่ะลูก....เพราะหลังจากคืนนั้นอีกสักเดือนนึง เขาก็โทรศัพท์มาหาแม่ บอกให้คุณตาเอาเงินไปแลกกับน้องห้า
แสนบาท แล้วจึงจะคืนน้องให้....ลูกคงแปลกใจว่าทำไมคุณตาถึงไม่แจ้งตำรวจใช่มั๊ยจ๊ะ..." มารดาของฉัตรชัยหยุดเล่าพร้อม
ใช้ปลายผ้าเช็ดน้ำซับน้ำตาที่คลออยู่ในดวงตาสักครู่

"แล้วคุณตาให้เงินไปมั๊ยครับ"

"มันกระทันหันน่ะลูก..คุณตาหาเงินได้สักสามแสนมั้ง ก็เอาไปให้ตามที่นัด แต่พอเค้าเห้นว่าไม่ได้ตามที่เรียกร้อง เค้าก็เลย
เอาเงินไป แต่ไม่คืนน้อง" มารดาของฉัตรชัยเล่ามาถึงตรงนี้ก็สะอื้นไห้ น้ำตาไหลพราก

"ลูกก็รู้นี่จ๊ะว่าคุณตารักษาหน้า รักษาชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลแค่ไหน การที่มีลูกสาวท้องคาบ้านทั้งที่ยังเรียนไม่จบ ก็ทำให้
คุณตาเสียใจ เสียหน้าไปมากเท่าใดแล้ว ครั้นจะไปแจ้งตำรวจจับ คงได้มีการสืบสาวเรื่องราว ว่าเขาคนนั้นเป็นพ่อของลูก
แฝด เขาคนนั้นคืออดีตคนขับรถในบ้าน ลูกลองคิดดูสิจ๊ะว่า...คุณตาจะแบกหน้าอยู่สู้หน้าใครๆได้อีก..."

พอมารดาเล่าเรื่องจบ ก้ทำให้ความสงสัยทั้งหมดที่ฉัตรชัยครุ่นคิดมาตลอด ปราศจากหายไปทันที เขารู้อยู่ภายในใจคน
เดียวว่าเขาควรจะจัดการเรื่องของน้องฝาแฝดอย่างใด หลังจากดื่มกาแฟไปได้เพียงครึ่งแก้ว ฉัตรชัยก็ลุกขึ้นลาแม่แล้ว
ขับรถตรงไปยังปั้มน้ำมันแห่งนั้นทันที

ใช้เวลาไปเพียงชั่วโมงเศษ รถเบ็นซ์คันหรูของฉัตรชัยก็ถึงปั้มน้ำมันแห่งนั้น เขาหยุดลงตรงหัวจ่ายน้ำมัน สองสาวพนักงาน
ของปั้มก็รีบวิ่งเข้ามาหาเพราะจำได้ว่าหนุ่มใหญ่ผุ้นี้คือใคร ฉัตรชัยเตรียมหยิบกระเป๋าสตางค์มาถือไว้ในมือ พอกดปุ่มกระจก
รถเลื่อนลงจนสุด สองสาวก็ชิงกันทักทาย

"สวัสดีค่ะเสี่ย...วันนี้ป้าสมแกมาขายล็อตตอรี่แล้วค่ะ..."

รีบชิงกันบอก เพราะรุ้ว่าเธออาจได้ลาภอีกครั้งเหมือนกับคราวที่แล้วที่เสี่ยหนุ่มผู้นี้สอบถามเรื่องราวของเฮียชัด ก่อนกลับก็
แจกเงินให้เธอกันคนละห้าร้อบบาท

"ขอบใจมากจ๊ะ....เออ...ผมมีคำถามอยู่คำถามหนึ่งนะ...ใครตอบถูกจะได้รางวัล..." ฉัตรชัยค้างคำพูดไว้แล้วหยิบธนบัตรฉบับ
ละพันบาทขึ้นมา

"ผมอยากจะรุ้ว่า...นู๋สองคนเคยเห็นผมมาที่นี่บ้างมั๊ย แล้วมาสอบถามเรื่องใครรึเปล่า..."

สองสาวชะงักกับถามที่แสนแปลกพิสดาร ก็เห็นๆกันอยุ่ว่าเสี่ยหนุ่มคนนี้มาถามหาใคร...ขณะที่กำลังอำอึ่งไม่รุ้ว่าจะตอบ
อย่างไร เด็กสาวชื่อสาที่ดุจะมีไหวพริบมากกว่ากิ๊กของน้องชาย รีบตอบขึ้นมาว่า

"ไม่ค่ะ..นู่ไม่เคยเห็นหน้าคุณมาก่อนเลยสักครั้ง...เมื่อไม่เห็นก็เลยไม่รู้เรื่องอะไรทั้งหมด..."

เด็กสาตอบพร้อมกับทำหน้าซื่อใส จนฉัตรชัยยิ้มแล้วส่งธนบัตรใบละพันไปยัดใส่มือของเธอ อีกสาวหนึ่งจึงรีบตอบตาม
เพื่อน แล้วก็ได้รับลาภเช่นเดียวกัน

"ดีมากนู๋...จำคำตอบนี้ไว้นะ...ถ้าเรื่องนี้มีคนรู้มากกว่าอีกหนึ่งคน ก็คงมาจากปากของนู๋สองคน..."

ท้ายเสียงฉัตรชัยทำเสียงเข้มหน้าเข้ม เหมือนเป็นการข่มขู่ สองสาวรีบพยักหน้าพร้อมเพรียงกันแล้วพับเงินใส่กระเป๋าเดิน
เลี่ยงออกไปทันที เหตุที่ทำให้ฉัตรชัยจำเป็นต้องทำหน้าทำเสียงข่มขู่สองสาวก็เพราะไม่อยากให้มีใครไปพูดจนเรื่องนี้
กระจายออกไป

ฉัตรชัยเคลื่อนรถไปจอดใกล้ๆแผงขายล็อตตอรี่ของป้าสม พอเปิดประตุลงจากรถ ป้าสมคนขายล็อตตอรี่ก็เงยหน้าขึ้นมอง
มา เธอตาค้างเมื่อเห็นว่าคุณชัดของเธอขับรถเบ้นซ์คนโตมาทีเดียว

"อูยยยยยคุณชัด...ไปถูกหวยรวยเบอร์มาจากไหนคะนี่...มิน่าล่ะวันนั้นถึงไม่อุดหนุนหวยของป้า  เพราะรวยแล้วนี่เอง"

เหตุที่ป้าสมตกใจ เพราะครั้งนั้นเธอเห็นฉัตรชัยเดินมาจนใกล้ตัวเธอแล้วจึงไม่รุ้ว่าชายผู้ที่เธอคิดว่าเป็นนายชัดนั้นขับรถ
เบ็นซ์คันหรูมา

"ป้าครับ...ผมไม่ใช่นายชัดหรอกครับ...ผมชื่อฉัตรชัย...เด็กสองคนนั้น บอกกับผมว่าป้ารู้จักนายชัดดีใช่มั๊ยครับ...."

น้ำเสียงของฉัตรชัยดูจริงจัง จนป้าสมชักเอะใจหรือว่าเธอจำคนผิดไปจริงๆ แต่ไม่น่าจะใช่ เพราะหน้าตายังงี้มันคือนายชัด
จริงๆ เธอไม่ได้ตาฝาดไปแน่ แม้จะแก่เฒ่าแล้วก็ตามเถอะ....

"เอ่อ..นี่คุณชัด..เอ๊ยคุณฉัตรพูดจริงๆหรือคะ..ไม่ได้มาล้อป้าเล่นน๊า......."

ป้ามสมมองหน้าฉัตรชัยไล่สายตาไปจนทั่วร่าง แล้วเธอก็เชื่อคำพูดของฉัตรชัย เพราะแม้ว่าจะหน้าตาเหมือนกันก็จริง แต่
ผิวพรรณนั้นต่างกันมาก ชายผุ้ยืนตรงหน้าเธอนี้ดูขาวกว่า มีสง่าราศีกว่านายชัดคนที่เธอรุ้จักจริงๆ

"ผมไม่ได้ล้อเล่นครับป้า....ว่าแต่ป้ารุ้จักบ้านช่องของนายชัดจริงมั๊ยครับ..."

ป้าสมยังไม่ทันตอบคำถาม ก็มีหญิงกลางคนจุงเด็กเล็กๆเข้ามาเลือกล็อตตอรี่ของแกในกระบะ ป้าสมจึงหันไปสนใจขาย
ของๆเธอ แต่เลือกไปเลือกมาหญิงคนนั้นก็ไม่ซื้อจุงมือเด็กเข้าไปในร้านเซเว่นเสียแทน

"เอายังงี้ดีมั๊ยครับป้า...ผมเหมาหวยป้าหมดเลย...เพียงแค่ป้าเล่าเรื่องนายชัดให้ผมทราบ ป้าเสียเวลาเล่า แต่ก็ไม่ได้เสีย
เวลาขายหวย เราได้กันทั้งคู่ดีมั๊ยครับ..."

ฉัตรชัยตัดสินใจเหมาซื้อหวยของป้าสม ด้วยไม่อยากให้มีใครมาขัดจังหวะการสนทนาอีกทั้งเขาอยากพาป้าสมไปถามเรื่อง
ราวของน้องชายในที่รโหฐานมากกว่าจะเป็นที่เปิดเผยหน้าเซเว่นแบบนี้ จับพลัดจับผลูอาจมีคนที่รู้จักน้องชายแฝดของตน
มาพบเห็นก็ได้ ยิ่งรุ้มากคนก้คงยิ่งวุ่นวาย[/post]
ครั้นป้าสมได้ยินว่าหนุ่มใหญ่ผู้ยืนอยู่เบื้องหน้าคนนี้จะเหมาซื้อหวยของแก ป้าสมก็แทบไม่อยากเชื่อหูตนเอง ย้อนถามไปอีก
ครั้งเพื่อความแน่ใจ พอฉัตรชัยพยักหน้ายืนยันพร้อมควักกระเป๋าเงินดึงธนบัตรสีเทาออกมาปึกใหญ่ ป้าสมก็รีบนับจำนวน
หวยที่มีอยู่ทันที

"เอ้อ..ฉลากเลขเดียวมี80คู่ ป้าขายอยุ่คู่ละร้อย...เลขชุด10คุ่ป้าขายชุดละ1200 มี5คู่...รวมเป็นเงิน..เอ่อ..."

ป้าสมหยิบเครื่องคิดเลขมากด ๆ แต่ฉัตรชัยชิงบอกจำนวนเงินขึ้นมาเสียก่อนที่ป้าสมจะคิดเสร้จ แล้วนับเงินส่งให้แกไป
ป้าสมก็ดึงฉลากกินแบ่งของทั้งหมดยื่นส่งให้ ฉัตรชัยรับมาพร้อมกับยัดมันลงในกระเป๋ากางเกงแบบไม่ใส่ใจนัก จากนั้นก็พา
ป้าสมไปนั่งที่ร้านกาแฟ...ที่เป็นเฟรนไชร์ ของปั้มน้ำมันแห่งนั้นทันที

"เอาละครับ...ป้าเล่าเรื่องนายชัดมาให้ผมรุ้ ได้แล้วใช่มั๊ยครับ..." หลังจากสั่งเครื่องดื่มกันมาคนละแก้วแล้วฉัตรชัยรีบถาม
เข้าเรื่องด้วยความอยากรู้....

"แล้วคุณเอ่อ...."

"ผมฉัตรครับ..."

"ค่ะ...คุณฉัตรอยากรู้เรื่องอะไรของนายชัดเล่าค่ะ..ถามป้ามาเลย..."

"เอ่อ....ผมอยากรู้ว่านายชัดคนนี้เป็นลุกเต้าเหล่าใคร บ้านอยู่ที่ไหน แล้วมีอะไรป้ารู้ก็เล่าๆมาทั้งหมดแหละครับ..." ฉัตรชัยก็
ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะซักไซ้เรื่องราวอันใดกับป้าสม

"ป้ากับนายชัดน่ะเคยอยู่หมู่บ้านเดียวกันค่ะ...แต่ตอนนี้ป้ามาอยู่ในตัวอำเภอแล้วนะ...ป้าเห็นนายชัดตั้งแต่ยังเด็กๆเพิ่งคลาน
ได้อยู่เลย...พ่อของนายชัดน่ะ ชื่อเดช...ป้าไม่รู้หรอกว่าเป็นใครมาจากไหน แต่จู่ๆก็หอบลูกชายมาอาศัยอยู่กับกำนันสิน..ได้
สัก10ปีมั้ง แล้วก็หายหน้าไปไหนไม่มีใครรู้ ทิ้งนายชัดไว้กับกำนันสิน แกก็ไม่มีลูก เลยรับนายชัดเป็นลูกบุญธรรม..."
ป้าสมหยุดเล่าเหมือนกำลังนึกเรื่องราวแต่หนหลัง

"แล้วนายชัดนี่เป็นคนยังไงครับป้า..."

"โอ๊ยยยยยยจุ๊ๆๆๆ...เอาเรื่องเชียวละคุณ..." ป้าสมลดเสียงเบาจนแทบจะเป็นกระซิบกระซาบ

"ยิ่งเป็นลูกของกำนันด้วยละ พ่อชัดนี่ใหญ่คับหมู่บ้านเลยนะพ่อคุณ....เกเร นักเลง เจ้าชู้ ขนาดเมียแม่หวานที่อยู่กันทุกวันนี้
ยังพาพรรคพวกไปดักฉุดมาจากเวทีประกวดนางสงกราต์เลยพ่อคุ๊ณ....." ฉัตรชัยได้ยินชื่อเสียงทางด้านไม่ดีของน้องชาย
ฝาแฝดถึงกลับกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอดังเอื๊อก...



"แล้วมีอะไรอีกมั๊ยครับป้า...เอ่อ..อย่างเช่นนายชัดเคย...มีคดีอะไรต้องขึ้นโรงขึ้นศาลมั๊ยครับ..." ฉัตรชัยสอบถามเพราะอยาก
เก็บข้อมูงของน้องชายฝาแฝดให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

"เอ...เท่าที่ป้ารู้นะ...ป้าว่าไม่เคยมีนะคะ...ขนาดตอนที่ฉุดนางงามสงกรานต์มาเป็นเมีย...เอ่อ..ยังไม่โดนตำรวจจับเลย เพราะ
พ่อกำนันเค้าช่วยไว้ สมยอมความกะแม่ของแม่หวานเค้า...แล้วจับแต่งงานกัน ป้ายังไปร่วมงานของเค้าเลย...ส่วนเรื่องนักเลง
เกเร...ก็มีบ้างล่ะค่ะ...แต่คุณชัดไม่ใช่ประเภทตีหัวหมาด่าแม่เจ็กน่ะคะ...แต่สิบปีหลังจากที่ป้าย้ายออกมาอยู่ในอำภอ...ป้าก็
ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรจากนั้นมาค่ะ...." ป้าสมเล่าจบก็จ้องมองหน้าฉัตรชัยเขม็ง

"คุณคะ...ป้าถามอะไรสักอย่างได้มั๊ยคะ...."

"ผมว่าอย่าถามอะไรเลยดีกว่าครับป้า...ป้ารู้เรื่องน้อยที่สุดผมว่ามันจะดีกับป้าเอง...ป้าคิดว่านายชัดของป้าร้ายมั๊ยล่ะครับ.."
ฉัตรชัยปั้นหน้าเคร่ง ทำเสียงเข้มแข็ง

"ก็..ก็ร้ายสิคะ..." เสียงป้าสมตอบอ่อยๆ

"แต่ผมน่ะ...ร้ายกว่านายชัดสิบเท่า....ฉนั้นหวังว่าหลังจากนี้ป้าคงไม่เอาเรื่องที่ผมอยากรู้จักนายชัดไปบอกใคร...ใช่มั๊ยครับ..."

หลังจากฉัตรชัยพูดจบป้าสมก็ทำคอย่น เริ่มรู้สึกว่าชายหนุ่มเบื้องหน้าผู้นี้คงร้ายกาจกว่านายชัดตามคำที่บอกจริงๆ จึงสั่นหัว
ด๊อกแด๊กสาบานว่าจะไม่เอาเรื่องนี้ไปพูดให้ใครฟัง

"ดีมากครับ นับจากนี้ผมหวังว่าป้าคงจะไม่เคยรู้จักผมมาก่อนเลยจริงมั๊ยครับ..."

ฉัตรชัยปั้นหน้าดุ เอาจริง จนป้าสมคิดว่าเงินที่เหมาล็อตตอรี่นี่มันจะคุ้มกับชีวิตแก่ๆของตนเองแค่ไหน ทำได้เพียงพยักหน้า
หงึกๆ ตามคำที่ฉัตรชัยบอก

"คราวนี้คือข้อสุดท้ายที่ป้าจะต้องทำให้ผม...คือการไปพานายชัดมาหาผมที่นี่ โดยไม่ต้องบอกให้ใครรู้...ป้าทำได้มั๊ยครับ แต่
ผมไม่ใช้งานป้าฟรีๆหรอก ผมจะให้ป้าอีก5พันบาท..ว่าไงครับ,.."

ฉัตรชัยพูดจบก็ควักธนบัตรมานับ แต่ยังไม่ทันส่งให้ป้าสม เสียงรถกระบะก็วิ่งโครมครามเข้ามาที่ปัมน้ำมัน เสียงเครื่องยนต์กับ
ควันสีดำที่พ่นออกมาจากท่อไอเสียนั้น บ่งบอกให้รู้เลยว่ารถคันนี้ไม่น่าจะเอาออกมาวิ่งแล้ว เหมาะสำหรับการเอาไปทำที่ปลูก
พืชผักสวนครัวเสียมากกว่า แต่ป้าสมที่มองไปยังรถต้นเสียงนั้นกลับทำท่าทางโล่งอก เพราะแกไม่จำเป็นต้องลำบากทำตาม
ความต้องการสุดท้ายของฉัตรชัย เนื่องด้วยคนที่ขับรถกระบะโกโรโกโสคันนี้ก็คือนายชัด คนที่กำลังพูดถึงนั่นเอง

"คุณคะ...รถนั่นแหละค่ะของนายชัด....งั้นป้าไปบอกแกให้นะคะว่ามีคนมารอพบที่ร้านกาแฟ..." พูดจบก็เตรียมตัวขยับลุกขึ้น
แต่ต้องชะงักเมื่อฉัตรชัยสั่งให้รอ จากนั้นก็ยัดเงินจำนวนห้าพันใส่มือป้าสม แล้วบอกว่า

"ผมถือว่าผมได้พบนายชัดของป้าแล้ว แม้ว่าป้าจะไม่ได้ไปตามหา ผมก็ให้เงินป้าไว้ครับ แต่ป้าคงจำคำพูดที่ผมบอกก่อนหน้า
นี้นะครับว่า...ขอให้เป็นความลับ..."

ป้าสมพยักหน้าหงึกๆ ทั้งดีใจที่ได้เงินใช้ฟรีๆ ไหนจะขายล็อตตอรี่หมดไปแม้จะเป็นเพียงแค่วันที่13ก่อนหวยจะออกตั้งหลาย
วัน แต่ก็รุ้สึกหวั่นใจลึกๆ อยู่เช่นกันว่า แกจะลำบากที่มีส่วนรู้เรื่องราวของหนุ่มสองคนที่มีใบหน้าเหมือนกันบ้างมั๊ย แต่คงยัง
ไม่สามารถคิดถึงเหตุการณ์ล่วงหน้าได้มากนัก เมื่อบุรุษที่นั่งตรงข้าม บุ๊ยปากให้ป้าสมรีบไปดักนายชัดก่อนที่จะเคลื่อนรถออก
จากปั้ม

ฉัตรชัยมองตามหลังป้าสมที่เดินไปหานายชัดน้องชายฝาแฝดของตน เห็นซุบซิบๆกันพร้อมชี้มือมายังตนเอง นายชัดมอง
ตามมือของป้าสมที่ชี้ แม้จะอยุ่ห่างกันพอสมควร แต่สายตาของฝาแฝดที่ประสานกันนั้น ต่างก็ตะลึง เหมือนตนเองกำลังยืน
มองภาพตัวเองผ่านกระจกเงา ภาพหนึ่งยืนข้างรถกระบะเก่าๆ ผิวหน้ากร้านแดด อีกภาพเป็นชายหนุ่มหน้าผ่องใสมีราศี นั่ง
อยู่ที่ร้านกาแฟ ฉัตรชัยมองเห็นายชัดขึ้นรถแล้วขับมาจอดใกล้ๆร้านกาแฟ จึงรีบลุกขึ้นเดินเข้าไปหา ก่อนที่น้องชายฝาแฝด
จะเปิดประตุรถลงมา

"ชัด..นายตามพี่มา.."

สายตาสองคุ่ประสานกันในระยะใกล้ ในสายตาของแฝดผู้น้องนั้นไม่ได้แสดงความรู้สึกตื่นเต้นดีใจ หรือประหลาดใจแต่อย่าง
ใดแม้สักนิดที่จู่ๆ มีชายหน้าตาเหมือนกันมาบอกให้เดินตามมาที่รถ ชัดชัยค่อยๆก้าวลงจากรถกระบะของตนเองปิดประตูดังปัง
แต่ไม่ได้ล็อครถ เดินตามหลังชายหน้าเหมือนไปนั่งฝั่งด้านข้างของคนขับ

"ดูเหมือนกับว่านายไม่ตื่นเต้นดีใจ หรือประหลาดใจที่จู่ๆเราได้มาพบกัน..." ฉัตรชัยถามพร้อมกับสตาร์ทรถ

"ไม่..เรารู้มานานแล้วว่าเรามีพี่ชายฝาแฝด...เราเลยไม่ประหลาดใจ...แต่ก็ดีใจนะที่เราได้พบนาย...ว่าแต่นายจะพาเราไปไหน
กัน..."

คำตอบของน้องชาย ทำให้ฉัตรชัยพอคาดเดาได้ว่าแฝดผู้น้องนั้นรู้ตัวมานานแล้วว่ามีพี่ชายฝาแฝดอีกคน ต่างกับตนเองที่ไม่
เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน จนเมื่อเกือบเดือนที่ผ่านมาจึงรับรู้จากปากของมารดา

"ไม่ได้พาไปไหนหรอก...พี่แค่ขับรถคุยกันกับนาย..."

ฉัตรชัยตอบเรื่อยๆ อยากดีใจที่เจอกับน้องชายฝาแฝด แต่จากสายตาที่มองสบกัน ทำให้ฉัตรชัยกลับรู้สึกเหมือนมีอะไรบาง
อย่างมาขวางกั้นความดีใจนั้นเอาไว้

"แล้วนายรู้ได้ยังไงว่าเราอยู่ที่นี่..." ชัดชายถามพี่ชายฝาแฝด ทำให้ฉัตรชัยต้องเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้น้องชายฟังตั้งแต่เริ่ม
ต้นที่ปั้มแห่งนี้จนจบ

"พะ..พ่อ..เรายังอยู่มั๊ย..." แม้ฉัตรชัยจะไม่อยากเรียกคนๆนั้นว่าพ่อ แต่ก็จำใจเรียก

"ไม่รู้...เราไม่ได้เจอพ่อตั้งเกือบ30ปีแล้ว..." ชัดชายตอบเสียงเรียบไม่แสดงความรุ้สึกอย่างใด

"พ่อ..เป็นคนบอกนายใช่มั๊ยว่า นายมีพี่ชายฝาแฝดอยู่..."

"อืมมมม...แล้วแม่ล่ะ..เป็นไงบ้าง..." คุยกันมาตั้งนาน ชัดชายเพิ่งจะเอ่ยปากถามเรื่องมารดา

"ก็สบายดี...แม่อยากพบนายมาก...นายพอมีเวลาว่างไปหาแม่กับพี่มั๊ย..."ชัดชายนิ่งเงียบไปสักครุ่

"จะให้ไปเมื่อไหร่...."

"วันนี้ก็ได้ถ้านายว่าง...."

"ก็ดี....เราอยากพบแม่เหมือนกัน แต่เราต้องกลับไปบอกเมียก่อน..." น้ำเสียงของชัดชายไม่ได้บ่งบอกเลยว่าจะรุ้สึกแบบนั้น

"ไปรับลูกเมียนายเลยก็ได้นะ...แม่คงอยากเจอทั้งสองคน..." ฉัตรชัยบอกไปตามความรู้สึกของตนเองว่ามารดาคงอยากเจอ
ลูกสะใภ้คนเล็กกับหลาน

"อย่าเลย..ยุ่งยากเปล่าๆ...นายขับรถไปตามทางนี้แหละ...เดี๋ยวเราบอกทางไปบ้านเราให้ เราไปบอกเมียเราก่อนว่าจะไปธุระ.."

ตลอดเวลาที่ผ่านมาครู่ใหญ่แล้วฉัตรชัยก็ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจแม้แต่สักนิดว่าน้องชายฝาแฝดของตนเองนั้นไม่เคยเรียกตน
ว่าพี่แม้แต่คำเดียว จากนั้นฉัตรชัยก็ซักถามถึงครอบครัวความเป็นอยู่ของน้องชายฝาแฝด ทำให้รู้เรื่องว่าตนเองมีหลานสาว
อยู่อีกคน

"หยุดตรงนี้ละ..."

ชัดชายสั่งให้พี่ชายฝาแฝดหยุดรถรอตรงศาลารถประจำทาง แล้วก็เปิดประตูรถลงไปนั่งรถเครื่องรับจ้าง เข้าไปตามถนนราด
ยางเส้นเล็กๆ ผ่านเข้าไปยังหมู่บ้านที่มองเห็นหลังคาเรียงรายลิบๆ จนหายไปกว่าครึ่งชั่วโมง ชัดชายก็กลับมาขึ้นรถ แล้วบอก
ว่าไปกันได้ละ

ฉัตรชัยจึงขับรถกลับบ้านไปหามารดาของตนเองทันที ก่อนจะถึงบ้านฉัตรชัยโทรศัพท์เข้าไปบอกให้มารดาทราบก่อนว่ากำลัง
พานายชัดลูกแฝดอีกคนไปหา แล้วก็ได้ยินเสียงมารดาพูดออกมาด้วยความดีใจทั้งร้องไห้ทั้งหัวเราะสลับกัน เหมือนยังตั้งสติ
ไม่ได้ จนรถผ่านประตุรั้วเข้ามา เขาก็เห็นมามารดามายืนดักรออยู่หน้าบ้านแล้วด้วยความดีใจ

"ลูกชัดของแม่ โฮๆๆๆ..."

คุณนายแจ่มจรัสถลาวิ่งออกมายืนข้างประตุรถ พอนายชัดเปิดลงมา ก็โผเข้ากอดแน่นทั้งร้องไห้ทั้งดีใจ ทั้งกอดทั้งจูบลูกชาย
ฝาแฝดผู้น้อง ที่พลัดพรากจากไปตั้งแต่ยังแบเบาะ ข้างฝ่ายชัดชายนั้นกลับยืนนิ่งปล่อยให้มารดากอดจูบไม่ได้ตอบโต้ ยังคง
ยืนนิ่งทิ้งมือสองข้างแนบลำตัว ไม่ได้กอดผุ้เป็นมารดาตอบโต้ แต่ก็ไม่เบี่ยงกายถอยหนี ฉัตรชัยมองภาพตรงหน้า ไม่ได้เห็น
ถึงความผิดปรกติ เพราะมัวแต่ดีใจแทนผู้เป็นมารดาที่ได้พบน้องชายอีกครั้ง

จากนั้นทั้งสามคนก็พากันเดินเข้าไปยังห้องรับแขก มารดาของฉัตรชัยจูงลูกชายแฝดคนเล็กไปนั่งข้างตนเองตรงข้ามกับ
ลุกชายอีกคน สองแขนของนางกอดรัดร่างบุตรชายคนเล็กไม่ห่างเหมือนกับกลัวว่าเขาจะพลัดพรากจากไปอีกครั้ง แล้วสอบ
ถามเรื่องราวของน้องชาย นายชัดชายก็ตอบคำถามไปทีละคำตามที่มารดาถามมา ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ฉัตรชัยรับรู้มา
ก่อนหน้านี้แล้ว

"ลูก...พาครอบครัวมาอยู่กับแม่นะลุกนะ..." ท้ายสุดคุณนายแจ่มจรัสก้ร้องขอให้บุตรชายแฝดคนเล็กพาลูกและเมียมาอยุ่กับ
นางที่บ้าน ใบหน้าที่ดีใจปลื้มปิติของนางกลับเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินคำตอบจากลูกชาย

"อย่าดีกว่าแม่....ผมเคยชินเสียแล้วกับชีวิตบ้านนอก ไม่อยากมาใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพหรอกครับ"..

นายชัดชายตอบเรียบๆ หน้านิ่งสนิทจนแฝดผู้พี่ไม่กล้าคาดเดาว่าตอบมาด้วยอารมณ์แบบไหน จะน้อยใจผุ้เป็นมารดา หรือว่า
ไม่ชอบจริงๆ

"ทำไมล่ะลูก....บ้านของเราออกใหญ่โต...อีกไม่ถึงเดือนพี่เค้าก็แต่งงานไปอยู่บ้านใหม่แล้ว ลูกมาอยู่กับแม่เถอะนะลูก..." แม้
จะพูดยังไง ลงทุนอ้อนวอนอย่างไร นายชัดชายก็ยืนกรานคำพูดเดิม

"เอางี้นะแม่..ผมขอถามแม่แค่คำเดียวได้มั๊ยว่า....ทำไมแม่เลือกนายฉัตร...วันนั้นทำไมแม่ไม่เลือกผม..."

น้ำเสียงของชัดชายเข้มเครียด ใบหน้าแสดงความรู้สึกปวดร้าวออกมาชัดเจน จนคุณนายแจ่มจรัสงุนงง ไม่เข้าใจว่าลูกชาย
แฝดคนเล็กถามมาแบบนี้ เพราะเข้าใจอะไรผิดอย่างไร

"เปล่านะลูก...แม่ได้เลือกพี่เค้า...ที่จริงแม่ไม่ได้มีโอกาสเลือกลูกคนไหนเลย..พ่อของลูกเค้าคว้าเอาตัวลูกไปเอง.."

คุณนายแจ่มจรัสพยายามอธิบายให้ลูกชายฟัง แต่ชัดชายกลับทำหน้าเหมือนไม่เชื่อในคำพูดนั้น ด้วยยังจำคำของบิดาที่
พร่ำบอกกรอกหูมาตั้งแต่เริ่มจำความได้ว่า ตาของตนเองกีดกันความรักของพ่อกับแม่ แล้วไล่ให้พ่อออกจากบ้านเนื่องจาก
พ่อเป็นคนจน จากนั้นพ่อก็พยายามขอลูกสองคนมาเลี้ยงเอง แต่แม่ไม่ยอมให้ทั้งหมด แม่เลือกแฝดคนเล็กให้พ่อ ตนเอง
เอาแฝดคนโตไว้เลี้ยงเอง.... แม้มารดาจะพยายามอธิบายอย่างไร นายชัดชายก็หาได้เชื่อถือยังคงจำคำพูดกรอกหูของคน
เป็นพ่อไว้ไม่ลืมเลือน

ep.11

[post]"ผมก็ไม่รุ้ว่าพ่อหรือแม่ใครกันแน่ที่พูดปด......" ชัดชายพูดยังไม่ทัจบคำก็ถูกพี่ชายฝาแฝดตำหนิว่าห้ามพูดกับแม่แบบนั้น

"ก็ถ้านายมาเป็นเรา มาลำบากแบบเรา นายจะคิดบ้างมั๊ยว่า ทำไมแม่ถึงเลือกนาย ไม่เลือกเรา...เพราะนายอยู่อย่างสบายมี
เงินมีบ้านหรูหราน่าอยู่ มีการศึกษา มีรถหลายล้านขับ แต่เราล่ะ มีอะไร...เราไม่เคยมีอะไรสักอย่าง ฉนั้นนายอย่ามาพูดดีกว่า"
ชัดชายหันมาพูดเสียงกร้าวใส่แฝดคนพี่..

"ผมกลับนะแม่...."

หลังจากทุ่มเถียงกับฉัตรชัยจบ ก็รีบบอกลาคุณนายแจ่มจรัส พร้อมลุกขึ้นยืน จนนางต้องถลากอดรัดร่างลูกชายแฝดคนเล็ก
ไว้แน่น พร้อมร้องไห้ฟูมฟาย...

"อย่าไปลูก...โฮๆๆ อย่าทิ้งแม่ไปอีกเลยลูกจ๋า....โฮๆๆๆๆๆ  พ่อฉัตรช่วยพูดกับน้องให้แม่ด้วย....โฮๆๆๆๆ.."

แม้คุณนายแจ่มจรัสจะฉุดยึดร่างบุตรชายคนเล็กไว้แน่นปานใด แต่เขากลับลุกขึ้นยืนแล้วย่างก้าวลากร่างบอบบางของ
มารดาไปตามทาง จนฉัตรชัยต้องเข้าไปยึดแขนน้องชายแน่น พร้อมถามกลับไป

"นายต้องการอย่างไร..บอกมาสิ พี่จะทำทุกอย่างให้นาย..ขอเพียงนายอย่าทำแบบนี้กับแม่..." สิ้นคำพูดของฉัตรชัย ทำให้
แฝดผู้น้องชะงักหันหน้ากลับมายิ้มเหี้ยมเกรียมก่อนจะพูดช้าๆ ชัดถ้อยชัดคำว่า.....

"เราไม่ใช่ขอทาน....เก็บข้าวของเงินทองของนายไว้เถอะ...แม่ผมกลับล่ะ...." ชัดชายพูดจบก็พยามแกะมือของมารดาที่
กอดยึดไว้

"ลูกจ๋า.....อย่าไปเลยลูก...แม่เฝ้ารอลูกมากว่า30ปี แล้วลูกจะทิ้งแม่ไปอย่างนี้ได้ยังไง....โฮๆๆๆๆ....ฉัตรช่วยแม่ด้วย..."

ขาดคำร่างคุณนายแจ่มจรัสก็ทรุดฮวบอย่างอ่อนแรง ใบหน้าขาวซีด เหมือนกำลังจะเป็นลม ฉัตรชัยถลาไปประคองร่างมารดา
ขณะที่ชัดชายกับยืนมองนิ่งเฉย เหมือนคนไร้หัวใจ แต่ก็ยังไม่ได้ขยับเดินไปไหน ผ่านไปสักครู่มารดาของฝาแฝดค่อยมีสติ
ถลาไปกอดบุตรชายคนเล็กอีกครั้ง

"อย่าทิ้งแม่ไปเลยนะลุกจ๋า....ข้าวของเงินทองในส่วนของลูก แม่เตรียมไว้แล้ว...พาลูกเมียมาอยุ่กับแม่นี่บ้านหลังนี้นะลูกนะ
แม่จะยกให้หนูทั้งหมดคนเดียวเลย..."

ชัดชายยังคงนิ่งเงียบเหมือนไม่ยินดีที่มารดาออกปากจะยกเรือนหลังใหญ่นี้ให้...ส่วนฉัตรชัยนั้นไม่ได้มีความคิดริษยาน้องชาย
ฝาแฝดแม้แต่น้อย ทั้งที่ตนควรมีส่วนในสมบัติของมารดากึ่งหนึ่ง..

"ชัด...พี่ขอสักครั้งเถอะ...ถ้านายยังคิดว่าพี่กับแม่ยังชดเชยให้นายไม่พอ เราจะยกที่ดินที่แม่ให้พี่กับนายก็ยังได้ หรือถ้ายังไม่
พอใจอีก รถเราไงนายเลือกเอาไปคันหนึ่ง คันไหนก็ได้ เรายกให้...."

ข้อเสนอของฉัตรชัยแฝดผู้พี่ ทำให้แฝดผู้น้องถึงกับอึ้งยืนนิ่ง แต่ทว่าคำตอบของชัดชายกลับทำให้ทั้งมารดาและพี่ชายฝา
แฝดต่างตะลึงกับข้อเสนอพิลึกพิลั่นนั้น อย่างคาดคิดไม่ถึง

"นายเคยลำบากเหมือนเรามั๊ย...ต้องอยู่อย่างคนไร้เกียรติ ไร้ศักดิ์ศรี ถูกตราหน้าว่าเป็นลูกไม่มีพ่อไม่มีแม่ แม้จะได้ชื่อว่าลูก
ของกำนัน แต่ความจริงมันก็แค่ลูกเลี้ยง หรือพูดง่ายๆก็คือเด็กในความอุปถัมย์...เราใช้ชีวิตอย่างลำบากยากไร้มากกว่า30ปี
ในขณะที่นายเสวยสุขอยู่บนกองเงินกองทอง นายมีการศึกษา มีหน้าตาในสังคม ..เพียงเพราะแม่เลือกนายแล้วผลักไสให้
เราไปอยุ่กับพ่อ....ก็ได้ถ้านายอยากชดใช้คืนให้กับเรา...ฟังเราชัดๆนะ...นายกลับเรามาสลับตัวกัน เราลำบากมาสามสิบปี
เราขอให้นายไปลำบากแบบเราสัก30วันก็พอ...น้ำหน้าอย่างนายทำได้มั๊ยล่ะ... ถ้าทำได้เราจึงจะอยู่กับแม่....."

คุณนายแจ่มจรัสมองหน้าบุตรชายฝาแฝดทั้งสองคนสลับไปมา แม้ใจจะอยากให้ลูกแฝดคนพี่ยอมทำตามที่น้องเสนอ แต่
นางก็ไม่สามารถบังคับให้เขาทำเช่นนี้ได้ เพราะเกรงกลัวว่าเรื่องในอนาคตมันจะยุ่งยากสับสน เพราะยังมีผู้คนอีกหลายชีวิต
ที่เกี่ยวพันอยู่ด้วย

"ได้...พี่ยอมทำตามที่นายต้องการ...." คำตอบของฉัตรชัยถึงกับทำให้มารดาตกตะลึงรีบร้องทัดทานว่า

"ทำแบบนี้ไม่ได้นะพ่อฉัตร..." เพราะรุ้ว่าอีกไม่ถึงหนึ่งเดือนลูกชายคนโตของนางก็จะเข้าพิธีวิวาห์กับหนูหมิวแล้ว แต่ชัดชาย
ถึงกลับแอบซ่อนยิ้มดีใจไว้ภายใต้วงหน้าที่ปั้นแต่งให้จริงจัง

"ไม่เป็นไรหรอกครับแม่..." ฉัตรชัยตอบเรียบๆ ใบหน้าไม่แสดงความรุ้สึกหวั่นไหวแต่ประการใด

"แม่เป็นพยานด้วยนะ....ครับ..."

คุณนายแจ่มจรัสนิ่งเงียบ วงหน้าชราของนางเต็มไปด้วยความกังวลสับสน จ้องมองหน้าลูกชายฝาแฝดทั้งสองคนสลับไป
สลับมา ใจหนึ่งก็ดีใจที่จะได้ลูกชายคนเล็กมาอยู่ด้วย แต่อีกใจหนึ่งก็สงสารลุกชายคนโตที่จำต้องยอมทำแบบนี้เพื่อนาง
ทั้งๆที่เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด

"แล้วพี่จะต้องทำอย่างไรบ้างว่ามา...." ฉัตรชัยต้องการแสดงให้น้องเห็นว่าตนเองหาได้กลัวความยากลำบกแม้แต่ประการใด

"ง่ายๆ... นายไปอยู่ที่บ้านเราแต่ไม่ใช่ไปปิคนิคพักร้อนที่บ้านนอกในฐานะของพี่ชาย...นายไปอยู่เป็นตัวของเรา...โดยต้อง
ไม่ให้ลูกเมียเรารู้...ส่วนตัวเราจะอยู่กับแม่...ไม่ต้องกลัว..เราไม่ไปยุ่งกับงานของนายหรอก...เพราะเราทำไม่เป็น แต่นายต้อง
ไปทำงานแบบที่เราทำมาตลอด...ฉนั้น เพื่อให้เรามั่นใจว่านายทำได้ลำบากเป็น นายเอาบัตรเครดิตทั้งหมดของนายมาฝาก
ไว้กับแม่ เราให้นายใช้เฉพาะเงินที่มีเหลือติดกระเป๋าในตอนนี้เท่านั้น...อ่อ...เอาบัตรประชาชนมาสลับกับเราด้วย...เผื่อเมีย
เราเห็นจะสงสัยได้...."

ฉัตรชัยยอมทำตามความต้องการทุกอย่างของน้องชาย แม้การมอบประชาชนจะเกิดความเสี่ยงอย่างสูงในการยืนยันตนเอง
แต่ในขณะนั้นฉัตรชัยกลับไม่ได้นึกคิดถึงระแวงว่าน้องตนเองจะมีแผนการร้ายแต่อย่างใด เพียงเข้าใจว่าน้องคงทำเพื่ออยาก
ให้ตนเองรู้จักความยากลำบากบ้างเท่านั้นเอง

"จะปิดบังลูกเมียได้ยังไงล่ะลูก คนเคยอยู่ร่วมกันมาสิบยี่สิบปี ย่อมมองออกบ้างล่ะว่านั่นไม่ใช่พ่อ ไม่ใช่สามีตนเอง" คุณนาย
แจ่มจรัสแย้งขึ้น พร้อมยื่นมือมารับเอกสารบัตรเครดิตต่างๆของบุตรชายคนโตเก็บไว้

"ไม่รู้ล่ะ นั่นต้องแล้วแต่ความสามารถของลูกชายแม่..."

ชัดชายตอบกลับมารดา แล้วทำหน้ายิ้มเหมือนสะใจที่ได้แกล้งพี่ชายฝาแฝดของตนเอง ส่วนฉัตรชัยนิ่งใช้ความคิด จ้อง
มองน้องชายตลอดร่าง แม้สองคนจะมีหน้าตาเหมือนกัน สุ่มเสียงออกโทนเสียงเดียวกันก็จริง หลอกคนห่างน่ะพอได้ แต่จะ
มาหลอกคนใกล้ชิดทั้งเมียทั้งลูกของน้องชายคงลำบาก

เพราะยังมีข้อสังเกตุอยุ่มากมายตั้งแต่ทรงผมต่างกัน ผิวหน้าและสีผิวตามร่างก็ต่างกัน แม้จะไม่มากนัก แต่ตบตาเมียของ
น้องชายไม่ได้แน่นอน มีวิธีเดียวต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามสี่อาทิตย์หรืออาจจะหนึ่งเดือน ที่จะทำการเปลี่ยนรายละเอียด
ต่างๆที่ผิดแผกต่างกันให้ดูกลมกลืน

ฉัตรชัยจึงบอกน้องชายตนเองไปตามที่คิดไว้ ซึ่งชัดชายก็เห็นตามนั้นด้วย จึงตกลงกันที่จะต้องใช้เวลาเตรียมความพร้อม
เสียก่อน หลังจากนั้นฉัตรชัยก็ขับรถไปส่งน้องที่ปั้มน้ำมันแห่งนั้นอีกครั้ง แล้วนัดเจอกันในวันรุ่งขึ้นอีกที โดยให้น้องชายสร้าง
เรื่องว่าจะไปธุระต่างจังหวัดสักหนึ่งเดือน แล้วฝาแฝดทั้งสองค่อยมาเก็บตัวร่วมกัน เพื่อปรับเปลี่ยนทั้งพฤติกรรม นิสัย ทรงผม
ผิวหน้าและสีผิว โดยพึ่งวิทยาการสมัยใหม่ ฉัตรชัยยอมเสียเงินจำนวนมากเพื่อทำให้ความต้องการของน้องชายสัมฤทธิ์ผล
พร้อมทั้งเรียนรู้ถึงบุคคลรอบข้างที่อาจบังเอิญเข้ามาเกี่ยวข้อง

จนกระทั่งผ่านไปเพียงสามอาทิตย์ ที่ทั้งสองคนเก็บตัวร่วมกันในสถานที่แห่งหนึ่ง ถึงวันที่พร้อมจะใช้ชีวิตสลับตัวกันตามความ
ต้องการของน้องชายแล้ว ฝาแฝดทั้งสองจึงกลับมาหามารดาด้วยเครื่องแต่งกายที่เหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว แต่ทว่าทรงผม
ของทั้งสองคนก็ยังเป็นแบบเดิม รวมทั้งผิวหน้าผิวพรรณก็หาได้เปลี่ยนแปลงไปแม้สักนิด

"แม่ว่าเลิกความคิดแบบนี้เถอะลูก....สามสี่อาทิตย์แล้ว แมก็ยังจำได้อยู่ดีแหละว่าคนไหนลูกฉัตร คนไหนลุกชัด"

เสียงคุณนายแจ่มจรัสบอกชัดถึงความเหนื่อยหน่ายใจ ที่แผนการของแฝดคนน้องไร้ผล ด้วยเกรงว่าเขาจะเปลี่ยนใจกลับ
ไปบ้านนอกไม่กลับมาอยู่กับนางอีก พูดพร้อมเข้าไปกอดรัดร่างของลูกแฝดคนเล็กแน่น

"ลูกเอ๋ย...แม่ว่าล้มเลิกแผนนี้เถอะนะ...ลูกพาแม่ไปหาเมียกับลูกที่บ้าน ไปรับเค้ามาอยู่กับแม่เถอะนะจ๊ะ..." คุณนายแจ่มจรัส
เงยหน้าสบตากับลุกชายคนเล็กแล้วร้องขอ

"แม่ครับ...ถ้าแม่จะพูดกับนายชัด เขานั่งอยู่ตรงโน้นครับ นี่ผมฉัตร..."

ฉัตรชัยพูดยิ้มๆ ในความสำเร็จที่สามารถทำให้แม่จำตนเองไม่ได้ คิดว่าเป็นน้องชาย มารดาได้ยินดังนั้นถึงกับทำหน้างุนงง
ไม่เข้าใจว่านางจำลูกชายผิดคนหรือว่าสองคนกำลังแกล้งหลอกตนเองกันแน่

"ชัด.....อย่าล้อเล่นกับแม่แบบนี้สิลูก...พ่อฉัตรก็อีกคน มาหลอกแม่ได้ยังไง.." คุณนายแจ่มจรัสพูดแล้วก็มองค้อนบุตรชายอีก
คนที่นั่งฝั่งตรงข้าม เพราะแน่ใจว่าคนนั้นคงเป็นฉัตรชัยแน่นอน

"สำเร็จละนายฉัตร ขนาดแม่ยังจำเราไม่ได้ แล้วคนอื่นจะจำเราได้ยังไง..."

ลูกชายที่นั่งตรงข้ามในคราบของฉัตรชัย แต่คำพูดกลับกลายเป็นชัดชายเสียแทน ยิ่งทำให้คุณนายแจ่มจรัสมารดาของฝา
แฝดทั้งสองงุนงงหนักขึ้น นางรีบตรงไปคว้าตัวบุตรชายคนโตจับเขาหันหลังพร้อมถลกเสื้อยืดขึ้นไปจนถึงกลางหลังนางรู้ว่า
กลางหลังของบุตรชายคนโตนั้นมีปานสีน้ำตาลขนาดเท่าเหรียญสิบบาทจางๆอยู่ แต่พอเสื้อของลูกชายคนที่นางเข้าใจว่า
เป็นฉัตรชัยนั้น ถลกขึ้นไปจนถึงกึ่งกลางหลัง นางกลับพบว่ามันว่างเปล่า ไม่มีปานสีน้ำตาลอยู่เลย ครั้นหันกลับมายังชัดชาย
กลับพบปานสีน้ำตาลอยุ่ที่กึ่งกลางหลังแทน

"โอ๊ยยย..ตายแล้ว....ไปทำอะไรกันมา ถึงได้สลับกันจนแม่ยังจำผิด..."

เสียงมารดาบ่งบอกให้สองฝาแฝดรู้แล้วว่าน่าจะถึงเวลาเสียทีที่จะสลับตัวกัน ตามความต้องการของฝาแฝดผู้น้อง ฉัตรชัยคิด
แต่เพียงว่า ยอมลำบากเสียสามสิบวัน เพื่อแลกกับชีวิตของน้องชายที่จะกลับมาอยู่กับแม่ ทำให้แม่มีความสุข แต่ในความคิด
ของชัดชายกลับไม่คิดเช่นนั้น แล้วจะมีใครล่ะที่คิดได้ว่าการสลับตัวตามความต้องการของแฝดชัดชาย จะเกิดความยุ่งยาก
สร้างความลำบากให้กับคนใกล้ชิดขนาดไหน เพียงใด



หลังจากคู่แฝดมั่นใจว่าการสลับตัวในครั้งนี้ น่าจะไม่มีใครจับได้ เพราะแม้แต่มารดาของทั้งสองยังจำไม่ได้ ชัดชายแฝดผู้น้อง
ก็ขอตัวไปพักผ่อนที่ห้องของแฝดผู้พี่ ทันที่ที่เท้าเหยียบย่างเข้าไปในห้องนอนแสนสวย รอยยิ้มอย่างสะใจก็ผุดขึ้นที่ริมฝีปาก
และใบหน้าของเขา จากนั้นก็เดินไปทิ้งตัวลงบนที่นอนหนานุ่มของพี่ชาย หลับตาครุ่นคิดเรื่องอะไรบางอย่างที่ไม่มีใครทราบ
นอกจากตัวของเขาเอง จากนั้นก็หัวเราะออกมา เสียงหัวเราะไม่ได้บ่งบอกเลยว่าผู้นั้นกำลังมีความสุข แต่มันกลับเต็มไปด้วย
ความสะใจเสียมากกว่า

ย้อนกลับมาที่ห้องรับแขกคุณนายแจ่มจรัสนั่งอยู่กับฉัตรชัยลูกชายคนโต ใบหน้าของนางแม้จะมีความสุขที่ได้ตัวลูกชายคน
เล็กกลับมาอยู่ด้วย แต่ในดวงตาคู่นั้นของหญิงชรากลับฉายแววของความหนักใจ ความกังวล และความสงสารสู่บุตรชายอีก
คน ที่ต้องไปลำบากยากแค้นในชนบท ทั้งๆที่เขาหาได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด

"ฉัตร...แม่ขอบใจลูกมากนะที่ยอมทำเพื่อแม่...." มารดาลูบหัวบุตรชายคนโตช้าๆ ความรักแผ่นซ่านออกจากฝ่ามือที่ลูบผม
บุตรชายอย่างถนุถนอม

"ไม่เป็นหรอกครับแม่....แค่30วันเอง ...เอ่อแม่ครับ...ถ้ามีเหตุอะไรผิดพลาด...แม่เลื่อนงานแต่งของผมกับคุณหมิว ออกให้
ผมด้วยนะครับ...." ฉัตรชัยพูดออกมาเหมือนกับมีลางสังหรณ์

"จ๊ะ...แม่จะคอยดูแลหนู๋หมิวเอง ลูกไม่ต้องเป็นห่วง...แล้วลูกไปอยู่กับเมียของน้อง ลูกต้องพยายามขีดเส้นตัวเองให้ดีๆนะ
ลูก...คงลำบากใจพอดูแหละที่ต้องนอนอยู่ด้วยกัน ลูกต้องนึกไว้ในใจตลอดนะจ๊ะ..ว่านั่นคือเมียของน้อง..."

"ครับแม่...." ฉัตรชัยรับปากรับคำ แต่ยังหนักใจอยู่ว่าตนเองจะหาทางเลี่ยงแบบใดดี

"จ๊ะ...ดีแล้ว..แม่รู้ว่าลูกของแม่เป็นคนดี...ขอคุณพระคุ้มครองลูกนะ...ถ้าขาดเหลืออย่างไรโทรมาบอกแม่นะ...แม่จะเก็บ
บัตรเครดิตของลูกไว้อย่างดีไม่ต้องห่วง...แล้วลูกอยากได้อะไรอีกมั๊ยจ๊ะ...แม่จะไปเอามาให้..."

"ผมขอกระเป๋าหนีบที่ผมใช้ประจำอีกใบเดียวก็พอครับ อยู่ในตู้เสื้อผ้าน่ะครับแม่...เอ่อ...แล้วบอกนายชัดเค้าว่าผมพร้อมจะ
ไปแล้วด้วยนะครับ...."

สักครู่มารดาของฉัตรชัยก็เดินลงมาจากชั้นบนพร้อมกระเป๋าหนีบที่ฉัตรชัยถือติดมืออยุ่เป็นประจำ ฉัตรชัยเปิดกระเป๋าออกมา
ข้างในมีสมุดธนาคารอยู่สามเล่มของแบ็งค์ต่างๆกัน กับล็อตตอรี่ปึกใหญ่ที่ซื้อมาจากป้าสมเมื่อหลายวันก่อน กับเงินสดอีก
จำนวนไม่มากนัก รวมกับที่อยู่ในกระเป๋าสตางค์น่าจะไม่เกินสามหมื่นบาทกับชีวิตสามสิบวันในชนบท ฉัตรชัยหยิบสมุด
ธนาคารส่งให้มารดาเก็บรักษาไว้ จากนั้นก็นั่งรอชัดชายจนเผลอตัวงีบหลับไปบนโซฟา

"ตื่นได้แล้วนายชัด.."

ฉัตรชัยได้ยินเสียงเรียกพร้อมกับมีมือมาเขย่าปลุกที่ลำตัว พอลืมตาขึ้นมาก็เห็นน้องชายแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าของตนเอง ฉีด
โคโลจญ์เสียหอมฟุ้ง หวีผมเรียบตามแบบที่ตนเองหวีแบบนี้ประจำ ในมือของชัดชายมีเสื้อผ้าเก่าๆเป็นกางเกงยีนส์กับเสื้อ
เชิร์ตแขนยาวลายสก็อตสีน้ำเงิน ตัวที่ชัดชายใส่ออกมาจากบ้าน ยื่นส่งมาตรงหน้า

"เอ้า...นายชัดเปลี่ยนชุดให้เรียบร้อย..."

ฉัตรชัยยื่นมือรับเสื้อผ้าจากมือน้องชายมาแล้วขยับลุกขึ้นก้าวเดินจะไปที่ห้องนอนของตนเอง แต่พอเท้าก้าวไปเหยียบบรรได
คั่นแรก เสียงของน้องชายก็ขัดขึ้นก่อนว่า

"นายชัด นั่นห้องพี่ นายใช้ห้องน้ำที่ห้องรับแขกเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ได้..."

ฉัตรชัยได้ยินเสียงน้องบอกแบบนั้นถึงกับสะอึก แต่ยังคงนิ่งเงียบเดินตรงไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำ สักครุ่ก็ออกมา เห้นน้องชาย
ยืนรออยู่หน้าบ้านแล้ว ในมือถือพวงกุญแจรถเบ็นซ์ของตนเองกระเดาะโยนเล่นไปมา

"เราต้องทำให้ชินน่ะ ที่เรียกนายว่านายชัด ไม่งั้นจะเผลอตัวฮาๆๆๆๆๆๆ"

น้องชายฉัตรชัยพูดยิ้มๆ แล้วเดินนำออกไปที่รถคันหรู เปิดประตุเข้าไปนั่งประจำที่คนขับ แม้ในชีวิตจะไม่เคยได้ขับรถยี่ห้อนี้
มาก่อน แต่ก็หาใช่เรื่องลำบาก เพียงสอบถามแฝดผู้พี่นิดๆหน่อย ชัดชายก็เคลื่อนรถออกมาจากบ้าน โดยมีสายตาของมารดา
มองตามหลังด้วยความเป็นห่วง

ชัดชายขับรถพาพี่ชายไปตามเส้นทางกลับบ้าน สองฝาแฝดต่างนั่งนิ่งเงียบ เหมือนกำลังใช้ความคิดกันอยุ่ทั้งคู่ ไม่มีใครล่วง
รู้ว่าทั้งสองคนคิดเรื่องเดียวกัน หรือเรื่องต่างกัน จนกระทั่งรถคันหรูขับมาถึงปั้มน้ำมัน โดยที่ชัดชายไม่ได้ลงมาจากรถ ส่ง
พี่ชายตนเองลงที่ข้างรถกระบะคันเก่าๆ ซึ่งตอนนี้ล้อรถถูกเจ้าของปั้มใส่กุญแจล็อคไว้เรียบร้อยแล้ว ฉัตรชัยในคราบของน้อง
ชายต้องไปติดต่อกับเจ้าของปั้ม ยอมเสียเงินค่าปรับเล็กน้อยที่เอารถมาจอดค้างไว้เสียหลายวัน จากนั้นก็ขับรถออกมาตาม
หลังรถเบ็นซ์คันหรูของตนเองไปจนกระทั่งถึงทางแยกเข้าตัวหมู่บ้านซึ่งชัดชายจอดรถรออยู่ ฉัตรชับจึงจอดรถแล้วเดินลงมา
ชะโงกหน้าผ่านกระจกด้านคนขับ

"จำได้ใช่มั๊ยที่เราเคยบอกว่า บ้านเราอยู่หลังไหน...สังเกตุที่ต้นเฟื่องฟ้าสีแดงหน้าบ้านก็จะรุ้ เพราะแถวนั้นไม่มีบ้านไหนปลูก...
โชคดีนะ...บาย..."

ชัดชายพูดจบก็ขับรถออกไปทิ้งให้พี่ชายเดินกลับไปขับรถเข้าไปตามทางราดยางเส้นเล็กๆ ร่วม2กิโล จึงเห็นบ้านทรงไทย
ใต้ถุนสูงหลังเล็กๆ หน้าบ้านปลูกต้นเฟื่องฟ้ากำลังออกดอกสีแดงเต็มต้น จึงค่อยๆขับรถเข้าไปช้าๆ มองผ่านกระจกหน้ารถ
เข้าไปในบ้านเห็นผุ้หญิงวันสามสิบต้นๆ ยืนชะเง้อมองมาทางตน จากนั้นก็รีบลงจากเรือนตรงเข้ามากอดแขนฉัตรชัยแน่น
เมื่อเขาลงมาจากรถ

"พี่....ไปเสียตั้งหลายวัน คิดถึงพี่จัง...."

เสียงหวานๆไพเราะของหวานภรรยาของนายชัดชาย บวกกับสีหน้าที่แสดงความดีใจออกมา รวมทั้งรอยยิ้มใสซื่อบริสุทธิ์
ทำให้ฉัตรชัยจำต้องยิ้มตอบ แต่ก็รุ้สึกอึดอัดใจอย่างไรชอบกลที่ต้นแขนของตนนั้นยังคงเบียดเสียดกับอกอูมอวบใหญ่ของ
น้องสะใภ้คนสวยอยุ่อย่างนั้น

"ชั้นก็คิดถึงแก....ปล่อยก่อนมาร้อนๆเหนื่อยๆ..."

ฉัตรชัยตอบไปให้เหมือนกับที่น้องชายชอบใช้ถ้อยคำเหล่านี้ในการสนทนากับเมีย จากนั้นก็เบี่ยงตัวออกจากการโดนหวาน
กอดรัดแขน อย่างสุภาพไม่ให้เธอรู้สึกถึงความผิดปรกติ

[post]อีกด้านหนึ่งหลังจากที่ชัดชายขับรถนำทางไปส่งพี่ชายที่ปากทางเข้าหมู่บ้านเสร็จแล้วก็ตีรถกลับกรุงเทพ ใบหน้าเต็มไปด้วย
ความสุข เปิดวิทยุฮัมเพลงเสียงดัมาตลอดทางจนถึงอยุธยาก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์เรียกเข้า แต่ไม่ใช่ดังมาจากโทรศัพท์ของ
ตนเอง จึงจอดรถข้างไหล่ทาง พยายามฟังที่มาของเสียงโทรศัพท์ จนพบว่าโทรศัพท์ของพี่ชายตนเองหลุ่นซุกอยู่ข้างๆ
เบาะที่นั่ง รียยกขึ้นดูหน้าจอ เห็นรูปของมล.ลาวัลย์ คุ่หมั้นของพี่ชายตนเองกำลังโทรเข้ามาหา

ep.13

เสียงโทรศัพท์เรียกเข้ายังดังต่อเนื่อง ในขณะที่ชัดชายจ้องมองภาพถ่ายของ มล.ลาวัลย์ที่โชร์ขึ้นมาที่หน้าจอโทรศัพท์ อย่าง
ชื่นชมหลงไหล มุมปากปรากฎรอยยิ้มอย่างมีเลสนัย ดวงตาวาวโรจน์ ไม่มีใครจะล่วงรู้ได้ว่าชัดชายกำลังคิดอะไรกับว่าที่พี่
สะใภ้ของตนเอง

"สวัสดีครับน้องหมิว..." ชัดชายกรอกเสียงลงไปหลังจากที่กดรับ

"คุณพี่คะ....กลับมาแล้วทำไมไม่โทรหาหมิวเลยอ่ะ...ไปเที่ยวสนุกมั๊ยคะ..."

เสียงหวานไพเราะติดแววน่ารักคิกขุ ของคุณหมิวถามมาเป็นชุด พร้อมเสียงหัวเราะสดใสด้วยความดีใจที่คู่หมั้นหนุ่มกลับมา
จากไปเที่ยวที่ต่างประเทศ

"ไม่ค่อยสนุกเลยครับ พี่เหงาที่น้องหมิวไม่ได้ไปด้วย..." ชัดชายหยอดไปด้วยคำหวาน สองฝาแฝดสร้างเรื่องหลอกมล.ลาวัลย์
ว่าฉัตรชัยไปธุระที่ต่างประเทศ

"ไม่หนุกจริงหรอคะ...ไม่ใช่แอบไปเที่ยวกะสาวๆผมทองนะคะคุณพี่..." คุณหมิวแซวกลับมาน้ำเสียงไม่ได้จริงจังซีเรียส

"วันนี้น้องหมิวว่างมั๊ยครับ....พี่อยากเจอใจจะขาด.." ชัดชายหยอดด้วยน้ำเสียงกระเส่า ทำให้ฝ่ายตรงข้ามถึงกับหน้าแดงกล่ำ
ตัดพ้อเบาๆกลับมาว่า

"ไม่ต้องมาอ้อนเลย...หมิวโกรธคุณพี่แล้ว...กลับมาแล้วไม่ยอมโทรหา ต้องให้หมิวโทรตาม..." เสียวออกหวานขนาดนั้น เป็น
ใครๆก็ฟังออกว่าผู้พูดหาได้โกรธตามคำขู่แม้สักนิด

"นะครับ...พี่ไปหาน้องหมิวนะ...ยอดรัก...จุ๊บๆ"

ชัดชายยังพยายามออดอ้อนไม่เลิก แม้คำพูดหลายคำของคุ่หมั้นหนุ่มดูแปลกๆเช่นยอดรัก...ปรกติฉัตรชัยจะพูดว่าที่รัก แต่
คุณหมิวกลับไม่ได้รู้สึกผิดสังเกตุ จะพูดอย่างไรจะเรียกอย่างไรก็ตาม ตอนนี้คุณหมิวกลับรู้สึกตื่นเต้นและเอียงอายจนมือที่ถือ
โทรศัพท์นั้นชื้นเต็มไปด้วยเหงื่อ

"วันนี้คงไม่ได้หรอกค่ะคุณพี่...ตอนเย็นๆหมิวต้องไปออกไปงานกับคุณพ่อคุณแม่...นะค๊า...อย่าถอนหายใจแบบนี้สิคะ...หมิวก็
คิดถึงคุณพี่เหมือนกันแหละ...หมิววางสายก่อนนะคะ..เดี๋ยวโดนรังแก อิอิ...."

มล.ลาวัลย์พูดจบก็ชิงวางสายก่อน แต่คำพูดสุดท้ายที่บอกว่าเดี๋ยวโดนรังแก ทำให้ชัดชายถึงกับอึ้ง คิดไปไกลถึงความสัม
พันธ์ของคุณหมิวกับพี่ชายฝาแฝดของตนเองว่า ก้าวหน้าไปถึงขั้นใดแล้ว จึงกดโทรศัพท์กลับไปหาคุณหมิวอีกครั้ง รอสักครุ่
ปลายสายฝั่งนั้นก็รับ

"อย่าเพิ่งวางสายสิจ๊ะยอดรัก...พี่ยังไม่หายคิดถึงเลย..." ชัดชายอ้อนไปตามสาย รู้สึกตื่นเต้นซู่ซ่าจนเป้ากางเกงเริ่มตุงขึ้นมา
เป็นก้อน

"ค่า....คุณพี่อ้อนเก่งเหลือเกินนะคะ...ผิดปรกตินะนี่...สงสัยจะทำอะไรผิดมา...อิอิ" ชัดชายได้ยินเสียงตอบจากคุณหมิวตอน
แรกถึงกับชะงัก กลัวแผนจะแตก แต่พอได้ยินคำพูดสุดท้ายถึงรู้ว่าคู่หมั้นของพี่ชายพูดเล่นๆ

"พี่ยอมรับผิดครับ....ผิดที่คิดถึงน้องหมิว อยากใกล้ชิดน้องหมิวจนอดใจรอไม่ไหวแล้ว..."
ชัดชายทำสุ้มเสียงกระเส่าเต็มไปด้วยไฟปรารถนา และก็ดูเหมือนจะได้ผล เมื่อได้ยินเสียงของคุณหมิวตอบกลับมาด้วยสุ่ม
เสียงกระเส่าไม่ต่างกัน

"ค่า...หมิวก็คิดถึงคุณพี่...อยากอยู่ใกล้ๆคุณพี่เหมือนกัน..."ใจสาวหวั่นไหว ความรู้สึกวูบวาบเหมือนกับคืนโน้นไม่มีผิดจนเผลอ
ไผลเอามือข้างที่ว่างอยู่ลูบไล้เบาๆที่ลำขาเรียว จนขนลุกซู่

"ยอดรักของพี่...ตอนเย็นไม่ใช่หรอที่จะออกไปงานกับคุณพ่อคุณแม่..นี่เพิ่งบ่ายเองน๊า...พี่ไปหาพาออกมานั่งรถเล่นดีมั๊ย..."
ชัดชายพูดชวนพร้อมกับลุ้นสุดตัวว่าคุ๋หมั้นของพี่ชายจะใจอ่อนยอมออกมาพบหรือไม่

"อ่า...คุณพี่ขา...หมิวไม่สดวกจริงๆค่ะ....เอาไว้พรุ่งนี้นะคะ...วันหยุดหมิวจะไปเที่ยวกับคุณพี่ทั้งวันเลย...ค่ะ...สัญญาค่ะ...ค่า...
รักคุณพี่มาก..."

กว่ามล.ลาวัลย์จะวางสายได้อีกครั้ง ก็โดนคุ่หมั้นหนุ่มออดอ้อนด้วยคำหวาน ด้วยน้ำเสียงสั่นกระเส่า จนรุ้สึกวาบหวิวซู่ซ่า
ร่องสาวชื้นแฉะเหมือนครั้งโน้นไม่มีผิด
......................................................................................

ด้านฉัตรชัยที่อยู่บ้านของน้องชายนั้น หลังจากกลับมาถึงบ้านก็โดนหวานเมียของน้องชายกอดรัดแขนด้วยความรักและคิดถึง
จนตัวเองรุ้สึกกระดากอาย ที่ลำแขนแกร่งโดนนมอวบอูมของหวานเบียดกระชับ แม้จะพยายามเบี่ยงตัวออกไม่ให้ดูผิดสังเกตุ
แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกวูบวาบตามสัญชาติญาณของผู้ชายคนหนึ่ง ครั้นขึ้นไปบนเรือน หวานก็ซักไซ้สอบถามว่าไปทำงาน
พิเศษอะไรมาจนฉัตรชัยอึกอัก จึงแสร้งตวาดไล่ให้นางออกไปอย่ามาเซ้าซี้

"แกนี่ยังไงวะ คนกลับมาเหนื่อยๆ ดันมาเซ้าซี้อยู่ได้ มีอะไรทำก็ทำไป ชั้นจะพักผ่อน..."

เมื่อหวานโดนสามีดุเช่นนั้นก็รู้สึกแปลกใจ เพราะปรกติเวลาห่างกันหลายๆวันแบบนี้ สามีมักจะมาออดอ้อนวอแวเพื่อจะร่วม
รักกับเธอก่อนเสมอ แต่ครั้งนี้กลับมาแปลก หรืออาจจะเป็นเพราะที่สามีหายไปด้วยการอ้างว่าไปทำงานพิเศษมานั้นหาได้
เป็นจริง น่าจะไปติดสาวๆแล้วใช้พลังงานไปหมดตัวเสียมากกว่า จนไม่ได้สนใจใยดีเธอ แต่หวานกลับคิดไปว่าดีเหมือนกัน
ยังกลางวันแสกๆ แสงแดดสว่างโล่งแจ้ง ขืนมาวอแวคงได้อายผีสางเทวดากันเป็นแน่ นางจึงเลี่ยงเดินลงเรือนไปดูแปลง
ปลูกผักสวนครัวของเธอเงียบๆ ปล่อยให้สามีนั่งเหยียดขาเหม่อมองรอบๆตัว เหมือนกับว่าไม่เคยเห็นสิ่งของเหล่านี้มาก่อน
จนผ่านไปสักพักฉัตรชัยก็เดินลงมาเรือน มองเห็นหวานน้องสะใภ้กำลังก้มๆเงยๆอยุ่ที่เล้าเป็ด

"ทำอะไรน่ะหวาน..." ฉัตรชัยร้องถามออกไปน้องสะใภ้ก็ตอบกลับ

"เก็บไข่น่ะพี่...." นางพูดจบก็หยิบไข่เป็ดสีขาวมอๆด้วยขี้เป็ดยกให้ฉัตรชัยดู

"เสร้จแล้วมาหาพี่หน่อยนะ...."

ฉัตรชัยเผลอตัวพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนสุภาพ ต่างกับชัดชาย...แม้หวานจะรุ้สึกแปลกใจกับคำพูดท่าทีของสามี แต่ก็ไม่ได้คิด
อะไร นอกเสียจากแอบดีใจด้วยซ้ำที่สามีพูดจาดีๆกับเธอ หลังจากเก็บไข่เป็ดมาได้เกือบสิบฟองก็เดินมาหาสามีที่นั่งรออยู่
ตรงแคร่ไม้ไผ่ใต้ถุนเรือนไทย มองหน้าสามีด้วยความแปลกใจ เพราะตั้งแต่บ่ายที่กลับมาจนเกือบจะเย็นอยู่แล้วนางยังไม่
เห็นสามีหยิบยามาสูบแม้แต่สักมวนเลย ยิ่งพอเดินมายืนใกล้ ๆ ตรงหน้า กลิ่นกายของสามีที่เต็มไปด้วยกลิ่นยาสูบกลับไม่
ได้กลิ่นแม้แต่นิด

"เอ่อ...พี่...เลิกสูบยาแล้วหรอ..."
หวานถามสามีด้วยน้ำเสียงซื่อๆ เจือปนกับกับความดีใจ นางอยากให้สามีเลิกสูบยามานานแล้ว

"เอ่อ..อืม....ดีมั๊ยล่ะ..." ฉัตรชัยรู้สึกว่าพลาดไปอีกครั้ง แต่ก็แก้สถานการณ์ได้ รับสมอ้างไปเลยว่าเลิกสูบยา

"ดีสิจ๊ะ....ฉันละดีใจที่พี่เลิกสูบมัน..." หวานพูดพร้อมกับทรุดนั่งลงข้างๆสามีของเธอ จ้องหน้ามองใบหน้าสามีอย่างรักใคร่
ยินดี กับข่าวดีในครั้งนี้

"พี่เรียกฉันมา..มีอะไรจ๊ะ..."

"ไม่มีอะไรหรอก..เอ้า..."

ฉัตรชัยพูดจบก็ล้วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกง หยิบธนบัตรปึหนึ่งส่งให้หวาน เมียน้องชายยื่นมือมารับแบบงุนงง ๆ เพราะ
ปรกติสามีของเธอไม่เคยหยิบยื่นเงินจำนวนมากขนาดนี้ให้กับเธอมาก่อน

"เอาเงินไว้ใช้ เงินที่พี่ไปทำงานได้มาน่ะ"

หวานรับเงินมาถือในมืออย่างงุนงง แต่ก็รู้สึกดีใจอย่างที่สุด หาใช่ดีใจเพราะสามียื่นเงินมาให้ แต่เธอดีใจที่สามีไปทำงานมา
ครั้งนี้ กลับมาด้วยการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ดีๆหลายอย่างที่เธอสัมผัสได้ เริ่มจากเลิกสูบยา อีกทั้งยังพูดจาได้นุ่มนวลมากกว่าเก่า
แถมยังให้เงินหวานไว้ใช้โดยที่นางไม่ต้องออกปากขอ

"พี่....ฉันดีใจ..."

หวานพูดได้แค่นั้นก็โผกอดร่างฉัตรชัยแน่น น้ำตาคลอเบ้าตาดวงกลมสวยด้วยความรุ้สึกตื้นตัน ด้านฉัตรชัยโดนหวานกอด
แบบไม่ทันตั้งตัว ถึงกับเอนร่างหงายหลัง มือดึงร่างบอบบางแต่เนื้อแน่นแกร่งของหวานล้มตามลงไปทับทาบ



"เห้ย!..."

ฉัตรชัยผงะหงายหลังอย่างเสียหลักโดยมีร่างบอบบางแต่เนื้อเนียนแน่นเต็มไปด้วยส่วนเว้าส่วนโค้งนูนของหวานโถมทับ
ทาบ จึงพยายามเบี่ยงตัวออก แต่ดูเหมือนว่าหวานน้องสะใภ้จะไม่ยอมง่ายๆ เธอยิ่งกอดรัดร่างสามีกำมะลอของเธอแนบ
แน่น เพราะความดีใจ ความรัก หน้าซุกอยู่ตรงแผงอกกว้าง เธอสูดดมกลิ่นกายของสามีเธอ แม้จะประหลาดใจว่ากลิ่นกาย
มันไม่เหมือนเดิม มันหอมกรุ่นอย่างประหลาด หาใช่กลิ่นยาสูบที่สามีเคยสูบมาหลายสิบปี จนกลิ่นมันฝังเข้าเนื้อ เข้าเสื้อ
ผ้า จนปะปนออกมาตามเหงื่อไคลที่ไหลออกมา

"หวานอย่า...ปล่อยพี่ก่อน..."

แม้ฉัตรชัยจะพยายามผลักร่างของหวานออก พร้อมเบี่ยงกายหนีด้วยรู้สึกถึงแรงกดตรงหว่างขาตนเองที่แนบประกบประทะ
กับโหนกเนินอัดแน่นของน้องสะใภ้ แต่พอดิ้นหนีไม่รอดจำต้องร้องบอกด้วยเสียงเข้ม หวังให้เธอหยุด หวานถึงกับชะงักเมื่อ
ได้ยินเสียงเข้มของสามีห้ามเช่นนี้ น้ำตาที่เพิ่งดีใจตื้นตันใจอยู่เมื่อครู่ กลายเป็นน้ำตาที่คลอออกมาด้วยความน้อยใจเสียแทน

"พี่...ไม่รักหวานแล้วหรอจ๊ะ.." หวานพูดเสียงแผ่วเบาปนเสียงสะอื้น ค่อยๆลุกขึ้นนั่ง ปล่อยให้ฉัตรชัยรีบขยับลุกตาม

"ไม่ใช่อย่างนั้น....พี่ยังรักหวานอยุ่...เอ่อ..จ๊ะ..."

ฉัตรชัยก้มหน้าตอบอุ๊บอิ๊บ แล้วลุกขึ้นยืนหมายใจจะเดินเลี่ยงออกไปจากสถานการณ์ที่ช่างหวาดเสียว แต่หวานกลับถลา
มากอดแผ่นหลังสามีตนเองแน่น ลางสังหรณ์ของผู้หญิงบอกกับเธอว่า สามีเธอเปลี่ยนไป แต่เธอกลับคิดว่าที่เขาเปลี่ยน
ไปแบบนี้ คงแอบมีผู้หญิงคนใหม่ตอนที่ไปทำงานอย่างแน่นอน ผุ้หญิงคนนั้นอาจจะสวย อาจจะสาวสด จนสามารถมัดใจ
มัดกายของสามีเธอให้ปฎิเสธความรักที่เธอนำเสนอขึ้นมาก่อน นึกไปนึกมาน้ำตาก็ยิ่งไหล ตัดพ้อสามีกำมะลอเบาๆ

"หวานไม่เคยห้ามพี่สักครั้ง ถ้าพี่จะมีกิ๊ก แล้วคราวนี้ทำไมพี่ถึงทำกับหวานแบบนี้จ๊ะ...พี่ไม่รักหวานแล้วหรอจ๊ะ...ผุ้หญิงคน
ใหม่ของพี่ คงสาว คงสวยสดกว่าหวานใช่มั๊ย พี่ถึงทำท่าทางรังเกียจหวานขนาดนี้ ฮือๆๆๆๆๆๆ" หวานพูดด้วยความน้อยใจ
กับทีท่าที่เปลี่ยนไปของสามี เหมือนกับว่าขณะนี้เขาไม่ต้องการตัวเธอเสียแล้ว

ฉัตรชัยยืนนิ่งปล่อยให้หวานกอดด้านหลังไว้แน่น สมองหมุนติ้วพยายามคิดหาทางออก ไม่อยากให้น้องสะใภ้คิดเช่นนั้น
เพราะเกรงว่าจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่ พอถึงเวลาสลับตัวกับน้องชายตามเดิม แล้วจะมีผลกระทบกับครอบครัวของน้อง แต่
ครั้นจะยอมตามใจให้เธอกอดๆจูบๆ เขาก็เป็นผู้ชายมีเลือดมีเนื้อ หาใช่พระอิฐพระปูนแต่อย่างใด เกรงว่ามันจะเกิดเรื่อง
ไม่ดี ตามที่มารดาได้เคยเตือนเอาไว้ก่อนที่จะมาที่นี่

"หวานอย่าเข้าใจพี่ผิด....ใจเย็นๆ หยุดร้องไห้ซะคนดีของพี่...พี่รักหวานคนเดียว พี่มาเหนื่อยๆนะจ๊ะ ไม่มีผู้หญิงคนใหม่ที่
ไหนหรอก"

ฉัตรหันหันกลับมากอดร่างหวานเบาๆ เอามือลูบหัวอย่างปลอบประโลมอบอุ่นอ่อนหวาน จนหวานหยุดร้องไห้ แม้จะแปลก
ใจกับกิริยาที่แสบอบอุ่นของสามีก็ตาม เธอเงยหน้าขึ้นสบตากับสามีก็แลเห็นว่าเขาพูดออกมาจากใจจริงๆ มิได้เสแสร้ง
หวานจึงยิ้มออกมาทั้งๆที่ดวงตาแสนสวยยังคลอไปด้วยหยาดน้ำตา เธอเขย่งปลายเท้าขึ้นจุ๊บแก้มสามีเบาๆ แล้วหน้าแดง
ด้วยความเขิลอาย เมือสบสายตาแสนอบอุ่นของเขา จากนั้นก็ชวนกันออกไปกู้ปลาที่เธอวางเบ็ดไว้ตั้งแต่เมื่อคืน

หลังจากได้ปลาช่อนขนาดไม่ใหญ่นักมาสองตัว หวานก็บอกกับสามีว่าวันนี้จะแกงคั่วปลาช่อนใส่หัวปลีให้ทานตอนเย็น
พร้อมกับวานให้สามีไปหาเครื่องปรุง ส่วนนางจะขอดเกร็ดปลารอจากนั้นก็เดินแยกจากไปด้วยความสุข พอคล้อยหลัง
ฉัตรชัยถึงกับเกาหัวแกรกๆ ด้วยตนเองไม่รู้สักนิดว่าเครื่องปรุงของแกงคั่วปลาช่อนนั้นมันมีอะไรบ้าง พอนึกขึ้นได้ว่าคงต้อง
โทรไปถามมารดา จึงควานหาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงแต่หาไม่พบ คิดว่าอาจอยุ่ในกระเป๋าหนีบจึงเดินกลับมาที่
เรือนไทย แต่หาเท่าใดก็หาไม่เจอ จนหวานต้องถามว่าหาอะไรอยู่

"หาโทรศัพท์น่ะจ๊ะ...ไม่รุ้พี่ไปลืมไว้ตรงไหน...พี่ขอยืมของหวานใช้หน่อยสิจ๊ะ..."

คำพูดของสามีถึงกับทำให้หวานงุนงง ในชีวิตของเธอเคยมีโทรศัพท์มือถือใช้เสียเมื่อไหร่ ทำไมสามีเธอถึงมาถามเช่นนี้
หรือว่าเขาจะลืมไป หวานสังเกตุดูหลายครั้งแล้วว่าตั้งแต่สามีกลับมาเมื่อตอนเที่ยงๆบ่ายๆ ดูเหมือนเขาจะแปลกไปกว่า
สามีคนเดิมของเธอเหมือนดั่งเป็นคนละคน แต่มันเป็นไปไม่ได้หรอกในเมื่อร่างสูงโปร่งที่ยืนอยู่บนเรือนขณะนี้ หน้าตามัน
คือสามีของเธออย่างชัดเจน

"พี่...หวานเคยมีโทรศัพท์ตั้งแต่เมื่อไหร่จ๊ะ...พี่นี่แปลกจัง..." ฉัตรชัยได้ยินหวานตอบมาเช่นนั้นก็อยากจะเขกกระโหลก
ตนเองแรงๆ ที่พลาดไปอีกครั้ง ดีแต่ว่าหวานไม่ได้ติดใจซักถาม

"เอ่อ...จริงสิ..พี่ก็ลืมไป...ไม่เป็นไรจ๊ะ...เอ่อ...ว่าแต่หวานน่ะจะให้พี่หาเครื่องปรุงแกง บอกพี่หน่อยสิจ๊ะว่าจะเอาอะไรบ้าง
พักนี้พี่เบลอๆเดี๋ยวหามาให้ไม่ครบ เมียคนสวยของพี่จะบ่นผัวอีกฮาๆๆๆๆๆๆ" ฉัตรชัยพูดจบก็ทำลูกอ้อนตรงเข้าไปกอด
เอวหวานด้านหลัง จุ๊บเบาๆที่เรือนผมดำขลับยาวเหยียดตรงไปจนถึงกลางหลังของเธอ

"ไม่เป็นไรจ๊ะ...พี่นั่งเฉยๆก็ได้ เดี๋ยวหวานลงไปหาที่สวนครัวหลังบ้านเอง..."

หวานพูดตอบยิ้มๆรู้สึกอิ่มเอมใจกับทีท่าออดอ้อนของสามี ที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน แม้ขณะที่กำลังขุดข่าเธอก็อดคิดไม่ได้
ว่าผู้หญิงคนไหนก็ตามที่สามีเธอไปพบตอนที่ไปทำงานพิเศษ น่าจะมีส่วนทำให้สามีของเธอน่ารักกว่าแต่ก่อนมากมาย ถ้า
ได้รู้เธออยากจะขอบใจเธอคนนั้นจริงๆ ส่วนฉัตรชัยก็ดูเหมือนจะหายใจคล่องขึ้น แล้วรู้ว่าถ้าถึงสถานการณ์คับขัน เขา
เพียงออดอ้อนพูดเอาใจน้องสะใภ้คนนี้ เขาก็จะรอดมาได้ไม่โดนจับผิดแน่นอน
...........................................................................

[post]ย้อนกลับไปที่กรุงเทพ หลังจากชัดชายขับรถกลับมาถึงบ้าน เขาเห็นมารดานั่งรออยู่ในห้องรับแขก เขาเพียงทักทายสองสาม
คำก็อตัวขึ้นไปพักผ่อน โดยอ้างว่าขับรถกลับมายังเพลียอยุ่ หาได้สนใจกับความรุ้สึกของมารดาที่นั่งรอเพื่อพูดคุย และใกล้
ชิดให้หายคิดถึงหลังจากที่จากกันไปกว่าสามสิบปี

หลังจากที่ชัดชายกลับเข้ามายังห้องนอนของฉัตรชับแฝดผู้พี่ ก้ตรงเข้ารื้อค้นลิ้นชัก เหมือนกำลังหาสิ่งใดบางอย่าง จน
กระทั่งพบกระดาษแผ่นหนึ่งขนาดเอสี่ มีข้อความเป็นตัวพิมพ์ดีดมากมายจบท้ายด้วยลายเซ็นต์ของฉัตรชัยผู้เป็นพี่ สิ่งที่
ชัดชายค้นหานั้นหาใช่กระดาษแผ่นนั้นแม้สักนิด สิ่งที่เขาต้องการนั่นคือลายเซ็นต์ของพี่ชายต่างหาก

หลังจากได้มาแล้ว ชัดชายก็ใช้เวลาหัดเซ็นต์เลียนแบบลายเซ็นต์ของฉัตรชัย ตั้งแต่บ่ายแก่จนพรบค่ำจึงสำเร็จ เขาเซ็นต์ชื่อ
ได้เหมือนลายเซ็นต์ของฉัตรชัยทุกประการ จากนั้นชัดชายก็หัวเราะลั่นห้องด้วยความดีใจ แต่ใบหน้าของเขานั้นกลับแฝงแวว
น่ากลัวมาก ถ้าบังเอิญมีใครมาพบเห็นเข้า
................................................................................

ย้อนกลับมาที่บ้านในชนบทอีกครั้ง หลังจากสองผัวเมียกินอาหารเย็นกันเสร็จเรียบร้อย ก้นั่งคุยกันตามประสาผัวเมียไปเรื่อย
เปื่อย ส่วนใหญ่หวานก็จะถามถึงงานที่เขาหลอกว่าไปทำมา ฉัตรชัยจึงจำเป็นต้องแต่งเรื่องบอกให้หวานรู้ แล้วสิ่งหนึ่งที่
ฉัตรชัยรู้ก็คือบ้านของน้องชายไม่มีทีวีดูแม้แต่เครื่องเล็กๆสักเครื่องเดียว ฉัตรชัยตั้งใจไว้ว่าพรุ่งนี้จะเข้าไปที่ตัวอำเภอเพื่อ
หาซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่เอาไว้ติดต่อกับมารดา แล้วอาจหาทีวีเครื่องเล็กๆเอามาให้หวานกับตนเองดูข่าวสารแก้เหงาสัก
เครื่อง แม้ว่าขณะนี้เงินสดของตนจะเหลือเพียงสองหมื่น เพราะให้หวานไปแล้วหนึ่งหมื่น แต่ฉัตรชัยก็ยังคงมีสร้อยทองที่
คล้องติดตัวประจำอยู่อีกห้าบาท เพิ่งจะถอดออกจากคอตอนที่มาถึงบ้านน้องชายเมื่อตอนเที่ยงนี้เอง

"พี่..ไปอาบน้ำกันเถอะ..จะได้เข้านอน..."

ep.15

คำพูดปรกติแสนจะธรรมดาของหวานถึงกับทำให้ฉัตรชัยสะดุ้ง จะนอนกันแล้วหรอ แล้วตอนนอนถ้าหวานเธอต้องการเซ็กส์
ฉัตรชัยจะทำประการใด ฉัตรชัยคิดด้วยความกลัดกลุ้มจนหวานต้องร้องเตือนให้ไปเป็นเพื่อนอาบน้ำกับเธออีกครั้ง

"หวานไปคนเดียวเถอะจ๊ะ..."

คำตอบของฉัตรชัย ถึงกับทำให้เมียสาวงุนงงประหลาดใจ เพราะทุกครั้งที่เธอชวนสามีไม่เคยปฏิเสธ เพราะนิสัยของสามีเธอ
มักชอบเล่นซุกซนตอนอาบน้ำด้วยกันประจำ จนมีบางครั้งเลยเถิดถึงกับร่วมรักกันก็ยังเคย แต่ครั้งนี้เธอกลับถูกปฏิเสธ

"พี่ไปเป็นเพื่อนหน่อย พี่ก็รุ้ว่าหวานกลัวผี..."

หวานลองพยายามชวนอีกครั้ง ด้วยการอ้างว่ากลัวผี ถ้าสามีปฏิเสธอีกครั้งมันต้องมีเรื่องผิดปรกติกับตัวของเขาแน่ แต่ครั้งนี้
ฉัตรชัยไม่กล้าปฏิเสธ ค่อยๆลุกตามหวานลงมาจากเรือนทั้งๆที่ยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าตั้งแต่ตอนกลับมา

"อ้าวพี่...จะไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนรึจ๊ะ..."หวานหันมาถาม ด้วยความสงสัย เพราะโดยปรกติสามีเธอจะใส่เพียงผ้าขาวม้าผืน
เดียวลงไปอาบน้ำกับเธอ

"เอ่อ...ยังไม่ต้องเปลี่ยนหรอกจ๊ะ..พี่ไปนั่งเป็นเพื่อนหวานเฉยๆ พี่ยังไม่อยากอาบน้ำตอนนี้..."

ฉัตรชัยพยายามหาข้ออ้าง แม้ว่าหวานจะมองมาด้วยความสงสัย เขาก็เสแสร้งหันหน้าไปทางอื่น ไม่อยากสบสายตากับเธอ
หวานก็ไม่พูดอะไรเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ พร้อมผ้าซิ่นอีกผืนหนึ่งแล้วเดินนำลงจากเรือน อ้อมไปทางด้านหลังบ้าน
ใกล้ๆแปลงผักสวนครัวของเธอ มีลานซีเมนต์ขนาดประมาณ6ตารางเมตร มีตุ่มใบใหญ่อยู่ด้านหนึ่ง มีฝาทำจากไม้ไผ่สาน
เป็นแผงอยู่สามด้าน ยกเว้นด้านติดกับตัวเรือนจะไม่มีฝา

หวานเดินนำเอาผ้าเช็ดตัวกับผ้าซิ่นผืนใหม่ไปแขวนไว้ที่ราวไม้ไผ่ที่อยู่ติดฝาด้านหนึ่ง ส่วนฉัตรชัยเดินไปยืนพิงตุ่มอีกด้าน
หนึ่งหันหลังให้กับเมีย จึงไม่เห็นว่าหวานกำลังค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อแขนยาวสีน้ำเงินออก จนกว้างพอที่จะสอดมือถอดเสื้อ
ออกทางหัวได้ ช่วงที่กำลังถอดเสื้อแขนยาวออกมาทางหัวนั้น ชายเสื้อคอกระเช้าก็เลิกขึ้นสูงจนถึงใต้ฐานนมคุ่อวบ ที่ต้อง
แสงจันทร์เพ็ญเต็มดวง จนมองดูขาวนวลผ่อง

"อุ๊ยพี่...ช่วยแกะดุมทีจ๊ะ..มันติดผม.."

เกิดเหตุบังเอิญขณะที่หวานกำลังดึงเสื้อเชิร์ตแขนยาวออกมาทางหัวนั้น กระดุมเจ้ากรรมก็ไปตักพันกับเส้นผมยาวสลวยของ
เธอจนดึงไม่ออก ต้องร้องเรียdสามีให้ช่วยเหลือ ฉัตรชัยได้ยินเสียงของหวานก็หันกลับมา พลันสายตาของตนเองก็กระทบ
กับเต้าอวบเต่งขนาดใหญ่ขาวผ่องต้องแสงจันทร์ของหวาน ในขณะที่หัวของเธอยังคงติดอยู่กับเสื้อเชิร์ตแขนยาวดึงยื้อกัน
ไปกันมา พร้อมร้องให้เขามาช่วยแกะกระดุมที่ติดอยู่กับเส้นผมของเธอ ฉัตรชัยจึงต้องยื่นมือมาช่วยแกะให้ พยายามเมินหน้า
ไปมองทางอื่น ยึกยักๆอยู่สักครุ่จึงแกะได้สำเร็จ

"ขอบใจจ๊ะ..."

หวานส่งยิ้มหวานตามชื่อ พร้อมทำหน้าทะเล้นใส่สามี เอื้อมมือดึงเสื้อคอกระเช้าถอดออกไปทางหัวอีกตัวหนึ่ง อกเปลือยตูม
เต่งตั้งเต้าขาวผ่องทั้งสองเต้า หาได้หย่อนคล้อยลงไปเลยแม้สักนิด ปลายถันเม็ดเท่าปลายนิ้วก้อย ยังมีสีน้ำตาลอ่อน เนื่อง
จากลูกสาวไม่ค่อยได้กินนมของเธอ ส่วนฉัตรชัยหลุบสายตามองพื้นไม่กล้ามองตรงอกอวบของหวานมากนัก ด้วยกลัวว่ามัน
จะทำให้เขาจิตแตกไปเสียก่อน

"พี่ไม่อาบแน่นะ..."

หวานพูดพร้อมดึงผ้าซิ่นขึ้นมาขมวดปมที่เหนือทรวงอก จากนั้นก้ใช้ขันพลาสติคตักน้ำในตุ่มราดตัวติดๆกันสามสี่ขัน ผ้าซิ่น
ที่หวานสวมอยุ่พอถูกน้ำ มันก็ราบลู่ไปตามร่างของหวานจนเห็นสัดส่วนโค้งเว้าอวบนูนชวนให้มองยิ่งนัก แต่ฉัตรชัยกลับเมิน
มองท้องฟ้าแสงจันทร์ แสงหิ่งห้อยวับๆแวมๆที่บินผ่านไปผ่านมานานๆสักครั้ง จึงไม่ได้เห็นว่าตอนนี้หวานกำลังถลกผ้าซิ่น
ขึ้นมาจนถึงโคนขาเรียวขาวผ่อง แล้วขัดถูขี้ไคลเบาๆช้า ๆ ปากก็ฮัมเพลงลูกทุ่งเบาๆอย่างมีความสุข ตลอดเวลาฉัตรชัยได้
แต่นิ่งเงียบ แต่ก็แอบนึกชื่นชมเสียงร้องเพลงของหวานไม่ได้ว่า ถ้าเธอจะเอาดีทางร้องเพลงก็น่าจะไปไหว แม้ตัวเขาจะไม่
ถนัดในการฟังเพลงลูกทุ่งก็ตาม

"พี่ช่วยหวานถูหลังหน่อยสิจ๊ะ...." [/post]

เสียงร้องขอของหวานปลุกให้ฉัตรชัยตื่นจากภวังค์ หันหน้ามองไปทางเธอ เห็นหวานกำลังหันหลังให้ ปลดขมวดผ้าซิ่นที่
ขมวดไว้ตรงกลางอกยกขึ้นถือด้วยมือข้างหนึ่ง ปล่อยชายผ้าซิ่นอีกด้านหล่นย้วยลงมาจนเกือบถึงก้น ทรวดทรงของหวาน
ที่มองจากทางด้านหลัง ช่างงดงามนัก แนวสันหลังเรียวยาว ลงมาถึงเอวคอดกิ่ว รับกับสะโพกผายกว้างแลเห็นเนื้อหนัง
ขาวผ่อง ฉัตรชัยถึงกับเงอะงะไม่รู้จะทำอย่างไร แต่เมื่อได้ยินเสียงเมียร้องเตือนอีกครั้ง เขาก็ค่อยๆยื่นฝ่ามือที่สั่นเทาทาบ
ไปตรงกลางหลังของหวาน แล้วออกแรงกดปลายนิ้วถูขึ้นไปจนถึงต้นคอไรตีนผม แล้วถูลงมาจนถึงกลางเอวด้านหลังใกล้ๆ
ก้นขาวอวบงอนของเธอ

"พี่..อาบน้ำกะหวานสิจ๊ะ..จะได้ถูขี้ไคลให้พี่มั่งไง...นะนะ..."

หวานเอี้ยวหน้าหันมาถาม จังหวะที่เอี้ยวหน้ามานั้น ชายผ้าถุงมันก้ยิ่งหย่อยต่ำลง จนฉัตรชัยมองลึงต่ำลงไปจนเห็นก้นอวบ
ผายกว้างของหวานเต็มๆ รู้สึกใบหน้าร้อนแดงเห่อด้วยความอายบวกกับความตื่นเต้น พยายามนับสิบถึงร้อยถึงพัน พยายาม
นึกถึงซากศพ เพื่อดับความรุ้สึก ดูเหมือนจะได้ผล ทำให้ใจสงบลงบ้าง

"นี่แน่ะ..ขี้เกียจอาบน้ำหรอ..."

ขณะกำลังเผลอ หวานก็ฉวยตักน้ำสาดโครมมาที่ร่างของฉัตรชัย แล้วหัวเราะคิกๆ ยั่วแหย่ แม้แตรชัยจะพยายามห้าม เธอก็
ไม่ฟังตักน้ำสาดอีกหลายครั้งจนตัวฉัตรชัยเปียกโชก จนต้องยื้อแย่งขันพลาสิคกันไปมา แม้จะไม่ตั้งใจแต่ก็เป็นเหมือนบาป
เคราะห์ให้ผ้าซิ่นของหวานร่วงหล่นลงมากองกับพื้น เธอร้องว๊ายด้วยความตกใจ แต่หาได้เกิดจากความอับอายแต่อย่างใด
ก็เพราะบุรุษที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้คือสามีที่เธอรักนั่นเอง

หวานร้องว๊ายเพราะความตกใจ แต่ไม่ได้อับอายที่ผ้าหลุดต่อหน้าผัว เธอจึงไม่มีทีท่ากระมิดกระเมี้ยน ยังคงยืนตรงอวดสัด
ส่วนอวบอูมโหนกนูนของเธอต่อหน้าฉัตรชัย จนเขาต้องเป็นฝ่ายหันหลังให้ หวานก็ตรงเข้ามากอดรัดแรนบหน้ากับแผ่น
หลังกว้างของสามีเธอ พร้อมออดอ้อนด้วยเสียงหวานๆไพเราะเบาๆ

"พี่...อย่าทำแบบนี้สิคะ...พี่จะมีคนอื่นหวานก็ไม่เคยห้าม แต่พี่ก้ต้องให้ความสุขกับหวานด้วยสิคะ..."

น้องสะใภ้ของฉัตรชัยกลับแปลการกระทำของตัวเขาไปในทำนองนี้ หาได้ระแวงสงสัยแม้แต่น้อยว่าร่างบุรุษที่เธอสวมกอด
อยู่นี้เป็นเพียงสามีกำมะลอที่สลับตัวกันมาเท่านั้น

หวานพูดกระซิบเสียงแผ่วแล้วก็เขย่งปลายเท้าขึ้นจูบเบาๆแถวๆซอกคอกกหูของฉัตรชัย อกอวบเต่งตูมทั้งสองเต้าแนบอิง
กับแผ่นหลังเสียดส่ายไปมาช้าๆด้วยความรู้สึกถวิลหา จนฉัตรชับขนลุกซู่วาบหวิวไปกับรสสัมผัส แม้จะพยายามเบี่ยงเบน
ความรู้สึกไปเท่าใดก็ตาม แต่ท่อนลำในกางเกงกลับเริ่มพองขยายขึ้นมาอย่างช้าๆ มือของหวานเอื้อมไปปลดกระดุมเสื้อให้
ฉัตรชัยทีละเม้ดๆ จนหมด แล้วดึงกระชากออกมาจากตัว ก่อนจะถลกชายเสื้อกล้ามดึงออกไปทางหัว ในขณะที่แตรชัยหลับ
ตาปี๋ พยายามสูดลมหายใจเข้าปอดหนักๆ หวังให้บรรเท่าจากความรู้สึกที่ถมทับทวีจนเป้ากางเกงโป่งออกมาเป็นรูปเป็นลำ

"หวานยะ...อย่า"

[post]ฉัตรชัยพยายามจะหันไปร้องปราม แต่ยังพูดไม่ทันสุดคำ ปากตนเองก็โดนเรียวปากบางของหวานประกบแน่น แล้วพยายาม
สอดลิ้นเรียวเข้ามาหา มือเล็กๆก็ป้วนเปี้ยนลงไปกึ่งกลางลำตัวของสามี พอสัมผัสเห็นความคัดแข็งของส่วนนั้น หวานก็แอบ
ยิ้มดีใจด้วยความสุข อย่างน้อยตอนนี้เธอก็รุ้แล้วว่าสามียังต้องการตัวเธออยู่ แม้จะขัดกับการแสดงออกทางภายนอกก็ตามที

มือเล็กๆค่อยๆลูบค่อยไล้ไปตามความยาวของลำที่ยังซ่อนอยู่ในกางเกง จนฉัตรชัยทนต่อไปไม่ไหว เผยอปากสอดปลายลิ้น
เข้าไปพัวพันกับปลายลิ้นของหวานอย่างนิ่มนวล พร้อมเบี่ยงตัวหันกลับมาสวมกอดร่างเปลือยบอบบางที่เต็มไปด้วยสัดส่วน
โค้งเว้าอวบอูมของน้องสะใภ้ด้วยใจเต้นระทึก

"พี่...หวานรักพี่นะ...ซี๊ดดด"

หวานครางซี๊ดเบาๆเมื่อโดนสามีสวมกอดแน่น จนอกอวบของเธอเสียดสีกับแผงอกของสามีแน่น เนินนูนโหนกตรงกลางลำ
ตัวก็เกี่ยวเสียดสีกับลำขาแกร่งของสามีอย่างรัญจวณจิต จุ่ๆท้องฟ้าก็มืดครึ้ม มีแสงแปร๊บๆจากฝ้าแลบ ลมก็กระโชกพัดไหว
แล้วสักครู่ฝนก็ตกลงมาอย่างกับฟ้ารั่ว จนร่างหนุ่มสาวที่กอดเกี่ยวกันท่ามกลางสายฝนต่างก็แยกย้ายกันรีบขึ้นเรือน[


ฉัตรชัยกับหวานน้องสะใภ้ต่างก็วิ่งกลับขึ้นบนเรือนอย่างฉุกระหุก โดยที่หวานนำด้านหน้า ฉัตรชัยเผลอตัวมองตามสะโพก
อวบใหญ่คับแน่นของหวานที่เยื้องย่างขึ้นบรรได มันส่ายยึกๆยักๆ ชวนน่าหลงไหลเหมือนนางระบำฮาวายไม่ผิดเพี้ยน จน
เมื่อทั้งสองขึ้นมาอยู่บนเรือนแล้ว

"พี่..พอฝนหยุดแล้วเราไปอาบน้ำกันต่อนะจ๊ะ...หวานยังไม่ได้ฟอกสบู่เลย..."

หวานเดินมานั่งข้างๆสามี ผ้าซิ่นเปียกน้ำลู่ราบแนบไปตามร่าง จนเห็นอกอวบเต้าเต่งของเธอผุดดันขมวดปมผ้าซิ่นออกมา
เป็นก้อน ต่ำลงมาที่หน้าท้องก็แบนราบไร้ไขมัน เนินโหนกนั้นซุกอยู่ในลำขาเรียวยาวที่หนีบเอาไว้ ฉัตรชัยต้องรีบเบือน
สายตาออก ด้วยรู้สึกจิตใจตนเองมันเริ่มจะควบคุมเอาไว้ไม่อยู่ เพราะตนเองหาใช่พระอิฐพระปูน ที่จะไม่มีเลือดเนื้อไม่มี
อารมณ์เสียเมื่อไหร่

"พี่ว่าไม่ต้องแล้วละ...อาบแค่นี้ก็พอ ตัวหวานยังหอมกรุ่นอยู่เลย..."

เผลอไผลพูดออกไปด้วยความรุ้สึก ก็เนื้อตัวของน้องสะใภ้ที่นั่งแนบชิดนั้น มันหอมกรุ่นเหมือนดอกมะลิป่าจริงๆ สายตาที่
มองประสานกัน หวานรู้สึกอบอุ่น จนเอียงอาย เธอไม่เคยเห็นสายตาอบอุ่นแบบนี้จากสามีมานานนักหนา ส่วนมากก็จะเจอ
แต่แววตากรุ้มกริ่มเต็มไปด้วยความปรารถนาในโลกีย์ แต่พอเจอสายตาอ่อนนุ่มอบอุ่นเข้าไปแบบนี้ แก้มสาวของเธอก็ถึงกับ
แดงระเรื่อด้วยความเขินอาย

"พี่อ่ะ....มองจนหวานเขินเลย อิอิ"

หวานหัวเราะแก้เขินที่ถูกมองด้วยการจับจมูกสามีบีบเบาๆ จนฉัตรชับรู้สึกตัว รีบปรับสีหน้าแววตาให้เป็นปรกติ แล้วเริ่มนับ
หนึ่งใหม่อีกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ใจวอกแวกไปไหน

เมื่อสามีบอกว่าไม่ต้องไปอาบน้ำอีก หวานก็เลยเปลี่ยนชุดใหม่ พร้อมหยิบเสื้อผ้ามาให้สามีเปลี่ยนด้วย หวานหันหลังยืน
เปลี่ยนเสื้อผ้าใกล้ๆฉัตรชัย ไม่ได้ระรี่ระวังมากนัก จึงไม่พ้นที่จะต้องโชร์สัดส่วนให้พี่สามีเห็นวับๆแวมๆอีกหลายหน ทาง
ด้านฉัตรชัยก็เลี่ยงออกไปอีกด้านของห้องโล่งๆ หยิบผ้าขาวม้ามานุ่งแล้วถอดชุดที่เปียกน้ำออกไปอย่างระมัดระวัง

จนเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเสร็จ หวานก็เตรียมจัดที่หลับที่นอน โดยลากที่นอนบางๆเก่าๆ แต่สะอาดมาปูกางตรงริมห้องด้านหนึ่ง
แล้วปลดชายมุ้งที่พับเก็บไว้มากางครอบที่นอนแล้วมุดเข้าไปตลบชายมุ้งยัดใต้ที่นอนจนเรียบร้อย ก็โผล่หน้าออกมายิ้ม
หวานใส่ตาสามี แล้วผลุบกลับเข้าไปนอนรอ

ฉัตรชัยนั่งนิ่งอยู่กับพื้นห้อง ฝนเริ่มซาเม็ดลงเสียงกบเขี่ยดต่างร้องระงมแข่งกันหาคู่ ฉัตรชัยหวังถ่วงเวลารอจนหวานหลับ
เสียก่อนจึงจะมุดเข้ามุ้งไปนอน แต่พอนั่งนานๆก็รู้สึกเมื่อยขบจนค่อยๆเอนหลังลงนอนหงายกับพื้นไม้เนื้อแข็งเย็นเฉียบ แม้
ไม่ได้ขัดชักเงา แต่จากการทำความสะอาดถูพื้นบ่อยๆนานๆเข้า ไม้เนื้อแข็งที่ทำพื้นนั้นก็ดูสอาดเรียบลื่นจนนอนลงไปได้ไม่
รู้สึกระคายผิว เวลาผ่านไปนานเท่าใด ฉัตรชัยไม่อาจรู้ได้ เพราะเคลิ้มหลับไปเมื่อไหร่ไม่รุ้ตัว จนรุ้สึกว่าเริ่มหนาวนั่นแหละจึง
ตื่นลืมตาขึ้นมา มองไปทางมุ้งที่หวานนอนอยู่เห็นเงียบสนิท จึงตัดสินใจเดินย่องมุดมุ้งเข้าไปหา

แสงจันทร์เริ่มโผล่บนท้องฟ้าอีกครั้งหลังจากหลบหนีไปตอนฝนตก สาดแสงนวลสว่างลอดมุ้งเข้ามาให้ฉัตรชัยมองเห็นร่าง
หวานลางเลือน ที่นอนหงายหลับสนิท ลมหายใจสม่ำเสมอ จนอกอวบใหญ่สะท้านขึ้นช้าๆ ฉัตรชัยล้มตัวลงนอนข้าง มือขวา
ยกขึ้นมาก่ายหน้าผากด้วยความกลัดกลุ้มเสียงกบเขียดต่างแข่งกันร้องหาคู่ เสมือนจังหวะเพลงธรรมชาติขับกล่อมจนฉัตรชัย
เคลิ้มหลับไปอีกครั้ง แต่ก่อนที่จะหลับสนิท

หวานก็พลิกตัวมากอดแน่น ขาเรียวป่ายพาดขึ้นมาทาบทับตรงกลางลำตัวของฉัตรชัยอย่างเหมาะเหม็ง ผ้าซิ่นถลกเลิกขึ้นมา
จนเกือบถึงโคนขาเรียวที่ขาวผ่องล้อแสงจันทร์นวล ฉัตรชัยสะดุ้งตื่นนอนนิ่งตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับตัวเมื่อหวานทั้งกอดทั้งก่าย
มิหนำซ้ำใบหน้าสวยหวานใสซื่อของสาวชาวชนบทยังซบลงมาตรงซอกคอของเขา ลมหายใจแผ่วๆระบายเป่ารดเบาๆตรงริมหู
จนฉัตรชัยขนลุกซู่

หวานเหมือนละเมอมือไม้ที่กอดร่างฉัตรชัยไว้นิ่งๆเริ่มขยับลูบล้วงไต่ลงมาช้าๆจากแผงอก สู่หน้าท้องเกร็งแน่น แล้วก็วางมือลง
บนกึ่งกลางลำตัวของเขาวางนิ่งๆไม่ได้ขยับปลายนิ้วเรียว แต่แค่นั้นมันก็ทำให้ฉัตรชัยรู้สึกกระอักกระอ่วนไม่กล้าขยับมือไปจับ
มือของหวานออกจากตรงจุดนั้น จึงนอนหายใจแผ่วๆพยายามไม่ให้ท้องขยับกลัวว่าหวานจะตื่นขึ้นมาขยำแล้วมันจะยุ่ง

จวบจนเสียงไก่ชนที่เลี้ยงไว้ใต้ถุนเรือนโก่งคอขันเจื้อยแจ๊ว ขึ้นเป็นตัวแรก แล้วไก่บ้านใกล้ไกลต่างขันแข่งรับแสงอรุณยาม
เช้าอย่างต่อเนื่อง ปลุกให้หวานตื่นขึ้นมามองปลายฟ้าด้านทิศตะวันออกเริ่มมีแสงเรืองรองเป็นสัญญาณของเช้าวันใหม่ ปรกติ
เมื่อเธอตื่น ก็จะลุกขึ้นจัดเตรียมงานของเธอแต่เช้ามืด แต่เช้าวันนี้เธอกลับรู้สึกอยากนอนกอดร่างสามีของเธออยุ่อย่างนั้น มือ
เล็กๆแสนขยันที่วางทาบตรงกึ่งกลางร่างของสามี สัมผัสรุ้สึกถึงสิ่งที่อยู่ข้างในกางเกงว่ามันเริ่มแข็งตัวแล้วพองรับเมื่อปลายนิ้ว
ของหวานขยับลูบ

เธอเอียงหน้าไปจูบแก้มของฉัตรชัยสามีกำมะลอด้วยความรักแต่เขายังคงหลับสนิท รอยยิ้มซุกซนขี้เล่นผุดที่มุมปากของหวาน
เมื่อเธอค่อยๆสอดมือผ่านขอบกางเกงด้านหน้าเข้าไปจับกุมท่อนลำนั้น ขยับลูบไล้เบาๆแผ่วๆ จนมันก็สนองตอบด้วยการกระดก
ตัวงึกๆงักๆ จนแข็งตัวเต็มอุ้งมือของหวาน

เธอค่อยๆดึงมือออกมาแล้วปลดขอกางเกงสามีเบาๆ แล้วตามด้วยการรูดซิปจนกางเกงของสามีแบะอ้า ดุ้นลำแข็งโปนขึ้นเป็น
รูปลำพาดยาวเฉียงไปทางขวาซุกตัวอยู่ในกางเกงในสีทึบ หวานค่อยๆถลกขอบกางเกงในลงช้าๆเบาๆ ไม่อยากให้สามีรู้สึกตัว
ตื่น จนสำเร็จ ก็งัดลำยาวของสามีขึ้นมารูดช้าๆเบาๆ แต่ในสัมผัสที่ฝ่ามือนั้น หวานกลับรู้สึกถึงความผิดปรกติ ท่อนลำของสามี
ที่เคยอวบอ้วนแต่ไม่ยาวมากนัก ครั้งนี้มันกลับดูผอมลงกว่าเก่า แต่ชดเชยมาด้วยความยาวที่มากกว่าเดิมจนหวานรู้สึกถึงความ
ผิดปรกติ

มือเธอค้างนิ่งจ้องมองผ่านแสงสลัวมาที่ใบหน้าของชายที่เธอนอนกอดอยู่ทั้งคืน ใบหน้าแบบนี้มันก็คือสามีของเธอไม่ผิดเพี้ยน
แต่ทว่าสิ่งที่เธอสัมผัสจับอยู่ มันไม่ใช่ของสามีเธออย่างแน่นอน หวานหวนคิดถึงพฤติกรรมที่สามีที่แสดงออกมาตั้งแต่ตอน
เที่ยงวัน เธอก็ยิ่งมั่นใจว่าชายคนนี้ไม่ใช่สามีของเธอแน่ แม้หน้าตาจะเหมือน แต่กิริยาของชายผู้นี้กลับอ่อนโยน น่มนวลอบอุ่น
ยามใกล้ชิด มากกว่าสามีของเธอจนเห็นได้ชัด เพียงแค่ว่าหวานไม่ทันได้นึกถึง เพราะคิดว่าเหตุที่สามีเปลี่ยนไปคงเพราะมี
ผุ้หญิงคนใหม่เท่านั้น

พอเธอมั่นใจว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่สามีของเธอแน่ หวานก็ใจหายวาบปล่อยมือจากท่อนลำยาวแล้วขยับไปนั่งจ้องมองอย่างุนงง
สงสัย เขาคนนี้เป็นใครกันแน่ ถึงได้หน้าตาเหมือนสามีของเธอไม่ผิดเพี้ยน แต่พิจารณาจากพฤติกรรมแล้วเขาคงไม่ได้มาร้าย
กับเธออย่างแน่นอน มิเช่นนั้นเขาคงทำอะไรต่อมิอะไรกับเธอไปแล้วเป็นแน่

หวานค่อย ๆ เปิดชายมุ้งมุดออกมากำลังตัดสินใจอยู่ว่าพอเขาตื่นขึ้นมาจะซักถาม หรือจะปล่อยนิ่งเฉยดูไปก่อนว่าผุ้ชายคนนี้
ทำแบบนี้เพื่ออะไร แล้วสามีตัวจริงของเธอหายตัวไปไหนกันแน่ หวานนั่งเหม่อลอยคิดอยู่หลายตลบจนฉัตรชัยตื่นขึ้นมา แล้ว
เดินมานั่งเคียงข้างโอบไหล่ของเธอเบาๆ จนเธอสะดุ้งเฮือก

"ตื่นแต่เช้าเลยหรือจ๊ะ...มีอะไรให้พี่ช่วยบ้างจ๊ะ"

[post]เสียงทุ้มอ่อนนุ่ม จนหวานรู้สึกถึงไออุ่นที่อ่อนโยนแผ่สร้านออกมาจากฝ่ามือของเขา แล้วก็ตัดสินใจได้ณ.บัดนั้นว่าเธอจะนิ่ง
เฉยไปก่อน เพื่ออยากดูพฤติกรรมของชายคนนี้อีกครั้ง เพราะมั่นใจว่าเขาไม่ได้มาร้ายกับเธอแน่นอน

ep.17

ชัดชายตื่นขึ้นมาบนเตียงนอนที่แสนอ่อนนุ่มนอนสบายของพี่ชายฝาแฝด ครั้งแรกที่ลืมตาขึ้นมาก็รุ้สึกงุนงงว่าตนเองนอนอยู่
ที่ไหน ด้วยยังไม่คุ้นกับสถานที่ แต่พอลำดับเรื่องราวรู้ว่ากำลังนอนอยู่ที่บ้านของมารดา และบนเตียงของพี่ชายตนเอง รอยยิ้ม
แบบมีเลสนัยก็ปรากฎขึ้นที่มุมปาก พร้อมพรำพึมพูดกับตนเองคนเดียวว่า

"ถึงเวลาของกูบ้างละที่จะสุขสบาย....กูจะเอาคืนทุกอย่าง พวกมึงสองคนแม่ลูกต้องชดใช้กับกูกับพ่อ....ฮาๆๆๆๆๆ...สนุกชิบหาย
เลยว่ะฮาๆๆๆๆๆๆ...สะใจจริงโว๊ยยยย....แบบนี้เขาเรียกว่าสวรรค์มีตา...จู่ๆ พวกมึงก็เดินเข้ามาหากูเอง.."

ชัดชายทั้งหัวเราะทั้งพร่ำพูดอยุ่คนเดียว เหมือนขาดสติด้วยความดีใจ แล้วรีบดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงอ่อนนุ่มเมื่อนึกขึ้นได้ว่า
วันนี้นัดกับคุณหมิว คู่หมั้นของพี่ชายตนเอง หลังจากเสียเวลาอาบน้ำโกนหนวดให้ดูสะอาดเอี่ยมเหมือนภาพลักษณ์ของฉัตรชัย
แล้ว ก็เดินผิวปากลงมาจากชั้นบน เหลือบตามองที่ห้องรับแขกเห็นคุณนายแจ่มจรัสนั่งอยุ่ ชัดชายก็ปรับสีหน้าที่เริ่งร่า กระเหี้ยนกระหือรือมาเป็นใบหน้าเรียบเฉย ซ่อนรอยยิ้มสะใจอำพรางเอาไว้ภายในหน้ากากมนุษย์รูปหล่อของตนเอง

"สวัสดีครับแม่...." ชัดชายเดินตรงไปนั่งข้างมารดา จับมือหญิงชราขึ้นมากุมแสดงความรักความเอาใจใส่

"จ๊ะลูก...จะไปไหนแต่เช้าจ๊ะ..ทานข้าวเช้ากับแม่ก่อนได้มั๊ย...แม่รอลูกอยู่.."

คุณนายแจ่มจรัสมองหน้าบุตรชายคนเล็กด้วยความรักอาทร พอเขาตอบรับเธอก็ยิ้มด้วยความดีใจ กุลีกุจอสั่งแม่บ้านให้ตั้ง
สำรับอาหารเช้า แล้วเดินจูงมือบุตรชายไปนั่งโต๊ะอาหารด้วยกัน

สองคนแม่ลูกที่ห่างเหินกันไปมากกว่า30ปี ต่างมีเรื่องคุยกันตามประสาแม่ลูกมากมาย แต่คุยกันได้สักพักใหญ่ๆจนเกือบ
10โมงเช้า ชัดชายก็ขอตัวบอกกับมารดาว่าจะออกไปเที่ยวสักหน่อย

"แล้วลูกจะไปยังไงกันล่ะ...รุ้จักถนนหนทางในกรุงเทพดีแล้วหรอจ๊ะ..." มารดาถามด้วยความเป็นห่วง

"ไม่เป็นไรหรอกครับแม่..ผมไปไม่ไกลหรอกครับ เดี๋ยวจะหลง...."

นี่คงเป็นครั้งแรกที่ชัดชายพูดความจริงกับมารดาของตนเอง เขาคงไม่ไปไกลหรอก ไกลที่สุดก็คงแค่บ้านของมล.ลาวัลย์
เท่านั้นเอง

"จ๊ะลูก...เอาไว้ถ้าอยากไปไกลๆ ใจกลางกรุงเทพ แม่จะขับรถพาไปเองนะลูกนะ....แล้วไปเที่ยวนี่มีเงินติดตัวละยังจ๊ะ.."

มารดาถามด้วยความเป็นห่วง พอเห็นบุตรชายอ้ำอึ้ง เธอก็เดินไปหยิบเงินจากในห้องนอนของเธอที่อยุ่ชั้นล่างใกล้ๆห้องรับ
แขก มายื่นให้ชัดชายปึกหนึ่งโดยไม่ได้นับ

"ขอบคุณครับแม่..."

ชัดชายยื่นมือไปรับแล้วยกมือไหว้ผู้เป็นแม่ ก่อนจะโอบกอดร่างบอบบางของมารดาไว้แล้วหอมแก้มประจบเอาใจจนมารดา
จั๊กกะจี๋ต้องบอกให้หยุด จากนั้นชัดชายก็เดินออกไปจากห้องรับแขกตรงไปยังรถสปอร์ตวอลโว่สีแดงของพี่ชายที่จอดอยู่ใน
โรงรถ แล้วขับออกไปอย่างเร็ว โดยมีมารดายืนมองตามหลัง ใบหน้านางเต็มไปด้วยรอยยิ้มของความสุข
.........................................................
อีกด้านหนึ่งของอำเภอสรรพยา เสียงโครงเครงของรถกระบะเก่าๆวิ่งมาตามถนนจนถึงตลาดสด ที่มีของขายมากมายทั้งของ
กินของใช้ ของที่ระลึก ฉัตรชัยหาที่จอดรถได้แล้วก็เดินจุงมือหวานน้องสะใภ้ เข้าไปที่ร้านอาหารเล็กๆแห่งหนึ่ง หลังจากที่
สั่งอาหารมาทานกันสองคนได้แล้ว ฉัตรชัยก็บอกให้หวานรออยู่ในร้านก่อน ส่วนตนเองขอออกไปทำธุระสักครู่ จากนั้นก็เดิน
ออกจากร้านอาหาร ข้ามถนนไปฝั่งตรงกันข้ามเดินย้อนกลับไปสองสามช่วงตึกก็เห็น ร้านจำหน่ายทองคำชือร้านแม่ทองใบ

ฉัตรชัยตรงเข้าไปขายสร้อยทองน้ำหนัก5บาทของตนเอง หลังจากโดนหักโน่นนี่ตามระเบียบของร้านก็ได้เงินกลับมา9หมื่น
กว่าบาท ก่อนจะเดินกลับมาที่ร้านอาหารที่หวานรออยู่ ฉัตรชัยแวะเข้าไปซื้อโทรศัพท์มือถือถูกๆราคาไม่กี่พันบาทมาใช้
เครื่องหนึ่ง เพื่อการติดต่อกับมารดาที่บ้าน ระหว่างที่ฉัตรชัยออกไปทำธุระอยู่นั้น ที่ร้านอาหารที่หวานนั่งรออยู่ป้าสมแม่ค้า
ล็อตตอรี่ก็เดินเข้ามาทักหวานที่ในร้าน สอบถามสารทุกข์สุกดิบกันตามประสาคนรุ้จักกัน

"นี่แม่หวานรู้มั๊ยว่า...คุณชัดผัวเธอน่ะเขามีพี่ชายเป็นเศรษฐีเชียวน๊า..."

แม้จะโดนฉัตรชัยขู่ห้ามนำเรื่องไปบอกต่อกับคนอื่นแล้ว แต่ป้าสมก็คงลืมหรือไม่ก็คงคันปากอยากเล่า อีกทั้งเห็นว่าไม่ได้เล่า
ให้ใครที่ไหนฟังสักหน่อย เล่าให้เครือญาติกันฟังไม่น่าจะเป็นอะไร แต่คนฟังถึงกับทำหน้างุนงง ด้วยอยุ่กับสามีมาเกือบ20ปี
ตนไม่เคยล่วงรู้มาก่อนสักครั้งว่าสามีตนจะมีญาติที่ไหน โดยเฉพาะญาติที่เป็นเศรษฐีนี่ยิ่งไม่เคยได้ยินมาก่อน

"ป้าเอาอะไรมาพูด...ฉันไม่เคยรู้เคยเห็นพี่ชัดเค้าจะมีญาติสักคน...." หวานตอบไปโดยซื่อ

"เย้ย...ป้าจะมาหลอกแกทำไม ไม่ใช่ญาติเฉยๆด้วยนะ น่าจะเป็นพี่น้องฝาแฝดกันอีกด้วย..."

จากนั้นป้าสมก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดเท่าที่แกรู้ถ่ายทอดให้หวานฟังจนหมดสิ้น จากนั้นก็ขอตัวเดินออกไปจากร้านเพื่อจะไป
ขายหวยของแกต่อที่ปั้มน้ำมันแห่งนั้น หลังจากป้าสมจากไปแล้วหวานมานั่งทบทวนเรื่องราว ก็เชื่อมั่นว่าบุรุษที่อยู่กับเธอมา
ทั้งวันกับอีกหนึ่งคืน น่าจะเป็นฝาแฝดของสามีเธออย่างแน่นอน แต่เขาสองคนจะสลับตัวกันมาเพื่อสิ่งใดเท่านั้นที่เธอยังหา
คำตอบไม่ได้ แต่ด้วยจิตสัมผัสส่วนตัวของหวาน ก็มั่นใจว่าแฝดของสามีเธอไม่ได้มาเพื่อจุดประสงค์ร้ายกับตัวเธอและลูก
อย่างแน่นอน

หวานนั่งรออยู่ในร้านอีกสักครู่ สามีกำมะลอของเธอก็กลับมา จากนั้นสองคนก็พากันเดินเที่ยวซื้อของกินของใช้ในตลาด
โดยเฉพาะร้านสุดท้ายที่สามีกำมะลอผู้นี้พาหวานแวะเข้าไปคือร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า เขาให้หวานเลือกดูทีวีและจ่ายเงิน
ซื้อให้อย่างไม่ต่อรองเรื่องราคาแม้สักบาทเดียว คราวนี้เธอเชื่อคำป้าสมที่พูดว่าแฝดของสามีเธอนั้นรวยเข้าขั้นเศรษฐี
อย่างแน่นอน

"พี่ก่อนกลับบ้านไปเยี่ยมแก้วมันก่อนนะจ๊ะ.." ฉัตรชัยทำหน้างงๆ แล้วค่อยนึกขึ้นได้ว่าแก้วนั้นคือลูกของชัดชายกับหวาน
นั่นเอง

"เอาสิจ๊ะ....พี่ก็คิดถึงลูกเหมือนกัน"

ฉัตรชัยทำเนียน แต่หวานกลับเงยหน้าขึ้นมอง อยากจะยิ้มแต่ต้องกลั้นไว้แทบแย่ที่เห็นสามีกำมะลอของเธอทำท่าทางคิดถึง
ลูกแก้วได้แนบเนียนเหมือนกัน หวานเริ่มนึกสนุก เธอตั้งใจว่าจะไม่ซักถามเรื่องราว แต่จะบีบให้ผู้ชายคนนี้ยอมสารภาพออก
มาด้วยตนเองดีกว่า หลังจากที่พากันขับรถไปร้านเสื้อของพี่เพ็ญ ญาติของหวาน ยัยแก้วเห็นพ่อกับแม่มาหาก็วิ่งโผเข้ากอด
ฉัตรชัยด้วยความดีใจ จนหวานต้องรีบดึงตัวออกมาหลังจากปล่อยให้ลูกสาวกอดพ่อปลอมๆของเธออยู่ครู่หนึ่ง

"พ่ออ่ะ...ผิดสัญญา...ไหนบอกว่าจะมาเยี่ยมนู๋บ่อยๆไงคะ..."

แก้วจีบปากจีบคออ้อนพ่อ กอดแขนแน่น แม้จะโดนผู้เป็นแม่แกะออกไปหลายครั้ง พอแม่เผลอเธอก็เข้ามากอดพ่ออีกครั้ง
ส่วนฉัตรชัยไม่ได้เตรียมตัวรับสถานการณ์เช่นนี้ เมื่อโดนหลานสาววัยสาวรุ่นกอดนัวเนียๆ ก็ทำหน้าไม่ถูก นมต้มของหลาน
สาวหาใช่เล็กๆเสียเมื่อไหร่ ขนาดน้องๆของผู้เป็นแม่เลยทีเดียว มากอดมาเสียดสี จนฉัตรชัยกระอักกระอ่วน แต่หวานก็แก้ไขสถานการณ์ให้อย่างดี ด้วยการดึงตัวลูกสาวไปกอดรัดบ้าง ดึงไปนั่งข้างๆตัวเธอเสียแทนบ้าง

กว่าจะล่ำลายัยแก้วกลับมาได้ก็เสียเวลาไปชั่วโมงกว่าๆ พร้อมกับสัญญาว่าจะแวะมาหาเธอตอนเข้ามาในอำเภอ เด็กแก้วจึง
ยอมให้พ่อกับแม่กลับกันได้ แต่ก่อนจะกลับฉัตรชัยควักเงินออกมายื่นให้หลานสาวห้าพันบาท

"ให้ลูกมันติดตัวไว้ใช้น่ะหวาน เผื่อมันอยากได้อะไรแบบเด็กสาวๆเค้าบ้าง..."

ฉัตรชัยอ้อมแอ้มตอบเมื่อถูกหวานจับตามอง ส่วนหลานสาวก็ยิ่งดีใจ เพราะเธอไม่เคยได้รับเงินมากมายขนาดนี้มาก่อน จึง
โผกอดแล้วหอมแก้มพ่อปลอมๆของเธอเสียยกใหญ่ เดือดร้อนถึงหวานต้องรีบแยกลูกสาวออกพร้อมตำหนิเบาๆว่าโตเป็น
สาวแล้วมากอดพ่อหอมพ่อแบบนี้มันไม่งาม จากนั้นสองคนผัวเมียก็เดินทางกลับบ้านเรือนไทยกัน
.............................................................................
หลังจากชัดชายขับรถสปอร์ตของพี่ชายออกมาจากบ้านแล้วก็ขับตรงไปห้างสรรพสินค้าชื่อดังใกล้ๆบ้าน เดินเข้าไปนั่งสั่ง
กาแฟมาดื่มพร้อมหยิบโทรศัพท์โทรหาคุณหมิว รอสายเรียกสักครู่เสียงหวานๆไพเราะของคู่หมั้นพี่ชายก็กรอกเสียงมา

"สวัสดีค่ะคุณพี่...ตอนนี้อยู่ไหนแล้วคะ...หมิวแต่งตัวรอแล้วนะคะ...


หลังจากชัดชายขับรถสปอร์ตของพี่ชายออกมาจากบ้านแล้วก็ขับตรงไปห้างสรรพสินค้าชื่อดังใกล้ๆบ้าน เดินเข้าไปนั่งสั่ง
กาแฟมาดื่มพร้อมหยิบโทรศัพท์โทรหาคุณหมิว รอสายเรียกสักครู่เสียงหวานๆไพเราะของคู่หมั้นพี่ชายก็กรอกเสียงมา

"สวัสดีค่ะคุณพี่...ตอนนี้อยู่ไหนแล้วคะ...หมิวแต่งตัวรอแล้วนะคะ..."เสียงคุ่หมั้นของพี่ชายสดใสเริงร่า ไม่รุ้ชะตากรรมแม้สัก
นิดว่ากำลังหลงกลเดินเข้าไปสู่ปากพยัคฆ์ร้าย

"พี่อยุ่ทีศูนย์การค้า....ครับ..พอดีขับรถมายางโดนตะปูตำน่ะครับ..เลยไปหาน้องหมิวที่บ้านไม่ได้...น้องมาหาพี่ได้มั๊ยครับ..."

ชัดชายจำเป็นต้องเล่นมุกนี้ เพราะตัวเค้าไม่รู้จักเส้นทางไปบ้านของคุณหมิว แล้วรอลุ้นว่าคุณหมิวจะตอบตกลงมาพบที่ศูนย์
การค้าได้หรือไม่ หลังจากเงียบไปเพียงครู่ คุณหมิวก็ตอบรับว่ามาเองก็ได้ ทำให้ชัดชายยิ้มร่าด้วยความดีใจ จัดการนัดสถาน
ที่ เวลากันเรียบร้อยก็นั่งละเลียดจิบกาแฟรออย่างใจเย็น

ช่วงระหว่างที่คุณหมิวเรียกแท็กซี่ให้มาส่งที่ศุนย์การค้านั้น เป็นเวลาเดียวกับที่ฉัตรชัยกลับมาจากตลาดในตัวอำเภอสรรพยา
พอถึงบ้านเรือนไทยเขาปลีกตัวจากหวาน โทรศัพท์ไปหาคุณหมิวด้วยความคิดถึง แต่กดโทรสายติดสักครู่ก็โดนกดสายทิ้ง
ฉัตรชัยพยามโทรหาอีกสามสี่ครั้ง แต่ก็โดนตัดสายทิ้งตลอด เขาจึงเปลี่ยนใจโทรไปหามารดาแทน

"แม่ครับ..ผมฉัตรนะครับ......" ฉัตรชัยรีบพูดอย่างร้อนรนทันทีที่มารดารับสาย

"อ้าว...ลูกเองหรอจ๊ะ..เอาเบอร์ใครโทรมาล่ะ..." เสียงมารดาเรียบๆ แต่ก็แฝงความประหลาดใจที่ลูกชายคนโตโทรมาหา

"แม่ครับ...เบอร์ใหม่ผมน่ะครับ ผมน่าจะลืมโทรศัพท์ทิ้งไว้ในรถตอนที่น้องขับมาส่ง..."เสียงของฉัตรชัยดูลุกลี้ลุกลน จนผู้
เป็นมารดาเริ่มแปลกใจ

"ฉัตร..ลูกเป็นกังวลเรื่องอะไรจ๊ะ..แม่ฟังน้ำเสียงเหมือนลูกร้อนใจยังงั้นแหละ..."

"แม่ครับ...ฟังผมให้ดีนะครับ...ผมเกรงว่านายชัดจะเอาโทรศัพท์ผมไปใช้...แล้วเอ่อ...เขาอาจติดต่อกับน้องหมิวน่ะครับแม่...
แม่ช่วยเช็คอะไรบางอย่างให้ผมได้มั๊ยครับ..."พอพูดจบมารดาฉัตรชัยก็รับปากทันที

"คืองี้นะครับแม่...ผมลองโทรไปหาน้องหมิวแล้ว เธอกดสายผมทิ้ง คงเพราะว่าเป็นเบอร์ที่เธอไม่รู้จัก แต่ถ้าแม่โทรไปหาน้อง
หมิวน่าจะรับสาย ผมอยากให้แม่ถามว่าตอนนี้เธอกำลังทำอะไรอยู่ครับ..."

"ได้สิจ๊ะลูก...งั้นแม่วางสายแล้วโทรหาเลยนะ สักครุ่ลูกค่อยโทรมาหาแม่อีกครั้งนะจ๊ะ...."
....................................................................
ขณะที่คุณหมิวนั่งอยู่บนรถรับจ้าง เสียงโทรศัพท์เรียกเข้ามาหาเธอ จึงยกขึ้นมองเบอร์ที่โทรมา เธอไม่คุ้นกับเบอร์นี้เลย
เพราะเบอร์โทรศัพท์นี้ของเธอเป็นเบอร์ส่วนตัวมีเพียงไม่กี่คนที่รู้ เมื่อเห็นเบอร์ไม่คุ้นโทรมาคุณหมิวก็กดตัดสายทิ้ง สักครุ่
ฝ่ายนั้นก็โทรมาใหม่ แล้วคุณหมิวก็ตัดสายทิ้งอีกครั้งพร้อมพรึมพรำในใจคนเดียวว่า ใครโทรมาทำไมนะ พวกโรคจิตแน่ๆ
เลยที่โทรมาหาแบบนี้ จนสายนั้นโทรติดๆกันอีกสามสี่ครั้ง คุณหมิวรำคาญจึงกดปิดสัญญาณของมือถือเธอไป สักพักใหญ่ๆ
จึงกดเปิดสัญญาณอีกครั้ง
..........................................................................
"แม่ครับ...น้องหมิวว่าไงครับ..."

ฉัตรชัยโทรหามารดาอีกครั้ง พอเธอรับสายเขาก็รีบถามออกไปอย่างร้อนรน ด้วยความรุ้สึกเหมือนมีรางสังหรณ์ว่าจะเกิด
เรื่องร้ายกับคุ๋หมั้นสาวของตน

"แม่ติดต่อนู๋หมิวไม่ได้น่ะลูก เหมือนจะปิดโทรศัพท์...." คุณนายแจ่มจรัสก็เริ่มรุ้สึกกังวล

"งั้นเอาแบบนี้นะครับ ..แม่โทรหาเครื่องผมที่เบอร์เดิมนะครับ.....ถ้านายชัดมันรับสาย แม่ก็ทำทีว่าโทรมาคุยกับผม อย่าเพิ่ง
ให้นายชัดมันรู้ว่าแม่รู้เรื่องโทรศัพท์ผมหาย ได้มั๊ยครับ..."

"ได้จ๊ะลูก...แม่วางสายนะจ๊ะ...สักครุ่พอได้เรื่องอะไรแม่จะโทรหาลูกเอง...." พอมารดาวางสาย ฉัตรชัยก็สะดุ้งเมื่อหวานเดิน
มาอยู่ด้านหลังแล้วถามเขาว่าโทรคุยกับใคร

"เอ่อ...พี่โทรคุยกับนายจ้าง ที่พี่ไปทำงานพิเศษมาจ๊ะ..."

ฉัตรชัยตอบอ้ำๆอึ้งๆ พยายามซ่อนพิรุทเต็มที่ แต่โชคดีที่หวานไม่ได้ซักถามต่อ เธอเดินเข้ามาโอบด้านหลังของฉัตรชัย
พร้อมกล่าวขอบคุณที่เค้าซื่อข้าวของมากมายเข้าบ้าน โดยเฉพาะทีวี เธออยากได้มานานแล้ว

"จะต้องมาขอบคุณพี่ทำไมกันล่ะ...นี่มันหน้าที่ของผัวนี่จ๊ะ..."

ฉัตรชัยรู้สึกกระดากปากเหมือนกันที่พูดคำนั้นออกมา แล้วก้ยิ่งรู้สึกอึดอัดมากขึ้นเมื่อหวานรัดวงแขนแน่นขึ้น จนอกอวบอิ่ม
ของเธอแนบกับแผ่นหลังของเขาเต็มที่

"เจ้านายพี่คงจะใจดีนะจ๊ะ...พี่ถึงได้เงินมาซื้อของตั้งมากมาย..."

ฉัตรชัยจำต้องยินนิ่งค้างแข็ง เมื่อโดนวงแขนของหวานกอดรัดแน่น ส่วนหวานพอเห็นฉัตรชัยทำท่าทางแบบนั้น เธอก็ลอบ
อมยิ้มขำๆ รุ้สึกสนุกที่ได้แกล้งฝาแฝดของสามีเธอ พร้อมครุ่นคิดอยู่ในใจว่า เธอต้องทำให้ผู้ชายคนนี้สารภาพออกมาจาก
ปากให้ได้ว่า สลับตัวกันมาเพื่อประสงค์สิ่งใด
................................................
"ลูกฉัตรเป็นยังไงบ้างจ๊ะ...อยู่บ้านน้องคืนนึงนอนหลับสบายมั๊ยลูก..." คุณนายแจ่มจรัสโทรเข้าเบอร์มือถือของฉัตรชัยเบอร์
เดิม พอฝ่ายตรงข้ามรับสาย เธอก็ชิงพูดขึ้นมาเหมือนกำลังโทรหาบุตรชายแฝดคนโต โดยไม่รู้เรื่องราวอื่นใด

"เอ่อ...ก็สบายดีครับแม่...ผมอยุ่ที่นี่ก็สุขสบายดี ไม่ได้ลำบากอะไรเลย ว่าแต่แม่มีธุระอะไรกับผมหรือครับ..."

ชัดชายรับสมอ้างตัวเป็นพี่ชายคุยกับมารดาทันที่ที่ได้ยินมารดาทักมาตามสาย หลังจากคุยกันอีกสักครุ่มารดาก็วางสายไป
แล้วเธอก็รีบโทรหาบุตรชายแฝดคนโตทันที แต่ไม่มีเสียงสัญญาณตอบรับ แม้จะลองกดโทรอีกสองสามครั้ง นางจึงวางสาย
แล้วเริ่มครุ่นคิดกังวลกลัดกลุ้มว่าบุตรชายแฝดคนโต มีเรื่องกังวลอะไร หรือจะเกรงว่าแฝดคนเล็กของนาง จะนัดเจอกับคุณ
หมิวคุ่หมั้นของพี่ชาย พอนางคิดถึงตรงนี้นางก็เริ่มรู้สึกไม่สบายใจตามไปด้วย
................................................
[post]เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงกับการจราจรที่แสนติดขัดของกรุงเทพมหานคร กว่ารถรับจ้างที่คุณหมิวเรียกมา จะมาถึงห้างสรรพ
สินค้าที่คู่หมั้นหนุ่มรออยู่ พอเธอลงจากรถก็โทรไปเข้าเครื่องของเขา ทราบว่าคุ่หมั้นนั่งรออยู่ที่ร้านกาแฟ คุณหมิวก็เดินอย่าง
สง่างามไปหา ชุดแซกสั้นสีบานเย็นขับผิวขาวละเอียดของเธอใหดูผ่องสว่างสดใส ประกอบกับรูปร่างสูงโปร่งระหง ใบหน้า
สวยหวานตามแบบฉบับลูกคุณหนูมีเงิน เวลาเยื้องกายก้าวเดิน ต่างมีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่เดินสวนมาจ้องมองจนแทบเหลียว
หลัง แต่คุณหมิวเธอชินกับเหตุการณ์แบบนี้มานานนักหนา ทุกย่างก้าวเดินของเธอจึงเต็มไปด้วยความมั่นใจ เต้มไปด้วยความ
งามสง่าดุจนางแบบเดินบนแคทวอร์ค

"สวัสดีค่ะคุณพี่...."

ep.19

คุณหมิวเดินเข้าไปในร้านกาแฟ มองเห้นคุ่หมั้นหนุ่มนั่งอยู่มุมด้านในตามลำพัง จึงเดินเข้าไปทักยกมือไหว้สวัสดี ด้วยถูก
อบรมเรื่องมารยาทมาตั้งแต่วัยละอ่อน แต่คู่หมั้นหนุ่มที่ยกมือรับไหว้ พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองสบตา สายตาของเขาแวว
วาวจนทำให้คุณหมิวถึงกับสะเทิ้นอาย บ่นอุ๊บอิ๊บพอให้ได้ยินกันแค่สองคนว่า คุณพี่มองจนน้องอายหมดแล้วนะคะ...ชัดชาย
ถึงรุ้สึกตัวที่ปล่อยให้ความรุ้สึกหิวกระหายเหยื่อของตนเอง แสดงกิริยาไม่ควรในที่สาธารณะ

"ก็น้องหมิวของพี่สวยขนาดนี้....พี่ก็เลยเผลอมองนานไปหน่อยสิครับ...." ชัดชายแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ

"แต่สายตาคุณพี่มองเหมือนจะกินหมิว...รู้มั๊ยคะ..."
คุ่หมั้นสาวต่อว่าเบาๆ ไม่จริงจังนัก ใบหน้าขาวผ่องกลายเป็นสีชมพูระเรื่อ

"แหะๆๆๆ...น้องหมิวเก่งจัง อ่านสายตาพี่ออกว่าอยากจะกินน้องหมิวทั้งตัว...."

ชัดชายจีบคู่หมั้นพี่ชายดื้อๆ ด้วยชั้นเชิงของผู้ชำนาญ ผิดกับพี่ชายที่รักและถนอมคู่หมั้นให้เกียรติยกย่อง ไม่เคยพูดหรือ
แสดงกิริยาให้เธออายในที่สาธารณะแบบนี้ แต่จะมีใครรู้บ้างหรือไม่ว่า ในใจของมล.ลาวัลย์นั้นกลับตื่นเพลิดกับคำชม กับ
กิริยาแบบนี้ของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงกันข้าม แม้มันจะดูแปลกไปบ้าง แต่เธอกลับคิดว่าคู่หมั้นหนุ่มคงรู้สึกแบบนั้นจริงๆ
เลยพูดออกมา

หลังจากชัดชายสั่งเครื่องดื่มให้คู่หมั้นของพี่ชายแล้ว ทั้งสองคนก็นั่งละเลียดดื่มกันช้าๆ แบบไม่เร่งรีบพูดคุยหยอกล้อกัน
อย่างสนิทสนม ชัดชายฉวยโอกาสกุมมือของคุณหมิวที่วางอยู่บนโต๊ะไว้แน่น แม้เธอจะพยายามดึงมืออกด้วยความอาย
สายตาคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ แต่ชัดชายกลับไม่ยอมจนที่สุดเธอก็ต้องปล่อยให้คุ่หมั้นหนุ่มนั่งกุมมือไปอย่างนั้น จนพากันเดิน
ออกจากร้าน

"น้องหมิวอยากไปไหนครับ ดูหนังกันมั๊ย..." ชัดชายกุมมือคู่หมั้นของพี่ชายแน่น พร้อมบีบเป็นจังหวะตลอดทางที่เดินมา
ด้วยกัน จนรู้สึกว่าฝ่ามือของคุณหมิวเริ่มชื้น

"ไม่ดีกว่าค่ะ..ช่วงนี้ไม่เห็นมีภาพยนต์สนุกเลย..." คุณหมิวตอบเสียงอ่อนๆเบาๆ แสนไพเราะ รุ้สึกว่าฝ่ามือของตนที่โดนคุ่
หมั้นหนุ่มกุมแล้วบีบกระตุ้นเป็นจังหวะนั้นเริ่มชื้น ใจสาวก็เต้นระส่ำ หน้าเริ่มแดงกร่ำแม้ว่าอากาศในห้างสรรพสินค้าจะเยือก
เย็นด้วยเครื่องปรับอากาศ

"งั้นพี่ขับรถเล่นพาไปทานอาหารทะเลใกล้ๆกรุงเทพดีมั๊ยครับ...."

เสือผู้หญิงอย่างชัดชายพอมองออกว่าตอนนี้คุ่หมั้นของพี่ชายคงกำลังใจเต้นระส่ำ เมื่อโดนเขากระตุ้นความรุ้สึกด้วยการบีบ
มือเน้นๆเป็นจังหวะเต้นของหัวใจ เมื่อเขาชวนเธอไปนั่งรถเล่นเธอก็พยักหน้าตอบตกลง สองคนเดินเคียงคู่กันไปจนถึงลิฟท์
ชัดชายกดเรียกลิฟท์เพื่อให้พาไปยังลานจอดรถเบื้องบน ขณะกำลังรอให้ลิฟท์ลงมานั้นชัดชายฉวยจังหวะที่ปลอดคน เอียง
หน้าก้มลงจุบแก้มคู่หมั้นของพี่ชายดังฟอด จนคุณหมิวเอียงอายตัดพ้อเบาๆว่าอายคนเขา แต่กลับไม่เบนหน้าหนี ปล่อยให้
ชัดชายจูบอีกหลายฟอดจนลิฟท์ที่ถูกกดเรียกลงมาจอดหยุด พร้อมเปิดประตูอ้าออก มีหนุ่มสาวหลายคนทะยอยเดินออกมา
จากลิฟท์

ชัดชายแทบจะประคองร่างระหงของคุณหมิวเข้าไปในลิฟท์ เงยหน้ามองเห็นกล้องวงจรปิดติดอยู่ตรงหลังคาลิฟท์ เขารีบ
เบี่ยงตัวคุณหมิวเข้าพิงผนัง แล้วก้มหน้าจูบปากคุณหมิวแรงๆ แบบที่เธอก็ไม่ทันตั้งตัว คุณหมิวเม้มปากแน่นพยายามส่าย
หน้าหนี แต่ปากหนาอุ่นจนร้อนของชัดชายก็ตามกดบดจูบไม่ลดละ มือหยาบใหญ่ลูบไล้กดเน้นตามแนวกระดูกสันหลังจาก
ด้านบนต้นคอลงมาทีละข้อๆจนถึงเอว ก็ดึงร่างระหงของคุณหมิวเข้ามาหา แนบกับร่างของตนจนแทบสนิท

คุณหมิวผวาใจเต้นระทึกริมฝีปากร้อนเหมือนไฟของคุ่หมั้นหนุ่มที่กดแนบกับริมฝีปากบางสีชมพูเข้มของตนนั้น พยายาม
สอดปลายลิ้นเข้ามาหา แต่เธอก็เม้มปากแน่น กลัวว่าจะมีใครมาพบเห็น พยามยามเบี่ยงหน้าหนีแต่คู่หมั้นก็ไล่ตามไม่ลดละ
นิ้วของเขาไต่นวดเบาๆตามแนวกระดูกสันหลังทีละข้อๆ จนคุณหมิวรู้สึกสยิวซู่ แล้วก็ตกใจจนอ้าปากจะร้องว๊าย เมื่อคุ่หมั้น
ฉวยจังหวะดึงร่างสูงระหงของเธอเข้ามาแนบ

ความรุ้สึกของเธอบอกกับตนเองว่า เนินสาวอกอวบของตนกับกำลังแนบอยู่กับเรือนร่างของคุ่หมั้นหนุ่มจนแทบสนิท โดย
เฉพาะตรงเนินสาวที่ประทะกับดุ้นแข็งๆตรงกลางลำตัวของเขา จนคุณหมิวต้องโก่งก้นออก ปากอ้าโดนเขาฉวยโอกาสสอด
ลิ้นเข้าไปโลมไล้ตามกระพุ้งแก้ม จนเผลอไผลต้องยื่นลิ้นของตนเองตอบโต้ แล้วก็โดนคุ่หมั้นดูดปลายลิ้นเล่นเบาๆ จนใจ
เต้นระส่ำ เหมือนจะขาดใจตายไปตรงนั้น ดีแต่ว่ามีเสียงดังกริ๊งขึ้นในลิฟท์แล้วประตูก็เปิดออก โชคดีที่ไม่มีใครยืนรออยู่หน้า
ลิฟท์ มิฉนั้นเธอคงอายแทบแทรกแผ่นดินหนีเป็นแน่

"คุณพี่อ่ะ...รังแกน้องไม่ดูที่ดูทาง.."

เธอต่อว่าคู่หมั้นหนุ่มเบาๆ หน้าแดงเข้มด้วยเลือดสาว ไม่กล้าสบสายตาแวววาวของเขา เสก้มมองต่ำ แล้วก็ยิ่งหน้าแดง
กร่ำขึ้นมาอีก เมื่อสายตาเธอประทะกับความแข็งนูนเป็นก้อนตรงเป้ากางเกงของเขา

"อย่าต่อว่าพี่เลยทูนหัวจ๋า...ใครใช้ให้น้องหมิวของพี่สวยขนาดนี้ล่ะครับ สวยจนพี่อดใจไม่อยู่..."

พอประตูลิฟท์เปิดออก ชัดชายมองซ้ายมองขวา พอเห็นว่าปลอดคน ก็เอื้อมแขนไปโอบร่างระหงของคู่หมั้นพี่ชายพาดฝ่า
มือจับที่ต้นแขนขาวผ่อง นวลเนื้อละเอียดแล้วดึงร่างเธอมาแนบ พากันเดินออกจากลิฟท์ แม้ฝ่ามือที่แนบกับต้นแขนสาว
แต่ปลายนิ้วกลางของฉัตรชัยกับพยายามเหยียดตรง จนสัมผัสแผ่วๆกับเนื้ออกอวบด้านข้างของคุณหมิว ตามจังหวะก้าว
เดินก็ยิ่งสัมผัสยิ่งเสียดสี จนขนแขนของคุณหมิวลุกเกลียว หน้ายิ่งแดงเข้มด้วยความอายผสมกับความสยิว นึกแปลกใจว่า
วันนี้ทำไมคู่หมั้นหนุ่มของเธอจึงลุกประชิดจนเธอตั้งตัวแทบไม่ทัน

แต่คุณหมิวก็ไม่ได้ออกปากตำหนิติเตียนที่เขาทำลุ่มล่ามกับเธอ ด้วยคิดว่าเขาคงคิดถึงเธอมาก เพราะไม่ได้เจอกันมากว่า
สิบวัน ในใจลึกๆคุณหมิวก็ชอบที่คู่หมั้นหนุ่มทำกับเธอแบบนี้ ไม่ต้องเป็นสุภาพบุรุษกับเธอตลอดเวลาก็ได้ มีหวานๆ มีรุมเล้า
เร่าร้อนให้เธอตื่นเต้นบ้างก็คงไม่เป็นไร เพราะอีกไม่ถึงเดือนเขากับเธอก็จะแต่งงานกันแล้ว ประกอบกับsex phone ที่เขา
กับเธอทำกันครั้งโน้น เหมือนมันได้เปิดประตุใจให้คุณหมิวเรียนรู้กับความรู้สึกอีกแบบ ทีพ่อแม่มักสอนสั่งว่าเป็นสิ่งไม่ดี เธอ
อยากจะเถียงบุพการีใจจะขาดว่าถ้ามันไม่ดีทำไมใจสาวถึงเป็นสุขขนาดนั้น

จนเดินมาถึงรถสปอร์ตสีแดงของเขา ชัดชายกดรีโหมดเปิดประตูรถแล้วโอบร่างสุงระหงของคุณหมิวพาไปนั่งด้านข้างคนขับ
จากนั้นก็ก้มหน้าลงไปจูบแก้มนวลของเธออีกฟอด แล้วรีบวิ่งกลับมาด้านคนขับ เปิดประตูเข้าไปนั่งกดรีโหมดดึงหลังคารถ
ออกมาคลุม แล้วผวาร่างเข้าหาคุณหมิวทันที

ชัดชายดึงร่างคุณหมิวเข้ามาจูบปากเน้นๆแรงๆอีกครั้ง ตอนแรกเธอก็ยังเม้มปากแน่น พอโดนฝ่ามือของชัดชายไล้ลูบเบาๆ
ที่เนินอก คุณหมิวก็ครางเสียงกระเส่าเปิดริมฝีปากให้ชัดชายสอดลิ้นเข้าไปพัวพัน คุณหมิวหายใจแรงจนอกอวบกระเพื่อมแรง
เหมือนจะขาดอากาศหายใจ ลิ้นอ่อนพริ้วของคู่หมั้นหนุ่มโลมเลียพัวหันกับลิ้นของเธอ จนเธอสยิวจนแทบขาดใจ อีกทั้งมือ
ใหญ่นิ้วเรียวยาวที่ป้วนเปี้ยนตรงเนินอกสาว ไล้ลูบเบาๆสลับกับบีบเคล้นรุนแรง

จนคุณหมิวสยิวเสียวซ่านต้องแอ่นอกเชิด ปากสวยร้องซี๊ดๆออกมาเบาๆ มือเล็กๆ แขนเรียวยาวของเธอดูเกะกะ วางไม่ถูก
จนต้องยกขึ้นไปรวบผมด้านหลังศรีษะของคู่หมั้นหนุ่มดึงรั้งกระชากเข้าหา ปากบางเธอโดนกดจูบจนระบม แต่กลับยิ่งเสียว
ซ่านจนรู้สึกถึงความชื้นฉ่ำที่หลืบเร้นลับด้านใน

"คุณพี่ขา...ยะ...อย่ารังแกน้อง...ซี๊ดดด"

ปากร้องขอโอดโอยว่าอย่ารังแก แต่อกสาวกับแอ่นเชิดยามที่มือใหญ่ของคู่หมั้นบีบกระชับ แล้วครางซี๊ดดด้วยความเสียวสยิว
เมื่อคุ่หมั้นหนุ่มใช้ปลายนิ้วบดคลึงโดนเม็ดเล็กๆที่ยอดอก

"คุณหมิวของพี่น่ารักเหลือเกิน...."

ชัดชัยพูดเหมือนละเมอเมื่อถอนปากออกจากการจูบ แล้วไซ้ปากไซ้จมูกสูดดอมดมความหอมจนทั่วใบหน้าสาว แล้วไซ้ต่ำ
ลงมาจนถึงอกอวบตูมเต่งดันชุดแซกสีบานเย็นออกมาเป็นก้อนกลม โดยเฉพาะตรงหัวจุกเห็นมันดันออกมาเป็นเม็ดเล็กๆ
จนต้องเอาปลายนิ้วเข้าไปบดคลึง

ชัดชายเอื้อมมือไปด้านข้างของเบาะฝั่งคุณหมิว ควานหาปุ่มปรับเบาะไฟฟ้า พอเจอก็กดเบาะนั่งหนังสไตล์สปอร์ตสีดำ
สลับแดง ค่อยๆเลื่อนตัวเอนช้าๆ ทั้งด้านตนเองและด้านของคุณหมิว

"คุณพี่คะ....จะทำอะไร.." คุณหมิวร้องถามหน้าตาตื่นตกใจ

"พี่จะนอนคุยกับคุณน้องหมิวน่ะครับ...." ปากบอกจะนอนคุยแต่มือไม้กับป้วนเปี้ยนทั้งบนเนินอกอวบ และลำขาเรียวขาวที่
โพล่พ้นขอบชายกระโปรงแซกสั้นสีบานเย็น

"ไม่นะคะ...คุณพี่ นี่มันลานจอดรถนะคะ..."

เสียงคุณหมิวสั่นพร่า หน้าตาตื่นตกใจในการกระทำของคู่หมั้นหนุ่ม แล้วพยามยามลุกขึ้นตัวตรง ชัดชายเห็นว่าขืนผลี
ผลามทำอะไรบุ่มบ่ามไปไก่จะตื่นเสียก่อน จึงปรับเบาะฝั่งด้านตนเองขึ้น พร้อมส่งยิ้มปลอบใจให้คุ่หมั้นพี่ชาย

"ครับๆ...งั้นเราไปที่อื่นคุยกันนะ ทีที่จะไม่มีใครเห็นดีมั๊ยครับ"

ชัดชายพูดจบก็สตาร์ทรถ เสียงเครื่องยนต์แรงม้าสูงครางกระหึ่มก่อนจะกระชากออกตัวไป เสียงล้อยางบดพื้นซีเม็นต์ดัง
สนั่น ชัดชายครุ่นคิดไประหว่างที่ขับรถออกมาจากห้างสรรพสินค้า ว่าจะพาคุณหมิวไปเชือดที่ไหนดี อยากจะไปเรือนหอ
ของพี่ชายก็อยากไปอยู่ แต่ทว่าตนนั้นไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ใด ครั้นจะพาออกไปต่างจังหวัด มันก็จะชักช้าเกินการ ตอนนี้สมัน
ตัวน้อยๆกำลังเพลิดเพลิน ถ้ายิ่งชักช้าจะตื่นตัวเสียก่อน พยัคฆ์ร้ายที่กลายร่างทำเป็นแมวเซาจะอดกินเนื้อหวานๆของ
สมันสาวเสียก่อน แล้วชัดชายก็นึกได้ถึงสถานที่เร้นลับที่หนุ่มสาวมักพากันไปใช้บริการยามฉุกเฉินไร้ทางไป แต่ครั้นจะ
พาคุณหมิวเข้าไปในโมเต็ล ก็เกรงว่าเธอจะไม่ยินยอมพร้อมใจ

"คุณหมิวรักพี่มั๊ยครับ..." ชัดชายเอียงหน้าไปถามคู่หมั้นสาวของพี่ชายที่นอนคดคู้อยู่กับเบาะสีหน้าค่อยหายตื่นกลัว

"รักสิคะ..คุณพี่ถามเหมือนไม่รู้ใจหมิว...ถ้าไม่รักคุณพี่ หมิวจะยอมให้คุณพี่ทำแบบนี้หรือคะ..." คุณหมิวตอบกลับมา ใบหน้า
ค่อยดีขึ้นกว่าเมื่อสักครู่

"พี่รักคุณหมิวมาก....น้องหมิวไว้ใจพี่มั๊ยคะ..."

ชัดชายพูดพร้อมกับยื่นมือไปลูบศรีษะของคู่หมั้นพี่ชายอย่างรักใคร่เอ็นดู การกระทำที่อบอุ่นอ่อนโยนแบบนี้ ทำให้คุณหมิว
เริ่มหายหวาดกลัว อารมณ์ซ่านสยิวที่ลดลงไปเมื่อสักครู่เริ่มกลับมาอีกครั้ง จึงเอื้อมมือไปกอดเอวคู่หมั้นหนุ่มอย่างประจบ
เอาใจพร้อมบอก

"หมิวรักคุณพี่มากค่ะ...แล้วก็ไว้ใจคุณพี่ด้วย..."เสียงหวานใสไพเราะของเธอที่ตอบมา ทำให้ชัดชายแอบยิ้ม สายตามอง
เห็นป้ายโมเต็ลด้านหน้าห่างไปไม่เกิน200เมตร จึงชลอรถช้าลง

"รักพี่...ไว้ใจพี่ น้องหมิวต้องหลับตาสิคะ..."

แม้จะสงสัยว่าคู่หมั้นหนุ่มให้หลับตาทำไม แต่เธอก็เชื่อหลับตาแน่นสนิท เมื่อชัดชายค่อยเลี้ยวรถเข้าไปยังโมเต็ลข้างทาง
แล้วขับรถตามแสงไฟฉายของพนักงานเข้าไปจอดในม่านสีทึบหนาที่เปิดรอท่าไว้ รอจนพนักงานเดินมาข้างรถ ชัดชายก็
ควักแบ็งค์พันส่งให้พร้อมกระซิบบอกว่าไม่ต้องมารบกวน จนพนักงานเดินจากไปพร้อมรูดม่านด้านหลังรถปิดลงเรียบร้อย
แล้ว จึงบอกให้คุณหมิวลืมตา

มล.ลาวัลย์ลืมตาขึ้นมาก็เห็นแต่ความมืดแม้จะเป็นกลางวันก็ตามเถอะ เธอกวาดตามองรอบข้างของตัวเก๋งสปอร์ต เห็นมี
แต่ม่านสีทึบหนาปิดล้อมโดยรอบ เบื้องหน้าเห็นเพียงห้องเล็กๆทาสีสดใสกับบานประตูไม้ที่เปิดค้างคาอยู่

"ที่นี่ที่ไหนคะคุณพี่..." คุณหมิวถามงงๆ แต่ชัดชายกลับไม่ตอบ เพียงก้มหน้าลงมากระซิบที่ริมหูว่า

"ที่นี่จะไม่มีใครมารบกวนพี่กับน้องหมิวครับ...." พูดจบก็ซบหน้าจูบแก้มนวลของคุณหมิวฟอดๆ มือวางแหมะที่ลำขาวขาว
เรียวแล้วลูบไล้แผ่วเบา จนขนอ่อนๆของสาวสวยลุกเกรียว

คุณหมิวจะอ้าปากจะถามก็โดนริมฝีปากร้อนเหมือนเปลวไฟของคู่หมั้นหนุ่มแนบประกบลงมาแล้วบดขยี้หนักๆ จนริมฝีปาก
บางต้องแย้มออก ปล่อยให้ลิ้นอ่อนพริ้วของเขาสอดเข้ามาชอนไชพัวพัน

"คุณพี่ขา...ทำแค่นี้พอนะคะ...อย่ารังแกน้องอีกเลย..."

คุณหมิวพูดกระท่อนกระแท่น ขาดๆหายๆ เมื่อมือใหญ่ของคุ่หมั้นที่ลูบไล้ขาเรียวของเธอสอดล้วงลึกเข้าไปทีละนิดๆ จน
ปลายนิ้วแทบจะสัมผัสกับกลีบสาวภายใต้อันเดอร์แวร์เนื้อบางแบบซีทรูของเธอ

"ครับ...พี่ชายสัญญาว่าจะไม่รังแกทูนหัวมากไปกว่านี้..."

แล้วปลายนิ้วของชัดชายก็สัมผัสกับกลีบเนื้ออวบเป็นพรูของคุณหมิว หน้าก้มไซ้ต่ำลงมาจนปากสัมผัสกับโนมเนื้ออวบกลม
สองเต้า ที่กระเพิ่อมไหวตามจังหวะหายใจที่สะท้อนขึ้นๆลงๆ ของมล.ลาวัลย์ คู่หมั้นของพี่ชายฝาแฝดของตน

"อูยยยย..ซี๊ดดด...คุณพี่ขา...ยะ..อย่าดูดอกหมิวสิคะ....อ๊ายยยย..ว๊ายยยตายแล้ว ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ..อูยยยย...ซี๊ดด"

เสียงคุณหมิวครางกระเส่าเมื่อชัดชายอ้าปากงับปลายหัวนมเม็ดเล็กๆที่คัดแข็งจนดันบราไร้ฟองน้ำออกมาเป็นเม็ดเล็กๆกลมๆ
เข้าปากแล้วดูดดุนด้วยปากด้วยลิ้น จนเสื้อคุณหมิวเปลื้อนน้ำลายเป็นดวงกลม  ส่วนมืออีกข้างก็ลูบสัมผัสกลีบเรียวเสียว
ของเธอช้าๆแผ่วๆ จนเขารับรู้ว่าร่องหลืบของลูกสาวผู้ดีคนนี้ฉ่ำเยิ้มไปด้วยเมือกลื่น

"คุณหมิวของพี่ น่ารักเหลือเกิน....พี่ชายขอนะคะ...." ชัดชายพูดพร้อมกับกระตุ้นเร่งเร้าความกำหนัดให้คู่หมั้นของพี่ชาย
จนร่างเธออ่อนระทวยนอนเหมือนไร้เรี่ยวแรงบนเบาะหนังรถสปอร์ตคันงาม

"ซี๊ดดด..พี่ชายขา..หมิวใจจะขาดแล้ว...อย่าทำอะไรมากไปกว่านี้เลยนะคะ..สงสารหมิวเถอะนะคะ...อูยยย...ว๊ายยย...อ่าส์
ซี๊ดดดด...."

คุณหมิวพูดขาดๆหายๆ สลับเสียงครางกระเส่าด้วยความเสียวซ่าน เมื่อชัดชายใช้ปลายนิ้วแหวกขอบดันเดอร์แวร์ของเธอ
เข้าไปสัมผัสกับเนื้อแท้ที่ฉ่ำชื้นแฉะไปทั้งร่องหลืบ

ชัดชายไม่ยอมตอบ กลับไซ้หน้าไซ้ปากต่ำลงมาจนถึงเนินหน้าท้องที่เกร็งเขม็งไร้ไขมันปลายนิ้วยิ่งลูบไล้ตามความยาว
ของร่องเสียวแต่ยังไม่สอดนิ้วเข้าไปข้างใน ร่างสาวสวยอ่อนระทวยใบหน้าแดงกร่ำด้วยความกำหนัด มือไม้ไร้เรี่ยวแรงที่จะ
แข็งขืน ตาหลับปี๋ไม่กล้าสบตาคู่หมั้นหนุ่มด้วยความเขินอาย ปล่อยร่างสาวให้รอรับความสุขความตื่นเต้นที่คู่หมั้นหนุ่มมอบ
ให้ด้วยใจระทึก พร้อมทั้งเชื่อมันในตัวเขาว่าจะรักษาสัญญา ไม่ทำอะไรเธอมากไปกว่านี้

ใบหน้าของชัดชายไซ้ต่ำลงมาดอมดมความหอมของคู่หมั้นพี่ชายจนถึงเนินโหนกที่อูมดันชุดแซกขึ้นมาเป็นรูปสามเหลี่ยม
ขนาดเต็มฝ่ามือของตน ลอบอมยิ้มอย่างสะใจ ที่ตนจะเป็นผู้ยัดเยียดความเป็นผัวให้มล.คนสวยนี้ก่อนพี่ชายจะได้เข้าห้อง
หอ ยิ่งคิดก็ยิ่งสุขยิ่งสะใจ ขยี้ใบหน้ากับเนินสาวจนมล.คนสวยร้องครางซี๊ดๆอูยๆ เด้งเนินโหนกลอยคว้าง สองมือขยุ้มผม
ตนเองดันออกบ้าง ดึงเข้าหาบ้างอย่างไร้สติ ปากครางอูยๆซี๊ดๆลั่นรถด้วยความเสียวซ่าน

ชัดชายผงะหน้าขึ้นมาจากเนินสาว แล้วใช้สองมือเกี่ยวชายชุดแซกถลกขึ้น แต่ยังไม่มากนักเนื่อจากก้นอวบขาวของคุณ
หมิวนอนทับอยู่ แต่กระนั้นเขาก็เห็นเนินโหนกของเธออูมดันอันเดอร์แวร์บางๆลายลูกไม้ขึ้นมาเป็นก้อนสามเหลี่ยมเด่นชัด
ขนไหมแพรสีดำของคุณหมิวดกดำ แต่ก็ไม่รกรุงรังดุเหมือนจะดูแลตัดตกแต่งไว้เป็ย่างดี

[post]ชัดชายสอดมือเข้าไปช้อนก้นของคุณหมิวยกขึ้น แล้วดึงชายชุดแซกส่วนที่กดทับออกมาจนสามารถถลกขึ้นไปกองค้างอยู่
บนหน้าท้องคัดแข็งไร้ไขมันของเธอ แม้ภายในรถจะค่อนข้างสลัว แต่ก็พอมองเห็นได้ชัดว่าเนินโหนกสาวของมล.ผู้นี้มี
ขนาดใหญ่ทัดเทียมกับหวานเมียบ้านนาของตนเองเหมือนกัน ต่างกันก็เพียงเนินโหนกนูนของหวานนั้นไร้ขนไหมแพรพรรณ
แต่ของคุณหมิวนั้นกลับกดดำสวยงาม

ep..21

"แม่ครับ....โทรหาน้องได้มั๊ย..." เวลาผ่านไปจนบ่ายแก่ๆ หลังจากที่ฉัตรชัยหาทางปลีกตัวออกมาจากหวานได้แล้วก็โทรไป
หามารดาอีกครั้ง

"แม่โทรแล้วลูก...น้องเอาโทรศัพท์ลูกไปใช้จริงๆแหละ..." มารดารีบตอบกลับ เธอก็รุ้สึกร้อนใจเป็นกังวลตามลูกชายคนโต
ไปด้วยเช่นกัน

"แม่ครับ...เอ่อ...ถ้าน้องไปหาคุณหมิวผมเกรงว่า เธอคงแยกไม่ออกหรอกครับว่าใครเป็นใคร...ทำไงดีล่ะครับ.." เสียงของ
ฉัตรชัยยิ่งร้อนรน จนมารดารับรู้

"แม่จะลองโทรหานู๋หมิวบ่อยๆนะจ๊ะ...ถ้าโทรติดแล้วเดี๋ยวแม่จัดการให้เอง ลูกฉัตรไม่ต้องร้อนใจไปหรอกจ๊ะ...เดี๋ยวทางโน้น
ก็จับได้พอดีว่าลูกสลับตัวมา..." มารดาพูดจบก็รีบวางสาย
.....................................................................................
ภายในรถสปอร์ตสีแดง ที่จอดติดเครื่องอยู่ภายในม่านหนาสีทึบล้อมรอบสามด้านนั้น ภายในห้องโดยสารที่มืดสนิทจนไม่มี
ใครสามารถมองเห็นเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นภายในรถได้

"คุณพี่คะ...อย่ามองแบบนั้นสิคะ...น้องอายนะ..."

เสียงมล.ลาวัลย์กระเส่าแหบพร่า ด้วยความกำหนัดหลังจากโดนคู่หมั้นหนุ่มปลุกเร้า จนสามารถถลกกระโปรงชุดแซกสีบาน
เย็นของเธอขึ้นไปกองค้างอยู่บนหน้าท้อง อวดให้เห็นเนินโหนกอวบอูมผุดดันอันเดอร์แวร์บางๆ ขึ้นมาเป็นรูปเป็นร่าง จน
ชัดชายจ้องมองด้วยสายตาหื่นจัด คุณหมิวเอื้อมมือสองข้างมาปิดป้องเนินเนื้อที่โดนคุ่หมั้นหนุ่มจ้องมองจนเธอเขินอาย
หน้าแดงกร่ำ

"จะอายพี่ชายทำไมคะ...หีน้องหมิวสวยขนาดนี้ พี่ภูมิใจเหลือเกินที่จะได้เป็นเจ้าของ..."

ชัดชายพูดจบก็ค่อยซบหน้าลงไปหอมเนินโหนกของคุณหมิวดังฟอด จนคุณหมิวผวาพยายามผลักดันหน้าของคู่หมั้นให้
ถอยห่าง พร้อมรู้สึกอับอายยิ่งนักที่คู่หมั้นของเธอพูดออกมาตรงๆ ว่าหีของเธอสวย...นับว่าเป็นครั้งแรกทีเดียวที่เธอรู้สึก
ว่าทำไมคู่หมั้นหนุ่มถึงพูดจาหยาบคายได้ขนาดนี้...ทั้งที่ปรกติจะสุภาพเรียบร้อย

"คุณพี่คะ...อย่าพูดหยาบคายสิคะ...หมิวรู้สึกไม่ดี..อูยยย..ว๊ายย..พอ...พอแล้วค่า...หมิว...ว๊าย อุ๊ยยยยยเสียว..."

คุณหมิวต่อว่าฉัตรชัยตัวปลอมเบาๆไม่อยากได้ยินคำหยาบคายจากปากเขา แล้วก็ร้องว๊าย ด้วยความตกใจจนเกร็งตัว เมื่อ
ฉัตรชัยก้มหน้าลงไปจูบเนินเนื้ออวบอูมของเธอดังฟอด ๆ ถี่ๆ จนเธอใช้สองมือจิกเส้นผมบนหัวของเขาพยายามออกแรง
ผลักออก แต่พอโดนชัดชายใช้ลิ้นเลียแผล็บๆๆๆๆๆ หลายครั้ง มือที่พยายามผลักออกกลับกลายเป็นโอบดึงเข้าหา สะโพก
แอ่นเกร็งยกส่ายด้วยความกำหนัดและเสียวสยิว ใจวาบวูบเสียวซ่าน จนน้ำเมือกในร่องหลืบไหลเยิ้มเลอะอันเดอร์แวร์
จนชุ่มฉ่ำ

"คุณพี่ขา...พอแล้ว...หมิวเสียวจนใจจะขาดแล้ว อูยยยยยยซี๊ดดด....อย่ารังแกหมิวอีกเลยนะคะ ..คุณพี่ขา...ซี๊ดดด....ตรง
นั้นมันของต่ำ..คุณพี่อย่า..อย่าค่ะ...อย่าเอาลิ้นไปเลีย อ๊ายยยอูยยย...ซี๊ดดด"

คุณหมิวดิ้นพราดๆ นอนหงายราบกับเบาะ ดิ้นยึกๆยักๆ สลับกับแอ่นเนินสาวเกร็งค้าง เมื่อคู่หมั้นของเธอ ใช้ปลายนิ้วแหวก
ขอบอันเดอร์แวร์ให้เบี่ยงออกไปด้านข้าง แล้วละเลงปลายลิ้นไปตรงแคมสาวเรียวยาว กับเม็ดละมุดเล็กๆที่ตั้งแข็ง จนตัว
เธอกระตุกเกร็ง ด้วยความเสียวซ่านอย่างหนัก แบบที่ไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน

เสียงร้องห้ามปรามของคู่หมั้นพี่ชาย ยิ่งเหมือนแรงยุส่งให้ชัดชายละเลงปลายลิ้นหนักๆถี่ๆเร็วๆ มือเอื้อมไปจับนมอวบกลม
กลึงขยำบีบเคล้นจนแทบจะแหลกคามือ เสียงร้องคราง เสียงทัดทานว่าเจ็บ กลับยิ่งเป็นแรงกระตุ้นให้ชัดชายระบายความ
สะใจออกมา จนร่างบางระหงของคุณหมิวอ่อนระทวยหลับตาปี๋ ด้วยความเสียวซ่าน ไปแทบจะทุกส่วนของร่างสาวที่โดน
คู่หมั้นของเธอขยำขยี้ แต่แล้วจู่ๆ เขาก็หยุดการกระทำไปเฉยๆจนคุณหมิวแปลกใจต้องลืมตาขึ้นมามอง ก็ได้เห็นว่าสาเหตุ
ที่คู่หมั้นหนุ่มหยุดการโลมเล้าเธอนั้น เพราะเขากำลังใช้มือสองข้างปลดเข้มขัด แล้วก็ตะขอกางเกงอยู่

"คุณพี่คะ...จะ...จะทำอะไรคะ... ว๊ายยย อา..เอาออกมาทำไมคะ...."

คุณหมิวร้องว๊ายเสียงสั่น ใจหายวาบ เมื่อเห็นคู่หมั้นหนุ่มรูดซิปกางเกงลงจนสุดพร้อมกับควักท่อนลำสีดำมะเมื่อมออกมา
จากกางเกงใน เธอรีบยกสองมือปิดหน้า ตัวสั่นสะท้านเมื่อแลเห็นอาวุธร้ายของคู่หมั้นเป็นครั้งแรก

"อืยยยยย...คุณพี่...มะ..หมิวกลัว...อย่าทำหมิวเลยนะคะ...คุณพี่สัญญาแล้วไงคะ...อืยยยยยไม่เอา...อย่า...หมิวไม่จับ...."

ชัดชายรูดซิปพรืดลงมาจนสุด พร้อมกับงัดท่อนลำอวบอ้วนออกมา สายตาเหลือบแลเห็นคู่หมั้นของพี่ชายยกสองมือปิดตา
แน่น ตัวสั่นสะท้าน ปากร้องบอกว่ากลัวๆ ก็แอบค่อนในใจว่าทำดีดดิ้นเอียงอายไปเถอะ...เดี๋ยวกูจะเอามันยัดใส่หีมึง คราวนี้
อีคุณหนูลูกผู้ดีจะหลงควยแบหีให้เย็ดไม่ต่างจากหีสาวบ้านนอกของกูสักคนฮึๆๆๆๆๆ

ชัดชายหลุดเสียงหัวเราะอย่างหื่นกามออกมา จนคุณหมิวได้ยินถึงกับขนลุกซู่ด้วยความกลัว เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคู่
หมั้นหนุ่มที่ดูแสนสุภาพ จะกลับกลายเป็นหื่นกระหายหยาบคายไปได้อย่างไรกัน มิหนำซ้ำยังพยายามดึงมือของเธอให้ไป
จับสัมผัสกับตรงนั้นของเขาอีก แม้คุณหมิวจะพยามเกร็งมือไว้แน่น แต่แรงสาวหรือจะสู้แรงของหนุ่มฉกรรจ์ได้ เพียงชัดชาย
ออกแรงดึงข้อมือของคุณหมิว ก็ปลิวไปวางทาบกับท่อนลำอวบอ้วนของเขาเสียแล้ว

"คุณพี่ขา...หมิวกลัว...ทำไมจะต้องให้จับด้วยคะ..."

คุณหมิวเริ่มสับสนใจหนึ่งก็กลัวกับการกระทำของคู่หมั้นหนุ่ม อีกใจหนึ่งก็ยังรุ้สึกเสียวซ่านตรงร่องเสียวที่โดนปลายลิ้นของ
เขาโลมเล้าจนฉ่ำแฉะ

"พิสุจน์ใจน้องนะสิครับ หีของน้องพี่ชายยังเลียได้ไม่คิดรังเกียจว่าต่ำหรือสกปรก เพราะพี่ชายรักน้องหมิว ฉนั้นถ้าน้องไม่
กล้าจับควยพี่ คงเพราะใจน้องไม่รักพี่ชาย ถึงได้คิดรังเกียจเดียดฉัน....ถ้าเช่นนั้น พี่ชายเอาเก็บก็ได้...ครับ"

ชัดชายหลอกล่อสาวไร้เดียงสาให้หลงเชื่อ พร้อมกับทำทีท่าน้อยใจปั้นหน้าเศร้าทำเสียงสั่นเครือ พร้อมค่อยๆจับท่อนลำ
ของตนเองยัดกลับเข้าไปในกางเกง แต่ยังไม่ทันจับยัดเข้าไปหมดดุ้น มือเล็กๆเย็นเฉียบของคุณหมิวก็คว้าหมับที่ลำอวบ
ไว้แน่น มือสั่นระริกจนเห็นได้ชัด ตาก็หลับปี๋ปากเล็กๆ รีบบอกคุ่หมั้นว่าเธอยอมแล้ว เธอรักเขา ชัดชายยิ้มอย่างสะใจ ที่
หลอกล่อจนคุณหนูลูกผู้ดียอมทำตามใจตน

"ลืมตาดูสิครับ..ควยพี่ชายไม่เห็นจะน่ากลัวตรงไหน..."

ชัดชายพูดไปด้วยมือก็กลับไปล้วงลูบเนินสาวของคุณหมิวเพื่อปลุกกำหนัดให้กำเริบขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับค่อยๆสอนให้คุณ
หมิวรูดลำของตนเองเล่น ครั้งแรกๆคุณหมิวเพียงจับกำไว้เฉยๆ พอชัดชายจับมือของเธอให้สาวรูดท่อนลำของเขาเล่น
เป็นตัวอย่างสี่ห้าครั้ง เขาก็ปล่อยมือออกให้เธอทำด้วยตนเอง ใจสาวเต้นระทึกนึกอยู่ในใจว่าสิ่งที่ตนเองจับกุมไม่รอบอยู่นี้
ไม่เห็นมันจะน่าเกรงกลัวที่ตรงไหน มันก็เหมือนดุ้นเนื้อเหมือนข้อแขนของเธอเท่านั้นเอง แล้วพอเริ่มสาวมือรูดช้าๆ เสียง
คู่หมั้นหนุ่มที่ครางออกมาด้วยความเสียว พร้อมกล่าวชมว่าเธอทำดี ยิ่งเหมือนเป็นกำลังใจให้เธอสาวมือรูดเล่นอย่างสนุก
ยิ่งรูดเล่นให้เขา เธอก็ยิ่งรู้สึกเสียวสยิวที่ร่องสาวไปด้วยพร้อมกัน

"น้องหมิวขา..รักพี่ชายมั๊ย.."

"รักสิคะ...หมิวทำแบบนี้ให้ พี่ชายยังข้องใจอีกหรอคะ..."

คุณหมิวตัดพ้อพร้อมกับค้อนคู่หมั้นหนุ่ม มือที่สาวรูดเล่นกับลำลึงค์ของเขายิ่งสาวมือเร็วขึ้น เสมือนเป็นเครื่องพิสุจน์ว่า
เธอรักเขามากขนาดไหน

"พี่ชายเชื่อแล้วว่าน้องรักพี่ขนาดไหน มาคราวนี้พี่ชายจะพิสูจน์รักของพี่บ้าง..ไม่ต้องกลัวนะคะ..."

"พี่จะทำอะไรคะ...ว๊ายย..ปล่อยหมิว...อืยยยยย ของพี่ชายดันตรงนั้นของน้องแล้ว อูยยย..อืยยยย....พี่ชายขา...ทำไมหมิว
รู้สึกเหมือนใจจะขาด...ซี๊ดดดด"

ชัดชายหลอกล่อจนคุณหมิวตายใจก็ดึงร่างบางระหงของเธอให้ผลิกตัวข้ามเบาะขึ้นมาคล่อมตัวเขาไว้แล้วกอดไว้แน่น
ขยับตัวยึกยักๆจนท่อนลำตรงกับเนินโหนกของสาวคุ่หมั้นพี่ชาย แล้วเอื้อมมือลงไปคลึงก้นงอนสวยของคุณหมิว จับส่าย
ยึกๆยักๆ ให้เนินสาวเสียดสีกับท่อนลำอวบใหญ่ของตนเอง จนคุณหมิวครางเสียงสั่นด้วยความเสียวซ่านสะท้านทรวง

ท่อนลำอวบใหญ่ของคู่หมั้นกดแนบกับเนินเนื้อ จนคุณหมิวเสียวสยิว ยิ่งเขาเอามือเอื้อมมือกดคลึงบีบก้นงอนสวยของเธอ
แล้วจับส่ายไปส่ายมา เนินสาวของเธอก็ยิ่งเสียดสีกับอาวุธร้ายของคุ่หมั้น จนร่องเสียวของเธอฉ่ำแฉะน้ำเสียวไหลทะลัก
ออกมาจนชุ่มเป้าอันเดอร์แวร์

คุณหมิวไม่กล้ามองสบตาแววาวของคู่หมั้นหนุ่มที่จ้องมองในระยะประชิดด้วยความเขินอายจนใบหน้าเธอร้อนวูบๆ จำต้อง
หลับตาปี๋ กัดฟันแน่นพยายามบังคับเสียง ไม่ให้ร้องครางออกมาด้วยความเสียวสยิว แต่ดูเหมือนยิ่งกลั้นเสียง เธอก็ยิ่งอึด
อัดจนท้ายสุดทนต่อไปไม่ไหวต้องระเบิดเสียงครางออกมาอย่างโหยหวล

"อูยยยยยย...ซี๊ดดดด...พี่ชายขา...หมิวเสียว....เสียวใจจะขาดแล้วค่ะ...ซี๊ดดดดด"

"อูยยยยยย...ซี๊ดดดด...พี่ชายขา...หมิวเสียว....เสียวใจจะขาดแล้วค่ะ...ซี๊ดดดดด"

มล.ลาวัลย์ตัวพับตัวอ่อนอยู่บนร่างสูงใหญ่ของคู่หมั้น ก้นอวบกลมขาวผ่อง ถูกมือใหญ่ขยำคลึงจนเป็นรอยแดงเป็นปื้น
ชัดชายในคราบของคู่หมั้นเธอ แสยะยิ้มอย่างหื่นกระหาย จับก้นอวบขาวของคุณหมิวโยกคลึงส่ายไปซ้ายย้ายมาขวา
กดๆคลึงๆ ไสขึ้นๆลงๆ จนน้ำหล่อลื่นจากร่องหลืบของเธอไหลปริ่มออกมาจนชุ่มอันเดอร์แวร์เนื้อบาง

"พี่ชายทำยังงี้...เสียวหีมั๊ยครับน้องหมิว...."

ชัดชายกระซิบเสียงกระเส่าใกล้ๆริมหู จนคุณหมิวขนลุกซู่ เสียวซ่านไปทั้งตัวโดยเฉพาะที่ตรงนั้น แต่จะให้เธอพูดบอกออก
มาตรงๆได้อย่างไร ว่าเธอเสียวหี...มันหยาบคายจนเธอไม่กล้าพูด จึงได้แต่นิ่งหลับตาปี๋ ทำตัวอ่อนระทวยยินยอมให้คู่หมั้น
หนุ่มจับก้นอวบขาวของเธอส่ายย้ายได้ตามใจปรารถนา

"บอกพี่สิคะ...ว่าเสียวหีมั๊ย..ไม่บอกหรอครับ...งั้นต้องเจอแบบนี้..."

ชัดชายถามซ้ำคุณหมิวก็ไม่กล้าพุดกล้าบอก จึงใช้ช่วงเวลานั้น ล้วงมือลงไปที่ท่อนลำของตัวเอง แล้วควักมันออกมาทั้ง
ดุ้นจับดันขึ้นไปนอนพาดเฉียงขึ้นด้านบนจนปลายลำยาวไปถึงสะดือบุ๋ม แล้วกดก้นคุณหมิวลงมา จนร่องเสียวของเธอ
แนบสนิทกับท้องลำลึงค์ของตนเองดีแล้วก็จับก้นเธอส่ายยึกๆ

คุณหมิวถึงกับผวา ความรู้สึกเสียวซ่านที่ตรงนั้นของเธอแผ่กระจายไปจนทั่ว รู้สึกร่องแคมสาวที่แยกออกคาบแนบกับ
ท่อนลำของคู่หมั้นหนุ่ม ยามที่เขาจับเธอสไลตัวขึ้นๆลง มันยิ่งเสียดสี จนน้ำเมือกลื่นไหลทะลักออกมาไม่ขาดสาย...
โอ๊ววววช่างเป็นความสุข ความเสียวซ่านที่เธอไม่เคยพานพบมันมาก่อนเลยสักครั้ง แม้ตอนที่เคยโทรศัพท์หากัน เธอ
ก็ยังไม่เสียวซ่านขนาดนี้

"พี่ขา....หมิวเสียว...อูยยยย...ซี๊ดดดด...ใจจะขาดแล้วคุณพี่ขา...."

แม้พยามขบฟันไม่อยากครางเสียงดังออกมา แต่ความเสียวซ่านที่คู่หมั้นทำให้นี้มันกลับมีอิทธิพลเหนือจิตใจของเธอยิ่ง
นัก จึงจำต้องปล่อยเสียงครางสยิวออกมาให้เขาทราบ

"บอกพี่สิคะ...ว่าน้องเสียวตรงไหน...."

ชัดชายพยายามถามย้ำ ด้วยอยากฟังจากปากนังคุณหนูลูกผู้ดีคนนี้เหลือเกินว่า ถ้าพอเงี่ยนง่านได้ถึงจุด จะกล้าพูดจา
หยาบๆตรงๆ เหมือนสาวตลาดบ้านชนบท ออกมาได้หรือไม่

"ตะ...ตรง...ตรงนั้นน่ะค่ะ....ซี๊ดดดด....คุณพี่ขา...ยะ...อย่ารังแกหมิวแบบนี้สิคะ..." มล.ลาวัลย์อุ๊บอิ๊บตอบออกมาเสียง
กระเส่าด้วยความกำหนัก เบาหวิวจนชัดชายแทบไม่ได้ยิน

"ตรงนั้นน่ะตรงไหนคะ....บอกออกมาสิคะ...ไม่งั้นพี่จะทรมานให้น้องหมิวขาดใจเลยน๊าาา...."

เมื่อยังไม่ได้คำตอบที่พอใจ ชัดชายก็ยิ่งลุกเล้าเพิ่มความเสียวสยิวลงไปอีก ด้วยการเอื้อมมือล้วงลงไปจนปลายนิ้วคลำ
เจอปลายร่องเสียวที่อยู่ใกล้ๆรูก้น ชัดชายสอดนิ้วลอดขอบอันเดอร์แวร์เข้าไป แล้วใช้ปลายนิ้วละเลงน้ำหล่อลื่นที่เปียก
จนชุ่มนิ้ว แล้วค่อยๆสอดเข้าไปในรูสาวที่คับแน่นจนถึงครึ่งข้อนิ้วก็หยุดไว้ แล้วงัดนิ้วหมุนส่าย ก่อนจะแทงเข้าๆออกๆ

"อืยย....ว๊ายยย...ซี๊ดดดด....คุณพี่...เอานิ้วเข้าไปทำมาย...ซี๊ดด"

คุณหมิวเสียวซ่านจนร่องสาวขมิบตัวยวบรัดนิ้วคู่หมั้นแน่น พยายามส่ายก้นหนีแต่กลับยิ่งโดนลำแขนข้างขวาของคู่หมั้น
รัดแน่น แทงปลายนิ้วยึกๆใส่ในร่องสาว จนเธอร้องครางโอดโอยออกมาด้วยความเสียวซ่าน ริมหูได้ยินเสียงคู่หมั้นกระซิบ
ถามซ้ำๆให้เธอยอมพูดว่าเสียวตรงไหน แม้ว่าเธอจะยังคิดว่ามันเป็นคำหยายอยู่ แต่ถ้าเธอไม่พูดคงโดนคู่หมั้นหนุ่มรังแก
ไม่เลิกลาเป็นแน่

"อูยยย...หมิวยอมแล้ว...บอกก็ได้ค่ะ....ซี๊ดดดด"

"บอกสิคะว่าตรงไหน น้องหมิวอย่าไปคิดว่ามันเป็นคำหยาบลามกสิคะ...พูดมาตรงๆพี่ชายจะได้รู้..."

ระหว่างที่ชัดชายโต้ตอบกับคุณหมิว นิ้วเรียวยาวก็ยังทำงานต่อเนื่องทั้งแทงทั้งงัดทั้งทิ่มทั้งส่ายวน จนร่องสาวของคุณ
หมิวเปียกลื่นขับน้ำเงี่ยนไหลออกมาปุดๆ

"ซี๊ดด....พี่ขา...หมิวบอกแล้ว...อูยยยยยย...ใจเค้าจะขาดแล้วน๊า...หยุดนิ้วก่อนสิคะ...ทำยังงี้จะมีแรงบอกที่ไหน.."คุณหมิว
ครางกระเส่าร่องเสียวยิ่งขมิบบีบรัดลำนิ้วของคู่หมั้นยึกๆยวบๆ

"เสียวตงหี...." เธอเอียงปากไปจ่อตรงหูคู่หมั้นพยามยามกลั้นเสียงคราง รู้ตัวว่าตอนนี้เธออายคุ่หมั้นหนุ่มจนหน้าแดงเห่อ
ยังกับโดนแดดแผดเผา แล้วกัดฟันสารภาพออกมาตรงๆว่าเสียวตรงหี พอชัดฃายได้ยินก็หัวเราะฮึๆฮ่าๆ อย่างชอบใจ ใน
ที่สุดนังลูกผู้ดี พอเงี่ยนง่านก็หาได้ต่างกับสาวบ้านนาที่ตนเองผ่านมาสักคน

"เห็นมั๊ยคะ...พอพูดออกมาก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรสักหน่อย....พี่ชายยังพูดได้เลย...หีๆควยๆ เย็ดๆ...."

ชัดชายได้ยินคู่หมั้นสาวของพี่ชายฝาแฝดสารภาพออกมาตรงๆแล้ว ก็เอานิ้วออกมาจากร่องสาวตามสัญญา แต่ตนเอง
เพียงสัญญาแค่นั้น ไม่ได้บอกกับคุณหมิวสักหน่อยว่าจะทำอะไรต่อ เมื่อค่อยดึงนิ้วออกมาจากร่องเสียว รู้สึกชัดเจนเลย
ว่าปากร่องเสียวยังตามขมิบลำนิ้วของตนเองมาจนกระทั่งหลุดออกมาทั้งนิ้ว

[post]จากนั้นชัดชายก็เอื้อมมือไปจับขอบอันเดอร์แวร์ด้านหน้าเนินหีของคุณหมิวแหวกเบี่ยงออกไปด้านข้าง แล้วแอ่นเอวเพื่อ
ให้ลำลึงค์อวบอ้วนของตนเองแนบลงไปกับเนินเนื้อแท้ๆไม่มีสิ่งใดกีดขวางอีกต่อไป คุณหมิวถึงกับผวาสะดุ้งเฮือก เมื่อ
ความรุ้สึกบอกว่าร่องเสียวของตนเองแนบกับลำเปลือยของคู่หมั้นที่ร้อนดั่งเหล็กเผาไฟ มันเป็นการแนบสนิทกันโดยไม่
มีอาภรณ์อื่นใดกีดขวาง

"อุ๊ย!..พี่....สะ....สัญญาว่าจะไม่รังแกเค้าไง....ละ..แล้วทำแบบนี้....อูยยยยยยทำไมคะ...ซี๊ดด"

คุณหมิวทวนคำสัญญาจากคุ่หมั้นหนุ่มอีกครั้ง แล้วก็อดร้องครางด้วยความเสียวซ่านออกมาไม่ได้ เมื่อคู่หมั้นหนุ่มจับก้น
เธอส่ายขึ้นๆลงๆ จนร่องเสียวของเธอที่แบะอ้ากระทบแนบกับท้องท่อนลำของเขา สไลตัวครูดไปครูดมา โดยเฉพาะตรง
เม็ดเสียวที่กระทบกับขอบบานเป็นเงี่ยงหยักของปลายลำ มันเสียวสยิวจนเธอแทบขาดใจ

"แบบนี้เค้ายังไม่เรียกว่ารังแกครับ...." ชัดชายกัดฟันกลั้นความเสียวที่ลำลึงค์ร้องตอบคุณหมิวไป

"ถ้ารังแก..ต้องเย็ดควยเข้าหีน้องหมิวก่อนสิคะ...ถึงจะเรียกรังแก..." คุณหมิวรีบยกมือมาปิดปากคู่หมั้น ค้อนควักด้วยความ
อายพูดเสียงกระเส่าด้วยความกำหนัดออกมาเบาๆ

"พอแล้วค่า...พี่ชายพูดหยาบจัง....ตะก่อนไม่เห็นเคยพูดแบบ....โอ๊ยยพี่....หมิวเจ็บ"

คุณหมิวพูดยังไม่ทันจบประโยคก็คอย่นสะดุ้งเฮือกผวาร้องโอ๊ยยออกมา เมื่อจังหวะที่โดนชัดชายจับโยกสไลตัวขึ้นด้านบน
จนร่องเสียวของเธอเกือบหลุดออกมาจากลำลึงค์ พอเขาจับก้นเธอโยกสไลกลับลงมา ปลายลำอวบกลมบานหยักก็ทิ่มตรง
กับร่องสาวคับแน่นของเธอดังจึ๊ก มันเจ็บปากรูหีจี๊ดจนเธอผวาขยับสะโพกยกขึ้น แม้ชัดชายจะพยายามกดยึดก้นอวบขาว
ของเธอให้กลับลงมา แต่ความเจ็บนั้นมันทบทวีแรงมากจนคุณหมิวออกแรงดิ้นหนีเป็นครั้งสุดท้ายได้สำเร็จ

แม้มล.ลาวัลย์จะยังบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ก็ยังพอรู้ว่าสาเหตุที่เธอเจ็บร่องหีครั้งนี้มาจากเหตุใด คู่หมั้นหนุ่มของเธอพลาดทำให้
ปลายลำทวนอวบอ้วนนั้นทิ่มเข้าตรงร่องสาว ไม่รู้ว่าเขาจะเจตนาหรือไม่ก็ตามที แต่เธอก็กลัวขยาดเจ็บจนไม่คิดจะทำต่อ
มล.ลาวัลย์ ขยับตัวผลิกหนีไปยังเบาะฝั่งของตน ใบหน้าซีดเผือดดวงตาคลอไปด้วยหยาดน้ำใส ความเจ็บจี๊ดยังคงอยู่ที่
ตรงนั้น จนเธอต้องยกมือปิดหน้าแล้วร้องไห้โฮออกมา

"พี่ชายขอโทษ...มันเป็นอุบัติเหตุ..." ชัดชายรีบผงกตัวลุกขึ้นนั่ง แล้วเอนตัวไปกอดไหล่คู่หมั้นของพี่ชายดึงเอนมาซบ
แล้วกล่าวขอโทษเสียงนุ่มนวลคุณหมิวได้ยินคำขอโทษของคุ่หมั้นก็เปิดหน้าหันมาจ้องมอง เห็นหน้าของคู่หมั้นหนุ่มแสดง
ออกถึงความเสียใจ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ก็ใจอ่อน

"กลับบ้านกันเถอะค่ะคุณพี่...หมิวเข้าใจค่ะ ไม่ได้กล่าวโทษคุณ..."

คำว่าพี่ยังไม่ทันหลุดออกมาจากปาก ชัดชชายก็ฉวยจังหวะยื่นปากไปประกบปากของคุณหมิวแน่น ด้วยมั่นใจว่าเธอไม่ได้
โกรธเขากับเรื่องเมื่อสักครู่ ปากประกบจูบแน่น ลิ้นระรัวพัวพัน จนคุณหมิวต้องเบี่ยงปากออกมาหายใจดังเฮือก แล้วประกบ
ปากจูบเน้นๆกันอีกครั้ง ความเจ็บจี๊ดตรงร่องหีหายไปเป็นปลิดทิ้ง เหลืออยุ่เพียงความกำหนัดที่กลับเพิ่มขึ้นมาอีกหน

"อูยยยย.ซี๊ดดด...พี่ขา...หมิวช้ำไปหมดทั้งตัวแล้วน๊า มือคุณพี่บีบอกแร๊งแรง...ซี๊ดด..อูยยยยอ่าส์ส์ส์ส์...."

ชัดชายปลุกเร้าอารมณ์คุณหมิวอีกครั้ง มือใหญ่บีบอกอูมพร้อมเอื้อมอีกข้างไปด้านหลังรูดซิปกระโปรงชุดแซกของเธอออก
มาดังคว๊ากก จนคุณหมิวขนลุกซู่ห่อไหล่ด้วยความเย็นยะเยือกของเครื่องปรับอากาศในรถ ชัดชายรีบแบะออกดึงชุดแซก
ด้านบนออกมาจากลำแขน แล้วก้มหน้าลงไปคลุกฟัดกับกับอกอูม ใช้ปากใช้ฟันกัดขอบบราไร้ฟองน้ำตัวนั้นแล้วดึงเลิกขึ้น
ไปเหนืออก

อกอวบอูมเต้าเต้ง พอหลุดพ้นจากสิ่งห่อหุ้มก็เด้งดีดตัวตั้งตระหง่าน อวบความสมบูรณ์ของเนื้อนุ่มเต้าตูม ปลายยอดอกสี
แดงระเรื่อ เม็ดเท่าปลายนิ้วก้อยของเด็ก ชัดชายจัดการงับยอดถันเข้าปากดูดดังจ๊วบ แล้วดุนเล่นด้วยปลายลิ้น คุณหมิว
ผวาร้องครางอูยๆซี๊ด จับหัวชัดชายไว้แน่น อยากจะผลักออก แต่แรงเสียวที่ได้จากปากจากลิ้นของเขากลับให้เธอเปลี่ยน
ใจดึงหัวชัดชายซบกลับลงมาพร้อมแอ่นเกร็งอกยกตัวขึ้น ผวาหลุดเสียงครางซีดดออกมาดังลั่นรถ[


ในความรู้สึกเสียวสยิวซาบซ่านไปทั้งร่างของคุณหมิวนั้น บอกกับตัวเองว่าเธอมีความสุขกับรสสัมผัสของคู่หมั้นเหลือเกิน
ขอเพียงว่าคู่หมั้นหนุ่มไม่พยายามทำให้เธอเจ็บแบบเมื่อสักครู่ ไม่ว่าเขาจะต้องการอย่างไร เธอพร้อมยอมตามใจเขาทุกอย่าง
โนมเนื้อหัวนมเม็ดเล็กๆ ที่โดนคู่หมั้นดูดดุนด้วยปลายลิ้นนั้น มันลุกแข็งขึ้นมาเป็นตุ่มเป็นไต แล้วดูเหมือนกับว่ามันจะขยาย
ตัวพองขึ้นมาได้อีกด้วย ส่วนเบื่องล่างคู่หมั้นหนุ่มก็ลูบไล้ฝ่ามือสัมผัสกับเนินสาวของเธอโดยไม่มีอันเดอร์แวร์ปกป้อง ปลาย
นิ้วของเขาลูบไล้แผ่วพริ้วไปตามแนวยาวของร่องสาว

คุณหมิวรู้สึกเสียวสยิวจนอดไม่ได้ที่จะยักย้ายส่ายสะโพกบิดตาม ยิ่งตอนที่ปลายนิ้วของคู่หมั้นกดคลึงไปตรงตุ่มเม็ดเล็กๆ
เหนือปากร่องสวาท แล้วขยี้เบาๆ คุณหมิวถึงกับซู๊ดดดปากออกมา เหมือนกินของเผ็ดเข้าไปจนหูอื้อตาลาย สะโพกยิ่งเด้ง
ส่ายเป็นระวิงเหมือนมีสปริงซ่อนเอาไว้ ร่องเสียวของเธอก็ยิ่งขมิบยวบๆยาบๆ จนเธอบังคับกลั้นเอาไว้ไม่ไหว

"อูยยยพี่ขา....น้องสะ...ซี๊ดดด..เสียว..เสียวใจจะขาดแล้ว....ชะ..ช่วยน้องด้วย..."

คุณหมิวร้องขอให้คู่หมั้นหนุ่มช่วยทำให้เธอสุขให้เธอเสร็จ จนหมดยางอาย รุ้แต่ตอนนี้เพียงว่ามันเสียวตรงร่องหี จนใจจะ
ขาดไปจริงๆ ด้านชัดชาย ยิ่งปลุกเร้าโหมไฟราคะจนคุ่หมั้นของพี่ชายตัวอ่อนระทวยดีดเด้งตอบโต้ปลายนิ้วของเขาที่
ละเลงไล้ลูบร่องเสียว จนเพ้อครางขอให้เขาช่วย ก็ลอบแสยะยิ้มด้วยความสะใจ สอดมือเข้าไปเกี่ยวขอบอันเดอร์แวร์ตัว
บางๆของคุณหมิวรูดออกมาช้าๆ โดยที่เธอเต็มใจยกก้นให้รูดออกมาได้โดยสดวก

ชัดชายจัดการสอดมือรองก้นอวบขาวของคุณหมิวยกเบี่ยงมาหาตัวเอง แล้วก้มหน้าลงไปซบที่เนินโหนกอวบอูม ประดับ
ด้วยแพรไหมสีดำขลับ ตัดแต่งสั้นเป็นระเบียบงดงาม ก้นอวบขาวของเธอสั่นระริก เมื่อชัดชายซบหน้าลงไปสูดดมความ
หอมหวานของเนินเนื้อเสียงดังฟอดๆ พร้อมนึกอยุ่ในใจว่า หีของลูกผู้ดีคนนี้มันหอมจับใจเหลือเกิน ช่างต่างชั้นกับหีของ
สาวหลายๆคนที่เคยดอมดม เขาจึงไม่รังเกียจที่จะแตะลิ้นชิมที่เม็ดแตด สลับกับลากลิ้นยาวกวาดเลียตามแนวร่องเสียว
ตวัดเอาน้ำเงี่ยนของคุณหมิวที่ไหลเยิ้มอาบปากรู เข้าปากกลืนกินเหมือนกระหายหิว

"อูววว อูยยย..ซี๊ดดด...พี่ชายขา..หมิวเสียว...เสียวหิ...หี...โอ๊ยยยย...ไม่ไหวแล้วค่ะ...หมิวไม่ไหวแล้ว..พี่ขา..ช่วยน้องด้วย..."

เสียงมล.ลาวัลย์ครางกระเส่าอย่างหมดอาย คำหยาบที่เธอไม่เคยไม่อยากพูดก็ถูกพ่นออกมาอย่างลืมตัวลืมอาย ร่ำร้องขอ
ให้คุ่หมั้นหนุ่มช่วยให้เธอไปถึงสวรรค์เสียที เพราะใจสาวมันหวั่นไหววูบวาบจนแทบจะขาดรอนๆ

"หมิวยอมให้พี่เย็ดแล้วใช่มั๊ยครับ......."

ชัดชายถามเสียงต่ำแหบพร่าหื่นๆ ด้วยความรู้สึกเงี่ยนง่านจนควยแข็งแทบจะเป็นท่อนเหล็ก ยอมรับกับตัวเองในใจเลยว่า
ร่องสาวของคู่หมั่นพี่ชายนั้น สอาดบริสุทธิ์ น่าลิ้มลองมากเพียงใด ถ้าไม่นับหวานเมียคนแรกที่โดนตนเองเปิดบริสุทธิ์เพราะ
ฉุดมา ก็มีคุณหมิวนี่แหละอีกคนทีน่าเย็ดสุดๆไม่ต่างกัน

"ไม่ค่ะ...อูยยย..ซี๊ดดด...อย่า...ทำกับหมิวขนาดนั้นได้มั๊ยคะพี่ชายขา...หมิวยอมพี่ทุกอย่าง..ขอเพียงพี่อย่ารังแกหมิวถึงขั้น
นั้น..นะคะพี่...ซี๊ดดด"

คุ่หมั้นสาวของพี่ชาย แม้จะเงี่ยนจะอยากจนร่างบอบบางอ่อนระทวย พูดติดๆขัดๆ แต่ก็ยังหลงเหลือสติพอที่จะขอไม่ให้เย็ด
จะยอมทำทุกอย่างได้ เพียงแค่อย่าเพิ่งสอดใส่ควยเย็ดเพียงเท่านั้น ด้านชัดชายได้ยินแม้จะรู้สึกผิดหวังนิดๆที่เธอยังไม่ยิน
ยอม แต่คิดถึงในอนาคต ยังไงเสียสาวลูกผู้ดีคนนี้ก็ไม่มีวันรอดพ้นโดนควยเขาเย็ดแน่ๆสักวันแน่ๆ จึงยอมอดเปรี้ยวไว้กิน
หวาน ไม่อยากหาญหักน้ำใจของเธอ จนเธอขาดความเชื่อมั่นในตัวเขา จึงกระซิบตอบ

"ก็ได้จ๊ะยอดรักพี่ชายยังไม่เย็ดน้องแต่ว่าน้องต้องช่วยพี่เหมือนที่พี่ทำกับน้องได้มั๊ยครับ..." ชัดชายเงยหน้าขึ้นมาจากโหนก
เนื้ออวบอูมของคุณหมิว แต่นิ้วกลับถูกนำมาช่วยปลุกเร้าอารมณ์ไม่ให้ขาดตอน

"ซี๊ดดด..พี่ขา...อูยยยยมะ..หมิวทำไม่เป็น..." เสียงคุณหมิวครางระโหยกระเส่า ใบหน้าแดงกร่ำทั้งด้วยอาย และกำหนัด

"เดี๋ยวพี่จะค่อยๆสอนนะคะ..ขอเพียงน้องหมิวรับปาก..." พูดจบก็ซบหน้าลงไปจูบฟัดเนินเนื้อที่แบะถ่างจนแลเห็นเม็ดเล็กๆ
ไหวระริกด้วยความเสียวสยิว

"ค่ะ....น้องยอมทำให้พี่ชาย..ทำทุกอย่างที่พี่ชายต้องการ...ซี๊ดดด...อูยยยพี่ชายขา....ทำไมหมิวเสียวจนใจจะขาดขนาด
นี้คะ...ช่วยน้องด้วยใจจะขาดแล้ว อูยยยย"

พอคุณหมิวยอมรับปากที่จะทำตามความต้องการของชัดชายแล้ว ไอ้หนุ่มลูกทุ่งจอมลีลาก็ขยับตัวคุณหมิวขึ้นนั่งตรง จนเธอ
รู้สึกงุนงงว่าทำไมเขาถึงหยุดการใช้ลิ้นกับเธอไปเฉยๆ จ้องมองเห็นคุ่หมั้นหนุ่มปิดสวิทกุญแจดับเครื่องยนต์ แต่ไม่ได้ดึง
กุญแจออกไป จากนั้นเดินลงจากรถ ขยับกางเกงรูดซิบให้เข้าที่แล้วอ้อมมาฝั่งที่ตนเองนั่ง เปิดประตูรถแล้วก้มลงมาช้อนร่าง
บางระหงอ่อนระทวยของเธอไว้ในวงแขนแล้วออกแรงยกขึ้น

คุณหมิวรีบคล้องแขนกับลำคอหนาแน่นของคุ๋หมั้นหนุ่มด้วยกลัวตกรีบถามว่าเขาจะทำอะไร ชัดชายไม่ตอบแต่อุ้มร่างระหง
ของคู่หมั้นพี่ชายเตรียมก้าวเดินขึ้นไปบนห้อง พลันเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าถือของคุณหมิวก็ดังลั่น ชัดชายถึงกับชะงักค้าง
คุณหมิวก็ได้สติทำหน้าเลิ่กลัก พอชัดชายจะขยับเดินเธอก็รีบรั้งขอบประตุรถไว้แล้วกระซิบบอกว่าขอดูก่อนว่าใครโทรมา

"ดะ..เดี๋ยวค่ะพี่ฉัตร..ขอหมิวดูก่อนว่าใครโทรเข้ามา"

หญิงสาวบอกเสียงสั่นกระเส่า ใบหน้าแดงกล่ำด้วยฤทธิ์กำหนัดตื่นเพริด ด้วยกริ่งเกรงว่าจะเป็นสายเรียกจากทางบ้าน
ชัดชายร้องฮึอย่างหงุดหงิด แต่จำต้องยอม ค่อยๆวางร่างบางระหงของคุณหมิวลงยืนกับพื้น เสียงโทรศัพท์ยังคงดังเรียก
อย่างต่อเนื่อง ขณะที่คุณหมิวรีบจัดชุดกระโปรงแซกอย่างรวกๆ จนดูไม่อุดจาด แล้วก้มลงเปิดกระเป๋าถือหยิบโทรศัพท์
ของตนเองออกมามองหมายเลขที่โชร์อยู่บนหน้าจอ

"อุ๊ย...คุณป้าโทรมาค่ะพี่ชาย..." เธอหันไปบอกคุ่หมั้นหนุ่ม คุณป้านั้นก็คือมารดาของเขานั่นเอง จากนั้นเธอก็กดรับสาย
ด้วยมือที่สั่นเทา

"หนูหมิวอยู่ไหนลูก..." เสียงคุณนายแจ่มจรัสรีบถามออกมาอย่างร้อนรน

"อยุ่กับคุณพี่ค่ะ...คุณป้า" เธอไม่ตอบตรงคำถามว่าอยู่ที่ไหน ใครจะกล้าบอกว่าตอนนี้เธอกับลูกชายของคุณป้ากำลังอยู่
ในโมเต็ล เสแสร้งไปบอกว่าอยู่กับเขาเสียแทน

"คุณป้ามีธุระอะไรกับหมิวหรือคะ...."

ขณะที่เธอพูดสายกับมารดาของคู่หมั้นอยู่นั้น ชัดชายพอรู้ว่ามารดาโทรมา ก็เข้าประชิดตัวคุณหมิว จับเธอหันหลังแล้วแนบ
ตัวเข้าไปจนสนิทลำควยแข็งโปนในกางเกงอัดแน่นกับร่องสะโพกกลมกลึงของคู่หมั้นสาวของพี่ชาย ท่อนลำในกางเกงที่
ตั้งโด่เป็นเสากระโดงเรือ จับกดแนบตรงร่องแก้มก้นอวบทั้งสองข้าง จนคุณหมิวเผลอตัวร้องอุ๊ยออกมาให้ทางคุณนายแจ่ม
จรัสได้ยินเสียง

"เป็นอะไรหรือลูก..." เสียงคุณนายแจ่มจรัสร้องถามออกมาด้วยความตื่นเต้นปนแปลกใจ และเป็นห่วง

"ปะ..เปล่าค่ะคุณป้า..."

[post]คุณหมิวกัดฟันระงับอารมณ์เสียวสยิว แล้วกระซิบตอบเสียงเบาๆ พยายามยื่นมือมาผลักอกคู่หมั้น พร้อมจิกตาค้อนทำตาเขียว
ที่ฉัตรชัยแกล้งยั่วเย้าไม่เลิกแม้ขณะที่เธอกำลังคุยกับมารดาของเขา แต่แม้จะปรามเขาไปด้วยสายตา คู่หมั้นของเธอกลับ
รุกเร้าเหมือนต้องการเอาชนะ ยื่นเข่าสอดเข้ามาระหว่างขาเรียวสองข้างของเธอแล้วกระแซะแบะเข่าออกจนดันขาสองข้าง
ของเธอแยกออกกว้าง

เสียงทางมารดาของคุ่หมั้นยังพูดแว่วๆเข้ามาถามไถ่ แต่เธอกลับจับใจความไม่ได้ เพราะใจมัวพะวงอยู่กับการกระทำของคุ่
หมั้นหนุ่ม พอขาสองข้างของเธอถูกกางแบะออก เขาก็ขยับตัวเข้ามาแนบ ท่อนลำอวบๆแข็งๆของเขาเบียดกระแซะระหว่าง
แก้มร่องก้นแล้วเขาก็เริ่มขยับดุนดัน ท่อนกลมๆอวบๆ เบียดกระทบเป็นจังหวะ จนเธอเผลอร้องอุ๊ยๆให้มารดาของคุ่หมั้นได้
ยินอีกครั้ง

"หนูหมิวเป็นอะไรลูก ป้าได้ยินเสียงหนูร้องอุ๊ยๆ.." ทั้งเสียงร้องด้วยความตกใจ และเสียงหายใจหืดหอบของว่าที่ลูกสะใภ้
ทำให้คุณนายแจ่มจรัสสังหรณ์ใจ ว่าคงเกิดเรื่องร้ายขึ้นแน่

"คุณป้าพูดว่ากระไรนะคะ...หมิวได้ยินไม่ถนัด.."

คุณหมิวร้องถามว่าที่แม่ผัวอีกครั้ง แล้วพยายามยกมือมาป้องโทรศัพท์เพื่อให้ได้ยินเสียงชัดเจนขึ้น ทำให้ชัดชายได้จังหวะ
ที่คู่หมั้นของพี่ชายละมือออกไปป้องโทรศัพท์ รีบปลดขอกางเกงตัวเองจนมันรูดหล่นลงไปกองที่แทบเท้า แล้วงัดท่อนลำ
อวบอ้วนออกมาจากกางเกงใน จับลำตั้งตรงแล้วย่อเข่าแทงงัดไปตรงร่องสาว

คุณหมิวร้องว๊าย ทั้งเจ็บจุกและตกใจ หลุดลอดเสียงไปให้คุณนายแจ่มจรัสได้ยินเต็มสองหู พร้อมกับเสียงกระซิบแผ่วเบา
ของว่าที่ลูกสะใภ้ที่ห้ามไม่ให้ลูกชายเธอกระทำ

"ยะ..อย่าพี่ฉัตร..หมิวเจ็บ..อูย"

แม้คุณนายแจ่มจรัสจะไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าตอนนี้ชัดชายได้ผลักร่างคุณหมิวลงแนบกับหลังคารถสปอร์ต พร้อมกับ
จับท่อนลำอวบใหญ่ของตนเองดุนดันตรงร่องสาวที่อ้าแย้มไร้อาภรณ์ปกป้อง หัวลำกลมแดงเงี่ยงบานขนาดใหญ่ ตรงเข้า
ชำแรกแหวกกลีบสาวบริสุทธิ์ จรดจ่อจมเข้าไปถึงครึ่งเงี่ยง เสียงคุณหมิวที่ดังรอดร้องออกมาว่าเจ็บๆ พี่ชายอย่าทำหมิว ดัง
ให้ได้ยินได้มโนภาพตามที่นางคาดเดาไว้ไม่ผิดเพี้ยน

"แม่..นี่ผมนะ...อยากรู้หรอครับว่าตอนนี้ผมกำลังทำอะไรกับคุ่หมั้นของผมอยู่...." เสียงหื่นๆกระด้างๆ ของลูกชายแฝดคนน้อง
ดังลอดมาให้มารดาได้ยิน สลับกลับเสียงร้องห้ามด้วยความหวาดกลัวตกใจของว่าที่ลูกสะใภ้ลูกชายแฝดคนโต
"พี่ชายอย่าค่ะ...โอ๊ยยยหมิวเจ็บ"

ชัดชายฉวยโทรศัพท์มาจากมือคุณหมิวที่เกร็งค้างเพราะความเจ็บจนแทบหมดสติ แล้วเปิดสปีกเกอร์โฟนกรอกเสียงไปหา
มารดา เพื่อให้เธอได้ยินอย่างชัดเจน

"ชัด..ลูกอย่าทำแบบนั้น..."

นางกรอกเสียงลงไปด้วยความตกใจเผลอเรียกชื่อชัดชายออกมาดังลั่น แต่ขณะนั้นคุณหมิวแม้จะได้ยินเต็มสองหู กลับคิด
ว่ามารดาคู่หมั้นพูดไม่ชัด จากฉัตร เป็นชัด แล้วคุณหมิวก็กรีดร้องโอ๊ยออกมาสุดเสียงเธอเจ็บร่องสาวจนแทบขาดใจ เมื่อ
ชัดชายดุนดันลำอวบอ้วนเข้าไปจนมิดเงี่ยง

ด้านคุณนายแจ่มจรัสหลังจากได้ยินทุกถ้อยกระทงความ นางก็รุ้สึกเหมือนโลกกำลังหมุนคว้าง เท้าที่ยืนอยู่บนบรรไดบ้าน
ชั้นสองเริ่มเซ ก่อนที่สติจะดับวูบ คุณนายแจ่มจรัสร่วงหล่นลงมาตามขั้นบรรไดจากชั้นบนสุดลงมานอนสลบไร้สติที่พื้น
เสียงดังตุ๊บๆ เหมือนโทรศัพท์หล่นจากที่สูงลงมาทีละขั้นๆ ดังลั่นรอดลำโพงออกมาให้คุณหมิวได้ยินชัด แล้วโทรศัพท์ก็
ถูกตัดสาย แม้คุณนายแจ่มจรัสจะเป็นเพียงว่าที่แม่สามีในอนาคต แต่ด้วยน้ำใจที่เธอมีแต่คุณหมิว ทำให้คุณหมิวรักและ
เคารพเธอไม่ต่างไปจากมารดาที่แท้จริงของตนเอง

พอได้ยินเสียงหล่นตุ๊บๆลงมาแบบนี้คุณหมิวก็ใจหาย สติคืนกลับมาอย่างรวดเร็ว รีบสบัดตัวแล้วเอื้อมมือมาดันร่างคุ่หมั้น
หนุ่มจนเซถลาพร้อมบิดตัวเบี่ยง ร่องสาวหลุดออกมาจากเงี่ยงบานหยักของคู่หมั้น เธอแย่งโทรศัพท์มาจากมือชัดชาย
เปิดประตุรถแล้วพุ่งพรวดเข้าไปนั่งพร้อมกดล็อคประตูทั้งสองฝั่ง พร้อมกดโทรไปหามารดาของเขาทันที ไม่มีเสียงตอบรับ
คุณหมิวกดซ้ำอีกครั้งด้วยความตื่นตกใจ คราวนี้มีเสียงรับสาย เธอรีบกรอกเสียงลงไปถามทันที

"คุณป้าคะ...เป็นอะไรรึเปล่าคะ...." แต่เสียงที่ตอบกลับมากลับเป็นเสียงของป้าแจ่มแม่บ้านของมารดาคุ่หมั้นเสียแทน
"คุณหมิวใช่มั๊ยคะ....ช่วยด้วยค่ะ...คุณท่านตกบรรไดลงมา สลบไม่ได้สติเลยค่ะ...โฮๆๆๆๆๆๆ"

เสียงตอบพร้อมร้องไห้ด้วยความตกใจของแม่บ้าน ทำให้คุณหมิวตกใจจนหน้าซีด อารมณ์กำหนัดพิสวาทอันตธานหาย
วับไปทันที รีบไขกระจกรถลงมาบอกคุ่หมั้นหนุ่มให้ทราบเรื่อง แต่ทว่าคุณหมิวกลับตกใจซ้ำสอง เมื่อเห็นว่าเขากับทำนิ่ง
เฉยไม่ดูเดือดร้อนตกใจที่มารดาตนเองประสพอุบัติเหตุแม้สักนิด

"คุณพี่คะ...รีบกลับเร็วๆ..." คุณหมิวกระชากเสียงด้วยความโกรธในการกระทำของคุ่หมั้น แต่เขากลับทำเหมือนทองไม่รุ้
ร้อน ไม่ยอมกลับมาขึ้นรถ จนเธอโมโห พลิกตัวข้ามไปนั่งฝั่งคนขับ เห็นกุญแจรถยังเสียบคาอยู่ จึงรีบสตาร์ทรถ แล้วถอย
ออกมาจากโมเต็ลแห่งนั้นด้วยตนเอง หันกลับไปมองกระจกส่องหลัง เห้นคุ่หมั้นของเธอค่อยๆเดินออกมาจากม่านหนาทึบ
มองมายังรถสปอร์ตสีแดงใบหน้าเขาขมึงทึงดูโกรธเกรี้ยว แต่เวลานั้นคุณหมิวตัดสินใจรีบขับรถกลับไปบ้านของคู่หมั้นทันที

หลังจากที่คุณหมิวขับรถสปร์ตของคุ่หมั้นกลับมาบ้านมารดาของชัดชายแล้ว เธอก็เห็นรถพยาบาลจอดอยู่ทีหน้าตึก เธอรีบ
จอดรถแล้ววิ่งเข้าไปหา เห็นคุณหมอและพยาบาลกำลังมุงอยู่รอบๆร่างของคุณนายแจ่มจรัสที่นอนบิดตะแคงหงายแน่นิ่ง
อยู่กับพื้น ป้าแจ่มแม่บ้านรีบวิ่งเข้ามาหา

"คุณหมิวขา....คุณฉัตรไม่ได้มาหรอคะ...โฮๆๆๆๆๆ" ป้าแจ่มถามพร้อมร้องไห้ไปด้วย

"คุณป้าเป็นอะไรมากมั๊ยคะ..ป้าแจ่ม"...

คุณหมิวถามร้อนรนด้วยใจเป็นห่วง รีบขับรถกลับมาโดยลืมดูสภาพของตนเองว่าเสื้อผ้าหลุดลุ่ยไปขนาดไหน จนกระทั่ง
ป้าแจ่มต้องบุ๊ยใบ้ปากให้เธอก้มมองตนเอง แล้วก็ใจหายวาบ เมือแลเห็นสายบราเธอห้อยออกมานอกแขนเสื้อ ซิปด้านหลัง
ชุดแซกก็ยังรูดไม่สนิทคงค้างอยู่เกือบถึงต้นคอ

คุณหมิวรีบเลี่ยงถอยไปเข้าห้องน้ำ แล้วจัดการกับเสื้อผ้าผมเผ้าจนเรียบร้อย กลับออกมาอีกที ก็เห็นร่างคุณนายแจ่มจรัส
นอนอยุ่บนเตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วย มีสายน้ำเกลือโยงระยาง พร้อมสายออกซิเย็นเสียบที่รุจมูก มีเฝือกอ่อนประคองอยู่ที่ต้น
คอและแขนขา บุรุษพยาบาลค่อยๆเข็นรถออกไปช้าๆ ไม่อยากให้คนป่วยได้รับความกระทบกระเทือน

คุณหมิวเดินตรงไปหาคุณหมอ สอบถามอาการของคุณนายแจ่มจรัสด้วยความเป็นห่วง แต่หมอยังไม่ให้คำตอบ เพียงบอก
ว่าต้องทำ ซีที สแกน เสียก่อนจึงจะรู้

คุณหมิวขับรถตามไปที่โรงพยาบาล พร้อมกับโทรบอกเรื่องราวให้พ่อแม่ของเธอทราบ แต่ปิดบังเรื่องราวของตนเองกับคู่หมั้น
ว่าขณะนั้นกำลังทำอะไรกันอยุ่ จากนั้นพอไปถึงโรงพยาบาลก็ทันเห็นบุรุษพยาบาลเข็นเตียงที่มารดาของคุ่หมั้นนอนสงบ
อย่างไร้สติเข้าห้องไอซียู เธอนั่งรออยู่หน้าห้องด้วยความเป็นห่วง นึกตำหนิคู่หมั้นหนุ่ม พร้อมย้อนคิดถึงเรื่องราว เธอไม่เข้า
ใจในตัวเขาเลยว่าทำไมจึงเป็นคนเช่นนี้

ฉัตรชัยคนรักคนที่เธอหมายมอบชีวิตให้กลับเปลี่ยนแปลงไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือเพียงชั่วเวลาที่เขาบอกกับเธอว่าจะไป
ต่างประเทศ ผุ้ชายคนที่เธอรักเธอรุ้จักนั้นสุภาพอ่อนโยน รักมารดาของเขาจนแสดงออกมาอย่างชัดเจน แต่ผุ้ชายคนที่เธอ
เกือบเสียความสาวให้นั้น กลับกักขระ ดิบเถื่อนเย็นชา แม้ขนาดมารดาประสพอุบัติเหตุขนาดนี้ กลับไม่ใยดีรีบตามมาหา


ตลอดเวลาจากช่วงบ่ายๆมาจนจรดเย็น ฉัตรชัยรู้สึกหงุดหงิดกังวลใจห่วงพะวงถึงเหตุการณ์ที่ตนเองไม่มีโอกาศล่วงรู้ว่า
เกิดอะไรขึ้นบ้างกับคุ่หมั้นของตน อีกทั้งมารดาก็ยังไม่โทรศัพท์กลับมา จึงใช้เวลาที่ให้ผ่านไปด้วยการติดตั้งทีวีที่ซื้อมา
พร้อมกับจ้างบริษัทที่ติดจานดาวเทียมสีดำที่ซื้อขาดให้มาติดตั้ง จนเย็นจึงเปิดทีวีดูได้

หวานตื่นเต้นมากที่เธอได้รับของขวัญชิ้นนี้จากสามีกำมะลอ จึงนั่งติดหน้าจอเปลี่ยนทีวีช่องนั้นช่องนี้ดูอย่างเพลิดเพลิน
จนฉัตรชัยสามารถปลีกตัวไปโทรหามารดา สัญญาณเรียกติด แต่รอจนสายถูกตัดมารดาก็ไม่ยอมรับสาย ฉัตรรุ้สึกเขม่นที่
ตาขวา ใจคิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นร้ายแรงกับคุ่หมั้นของตนบ้างมั๊ย จวบจนค่ำมือตะวันลาลับขอบฟ้าไปแล้วจนบรรยากาศ
เริ่มสลัว ก็ได้ยินเสียงหวานร้องเรียกหา

"พี่จ๋า...ทานข้าวกันเถอะ...วันนี้หวานทำน้ำพริกมะขามด้วยน๊า...รสแซบถูกปากพี่แน่ๆ..."

หวานทั้งส่งเสียงเรียกเมื่อเห็นฉัตรชัยยังไม่ขยับก็ลุกขึ้นมาตาม ทั้งฉุดทั้งดึงจนชายหนุ่มต้องลุกตามแรงดึงของน้องสะใภ้
เดินไปนั่งกับพื้นกระดานเบื้องหน้ามีสำรับกับข้าวอยู่สองสามอย่าง ทั้งแกงจืดฟัก ผัดผักรวมที่ตัดมาจากสวนครัว แล้วก็
น้ำพริกมะขามรสจัด มีจานกระเบื้องใส่ข้าวสวยร้อนๆส่งควันหอมกรุ่น แต่กลับไม่มีช้อนสักคัน

"อ่ะพี่...น้ำล้างมือจ๊ะ.."

หวานส่งขันทองเหลืองใบใหญ่ ข้างในบรรจุน้ำใสสะอาดเกือบค่อนวางลงข้างตัว แล้วเธอก็จุ่มมือลงไปล้างก่อน จากนั้นก็
ใช้มือเปิบข้าวน้ำพริกมะขามอย่างเอร็ดอร่อย แต่ฉัตรชัยกลับเก้ๆกังๆ เอามือจุ่มน้ำล้างตาม แต่พอจับข้าวจะเปิบเข้าปาก
ตามที่หวานทำเป็นตัวอย่างให้เห็น ข้าวสวยร้อนๆก็ล่วงหล่นออกจากปากจนหมด หวานแอบชำเลืองมองตามแล้วซ่อนยิ้ม
อย่างเต็มที่ ค่อนแคะในใจว่าเชอะ...ทำมาปลอมตัว โดนจับเปิบข้าวด้วยมือก็ไปไม่รอดซะแล้ว แต่เธอกลับแก้สถานการณ์
ให้สามีกำมะลอว่า

"อ้าว...ข้าวมันร้อนไปหรอจ๊ะพี่...งั้นหวานหยิบช้อนมาให้นะจ๊ะ.."

พูดจบก็ลุกขึ้นไปหยิบช้อนสแตนเลสมาส่งให้สามี ฉัตรชัยนึกขอบใจน้องสะใภ้ในใจ แต่กลับไม่เฉลียวใจแม้สักนิดว่าบัดนี้
น้องสะใภ้ล่วงรู้ความลับของตัวเขาหมดแล้ว

หลังจากได้ช้อนสแตนเลสมาฉัตรชัยก้ตักน้ำพริกมะขามใส่ปาก แล้วแทบจะสำลักพรวดออกมาด้วยความเปรียวความเผ็ด
แต่กลั้นใจกลืนเข้าไปได้เสียก่อน ความเผ็ดร้อนของรสชาดน้ำพริกมะขามทำให้ฉัตรชัยถึงกับเหงื่อตก ไหลพรวดๆมาตาม
ข้างแก้ม รวมทั้งน้ำมูกน้ำตา จนไอแคกๆ หวานต้องรีบส่งน้ำดื่มมาให้ แล้วลอบมองด้วยความสงสารที่เธอไม่น่าจะทำน้ำ
พริกรสจัดขนาดนี้เลย สามีตัวจริงของเธอน่ะชอบรสเผ็ดจัดแบบนี้ แต่คู่แฝดของเขาน่าจะไม่เคยกินอาหารรสจัดได้ ทำ
ให้ไอแคกๆจนน้ำมูกน้ำตาไหล หวานขยับเข้าไปลุบหน้าลูบหลังฉัตรชัยด้วยความรู้สึกผิด

"มันเผ็ดไปหรอจ๊ะพี่....หวานขอโทษ...สงสัยจะใส่พริกเพลินไปหน่อยตอนทำก็มัวแต่ดูหนังน่ะจ๊ะ..."

หวานสารภาพอ่อยๆ แก้ตัวไปตามที่นึกได้ แล้วจัดการเลื่อนชามใส่น้ำพริกมะขามออกจากวง ไม่อยากเห็นสามีกำมะลอของ
เธอต้องฝืนใจกินมันอีก จนสองคนผัวหนุ่มเมียสาวเอ๊ยพี่ผัวกับน้องสะใภ้ทานอาหารกันจนเสร็จ หวานก็เก็บสำรับล้างจาน
ชามคว่ำใส่ตู้เรียบร้อย ก็เดินไปนั่งประจำที่หน้าจอทีวีแบนๆขนาด32นิ้ว แล้วเปิดละครดูของเธอเงียบๆ

"หวานจ๋า...พี่เดินลงไปย่อยอาหารหน่อยนะจ๊ะ..เดี๋ยวมา..."

ฉัตรชัยขยับตัวเดินลงจากเรือน พอพ้นสายตาของหวานก็รีบกดโทรศัพท์หามารดาตนอีกครั้ง แล้วก็เหมือนเดิม มารดาตน
ไม่รับสาย มันผิดปรกติจนใจฉัตรชัยว้าวุ่น นึกถึงแต่เรื่องร้ายๆ ที่จะเกิดขึ้น ตัดสินใจลองเสี่ยงอีกครั้งด้วยการโทรไปหา
คุณหมิว แต่สายไม่ว่าง คราวนี้ฉัตรชัยแทบอยากจะเป็นบ้า ที่ติดต่อใครไม่ได้สักคน สองขาก้าวเดินไปตามทางเดินที่เป็น
พื้นดินชื้นๆจากฝนตกเมื่อคืน จนไปถึงเพิงท้ายสวน

ก้าวเท้าขึ้นไปแล้วก็นั่งกอดเข่าครุ่นคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ตั้งแต่วันแรกที่ปั้มน้ำมัน จนตามหาน้องชายพบ แล้วเก็บตัว
เพื่อสลับกัน จวบจนมาถึงคืนนี้ ฉัตรชัยไม่เคยคิดที่จะหลอกลวงใครสักคนโดยเฉพาะน้องสะใภ้ชื่อหวาน ที่แสนซื่อบริสุทธิ์
เขารู้สึกถูกชะตากับเธออย่างบอกไม่ถูก คิดว่าพอหมดเรื่องราวเขาจะช่วยเหลือหล่อนเต็มที่ ไม่อยากเห้นเธอต้องมาใช้ชีวิต
ทนลำบากอยู่ในชนบทแบบนี้ ทั้งๆที่มารดาของสามีเธอก็มีทรัพย์สินเหลือเฟือที่จะเลี้ยงดูทั้งลูกสะใภ้กับหลานสาวได้อย่าง
ดี หรือเขาควรจะบอกความจริงกับหวาน แล้วรีบเข้าไปกรุงเทพดูให้รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นทั้งกับมารดา และคุ่หมั้น ขณะที่
ครุ่นคิดจนเผลอตัว ก็เห็นแสงไฟฉายวับแวมจากเรือนไทยเดินตรงมาที่เพิงพัก จนใกล้พอมองออกว่าหวานเดินมาหา

"พี่จ๊ะ...เดินออกมาทำไมทีนี่ มืดค่ำแล้วเดี๋ยวงูเงี้ยวเขี้ยวขอก็ขบกัดเอาหรอก...ป่ะกลับเรือนกัน มานั่งคนเดียวมืดๆค่ำๆยุงกัด
เอาละป่าวจ๊ะ..."

หวานพูดไปมือที่ถือพัดมาด้วยก็โบกปัดไล่ยุงไปมาด้วยความเป็นห่วง ภาพของหวานสาวชาวชนบทที่โบกพัดไล่ปัดป้อง
ยุงดูวุ่นวาย แต่กลับทำให้ฉัตรชัยมองเพลินจนลืมเลือนเรื่องทุกข์ใจไปชั่วขณะ

"ป่ะกลับกันจ๊ะ..." ฉัตรชัยฉวยจับข้อมือหวานยึดไว้แล้วจุงมือกันเดินกลับมา จนถึงหลังบ้าน หวานก็บอกว่า

"มาอาบน้ำกันก่อนจ๊ะ มะคืนพี่ก็ไม่ได้อาบน้ำ ตัวงี้เหม็นเชียว.." หวานไม่พูดเปล่าๆ กลับยื่นหน้าทำจมูกฟิตๆ สูดดมไปตาม
เนื้อตัวเสื้อผ้าของฉัตรชัย จนเขาต้องถอยหลังพิงตุ่มน้ำใบใหญ่

"คืนนี้หวานจะอาบน้ำให้พี่นะจ๊ะ..." พูดจบก็ใช้สองมือจับชายเสื้อยืดของฉัตรชัยถลกขึ้น แล้วเขย่งขาขึ้นสูงจนดึงเสื้อยืด
ตัวนั้นออกมาทางหัว จากนั้นก็เอื้อมมือไปคว้าขอกางเกงของฉัตรชัย ทำท่าทางจะปลดถอดมันออกมาด้วยมือของเธอ จน
ฉัตรชัยต้องเบี่ยงตัวหนี แล้วร้องบอกหวานว่าตนทำเองดีกว่า

ก่อนที่หวานจะออกเดินตามฉัตรชัยไปที่เพิงท้ายสวน เธอได้จัดเตรียมอุปกรณ์เสื้อผ้า รวมทั้งผ้าขาวม้าของฉัตรชัยเอามา
วางไว้เรียบร้อยแล้ว พอฉัตรชัยหันไปเจอผ้าขาวม้าก็หยิบขึ้นมานุ่งขมวดปมที่ด้านหน้าจนแน่น แล้วค่อยๆถอดกางเกง
ออกมา เพียงตัวเดียว

"เอ้าพี่...ถอดชั้นในออกมาด้วยสิจ๊ะ..หวานจะได้ซักให้..."

[post]หวานร้องบอก แต่ฉัตรชัยกลับทำเฉย จนหวานแอบนึกหมั่นใส้อยากแกล้งจึงทำท่าจะคว้าถอดให้ ฉัตรชัยถอยหลังกรูด
หวานหัวเราะเยิ้วๆชอบใจที่แกล้งสามีกำมะลอจนเค้าอายได้อีกครั้ง

"พี่ถอดเองก็ได้จ๊ะ...หวานอยู่เฉยๆ.."

ฉัตรชัยจำเป็นต้องถอดชั้นในสีขาวออกมา หวานก็แบมือขอ แล้วเทผงซักฟอกลงมือซักให้จนสะอาด จากนั้นเธอก็จัดการ
ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าถอดออกช้าๆ มันเชื่องช้าจนฉัตรชัยรู้สึกอึดอัดเหมือนหวานจงใจยั่วเขา แต่พอคิดกลับว่ามันก็ไม่เห็น
แปลกตรงไหน หวานนึกว่าเขาเป็นสามี เมียจะทำท่ายวนยั่วก็ไม่น่าแปลกอะไรนัก ในเมื่อเธอก็ยังสาว ยังสวย หุ่นก็ยังยั่ว
ยวนตารัดรึงใจได้ขนาดนี้

หวานจงใจถอดเสื้อผ้าออกมาอย่างเชื่องช้าจนหมด ก็ดึงผ้าถุงขึ้นมากระโจมอกขมวดปมที่เหนือราวนม จากนั้นก็กงักมือ
เรียกฉัตรชัยให้เดินเข้ามาหา ท่าทางการกวักมือมันดูยวนยั่วจนใจสั่น แต่เขาต้องจำใจเดินเข้าไปหา หวานก็ใช้ขัน
พลาสติคตักน้ำจากตุ่มใบใหญ่ ราดซู่ลงมาที่ตัวเขา น้ำที่ขังในตุ่มเย็นยะเยือกจนฉัตรชัยขนลุก จากนั้นก็ถือขันน้ำไว้
แล้วบอกให้เขาวักน้ำมาลูบหน้า ล้างตา พอฉัตรชัยทำตามหวานก็เอามือถูสบูก้อนจนฟองฟอด แล้วมาละเลงลูบหน้า
ลูบตาเขาจนดูสะอาดจากนั้นก็ตักน้ำเทราดลงมาช้าๆให้เขาใช้มือล้างฟองสบูด้วยตัวเอง

พอทำความสะอาดใบหน้าเสร้จ หวานก็สั่งให้ฉัตรชัยยื่นแขนออกมาแล้วจัดการขัดถูเอาขี้ไคลออกทีละแขน แล้วก้มตัว
ลงนั่งยองๆเพื่อขัดถูลำขาใหญ่แข็งแรงของสามีกำมะลอ ฉัตรชัยพยายามชักขากลับ ด้วยความรุ้สึกแปลกๆแต่ก็โดน
หวานดุเอ็ดเบาๆ แล้วเธอก็ทำหน้าที่ของเธอจนเสร็จ ราดน้ำให้ทั่วตัวอีกสองสามขัน แล้วเอามือกำสบู่ก้อนมาละเลงที่
แผงอกของเขา นิ้วเล็กๆ ลูบปราดโดนหัวนมจนฉัตรชัยสะดุ้งวูบ สยิวๆจนขนลุกเกลียว

หวานหัวเราะคิกๆ อย่างชอบใจ ยิ่งเน้นย้ำจนหัวนมของเขาตั้งชี้เด่ แม้ฉัตรชัยจะพยามบิดตัวดิ้นหนี แต่ก็ไปไหนไม่พ้น
มือเล็กๆเรียวๆ ที่ไล่ตามลูบไล้ จากนั้นลื่อนมือลูบสบูไปตามแขนจนทั่ว พอก้มต่ำลงมาที่ขาอีกครั้ง สายตาของหวานก็
ประสบกับความแข็งขันที่กึ่งกลางลำตัวของสามีกำมะลอว่าตอนนี้มันเริ่มพองขยายจนดันผ้าขาวม้าเปียกๆออกมาเป็น
ลำแข็งโด่ หวานทำไม่รุ้ไม่ชี้ แต่ก็ก้มหน้าแอบซ่อนรอยยิ้มไว้มิดชิด ละเลงสบู่ที่ขาจนถ้วนทั่ว

"พี่จ๊ะ...หันหลังหน่อย หวานจะถูสบู่ให้.."

เสียงเธอทั้งหวานทั้งไพเราะ จนฉัตรชัยไม่กล้าขัดขืน นึกแต่ว่าดีเสียอีกที่ตนหันหลังแบบนี้ หวานจะได้ไม่เห็นว่ากึ่ง
กลางลำตัวของเขากำลังขยับขยาย หวานทำแบบเดิมคือละเลงสบู่ก้อนใส่มือถุๆจนเกิดฟอง แล้วนำมาละเลงที่แผ่น
หลังกว้างของเขา จนเกิดฟองลื่นไปทั่ว แต่แล้วฉัตรชัยก็สะดุ้งเฮือกยืนตัวแข็ง เมื่อรู้สึกว่าหวานแนบตัวลงมาหา ความ
รู้สึกว่าแผ่นหลังกว้างของตนกำลังสัมผัสความอ่อนหยุ่นนุ่มนิ่ม ของอกเปลือยเต้าตูมเต่งเสียดสีส่ายไปส่ายมาช้าๆ
เท่านั้นยังไม่พอ มือเล็กๆของหวานวกวูบเข้ามาที่ลำลึงที่กำลังเริ่มแข็งตัว เธอคว้าเอาไว้แล้วแล้วถอกรูดละเลงสบู่
จนหัวบานเงี่ยงหยักนั้นแดงกล่ำ

"หวาน....ยะ...อย่าทำแบบนี้..." ฉัตรชัยทนกลั้นต่อไปไม่ไหว รีบร้องบอก

"ทำไมล่ะจ๊ะ..เมียทำให้ผัวแบบนี้ไม่ชอบหรอจ๊ะ..." หวานจ่อปากมาใกล้หูกระซิบเสียงแผ่ว แต่สำเนียงดูยวนยั่วยิ่งนัก

"มะ...มัน..ไม่ใช่อย่างนั้นจ๊ะ...พี่มะ..ไม่..."

ฉัตรชัยยังไม่ทันพูดจบคำ หวานก็เอามือที่ยังเลอะสบูปิดปากเขาไว้ เธอพลิกตัวฉัตรชัยหันกลับมา จ้องมองเข้าไปใน
ดวงตาของเขา สายตาหวานเชื่อมหวานใสจนฉัตรชัยสะอึก มองสบตาด้วยความเผลอไผล จนหวานค่อยๆเอามือที่ปิด
ปากออกแล้ววักน้ำจากตุ่มมาล้างคราบสบู่ที่ปากเขาอย่างรวดเร็ว

"พี่จ๋า....ยังไม่ต้องพุดนะคะ...".

พอหวานพูดจบก็เขย่งตัวเงยหน้าเอาปากมาประกบปากฉัตรชัยแน่น เธอจูบเขาอย่างเร่าร้อน ลิ้นเล็กๆสอดส่ายควานหา
ลิ้นอ่อนนุ่มในปากของเขา อกเปลือยยิ่งเบียดส่ายเสียดสีกับแผงอกกว้าง มือล้วงลงไปจับลำลึงของฉัตรชัยลูบช้าๆรูด
เบาๆ จนเขาเสียวสยิว มันยิ่งลุกยิ่งแข้งจนเต็มอุ้มมือเล็กๆของหวาน

"หวาน..ฟะ...ฟังพี่ก่อน....ดะ..ได้มั๊ยจ๊ะ..."

ฉัตรชัยเสียวสยิวจนปากสั่น พูดติดๆขัดๆ กว่าจะจบประโยค แต่หวานกลับไม่ยอมฟัง เธอยกนิ้วชี้มาแตะปาก แล้วทำเสียง
จุ๊ๆ ให้เขาเงียบเสียง จากนั้นเธอค่อยใช้ปลายลิ้นละเลงเลียไปจนทั่วแผงอกกว้าง ไม่ใส่ใจว่าสบู่จะเข้าปาก เธอละเลง
เลียมาจนถึงท้องน้อยของฉัตรชัย จากนั้นก็กระตุกผ้าขาวม้าของเขาออก ลำยาวกว่าสามีตัวจริงของหวานเกือบสองนิ้ว ก็
ดีดเค้งออกมาเป็นคืบ หวานก้มมองพร้อมกลืนน้ำลายก่อนจะวักน้ำมาล้างลำลึงอย่างรวกๆ แล้วแลบลิ้นละเลงที่ขอบเงี่ยง
จนฉัตรชัยตะลึงตัวแข็งค้างนิ่ง ทำได้เพียงแอนเอวผวา ร้องครางอูย ด้วยความเสียวซ่าน

ลีลาชิวหาของหวานสร้างความเสียวสยิว และประทับใจจนฉัตรชัยหลับตาไม่อยากรับรู้ ว่าเธอกำลังทำอะไร หรือเธอเป็น
ใครทั้งสิ้น แม้เขาไม่อยากทำผิดกับลูกกับเมียของน้อง แต่ในสถานการณ์ที่เขาพยายามพูด แต่เธอกลับไม่ยอมฟัง แล้ว
จะให้เขาทำอย่างไรได้ คงทำได้เพียงปล่อยกายปล่อยใจไปกับความรุ้สึกเสียวซ่านที่หวานมอบให้ช้าๆ ลำยาวของตนก็
อุ่นวาบเมื่อหวานค่อยๆอ้าปากอมเข้าไป ปากเล็กๆค่อยขยับอมรูดลงไปช้าๆ ลำยาวเกือบ7นิ้วของเขาก็จมหายเข้าไปใน
ปากของหวานได้อย่างไม่น่าเชื่อ
......................................................
ย้อนกลับมาที่กรุงเทพมหานคร คุณหมิวนั่งรอมารดาของคุ่หมั้นจนจรดเย็น คุณหมอก็ยังไม่ออกมาจากห้องไอซียู เธอ
พยายามโทรหาฉัตรชัยแทบจะตลอดเวลา แต่เขากลับไม่ยอมรับสาย จนเกือบ6โมงเย็น พ่อกับแม่ของคุณหมิวจึงเดิน
ทางมาถึงโรงพยาบาล พอคุณหมิวเห็นหน้าพ่อกับแม่ เธอก็ผวาไปกอด พร้อมร้องไห้ออกมาอย่างขวัญเสีย จนมารดา
ต้องปลอบใจกันอยู่พักใหญ่เธอจึงเงียบเสียงลง พร้อมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ทั้งสองฟัง แต่เธอปิดบังเรื่องในโมเต็ล
ไว้ไม่กล้าเล่า

"เอ๊ะ....ทำไมพ่อฉัตรถึงเป็นยังงี้..." คุณหญิงสรวงสุดามารดาของคุณหมิวรู้สึกแปลกใจ ปรกติว่าที่ลูกเขยคนนี้ของเธอ
นั้น เธอเล็งสืบประวัติชีวิตเขามานานจนแลเห็นว่าเขาเป็นคนดี จึงเต็มใจให้มล.ลาวัลย์ ลูกสาวคนเดียวของเธอหมั้น
หมาย แต่การกระทำครั้งนี้ยังความประหลาดใจให้ท่านทั้งสอง จนต้องออกปากตำหนิให้บุตรสาวได้ยิน
....................................................
อีกด้านหนึ่งหลังจากที่คุณหมิวขับรถสปอร์ตออกไปทิ้งให้ชัดชายยืนคว้างด้วยความรุ้สึกโกรธ แต่เขาหาได้โกรธว่าที่
คุ่หมั้นของพี่ชายแม้สักนิด คนที่ชัดชายโกรธคือมารดาของตนเองที่มาเป็นมารขัดขวางความสุขของเขา ถ้าเธอไม่
โทรเข้ามา ป่านนี้คุณหมิวคงจะเสร็จเป็นเมียเขาแล้วอย่างแน่นอน

เมื่อชัดชายโดนทิ้งไปเช่นนั้น แม้จะรุ้ว่ามารดาเกิดอุบัติเหตุ ก็หาได้ใส่ใจ คิดแบบลูกอกตัญญูว่า ถ้ามารดาตายไปเสีย
คน ความลับเรื่องการสลับตัวก็จะหมดประจักษ์พยาน มันย่อมเป็นผลดีกับตัวของเขา หลังจากเดินออกมาจากโมเต็ล
ก็มองหารถรับจ้าง เรียกให้ไปส่งสถานบริการอาบอบนวด จะที่ไหนก็ได้ในขณะนี้ ชัดชายไม่ใส่ใจ ขอเพียงแค่ได้ระบาย
ความอัดอั้นที่สะสมมาตั้งแต่ช่วงเช้าให้ออกไปจนตัวเบาได้แค่นั้นก็เพียงพอ


ที่โรงพยาบาล หมอเดินออกมาจากห้องไอซียู เพื่อมาแจ้งข่าวเรื่องคุณนายแจ่มจรัสให้กับคุณหมิวและพ่อแม่ทราบ
"ขอโทษครับ ใครเป็นญาติของผู้ป่วยครับ..." นายแพทย์วัยกลางคนเดินออกมาสอบถาม พอคุณะของคุณหมิวแจ้งว่า
พวกตนเป็นญาติของผู้ป่วย

"เอ่อ...คุณแจ่มจรัสมีเลือดคั่งในสมองนะครับ ขณะนี้ทางแพทย์จำต้องผ่าตัดอยากทราบว่าใครพอจะเซ็นต์อนุญาติ
ได้ครับ...."
คุณหมิวและพ่อแม่ต่างพากันอึ้ง เพราะเท่าที่ทราบนอกจากบุตรชายคือฉัตรชัยแล้ว คุณนายแจ่มจรัสไม่มีญาติสนิท
ชิดเชื้อที่ไหนอีกเลย คุณหมิวจึงรีบติดต่อหาคุ่หมั้น แม้จะโทรศัพท์ติด แต่เขากลับไม่ยอมรับสาย จึงส่งข้อความผ่าน
ระบบไปบอกให้คุ่หมั้นทราบว่าให้รีบมาพบที่โรงพยาบาล แล้วต่างก็นั่งมองหน้ากัน พร้อมกับแจ้งให้คุณหมอรับทราบ

"ผมเกรงว่าถ้ายิ่งชักช้า มันจะยิ่งเป็นอันตรายกับผู้ป่วยนะครับ...."

"เอ่อคุณหมอคะ...ให้หมิวเซ็นตืได้มั๊ยคะ..." คุณหมิวลองเสนอตัว แต่พอคุณหมอรับทราบฐานะของเธอ คุณหมอกลับ
ส่ายหัวปฏิเสธ

"ถ้าเช่นนั้นเราคงต้องรอบุตรชายของผู้ป่วยคนเดียวเท่านั้นแหละครับ..." จากนั้นคุณหมอก็เดินกลับไปเข้าในห้อง
ไอซียูอีกครั้ง

ทางด้านชัดชายได้เลือกสาวหมอนวดระดับเบอร์ตองขึ้นห้องไป แต่หลังจากเข้าไปในห้องแล้วความรู้สึกหืนหายกลับหาย
ไปเสียดื้อๆ มีความรุ้สึกไม่ต้องการมีเซ็กส์กับสาวบริการที่ตนเองเลือกขึ้นมา อาจเป็นเพราะมันง่ายไปไม่ได้ลุ้น ไม่ได้
หลอกล่อ ซึ่งชัดชายรู้สึกไม่สนุก ไม่สะใจ เหมือนตอนที่ตนได้หลอกล่อคู่หมั้นของพี่ชาย จึงเข้าไปเพียงอาบน้ำ แม้สาว
บริการจะทำการปลุกเร้าอารมณ์อย่างไรชัดชายกลับรู้สึกเฉื่อยชา จนกระทั่งหมดเวลา ก็กลับลงมาเพื่อตระเวณหาที่เที่ยว
ต่อ ในสมองไม่เคยคิดห่วงหาผู้เป็นมารดาแม่แต่น้อยว่ากำลังเป็นอะไร

ขณะที่ชัดชายเดินออกมาจากสถานบริการเพื่อรอเรียกรถรับจ้างอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ดังตื๊ดๆๆ สั้นๆเป็นสัญญาณบอกว่ามี
ข้อความส่งเข้ามา ชัดชายหยิบข้อมากดอ่านข้อความที่ส่งมาจากคุณหมิว บอกให้ไปหาที่โรงพยาบาลด่วน พออ่านจบก็
กดลบข้อความทิ้ง ยืนลังเลตัดสินใจว่าควรจะทำอย่างไรดี แล้วก็เลือกไปหาคุณหมิวที่โรงพยบาล ซึ่งชัดชายคิดเพียง
แค่ว่า ตนเองอาจจะมีโอกาศอยู่กันสองต่อสองกับคุณหมิวอีกครั้ง

..............................................

"วะ...หวานหยุดเถอะ..พี่ว่าทำแบบนี้..มะ..มันไม่ถูกนะจ๊ะ...อูววว..อ่าส์สืส์..หยุดก่อน..เชื่อพี่นะ..ก่อนที่ทุกอย่างจะ..สะ..
สายไป....."

ฉัตรชายยืนพิงโอ่งใบใหญ่ร่างกายเปลือยเปล่า ส่งเสียงกระท่อนกระแท่นร้องปรามน้องสะใภ้ ในขณะที่ท่อนลำยาวแข็ง
แกร่งอยู่ในช่องปากของหวานเกือบหมดทั้งดุ้น สองมือของเขาพยายามจับยึดหัวของหวานที่ผงกหงึกๆเข้าๆออก ๆ จน
ลำยาวของเขาเปียกชุ่มโชกเต็มไปด้วยน้ำลายของเธอผสมกับน้ำหล่อลื่นจากควยของเขา จนบางส่วนไหลย้อยลงมา
ตามมุมปากบางสวยของน้องสะใภ้

"ไม่ถูกยังไงจ๊ะพี่...หวานก็ทำให้พี่แบบนี้ประจำนี่จ๊ะ..." หวานคายปากออกมาจากท่อนลำยาวของสามีกำมะลอแล้วเงยหน้า
ช้อนตาสวยหวานเชื่อมถามเขา

"นั่นแหละ..มันไม่ถูก...เพราะพี่ไม่ใช่สามีของหวาน...."

ในที่สุดฉัตรชัยก็จำเป็นต้องสารภาพความจริงออกมา ด้วยจิตสำนึกบอกกับตัวเขาว่าการกระทำแบบนี้กับเมียของน้อง มัน
ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง โดยเฉพาะหวานน้องสะใภ้นั้น เข้าใจผิดคิดว่าเขาคือสามีของเธอ แต่คำตอบของหวานกลับทำให้
ฉัตรชัยแทบไม่เชื่อหูของตนเอง

"จ๊ะ....หวานรู้ว่าพี่ไม่ใช่พี่ชัดสามีของหวาน..."

หวานพูดจบก็ก้มหน้าเข้าหาลำยาวของฉัตรชัยอีกครั้ง แลบลิ้นเรียวแหลมออกมาเลียไล้รอบๆเงี่ยงบานสีแดงกล่ำของเขา
ก่อนจะอ้าปากจุ๊บเบาๆตรงปลายหัว จนฉัตรชั่ยเสียวสยิววูบ ผวากระเด้งแอ่นควยใส่ปากหวานยึกๆด้วยความเสียวซ่าน

"อ่ะ...หวานรู้แล้ว..ตั้งแต่เมื่อไหร่....แล้วทำแบบนี้ทำไมจ๊ะ......มะ..มันไม่ถูกนะจ๊ะ...ซี๊ดดด..หวาน..หยุดก่อนได้มั๊ยจ๊ะ...พะ..
พี่จะทนไม่ไหวแล้วนะ...."

ฉัตรชัยหาใช่พระอิฐพระปูน ยังมีกิเลสตัณหาความอยากความใคร่ แม้จะถูกครอบเก็บไว้ด้วยความรุ้สึกผิดถูกชั่วดี แต่การ
ที่โดนน้องสะใภ้ปลุกเร้าจนอารมณ์กระเจิงไปแบบนี้ ก็แทบจะทนต่อไปไม่ไหว โดยเฉพาะเธอกลับบอกว่ารู้มาแล้วว่าเขา
ไม่ใช่สามี รู้แล้วทำแบบนี้เพราะอะไร...เป็นคำถามที่ฉัตรชัยอยากรู้คำตอบก่อนที่จะปล่อยกายปล่อยใจไปตามอารมณ์ใคร่
อารมณ์อยากตามวิถีปุถุชน

"ถ้าพี่ทนไม่ไหว พี่จะทำอะไรหวานจ๊ะ...."

แทนที่หวานจะหยุดการกระทำ แทนที่จะตอบคำถามของฉัตรชัยว่ารู้ว่าเขาปลอมตัวมาตั้งแต่เมื่อไหร่ หวานกลับเงยหน้า
ขึ้นมาถามด้วยเสียงกระเส่าวาบหวามว่าถ้าทนไม่ไหวเขาจะทำอะไรเธอ

คำพูดที่ดุใสซื่อของหวานถามออกมา กลับมีความหมายที่ท้าทายปรามาทความเป็นชายของฉัตรชัยอย่างแรงกล้า ใช่สิ
ถ้าเขาทนไม่ไหว เขาจะทำอย่างไร จะเย็ดหวานรึ เขาจะทำได้รึ ในเมื่อจิตสำนึกเตือนตัวเขาอยู่ตลอดเวลาว่ามันเป็นสิ่ง
ไม่ถูกต้อง แต่อารมณ์ที่กระเจิดกระเจิงเต็มไปด้วยแรงตัณหาราคะ เขาควรจะปล่อยให้ดำเนินต่อไปหรือหยุดเอาไว้แค่นี้

"ไม่จ๊ะ...พี่ก็ไม่ทำอะไร พี่จะต้องหยุดการกระทำของหวาน..."

ฉัตรชัยกลับเลือกที่จะพูดแบบนี้ออกไป หวานได้ยินเธอก็ยิ้ม รอยยิ้มของหวานบ่งบอกถึงความดีใจ ปลื้มใจในคำตอบของ
ฉัตรชัย จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นยืนตรงเข้ามากอดรัดเขาแน่น ยื่นปากมาจู๊บแก้มเขาเบาๆพร้อมพูดว่า

"หวานขอโทษนะจ๊ะ....ที่ทำแบบนี้ หวานไม่ได้ตั้งใจแกล้งพี่เลย...แต่หวานเรียนมาน้อย หาวิธีที่จะทำให้พี่สารภาพออกมา
ว่าพี่เป็นใคร และมาสลับตัวกับผัวหวานทำไม ได้เพียงวิธีนี้เท่านั้น หวานรู้ว่าพี่เป็นคนดี มีทางเดียวคือเอาความดีของตัว
พี่มาเอาชนะอารมณ์กิเลสตัณหา แล้วความดีของพี่ก็ชนะ...หวานดีใจที่สุดเลยจ๊ะ..." คำพูดซื่อๆใสๆ ของน้องสะใภ้ทำให้
ฉัตรชัยตื้นตันใจ โอบกอดตัวเธอเข้ามารัดแน่นขึ้นด้วยความรู้สึกที่ดีๆ

จากนั้นก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้หวานรับฟังตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงวันที่มีการสลับตัวกัน หวานนั่งฟังจ้องตาแป๋ว เสื้อผ้าของทั้ง
สองคนก้ยังไม่สวมใส่ให้เรียบร้อย แต่อารมณ์ตัณหานั้นกลับไม่มีหลงเหลืออยู่ในกายในใจของทั้งสองคนเลย ร่างกายส่วน
ต่างๆจึงสงบราบเรียบเหมือนปรกติ จนฉัตรชัยเล่าจบ

"หวานรุ้ว่าพี่ไม่ใช่พี่ชัดตั้งแต่คืนแรกแล้วละจ๊ะ..." หวานสารภาพออกมาบ้าง

"รู้ได้อย่างไรครับ...." คราวนี้ฉัตรชัยพูดออกมาตามปรกติของตนเอง ไม่ต้องจ๊ะๆจ๋าๆ เลียนแบบน้องชายอีกต่อไป

"ช่วงที่พี่มาถึง..พี่ก็ทำอะไรต่างจากพี่ชัดตั้งหลายอย่าง..ไม่สุบบุหรี่งี้...แล้วที่หวานมั่นใจก็ตรงนี้... " หวานพูดจบก็ชี้มือ
มาท่อนลำยาวของฉัตรชัยที่นอนสงบนิ่ง แล้วหัวเราะคิกๆ เสียงสดใสน่ารัก

"มันต่างกับของพี่ชัดมากเลย อิอิ" ฉัตรชัยได้ยินคำตอบถึงกับอายหน้าแดง อยากรู้ว่ามันต่างกับชัดชายผู้น้องอย่างไรแต่
ก็ไม่กล้าสอบถาม

"เอ่อ..แล้วที่หวานตั้งใจยั่วพี่นี้ก้เพื่อให้พี่ทนไม่ไหว สารภาพออกมางั้นรึครับ..."ฉัตรชัยลองสอบถามเพราะความอยากรู้

"ใช่ค่ะ..."

"แล้วถ้าพี่ไม่พูดไม่สารภาพล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น...."

"หวานก็....ก็...ทำกับพี่แบบผัวเมียไงคะ...." หวานพูดอุ๊บอิ๊บ อายจนหน้าแดง แต่ฉัตรชัยพอได้ยินกลับรู้สึกสยิวๆ

"เอ้า....หวานก้รุ้ว่าพี่ไม่ใช่สามี แล้วจะทำกับพี่แบบนั้นทำไมครับ...." ฉัตรชัยถามไปแล้ว แต่พอได้คำตอบกลับมา ถ้าเขา
ย้อนเวลาได้ คงไม่กล้าถามคำนี้ออกมาจนตอนนี้เขากำลังรุ้สึกกระอักกระอ่วนใจ

"ก็...ก็....หวานชอบพี่จ๊ะ..."

"อ่ะ...หวานว่าไงนะ" ฉัตรชัยไม่อยากเชื่อหูตนเอง

"พี่ได้ยินไม่ผิดหรอกจ๊ะ...หวานชอบพี่...แม้เพียงรู้จักพี่แค่สองวัน...หวานก้รู้สึกชอบพี่จริงๆจ๊ะ...พี่คงรู้เรื่องของหวานกับ
พี่ชัดเขาแล้วใช่มั๊ยคะ...ว่าหวานมาเป็นเมียพี่เขาได้อย่างไร..." หวานหยุดเล่ารอจนฉัตรชัยผงกหัวตอบรับ

[post]"หวานไม่เคยรักพี่เขามาก่อน แม้จนบัดนี้หวานก็ไม่เคยรักเขา หลายอย่างมันไปกันไม่ได้ แต่ที่หวานทนอยู่กันจนมีลูก
เต้า ก็เพราะเหมือนตกกระไดพลอยโจน หวานเสียตัวให้พี่เค้าเป็นคนแรก แม้ไม่รัก ก็จำต้องอยุ่กับพี่เค้าไปจวบจนวัน
ตาย...หวานไม่เคยใกล้ชิดกับผู้ชายคนใดมาก่อน  จนกระทั่งมีพี่มาชิดใกล้ แม้หน้าตาพี่จเหมือนกับพี่ชัด แต่จิตใจพี่น่า
รักกว่า หวานอบอุ่นเป้นสุขกว่าตอนที่อยู่กับพี่ชัด... พี่จะว่าหวานเลวก็ได้นะจ๊ะ...แต่หวานพูดออกมาจากใจจริงๆ .."

หวานพูดมาจนตอนท้ายใกล้จบ เสียงเธอก็สั่นเครือ มีหยาดน้ำตาเต็มสองเบ้าตาคู่สวย จนฉัตรชัยต้องเอื้อมมือดึงร่าง
บอบบางเต็มไปด้วยสัดส่วนอวบนูนโค้งเว้าของสตรีเพศที่เย้ายวนตา เข้ามากอดปลอบ พร้อมก้มหน้าสจูบเรือนผมดำ
ขลับยาวสลวยของหวานเบาๆ.....

ep.26

ชัดชายไปถึงโรงพยาบาล แจ้งความประสงค์ว่าจะมาพบผู้ป่วยคือคุณนายแจ่มจรัสกับฝ่ายประชาสัมพันธ์ หลังจากทราบ
ว่ามารดากำลังรอการผ่าตัดอยู่ที่ห้องไอซียู ก็เดินไปตามที่ได้รับการบอกมาจากพนักงานของโรงพยาบาล จนถึงหน้าห้อง
ไอซียู ก็เห็นคุณหมิวกับผู้หลักผู้ใหญ่อีกสองคนนั่งรออยุ่หน้าห้องด้วยทีท่ากระวนกระวายใจ พอคุณหมิวหันมาเห็นคุ่หมั้น
ตัวปลอมก็รีบเดินเข้ามาหา

"คุณพี่คะ...ทำไมเพิ่งมา หมิวทั้งโทรไปหาทั้งส่งข้อความ....รุ้มั๊ยว่าคุณป้ากำลังอยู่ในอันตราย..."

คุณหมิวต่อว่าคุ่หมั้นของเธอด้วยความรุ้สึกโกรธจริงๆ ยิ่งเห็นสีหน้าท่าทีของเขาที่ดูไม่ทุกข์แต่ประการใด เธอก็ยิ่งโกรธ
แล้วสับสนงุนงงว่าทำไมคุ่หมั้นของเธอถึงได้เปลี่ยนแปลงไปขนาดนี้

ส่วนชัดชายไม่ได้พูดอะไรออกมา เพียงยืนฟังคู่หมั้นของพี่ชายต่อว่า แล้วมองกราดไปทั่วห้องด้วยตัวเขาไม่รู้ว่าผู้ใหญ่สูง
อายุทั้งสองที่นั่งอยู่กับคุณหมิวนั้นคือใคร เพราะพี่ชายก็ไม่เคยบอกเอาไว้ ยิ่งทำให้พ่อกับแม่ของคุณหมิวรู้สึกผิดหวังกับ
การไม่มีสัมมาคารวะของว่าที่ลูกเขยคนนี้เพิ่มขึ้น จนต้องพากันครุ่นคิดว่า หรือทั้งสองคนกำลังมองว่าที่ลูกเขยผิดไป
แท้จริงแล้วเขาไม่ใช่คนดีตามเปลือกที่เคยแสดงออกมา จึงพากันลุกขึ้นเดินออกไปจากที่ตรงนั้น ด้วยรู้สึกไม่สบอารมณ์
พร้อมหันหน้าปรึกษากันว่า หลังจากเหตุการณ์คืนนี้ผ่านไป คงต้องทบทวนเรื่องของบุตรสาวกับนายฉัตรชัยเสียใหม่แล้ว


ส่วนคุณหมิวรีบแจ้งให้พยาบาลเวรหน้าห้องไอซียูรับทราบว่าขณะนี้ญาติของผู้ป่วยเดินทางมาถึงแล้ว พยาบาลเวรจึงรีบ
เข้าไปตามนายแพทย์เจ้าของไข้ออกมาจากห้องไอซียู จากนั้นก็อธิบายเรื่องราวอาการของคุณนายแจ่มจรัสให้ชัดชาย
รับทราบ พร้อมยื่นเอกสารให้เขาเซ็นต์ยินยอมให้มีการผ่าตัด สีหน้าของนายแพทย์ดูเป็นกังวลอย่างมาก เพราะทุกนาที
ทุกชั่วโมงที่ผ่านไป มันหมายถึงอันตรายกับคุณนายแจ่มจรัสเพิ่มขึ้นทุกขณะ ต่างกับสีหน้าของชัดชายที่ไม่แสดงอาการ
ทุกข์ใจร้อนใจเป็นห่วงมารดาแม้สักนิด หลังจากที่ชัดชายเซ็นต์เอกสารเรียบร้อยแล้ว ก็หันไปทางคู่หมั้น

"น้องหมิวขับรถพี่มาด้วยมั๊ย..."

คุณหมิวได้ยินถึงกับขมวดคิ้ว แทนที่คุ่หมั้นจะถามถึงอาการของมารดา กลับถามเรื่องรถเป็นห่วงเรื่องรถสปอร์ตเสียมาก
กว่า คุณหมิวคร้านที่จะตอบปากตอบคำ ล้วงมือลงในกระเป๋าถือ หยิบกุญแจรถสปอร์ตวางข้างๆตัว ไม่แม้ที่จะส่งให้กับ
มือของคู่หมั้น

"รถจอดอยู่หน้าตึกค่ะ...." น้ำเสียงของคุณหมิวแข็งกระด้าง แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

"แล้วคุณพี่จะไม่อยู่รอดูอาการคุณป้าก่อนหรือคะ..."

"พี่ไม่ใช่หมอครับ อยู่ก็ช่วยอะไรแม่ไม่ได้ ฝากน้องหมิวดูแลด้วยละกัน...เรื่องห้องเรื่องค่าใช้จ่าย เดี่ยวพี่มาจัดการเอง..."

พูดจบก็เดินจากหน้าห้องไอซียูออกมา เดินสวนกับพ่อแม่ของคุณหมิว ก็ทำหน้าเชิดคอแข็งมองผ่านเหมือนคนไม่เคย
รู้จักกันแม้สักนิด จากนั้นชัดชายก็ออกไปจากโรงพยาบาล ขับรถสปอร์ตของตนออกกระชากไปอย่างแรงด้วยอารมณ์ที่
พลุ่งพล่าน ขับไปตามทางเดิมที่มากับรถรับจ้างเมื่อสักครู่
...........................................................................
หลังจากที่ฉัตรชัยได้รับรู้ความในใจของหวานน้องสะใภ้จนหมดแล้ว เขาก็รุ้สึกกระอักกระอ่วนใจ ทำตัวไม่ถูก ไม่ใช่รังเกียจ
ที่หวานมาชอบมารักเขา แต่เขากลับกลัวใจตนเองมากกว่าว่าจะทำผิดกับน้องชายของตนเอง แม้หวานจะมีลูกมีสามีแล้ว
ก็ใช่ว่าความสวยความน่ารักของเธอจะด้อยลงไปแต่อย่างใด เธอยังคงความสวยความน่ารัก รูปร่างทรวดทรงหรือก็ไม่มี
ส่วนใดบุบสลายหย่อนคล้อยลงไปเลยแม้สักนิด รูปร่างของหวานยังคงสามารถดึงดูดตาดึงดูดใจ ยามที่เขาอยู่ใกล้ชิด
กับเธอ จนเขาต้องเตือนตนเองอยู่เสมอ ไม่ยอมคล้อยตามอำนาจฝ่ายต่ำ ให้ฉวยโอกาศหาเศษหาเลยกับตัวน้องสะใภ้

"พี่จ๊ะ....เข้ามุ้งนอนกันเถอะ...ดึกแล้ว..."

หวานจัดที่หลับที่นอนเรียบร้อยแล้วก็มุดหัวโผล่หน้าออกมาจากชายมุ้ง เสื้อคอกระเช้าสีชมพูอ่อนย้อยต่ำลงมาจนฉัตรชัย
แลเห็นอกอวบอูมเต้าเต่งของหวานได้เกือบทั้งสองเต้าด้วยเธอไม่ได้ใส่บราไว้ห่อหุ่มข้างใน แล้วก้รีบเบนสายตาไปทาง
อื่น แต่เมื่อหวานเรียกแล้วฉัตรชัยยังคงนิ่งเฉย เหมือนไม่ได้ยิน กระทั่งตาที่แลมองมาที่เธอในตอนแรกนั้นกลับหันเหไป
มองด้านอื่น จนหวานรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ เสียงที่พูดออกมาอีกครั้งจึงสั่นเครือ

"พี่รังเกียจหวานหรือจ๊ะ....พี่จะด่าว่าหวานเป็นผู้หญิงสารเลวใจง่ายก็ได้นะ....หวานยอมรับ...เพราะหวานคงเป็นเช่นนั้น
ในสายตาพี่จริงๆ...พี่ถึงไม่ยอมนอนร่วมมุ้งเดียวกับหวาน..."

"อื้อออ..ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกหวาน...พี่มัวแต่คิดเรื่องทางบ้านน่ะครับ ห่วงคุณแม่ กับคุณ..เอ่อ...หมิว คุ่หมั้นของพี่น่ะครับ...."

ฉัตรชัยรีบตอบกลับไม่อยากให้หวานคิดมาก เพราะจริงๆในใจของตนเองก็ไม่เคยคิดรังเกียจเธอแม้แต่สักนิด

"อย่าคิดมากเลยจ๊ะ...พรุ่งนี้พี่ก็เข้ากรุงเทพไปดูสิจ๊ะ...ว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า..."

น้ำเสียงของหวานค่อยดีขึ้น เมื่อได้ยินฉัตรชัยตอบว่าไม่เคยนึกรังเกียจ จากนั้นเธอก็ตลบมุ้งกลับเข้าไปนอนเพียงลำพัง
แม้จะพยายามหลับตา แต่ใจดวงเล็กๆของหวานกลับว้าวุ่น..สับสน งุนงงว่าเธอหลงรักพี่ชายของสามีเธอตั้งแต่เมื่อใดแต่
ก็หาคำตอบให้กับตนเองไม่ได้ จวบจนกำลังจะเคลิ้มหลับ ก็แลเห็นฉัตรชัยมุดมุ้งเข้ามานอนเคียงข้าง

"พี่จ๋า...หวานขอโทษ...หวานไม่ควรสร้างความอึดอัดให้พี่กลัดกลุ้มเลย...หวานเลวที่หวานหักห้ามใจให้รักพี่ไม่ได้..พี่
อย่าโกรธอย่าเกลียดหวานนะจ๊ะ..." หวานหันข้างเอียงมาทางด้านที่ฉัตรชัยนอนพร้อมพูดเบาๆให้เขาได้ยิน

"พี่ไม่เคยรู้สึกโกรธหรือเกลียดหวานเลย...พี่โกรธใจพี่เองต่างหาก...."

"พี่โกรธใจตัวเองทำไมจ๊ะ..." หวานจ้องมองฉัตรชัยด้วยสายตาที่เผยความรู้สึกออกมาจนหมดเปลือก

"พี่โกรธ  กลัวว่าใจพี่จะไม่เชื่อฟังคำสั่งของแม่พี่น่ะครับ..."

"คุณแม่สั่งพี่ว่าอย่างไรจ๊ะ..."

เสียงกระซิบแผ่วหวานบวกกับกลิ่นหอมเหมือนดอกมะลิที่โชยเข้ามาให้ฉัตรชัยสูดดม ทำให้เขาเคลิบเคลิ้มจนต้องยื่นมือ
ไปกอดดึงรั้งร่างอิ่มอรชรของหวานเข้ามาใกล้ด้วยความเผลอไผล

"แม่บอกว่าให้พี่ระวังใจตนเอง..อย่าเผลอไปทำอะไรกับหวานครับ..." ฉัตรชัยกระซิบตอบหันตะแคงหน้าเข้าหาหวาน จน
จมูกแทบจะชนกัน

"ละ..แล้ว...พี่...อยากขัดคำสั่งของแม่หรอจ๊ะ..."

ทั้งเสียงไพเราะอ่อนหวาน ทั้งสายตาใสแป๋วหวานหยาดเยิ้ม ทั้งรอยยิ้มที่มีแต่ความจริงใจ อบอุ่น ทำให้ฉัตรชัยเอียงหน้า
เข้าไปแนบ ปากพรมจูบไปบนดวงตาคู่สวย สองแก้มเต็มอิ่ม จนถึงริมฝีปากแดงระเรื่อตามธรรมชาติ ปากแนบประกบนิ่ง
ชั่วขณะ หวานก็เป็นฝ่ายเริ่มแย้มปากเผยอ ส่งลิ้นเรียวแหลมเข้ามาในปากของฉัตรชัย มือเล็กๆของหวานเอื้อมมากอดลูบ
ไล้แผ่นหลังเขาเบาๆ

"พี่จ๋า...หลับตาสิจ๊ะ...อย่าคิดว่าหวานคือใคร พี่คิดเสียว่าผู้หญิงที่พี่กอดอยู่นี้คือสาวบริการที่พร้อมจะบริการความสุขให้พี่...
พี่ไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรกับหวาน...หวานขอเพียงแค่อยากมีความสุขกับผู้ชายที่หวานรักสักครั้งหนึ่งในชีวิต แค่นี้หวาน
ก็พอใจแล้วจ๊ะ..."

คำพูดใสๆซื่อๆ บวกแววตาที่จ้องมองอย่างเปิดเผยถึงความรุ้สึกของหวาน จนฉัตรชัยทนต่อไปไม่ไหว ใครจะตราหน้าว่า
เขาแย่งเมียของน้อง เขาก้ยอมรับอย่างลูกผู้ชายว่าใช่ เพราะสาวน้อยที่เขานอนเคียงข้างคนนี้ ทั้งน่ารักทั้งอ่อนหวาน ทั้ง
เจียมตัวเจียมใจ จนเขาปฏิเสธความต้องการต่อไปไม่ได้

"พี่สัญญาว่าพี่จะไม่ทอดทิ้งหวาน....."

หวานได้ยินคำพูดของชายที่เธอรัก ก็รุ้ว่าเขาพูดออกมาจากใจจริงหาได้เสแสร้งแกล้งพูดเพื่อเอาใจหรืออยากได้ร่างกาย
ของเธอตอบแทน ใครจะประนามว่าเธอแพศยาแอบนอกใจสามีก้ว่ากันให้เต็มที่ ในเวลานี้หวานเพียงต้องการความรัก
ต้องการความสุขกับผุ้ชายคนนี้แค่นั้น อนาคตจะขึ้นสวรรค์หรือลงนรกเธอก็จะก้าวเดินไปอย่างไม่หวั่นเกรง

หวานขยับขึ้นไปนอนทาบทับร่างสุงใหญ่ของฉัตรชัย ปากประกบจูบปากเขาอย่างเร่าร้อน เบียดส่ายอกอวบตูมกับแผงอก
กว้างของเขาอย่างรัญจวณจิต ยามเมื่อฉัตรชัยโอบกอดพาดฝ่ามือมาวางตรงก้นอวบขาวผ่องของเธอ หวานก็แทบจะ
ละลายไปกับไฟราคะ ก้นอวบขาวส่ายเดี๊ยะๆเป็นระวิงบดขยี้ความแข้งแกร่งตรงเป้ากางเกงของฉัตรชัยเน้นๆแน่นๆ

"พี่จ๋า..หวานมีความสุขเหลือเกิน...ซี๊ดดด...พี่บีบก้นหวานแรงๆก็ได้จ๊ะ..."

ฉัตรได้ยินชัดเต็มสองรูหูว่าหวานต้องการแบบไหน ก็ล้วงมือควานหาชายผ้าชื่นแล้วตลบมันเลิกขึ้นมา มือลูบปราดไปตาม
ลำเรียวจนถึงโคนขา ก่อนจับต้องหนั่นเนื้อสะโพกอวบกลมกลึงของหวานออกแรงบีบคลึงจนหวานครางเสียวซี๊ดๆออกมา

"พี่จ๋า...หวานทำให้พี่มีความสุขนะ..."

หวานพูดจบก็ขยับลุกขึ้นนั่งโหย่งๆบนตัวฉัตรชัย โดยไม่ต้องรอให้เขารับปาก จากนั้นเธอก็แก้กางเกงของฉัตรชัยออกถอด
ดึงไปทางปลายเท้า พร้อมกับกางเกงชั้นใน ท่อนลำยาวของคนที่เธอรักดีดตั้งโด่ โงนเงนไปมาเพราะความยาวหวานจับ
รูดด้วยมือช้าๆ จนเธอสัมผัสว่าปลายหัวบานหยักนั้นมีน้ำใสๆไหลปริ่มออกมา

หวานก้ใช้ปลายนิ้วละเลงเล่น จนฉัตรชัยครางอูยยยแอ่นก้นขึ้นยึกๆด้วยความเสียว เอื้อมมือมาจับนมอวบอิ่มตึงเต้าของเธอ
ลูบไล้เล่นอย่างทนุถนอม ปลายนิ้วเขี่ยหัวนมเธอไปมาจนมันตั้งแข็งเป็นไต หวานครางตอบรับเสียงอูยๆซี๊ดๆ ก่อนจะจับ
ชายเสื้อยืดของฉัตรชัยดึงออกไปทางหัว แล้วถอดเสื้อคอกระเช้าของเธอออกตาม เต้าตูมเต่งขาวผ่องล้อแสงไฟสว่าง
จากชานเรือน ถูกมือคนรักลูบไล้แผ่วเบาจนหวานขนลุกซู่ จ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของเขาด้วยความรัก ก่อนจะทิ้งตัว
ซบหน้าลงไปที่แผงอกกว้าง หวานจุ๊บด้วยริมฝีปากไล่ไปจนทั่วแผงอกจนมาหยุดที่หัวนมเล็กๆของเขา หวานใช้ลิ้นดุน
ดันจนมันตั้งแข้ง เธอก็ใช่ฟันซี่เล็กๆขบเบาๆ ฉัตรชัยผวาครางอูยๆด้วยความเสียวสยิว

"อูยยยยหวานจ๋า...พะ..พี่เสียว...อย่าดูดตรงนั้น...พี่ขอนะจ๊ะ..."

ฉัตรชัยรู้สึกเสียวสยิวจนแทบทนไม่ไหว พยายามผลักหัวหวานออกจากหัวนมตนเอง แต่หวานกลับดื้อดึงทังจูบทั้งดูด
จ๊วบๆ จนฉัตรชัยดิ้นหนี มันทั้งเสียวทั้งจั๊กกะจี๋จนเขาทนไม่ไหว แต่หวานก็ทรมานเขาได้ไม่นาน ริมฝีปากบางๆของเธอ
ก็เคลื่อนย้ายจากจุดนั้นไล่ไปตามรอนกล้ามท้อง จนกระทั่งถึงโคนควยของเขา

หวานใช้ลิ้นใช้ฟันขบดูดเบาๆ จนควยของฉัตรชัยกระดก น้ำเงี่ยนไหลปริ่มออกมาจนย้อยลงมาทางโคนควย หวานใช้ลิ้น
เล็มเลียจากโคนควยขึ้นมาช้าๆจนถึงส่วนปลาย เธอก็ใช้ฟันครูดเบาๆพอให้เขาเสียวสยิวไม่ถึงกับเจ็บ แม้ฉัตรชัยจะไม่
ค่อยผ่านผุ้หญิงมาหลายคนนัก แต่ต้องยอมรับว่าลีลาบทรักของหวานนั้นเหนือกว่าสาวทุกคนที่ตนเคยเจอ

หวานเล็มเลียปลายลิ้นรอบๆขอบเงี่ยงหัวแดงกล่ำของเขา สองสามรอบแล้วก็แทงปลายลิ้นมาที่รูควยตรงปลาย จน
ฉัตรชัยผวาสะดุ้งเฮือก ความความเสียวสยิวที่รุนแรง จากนั้นหวานก้ค่อยๆอ้าปากอมลำของเขาเข้าไปช้าๆ พร้อมเงย
หน้าขึ้นมาสบตากับเขา สายตาของหวานนั้นหยาดเยิ้มชวนหลงไหล เธอทั้งสวยทั้งน่ารัก ทั้งเซ็กซี่เร่าร้อนจนฉัตรชัย
ไม่กล้านำไปเปรียบเทียบกับคู่หมั้นที่ใสซื่อบริสุทธิ์ไร้เดียงสา

"หวานจ๋า...หวานจะทำให้พี่สำลักความสุขตายแล้วรู้มั๊ย..."ฉัตรชัยพูดเสียงกระเส่าบอกความรุ้สึกให้หวานรับรู้

"พี่ชอบมัยจ๊ะ...หวานอยากทำให้พี่มีความสุขมากๆ...พี่จะได้ไม่ลืมหวานไงคะ..." เสียงใสซื่อแต่การกระทำกลับเร่าร้อน
เต็มไปด้วยจริตจะกร้าน จนมัดใจของฉัตรชัยไว้ได้เรียบร้อยไปแล้ว

หวานค่อยๆเม้มริมฝีปากรูดลงมาตามลำยาวของฉัตรชัยช้าๆ พร้อมเงยหน้าส่งสายตาหวานเชื่อมหยาดเยิ้มเล่นตากับเขา
ตลอด หวานกดริมฝีปากลงมาจนสุดความยาวของท่อนลำก่อนจะรูดริมฝีปากออกไปอย่างช้าๆ จนฉัตรชัยครางซู๊ดดออก
มาด้วยเสียงอันดัง เพราะความเสียวซ่าน เผลอแอ่นสะโพกกระเด้งยึกๆตามด้วยความสยิว ลำยาวของเขาก็แทงพรวด
เข้าพรวดออกกับช่องปากของหวาน จนน้ำลายเหนียวเป็นฟองรอดออกมาตามมุมปาก ฉัตรชัยกระเด้าควยเย็ดปากหวาน
พรวดๆด้วยความเสียวซ่าน ลึกบ้างตื้นบ้างตามจังหวะการโยกหัวของเธอ จนดูเหมือนกับเขาเริ่มเสียวจนใกล้จะเสร้จ

"หวานจ๋า...พะ..พอแล้ว..เดี่ยวพี่น้ำแตก..."

"ให้เสร็จคาปากหวานเลยนะจ๊ะ...หวานอยากกินน้ำควยพี่..." [/post]
หวานอ้าปากคายควยของฉัตรชัยร้องบอก พร้อมก้มหน้าลงไปใช้ปากให้ความสุขกับเขาต่อ หวานทำอย่างต่อเนื่องทั้งรูด
ทั้งรัด ทั้งเม้มทั้งดูดดุน จนในที่สุดฉัตรชัยก็ผวา คราง อูยๆๆ ซี๊ดดดด ท่อนลำกระดกเกร็งงึกๆ ในช่องปากของหวาน
เงี่ยงควยบานยวบๆแล้วก็ฉีดน้ำรักข้นขาวออกมาเป็นระลอก หวานก็ยิ่งดูดกลืนกินอย่างกับว่ามันแสนอร่อยทุกหยาดหยด
ที่คนรักของเธอฉีดพ่นมันออกมาจนหยดสุดท้าย ท่อนลำยาวของฉัตรชัยก็เริ่มอ่อนลง แต่หวานยังคงเม้มปากดูดรูดเล่น
อย่างต่อเนื่อง พร้อมเอื้อมมือล้วงลงไปคว้าไข่ใบกลมใหญ่ของเขาคลึงเล่นเบาๆมือ เพียงไม่นาน ท่อนลำที่อ่อนยวบก็
เริ่มพองตัวขยับขยายจนคับปากหวานอีกครั้ง เธอค่อยคายปากออกแล้วอมยิ้มอย่างมีความสุข


ชัดชายขับรถตระเวนราตรีอย่างไร้จุดหมาย ช่วงเวลายังหัวค่ำอยู่คลับ ผับ บาร์และเล้าจ์ ต่างๆจึงยังไม่ค่อยเปิดบริการกัน
มากนัก นักเที่ยวราตรี ต่างก็ยังไม่ออกมาจากบ้าน ชัดชายขับรถวนไปวนมาแล้วก็ตัดสินใจกลับบ้าน เมื่อนึกขึ้นได้ว่าขณะ
นี้มารดาของตนเองอยู่ที่โรงพยาบาล เป็นช่วงจังหวะที่ดียิ่ง ที่จะไปหาของบางอย่างของพี่ชายที่ฝากไว้ที่มารดา

พอกลับมาถึงบ้านแล้วชัดชายรีบตรงไปที่ห้องของมารดารื้อค้นตามลิ้นชักต่างๆ อันไหนที่ติดกุญแจก็ทำการงัดดู แต่รื้อค้น
จนทั่วห้องก็ยังหาไม่พบ จนท้อใจทำท่าจะเดินออกมา ก็หันกลับไปมองภายในห้องที่กระจุยกระจายอีกครั้ง พลันสายตา
ของชัดชายก็เห็นเงาสะท้อนของบางสิ่งบางอย่างบนตุ้เสื้อผ้า เป็นสีเงินแวววาว

ชัดชายรียยกเก้าอี้ขึ้นมาวางแล้วปีนขึ้นไปดู เห็นกล่องสีเงินใบขนาดไม่ใหญ่นักวางซุกอยู่มุมด้านหลังสุดของตู้ เมื่อเขา
เอื้อมมือไปหยิบลงมาเปิดดู สิ่งที่เขาต้องการล้วนบรรจุอยุ่ในนั้น ทั้งบัตรเครดิตวีซ่าสีทอง หลายใบของธนาคารต่างๆ รวม
ทั้งสมุดเงินฝากอีกสามเล่ม ชัดชายรีบเปิดออกดูตัวเลข แล้วก็ตาลุกวาว เมื่อเห็นเลขจำนวนเจ็ดหลักปรากฏอยู่ทั้งสามเล่ม
ชัดชายกวาดของทั้งหมดมาถือไว้ในมือ แล้วเดินออกจากห้องของคุณนายแจ่มจรัส เข้าห้องตนเองอาบน้ำแต่งตัวใหม่

ครู่ใหญ่ก็เดินออกมาพร้อมกับกระเป๋าหนีบใบเล็กๆ ที่ภายในบรรจุสิ่งของที่ค้นเอาจากห้องคุณนายแจ่มจรัส ผู้เป็นมารดา
แล้วขับรถสปอร์ตของพี่ชายออกไปจากบ้านอีกครั้ง
...........................................................................

"พี่จ๋า...มีความสุขมั๊ย..."

[post]หลังจากที่หวานใช้ปากทำรักให้กับฉัตรชัยจนเขาสำเร็จเสร็จไปแล้วครั้งหนึ่ง ก็ยังคงปลุกเร้าท่อนลำยาวของพี่ชายสามี
ที่อ่อนยวบอย่างต่อเนื่อง จนมันกลับแข็งแกร่งขึ้นมาเต็มปากเต็มคำอีกครั้งในเวลาไม่นานนัก หวานก็อ้าปากคายท่อนลำ
ของเขาออกมา เปลี่ยนมาใช้มือรูดเบาๆ แล้วกระซิบถามเสียงกระเส่า

"ครับ...หวานเก่งมากเลย ทำจนพี่เสร็จคาปาก..."

ฉัตรชัยสารภาพอ่อยๆ รู้สึกเขินๆเมื่อตนเองเสร็จไวเกินไปหน่อย แต่ใครเล่าจะทนได้ไหว ริมฝีปากของหวานทั้งอ่อนนุ่มทั้ง
อบอุ่น ลีลาการใช้ลิ้นก็สุดยอด ไม่ว่าจะแตะจะเลียไปตรงส่วนใด ฉัตรชัยถึงกับเสียวสยิวจนขนลุก

"พี่ชอบมั๊ยจ๊ะ...."

เมื่อถามแล้วฉัตรชัยพยักหน้าตอบรับ หวานก็ยิ้มด้วยความปลื้มใจ เธอไม่เคยทำให้สามีตนเองขนาดนี้มาก่อนเลย ใช้ปาก
ทุกครั้งก็ทำไปเพราะสามีร้องบอก แล้วเธอก็ไม่เคยทำต่อจนเขาน้ำแตกคาปาก และเธอยิ่งไม่เคยกลืนกินน้ำกามของผัว
แม้แต่ครั้งเดียว

"พี่ทำให้หวานมั้งนะครับ...." ฉัตรชัยพูดจบก็เตรียมขยับตัวลงไปจะใช้ปากทำรักให้กับหวานบ้าง แต่หวานรีบฉุดดึงไหล่
ของฉัตรชัยไว้แน่น

"อย่าจ๊ะพี่....ของหวานผ่านผู้ชายคนอื่นมาแล้ว...พี่อย่าทำเลยนะจ๊ะ...สกปรกต่ำเกินกว่าพี่จะลดตัวมาทำให้หวานจ๊ะ..."

หวานพูดออกมาด้วยความรู้สึกแท้จริง แม้ฉัตรชัยจะพยายามก้มหน้าลงไปหาเนินโหนกนูนไร้แพรไหมของเธอ หวานก็
พยายามพลิกดิ้นหนี้ ทั้งดิ้นทั้งร้องห้ามไม่ยอมให้ฉัตรชัยทำรักด้วยปากให้

"เชื่อหวานสิจ๊ะที่รัก...."

 หวานกระซิบเสียงกระเส่า แล้วยื่นมือเล็กๆมาผลักอกฉัตรชัยนอนลง แล้วรีบป่ายขาขึ้นก่ายคล่อม  ก่อนจะพลิกตัวขึ้นมา
นั่งบนตัวของฉัตรชัย หวานโหย่งตัวนั่งยองๆ พร้อมกับสอดมือล้วงเข้าไปที่หว่างขาของเธอ เอามือจับลำยาวของฉัตรชัย
ตั้งขึ้น แล้วลากมาจ่อตรงปากรูเสียว พอตรงกันได้ที่ หวานก็ห่มก้นอวบขาวยุบลงยวบ

"อูยยยย...ซี๊ดดดด..ควยพี่เย็ดหีหวานแล้วววว...ซี๊ดดด..หัวของพี่โต๊โต...หวานตึงรูจนแน่นเลยจ๊ะพี่จ๋า...ซี๊ดดด..."

หวานขย่มก้นลงมาช้าๆทีละนิด หน้าสวยหวานของเธอบิดเบี้ยวด้วยความเสียวซ่าน ที่ท่อนลำยาวหัวโตๆของฉัตรชัย
ชำแรกแหวกผ่านรูหีคับฟิตแน่นของหวานเข้าไปที่ละหน่อยๆ

"ซี๊ดดดด...หวานจ๋า...ทำไมถึงแน่นอย่างนี้จ๊ะ..."

ฉัตรชัยรู้สึกเสียวสยิวตรงปลายหัวแดงๆที่ค่อยๆชำแรกผ่านรุเสียวฟิตแน่นของน้องสะใภ้ แทบไม่อยากเชื่อเลย ถ้าไม่โดน
กับตัวเอง ว่าหีของน้องสะใภ้ยังคับฟิตแน่นไม่ต่างไปจากหีเด็กสาวๆ ทั้งๆที่ร่องเสียวของเธอเต้มไปด้วยน้ำหล่อลื่นจน
ฉ่ำแฉะ

"ก็ควยของพี่หัวโตมากเลยนี่จ๊ะ...โตกว่าของพี่ชัดตั้งเยอะ...อูยยยยซี๊ดดดด พี่อย่าเพิ่งขยับนะจ๊ะ...ให้หวานเอาเข้าไปให้
สุดก่อน...อืยยยยพี่จ๋า...หวานเสียวหีจังเลย...."

"หวานเจ็บมั๊ย..."

"นิดหน่อยค่ะ..เจ็บๆเสียวๆ ตึงๆแน่นๆ...พี่จ๋า....หวานรักพี่....ซี๊ดดด..อูยยยย...เข้าไปสุดจนได้..เห้อ...."

หวานทั้งครางเสียวสยิว ทั้งร้องอูยๆๆๆ จนท่อนลำยาวของฉัตรชับชำแรกเข้ารูเสียวของเธอได้หมดทั้งดุ้น หวานก็ถอน
หายใจเป่าปากออกมาอย่างโล่งอก... พร้อมกับก้มตัวลงมาแนบ อกอวบหยุ่นแนบอกแกร่ง รูหีบานฉ่ำแนบแน่นกับโคนควย
รกขนของพี่ชายสามี เธอไม่ขยับตัวเพียงปล่อยให้รูหีขมิบยวบๆยึกๆยักๆ นวดโคนลำตลอดจนลำยาวที่แช่อยู่ในรูหีของ
เธอไปเรื่อยๆ จนคลายความอึดอัดในร่องเสียว

หวานก็ค่อยๆยกก้นขึ้นช้าๆ รูหีบานแยกอ้ารูดลำยาวของฉัตรชัยออกมา ปลายบานเงี่ยงหัวขนาดใหญ่ ครูดลากเอากลีบ
แคมหีด้านในสีแดงเข้มปลิ้นตามออกมา พอจนสุดเงี่ยงหัว หวานก็ขย่มตัวยวบลงไปแรงๆ ท่อนลำยาวเกือบ7นิ้วของฉัตรชัย
ทิ่มพรวดเข้าไป ดึงแคมหีของหวานยวบยุบลงไปจนแคมหีบวมเปล่ง

"ซี๊ดดดดด...พี่จ๋าา...ควยพี่...เย็ดมันส์จังเลยจ๊ะ.....อูยยยยย พี่จ๋ากระเด้งควยรับหีหวานช้าๆนะจ๊ะ...."

หวานพูดจบก็ดึงก้นขึ้นจนควยฉัตรชัยถอนออกมาอีกครั้ง แล้วบอกให้เขาเด้งควยขึ้นในจังหวะที่หวานขย่มก้นลงมา เสียง
ดังปึ๊กๆ สอดรับกันได้เหมือนสองคนเคยเย็ดกันมาก่อนจนรู้จังหวะจะโคน เสียงหวานกับฉัตรชัยต่างแข่งกันร้องครางเสียง
ซี๊ดๆอูยๆโอ๊ยๆ ด้วยความเสียวซ่าน ดังลั่นทุ่งจนเหล่านกหนูกบเขียดพร้อมใจกันเงียบไม่กล้าแข่งเสียง

"หวานจ๋า.....หวานเก่งเหลือเกิน....พี่เสียวควยสุดๆเลยจ๊ะ....ซี๊ดดดด" ฉัตรชัยพูดสลับเสียงคราง ตั้งหน้าตั้งตากระเด้ง
ควยเย็ดใส่หีหวานที่ขย่มลงมา แต่ละดอกมิดสุดโคนไม่มีหลงเหลือ

"ผัวจ๋า...ควยผัวเย็ดอร่อยหีเหลือเกินค่ะ...เมียหลงควยผัวแล้วน๊าาาา...ซี๊ดดดด อืยยยยยยอ่าส์ส์ส์ส์..."

"จ๊ะ...เมียจ๋า..ผัวก็หลงหีเมียเหมือนกัน....หีของเมียทั้งอวบใหญ่โหนกนูน ทั้งฟิตทั้งตอด แบบที่ผัวไม่เคยเจอมาก่อนเลย....
เมียจ๋า....ขอผัวเย็ดเมียมั่งนะจ๊ะ...."

ฉัตรชัยปล่อยอารมณ์ความรู้สึกสุขเสียวให้เคลิบเคลิ้มไปจนตนเองไม่อยากรับรู้สิ่งใด ไม่อยากรับรู้ว่าสาวบ้านาที่ตนกำลัง
เย็ดอย่างมีความสุขนี้คือเมียของน้องชาย....หลังจากปล่อยให้หวานเป็นฝ่ายควบคุมการเย็ดไปสักพัก ฉัตรชัยก็ร้องขอ
เป็นฝ่ายเย็ดหวานบ้าง แล้วก็ขยับตัวลุกขึ้นนั่งกอดรัดร่างหวานไว้แน่นอบอวบกดแนบกับอกแร่งจนยุบแบนปลิ้นออกมา
ด้านข้างลำตัว ปากประกบจุบลิ้นพัวพันกันอย่างเร่าร้อนรุนแรง หวานยังคงนั่งขย่มเย็ดควยพี่สามีอย่างถี่ยิบ จนฉัตรชัย
ลุกขึ้นนั่งจูบแล้วผลักร่างหวานให้เอนลงนอนหงาย

"พี่ขอแสดงมั่งนะจ๊ะ..."

พอพูดจบฉัตรชัยก็ขยับขึ้นคล่อมยกขาสองข้างของหวานขึ้นพาดบ่า แล้วเหยียดขาสองข้างของตนยืดออกไปทำท่า
เหมือนวิดน้ำ ท่อนลำยาวยังคงปักแน่นอยู่ในโพรงหีของหวานไม่ได้หลุดออกมาแม้สักนิดในขณะที่ขยับเปลี่ยนท่าเย็ด
พอจัดท่าได้ถนัด ฉัตรชัยก็โหมแรงกระเด้าพรวดๆ ควยาวใหญ่ทิ่มพรวดๆแต่ละดอกเข้าไปในสุดโดนควย เสียงโคนควย
ประทะกับโหนกเนินของหวานดังปั๊กๆ แต่ภายในโพรงหีของหวานกลับดังกึกๆ

"โอ๊ยยพี่จ๋า..ซี๊ดด..โอ๊ยยยซี๊ดๆๆพี่จ๋า...หวานเจ็บ โอ๊ยเจ็บ..จ๊ะ..อูยซี๊ดดดเสียวจ๊ะ..."

หวานทั้งร้องครางเสียว ทั้งร้องเจ็บๆ ใบหน้าสลับกันไปมาระหว่างเสียวสยิวกับเหยเกเพราะความเจ็บ ด้วยควยยาวของ
ฉัตรชัยพอกระเด้าเย้ดในท่านี้ ปลายควยก็กระแทกมดลูกของหวานทุกครั้งที่กระเด้าควยเข้าไป

"หวานเจ็บหรือจ๊ะ..." ฉัตรชัยได้ยินหวานร้องเจ็บก็ชะงักนิ่ง ไม่กล้าเย็ดแรงๆแบบมะครุ่นี้อีก

"นิดหน่อยจ๊ะ...ก็ควยพี่ยาวอ่ะ...กระเด้าควยที โดนมดลูกหวานที...มันเลยจุกๆเสียวๆนี่จ๊ะ..."

หวานสารภาพยิ้มอายๆ แต่ฉัตรชัยนึกสงสารรีบปล่อยขาของหวานลงจากบ่า แล้วกระเด้าเย็ดตื้นๆ ถี่ๆ เสียงหวานคราง
กระเส่าหน้าสบัดไปมาจนผมยาวสลวยกระจายเป็นหมอน

"อูยยยย..พี่จ๋า...ซี๊ดดดดผัวจ๋า...ผัวเย็ดเก่ง...หวานเสียวหี...ช่วยหวานด้วย...แรงๆก็ได้ค่ะ...หวานใกล้แล้ว..."

เมื่อหวานเร่งบอกให้เร็วๆหนัก ๆ ฉัตรชัยก็จัดให้ตามคำขอ โหมแรงทั้งหมดที่มีลงไปที่บั้นเอว ซอยเย้ดหีหวานถี่ยิบเร็วจน
นับไม่ทัน ในที่สุดทั้งสองคนต่างก็สุขสมอิ่มเอมเต้มไปด้วยความรักความอบอุ่นที่มอบให้แก่กันและกัน
........................................................

ทางด้านชัดชายหลังจากที่คว้าของออกมาจากห้องแม่แล้วขับรถสปอร์ตสวยหรูของพี่ชายร่อนไปตามสถานบันเทิงอย่าง
เปรมสุข แวะที่โน้นที่นี้ รูดบัตรเครดิตทำเม็มเบอร์ไว้ พอนั่งสักพักไม่เห็นสาวถูกใจก็ย้ายร้าน ทำแบบนี้จนที่สุดไปถึงผับ
แห่งหนึ่ง ผู้คนที่เข้ามาต่างแต่งตัวกันอย่างมีรสนิยม ต่างดูมีคลาส ไม่บ้านๆเหมือนหลายแห่งที่ชัดชัยเข้าไปเมื่อหัวค่ำ
ขณะที่กำลังจิบบรั่นดีฟังเพลงฝรั่งเพราะๆ ทั้งๆที่ไม่รู้ความหมาย มีสาวสองนางนั่งประกบ ชุดที่สวมใส่แสนสั้นจนแลเห็น
เนินอวบอูมของหีแลบออกมาตรงหว่างขา สองมือของชัดชายต่างโอบตระกองกอดร่างอวบอัดนมใหญ่ตุมเต้าเท่าลูก
ส้มโอของสองสาว ฝ่ามือทั้งสองข้างบีบคลึงเล่นอย่างหื่นราคะ...

"อุ๊ย...บอสนี่คะ...ต๊าย...มาได้ไงคะนี่..." เสียงหวานเซ็กส์ซี่ของสาวนางหนึ่งรูปร่างเหมือนางแบบวิคตอเรียใบหน้าเซ็กส์ซี่
กระเดียดไปทางฝรั่ง แต่สำเนียงพูดภาษาไทยชัดแจ๋ว ยืนบิดตัวอยู่เบื้องหน้าของเขา แล้วร้องทักเสียงดังแข่งกับเสียง
ดนตรี จนชัดชายต้องเงยหน้าขึ้นมามอง

ep.28

พลันได้เห็นหน้าหญิงสาวที่เข้ามาทัก ชัดชายแทบจะหายเมาทันทีด้วยความสวยเซ็กส์ซี่ ทั้งหน้าตา ทั้งรูปร่างของเธอนั้น
เอาคุณหมิวคู่หมั้นของพี่รวมกับน้องหวานเมียบ้านนอกของเขา ยังเทียบไม่ได้กับสาวลูกครึ่งที่ยืนอยุ่เบื้องหน้าของเขา
ตอนนี้เลย แต่ท่าทางรววมทั้งคำพูดที่ทักทายมานั้น สาวคนนี้น่าจะเคยรู้จักพี่ชายของตนมาก่อนแย่งแน่นอน ชัดชายจึง
แสร้งตีลูกเมา

"ครายครับนี่...นางฟ้าที่ไหนมาทักโผม..." ชัดชายแสร้งทำตาหรี่ปรือ ทั้งๆที่เมื่อกี้ยังจ้องมองสาวลูกครึ่งอย่างหื่นกระหาย
เหมือนพยัคร้ายได้กลิ่นสมันน้อยตัวใหม่

"บอสขา...อะไรกันคะ...ท่าจะเมามากขนาดจำแอนนี่ไม่ได้..."

แอนนี่นั้นคือเลขาของฉัตรชัยเพิ่งเรียนจบปริญญาโทมาจากอเมริกา มีมารดาเป็นสาวชาวสวีเดน ส่วนคุณพ่อเป็นนาย
ตำรวจใหญ่ระดับนายพล คลับที่ชัดชายหลงเข้ามาเที่ยวนี้ ก็เป็นคลับที่คุณพ่อของแอนนี่ถือหุ้นลมอยู่ เรียกว่าใช้อิทธิพล
ของนายตำรวจเข้ามาคุ้มครอง พร้อมกับเป็นหุ้นส่วนโดยไม่ต้องออกเงินแม้แต่บาทเดียว เพราะกิจการคลับนี้เป็นเพียง
หน้าฉากปิดบังธุรกิจผิดกฏหมาย อยุ่ที่ชั้นสองขึ้นไป ส่วนแอนนี่หลังจากเลิกงานการเป็นผู้ช่วยเลขาให้กับฉัตรชัยใน
ช่วงเวลากลางวัน พอกลางคืนเธอก็เข้ามาดูแลเป็นผู้จัดการคลับแห่งนี้

"เธอสองคนลุกขึ้นไปดูแลแขกโต๊ะอื่นแล้วกัน ปล่อยแขกท่านนี้ไว้ เดี๋ยวแอนนี่เทคแคร์เอง......"

แอนนี่ถือวิสาสะของการเป็นผู้จัดการ จัดการไล่พีอาร์สองสาวของร้านที่ชัดชายนั่งกอดจูบลูบล้วงอยู่ให้ไปที่อื่น จากนั้น
เธอก็นั่งลงเคียงข้างชัดชายเสียแทน

"บอสขา....เมาละยังคะ..."

สาวสวยหุ่นเซ็ส์ซี่นั่งลงปุ๊บ จัดการรินบรันดี ยกป้อนให้ชัดชายดื่ม ส่วนชัดชายก็ฉวยโอกาสทำเป็นมึนเอื้อมแขนพาดโอบ
ไหล่สาวน้อยดึงจนร่างเธอเอียงเข้ามาชิด

"นางฟ้าชัดๆ...นี่ผมตายไปแล้วหรือไง ถึงได้มาเจอนางฟ้าคนสวย.." พูดจบคำก็ก้มหน้าไปสูดดมเรือนผมสีน้ำตาลเข้ม
ของแอนนี้แล้วสูดลมหายใจเข้าปอดดังฟืดยาวๆ

"ต๊าย...บอสขา ท่าจะเมาจริง...ตอนอยู่ที่ทำงานแทบจะไม่เคยมองหน้าไม่เคยพูดจาหวานๆขนาดนี้เลย..."

แอนนี่พูดพร้อมหัวเราะคิกๆเต็มได้จริตจะกร้าน แต่ก็ไม่ได้เอียงหน้าหนี ปล่อยให้ชัดชายจูบหอมเรือนผมของเธอได้ตาม
สดวก ส่วนชัดชายพยายามเก็บข้อมูลที่สาวสวยพูดออกมาจนพอเข้าใจได้ว่า แม่สาวสวยหุ่นเอ็กส์เซ็กส์ระเบิดคนนี้คง
เป็นพนักงานคนหนึ่งในออฟฟิสของพี่ชายอย่างแน่นอน แต่ในเมื่อสาวเจ้าไม่เบี่ยงหน้าหนียังคงปล่อยให้ตนเองจุบหอม
เรือนผมได้เช่นนั้น

ชัดชายก็ทำมึนฉวยโอกาสจูบไซ้จากเรือนผมหอมกรุ่นของเธอลงมาผ่านกกหู หลังหู และต้นคอด้านหลัง จนสาวสวย
หัวเราะคิกๆขนแขนลุกชี้ชัน เสียงหัวเราะของเธอเซ็กส์ซี่สุดๆ จนชัดชายคิดไปล่วงหน้าว่าคืนนี้ถ้าตนเองไม่โชคร้าย
โดนมารมาผจญเหมือนช่วงที่กำลังจะได้เย็ดคุณหมิวเสียก่อน สาวน้อยผู้นี้จะต้องตกเป็นเหยื่อบำเรอกามที่อดกลั้น
อัดแน่นมาทั้งวันแน่ๆ[/post]
"โผมม่ายด้ายมาวเหล้าสักหน่อย...คร้าบ...เอิ๊กกกก...แต่ตอนนี้สงสัยจะมาวความสวยของน้องแอนนี่เสียแล้วละ คร้าบ..."

ชัดชายเงยหน้าขึ้นมาตอบโต้ แล้วทำมึนซบหน้าลงที่ซอกคอขาวผ่องของแอนนี่อีกครั้ง กลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่แอนนี่ใช้
โชยเข้าจมูก จนต้องไล่ดอมดมไปที่ลำคอ....

"อุ๊ยยยย...บอสขา...แอนนี่ไม่ใช่สาวพีอาร์พวกนั้นนะคะ...ว๊ายๆ...มือซนจัง..."

แอนนี่พยามบอกพยายามร้องปรามแต่น้ำเสียงกระเส่าเซ็กส์ซี่ขนาดนั้น คงไม่มีใครได้ยินแล้วเชื่อฟังเป็นแน่ อีกทั้งเพียง
แค่คำพูด แต่การกระทำกับตรงข้าม แทนที่จะถอยหนี แอนนี่กลับเงยหน้าแหงนคอขาวผ่องให้ชัดชายเล็มจูบไล้จนถ้วน
ทั่ว เมื่อชัดชายเห็นสาวสวยไม่ถอยหนี เหมือนเต็มใจเป็นใจให้เขาล่วงเกิน มือหยาบก็วางแหมะเข้าที่ลำขาขาวยาวที่
ซ่อนอยุ่ในถุงน่องสีดำลายตะข่ายแบบครึ่งตัว แล้วล้วงลูบเข้าขาอ่อนด้านในที่ไร้ถุงน่องปกคลุมอย่างรวดเร็วจนแอนนี่
ร้องวี๊ดว๊าย พร้อมหัวเราะคิกๆ เหมือนชอบใจเสียมากกว่าตกใจ

เมื่อมือของบอสเธอวางแหมะที่ลำขาขาวแล้วล้วงลูบที่ขาอ่อนด้านในแอนนี่แสร้งร้องว๊ายเหมือนตกใจ แต่แอบอมยิ้มเป็น
รอยยิ้มที่มีความหมายซุกซ่อนอยู่ จากนั้นก็ค่อยๆขยับขากว้างขึ้นทีละนิดทีละหน่อยอำนวยความสะดวกให้กับฝ่ามือของ
บอสฉัตรชัย ที่ค่อยล้วงลูบเข้าไปลึกๆจนกระทั่งกระทบกับเป้าจีสตริงสีดำของเธอ

"อุ๊ยยย..บอส....ขา....ทำไมมือซนจังเลยคะ...ซี๊ดดด..."

แอ่นนี่ขยับตัวเมื่อปลายนิ้วของชัดชายกระทบตรงเป้าของจีสตริง แต่หาใช่การขยับตัวหนี เธอเพียงขยับก้นออกมาจาก
เบาะโซฟา มาวางหมิ่นเหม่ตรงขอบเบาะ เพื่อจะได้เอนหลังได้มากขึ้นเท่านั้นเอง ความมืดสลัวภายในคลับหรูมีระดับ
ประกอบกับหนุ่มสาวที่เข้ามาหาความสำราญในสถานที่แห่งนี้ ก็รู้ๆกันอยู่ว่า มาจับคู่แต่งงานกันชั่วข้ามคืนเท่านั้น จึงต่าง
ไม่มีใครจะมามัวสนใจการกระทำของใครอื่นๆ เพราะมัวแต่สนใจในคู่ของตนเองเสียมากกว่า

เมื่อแอนนี่ขยับตัวเอนหลังพิงเบาะจนแทบจะเป็นการนอนหงาย โคกโหนกนูนใหญ่กว่าฝ่ามือของชัดชายก็โดนประกบ
จับคลึงเต็มๆฝ่ามือ จนแอนนี่ครางซี๊ดออกมาเบาๆ แล้วปากสีแดงเต็มอิ่มดูเย้ายวนก็โดนปากหนาของชัดชายประกบจูบ
อย่างเร่าร้อน สองลิ้นต่างแลกกันแลบออกมาพัวพัน ต่างสลับกันดูดดุน มืออีกข้างที่ว่างของชัดชายก็คว้าอกอวบล้นมือ
ของแอนนี่บีบคลึงแรงๆ

"บอสขา...ทำแบบนี้กับแอนนี่ แล้วคุณหมิวจะไม่ว่าเอาหรอคะ....."

แอนนี่กระซิบเสียงกระเส่ามือขาวเรียวยาวของเธอก็กอดคล้องต้นคอของชัดชายไว้แน่น พูดจบไม่รอคำตอบ เธอก็ยื่น
ปากเข้าประกบแลกจูบกันอย่างเผ็ดร้อนเมามันส์อีกครั้ง แม้ชัดชายจะเป็นเสือผู้หญิงผ่านสาวมานับร้อย แต่พอมาเจอ
ความร้อนแรงเซ็กส์ซี่ของแอนนี่เข้า ถึงกับพลิกตำราตอบโต้เธอแทบไม่ทัน

"อย่าไปพูดถึงคนอื่นเลยครับ...ตอนนี้มีเพียงนางฟ้าแอนนี่คนสวยกับผมสองคนเท่านั้น.."

ชัดชายไม่จำเป็นต้องแกล้งเมาอีกต่อไปแล้ว ในเมื่อขณะนี้เขามั่นใจว่าสาวสวยเซ็กส์ซี่แอนนี่นั้นคงแอบหลงรักพี่ชาย
ตนเองเป็นแน่ ถึงได้ยินยอมให้กอดจูบล้วงลูบอย่างง่ายดาย ไม่มีอาการปกป้องแต่อย่างใด ในเมื่อสาวสวยเต็มใจให้
ขนาดนี้

ชัดชายจึงใช้โอกาศอย่างเต็มที่ ฝ่ามือที่วางคลึงโหนกนุนอวบใหญ่ ค่อยๆใช้ปลายนิ้วกรีดไปตามรอยแยกยาว สัมผัสชื้น
ที่ปลายนิ้วบอกให้ชัดชายรู้ว่า ร่องสาวของแอนนี้ตอนนี้คงฉ่ำแฉะเต็มที่ ปากที่ประกบจูบกัน จึงถอนออกมาจูบไซ้ที่เนิน
หน้าอกอวบที่ล้นบราออกมาเป็นก้อน แล้วควานหาจนพบจุกหัวนมที่ดันบราขึ้นมาเป็นตุ่มไตแข็งๆ ชัดชายอ้าปากงับเม้ม
แล้วขบเบาๆด้วยฟัน ก่อนจะอ้าอมดูดดุนด้วยริมฝีปากและปลายลิ้น

"ซี๊ดดดด...อูยยยยยบอสขา...อย่ารังแกแอนนี่แบบนี้สิคะ..."

อย่ารังแกแอนนี่แบบนี้สิคะ..แต่สาวเจ้ากลับแอ่นอกยกตัวเกร็งสะท้าน สองมือโอบประคองหน้าหล่อเข็มแบบชายไทย
ของบอสเธอไม่ให้หนีไปไหน เนินเสียวที่โดนปลายนิ้วของเขาเกี่ยวลูบ ก็แอ่นกระตุกยกแยก จนปลายนิ้วของชัดชาย
กดเน้นๆที่รูเสียว แม้จะอยู่นอกผ้าบางๆของจีสตริง แต่ก็สร้างความเสียวสยิวจนแอนนี่ครางออกมา

ชัดชายคาดการณ์ว่าสาวสวยเซ็กส์ซี่ที่ชื่อแอนนี่นั้น คงแอบรักพี่ชายของตนจึงได้ยินยอมพร้อมใจให้ขนาดนี้ แต่เขาหา
ได้รู้แม้สักนิดว่าสิ่งที่แอนนี่กำลังทำนั้น เหมือนพระเจ้าประทานพรมาให้เสียมากกว่า เธอเข้าไปทำงานเป็นผู้ช่วยเลขา
ที่บริษัทของเขาแล้วพยายามเข้าใกล้ชิด ทอดสะพานเสริมคอนกรีตให้เจ้านายหนุ่มนั้น หาใช่เพราะความพิสวาทบาดจิต
มันเป็นแผนการที่เธอต้องการบางสิ่งบางอย่างจากฉัตรชัยและบริษัทของเขาต่างหาก

แต่แม้จะพยายามเพียงใด เจ้านายของเธอที่มีคู้หมั้นเป็นสาวสวยก็ไม่เคยเหลือบตาแลมองเธอในทางชู้สาวแม้สักนิด
จนเธอแทบท้ออยากยกเลิกแผนการที่วางเอาไว้ แต่แล้วใครจะรุ้ว่าโชคช่างบันดาลให้บอสของเธอพลัดหลงเข้ามายัง
รังของสุนัขจิ้งจอกสาว ซึ่งเธอไม่มีวันยอมปล่อยให้เขาเดินกลับออกไปอย่างลอยนวนเป็นแน่

"บอสขา....พอแล้วค่า..แอนนี่เสียวจนตัวเกร็งไปหมดแล้วนะคะ...ปล่อยแอนนี่ก่อน อายเด็กๆมัน จะเสียการปกครอง
นะคะ....อูยยยย..ซี๊ดดดด...บอสอ่ะ..ซุกซนใหญ่แล้วนะนี่.... ยังงี้ต้องโดนทำโทษเสียมั่ง..."

แอนนี่กระซิบแผ่วร่างดีดเด้งยึกยักๆตามจังหวะความเสียวที่ชัดชายส่งผ่านปลายนิ้วไปยังร่องเสียวของเธอ แล้วใช้จริต
มารยาหญิงทำให้เหมือนตนเองกำลังโดนบอสรังแก เมื่อบอสไม่เชื่อฟัง มือเล็กๆเรียวยาวของเธอก็คว้าหมับเข้าที่ท่อน
ลำแข็งโปนที่ดุนดันเป้ากางเกงของชัดชายออกมาเป็นก้อน จับแล้วขยำเบาๆพร้อมลูบไล้จนมันตื่นเพริดยิ่งแข็งแกร่ง
ขึ้นมาจนแทบจะดันเป้ากางเกงทะลุ

"ซี๊ดดดด...บอสขา....แอนนี่เสียว...พอเถอะค่ะ...อูยยยยยยซี๊ดดดบอส..ว๊ายยยย...อืยยยยอ่าส์ส์ส์.."

แอนนี่ผวาเด้งก้นดีดยกยึกๆ เมื่อชัดชายไม่เพียงลูบปลายนิ้วเล่นนอกผ้า เขากลับจับจีสตริงของเธอแหวกพร้อมสอดนิ้ว
ใหญ่ๆพรวดเข้าไปในร่องเสียว แล้วขยับเกี่ยวงัดหลังเม็ดแตดจนแอนนี่ผวาครางซี๊ดออกมาดังลั่น ถ้าไม่มีเสียงดนตรี
กลบ คนทั้งคลับก็คงได้ยินเสียงครางของเธอ...

"บอสขา....ไปข้างบนกันเถอะ...."

แอนนี่ซบหน้าลงมากระซิบกรอกหูชัดชาย แล้วแยงลิ้นแหลมเล็กใส่รูหูเขายึกยักๆ จนชัดชายขนลูกซู่ ควยกระดกงึกๆ
งัดเป้ากางเกงออกมาเป็นลำ พร้อมกับหลั่งน้ำเงี่ยนปริบๆจนทะลุเป้ากางเกงออกมาเป็นดวง แล้วขยับตัวลุกขึ้นยืน
ตามมือที่แอนนี้ฉุดดึงขึ้นบันได ไปชั้นบน


หลังจากที่แอนนี่ยื่นมือฉุดชัดชายขึ้นยืน สองคนก็เดินกอดเอวเหมือนคู่รักเดินไปทางด้านหลังของคลับ ด้านขวามือเป็น
เค้าเตอร์บาร์ขนาดใหญ่ มีหนุมนักเที่ยวที่มาคนเดียวนั่งจีบบาร์เท็นเดอร์สาว พร้อมสั่งเหล้ามาดื่มกันอยู่หลายคน ถัดมา
ด้านซ้ายมีประตูเล็กๆอยู่บานหนึ่ง ถ้าไม่สักเกตุจะมองผ่านเลยไป เพราะประตุนั้นซ่อนอยู่ด้านหลังกระถางต้นไม้ขนาดใหญ่
บริเวณนั้นมีชายหนุ่มฉกรรจ์ผมเกรียนยืนอยุ่สองคน ดูหน้าตาดุเอาเรื่อง มองผ่านก็รุ้ว่าไม่ใช่แขกที่มาเที่ยว น่าจะเป็นการ์ด
ของทางคลับที่ยืนเฝ้าประตูให้ผ่านได้เฉพาะแขกพิเศษเท่านั้น

พอชัดชายกับแอนนี่เดินไปถึงหนึ่งในสองคนก็เปิดประตูให้ พร้อมโค้งคำนับ เบื้องหลังประตุนั้น เป็นบันไดพาดสูงขึ้นไป
จนถึงชั้นที่สอง บันไดแคบๆปูด้วยพรมสักหลาดสีแดงเข้ม บันไดค่อนข้างแคบขนาดที่ชัดชายกับแอนนี่เดินประคองกอด
เอวกันเดินก็คับที่คับทาง จนเสียดสีราวบันไดเสียแล้ว หลังจากที่ทั้งสองคนก้าวขึ้นบันไดไปได้เพียงสองสามก้าว

ชัดชายก็หันกลับมาสวมกอดแอนนี่แน่น ดันร่างสวยเย้ายวนเสน่ห์ของเธอเข้าพิงฝาผนัง จากนั้นก็ระดมจูบปากอย่างหื่น
กระหายเร่าร้อน แอนนี่ตอบโต้ด้วยปลายลิ้น อย่างไม่ยอมแพ้ มือข้างหนึ่งของชัดชายจับอกอวบใหญ่ขนาดไม่ต่ำกว่า36
คัพบี ของแอนนี่บีบคลึงเน้นๆ ส่วนมืออีกข้างคว้าจับขาของแอนนี่ยกขึ้นสูง แล้วชัดชายก็เข้าประกบแนบแอ่นควยตุงๆใน
เป้ากางเกงเข้าเสียดสีกระเด้ายึกๆยักๆ

"อูยยยบอส...เบา ๆ สิคะ เดี๋ยวแอนช้ำหมดพอดี...ซี๊ดดด"

ปากแอนนี่บอกกลัวอกอวบช้ำชอกจากการบีบคลึงขยำอย่างหนักหน่วงรุนแรงของชัดชาย แต่กายกลับกระทำตรงกันข้าม
กับคำพูด อกอวบถูกเจ้าตัวแอ่นส่ายยวนยั่วให้ชัดชายบีบคลึงหนักหน่วงรุนแรงขึ้น เนินสาวถูกแอ่นเข้าส่ายประทะ ลำควย
อวบตุงในกางเกง ใบหน้าสวยเซ็กส์ซี่ของแอนนี่แดงกร่ำ เมื่อชัดชายใช้ปากไล่งับไล่ดูด พร้อมเสียงหัวเราะระริกระรี้กยวน
ยั่วนักเลงหนุ่มบ้านอกให้ไหลหลง

"ใจเย็นๆสิคะบอสขา...คืนนี้แอนนี่ไม่หนีบอสไปไหนหรอกค่ะ..."

แอนนี่ค่อยใช้มือดันหน้าอกของชัดชายออก แล้วยื่นหน้ามาจุ๊บแก้มอย่างเอาใจ ส่วนมือเรียวเล็กของเธอก็คว้าเป้ากางเกง
ตุงโป่งของชัดชายลูบเล่นยึกๆ แล้วพากันเดินขึ้นไปช้าๆจนถึงชั้นสองของอาคาร ซึ่งเป็นโถงโล่งๆเล็กๆ มีเก้าอี้นั่งพร้อม
โซฟาแค่สองตัว มีชายฉกรรจ์นั่งคุยกันอยู่ พอเห็นแอนนี่เดินพาชายแปลกหน้าขึ้นมา พวกมันสองคนก็ลุกยืนขึ้นพร้อมกัน
ก่อนจะเปิดประตูให้แอนนี่พาชัดชายเข้าไป

พอประตูเปิดเสียงจ๊อกแจ๊กจอแจของนักพนันก็ดังลอดออกมา ข้างในเป็นบ่อนบาคาร่า มีนักพนันอยู่หลายสิบคนกำลัง
หน้าดำคร่ำเครียดกับการวางชิพลงพนัน ชัดชายถึงกับตาวาว ด้วยตนเองนั้นเป็นผีพนันตัวยงกับเขาเหมือนกัน แต่ณ.เวลา
นี้การที่มีสาวสวยหุ่นน่าเย็ดเดินเคียงข้างโอบประคองจะพาไปขึ้นสวรรค์ทำให้ชัดชายมองผ่านๆ แล้วคิดว่าหลังจากคืนนี้
จะต้องมาร่วมสนุกพนันด้วยอย่างแน่นอนในเมื่อขณะนี้ เงินทองที่พี่ชายหามาด้วยน้ำพักน้ำแรงเก็บออมนั้น อยู่ในมือของ
ตนเรียบร้อยแล้ว

แอนนี่พาชัดชายเดินทะลุผ่านกลางบ่อนออกไปทางด้านหลังมีประตูพร้อมเหล็กดัดอย่างแข็งแรงขวางกั้นอยู่ แต่ก่อนที่จะ
เดินไปถึงประตุบานนั้น

"คุณแอนนี่จะไปไหนครับ..." เสียงทุ้มห้าวกังวาลอย่างมีอำนาจ เรียกรั้งไว้จนแอนนี่และชัดชายสะดุดค้าง แอนนี่หันกลับ
มาพร้อมยิ้มอย่างเห็นคนคุ้นเคย

"นี่บอสที่ทำงานของแอนค่ะ...พี่เทวัญ." แอนนี่แนะนำเสียงเรียบๆ ไม่มีทีท่าหวั่นเกรง เมื่อแนะนำตัวว่าชัดชายคือเป็นบอส
ในที่ทำงานของเธอ

เทวัญเป็นชายหนุ่มร่างสูงใบหน้าคมเข้ม ตัดผมรองทรง ใบหน้าที่คมเข้มนั้นดูดุดันเมื่อมีแผลเป็นยาวที่แก้มซีกซ้ายยาว
จรดพาดไปถึงขมับ แม้แผลเป็นนั้นจะแลเห็นแค่เป็นรอยขีดยาวๆ แต่กลับทำให้ใบหน้าของเทวัญยิ่งดูคมเข้มดุดันยิ่งขึ้น
รูปร่างสูงใหญ่ของเทวัญพอมายืนเทียบกับชัดชายที่คิดว่าตนเองก็สูงโปร่งเหนือมาตรฐานชายไทยอยู่แล้วทำให้ชัดชาย
ดูเล็กเตี้ยไปถนัดใจ แล้วที่ชัดชายยืนเงยหน้ามองในระยะใกล้ ๆ ทำให้เทวัญดูเหมือนยักษ์ปักหลั่นไม่ผิดเพี้ยน

"เชิญครับบอส..."

เทวัญโค้งคำนับพร้อมผายมือเชิญ เหมือนคุ้นเคยกับชัดชายมานาน แต่ชัดชายกลับไม่รู้สึกสังหรณ์ใจแต่อย่างใดว่า
ทำไมพอใครๆรู้ว่าตนเป็นบอสของน้องแอนนี่ถึงได้ให้ความเคารพยำเกรง และต้อนรับดีขนาดนี้ กลับคิดไปเพียงว่าคง
เพราะตนเองมีเงิน เงินที่สามารถง้างทุกอย่างที่ขวางหน้าได้

หารู้ไม่เลยว่าอดีตของเทวัญนั้นคือทหารรับจ้าง ผ่านสมรภูมิสงครามมาแล้วหลายแห่ง แต่เนื่องจากนิสัยและความ
ประพฤฒิที่นอกลู่นอกทาง ทำให้โดนปลดออกจากราชการทหาร มาทำหน้าที่คุมดูแลบ่อนให้กับท่านนายพลและลูกสาว

"ถ้าป๋ามา..พี่บอกป๋าด้วยนะคะว่าแอนนี่อยู่กับบอส..."

หลังจากพูดจบแอนนี่ก็กดระหัสประตุเหล็กดัดไฟฟ้าก็เลื่อนเปิดออก แอนนี่พาชัดชายเดินไปตามทางที่ปูพรมสีแดงเข้ม
จนถึงประตูห้องท้ายสุดก็เปิดเข้าไป ไอความเย็นของเครื่องปรับอากาศลอยพุ่งออกมาพร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆของสเปรย์
ปรับอากาศ ภายในห้องจัดแต่งไว้อย่างสวยงาม โดยเฉพาะเตียงนอนหลังใหญ่หนานุ่มที่วางสะดุดสายตาอยู่ริมฝาด้าน
ใน ที่ซึ่งชัดชายมองเข้ามาเห็นเป็นจุดแรก

พอแอนนี่ปิดประตูเข้ามาดังกริ๊ก ชัดชายก็ตรงเข้ากอดรัดดันแอนนี่จนหลังติดประตู แล้วประกบปากยืนจูบกันอย่าเร่าร้อน
ปากของทั้งสองแนบกันแน่น ลิ้นของชัดชายฉกสอดผ่านช่องปากเรียวบางเข้าไปเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นของแอนนี่ ที่ตอบ
โต้ พันไป พันมาอย่างไม่ลดละ

จนลมหายใจที่กลั้นไว้เริ่มหมด ก็ผละปากออกจากกันเพื่อพักหายใจ แอนนี่ก็เผยอปากเซ็กศ์ซี่เย้ายวน หรี่ตาน้อย ๆ อย่าง
ยวนยั่วชวนเชิญ ทำให้ชัดชายผวาหน้าเข้าหากดปากลงบนปากของเธออย่างร้อนแรงอีกครั้ง พร้อมใช้มือลูบไล้ไปทั่วแผ่น
หลังนวลเนียน ที่อยู่นอกเสื้อสีเข้มที่คว้านด้านหลังผ่าลึกลงจนถึงสะเอว ในขณะที่แอนนี่เองก็ โอบกอดรอบคอดึงศีรษะ
ชัดชายเข้ามาหา

ชัดชายไต่มือเปะปะไปคว้าอกอวบสองก้อนอันงอนงามอวบหยุ่นของแอนนี่บีบขยำเล่นเบา ๆ อย่างเชี่ยวชาญ ทำให้ร่าง
ของแอนนี่สะท้านกอดคอของเขาแน่นยิ่งขึ้น พร้อมแอ่นอกเชิดบิดร่างไปมาด้วยความ เสียวซ่าน!!!……..

"อุ๊ย…อย่าบีบแรงนักซีคะ…บอสขา "

แอนนี่ร้องเสียงสั่นกระเส่า ชะม้ายตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนจ้องมองหน้าชัดชายอย่างแสนหวานและยวนยั่ว ยกมือลูบไล้อก
แกร่งพร้อมกระชากเสื้อเชิร์ตของชัดชายออกจนกระดุมปลิวว่อนหล่นลงพื้นพรม แล้วซุกหน้ากลับอกเปลือยของเขา ไล้ลิ้น
เรียวยาวไปทั่วจนสิ้นสุดที่หัวนมสีน้ำตาลเข้มเม็ดเล็กๆของชัดชาย แล้วใช้ฟันขบเล่นเบาๆช้าๆ ช้อนสายตามองหน้าชัดชาย
อย่างเย้ายวน จนชัดชายยืนนิ่งกัดฟันกรอด ท่อนลำในกางเกงตั้งแข็งจนดุนดันกางเกงแสล็คออกมาเป็นก้อน

แม้จะเสียวสยิว แต่ชัดชายไม่อยากร้องครางให้เสียงเชิงชาย พอแอนนี่ปลุกเร้าอารมณ์จนชัดชายทะยานอยาก เธอกลับ
เดินถอยห่างออกไปแล้วทิ้งตัวลงนอนหงายบนเตียง ขาข้างหนึ่งห้อยละพื้น ส่วนอีกข้างยกขึ้นเหยียบพื้นที่นอนหนา ชุด
กระโปรงแสนสั้นสีเข้ม อยู่แล้วเลยถลกขึ้นมาเห็นจีสตริงสีดำที่ปิดหมิ่นเหม่กับเนินโหนกเนื้อที่แผ่กว้าง เส้นขนไหมสี
น้ำตาลเข้มหนาทึบ แอนนี่ผงกหัวขั้นมาแล้วกวักมือเรียกชัดชายเข้าไปหา

"มาสิคะบอสขา...แอนพร้อมเป็นของบอสแล้ว..."

ชัดชายไม่ตอบรับ กลับเดินไปก้มหน้าลงที่อกอวบกระชากเกาะอกสีแดงสลับดำของแอนนี่ขึ้นเหนือเต้า บราสีดำตัวเล็กจิ๋ว
จนไม่สามารถเก็บเนื้ออกอวบที่ล้นออกมาได้หมดทั้งสองเต้าถูกชัดชายปลดตะขอที่ด้านหน้าจนหลุดออกเพียงเสี้ยววินาที
โนมเนื้อขาวอมชมพูอวบล้นมหึมาก็ปลิ้นออกมาอวดโฉมจนชัดชายต้องกลืนน้ำลายดังเอื๊อก แล้วก้มหน้าลงไปที่เต้าอวบ
ของแอนนี่อย่างหื่นกระหาย ปากใหญ่ของเขาอ้ากว้างงับหัวนมเม็ดเล็ก ๆ สีแดงระเรื่อของแอนนี่เข้าปากดูดดุนด้วยปลายลิ้น
ไปมา สลับกับมือที่บีบคลึงเคล้นเล่นอีกข้างไม่ให้เหงาด้วยความเชี่ยวชาญ ในขณะที่แอนนี่ส่งเสียงร้องครางกระเส่า ดีด
ดิ้นร้องวี๊ดว๊าย...ทำท่าเหมือนไม่ยินยอมพร้อมใจให้เล่น แต่มือกลับดึงรั้งหลังศรีษะของชัดชายกดแนบแน่นกับอกอวบอย่าง
เอาเป็นเอาตาย

ชัดชายฟอนเฟ้นเล่นนมอวบสวยของแอนนี่อย่างเพลิดเพลิน จนเธอกัดฟันกรอด ๆ ด้วยความเสียวซ่าน แล้วก็เลื้อยมือค่อย ๆ
ลูบไล้ลงมาด้านล่างของตัวเขาจนหยุดนิ่งอยู่กับก้อนเนื้อเขื่องที่ขดตัวเป็นลำแน่นอยู่ในกางเกงแสลคขายาวสีนวล แอนนี่ลูบ
เล่นแล้วรวบนิ้วมือกำ ๆ บีบ ๆ อยู่สองสามครั้งก็จับตะขอบิดออกแล้วรูดซิบก่อนจะแหวกกางเกงอ้าออก จนแลเห็นชั้นในสีขาว

เธอรีบกระตุกขอบมันลง ท่อนเนื้อสีดำมะเมื่อมเต็มไปด้วยขดเลือดสีเขียว ๆ อวบอ้วนก็ดีดตัวผลึ่งออกมาทันทีที่มันเป็นอิสระ
พอควยอวบใหญ่ของชัดชายดีดตัวออกมา แอนนี่ก็ผลักชัดชายให้พลิกตัวลงนอนหงาย แล้วเธอก็ปีนป่ายขึ้นคล่อมกลับหัวมา
ทางปลายเท้าของเขา แล้วก้มหน้าลงไปจ้องมองควยลำเขื่องของชัดชายพร้อมอ้าปากกว้างอุทานออกมาเบา ๆ

"โอ้มายก็อต...บอสขา...ทำไมควยบอสใหญ่ขนาดนี้คะ.อูยยยยยหย่ายจัง...'"

จากนั้นนิ้วมือเล็ก ๆยาวๆ ของแอนนี่ก็รวบลำควยของชัดชายกำแต่ยังไม่รอบ แล้วลูบถอกรูดเล่นไปมาอย่างสนุก จนเขาต้อง
เงยหน้าละปากใหญ่หลุดออกมาจากโหนกหีแผ่กว้างของแอนนี่ แล้วครางซี๊ดดด..ดังยาว ๆ แอ่นเอวกระเด้าควยใส่มือของเธอ
ยึกๆยักๆ  ก่อนที่จะซุกหน้ากลับเข้าหาพงไหมสีน้ำตาลเข้มของแอนนี่ ใช้นิ้วเบี่ยงจีสตริงออกไปด้านข้าง แล้วตวัดลิ้นเลียหี
ลูกครึ่งฝรั่งกลิ่นแรงอย่างหื่นราคะ

"อูววววว์…ควยใหญ่จังเลยบอสขา…แอนคงขาดใจตายเสียก่อนแน่เลยถ้าโดนเย็ด...ซี๊ดดดบอสขา..ลิ้นบอสสากจัง เลียหี
แอนจนเสียวทั้งหีทั้งแตดไปหมดแล้ว...อ่าส์ส์ส์ส์..." แอนนี่ครวญครางทั้งถูกใจควยใหญ่เย็ดมันส์ของชัดชาย ทั้งเสียวซ่าน
รุหีเม็ดแตดเมื่อโดนลิ้นสากของเขาตวัดเลียแผล็บๆๆ

ชัดชายไม่ตอบโต้ต่อปากต่อคำกับเธอ เพราะไม่อยากละปากละหน้าออกมาจากโหนกหีอูมใหญ่ของลูกน้องสาวลูกครึ่ง กลิ่น
หีฉุนๆ ที่ระเหยเข้าจมูกนั้นกลับมีเสน่ห์จนชัดชายลุ่มหลง เงี่ยนง่าน จนทั้งดูดทั้งเลีย ทั้งดอมดมอย่างหื่นกระหาย มือที่อ้อม
มาจับก้นอวบใหญ่กดคลึงส่ายระริกจนหีของแอนนี่โยกส่ายละเลงน้ำเงี่ยนที่ออกมาชุ่มโชกเลอะเขลอะเต็มใบหน้าของเขาที่
อยู่เบื้องล่าง เท่านั้นยังไม่พอ…..สองนิ้วกลางและชี้ของชัดชายยังสอดแทงเข้าไปแล้วงอเกี่ยวกดลงไปในหว่างแคมหีที่เยิ้ม
ชุ่มด้วยน้ำเมือกแล้วแยงนิ้วเข้าในปากรูเสียวที่นุ่มนิ่มสีแดงสด….. ชักเข้าชักออก จนมันจมลึกเข้าไปเกือบสุดโคนนิ้ว

แอนนี่โยกก้นโหย่งขึ้นด้วยความเสียว หลุดเสียงครางออกมาเป็ระยะๆ กล้ามเนื้อก้นส่ายสะท้านสั่นระริก กางขาคล่อมใบหน้า
ของบอสหนุ่ม ปล่อยให้เขาแทงนิ้วเล่นในรูหีอย่างสุดมัน จนกล้ามเนื้อท้องแอ่นเกร็งเป็นคลื่น ปากรูเสียวเม้มขมิบดูดรัดนิ้ว
หยุบๆ พร้อมกับน้ำเมือกเหนียวลื่นถูกขับรินไหลออกมาเยิ้มปากรูช่องจนหยุดลงถูกริมฝีปากของเขา ซึ่งชัดชายก็ตวัดลิ้นเลีย
กินอย่างอร่อยปาก

"โอยยย์…แยงนิ้วอย่างนี้…เสียว…ซี๊ดดด….เสียวค่ะบอสขา…อูยยยย…แอนเงี่ยนแล้วละค่ะ… ซี๊ดดด…บอสขา...เย็ด  เย็ด
แอนเลย...ซี๊ด.."

 แอนนี่ร้องครางเร่งเร้าให้เย็ด พร้อมกับเอื้อมมือไปกำกระทอกท่อนเอ็นของชัดชายตอบโต้คืนกลับไปบ้าง จนท่อนลำแข็ง
เกร็งของชัดชาย พองกระดุบ ๆ ยืดยาวออกมาสู้กับมือเธอ แอนนี่เองก็คงเกิดความมันเขี้ยว จึงเร่งกระทอกกระทั้นท่อนลำ
ใหญ่ของชัดชายอย่างสุดมือพร้อมร้องครางเสียงกระเส่ารัญจวน..

"โอ๊วววว...บอสขา..แอนเงี่ยน..แอนไม่ไหวแล้วค่ะ...บอสเย็ดแอนสิคะ...เย็ดหนักแรงๆเลยนะคะ..บอสขา...ซี๊ดด.."

แอนนี่เร่งเร้าอยากโดนควยใหญ่ของชัดชายเย็ด แต่เขากลับกำลังเพลิดเพลินกับเต่าฝรั่งตัวใหญ่ที่ไม่เคยพานพบมาก่อน
ในชีวิต จึงไม่ยอมขยับขึ้นมาเย็ดตามที่แอนนี่เรี่ยกร้อง แอนนี่จึงต้องเป็นฝ่ายขยับลุกขึ้นมาเสียงเอง ในจังหวะที่ขยับขึ้นนั่ง
ทั้งก้นทั้งหีอวบใหญ่ก็กดลงไปที่ใบหน้าของชัดชายจนมิด อุดปากอุดจมูกเขาไว้แน่นจนเหมือนกับเธอกำลังจะฆาตกรรม
บอสของเธอกระนั้นแหละ

แต่เพียงชั่วเสี้ยววินาที แอนนี่ก็พลิกตัวออกลุกขึ้นยืนแล้วเปลื้องเสื้อผ้าที่หลงเหลืออยู่น้อยนิดออกมาจากตัวอย่างรวดเร็ว
ร่างขาวอมชมพูสูงโปร่ง อกอวบขนาด36คัพบี สอดรับกับเอวคอดกิ่ว หน้าท้องแบนราบเรียบ ต่ำลงมาเป็นพงแพรไหมสี
น้ำตาลเข้มรกครึ้ม ประดับอยู่บนเนินโหนกขนาดกางฝ่ามือจึงทาบทับได้มิด ยืนขึ้นบิดตัวส่ายสะโพกโยกยั่ว ชัดชายรีบ
ผงกหัวขึ้นมองพร้อมควยอวบใหญ่ที่กระดกงึกๆจนน้ำเงี่ยนไหลปริ่มปากควยเป็นยางยืด

"อูยยยย์…บอสขา…แอนเสียว ค่ะ…โอย..ซี๊ดดด….เย็ดแอนสิคะ…ทน…ซี๊ดดดด์..ทนไม่ไหวแล้ว…ซี๊ดดดด… "

แอนนี่ครางเสียงกระเส่า ยืนบิดตัวไปมามือข้างหนึ่งคลึงเล่นอกอวบบีบเล่นหนักๆ จนเนื้อนมสีชมพูอ่อนๆกลายเป็นรอย
แดงของนิ้วมือที่บีบเค้นลงไป ส่วนมืออีกข้างนั้นก็ซุกเข้าที่หว่างขา เกี่ยวรูดไปตามร่องแคมเรียวยาวแต่แคมหีทั้งสอง
ข้างกลับอวบอิ่ม เมื่อฝ่ามือล้วงลึกลงไปในง่ามขาแล้ว จึงยืนบิดยืนแอ่นยวนยั่วควยของบอสเธอ จนเมือกเหนียวลื่นใส
เอ่อนองฉ่ำกลบปากรูเสียว เมื่อยั่วยวนจนถึงขนาดนี้บอสของเธอกลับยังจ้องมองเฉย มีเพียงควยอวบใหญ่ที่กระดกงัด
งึกๆ บ่งบอกถึงความรุ้สึกให้แอนนี่เห็น เธอเลยคุกเข่ากับพื้นห้องแล้วคว้าลำอวบใหญ่ของเขาเข้าปาก 

"อูยย์….ซี๊ดดด์..แอนจ๋า…ซี๊ดด…ดูดควยเก่งอะไรอย่างนี้…ซี๊ดดดด์….. อู๊ววววซ์…อมเข้าไปลึก ๆ อีกนิดซีจ๊ะ คนดี…ซี๊ด…
อูยย์…"

แอนนี่ช้อนตาสีน้ำตาลอ่อนหยาดเยิ้มขึ้นมองหน้าบอสเหมือนรักใคร่ไหลหลง เมื่อได้ยินเสียงเขาร้องครางบ่งบอกความ
เสียวสยิวซาบซ่าน ปากสวยสีแดงสดของเธอยิ่งอ้าออกกว้าง แล้วอมรอบหัวกลมแดงเงี่ยงบานๆ ผลุบเข้าไปเกินครึ่ง
ลำยาวตามความต้องการของเขาทันที

ริมฝีปากของแอนนี่เม้มกระชับท่อนลำเข้าไปจนคับช่องปาก แล้วเริ่มดูดจ๊วบ ๆ จ๊าบ ๆ ต่อไปอีก ราวกับเด็กดูดแท่ง
ไอศครีมของโปรด….

ชัดชายเสียวสยิววาบๆ จนหน้าเบ้กระเด้งก้นขึ้นกระดกควยอวบเย็ดเข้าออกใส่ปากแอนนี่ถี่ๆ อย่างมันเขี้ยว ส่วนมือก็ยึด
เส้นผมสี้ตาลเข้มอันอ่อนนุ่มของแอนนี่ไว้ เงยหน้ามองดูภาพลำควยของตนเองที่ถูกอมรูดเข้าออกในปากเรียวสวยคู่นั้น
อย่างลิงโลด

ปากงามแก้มใสขาวอมชมพูผ่องของแอนนี่เป็นรอยบุ๋มเพราะออกแรงดูด จนสักครู่เธอคายปากปล่อยลำเขื่องออกมา แล้ว
ลากลิ้น เลียจากส่วนปลายหยักบานลงมาถึงโคนลำที่เต็มไปด้วยพงหญ้าสีดำหยิกหยอยมันระยับ แล้วสลับกลับไปอ้าอม
ส่วนหัวแดงๆดูดอีก เป็นระยะ ๆ

ปากของแอนนี่เยิ้มด้วยน้ำลายผสมน้ำเมือกใสของชัดชาย ปลิ้นเชิดผลุบเข้าออกตามแรงกระทั้นของเขา ท่อนลำอันอวบ
อ้วนพ่วงพียิ่งพองแข็งโด่คับเต็มปากเต็มคอ แอนนี่ก็ยิ่งเม้มดูดเล่นอย่างอร่อยปากอร่อยลิ้น เหมือนจะหลงไหลท่อนลำ
ของเขาอย่างหัวปักหัวปำ

"พอ..แล้ว…ซี๊ดดด…ที่รักจ๋า…อูยย์…มันเสียวอะไรอย่างนี้….ซี๊ดดด์…….เสียวจนน้ำจะแตกให้ได้อยู่แล้ว… ซี๊ดด…ให้น้ำมัน
แตกออกข้างในหีของแอนดีกว่านะครับ…ซี๊ดด…อืมม์ "

ชัดชายแหกปากร้องลั่นแล้วประคองศีรษะของแอนนี่ดึงขึ้น จับแอนนี่หันหลัง หันก้นอวบเปลือยเข้าหา เอื้อมมือไปจับ
สองแคมหีอ้าแหวก แล้วประคองควยลำเขื่องเข้าหา กระทุ้งควยหยุบ ๆ คลำหาทางเข้า

" ซี๊ดดด..อูยยย…ตรงแล้วค่ะ…บอสขา…กดเข้ามาเถอะ…ซี๊ดดด์…"

พอแอนนี่ร้องบอก ชัดชายก็ดันควยใหญ่ผลุบเดียวจมเข้าไปถึงรอยหยัก แอนนี่สูดปากกระเด้งก้นเข้าหา ชัดชายก็เกร็ง
ก้นแอ่นกระแทกสวนควยปรูด ๆ อย่างไม่ ยอมยั้ง

"โอ๊ะ…โอ๊ย…ค่อย ๆ ก่อนค่ะ..ซี๊ดด…เบา ๆ ก่อน มันคับแน่นเหลือเกิน..ซี๊ดดดด์…บอสขา. อูยยยย์…ควยบอสใหญ่มันตึง
คับแน่นไปหมดแล้ว…"

เสียงแอนนี่ครางแผ่ว กระเส่าหวาน หันหัวกลับมามองด้านหลัง นัยตาสีน้ำตาลอ่อนปรือหวานหยาดเยิ้ม ท้องน้อยแขม่ว
จนเป็นลอนคลื่น ชัดชายเลยสอดมือล้วงลงไปแบะสองกลีบของแอนนี่ให้ถ่างอ้าออกไปอีกแล้วดันพรืดเข้าไป เธอยังคง
สะดุ้งอีกเล็กน้อย พร้อมแอ่นก้นขึ้นรับลำอวบใหญ่ของชัดชายอย่างลืมตัว ทำให้ท่อนเนื้อแข็งอวบใหญ่แหวกแซะสอง
กลีบสวาทเข้าไปจนมิดด้าม

"อุ๊…อูย…อู๊ยซ์…ซี๊ดดด…ยันมดลูกเลย…อูยย์… ซี๊ดด์….บอสขา.คะ..ควยบอสเข้าลึกเหลือเกิน…"  เสียงแอนนี่กระซิบ
แหบโหย พร้อมรอยยิ้มแสนหวานเหมือนถูกใจ แต่กลับซ่อนร่องรอยลึกลับไม่ให้ชัดชายล่วงรู้

"แล้วมันดีมั๊ยจ๊ะ…ที่รัก…ซี๊ดดดย์…อูยยยหี  หีเมียขมิบตอดควยดีจัง...ซี๊ดดดย์..."

ชัดชายร้องตอบกลับด้วยความลำพองใจ สุ้มเสียงกระท่อนกระแท่น ด้วยความเสียว แล้วส่ายก้นคลึงดุ๊กดิ๊ก ๆ เป็นวง
กลม พร้อมก้มตัวลงแนบกับแผ่นหลังขาวของแอนนี่ ยื่นปากยื่นจมูกเคลียพวงแก้มจูบอย่างรักใคร่หื่นกระหาย หมายเอา
ใจ เธอก็เอี้ยวหน้ามาจุ๊บจูบตอบเบา ๆ แล้วกระซิบเสียงกระเส่าตอบ

"ค่ะ..มันซีคะ… ผัวขา…ควยใหญ่ ของผัวกดกระแทกเข้ามาเถอะ…ที่รัก…ซี๊ดดด์…อูยซ์…มันรูเสียวหี อะไรขนาดนี้…..
เย็ดเมีย..เย็ดเมียแรง ๆ เลยค่ะ…."

สิ้นเสียงแอนนี่ ชัดชายก็เริ่มขยับเอวโหย่งก้นกระแทกยาว ๆ ส่วนหัวบานหยักครูดเอาต่อมไตอันอ่อนนุ่มของเธอปลิ้นเข้า
ปลิ้นออกอย่างสยดสยอง จนแอนนี่น้ำตาเล็ดน้ำตาไหล โดยไม่ต้องเสแสร้ง สูดปากซี๊ดดดเสียงดัง ไม่ต้องเกรงใจว่า
จะมีใครมาได้ยิน พร้อมแอ่นก้นส่ายก้น รับแรงกระแทกตามติดไม่ขาดตอน ยิ่งชัดชายกระเด้าแทงควยสวนพรืด ๆ เข้า
ไปเต็มร่องรัก  แอนนี่ก็แอ่นก้นอวบเด้งหีรับตามจังหวะ ยิ่งกว่าวัวเคยขาม้าเคยขี่กันเสียอีก

"โอ้ยยย…อูยย์…ซี๊ดดด…มิดด้ามเลย..ผัวขา…อูยยย…อร่อยรูหี เหลือเกิน…ซี๊ด…ผัวเอาเก่งจังเลย เมียหลงควยผัวแล้ว
ค่า..ซี๊ดดดด.."

แอนนี่ร้องบอกอย่างสิ้นไร้ยางอาย เสมือนหญิงร่านควย เพราะยามนี้ความมันส์สยิวเสียวกระสันคงบดบัง ทุกสิ่งทุก
อย่างเหลือเพียงตัณหาราคะเข้าครอบคลุมร่างกายและจิตใจจนหมดสิ้น

"ผัวก็อร่อยลำควย..ซี๊ดดด….หีเมียขมิบตอดเม้มแน่นจนเอ็นแทบขาดเลย…อูยย…คอยเด้งรับนะที่รัก…ผัวจะกระแทกให้
เมียอร่อยหีมากกว่านี้…ซี๊ดดด์.." ชัดชายร้องตอบไปด้วยความลำพองใจ ไม่คาดคิดเลยว่าเพียงชั่วสองสามวันที่สวมรอย
มาเป็นพี่ชายแฝด จะได้เย็ดหีสาวลูกครึ่งสุดสวย ที่เร่าร้อนขนาดนี้

"เย็ดเลยค่ะ…ผัวขา…ซี๊ดดด…เย็ดเมียแรง ๆ เลยนะคะ..." เสียงแอนนี่กระเส่าระริก พร้อมส่งสายตาหวานปรือเยิ้ม พวง
นมอวบใหญ่ขาวอมชมพูสั่นกระเพื่อมกวัดแกว่งโยนไปมาตามแรงกระแทกจากเบื้องหลัง

"อูยยย์….อูยย…ซี๊ดดด์….ผัวขา.. เร็วค่ะ…เร็วๆๆ….โอยยย…แยงตูดให้เมียด้วย…เอานิ้วเย็ดรูตูดด้วย…โอ้ยยยยย….ซี๊ดด์
มันเสียวทั้งสองรูเหลือเกิน….ซี๊ดดดด...เมียชอบ..เมียจวนแล้วนะคะ….ผัวขา…. น้ำ…น้ำ จวนแตกแล้ว… อูยยยย…..ทั้ง
เสียวหีทั้งคันรูตูดเหลือเกิน…ซี๊ดด์ด์ด์…"

เสียงแอนนี่ร้องครางลั่น ที่โดนควยเย็ดหีพร้อมกับสอดนิ้วแยงรูก้นไปด้วยพร้อมกัน เสียงเธอร้องครางสั่นระริก ชัดชาย
ก็ยิ่งชักท่อนลำอวบใหญ่กระเด้าถี่ยิบ จนกลีบแคมด้านในปลิ้นทะเล็ดทะลัก แล้วก็กระทุ้งสวบ ๆ เข้าไป จนเกิดเสียงดัง
ผลุ๊บ ๆ แจ๊ะๆๆ ถี่ยิบ

แอนนี่บิดกายส่ายไปมาเพราะความกระสันเสียวสุดจะทนราวกับงูบิดร่าง แอ่นก้นส่ายเอวกระดกนูนเนินขึ้นให้ชัดชาย
ตะบันเย็ดท่อนลำเข้าใส่อย่างยอมตาย….

" อูยยย์…อุย…ซี๊ดดด….แรงๆค่ะ…ผัวขา…เย็ดแอนแรงๆ….แทงลงมาหนัก ๆ…อูยยยซ์…เย็ดถึงใจเมียเหลือเกิน….เอา
อีกค่ะ..เย็ดเมีย…เย็ดเมียแรง ๆ โอ๊ยยยยตายแล้ว...มันส์หีอร่อยรูเหลือเกิน……ซอยควยถี่ ๆ ลึก ๆ เลยค่ะ โอ๊ยะ….หีของ
เมียของ เมียแหก  เอาให้เมียหีแหกเลยผัวขา....เมียจะออก.. จวนจะน้ำแตกแล้ว..ผะ..ผัวล่ะคะ ผัวขาจะออกละยัง?"

"อูยย์….ซี๊ดดด์..ของ…ของผัว…ของผัวก็จวนเหมือนกัน.. .อูย… หีเมียดูดลำควยผัว…เสียว… ซี๊ดดด…"

ทั้งเสียงชัดชายและเสียงของแอนนี่ดังสลับกันไปมา หน้าตาก็บิดเบี้ยวอย่างเอร็ดอร่อยในการเย็ดกัน เสียงพวงสวรค์
ฟาดกระแทกง่ามก้นของแอนนี่ดังตั๊บ ๆ ถี่ยิบ จนสักครู่ทั้งสองคนก็สั่นสะเทิ้นส่ายระริกเหมือนหนาวสั่น ทั้งๆที่เหงื่อ
แตกชุมโทรมกาย

ชัดชายยิ่งโหมควยกระเด้าเย็ด แรงกระทั้นอย่างหนักหน่วงถี่ยิบท่อนลำอวบใหญ่แทงสวนเข้าสวนออกอยู่ระหว่างกลีบหี
อ้าแดง จนสองแคมบิดเบี้ยว แล้วเพียงชั่วครู่ก็รุ้สึกเหมือนจะชาไปทั้งร่าง จนขนลุก ต้องร้องเสียงดังลั่นห้อง ร่างเหยียด
เกร็งแอ่นค้างกระตุกยึก ๆ ในขณะที่ก้นเปลือยผายกว้างของแอนนี่ แอ่นเข้าหาส่ายระริก ๆ รูหีขมิบยวบๆยึกๆ แล้วร้อง
ครางดังลั่นอย่างลืมอาย ลืมตัว ดั่งเสียสติ

ปลายเท้าเหยียดเกร็งสั่นกระตุก หัวเข่าที่รองรับน้ำหนักตัวสั่นระริกจนชัดชายต้องยึดสะโพกผายประคองมั่น ด้วยกลัว
ว่ามันจะพังพาบลงไปกองกับฟูกหนา หน้าของแอนนี่ซุกจมไปกับหมอน แดงระเรื่อเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ แววตาสี
น้ำตาลอ่อนหวานเชื่อมอย่างสุขสม แล้วทั้งคู่ก็ค่อย ๆ ทรุดฮวบล้มทาบทับกันบนที่นอนอ่อนนุ่มอย่างอ่อนระโหย แคมหี
ใหญ่ยังคงอ้าอมควยอวบของชัดชายไว้แน่น พร้อมทั้งขมิบยวบๆรูดรีดน้ำควยจากเขาจนหมดหยดสุดท้าย ก่อนที่มันจะ
ค่อยๆไหลทะลักออกมาตามช่องว่างเล็กๆของแคมหี




. . . . . . . . . เรื่องเสียวซีรีย์เกย์ รัก กามรมย์ http://www.tunwalai.com/story/238309 . เล่าเรื่องเสียวเกย์ รัก กามรมย์ http://www.tunwalai.com/story/234926/