วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2561

นิยายเสียวเกย์

Season One1 : Episode 1: New Life
>>Season One1<<
....ความดำมืดในใจก่อกำเนิด จิตเตลิดเกินห้ามปราบปรามไหว
ก่อกำหนัดพลาดพลั้งไปเมื่อใด ความจัญไรอาจย้อนจรสู่ตัว....

Episode 1: New Life
“แม่!!!! ข้าวเช้าได้ยัง!”
“ได้แล้วจ้ะลูก....รีบลงมาทานซิจ๊ะ”
เสียงตะโกนดังมาจากชั้นสาม ซึ่งเป็นเสียงของเด็กผู้ชาย “ต่อ” เป็นลูกคนเดียวของตระกูลอิสระพาณิชย์กุล ซึ่งทำการค้าขายมาตั้งแต่รุ่นทวด จนบัดนี้ผลของความอุตสาหะ ได้ทำให้ตระกูลร่ำรวยขึ้นจนติดอันดับ “เศรษฐีใหม่” อันดับต้นๆ ของเมืองไทย แต่ด้วยสไตล์การเลี้ยงลูกแบบ “ครอบครัวสมัยใหม่” ทำให้ต่อกลับกลายเป็นคนเอาแต่ใจพอสมควร และบางครั้งก็แสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสมเท่าใดนัก จึงเป็นที่หนักอกหนักใจของ ”คุณพลและคุณศรี” พ่อและแม่ เพราะแค่เรียนชั้นประถม ต่อก็ก่อวีรกรรมในชั้นเรียนแทบนับไม่ถ้วนแล้ว

และวันนี้ เป็นวันแรกที่ต่อจะเริ่มชีวิตต่อไปในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งแน่นอนว่า ต้องเป็นโรงเรียนต่อชนชายล้วน แม้ว่าค่าเทอมจะแพงแสนแพงแต่ก็ไม่ได้เกินกว่ากำลังของของครอบครัวอิสระพาณิชย์กุลเลย คุณพลและคุณศรีต่างก็เป็นกังวลกับอนาคตของลูก ว่าจะไปก่อวีรกรรมอะไรอีกหรือไม่ ได้แต่ภาวนาให้ลูกตนคิดได้แล้วปรับปรุงนิสัย หรือไม่ก็ให้เจอคุณครูที่มีความสามารถมากพอที่จะปราบพยศของลูกชายตนได้เสียที....

.... ขอบฟ้า ต้องกลายเป็นเขาที่พาไป ทุกสิ่งที่ฝันกันเอาไว้ ... เสียงเพลงที่ดังกระหึ่มอยู่บนชั้นสามของบ้านนี้ ดังมาจาก iPhone dock ยี่ห้อดังจากฝั่งยุโรป ที่ต่อได้เป็นของขวัญวันเกิดจากพ่อชิ้นล่าสุด
ตามประสาวัยรุ่นทั่วไปที่มักจะทำหลายๆ อย่างพร้อมกัน ต่อทั้งฟังเพลงไปด้วย เล่นอินเตอร์เน็ตจากคอมพิวเตอร์ Mac สุดหรู และแต่งตัวไปพร้อมกัน ต่อเพ่งมองตัวเองในกระจกด้วยความพอใจ ด้วยความที่เป็นคนหน้าตาดี รูปร่างตอนนี้ก็โตขึ้นมากกว่าแต่ก่อน และเริ่มมีกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นลักษณะของเด็กชายที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยรุ่น
“ป๊องงง” เสียงสัญญาณเตือนว่ามี “e-mail” ใหม่เข้ามา ต่อเพ่งอ่านหัวข้อของอีเมลพร้อมทั้งสวมกางเกงนักเรียนสีน้ำเงินไปด้วย
“อะไรวะ... S&M-kinkboys.com”
“สัดเอ๊ยยย...สแปมชัวร์ คนยิ่งรีบๆอยู่”
ต่อปิดอีเมลโดยที่ยังไม่ได้ลบ และรีบปิดเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อกลับไปแต่งตัว เพราะรู้ว่าตนกำลังจะไปโรงเรียนไม่ทันแล้ว เป็นที่ทราบดีว่าถนนสาธรเป็นถนนเศรษฐกิจที่มีตึกของบริษัทต่างๆอยู่มากมาย และรถยนต์บนถนนก็มากมายเช่นกัน!
ต่อวิ่งลงมาจากชั้นสามพร้อมกับกระเป๋า “จาคอบ” คู่ใจ ไม่เฉพาะต่อเท่านั้น แต่รวมถึงนักเรียนทั้งโรงเรียนด้วย ใครไม่มีถือว่าแปลก
“ทานโจ๊กหมูสับก่อนสิลูก” คุณศรีกล่าวกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนพร้อมรอยยิ้ม ในขณะที่คุณพลนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ หร้อมกับจิบกาแฟสดของยี่ห้อดังไปด้วย
“อะไรเนี่ยแม่....โจ๊กหมูสับอะไร ใครจะไปกินลง” ต่อเอ็ดแม่
“ทำไมล่ะลูก ก็โจ๊กหมูสับร้านหน้าปากซอยของโปรดของลูกไง” แม่ตอบ
“โอ๊ยยย ก็ต่อบอกว่าวันนี้จะกิน American breakfast ไง ทำไมไม่ทำล่ะ”
“ก็แม่ยังไม่ได้ไปซื้อของเข้าบ้านเลยนี่จ๊ะ ก็เลยซื้อโจ๊กหน้าปากซอยมาให้ก่อน”
ต่อนั่งลงแล้วเริ่มกินอาหารบนโต๊ะด้วยอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก ขณะที่คุณพลกลับส่ายหน้ากับความเอาแต่ใจของลูกชายตัวเอง ในใจกลับสงสารคุณศรีผู้ซึ่งเป็นภรรยายิ่งนัก นอกจากคุณศรีจะเป็นแม่บ้านนอกเวลางานแล้ว คุณศรียังรับหน้าที่หัวหน้าฝ่ายตรวจสอบบัญชีของบริษัทอีกด้วย ในขณะที่คุณพลมีตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการ ผู้ควบคุมนโยบาย การบริหาร และการดำเนินกิจการของบริษัทส่งออกอาหารทะเลแช่แข็งของตระกูล
คุณพลมองหน้าภรรยาและมองหน้าลูก พลางคิดว่ายิ่งลูกโตขึ้นเท่าไหร่ ตนและภรรยาก็ยิ่งรู้จักลูกของตนน้อยลงทุกที.... และแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องแยกย้าย ต่างคนต่างต้องไปทำหน้าที่ของตน คุณพลและคุณศรีก้าวขึ้นรถ Toyota Alphard สีขาว ซึ่งคนขับรถได้จอดรอไว้ที่หน้าบ้าน ส่วนต่อก้าวขึ้นรถ Mercedez Benz สีบรอนซ์เพื่อมุ่งหน้าสู่โรงเรียน เริ่มต้นชีวิต ม.1 วันแรก.....
...............................

“อ่ะ อ่ะ อ่ะ อึก อึก อึก...” เสียงครางด้วยความกระสันของใครบางคนอยู่ท่ามกลางความมืด เป็นเสียงของผู้ชาย ที่ตามตัวเต็มไปด้วยรอยบอบช้ำจากการชกต่อยหรือการถูกทารุณก็ไม่ทราบได้
“พั่บ พั่บ พั่บ พั่บ....” ถ้าใครเคยผ่านประสบการณ์มาแล้วก็จะทราบได้ทันทีว่าเป็นเสียงของ เนื้อกระทบเนื้อ!!! และเจ้าของร่างอีกร่างหนึ่งในเงามืดนั้น ก็เป็น “ผู้ชาย” เช่นกัน
“เพี้ยะ เพี้ยะ” อยู่ดีๆ ผู้ชายที่กำลังเป็น “ผู้กระทำ” ก็ตบหน้า “ผู้ถูกกระทำ” ซะดื้อๆ
“โอ๊ยย ไอ้เหี้ยย มึงตบกูอีกแล้วเหรอ” ชายผู้ถูกกระทำตะโกนพร้อมทั้งถีบอีกคนลงไปกองอยู่ที่มุมห้อง
“กูบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าทำอย่างนี้อีก! ต่อไปนี้มึงไม่ต้องมายุ่งกับกู ชีวิตใครชีวิตมัน” ชายผู้ถูกตบ ใส่เสื้อผ้าพร้อมทั้งเดินออกจากห้องไป ตามมาด้วยเสียงปิดประตูดัง “ปัง”
......เหลือเพียงชายผู้นั่งคุดคู้อยู่มุมห้อง เอามือปิดตา ร้องไห้ พลางคิดว่าจะจัดการอย่างไรดีกับการ “ควบคุมตัวเองไม่ได้”
.................................

รถยนต์คันใหญ่ได้จอดลงที่หน้าโรงเรียน ต่อก้าวลงมาจากรถและปิดประตูด้วยความมั่นใจ ในขณะที่ต่อกำลังเดินเข้าไปใต้ตึกใหญ่ ก็ได้ยินเสียงทักขึ้นมาทันที
“ไงวะไอ้ต่อ ปิดเทอมไปไหนมาวะ” ต่อหันไปทางต้นเสียง พบว่าเป็นเสียงของเจมส์ ที่นั่งอยู่กับไอ้เม้งและไอ้โย เพื่อนร่วมห้องที่สนิทกันมาตั้งแต่สมัยประถม ทั้งกลุ่มนี้เป็นหัวโจกของห้อง และต่อเปรียบเสมือนหัวหน้ากลุ่ม
หลังจากที่ทั้งกลุ่มคุยกันอยู่ซักพัก ก็ได้เวลาไปเข้าแถวเคารพธงชาติ ต่างคนจึงต่างหยิบกระเป๋าของตัวเอง แล้วมุ่งหน้าไปยังแถวของห้อง ม.1/1
....หลังจากเรียนภาคเช้าและกินข้าวเที่ยงเสร็จ กลุ่มหัวโจกนี้ก็จะตรงไปที่ห้องน้ำชั้น 8 เป็นห้องน้ำที่ไม่มีคนพลุกพล่าน ซึ่งถือว่าเป็นถิ่นของหัวโจกกลุ่มนี้ ต่อและเพื่อนๆจะใช้เวลาช่วงพักเที่ยงหมดไปกับการเล่นเกมส์ของสมาร์ทโฟน หรือเครื่อง PSP ที่แอบพกกันมา เด็กกลุ่มนี้ใช่ว่าจะเรียนไม่เก่ง หากแต่เรียนเก่งเป็นอันดับต้นๆ ของชั้นเลยก็ว่าได้
หลังจากนั่งเล่นเกมส์ได้ซักระยะหนึ่ง ไอ้เม้งก็พูดขึ้นมากลางวง
“ไอ้ต่อ มึงสูงขึ้นตั้งเยอะ มึงไปทำไรมาวะ”
“ไม่มีไร ปิดเทอมกูก็แค่เล่นบาสเอง” ต่อตอบ
“ไรวะ แค่เล่นบาสตอนปิดเทอมนี้สูงขึ้นขนาดนี้เลยเหรอ” เจมส์ถามต่อ
“ใช่ดิ พวกมึงก็หัดเล่นมั่งดิวะ”
“เฮ้ย แล้วอย่างอื่นโตขึ้นด้วยป่าววะ...” ไอ้โยเสริม โยเป็นคนที่ทะลึ่งอยู่แล้ว ไม่ว่าเพื่อนจะคุยกันเรื่องอะไร ไอ้โยก็จะลากเข้าเรื่องทะลึ่งลามกตลอด
“เมิงจะถามทำเหี้ยไรวะ ไอ้โย เดี๋ยวมึงก็รู้เองแหละ” ต่อพูด
“ก็กูไม่รู้ดิ กูถึงถาม.....กูถามได้มั้ยวะว่าหมอยเมิงขึ้นยัง” ไอ้โยยังไม่จบ
ตั้งแต่ขึ้นป.4 เป็นต้นมาต่อก็ไม่เคยให้ใครเห็นร่างกายอีกเลยแม้กระทั่งพ่อแม่ ยิ่งตอนนี้ร่างกายเริ่มเปลี่ยนแปลงสู่วัยรุ่น ก็เป็นธรรมดาที่จะต้องมีอายกันบ้าง
“เหี้ย ถามไรงี้วะ” ต่อพูดอายๆ
ไอ้โย เจมส์ และเม้ง สบตากันก็รู้ทันทีโดยสัญชาตญาณว่าจะต้องทำอย่างไรกับไอ้ต่อดี
“เฮ้ย พวกมึงทำไรวะ” ไอ้โย เจมส์ และเม้งต่างพุ่งเข้ามาล็อคตัวของต่อไว้ โดยเจมส์จับที่แขน 2 ข้าง ส่วนไอ้โยกับเม้งรับผิดชอบขาคนละข้าง ไอ้โยเริ่มก่อนเพื่อน โดยเอามือค่อยลูบไล้ที่อกของต่อ ต่อดิ้นพราดแต่ก็สู้แรงของเพื่อนๆ อีกสามคนไม่ได้ ไอ้โยเริ่มรุกต่อ โดยใช้เข่าของตัวเองกับมือ 1 ข้างล็อคไว้ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งที่เป็นอิสระ ค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อนักเรียนของต่อทีละเม็ดๆ
“พวกเมิงหยุดนะเว้ย ไม่งั้นกูโกรธ” ต่อยกคำพูดแบบเด็กๆ ขึ้นมาทันที แต่นาทีนี้ พูดไปก็เหมือนไม่มีใครได้ยินอะไรทั้งสิ้น จะด้วยความอยากแกล้ง อยากรู้อยากเห็นหรืออะไรก็แล้วแต่
ตอนนี้ไอ้โยปลดกระดุมเสื้อของต่อได้หมดทุกเม็ดแล้ว ไอ้โยเลิกชายเสื้อต่อขึ้นมาแลวแผ่ออกทำให้เห็นใต้วงแขนของต่อทันที
“เฮ้ย ขนจั๊กแร้ไอ้ต่อขึ้นแล้วนี่หว่า พวกมึงดูดิ” ไอ้โยรีบชี้ให้เพื่อนคนอื่นๆดู
“เออ จิงว่ะ”ไอ้เม้งพูด
“แล้วงี้ขนหมอยมันก็ขึ้นแล้วดิ” ไอ้เจมส์เสนอความคิด
“ทางเดียว....ต้องพิสูจน์ว่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ไอ้โยเริ่มปลดเข็มขัดตราโรงเรียน ตามด้วยตะขอและซิบกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินอย่างไม่รอช้า
ตอนนี้ต่อยิ่งดิ้นพราดเข้าไปอีก จนเหงื่อกาฬเริ่มแตกพลั่กเต็มหลังและหน้าอก ไอ้โยคลี่กางเกงออก เผยให้เห็นกางเกงในสีขาวสะอาด พร้อมกับบางอย่างที่แข็งจนแทบจะดันทะลุกางเกงในออกมา ไอ้โยดึงกางเกงในต่อลงมา ตอนนี้ทุกคนเข้ามาสุมหัวอยู่ตรงร่างกายส่วนกลางของต่อไม่ต่างกับตอนผ่ากบในชั่วโมงวิทยาศาสตร์
“ขึ้นหรอมแหรมว่ะ” ไอ้เม้งพูดขึ้นมา
“เอางี้ พวกเราจับไอ้ต่อชักว่าวกันเถอะ จะได้รู้ว่ามันมีน้ำยัง” เจมส์ออกไอเดีย
“อ่ออออดดดด” เสียงสัญญาณเตือนให้เข้าเรียนภาคบ่ายดังขึ้นพอดี ทุกคนเลยแตกกระเจิงไปคนละทาง หยิบข้างของตัวเอง เมื่อต่อได้รู้ว่าตัวเองเป็นอิสระแล้วก็รีบลุกขึ้นทันที
“เมิงงงงงง ตายยยย” ต่อตะโกนพร้อมทั้งเตะอย่างแรงไปที่ก้นไอ้โยตัวการ จนไอ้โยร้องเสียงดังแอ้ก แต่ก็เข้าใจว่าเป็นการแกล้งกันเล่นในหมู่เด็กผู้ชาย ไม่ได้คิดโกรธเป็นจริงเป็นจัง
คนอื่นวิ่งหนีต่อไปข้างนอกหมดแล้ว เหลือแต่ต่อที่รีบใส่เสื้อ ดึงกางเกง รูดซิบ ใส่เข็มขัดอย่างรวดเร็ว แล้ววิ่งตามเพื่อนๆ ออกไปให้ทันเข้าเรียน...........โดยไม่รู้สักนิดว่าได้มีจุดสีดำเล็กๆ ก่อขึ้นภายในจิตใจของตัวเองแล้ว.............
.............................................

ผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนเตียง ในห้องที่ปิดไฟมืด ครุ่นคิดว่าตัวเองจะทำอย่างไรต่อไปกับชีวิต แฟนก็บอกเลิก แม้ตัวเองจะจบคณะวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาลัยอันดับ 1 ของประเทศ แต่ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้งานทำเลยแม้แต่ที่เดียวมาเป็นปีแล้ว อาจจะเพราะบริษัทต่างๆมีตัวเลือกมากมาย สำหรับเค้า ที่เรียนได้แค่เกรดเฉลี่ยปานกลาง คงต้องก้มหน้าก้มตาหางานอื่นต่อไป ขณะที่ที่บ้านก็เร่งเร้าให้หางานให้ได้ จะได้เลิกพึ่งพาเงินจากทางบ้านซึ่งเป็นครอบครัวชนชั้นกลางที่ไม่ได้ร่ำรวยอะไร และจะได้เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของที่บ้านต่อไป
“ตรู๊ด ตรู๊ด ๆ ๆ” เสียงโทรศัพท์ภายในห้องเช่าราคาไม่กี่พันดังขึ้น เจ้าตัวรีบลุกขึ้นไปรับทันที
“สวัสดีค่ะ ขอสายน้องเอกค่ะ” ปลายสายเป็นเสียงของผู้หญิงซึ่งเสียงหวานเลยทีเดียว
“กำลังพูดครับ” ชายในความมืดตอบ
“ค่ะ ที่เอกมาสมัครสอนพิเศษกับพี่น่ะค่ะ ตอนนี้มีพ่อแม่เด็กเค้าติดต่อมาแล้วนะคะ”
“ครับ”
“พี่ก็เลยจะโทรมาถามว่าเอกจะรับสอนมั้ยคะ เค้าจะว่างวันศุกร์-เสาร์นะค่ะ ให้สอนวิชาคณิตศาสตร์ค่ะ”
“ได้ครับพี่เก๋ ว่าแต่เริ่มสอนเมื่อไหร่ครับ”
“อาทิตย์หน้าเลยจ้ะ ค่าสอนก็ตามที่เราคุยกันไว้เนาะ แต่ว่าพ่อแม่เค้าเตือนมาน่ะค่ะ ว่าน้องเค้าค่อนข้างเอาเรื่องเหมือนกันนะ น้องเอกจะโอเคหรือเปล่าคะเคสนี้”
“คงต้องลองดูน่ะครับ แต่ผมว่า...ผมน่าจะเอาอยู่ครับ”
“โอเค จ้า ถ้าเอกไม่ไหวยังไงก็บอกพี่ละกัน เดี๋ยวพี่หาคนอื่นให้ ส่วนข้อมูลของน้องคนนี้กับแผนที่บ้านน้อง พี่ส่งเข้าอีเมลเอกให้นะจ้ะ”
“ขอบคุณครับพี่เก๋”
“จ้า สวัสดีจ๊ะ”
ในที่สุด แม้แต่ในความมืดมิด ก็มีแสงสว่างอยู่รำไร เอกคิดเช่นนั้น เอกแทบอยากให้ถึงอาทิตย์หน้าเร็วๆ เพื่อที่เค้าจะได้เริ่มต้นชีวิตทำงานซะที.................
..................

Season One1 : Episode 2: Transformation
Kinky Opera
>>Season One1<<
....ความดำมืดในใจก่อกำเนิด จิตเตลิดเกินห้ามปราบปรามไหว
ก่อกำหนัดพลาดพลั้งไปเมื่อใด ความจัญไรอาจย้อนจรสู่ตัว....
Episode 2: Transformation
“พวกมึงทำไรกูวะ ปล่อยนะเว้ยย!” ต่อถูกจับมัดขึงพืด เปลือยกาย อยู่บนโต๊ะตัวใหญ่ พร้อมทั้งมีเพื่อนร่วมชั้น 39 คนยืนอยู่ล้อมรอบโต๊ะนั้น รายรอบล้วนเต็มไปด้วยความมืดมิด มีเพียงหลอดไฟทังสเตนเท่านั้นที่อยู่ด้านบน แล้วส่องลงมาตรงๆ ที่ร่างกายของต่อ
“ต่อ มึงต้องถูกสังเวยว่ะ” ไอ้โยแหวกฝูงนักเรียนออกมาจากด้านหลัง พร้อมทั้งเอื้อมมือมาจับควยของต่อ แล้วจับชักขึ้นลงอย่างไม่ปราณี
“ไอ้โย เมิงอย่าทำงี้ดิ เมิงเป็นเพื่อนกูป่าววะ ปล่อยกูไปถอะ” ต่อขอร้องโย
“โหย แม่ง... กูทำไม่ได้ว่ะ ฮ่า ฮ่า” ไอ้โยนอกจากจะไม่หยุดชักแล้ว ยังทำหน้าล้อเลียนต่อด้วย
“อึก... ไอ้.... โย.... ห่ะ..... หยุด” ตอนนี้ความเสียวของต่อเต็มพิกัดแล้ว
“อ่ะ.... อ๊าหหหห์” “ปึ้ด..ปึ้ด...ปึ้ดด........” น้ำสีขาวขุ่นฉีดออกมาอย่างเต็มแรง.....
“กริ๊งงงงงงงงง........” เสียงนาฬิกาปลุกดังก้องในหูของต่อ ตามมาด้วยเพลงร็อคจากไอโฟนที่ต่อตั้งไว้ดังกระหึ่มทั่วชั้นสามของบ้าน คุณพลกับคุณศรีกำลังนั่งทานอาหารเช้าอยู่ที่ชั้นหนึ่งของบ้าน เมื่อได้ยินเสียงเพลงดังกระหึ่มก็รู้ได้ทันทีว่าต่อตื่นแล้ว ทั้งสองต่างก็ชินกับเสียงอึกทึกของบ้านที่มีแหล่งกำเนิดมาจากเจ้าลูกชายตัวดีนี่เอง
ต่อเอื้อมมือมาปิดนาฬิกาปลุก ความฝันเมื่อตะกี้นี้ยังคงติดอยู่ในหัว ต่อรับเลิกผ้าห่มของตัวเองขึ้นทันที
“เหี้ยเอ๊ยยย...... กูฝันเปียก” แม้ต่อเพิ่งเคยฝันเปียกเป็นครั้งแรก แต่ก็รู้ทันทีว่ามันคืออะไร เพราะอย่างน้อย ต่อก็ไม่หลับในวิชาสุขศึกษา มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ดีใจ? ตกใจ? ตื่นเต้น? งง? พลางนึกเรื่องในความฝัน มันดูคลับคล้ายคลับคลากับเรื่องในอดีตสมัยขึ้นป.5........
....สองปีที่แล้ว.....
“ต่อ ช่วยเราด้วย” เสียงเด็กน้อยคนหนึ่งดังขึ้น วิ่งหน้าตาเลิ่กลั่กมาหลบด้านหลังต่อ ตามมาด้วย ไอ้โย ไอ้เจมส์ ไอ้เม้ง และเพื่อนร่วมห้องอีกประมาณ 4-5 คน
“กูจะจับอีตุ๊ดนี่แก้ผ้าว่ะต่อ” โยพูดขึ้น อ้าววไอ้เชี่ยโยนี่มันเลวตั้งแต่เด็กเลยนี่หว่า
“ทำไมต้องแกล้งเราด้วย เราเคยไปทำอะไรให้นายโกรธแค้นเหรอไง” เด็กน้อยคนนี้พูดขึ้นมาอย่างมีเหตุผล
“ทามมายต้องแกล้งเค้าด้วย เค้าเคยไปทามอารายให้เธอโกดเหรองาย” โยล้อเลียนคำพูดของเด็กน้อยคนนั้นอย่างสนุกปาก พร้อมทั้งหันมาทางต่อ
“ว่าไงวะต่อ มึงจะมาช่วยกูจับอีนี่มันแก้ผ้ามั้ย”
“..............” ต่อมองโยแล้วถอนหายใจ
“เอ๊ย! หรือว่ามึงชอบอีนี่วะ” ตอนนี้ทุกคนหันไปสบตากัน ทำนองว่าหรือเรื่องที่ไอ้โยพูดมันจะเป็นความจริง ต่อรู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล ถ้าทุกคนเชื่อเรื่องนี้ ต่อจะถูกอับเปหิจากตำแหน่ง “ราชา” ของกลุ่ม ลงมาอยู่สถานะเดียวกับเด็กคนนี้ทันที ซึ่งเป็นสถานะ “ต่ำสุด” ของห้อง ต่อจึงรีบโพล่งออกไปทันที
“เฮ้ออ กูก็แค่ไม่อยากให้มึงแกล้งคนโดยไม่มีเหตุผล แต่มึงจะทำอะไรก็เรื่องของมึงเถอะ ไม่เกี่ยวกับกู” ต่อพูด
เด็กน้อยคนนี้รู้ทันทีว่าความช่วยเหลือสุดท้ายของตนได้สลายหายไปกับอากาศแล้ว ไอ้โยและพวกวิ่งกรูกันเข้ามาล็อคตัวเด็กคนนี้ทันที คำพูดของต่อฟังดูเหมือนเป็นการปราม แต่สำหรับกลุ่มนี้แล้ว เป็นเสมือนว่า “กูไฟเขียว พวกมึงเล่นแม่งเลย”
“อ๊าหหหหห์ อย่า ฮือๆ อย่า ฮือๆ.......”
“เด็กคนนั้นชื่ออะไรน้า.........” ต่อพึมพำกับตัวเอง “.........มาร์ค” ต่อนึกออก “ไอ่โยแม่งเชี่ย”
“แว๊กกก สายอีกแล้ว.....”
...............................
“ต่อเอาข้าวไปกินบนรถด้วยสิลูก” คุณศรียื่นกล่องข้าวให้ลูกชายก่อนขึ้นรถไปโรงเรียน
“อะไรอ่ะแม่” ต่อถาม
“ข้าวไข่เจียวจ้ะ” แม่ตอบ
“กับข้าวอะไรเนี่ยแม่ รากหญ้าชัดๆ ข้าวหอมมะลิรึป่าว ไข่ออร์แกนิกรึป่าว” ต่อแสดงความดูถูกอย่างชัดเจน
“ต่อ” “แม่ไม่ชอบที่ลูกพูดจาดูถูกอย่างนี้เลยนะ ลูกรู้มั้ย ว่าแต่ก่อนสมัยแม่ยังเด็ก ได้กินข้าวไข่เจียวนี้ก็ถือว่า.......” แม่พูดยังไม่ทันจบต่อก็พูดแทรกขึ้นมา
“เออน่ะ แม่ แค่กินก็พอแล้วใช่มั้ยล่ะ” ต่อรับกล่องข้าวจากแม่แล้วปิดประตูรถทันที!
“ดูซิ ลูกคนนี้ ทำไมโตมามีนิสัยอย่างนี้นะ” คุณศรีถอนหายใจ คุณพลได้แต่ส่ายหน้า
จริงๆแล้วต่อก็ไม่ได้เกลียดข้าวไข่เจียวอะไรนักหนาหรอก ก็แค่อยากแสดงรสนิยมของตัวเองและความรู้ที่เรียนมาในชั่วโมงวิทยาศาสตร์เท่านั้นเอง........
.........................
โรงเรียน
ป้าบบบบ! เสียงตบลงกลางหลังของไอ้โยเต็มกำลัง “ไอ้เชี่ย โย” ต่อทักทายตามประสาเพื่อน
“โหยต่อ.... เมิงยังไม่หายโกรธกูอีกเหรอว้า..” ไอ้เจมส์กับไอ้เม้งรีบหลบสายตาต่อทันทีเพราะกลัวว่าจะโดนเป็นรายต่อไป ในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิด
“มึงจะดูของกูคืนมั้ยวะ จะได้เจ๊ากัน” โยยื่นข้อเสนอ
“ไม่หรอกว่ะ กลัวเสียสายตา” ต่อตอบ
“แม่ง แค่นี้ทำอายเป็นไอ้มาร์คไปได้” โยพูดขึ้นมา ทำให้ต่อรีบใช้โอกาสนี้ทันที
“แล้วตอนนี้มันไปอยู่ไหนแล้ววะ” ต่อถามพลางนึกเรื่องที่คิดเมื่อเช้า ก่อนมาโรงเรียน
“พอจบป.6 มันก็ย้ายโรงเรียนอ่ะดิ คงทนกูแกล้งไม่ได้มั้ง” โยตอบ
“เออ โยเมิงอ่ะเชี่ย แล้วมันย้ายไปโรงเรียนไหนวะ” ต่อถาม
“อะไรวะ หลอกด่ากูนี่หว่า มันก็ย้ายไปโรงเรียนใกล้ๆเนี่ยแหละ ที่ใส่กางเกงสีดำอ่ะ เมิงมีไรป่าววะ”
“อ่อ ป่าวว่ะ เมิงหัดทำตัวดีๆบ้างนะ” ต่อพูดไปก็นึกขำตัวเองไปว่าตัวเองก็ไม่ได้เป็นลูกที่ดีเท่าไหร่
.........................................
“กะมาและเหลอคะน้อต่อ” คนรับใช้จากพม่ารีบออกมาเปิดประตูต้อนรับคุณหนูต่ออย่างยิ้มแย้ม
“พี่หมิง เอาขนมไปให้ต่อบนห้องด้วย เข้าใจมั้ย?” ต่อสั่งคนรับใช้ห้วนๆ ทั้งที่เค้ามีอายุมากว่าต่อ 20 ปีได้
“ค่ะ ค่ะ เด๋พี่ยกขื้อปายให้”
ต่อขึ้นมาบนห้องนอนชั้น 3 แล้วรีบเปิดคอมพิวเตอร์ Mac ทันทีที่เปิดอีเมลต่อก็ต้องตกใจเมื่อพบว่ามีอีเมลจาก S&M-kinkboys.com เพิ่มขึ้นมาตั้ง 4-5 อัน
“อะไรของมันวะ” ต่อพึมพำกับตัวเอง และกำลังลังเลว่าจะคลิกหรือไม่ดี
“เอาวะ เครื่อง Mac คงไม่โดนไวรัสหรอก” ต้อเลื่อนเม้าส์อย่างใจจดใจจ่อเพื่อ “คลิก”
“ก๊อกๆๆๆ” เสียงเคาะประตูดังขึ้น และประตูถูกเปิดออก
“ขะโหนด้ายละค่ะ น้อต่อ” พี่หมิงเอาขนมขึ้นมาให้นี่เอง
“เออๆ วางไว้ตรงเนี้ยะ แล้วก็ไปได้” ต่อบอกปัดๆ
“ค่า” พี่หมิงวางขนมเสร็จก็ออกไป
คราวนี้ต่อกลับมามีสมาธิกับการคลิกอีเมลนี้ใหม่ ตอนนี้ต่อไม่รู้หรอกว่าการ “คลิก” ในครั้งนี้มันจะเปลี่ยนชีวิตที่เหลือของเขาไปโดยสิ้นเชิง
“คลิก” ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าของต่อตอนนี้ เป็นภาพโฆษณาทางอีเมลของเวบไซต์หนึ่ง ซึ่งเนื้อหาคือการร่วมเพศแบบรุนแรง แบบที่ต่อไม่เคยเห็นมาก่อน จริงอยู่ที่ต่อคุ้นเคยกับคำว่า “ซาดิสต์”มาบ้าง แต่ก็เป็นคำที่ใช้ล้อเลียนพวกนักเรียนที่บ้าพลัง และโมโหรุนแรงเท่านั้น ตอนนี้สิ่งที่ต่อเห็นคือภาพที่มีเด็กชายโดนคนแปลกหน้าเอาน้ำตาเทียนหยดใส่ โดนเอาที่หนีบผ้าหนีบที่หัวนม หรือแม้แต่เอาอวัยวะเพศเทียมที่ใหญ่เกินขนาด ยัดเข้าไปที่ทวารหนัก
“ตึก ตึก ตึก......” ตอนนี้หัวใจต่อเต้นเสียงดัง ทำงานอย่างหนัก สูบฉีดเลือดไปตามส่วนต่างๆของร่างกายอย่างแรง รวมถึงอวัยวะเพศ! ตอนนี้ควยของต่อแข็งได้ที่แล้ว และต่อก็เอามือเลื่อนมาจับที่ควยของตัวเองอย่างช้าๆ โดยไม่รู้ตัว
“เห้ย!” เมื่อต่อตั้งสติได้ ต่อถึงกับตกใจกับสิ่งที่ตัวเองทำ ที่หน้ามืด ที่หลงไหลไปกับภาพเหล่านี้ ต่อคิดมาเสมอว่าตัวเองเป็นผู้ชายทั้งแท่ง และ “ต้อง” เป็นอย่างนั้นตลอดไป ต่อรีบลบอีเมลนั้นทิ้ง และปิดคอมพิวเตอร์ทันที
................................
ตอนนี้ต่อยืนถอดเสื้อเหลือเพียงกางเกงนักเรียนสีน้ำเงินตัวเดียวอยู่หน้ากระจก ต่อมองสำรวจร่างกายตัวเองที่เริ่มเข้าสู่วัยหนุ่มด้วยความภูมิใจ เป็นผลพวงจากการที่ไปเล่นบาสเกือบทุกวันตอนปิดเทอมที่ผ่านมา แถมด้วยการซิทอัพและวิดพื้นอีกวันละเกือบร้อยครั้ง จนตอนนี้สิ่งที่ได้ทำไว้เริ่มผลิดอกออกผล ทำให้ต่อเริ่มมีกล้ามเนื้อที่แขน ขา และที่หน้าท้องหรือที่เรียกว่า “ซิกซ์แพ็ก” แม้จะยังไม่เด่นชัดนัก แต่ก็ถือว่ามากพอสำหรับเด็กอายุ 13 ปี นอกจากนี้แล้ว...ยังมีการเปลี่ยนแปลงลักษณะทางกายภาพอื่นไม่ว่าจะเป็น ขนรักแร้ ขนหมอย หรือแม้แต่.....................น้ำใสที่เยิ้มออกมาจากหัวควยของต่อ เวลาที่นึกถึงตัวเองโดนพวกไอ้โยจับแก้ผ้า!!
“ไอ้เชี่ยโย......” ต่อบ่นขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
..................
จบตอน
Kink Team เขียน


Season One1 : Episode 3: New Guest
Kinky Opera
>>Season One1<<
....ความดำมืดในใจก่อกำเนิด จิตเตลิดเกินห้ามปราบปรามไหว
ก่อกำหนัดพลาดพลั้งไปเมื่อใด ความจัญไรอาจย้อนจรสู่ตัว....
Episode 3: New Guest
Guest Starring – แม่ชีทศพอล
เช้าวันเสาร์........
เอกยืนอยู่หน้าหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง หมู่บ้านนี้โฆษณาทางทีวี และผ่านตาเอกบ่อยครั้ง
“มาร่วมเป็นสังคมคุณภาพกับเรา...สิคะ....เริ่มต้น”แค่”สิบห้าล้านบาท” เสียงหญิงสาวอธิบายสรรพคุณ
เอกเริ่มคิดในใจว่าชาตินี้เราจะมีบ้านใหญ่โตอย่างนี้ได้ไหมหนอ.....แต่แล้วก็ต้องกลับมาสู่ความจริง ความจริงที่ว่าเขาต้องมาเป็นครูสอนพิเศษครั้งแรก รายได้ชั่วโมงละ 250 บาท หลังจากถูกหักค่าหัวคิวแล้ว เอกแลกบัตรกับรปภ.หน้าหมู่บ้านซึ่งเข้มงวดกับการเข้า-ออกมาก แถมยังมองดูเอกแบบเหยียดๆ ด้วยซ้ำ แต่เอกก็ไม่สนใจ มุ่งหน้าเดินหาบ้านเลขที่ 11/111
..........................
“ต่อ อาบน้ำหรือยังลูก” คุณศรีตะโกนอยู่หน้าประตูห้องนอนต่อ
“อาบแล้ว ทำไมอ่ะ” คุณศรียืนหน้าบูดอยู่หน้าประตู ไม่ยอมเข้าไป ด้วยความไม่พอใจที่ต่อพูดจากับแม่โดยไม่มีหางเสียง คุณศรีจึงประชดเข้าให้
“งั้นก็ช่วยลงมาที่ห้องรับแขกชั้น1ด้วยนะคะ เดี๋ยวจะมีแขกมาค่ะ”
“ใครอ่ะแม่” ต่อยังคงไม่รู้ว่าแม่ประชด
“อยากรู้ก็ลงมาดูเองค่ะ” แล้วคุณศรีก็เดินกลับลงไป
“ใครหว่า?” ต่องง
...........................
ในที่สุด เอกก็หาบ้านเลขที่ 11/111 เจอซะที บ้านหลังนี้อยู่ด้านในสุด ใหญ่สุด มีรถจอดเรียงรายตั้งแต่ Benz BMW Alphard และที่สำคัญ Lambougini สีเหลืองสด เอกกดกริ่งหน้าบ้านเพื่อส่งสัญญาณ สักครู่จึงมีผู้หญิงวิ่งออกมาเปิดประตูหน้าบ้าน
“คูเอะช่ายมะคะ” (ครูเอกใช่มั้ยคะ)
“ใช่ครับ”
“เชอค่ะ เชอค่ะ” หมิง สาวใช้ของบ้านนี้รีบเชิญเอกเข้าไปทันที
ทันทีที่เอกก้าวเข้าไปในห้องรับแขก เอกก็พบกับหญิงวัยกลางคน ตัดผมบ๊อบสั้น แต่ใบหน้ายังเต่งตึงด้วยสรรพคุณของเครื่องสำอางชั้นดี แต่งตัวทะมัดทะแมงด้วยสูทและกางเกง ตามแบบผู้บริหาร น้ำเสียงที่เธอกล่าวดูช่างทรงพลังยิ่งนัก
“สวัสดีค่ะครูเอก”
“สวัสดีครับคุณศรีจันทร์”
“เรียกพี่ศรีก็ได้จ้ะ พี่ก็เป็นรุ่นพี่เราน่ะแหละ แต่คนละคณะนะ พี่เรียนคณะบัญชีจ๊ะ”
“จริงเหรอครับ” เอกพอรู้มาบ้างว่าคุณศรีทำธุรกิจส่วนตัว แต่ถึงไม่ถึงว่าจะเรียนจบมหาวิทยาลัยเดียวกันด้วย แต่ดูจากลักษณะแล้ว คงจะห่างกันหลายรุ่นเลยทีเดียว แต่ในเมื่อเค้ามอบไมตรีมาแล้ว ก็คงปฏิเสธไม่ได้
“จ้ะ ก็ถือว่าเป็นพี่มหาลัยแล้วกันนะ” คุณศรีกล่าวยิ้มแย้ม
“ครับ พี่ศรี แล้วน้อง......”
“อ๋อ น้องต่อเหรอจ๊ะ เดี๋ยวก็ลงมาแล้วล่ะ” พูดจบต่อก็เดินอาดๆ ลงมาจากบันไดทันที
“อ้าว น้องต่อมานี่เลยจ้ะ นี่พี่เอก สวัสดีสิลูก” ต่อสวัสดีแบบลวกๆ พร้อมกับมองสำรวจพี่เอกไปด้วย พี่เอกคนนี้เป็นคนที่สูงทีเดียว รูปร่างกำยำล่ำสัน ผิวคล้ำ หน้าตาหล่อคมเข้มแบบไทยๆ ซึ่งต่างจากต่อมาก เพราะต่อมีเชื้อสายจีน จึงมีผิวขาว และหน้าตาแบบตี๋ๆ
ก็หน้าตาดีนี่หว่า ต่อคิดในใจ
“พี่เอกเค้าเรียนมหาลัยเดียวกับแม่นะลูก คณะวิศวะฯ ด้วย คณะที่ลูกอยากเรียนไง” เอกงงเล็กน้อย ว่าสมัยนี้เค้าพูดเรื่องเรียนมหาวิทยาลัยกับลูกตั้งแต่อายุ 13 เหรอเนี่ย!!!
“คับ แล้วพี่เค้ามาทำอะไรคับ” ต่อพูดอย่างไม่ยี่หระ
“ตั้งแต่วันนี้ พี่เอกเค้าจะมาสอนวิชาคณิตศาสตร์ให้น้องต่อไง ตอนเย็นวันศุกร์ แล้ววันเสาร์แม่ก็จะให้พี่เค้าสอนน้องต่อว่ายน้ำ พี่เค้าเคยเป็นนักกีฬาว่ายน้ำของมหาลัยด้วยนะ” ต่อถึงกับช็อค เพราะความสุขของเด็กวัยนี้ก็คือวันหยุดได้ไปเที่ยวกับเพื่อน หรือไปเล่นที่บ้านเพื่อนต่างหาก
“ไม่เอา ต่อไม่เรียน” ต่อบอกแม่ด้วยสีหน้าโกรธ
“แม่พูดได้มั้ยลูก...... ก็แม่เห็นว่าลูกชอบคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ แม่ก็เลยอยากส่งเสริมให้ลูกเรียนไง แล้วว่ายน้ำเนี่ย เรียนไว้ก็ดีนะลูก ถ้าน้องต่อไปตกน้ำที่ไหน อย่างน้อยลูกก็ช่วยชีวิตตัวเองได้นะลูก” คุณศรีพยายามชักแม่น้ำทั้งห้า
“ไม่เอา ผมไม่เรียน” ต่อพูดจบก็ลุกพรวด วิ่งขึ้นห้องไปทันที คุณศรีถึงกับตกใจกับการกระทำของต่อและหน้าเสียมาก จึงบอกกับเอกเสียงสั่นๆ ว่าอาทิตย์หน้าค่อยมาใหม่แล้วกัน
“ไม่เป็นไรครับ ปล่อยไว้เดี๋ยวน้องเค้าจะได้ใจ อย่างน้อยก็น่าจะคุยให้รู้เรื่องก่อน เดี๋ยวผมขออนุญาตขึ้นไปคุยกับน้องเองนะครับ”
คุณศรีเห็นความเด็ดเดี่ยวในตาของเอก นึกสมเพชตัวเองอยู่กลายๆ เนื่องด้วยไม่เคยลงโทษลูกเลย อาจจะเป็นเอกก็ได้ ที่จะมาปราบพยศของต่อ
“จ้ะ งั้นพี่ฝากด้วยละกันนะ” คุณศรีบอกกับเอกอย่างปลงๆ
.........................
ไอ้มนุษย์กล้ามตัวดำ จะมาเป็นครูสอนพิเศษเราเรอะ เชอะ.... ต่อคิดในใจ นอนฟุบหน้าอยู่บนเตียง
“ก๊อกๆๆ” เสียงเคาะประตูดังขึ้น “ต่อ พี่เข้าไปได้มั้ย”
“.................”
“ครืดดด” เสียงประตูเลื่อนเปิดออก เอกเดินเข้ามาหาร่างเจ้าตัวแสบที่นอนฟุบอยู่บนเตียง
อยู่ดีๆ เจ้าตัวดีก็ลุกขึ้นมาผลักเอก “ไม่ให้เข้า ออกไป”
“มีเหตุผลหน่อยสิต่อ” เอกป้องกันโดยต้านแรงผลักและจับข้อมือของต่อไว้ ในที่สุดทั้งสองก็เสียหลักล้มลงไปบนเตียง......โดยที่เอกคร่อมอยู่ด้านบน ต่อนอนหงายอยู่ด้านล่าง.... ต่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ แบบผู้ชายของเอก เมื่อสติของต่อกลับคืนมาแล้วจึงแผลงฤทธิ์ต่อ ทั้งทุบทั้งตีจนเอกหมดความอดทน ประกบปากลงไปที่ปากของต่อทันที ไม่เพียงเท่านั้นเอกยังสอดลิ้นเข้าไปอีกด้วย!!!
“อุ๊ฟฟฟ.....อื้มมม......อื้ออ...” ตอนนี้ร่างกายของต่อหยุดชะงัก เหมือนกับชาไปทั้งตัว ยกเว้นส่วนกลางของลำตัวที่ยังคงพองขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เอกถอนปากออก พลางนึกถึงเรื่องทะเลาะกับแฟนเก่าครั้งล่าสุด ที่ตัวเขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ !
แต่เมื่อเดินมาถึงขั้นนี้แล้วก็ถอยไม่ได้แล้ว......
ต่อยังคงนั่งเหม่ออยู่บนเตียง สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวซะแล้ว
“งั้นอาทิตย์นี้พี่งดให้แล้วกัน แต่เริ่มเรียนอาทิตย์หน้าวันศุกร์นะครับ” “ครับ” ต่อตอบเสียงเบาๆ แบบงงๆ
“ครืดดด” เสียงปิดประตูดังขึ้น ต่อยังคงนั่งงงต่อไป.........
“เป็นไงบ้างจ๊ะเอก !” พี่ศรีรีบเข้ามาถามทันทีที่เห็นเอกเดินลงบันไดมา
“เรียบร้อยครับ น้องต่อเค้ายอมเรียนแล้ว....... แต่คงต้องเริ่มอาทิตย์หน้านะครับ ให้เวลาน้องเค้าปรับตัวนิดนึง”
“พี่ขอบใจเอกมากเลยนะจ๊ะ น้องต่อเนี่ยเค้าพูดยากจริงๆ พี่ก็เสียใจนะที่พี่ไม่มีเวลาได้อบรมลูกตัวเอง ...บลาๆๆ...” สติของเอกเองก็หลุดลอยไม่แพ้กัน รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่พี่ศรีพูดจบ
“เอ่อ ครับ ไหนๆ น้องเค้าก็เปิดใจแล้ว ก็ถือเป็นการเริ่มก้าวแรกที่ดีนะครับ พี่ไม่ต้องเป็นห่วง”
“จ้ะ งั้นน้องเอกกลับบ้านเถอะ นี่ถือเป็นค่าเสียเวลาของอาทิตย์นี้แล้วกันนะ” คุณศรีกำเงินใส่มือเอกเป็นจำนวนสามพันบาท เอกก็บอกไม่รับแสดงถึงความเกรงใจ แต่คุณศรีก็โน้มน้าวให้เอกรับเงินจนได้
...............................
ขณะที่เอกเดินอยู่ในซอย เพื่อกลับเข้าห้องเช่าราคาถูก เอกครุ่นคิดในใจว่า ก้าวแรกครั้งนี้ เป็นการก้าวที่ผิดพลาดหรือเปล่า..............
.............................................................................
จบตอน
Kink Team เขียน


Season One1 : Episode 4: Judas!
Kinky Opera
>>Season One1<<
....ความดำมืดในใจก่อกำเนิด จิตเตลิดเกินห้ามปราบปรามไหว
ก่อกำหนัดพลาดพลั้งไปเมื่อใด ความจัญไรอาจย้อนจรสู่ตัว....
Episode 4: Judas!
เสียงจอแจของนักเรียนดังทั่วโถงใต้ตึก ภาพของเด็กนักเรียนชายจับกลุ่มกันเตะฟุตบอลพลาสติก มีให้เห็นทั่วไป ตามถนน ทางเดิน หรือแม้แต่ที่พิเศษอย่างบริเวณลานเข้าแถวในโรงเรียน
ต่อเดินเข้าโรงเรียนมาอย่างเงียบๆ ในใจยังคงนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ต่อไม่รู้จะนำเรื่องนี้ไปปรึกษาใครดี มันเป็นเรื่องเกินกว่าที่เด็กวัยนี้จะเข้าใจและรับมือกับมันได้ แต่แล้วต่อก็ตัดสินใจได้ว่าไม่ควรนำเรื่องนี้ไปบอกใครเด็ดขาด ขอเก็บเรื่องนี้ไว้กับตัวเพียงคนเดียวจะดีกว่า ยิ่งเก็บไปจนวันตายได้ยิ่งดี แต่ที่สำคัญก็คือ เรื่องมันไม่จบแค่เก็บความลับ หากแต่วันศุกร์ที่จะถึงนี้ ต่อยังต้องเจอไอ้มนุษย์กล้าม และยังต้องเจอกันไปเรื่อยๆ อีกนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้.................
“ต่อ!” เสียงไอ้เจมส์ทักดังมาแต่ไกล
“อ้าว ไอ้เชี่ยโยกับไอ้เม้งล่ะวะ” ตั้งแต่ต่อโดนจับแก้ผ้าวันนั้นก็ดูเหมือนคำว่า “เชี่ย” เลยกลายเป็นคำนำหน้าของโยไปโดยปริยาย
“ยังไม่มามั้ง ไปนั่งใต้ตึกกันเหอะว่ะ แม่งร้อนชิบหาย” ต่อกับเจมส์จึงเดินไปนั่งที่นั่งประจำที่อยู่ใต้ตึก
........................................................................
โยก้าวลงจากรถโตโยต้าคัมรี่สีขาว และเดินอย่างรีบเร่งอยู่แถวหน้าปากซอยทางเข้าโรงเรียน เพราะว่ารถภายในซอยนั้นติดบรรลัย ถ้าหากยังฝืนให้คนรถเข้าไปส่งข้างในคงได้เข้าเรียนสายแน่ ที่บ้านของโยนั้นประกอบธุรกิจเป็นตัวแทนนำเข้าเสื้อผ้ากีฬา รวมถึงอุปกรณ์กีฬาแบรนด์ดังจากต่างประเทศ และทางบ้านของโยก็บริจาคอุปกรณืกีฬาให้กับโรงเรียนเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงเป็นสปอนเซอร์ให้โรงเรียนเวลาไปแข่งขันนอกสถานที่ด้วย เพื่อแลกกับการให้ลูกชายได้ชื่อว่าเป็น “นักกีฬาโรงเรียน” เอาไว้อวดคนอื่นเท่านั้นเอง ทั้งๆที่โยก็ร่วมลงแข่งไปงั้นๆ ไม่ได้จริงจังอะไร เหมือนเป็นตัวประกอบของการแสดงก็เท่านั้นเอง
ขณะที่โยเดินอย่างเร่งรีบเข้ามาตามซอย โยไม่ทันสังเกตเลยว่า ได้มีนักเรียนรูปร่างสูงโปร่ง กำยำ ยืนแอบอยู่ที่เสาไฟฟ้าด้านหลัง เด็กคนนี้ใส่กางเกงสีดำ เป็นเด็กจากอีกโรงเรียนหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ นี้เอง เด็กชายหยิบโทรศัพท์มือถือแบล็คเบอรี่รุ่นล่าสุดออกมาแล้วส่งข้อความหนึ่งโดยเร็ว
“บี๊บบบ...1 SMS!”
เสียงสัญญาณโทรศัพท์ของโยดังขึ้น เป็นสัญญาณเตือนว่ามีการส่ง “message” เข้ามา โยรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่าน
>เลิกเรียนเจอกันที่ร้านสไมล์คอฟฟี่<
โยอ่านข้อความเสร็จก็ตาเหลือกและหันรีหันขวางเหมือนกับจะมองหาใครบางคน เด็กชายที่ยืนหลบอยู่หลังเสาไฟฟ้ากระหยิ่มยิ้มย่องด้วยความพอใจ
.............................................................................
คาบแรกของวันนี้เป็นวิชาสุขศึกษา ถึงต่อและเพื่อนๆจะจองที่นั่งด้านหลังสุดของห้อง แต่ก็ไม่ได้ละความสนใจจาก presentation เลยแม้แต่น้อย โดยเฉพาะเนื้อหาวิชาตลอดเดือนนี้ ที่เกี่ยวกับเรื่อง “เพศศึกษา”
อาจารย์คนใหม่ เป็นหนุ่มไฟแรง ซึ่งจบมาทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งหนึ่ง กำลังฉายสไลด์ที่มีรูปเปลือยของชายและหญิงเพื่อการศึกษา อาจารย์ได้อธิบายถึงโครงสร้างและความแตกต่างทางร่างกายของเพศชายและหญิง ผสมกับการปล่อบมุขตลกลามกเพื่อทำให้การเรียนการสอนน่าสนใจยิ่งขึ้น แน่นอนว่าถึงไม่หยอดมุขนักเรียนก็ต้องสนใจอยู่แล้ว เพราะเป็นธรรมชาติของเด็กวัยนี้ที่กำลังอยากรู้อยากเห็น.............
“...........แล้วนักเรียนทราบมั้ยครับ ว่าพอเราก้าวเข้าสู่วัยรุ่นจะมีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายอะไรบ้าง?”
ครูถามในขณะที่ต่อยังคงจ้องดูรูปที่สไลด์
“ตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วครับ” นักเรียนคนหนึ่งตอบ
“เสียงแตกครับ” นักเรียนอีกคนหนึ่งเสริม
“ถูกต้องครับ ไหนใครมีคำตอบอย่างอื่นบ้าง” ครูถาม
คราวนี้ไม่มีใครตอบ ไม่ใช่ว่าไม่รู้ แต่อายที่จะตอบต่างหาก เพราะคำตอบต่อไปจะเริ่มเข้าไปสู่เรื่องในร่มผ้า
“ถ้างั้นครูอธิบายเพิ่มนะครับ นอกจากที่เพื่อนตอบมาแล้ว ฮอร์โมนเพศชายที่หลั่งออกมายังทำให้ร่างกายสร้างมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น และเริ่มมีขนขึ้นตามแขนขา รักแร้ และอวัยวะเพศบริเวณหัวหน่าว”
พอครูพูดมาถึงตอนนี้ โย เจมส์ และเม้งก็หันมาทางต่อพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายและอมยิ้ม
“ขอดูตัวอย่างหน่อยดิวะไอ้ต่อ” โยพูดแซวต่ออย่างเบาๆ
“เงียบไปเลยไอ้เชี่ยโย” ต่อเอ็ด โย เจมส์ และเม้งต่างหัวเราะกัน
ครูอธิบายต่อไป “และที่สำคัญนะครับ จะมีการเจริญของอวัยวะสืบพันธุ์ ส่วนลึงค์จะมีขนาดใหญ่ขึ้นและอัณฑะจะมีการสร้างอสุจิเพื่อใช้สืบพันธุ์ต่อไป” ถึงตอนนี้ครูเปลี่ยนสไลด์เป็นภาพซูมของอวัยวะเพศชายมีทั้งแบบภาพวาดที่มีคำอธิบายแต่ละตำแหน่ง รวมถึงภาพถ่ายของจริง!
เมื่อเห็นภาพแล้วต่อก็หวนคิดถึงสิ่งที่เห็นในเวบไซต์ต้องห้ามนั้น ตอนนี้ควยต่อเริ่มแข็งแล้ว ในขณะที่อาจารย์เริ่มเปลี่ยนไปอธิบายเรื่องของเพศหญิง ต่อก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องไกลตัวและเริ่มหมดความสนใจ จึงหากิจกรรมอย่างอื่นทำโดยการมองสำรวจรูปร่างครูคนใหม่นี้แทน
ครูอาร์ตเพิ่งจบปริญญาตรีมาหมาดๆ ครูมักใส่เสื้อกีฬากับกางเกงวอร์ฟิตเปรี๊ยะมาสอน เพราะนอกจากจะสอนวิชาสุขศึกษาแล้ว ครูอาร์ตยังสอนกีฬาต่างๆ ในคาบพละอีกด้วย ต่อมองกล้ามแขนอันทรงพลังของครูอาร์ต และกล้ามอกแน่นรวมถึงกล้ามท้องซิกซ์แพ็กที่เห็นรางๆ อยู่ภายใต้เสื้อที่ตึงรัดจนแทบจะปริอยู่แล้ว เสื้อกีฬาสีน้ำเงินสดช่างตัดกับผิวที่คล้ำกรำแดดของครูอาร์ตเหลือเกิน ถึงตอนนี้ภาพของใครบางคนซ้อนทับเข้ามาในหัวของต่ออย่างฉับพลัน
โถ่เว้ย! ทำไมต้องมาคิดถึงมันตอนนี้ด้วยวะ! ต่อคิดในใจ ตอนนี้ควยของต่อแข็งเต็มที่แล้ว ไอ้โยที่นั่งอยู่ข้างๆ ต่อคว้าหมับลงมาที่ควยของต่ออย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว ทำให้ต่อต้องสะดุ้งโหยง!
“เฮ้ย ไอ้ต่อเห็นหีแล้วแม่งควยแข็งว่ะ” โยหัวเราะพร้อมกับหันไปกระซิบกระซาบกับเจมส์และเม้ง
“หรือเมิงต้องเห็นควยแล้วควยถึงแข็งวะ” ต่อตอกกลับไป พร้อมจับสังเกตเห็นโยหน้าเสียไปแว้บนึง แล้วโยก็กลับมาทำหน้าเป็นปรกติ
“เออ น่า.... เพื่อนกันๆ” โยบอกพร้อมกับลูบหลังต่อ
................................................................................
หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จ ต่อและพวกก็จะไปอยู่ที่ห้องน้ำชั้นแปดตามเดิม แต่เนื่องจากห้องน้ำนั้นถูกทิ้งร้างและไม่มีน้ำไหลมานานแล้ว และตอนนี้ต่อก็ปวดฉี่มากจึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำที่ชั้น 7 แทน
“เออ พวกมึงล่วงหน้าไปก่อนนะ เด๋วกูไปเยี่ยวชั้น 7” ต่อบอกเพื่อน
“เออๆ มึงรีบตามมาล่ะ” เม้งบอก
ต่อเดินตรงเข้ามาในห้องน้ำชั้น 7 ซึ่งมีนักเรียนอยู่ในห้องน้ำ 2 คน ต่อเลี่ยงไปฉี่ในห้องน้ำแทนการฉี่ที่โถ เพราะตอนนี้ต่อมีหมอยขึ้นแล้ว ถ้าหากมีใครมาเห็นอาจเอาเรื่องนี้ไปล้อสนุกปากได้ ต่อรีบปลดเข็มขัดและซิบกางเกงสีน้ำเงินทันที!
“จ๊อกกกก.....” เสียงฉี่กระทบกับน้ำในชักโครกอย่างรุนแรง เพราะต่ออั้นไว้ตั้งแต่คาบเรียนก่อนพักเที่ยง ต่อยังคงปล่อยอารมณ์ไปกับการปลดทุกข์ครั้งนี้
......ฮอร์โมนเพศชายที่หลั่งออกมายังทำให้ร่างกายสร้างมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น และเริ่มมีขนขึ้นตามแขนขา รักแร้ และอวัยวะเพศบริเวณหัวหน่าว....
สิ่งที่ครูอาร์ตอธิบายเมื่อเช้านี้ผุดขึ้นมาในหัวของต่อ.......
.......กล้ามแขนอันทรงพลังของครูอาร์ต ....... กล้ามอกแน่น ...... กล้ามท้องซิกซ์แพ็กรางๆ ......ใต้เสื้อกีฬาสีน้ำเงินสด........
ความทรงจำของคาบเช้าผูดขึ้นราวกับดอกเห็ด ส่งผลให้ควยของต่อแข็งในทันที ตอนนี้ต่อยังฉี่ไม่เสร็จ ยิ่งควยต่อแข็งมากขึ้นเท่าใด ต่อก็ยิ่งบังคับให้ฉี่ลงชักโครกยากขึ้นเท่านั้น แต่ในที่สุด ภารกิจก็เสร็จสิ้นไปอย่างทุลักทุเล
แต่ควยของต่อเนี่ยสิ ยังคงแข็งโด่อยู่อย่างนั้น ต่อเพ่งมองควยของตัวเองที่ใหญ่ขึ้นกว่าเมื่อสมัยประถมมาก หัวยังไม่เปิด และเริ่มมีขนหมอยขึ้นบางๆ ตอนนี้ต่อสังเกตว่าห้องน้ำเงียบสงัด ต่อรู้ทันทีว่าตอนนี้ตัวเองได้อยู่ในห้องน้ำเพียงลำพัง ต่อเริ่มควบคุมสติไม่อยู่แล้ว คิดแต่เพียงว่าจะจัดการกับความ “เงี่ยน” ของตัวเองอย่างไรดี!!!
ต่อเอื้อมมือซ้ายดูนาฬิกา อีก 15 นาทีบ่ายโมง ต่อคิดในใจ

เอาไงดีวะ เอาไงดีวะ..........
อีก 14 นาทีบ่ายโมง......เอาไงดีวะ
อีก 13 นาทีบ่ายโมง...................
ในที่สุด กามตัณหาก็ได้ควบคุมต่อไว้อย่างสมบูรณ์ สติของต่อกระเจิดกระเจิงไปหมดแล้ว เหลือแต่เพียงด้านมืดของตัวตน ต่อเอื้อมมือขวาของตัวเองมากำรอบควยไว้ แล้วเริ่มชักเข้า-ชักออก เนื่องจากหัวยังไม่เปิดทำให้ต่อชักแรงไม่ได้มากนัก
เร็วอีก เร็วอีก...... ต่อชักเร็วขึ้น พร้อมเอื้อมแขนซ้ายดูนาฬิกา
เหลืออีก 7 นาที..... เร็วอีก.... ต้องเร็วอีก!
ตอนนี้ต่อสติกระเจิงอย่างสุดขั้ว ต่อดึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นรูปธรรมเข้ามาในหัวมาประมวลผลเพื่อสรรสร้างจินตนาการ เพื่อผลักดันให้ต่อไปถึงจุดหมายเสียที!!!
......กล้ามอก กล้ามท้องของครูอาร์ต.......
......กลิ่นเยี่ยวที่ตลบอบอวลอยู่ในห้องน้ำ.......
......ภาพของตัวเองโดนไอ้โย ไอ้เจมส์ ไอ้เม้ง จับขึงพืด........
โยเห็นต่อไปนานผิดปรกติ จึงเดินลงมาตาม เมื่อพบว่ามีห้องน้ำห้องหนึ่งปิดประตูอยู่ จึงมองผ่านผนังห้องข้างๆ ลงไปที่พื้นด้านล่าง เห็นเท้าคู่หนึ่งโดยปลายเท้าหันเข้าหาชักโครก และเห็นสัญลักษณ์ที่รองเท้าก็จำได้ทันทีว่าเป็นรองเท้าของต่อ ต่อจะทำสัญลักษณ์ไว้เพื่อป้องกันการสับสนกับของเพื่อนคนอื่น โยคิดว่าต่อมันเพิ่งขี้เสร็จ ก็เลยกะจะแกล้งสักหน่อย
ใครวะเสือกเข้ามาตอนนี้.....โอยย.....ไม่ไหวแล้วว......... ต่อคิดในใจ แต่ตอนนี้อะไรก็มาฉุดไม่อยู่แล้ว....เอาวะ เป็นไงเป็นกัน.....ต่อชักควยของตัวเองอย่างต่อเนื่องไม่ลดละ
.....ภาพของพี่เอก..........ตอนจูบกับพี่เอก......
.....ภาพของเวบไซต์ต้องห้ามอันนั้น...........
.....ใกล้แล้ว........อ๊าหหหห์............
“ต่ออออ.... กูขอดูของเมิงหน่อยน้า......” ไอ้โยไม่พูดเปล่า มันปีนชักโครกห้องข้างๆ! ต่อต้องหยุดกิจกรรมของตัวเองโดยทันที!! ตอนนี้ต่อรีบกุมควยของตัวเองไว้ พลันเอื้อมไปหยิบสายชำระอย่างรวดเร็วแล้วฉีดปี๊ดไปที่หน้าไอ้โยที่โผล่มาได้จังหวะพอดี
“แว๊กก...ไอ้ต่อ...เมิงง” โยรีบลงจากชักชักโครกแล้วเอามือปัดน้ำที่หน้าออกทันที ดีที่ต่อไม่ได้ฉีดแรงไม่งั้น”ไอ้โยได้เปียกทั้งตัวแน่!
ต่อเซ็งสุดๆ เพราะอีกนิดเดียวก็จะเสร็จแล้วแท้ๆ ไอ้โยดันมาเป็นมารขวางความสุข ต่อรีบใส่กางเกงให้เสร็จแล้วเปิดประตูออกมาดูไอ้โย แถมหัวเราะกลบเกลื่อน
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า สมน้ำหน้าไอ้เชี่ยโย อยากแกล้งคนอื่นดีนัก...” ต่อพูดกลบเกลื่อน
“โหย เมิง คนอุตส่าห์เป็นห่วง นึกว่าตกส้วมตายแล้ว! แล้วเมิงทำอะไรอยู่อ่ะ ขี้หรือชักว่าว” ไอ้โยใส่เป็นชุด
“เออ กูเพิ่งขี้เสร็จเว้ย....แม่งกระเพราเมื่อตอนเที่ยงแสบท้องชิบหาย” ต่อโกหกอย่างแนบเนียน
“นึกว่า เออ...กูเพิ่งชักว่าวเสร็จเว้ย ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ไอ้โยล้อเลียนต่อ
“ป่ะ บ่ายโมงแล้ว บ่ายนี้มาสเซอร์ให้เข้าโบสถ์”
ต่อกอดคอไอ้โยพลางเดินออกไปจากห้องน้ำด้วยกัน
...........อยากบีบคอไอ้เชี่ยโยจังโว้ยยยย...........
.................................................................................................
หลังเลิกเรียนเป็นเวลาที่นักเรียนกรูกันอออกมาจากประตูใหญ่ บ้างก็ยืนรอรถมารับ บ้างก็เดินมุ่งหน้าไปยังรถไฟฟ้าเพื่อกลับบ้านเอง
“ฮัลโหล.....ลุงเหรอครับ.....วันนี้ไม่ต้องมารับนะครับ เดี๋ยวโยกลับบ้านเอง...” ดูเหมือนว่าโยจะนิสัยดีกว่าต่อต่อมากนักเวลาพูดกับคนรับใช้ที่บ้าน โยกดวางโทรศัพท์เมื่อหยุดอยู่หน้าร้านสไมล์คอฟฟี่พอดี โยถอนหายใจและรวบรวมความกล้าอีกครั้ง แล้วจึงเปิดประตูร้านเข้าไป.......
“……When he calls to me, I am ready
I'll wash his feet with my hair if he needs
Forgive him when his tongue lies through his brain
Even after three times, he betrays me………. ”
เสียงของราชินีเพลงป๊อบชื่อก้องโลก ดังคลอมากับลำโพงเครื่องเสียงภายในร้าน...........
โยเดินเข้าไปที่โต๊ะด้านในสุดของร้าน .......เด็กหนุ่มกางเกงนักเรียนสีดำนั่งไขว่ห้างกอดอกรออยู่แล้ว!
“นั่งสิ” เด็กหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“มึงมีอะไรกับกูอีก?” โยถามด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น
“ไม่มีอะไร ก็แค่อยากให้ทำภารกิจนิดหน่อย” เด็กหนุ่มตอบ
“ภาระกิจอะไรวะ?” โยถาม
“กูอยากได้รูปตอนเปลือยของไอ้ต่อ!” เด็กหนุ่มตอบแบบไม่อ้อมค้อม ตอนนี้โยถึงกับอึ้ง!
“I'm just a Holy fool, oh baby it's so cruel
But I'm still in love with Judas, baby..........”
เพลงแทรกเข้ามาในหูของโย โยถึงกับประมวลผลในสมองไม่ถูก ไม่นึกว่าคนๆนี้จะกล้าพูดออกมาแบบนี้
“กูไม่ทำ กูขอร้องล่ะ มึงอย่าให้กูต้องหักหลังเพื่อนเลยนะ” โยขอร้องด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“กูเชื่อว่ามึงต้องทำ หลังจากที่มึงดูมือถือของมึง” เด็กหนุ่มพูด โยถึงกับงง
“บี๊บบ ....... 1 MMS!”
เมื่อโยกดเปิดดูก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น! โยไม่รอช้าคว้าหมับเข้าที่คอเสื้อเด็กคนนั้น ง้างหมัดเตรียมชก!
“โพสต์ลงอินเตอร์เน็ตนะ...” เด็กหนุ่มคนนั้นพูดหน้าเรียบเฉยไม่ไหวติง โยหยุดกึกอยู่ที่ท่าง้างหมัด
เด็กนักเรียนกางเกงดำ 4 คน เดินออกมาจากด้านหลังของร้าน แต่ละคนตัวใหญ่ไม่แพ้คนที่นั่งอยู่ข้างหน้าโยเลย โยปล่อยคอเสื้อเด็กหนุ่มแล้ว แต่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม ดีที่ส่วนนี้เป็นส่วนในสุดของร้านที่ไม่มีคน ไม่งั้นแขกของร้านคงต้องนึกว่าเด็กพวกนี้จะต้องมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันแน่ๆ
“วิธีไหนก็ได้ มึงเชี่ยวชาญอยู่แล้วนี่!” เด็กหนุ่มพูดด้วยความเย้ยหยัน
“ทำไมมึงทำกับกูแบบนี้ กูเคยไปทำ.....”
“ประโยคนี้คุ้นๆนะ!” โยพูดยังไม่ทันจบเด็กหนุ่มก็พูดแทรกขึ้นมาทันที!
“กูให้เวลามึง 2 อาทิตย์” เด็กหนุ่มและผองเพื่อนค่อยๆ เดินออกมาหยุดอยู่ที่ข้างไอ้โย เด็กหนุ่มยื่นหน้ามากระซิบข้างหูของโย
“ไม่งั้นจะหาว่าไม่เตือนนะ....ที่รัก” เด็กหนุ่มและผองเพื่อนเดินหัวเราะร่วนออกไปจากร้าน ทิ้งให้โยยืนแข็งทื่ออยู่คนเดียว.......ท่ามกลางเสียงเพลงที่ดังก้องอยู่ในหูของโย
“……..Woah woah woah woah woah
I'm in love with Juda-as, Juda-as
Judas Juda-ah-as, Judas Juda-ah-as, Judas Juda-ah-as”
.
.
“ไอ้เหี้ยมาร์ค........”
.....................................................................................
จบตอน
Kink Team เขียน
.


Season One1 : Episode 5: Trouble!
Kinky Opera
>>Season One1<<
....ความดำมืดในใจก่อกำเนิด จิตเตลิดเกินห้ามปราบปรามไหว
ก่อกำหนัดพลาดพลั้งไปเมื่อใด ความจัญไรอาจย้อนจรสู่ตัว....
Episode 5: Trouble!
“อ่อดดดดด......”
เสียงสัญญาณดังขึ้นในโรงเรียน เด็กผู้ชายหลายกลุ่มต่างทะยอยหยุดเล่นฟุตบอลพลาสติก บางคนมุ่งตรงไปที่ก๊อกน้ำข้างตึกเพื่อล้างหน้าล้างตาของตนเอง
“ไอ้โยแม่ง...ยังไม่มาอีกเหรอวะ........มันไม่เคยมาสายขนาดนี้นี่หว่า”
เม้งพูดขึ้นในกลุ่ม ในขณะที่ทุกคนกำลังลุกขึ้นจากโต๊ะประจำใต้ตึกเรียน เจมส์และต่อหยิบกระเป๋าจาคอบของตัวเองขึ้นมาถือไว้
“เออ.....แม่งไม่สบายป่าววะ” เจมส์พูดขึ้น
“ไปเข้าแถวก่อนเหอะว่ะ เดี๋ยวค่อยโทรหามัน” ต่อเสนอความคิด
เด็กชาย 3 คน รีบเดินไปต่อที่ท้ายแถวของนักเรียนห้อง ม.1/1 ทันที
“ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อ ชาติเชื้อไทย...........”
เสียงร้องเพลงชาติของนักเรียนชายทั้งโรงเรียนดังประสานขึ้นพร้อมกัน เด็กนักเรียนประมาณ 10 คน ที่รอดพ้นการกักตัวนักเรียนมาสายอย่างหวุดหวิด รีบวิ่งเข้าไปที่แถวของตนเองอย่างทันทีทันใด รวมถึงโยด้วย! เมื่อการร้องเพลงชาติจบลง ต่อ เม้ง และเจมส์ รีบหันมาหาโยทันที.....
“เมิงเป็นไรวะไอ้โย ทำไมมาสาย?” ต่อรีบถามทันที
“เออ.....ดีนะเมิงไม่โดนกักตัวไว้เหมือนไอ้พวกนั้นน่ะ ไม่งั้นโดนวิดพื้นแม่งเกือบร้อย” เจมส์พูดขึ้นบ้าง
โยยังคงหอบเล็กน้อยจากการวิ่งมาเมื่อกี้นี้ แต่ยังคงไม่ตอบคำถามใดๆ
“แล้วหน้าเมิงเป็นไรวะ แม่ง.....โทรมเชียว!” เม้งถามต่อเนื่องโดยไม่สนใจ โยมองหน้าต่อแว่บนึงแล้วก็หลบตา
“เมื่อคืนกูนอนไม่ค่อยหลับว่ะ.......ไม่มีไรหรอก” โยตอบแล้วยิ้มเฝื่อนๆ
“นักเรียนที่คุยกันอยู่ครับ! กรุณาตั้งใจฟังนะครับ เพราะเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์ต่อตัวนักเรียนเองนะครับ.....”
ท่านอธิการต่อว่าใส่ไมโครโฟน พลางหันหน้ามายังต้นตอของเสียง ซึ่งก็คือกลุ่มของต่อนั่นเอง เมื่อทั้งกลุ่มเลิกคุยกัน อธิการจึงอธิบายเรื่องการเปลี่ยนแปลงตารางสอบกลางภาคต่อไป ต่อหันหน้ามองโยแว่บหนึ่ง พลางครุ่นคิดถึงความผิดปกติของโยในเช้านี้
...............................................................................

“วันนี้เราจะเรียนเรื่อง ประวัติศาสตร์ของประเทศไทยนะจ๊ะ...ให้นักเรียนทุกคนเปิดหนังสือไปที่หน้า.......”
อาจารย์สาวแก่ทึนทึกรับหน้าที่สอนวิชาสังคมศึกษาพูดขึ้น พลางเริ่มสาธยายประวัติของประเทศตั้งแต่สมัยอดีตอันไกลโพ้น ซึ่งเป็นยานอนหลับของนักเรียนทั้งห้องได้เป็นอย่างดี.........
โยจับดินสอขึ้นมาทำท่าจะจดตาม แต่ก็ไม่ได้ฟังอาจารย์แม้แต่น้อย ในใจครุ่นคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
...1 สัปดาห์ ก่อนหน้านี้...
โยกำลังเดินออกมาจากซอยของโรงเรียน เพื่อมารอรถที่คนขับรถจะมารับบริเวณหน้าปากซอย ระหว่างที่กำลังนึกขำที่วันนี้ไอ้ต่อโดนจับแก้ผ้า เด็กหนุ่มคนหนึ่งใส่ชุดนักเรียนกางเกงสีดำก็โผล่พรวอดออกมาจากหัวมุมตรงปากซอย มาอยู่ข้างหน้าของโยพอดี
โยตกใจนิดหน่อย เมื่อตั้งสติได้ก็เพ่งมองใบหน้าของเด็กหนุ่มคนนั้นซึ่งร่างกายค่อนข้างกำยำและตัวสูงกว่าโย ใบหน้านั้น ขาว ใส ได้รูป แม้กระทั่งคิ้วเข้มๆ ก็ลงตัวพอดีกับตาที่โตหวาน แต่แฝงด้วยความน่าเกรงขาม ปากเรียวบางเป็นสีชมพูอ่อนๆ แบบธรรมชาติ เด็กหนุ่มคนนั้นจ้องมาที่โยด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย
“มีไรป่าว? (วะ)” โยถามขึ้นเมื่อเห็นเด็กหนุ่มคนนั้นจ้องมาที่โยตาไม่กระพริบ
“นายจำเราไม่ได้เหรอ?........โย” เด็กคนนั้นถามโยและรู้จักชื่อด้วย ทำให้โยรู้สึกงงเข้าไปอีก เพราะโยไม่เคยมีเพื่อนต่างโรงเรียน
“เอ่อ.......โทดที นายชื่อไรเหรอ” โยถามขึ้น
“เรา มาร์คไง......” พอถึงตอนนี้โยก็จำได้ทันที! เด็กที่อ้อนแอ้นๆ ตอนประถมที่โยและเพื่อนเกือบทั้งห้องชอบแกล้งบ่อยๆ โยประหลาดใจมาก ตอนนั้นมาร์คยังตัวเล็กกว่าอยู่เลย หลังจากที่มาร์คย้ายโรงเรียนไปตอนจบป. 6 แค่ปิดเทอมไม่กี่เดือนทำให้มันเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยเหรอ!
“อ่อ......จำได้ล่ะ” สีหน้าของโยเริ่มเปลี่ยนเป็นสีหน้าแบบดูถูกทันที
“แล้วมึงมีอะไรกับกู?........” โยเริ่มขึ้นเสียงหวังจะข่มมาร์คเหมือนแต่ก่อน ทั้งๆที่ตอนนี้โยก็รู้ดีว่ามาร์คก็ตัวใหญ่กว่า
เด็กนักเรียนกางเกงสีดำอีก 4 คน ทะยอยโผล่ออกมาจากหัวมุมมาสมทบกับมาร์ค........ ทันใดนั้นหนึ่งในสี่คนนั้นก็พูดขึ้นมา
“มึงพูดกับลูกพี่กูดีๆ หน่อยสิโว้ย!!! ลูกพี่กูเป็นถึงประธานชมรมยิมนาสติกเชียวนะเว้ยย...”
เมื่อโยได้ฟังก็เข้าใจทันที....... โยพอรู้มาบ้างว่าโรงเรียนที่มาร์คเรียนนี้ เป็นโรงเรียนที่เด่นเรื่องส่งเสริมให้นักเรียนเล่นกีฬาชนิดต่างๆ และคว้าถ้วยจากการแข่งขันกีฬาเยาวชนมานักต่อนัก มิน่าล่ะ...มาร์คถึงตัวโตขึ้นได้ขนาดนี้ เพราะโค้ชจากชมรมต่างๆ จะมาเล็งนักเรียนไว้ตั้งแต่มาสมัครเข้าเรียน ถ้าเด็กนักเรียนคนไหนมีแวว ก็จะเกณฑ์เข้าชมรมและเริ่มฝึกตั้งแต่ปิดเทอมเลย ซึ่งเป็นที่รู้ว่าการซ้อมนั้นโหดและหนักมาก........
“ยิมนาสติกอะไรวะ......ยิมนาสติกลีลาใหม่ป่าววะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” โยยังคงปากเสียตามเคยโดยไม่รู้เลยสักนิดว่าดวงของตัวเองถึงฆาตแล้ว
โยหัวเราะอยู่คนเดียว ขณะที่อีก 5 คนนั้นไม่ขำเลยสักนิด มาร์คตรงปรี่เข้ามาใช้มือจับข้อมือของโยข้างหนึ่งไว้...
“เฮ้ยมึงจะทำอะไร!! ปล่อยกูนะโว้ยย...” โยพูดขึ้นด้วยความตกใจ พลางใช้มือที่เหลืออีกข้างแกะมือของมาร์คออก แต่ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย เพราะมือของมาร์คแข็งแรงมากราวกับคีมที่หนีบไว้แน่น เป็นเพราะการฝึกกีฬามาอย่างหนักนี่เอง ซึ่งเทียบกับโยที่เป็นนักกีฬาโรงเรียน “ตัวประกอบ” แล้ว ยิ่งห่างชั้นกันลิบลับ
“โอ๊ยย ...กูเจ็บนะโว้ยย..” ยิ่งโยพยายามแกะออกมากเท่าไหร่ มาร์คยิ่งบีบแน่นขึ้นเท่านั้น!
“มาร์ค.....รถมาแล้วว่ะ” เด็กที่ทำน้าที่เหมือนเลียขา เอ้ย! เลขาของมาร์คก่อนหน้านี้พูดขึ้น ทันใดนั้น รถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีดำคันใหญ่ก็เข้ามาจอดเทียบเด็กกลุ่มนี้
“มึงมีเรื่องต้องเคลียร์กับกูก่อนว่ะ!” มาร์คบอกโยพลางเปิดประตูแล้วโยนโยขึ้นรถ.....เด็กที่เหลือขึ้นรถตามพร้อมกับปิดประตูอย่างรวดเร็ว รถบึ่งออกไปทันที โยโดนเพื่อนของมาร์คอีก 2 คนล็อคตัวไว้ไม่ให้หนีได้ ส่วนอาคนขับรถก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น คงเป็นเพราะไม่อยากจะ “แกว่งเท้า หาเสี้ยน” เพราะเขากำลังทำงานให้กับพ่อของมาร์คซึ่งเป็นนายตำรวจใหญ่ของประเทศ ถ้าหากทำอะไรที่นอกเหนือหน้าที่แล้วนอกจากถูกไล่ออก อาจได้ “ของแถม” ตามมาด้วย........ โยหยุดดิ้นแล้วตอนนี้ โยทำใจก้มหน้ารับชะตากรรม โดยไม่รู้เลยว่าตัวเค้ากำลังจะถูกพาไปที่ไหน.....
.....................................................................
“พลั่ก.....” โยถูกผลักเข้ามาในห้องชุดสุดหรูบนชั้น 23 ของคอนโดมิเนี่ยมแห่งหนึ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่ไกลจากโรงเรียนมากนัก ห้องชุดนี้เป็นห้องที่พ่อและแม่ของมาร์คซื้อไว้ให้มาร์คอยู่ เพื่อมาร์คจะได้ไปโรงเรียนได้สะดวก และเผื่อเวลาที่ซ้อมกีฬาดึก จะได้ใช้เวลาเดินทางไม่มากนัก
เด็กชายอีก 4 คน เข้ามาลากโยไปที่เตียงในห้องนอน พร้อมกับจับโยกางแขนกางขาขึงพืด มาร์คเดินตามเข้ามาในห้องนอน สีหน้าของมาร์คนั้นเรียบเฉยมาก เฉยจนหน้ากลัว!
“พวกมึง.....จับมันแก้ผ้า!” มาร์คสั่งพรรคพวกพร้อมกับเดินไปหยิบมือถือสมาร์ทโฟนของตัวเองเพื่อเตรียมถ่ายคลิบวีดีโอ!
พรรคพวกไม่รอช้า ต่างใช้มืออีกข้างหนึ่งของตนที่ว่างอยู่ ช่วยกันแกะกระดุมเสื้อ เข็มขัดและกางเกงสีน้ำเงินของโยออกทันที!
“อย่า...อย่า....มาร์คกูขอโทษ...กูสำนึกผิดแล้ว...” โยพูดขอร้องมาร์ค แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล โยไม่อยากจะนึกเลยว่าถ้าโดนถ่ายคลิบแล้วโดนปล่อยในอินเตอร์เน็ต ผลจะออกมาเป็นอย่างไร พ่อแม่ ครอบครัว เพื่อน เค้าจะสู้หน้าคนเหล่านี้ได้อย่างไร........
“มึงจำได้มั้ย...กูก็เคยขอร้องมึงหยั่งเงี๊ยะ....แล้วมึงหยุดมั้ย?” มาร์คพูดพร้อมเดินเข้ามาสอดมือเข้าไปที่กางเกงนักเรียนสีน้ำเงินที่ถูกปลดซิบเรียบร้อยแล้ว มาร์คดึงกางเกงนักเรียนพร้องกางเกงในของโยลงมากองที่ข้อเท้าทันที! เผยให้เห็นควยของโยที่ตั้งผงาดอยู่เบื้องหน้าของมาร์ค
“โปรดส่งใคร...มารักฉันที....อยู่ตรงนี้มันหนาว...เกินไป......” เสียงโทรศัพท์แบบ mp3 ของโยดังขึ้นในกระเป๋าจาคอบ มาร์ครีบค้นหาโทรศัพท์แล้วกดรับ
“อุงอั๊บอ้วยอ๋มอ้วย!!!” (ลุงครับช่วยผมด้วย!!!) โยรีบตะโกนแต่ไม่ทัน เด็กชายคนหนึ่งมือไว รีบเอามือมาปิดปากโยไว้ซะก่อน
“โยไปเข้าห้องน้ำครับ! ....... คือว่าวันนี้มีทำรายงานด่วนครับ...คงกลับดึก โยฝากบอกให้ลุงกลับก่อนเลยครับ เดี๋ยวโยกลับเอง........ครับ.....สวัสดีครับ” มาร์คกดวางสาย โยรู้ชะตากรรมตัวเองทันทีว่าไม่รอดซะแล้ว.......
มาร์คหันกลับมาถ่ายคลิบต่อ....
มาร์คเลื่อนกล้องเข้ามาใกล้ควยของโย แล้วซูมให้เห็นในมือถือชัดๆ พร้อมกับบรรยายสรรพคุณไปพร้อมกัน
“นี่คือ ”ควย” ของไอ้โยนะครับ เด็กชายวัยรุ่นของโรงเรียนเอกชนชื่อดัง!” โยดิ้นพราด แต่ก็ไม่เกิดผลอะไร มือของเด็กชายคนหนึ่งยังคงปิดปากของโยไว้อย่างต่อเนื่อง!
“ดูซิครับ หัวควยของมันเปิดแล้วด้วย สงสัยมันจะเงี่ยนบ่อย ชักว่าวทุกวันเลยล่ะสิมึง” ตอนนี้รอบวงหัวเราะร่วน โยอายแทบจะแทรกแผ่นดินหนี้แล้วตอนนี้
“เงี่ยนนักนะมึง! .... หมอยยังขึ้นไม่เท่าไหร่ครับท่านผู้ชมแต่น้ำเงี่ยนงี้....เยิ้มเชียว....” มาร์คบรรยายแบบเห็นภาพ พร้อมยื่นมือถือให้นักเรียนคนที่ล็อคขาข้างซ้ายของโยไว้ ทำหน้าที่ถ่ายคลิบต่อ....ส่วนมาร์ค เตรียมตัวเพื่อปฏิบัติหน้าที่พิเศษ!
ตอนนี้มือทั้ง 2 ของมาร์คว่างแล้ว มาร์คยื่นมือขวาไปที่ควยของโยแล้วเริ่มบี้หัวควยของโยที่ตอนนี้แดงก่ำ พร้อมน้ำเงี่ยนชุ่มไปทั้งหัวควยและไหลย้อยลงมาจนถึงโคน
“อึก..........” โยหลับตาปี๋เพราะความเสียวที่หัวควยที่มาร์คกำลังบี้อย่างเมามัน! พลางคิดในใจว่าทำไมตัวเองต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย!
มาร์คเอื้อมมือไปหยิบเจลหล่อลื่น ในขณะที่เด็กนักเรียนที่เหลือใช้ผ้าขนหนูผืนยาวมัดรอบปากของโยไว้แทน คงเป็นเพราะทุกคนอยากตั้งใจดูการแก้แค้นของมาร์คในครั้งนี้
“ขลิก....ขลิก....ขลิก.........” เสียงของเจลหล่อลื่นดังขึ้น หลังจากที่มาร์คใส่เจลไปที่ควยของโยแล้วเริ่มบรรเลงชักขึ้นชักลงสลับกับบี้ที่หัวควยของโย!
“อึก.........อืมมม.......” ความสียวซ่านเกิดขึ้นที่ส่วนกลางแล้วแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของโย ตอนนี้โยเริ่มรู้สึกร้อน เหงื่อของโยเริ่มผุดขึ้นที่ใบหน้า ลำคอ และหน้าอกของโย สำนึกของโยเริ่มลางเลือนแล้ว ตอนนี้โยเริ่มลังเลว่าจะต่อต้านหรือจะปล่อยเลยตามเลยดี!
“ขลิก ขลิก ขลิก.........” ตอนนี้ โยโดนชักมาเกือบ 10 นาทีแล้ว........ควยของโยแข็งมากเริ่มมีเส้นเลือดปูดโปน ความเสียวตอนนี้ใกล้จะถึงจุดสูงสุดแล้ว
“อ้าหหห์.......” โยแอ่นหลังเต็มที่ ตอนนี้โยเห็นสวรรค์รำไรแล้ว......
ทันใดนั้นมาร์คก็ถอนมือออกอย่างรวดเร็ว ทำให้อารมณ์ของโยชะงักลงทันที!
“อืมม...อืมม...อืมม” โยทำเสียงต่อว่ามาร์คพร้อมกับดิ้นพราดๆ แถมยังทรมานจากน้ำที่อัดแน่นอยู่ในควยแต่ไม่ได้ปลดปล่อย
“ว่าไง ไอ้โย มึงยังอยากให้กูชักว่าวให้มึงอยู่มั้ย” มาร์คถาม เด็กชายที่ถ่ายคลิบอยู่ซูมกล้องไปที่หน้าของโย
“อืมมม...” โยพยักหน้า ตอนนี้โยสติกระเจิงหมดแล้ว ขอเพียงใครหรืออะไรก็ได้ที่จะพาโยขึ้นสวรรค์ไปเสียที
“แต่กูมีข้อแม้...” มาร์คพูดพลางเดินไปหยิบที่หนีบผ้า 2 อัน แล้วใช้ที่หนีบผ้า 2 อันนั้น หนีบที่หัวนมของโยไว้
“อื้มมม....” โยร้องขึ้นด้วยความเจ็บ
“มึงยังอยากให้กูชักว่าวให้อยู่มั้ย” โยพยักหน้าตอบทั้งน้ำตา เป็นน้ำตาแห่งความอับอายที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้
มาร์คเริ่มชักว่าวให้โยใหม่ในยกสอง ควยโยกลับมาแข็งอีกในเวลาไม่นานและเริ่มมีเส้นเลือดปูดโปนอีกครั้งหนึ่ง 10 นาทีผ่านไป.....โยใกล้เสร็จอีกครั้งนึงแล้ว เหงื่อของโยผุดออกมาจากทั่วร่างกายไม่ว่าจะเป็นใบหน้า ลำคอ หน้าอก หลัง หรือแม้แต่รักแร้! น้ำเงี่ยนก็ไหลทะลักออกมาเป็นสายไปผสมกับเจลหล่อลื่นที่อยู่ในมือของมาร์คได้เป็นอย่างดี
มาถึงตอนนี้มาร์คก็หยุดมือลงอย่างกระทันหันอีกครั้งหนึ่ง!!!
“อุก........อู้มมมมม...” โยจุกพร้อมทั้งดิ้นพราดอีกครั้ง แต่เด็กชายทั้ง 4 คนก็จับล็อกแขนขาของโยไว้แน่น! โยทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากมองควยที่กำลังบวมเป่งได้ที่ ข้างในอัดแน่นไปด้วยน้ำเงี่ยน.....
“กูมีของแถมให้มึงว่ะไอ้โย” มาร์คพูดพลางหยิบเจลขึ้นมาแล้วบีบลงไปที่นิ้วกลางข้างซ้าย
โยเห็นภาพก็รู้ทันทีว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น! มาร์คลูบเจลไปมาจนทั่วนิ้วกลางแล้วเริ่มสอดเข้าไปที่รูตูดของโยทันที......
โยส่ายหน้าไปมาเพื่อให้มาร์คหยุด แต่ไม่เป็นผลเลย มาร์คยังคงสอดนิ้วเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้โยน้ำตาคลอ ไม่นึกว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง และศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายคงไม่เหลือแล้ว.......
“ฟลุ่บ......” เสียงนิ้วของมาร์คที่สอดเข้าไปได้สำเร็จดังขึ้น มาร์คเริ่มชักควยให้โยต่อ คราวนี้ควยของโยแข็งรออยู่แล้วไม่ต้องเสียเวลาสร้างอารมณ์ใหม่
ตอนนี้สมองของโยไม่รู้ผิดชอบชั่วดีแล้ว ขอแค่น้ำแตกเท่านั้น ขอเท่านั้นจริงๆ
“ขลิกๆๆๆๆ” ตอนนี้มาร์คเร่งมือสุดๆ นิ้วกลางของมาร์คยังคงค้างอยู่ในรูตูดของโย ตูดของโยก็ตอดรับกับนิ้วกลางของมาร์คที่เลื่อนเข้าออกอย่างช้าๆ โยรู้ว่าตัวเองใกล้น้ำแตกเต็มทีแล้ว
“ฮื่อ ฮื่อ ฮื่อ..........” เสียงสูดลมหายใจของโยดังต่อเนื่องราวกับม้าหนุ่มกลัดมัน เหงื่อไหลโชกชุ่มเป็นสายไปทั่วร่างกายที่แข็งเกร็งของโยแล้วตอนนี้! มาร์คกลับหยุดมือลงอีก! แต่คราวนี้ยังคงกำแน่นนิ่งรอบควยของโย โยรู้หน้าที่ของตัวเองโดยทันที โยรีบกระเด้าเอวขึ้นลงขึ้นลง ทำยังไงก็ได้ให้ควยของตัวเองได้เสียดสีกับมือของมาร์คให้มากที่สุด
“อ่ะ....อ๊าหหหหห์.........ปึ๊ด.... ปึ๊ด... ปิ๊ด...” โยกระเด้าเอวจนน้ำแตกได้ในที่สุด น้ำพุ่งออกมาจากควยของโยสูงมากทีเดียวพอๆ กับหัวของพวกนักเรียนที่จับโยไว้
“เอ้อว....เอ้อว....เอ้อว.....” เด็กชายทั้ง 4 คน รวมถึงมาร์คร้องเชียร์ทุกครั้งที่โยเกร็งควยพุ่งน้ำออกมา จนหมดควยในที่สุด แน่นอนว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นถูกบันทึกไว้ในมือถือเรียบร้อยแล้ว.......
มาร์คเอื้อมาดึงไม้หนีบผ้าออกจากหัวนมทั้ง 2 ข้างของโย แล้วใช้นิ้วคลึงที่หัวนมทำให้โยร้องโหยหวนด้วยความเจ็บ จนเมื่อมาร์คพอใจแล้วก็หยุดมือลง เป็นอันเสร็จพิธี ตอนนี้โยนอนแผ่หราอยู่บนเตียงแบบไม่เหลือเรี่ยวแรงอีกต่อไป
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า.....” เสียงหัวเราะของเด็กชายทั้ง 5 คน ยังคงดังก้องอยู่ในหัวของโยจนสลบไป..................
...................................................................................
“อ่ออออดดดด.....” เสียงสัญญาณในคาบเรียนสุดท้ายดังขึ้น เป็นสัญญาณบ่งบอกให้นักเรียนทุกคนกลับบ้านได้ โยเก็บหนังสือลงกระเป๋าอย่างใจลอย แทบไม่ได้ฟังการสอนเลยตลอดทั้งวันเพราะมัวแต่คิดถึงเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับตัวเอง
“โยเมิงเป็นไรวะ.....กูเห็นเมิงนั่งใจลอยทั้งวัน” เม้งถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรว่ะเม้ง ขอบใจเมิงมากนะ” โยตอบเสียงอ่อยๆ
....วันนี้ไอ้โยมาแปลกแฮะ..... ต่อคิดในใจ .....ปกติมันจะต้องทำตัวร่าเริงตลอดเวลา....
“เฮ้ยพวกมึง! วันเสาร์นี้ไปเล่นวินนิ่งบ้านกูป่าววะ....” เจมส์ถามเพื่อนๆ เพราะเป็นกิจกรรมที่กลุ่มนี้ชอบทำในวันหยุดสุดสัปดาห์
“กูขอตัวว่ะ เอ่อ...จิงๆกูยังไม่ได้บอกพวกมึงเลยว่า ตั้งแต่อาทิตย์นี้ไปกูต้องเรียนพิเศษทุกวันศุกร์กับวันเสาร์ว่ะ” ต่ออธิบาย
“ไรวะ คุณชายต่อ....จะขยันไปไหนค้าบบบ” เจมส์พูดขึ้น
“เออ กูก็ไม่อยากเรียนหรอก แต่แม่กูบังคับ” ต่ออธิบาย
“แล้วมึงเรียนวิชาไรวะ...” โยถามขึ้นมาแบบมีสติเป็นครั้งแรกของวันนี้! ทุกคนยังคงตะลึง
“ก็ คณิต...วิทย์...แล้วก็ว่ายน้ำว่ะ” ต่อตอบ
“โหย.....งั้นมึงก็ต้องใส่กางเกงว่ายน้ำแบบเซ็กซี่ๆ ป่าววะ” เม้งพูดขึ้นพร้อมทำท่าล้อเลียน
“เดี๋ยวกูเจรจากับคุณศรีให้เอาป่าว...” เจมส์ถือโอกาสล้อชื่อแม่ของต่อ
ต่อตบหัวเจมส์ทีนึงพร้อมกับเดินถือกระเป๋ากอดคอเจมส์ออกจากห้องไป ตามด้วยเม้ง โยยังคงยืนนิ่ง
.....รูปไอ้ต่อเปลือย......
....เรียนว่ายน้ำ....... โยนึกแผนออกทันที! แต่โยก็รู้สึกผิดอยู่ดี ต่อเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกันที่เห็นหน้ากันมาตั้งแต่ตอนเรียนชั้นอนุบาล
......จะให้กูขายเพื่อนได้ไงวะ........
“ไอ้โย......ไปยัง????” เม้งตะโกนเรียกโยมาจากหน้าห้อง
“เออๆ ไปเด๋ยวนี้แหละ...”
.....................................................................................
จบตอน
Kink Team เขียน
.

Season One1 : Episode 6: Guilt!
Kinky Opera
>>Season One1<<
....ความดำมืดในใจก่อกำเนิด จิตเตลิดเกินห้ามปราบปรามไหว
ก่อกำหนัดพลาดพลั้งไปเมื่อใด ความจัญไรอาจย้อนจรสู่ตัว....
Episode 6: Guilt!
เช้าของวันศุกร์ที่สดใส แสงแดดยามเช้าที่สาดส่องลงมายังมหานคร รถบนถนนสาธรและถนนสีลมยังคงติดไม่เปลี่ยนแปลง นักเรียนของโรงเรียนบริเวณดังกล่าว ต่างเร่งรีบเดินให้ถึงจุดหมายปลายทางเร็วๆ มิฉะนั้นอาจจะโดนทำโทษเพราะมาสายได้
ต่อก็เป็นหนึ่งในนั้น วันนี้เป็นอีก 1 วันที่รถติดมหาศาล จนต่อต้องขอลงรถที่หน้าปากซอยแล้วเดินเข้ามาเอง ต่อเดินเข้ามาถึงโรงเรียนเวลา 7.45 น. พอดี ยังคงมีเวลาที่จะได้คุยกับเพื่อนๆ ที่โต๊ะประจำใต้ตึกเรียน
“ไอ้ต่อ...”
เจมส์ยกมือทัก โยและเม้งหันหลังกลับมาทักต่อบ้าง ต่อเดินมาถึงโต๊ะก็เข้าไปนั่งข้างเจมส์ทันที
“ไงวะโย ได้ป่ะ?” ต่อรีบถามโยทันที
“ได้ไรวะ?” เม้งถามขึ้น
“ก็เมื่อคืนกูโทรไปขอให้ไอ้โยมันเอาชุดว่ายน้ำมาให้หน่อย....” ต่อตอบ
“โหย....เดี๋ยวนี้มีโทรหากันด้วยเว้ย!” เจมส์แซวขำๆ
“ก็เพื่อนกูเป็นถึงลูกเจ้าของธุรกิจนำเข้าอุปกรณ์กีฬา ก็ต้องขอใช้บริการหน่อยเว้ยย...” ต่อแซวโย แต่โยก็ยังคงทำหน้าซีเรียสต่อไป
“เอ้อ...กูเอามาให้มึงเลือก 2 ยี่ห้อว่ะ Speedo กับ Arena มึงชอบอันไหนวะ?”
“หรือมึงจะเอาไป 2 ตัวเลยก็ได้ เอาไปเผื่อครูสอนพิเศษมึงอ่ะ” โยพูดแบบเป็นจริงเป็นจัง
“เออ....งั้นกูเอาตัวนี้แล้วกันว่ะ”
ต่อเลือกกางเกงว่ายน้ำแบบบีกีนี่สีน้ำเงินสดของ Speedo พร้อมกับแว่นตาว่ายน้ำสีน้ำเงินเข้าชุด แล้วเก็บลงกระเป๋านักเรียน
“เท่าไหร่วะโย แม่กูฝากมาให้....” ต่อพูดพลางหยิบเงินจากกระเป๋าสตางค์
“ไม่เป็นไรว่ะ ป๊ากูบอกให้มึงเลย เป็นของขวัญ แถมหันมาด่ากูอีก ว่าให้ขยันอย่างมึงมั่ง” โยบอกต่อ
“เออ....งั้นก็ขอบใจมึงแล้วก็ฝากขอบคุณป๊ามึงด้วยละกัน.....แล้วมึงว่ากูใส่ตัวนี้แล้วมันจะเซ็กซี่มั้ยวะ?”
ต่อถามโยแบบเปิดโอกาสให้โยได้ปล่อยมุขอุบาทว์ๆ ของมัน ประมาณว่า “เมิงก็แก้ผ้าแล้วใส่ให้กูดูซิวะ” เพื่อหวังจะเรียกความร่าเริงของโยคืนมา เจมส์กับเม้งมองหน้าโย เพราะคาดหวังคำตอบแบบที่ต่อคิดเหมือนกัน
“มันก็ไม่ได้โป๊เกินไปว่ะ แล้วมันยังมี fast skin ด้วยนะเว้ย มันจะช่วยให้ว่ายได้เร็วขึ้น....” โยตอบ
ต่อ เม้ง และเจมส์มองหน้ากันแบบผิดคาดกับคำตอบ “สาระล้วนๆ” ต่อจึงตัดสินใจถามโย
“โย.....ถ้าเมิงมีปัญหาอะไรอย่าเก็บไว้คนเดียวนะเว้ย กู ไอ้เม้ง ไอ้เจมส์ พร้อมช่วยมึงเสมอ หลายหัวดีกว่าหัวเดียวนะเว่ย!”
โยได้แต่ยิ้มแห้งๆ โยรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่รู้จะหาทางออกสำหรับเรื่องนี้ได้อย่างไร
“อ่อดดดดด.....” เสียงสัญญาณเตือนให้นักเรียนไปเข้าแถวเคารพธงชาติ ทั้งกลุ่มจึงลุกขึ้น หยิบกระเป๋า และเดินไปสมทบกับเพื่อนๆ ห้อง ม. 1/1
...........................................................................
เวลาเรียนผ่านไปอย่างรวดเร็วจนมาถึงคาบสุดท้าย หลังจากเวลาหมดลง นักเรียนทั้งหลายก็เก็บกระเป๋าเตรียมตัวเพื่อกลับบ้าน และมีความสุขกับวันหยุดสุดสัปดาห์
“ต่อ! เมิงกลับไงวะ?” โยถามขึ้นมา
“เดี๋ยวคนรถที่บ้านกูมารับว่ะ” ต่อตอบโย
“แล้วพรุ่งนี้เมิงเรียนว่ายน้ำกี่โมงอ่ะ” โยถามต่อ
“ก็.....บ่ายโมงถึงบ่ายสามว่ะ ดีนะสระในหมู่บ้านกูเป็นสระในร่ม ไม่งั้นกูดำแน่เลยว่ะ” ต่ออธิบาย
“เออๆ โชคดีว่ะ เรียนเป็นไงแล้วเล่าให้กูฟังด้วยนะเว่ย” โยบอกต่อ แล้วต่างคนต่างก็แยกย้ายกันกลับบ้านของตัวเอง
.....................................................................
เอกเดินมาถึงทางเข้าหมู่บ้านก็เกือบ 5 โมงเย็นพอดี เอกแลกบัตรกับรปภ.หน้าหมู่บ้าน แต่คราวนี้รปภ. คนที่เคยมองดูถูกเอก กลับต้อนรับดีเกินคาด
“เชิญครับ อาจารย์” เอกงงเล็กน้อย แต่ก็ยิ้มให้รปภ. คนนั้น เอกสงสัยว่าพี่ศรีจะกำชับรปภ. ไว้แล้วว่าจะมี “อาจารย์” มาสอนที่บ้าน
“ติ้ง...หน่อง.....”
เสียงกดออดดังขึ้น ตามมาด้วยพี่หมิง สาวใช้พม่ามาเปิดประตูบ้านให้
“หวะดีค่า คูเอ่ วานี้คูศีมะอยู่บ้านะคะ ห้าคูเอสอน้อต่อด้ะเลอค่า” (หวัดดีค่ะครูเอก วันนี้คุณศรีไม่อยู่บ้านนะคะ ให้ครูเอกสอนน้องต่อได้เลยค่ะ)
เอกใช้สมองประมวลผลอยู่ซักครู่จึงเข้าใจสิ่งที่พี่หมิงต้องการสื่อสาร
“แล้วจะให้สอนที่ไหนดีครับ?” เอกถามพี่หมิง
“ข้าโบเลอค่า เด๋พี่พาปาย” (ข้างบนเลยค่ะ เดี๋ยวพี่พาไป)
“ก๊อกๆ”
เมื่อขึ้นไปถึงชั้นสามเอกเคาะประตูแล้วจึงเปิดเข้าไปในห้องนอนของต่อ ห้องนอนของต่อกว้างมาก เกินอาณาบริเวณเกือบทั้งหมดของชั้นสาม มีเตียงขนาดใหญ่ ห้องน้ำในตัว รวมถึงตู้เสื้อผ้าแบบวอล์ค-อิน
บริเวณถัดจากเตียงมาเป็นพื้นที่โล่ง มีคอมพิวเตอร์รุ่นยอดนิยม และ สเตอริโอสำหรับต่อกับไอโฟน พี่หมิงได้จัดเตรียมโต๊ะขนาดใหญ่ พร้อมเก้าอี้ 2 ตัวไว้ให้สำหรับเรียนพิเศษ
เจ้าตัวดียังคงนอนขาไขว่ห้างอยู่บนเตียง เสียบหูฟังเพลงจากไอโฟนคู่ใจ โดยไม่สังเกตเลยสักนิดว่าเอกได้เข้ามาถึงในห้องแล้ว เมื่อละสายตาจากการเลือกเพลงจากไอโฟน ต่อก็เห็นเอกยืนอยู่ข้างเตียงแล้ว ต่อจึงเด้งขึ้นมาอยู่ในท่านั่งทันที พลางถอดหูฟังออก
“ทำไมพี่ไม่เคาะประตูก่อน!” ต่อบอกเสียงกึ่งตวาด
“พี่เคาะแล้วครับ แต่น้องต่อฟังเพลงอยู่ คงไม่ได้ยิน....แล้วก็พี่ชื่อเอกครับ!” เอกบอกด้วยความใจเย็น
ต่อทำหน้าบอกบุญไม่รับ แต่ก็ลุกขึ้นไปนั่งเก้าอี้แต่โดยดี บนโต๊ะมีหนังสือเรียนของต่อเตรียมไว้อยู่แล้ว
เอกเดินตามต่อไปนั่งที่โต๊ะ พลางคิดในใจว่า แค่จะเริ่มเรียน บรรยากาศก็อึดอัดแล้ว ไม่รู้ว่าในระว่างที่สอนเจ้าตัวดีจะแผลงฤทธิ์อะไรอีก
ต่อมองหน้าเอกแล้วคิดในใจ
.......ไอ้มนุษย์กล้าม...อย่าคิดนะเว้ยว่ากูจะลืมเรื่องที่มึงขโมยจูบกูคราวที่แล้วอ่ะ.......
“ตอนนี้น้องต่อเรียนคณิตถึงเรื่องอะไรแล้วครับ?” เอกถาม
“สมการ.....” ต่อตอบห้วนๆ แล้วเปิดหนังสือให้เอกดู
เอกดูเนื้อหาตามหนังสือก็เข้าใจได้ทันที เป็นเรื่องที่ง่ายมากสำหรับคนที่จบวิศวะฯ อย่างเอก เอกจึงเริ่มสอนตามเนื้อหา พร้อมกับแจกเอกสารสรุป+โจทย์ที่เอกเตรียมมาเป็นเรื่องนี้พอดี
ต่อฟังเอกสอนเนื้อหาไปเรื่อยๆ....เรื่อยๆ....เรื่อยๆ...จนได้กลิ่นของน้ำหอมแบบชายของเอกลอยมาแตะจมูก
......หอมดีจัง.......น้ำหอมของอะไรนะ........
ต่อคิดในใจพลางมองไปที่แขนอันกำยำของเอกที่กำลังเขียนสมการเพื่ออธิบาย
......ผิวคล้ำ....แต่เนียนดี.....เห็นเส้นเลือดชัดเจน.....จะใช้แขนนี้ทำอะไรมาบ้างนะ......... / ต่อเริ่มจะคิดอกุศล
“ต่อครับ!......ต่อครับ!....” ต่อตื่นจากภวังค์เมื่อเสียงของเอกเข้ามาในหัว
“เอ่อ.....ครับ”
“พี่ถามว่า X จะเท่ากับเท่าไหร่ครับ?” เอกถามย้ำ
“เอ่อ....ผมตามไม่ค่อยทันอ่ะ” ต่อตอบแบบเนียนๆ เป็นเวลาพอดีกับที่พี่หมิงยกของว่างกับเครื่องดื่มเข้ามาให้เอกพอดี
“น้อต่อต้าจายเลียมะคะคูเอ่” (น้องต่อตั้งใจเรียนมั้ยคะครูเอก) พี่หมิงถามพลางยกแก้วน้ำวาง
ยังไม่ทันที่เอกจะตอบ ต่อก็สวนขึ้นทันควัน!
“พี่หมิงไม่ต้องมายุ่งเลย คนใช้ก็อยู่ส่วนคนใช้!”
“พี่ลู้แล้....พี่แค่อย่าห้าน้อต่อต้าใจเลีย” (พี่รู้แล้ว...พี่แค่อยากให้น้องต่อตั้งใจเรียน)
“แคร้งง...”
เสียงแก้วน้ำหก ต่อไม่พอใจพี่หมิงจึงไปปัดแก้วน้ำ ทำให้น้ำหกไปโดนเสื้อของพี่หมิงเข้าอย่างจัง น้ำอีกส่วนหนึ่งเจิ่งนองอยู่บนโต๊ะจนเอกเกือบเก็บหนังสือขึ้นไม่ทัน
พี่หมิงได้แต่ส่ายหน้า แล้วก็หาผ้ามาเช็ด เอกยังคงอึ้งกับพฤติกรรมของต่อ แต่พี่หมิงหาผ้ามาเช็ดด้วยอารมณ์เฉยมาก เอกคิดว่าพี่หมิงคงเจอแบบนี้เสียจนชินแล้ว หลังจากพี่หมิงออกไปจากห้อง เอกก็เริ่มทันที
“ทำไมน้องต่อทำแบบนี้ครับ!” เอกเริ่มขึ้นเสียง
“ก็พี่หมิงเป็นคนใช้แท้ๆ ทำเป็นมาสั่งสอน!” ต่อตอบลอยหน้าลอยตา
เอกไม่รอช้า คว้าข้อมือของต่อลากมาที่เตียง ต่อตกใจมากแล้วใช้มือที่เหลือแกะมือของเอกออกเหมือนปฏิกิริยาอัตโนมัติ แต่ไม่เป็นผลเลย
เมื่อถึงเตียงเอกนั่งลงแล้วใช้ความแข็งแรงของตน ยกต่อขึ้นมานอนคว่ำอยู่ตรงหน้าตักของตน แล้วใช้ฝ่ามือตีลงไปที่ก้นทันที!
“ป้าบ! ป้าบ!” เอกลงมือตีแรงเหมือนกัน
“โอ๊ยย พี่ตีผมทำไม!” ต่อร้องเสียงหลง
“ป้าบ ป้าบ ป้าบ!” เอกยังคงตีต่อไป เกิดมาพ่อกับแม่ยังไม่เคยตีต่อแรงขนาดนี้เลย ที่เอกตีนี้มันเจ็บมาก ทั้งเจ็บ ทั้งอาย และตอนนี้ต่อเริ่มน้ำตาคลอแล้ว
เอกหยุดตีแล้วดึงต่อขึ้นมานั่งข้างๆ น้ำตาของต่อไหลอาบแก้มทั้ง 2 ข้าง
“ต่อถามว่าพี่ตีทำไม แล้วต่อเคยถามตัวเองมั้ยว่าทำก้าวร้าวกับพี่หมิงทำไม” เอกถามน้ำเสียงจริงจัง
“...............” ต่อไม่ตอบแถมเบือนหน้าหนี
“พี่สอนวิชาการน้องต่อได้ แต่พี่ก็อยากจะสอนให้น้องต่อเป็นคนดีด้วย รู้มั้ยว่าพี่หมิงเขาอาวุโสกว่า เราเป็นเด็กเราก็ต้องเคารพสิครับ” เอกอธิบาย
“................” ต่อยังคงเงียบ ตอนนี้ต่อหยุดร้องไห้แล้ว
“แล้วอีกอย่าง....ถึงพี่หมิงเค้าเป็นคนรับใช้ก็จริง แต่ก็เป็นอาชีพสุจริตใช่มั้ยครับ แล้วไหนยังช่วยเลี้ยงดูน้องต่อมาตั้งแต่ยังเล็กอีกล่ะครับ น้องต่อทำแบบนี้ไม่สงสารพี่หมิงบ้างเหรอครับ”
ต่อพอรู้ประวัติของพี่หมิงมาบ้าง
“พี่พูดให้น้องต่อคิดแค่นี้ล่ะนะครับ เดี๋ยวเราไปเรียนกันต่อแล้วพอเลิกพี่แนะนำให้น้องต่อไปขอโทษพี่หมิงซะนะครับ”
ต่อยังคงเงียบ แต่ก็เดินตามเอกไปที่โต๊ะแล้วเรียนคณิตศาสตร์ต่อไปจนหมดชั่วโมง.......
พี่หมิงเดินมาส่งเอกที่หน้าบ้าน เอกลาพี่หมิงเสร็จก็เดินออกไปทางหน้าหมู่บ้าน เพื่อขึ้นแทกซี่ ระว่างที่นั่งอยู่บนแทกซี่เอกก็คิดย้อนไปถึงตอนที่กำลังตีน้องต่ออยู่ เอกรู้สึกว่าเหมือนมีอะไรแข็งๆ มาดุนอยู่ที่ต้นขา แต่ก็บอกตัวเองว่าคงคิดไปเอง.............
พี่หมิงกลับเข้ามาในครัวเตรียมยกข้าวเย็นไปให้ต่อที่ห้องอาหาร ต่อเดินเข้ามาในครัวเบาๆ พี่หมิงหันมาเจอก็ตกใจ
“น้อต่อหีวและเหลอคะ เดี๋ยพี่โยะเอาะปายห้าเดี๋ยนี้แหละ” (น้องต่อหิวแล้วเหรอคะ เดี๋ยวพี่ยกออกไปให้เดี๋ยวนี้แหละ)
“พี่หมิง.......ต่อขอโทษ......ต่อไปต่อจะทำตัวดีๆ.....” พูดเสร็จต่อก็วิ่งออกจากครัวไปทันทีโดยไม่รอฟังพี่หมิง พี่หมิงอมยิ้มแล้วส่ายหน้าแบบเอ็นดู
“คูเอ่เปเทวดามาโปะจีงๆ” (ครูเอกเป็นเทวดามาโปรดจริงๆ)
...............................................................
วันต่อมาเป็นวันเสาร์ที่ต่อและเอกจะต้องมาเจอกันอีกครั้ง ในช่วงเช้า เอกสอนวิชาวิทยาศาสตร์ ซึ่งเกือบจะไปไม่รอดทั้งครูทั้งลูกศิษย์ เพราะง่วงด้วยกันทั้งคู่ ดีว่าได้กาแฟสดฝีมือพี่หมิงเข้ามาช่วยไว้
หลังจากทานข้าวเที่ยงฝีมือพี่หมิงเสร็จ ก็ถึงเวลาสอนว่ายน้ำ พี่หมิงกำชับต่อให้เอาชุดว่ายน้ำกับผ้าเช็ดตัวของเอกกลับมาด้วย เพราะพี่หมิงจะซักไว้ให้ จะได้ไม่ต้องถือไปถือมา เอกเกรงใจพี่หมิงมากๆ แต่พี่หมิงก็คะยั้นคะยอจนเอกใจอ่อน
......มาไม่เท่าไหร่ก็เป็นคนโปรดเลยนะ.......

ต่อคิดในใจ ในขณะที่เดินมากับเอก
สระว่ายน้ำของหมู่บ้านอยู่ที่สโมสรหน้าหมู่บ้าน เป็นสระขนาดใหญ่อยู่ในร่ม และไม่มีคนมาว่ายน้ำเลย จะมีก็ตอนช่วง 5 โมงเย็นเป็นต้นไป ซึ่งเหมาะกับการสอนว่ายน้ำเลยทีเดียว.....
ต่อกับเอกเดินเข้าไปในห้องน้ำชายที่ใหญ่ โอ่โถง นอกจากมีห้องน้ำย่อยๆ แล้วยังมีห้องอาบน้ำ ล็อคเกอร์ อ่างล้างหน้า กระจกบานใหญ่ที่มีต้นไม้ตกแต่ง รวมถึงเก้าอี้ยาวให้นั่งพักอีกด้วย เอกเห็นแล้วก็ทึ่งในความหรูหราสมชื่อกับที่ลงโฆษณาทางทีวีจริงๆ
เอกกับต่อเดินไปที่เก้าอี้ยาวหน้ากระจกบานใหญ่ วางสัมภาระลงแล้วเอกก็เริ่มลงมือเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที ต่อยังคงหันหลังให้เอกด้วยความอาย เพราะยังไม่คุ้นเคย
......โถ่เว้ย!....ทำไมต้องมาโด่ตอนนี้ด้วยวะ!......
ต่อคิดในใจพอนึกว่าจะเห็นเอกในชุดว่ายน้ำ
ต่อเหลือบมองเอกผ่านกระจกบานใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า เห็นเอกกำลังถอดกางเกงออก เผยให้เห็นกางเกงว่ายน้ำแบบบีกินี่เหมือนของต่อ แต่เป็นสีดำ ต่อสังเกตต่อไปถึงกล้ามแขน กล้ามท้อง กล้ามขา รวมถึงแผ่นหลังอันแข็งแกร่งรูปตัว V ของเอก
ต่อรวบรวมสมาธิแล้วรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เสร็จ เป็นเวลาเดียวกับที่เอกเดินเข้ามาหาต่อ
“เสร็จยังครับ น้องต่อ” เอกถาม
ตอนนี้ต่อเห็นรูปร่างของเอกแบบชัดเจนอีกครั้งแบบเต็มตา เอกเป็นคนที่มีกล้ามแบบสมส่วนจากการเล่นกีฬามาอย่างหนัก ต่อไล่สายตาตัวเองลงมาเรื่อยๆ กล้ามอกที่แข็งแกร่ง กล้ามท้องซิกซ์แพ็ค รวมถึงไรขนอ่อนๆ ส่วนล่างที่ลามขึ้นมาจนถึงสะดือ ผิวที่คล้ำแต่เนียน ยกเว้นตามรอยขอบบิกีนีซึ่งเผยให้เห็นผิวแท้จริงที่ขาว แสดงว่าผิวที่คล้ำเกิดจากการว่ายน้ำกลางแจ้งมาเป็นเวลานาน ต่อมองลงไปที่ขาของเอก กล้ามที่ขาอ่อนและน่องดูแข็งแรงไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป แถมยังมีขนที่ขาขึ้นปกคลุมอย่างดกดำ
“จะเลิกมองพี่ได้รึยังครับ” เอกแซวเมื่อเห็นต่อมองแบบพินิจพิเคราะห์ราวกับเจอสิ่งแปลกประหลาด
“เอ่อ... งั้นก็ไปที่สระกันเถอะครับ” ต่อไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆ พลางเดินนำหน้าเอกออกไปที่สระโดยไม่สนใจเอกเลยสักนิด เอกได้แต่หัวเราะเบาๆ
“เดี๋ยวเราจะมาวอร์มอัพกันก่อนนะครับ......พี่อยากให้น้องต่อสบายๆ นะไม่ต้องเครียด ถือว่ามาว่ายน้ำเพื่อผ่อนคลาย” เอกอธิบายและสอนท่าวอร์มให้ต่อไปด้วยในตัว
.......ก็แหงสิ! เมิงว่ายน้ำเป็นแล้วนิ......กูเครียดจะตายอยู่แล้ว! เครียดยื่งกว่าตอนสอบมิดเทอมอีก....... ต่อคิดในใจ
ระหว่างที่วอร์ม ต่อสังเกตเห็นกล้ามแขนและแผ่นหลังอันทรงพลังของเอก และขนรักแร้ของเอกที่ดกดำ
“ต่อครับ! ต่อใจลอยอีกแล้วนะ!” เอกดุต่อเมื่อเห็นต่อไม่ตั้งใจฟัง
“ก็ตั้งใจฟังอยู่ ทำมะ” ต่อโพล่งออกไปเพราะกลัวว่าเอกจะจับได้ว่าตนแอบมองอยู่
“น้องต่อจะเรียนมั้ยครับ ถ้าจะเรียนก็ต้องตั้งใจฟังพี่ เพราะ.....” เอกกำลังจะอธิบาย ต่อก็สวนขึ้นมาทันควัน!
“ไม่เรียนโว้ยยย...” ต่อตะโกนพร้อมทั้งตั้งใจถีบไปที่กล่องดวงใจของเอก เพื่อเอาคืนที่มาตีตัวเองเมื่อวานนี้ด้วย แต่เนื่องจากขนาดตัวที่ต่างกันทำให้ลูกถีบของต่อพลาดไปโดนที่ขาอ่อนเท่านั้น ต่อเตรียมชิ่งหนีทันทีเมื่อรู้ว่าแผนของตนไม่สำเร็จ
แต่เอกไวกว่าคว้ามือของต่อไว้ได้แล้วล็อคตัวไว้ ต่อยังคงดิ้นอยู่.....
“จะเลิกดื้อได้หรือยัง!!!” เอกเอ็ดขึ้นมา
หลังจากนั้นจึงยกต่อขึ้นแล้วโยนลงสระทันที!
“ตูมมมม.....”
เสียงน้ำกระเซ็นไปทั่วทุกทิศทาง ต่อจมอยู่ในน้ำแต่ก็รู้จักกลั้นหายใจโดยอัตโนมัติ ต่อพยายามลืมตาในน้ำก็เห็นแค่ฟองที่ผุดขึ้นมาจากใต้น้ำ และมองเห็นอะไรบางอย่างกระโจนลงมาในน้ำเหมือนกัน
สิ่งนั้นใกล้เข้ามา.....พี่เอกนั่นเอง! เอกยื่นหน้าเข้ามาหาต่อที่กำลังกวักน้ำอยู่อย่างสาละวน แล้วประกบปากลงไปที่ปากของต่อทันที
“อุบบบ...”
......อีกแล้ว!....กูโดนอีกแล้วว!......
ต่อนึกในใจ ตอนนี้ต่อเริ่มหายใจไม่ออก จึงได้รู้ว่ากำลังจะขาดอากาศ อากาศที่อยู่รอบตัวเราเสมอ แต่เราไม่เคยคิดว่ามีมันอยู่ จนเมื่อเราขาดมันนี่แหละ!
เอกพยุงต่อขึ้นมาให้พ้นน้ำ ต่อยังคงดิ้นพล่าน
“ฮ่าห์ ฮ่าห์......” ต่อสูดอากาศเข้าไปในปอดเต็มเหนี่ยว มือก็กวักน้ำแบบไม่เป็นท่า พลางร้องตะโกน
“ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!” ต่อร้องด้วยความตกใจแบบคุมสติไม่อยู่
“ต่อ! ฟังพี่! ต่อ! นี่น้ำตื้น!” เสียงของเอกเข้าไปในหูของต่อ ต่อเลิกเอามือกวักน้ำแล้วเอาเท้าเหยียบเจอพื้นสระ แถมน้ำก็ยังตื้นแค่เอว ทำให้ต่อหน้าแตกยับเยิน
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เป็นไงบ้าง! ข้อแรกนะ....เราต้องตั้งสตินะ อันนี้สำคัญมาก” ต่อมองเอกหัวเราะแล้วก็รู้สึกบอกไม่ถูก มัน...น่ารัก....ดูอบอุ่น แต่ต่อก็ยังทำสีหน้าไม่พอใจ
“งั้น....ถือว่าหายกันนะกับที่ถีบพี่เมื่อกี้นี้”
......หนอย ฉลาดนักนะ แล้วที่จูบกูเมื่อกี้นี้ล่ะ.....
“เอ่อ พี่เป็น.....” ต่อถามแบบลังเล ต่อตั้งใจจะถามว่าเอกเป็นเกย์หรือเปล่า
.......เอาแล้วสิ! สงสัยเราทำเกินไปหน่อยแล้วมั้ง........
เอกคิดในใจ เป็นใครก็ต้องสงสัยทั้งนั้นแหละ!
“เอาเป็นว่าถ้าน้องต่อยังดื้อพี่ก็จะทำแบบนี้แหละ! ถ้าไม่อยากให้พี่ทำก็ตั้งใจเรียนซะ” เอกรีบตัดบท
ต่อพยักหน้า......
“งั้น เราเริ่มตั้งแต่หัดตีขาเลยนะ” เอกบอก
“อะไรนะ! พี่จะตีอะไรผมอีกล่ะ” ต่อรีบท้วงทันที
“ไม่ใช่ๆ พี่หมายความว่าให้เราหัดเอาขาเราอ่ะ ถีบน้ำ...” เอกอธิบายพร้อมกับหัวเราะในความไร้เดียงสา
“อ่อ....ครับ” ต่อเข้าใจแล้วตอนนี้
“เอ้า!...เอามือเกาะที่ขอบสระเลยครับ”
เอกเริ่มสอนต่อโดยใช้มือพยุงตัวของต่อให้อยู่ในแนวระนาบ ต่อใช้มือเกาะที่ขอบสระ แล้วเริ่มยกขาขึ้นลงตีน้ำไปเรื่อยๆ อย่างสบายใจ ปัญหามีอยู่อย่างเดียวคือ ตรงส่วนกลางของลำตัวที่ยังโด่อยู่ตลอดตั้งแต่ที่เอกจูบเมื่อกี้นี้...........
.....................................................................................
จบตอน
Kink Team เขียน


Season One1 : Episode 7: Scheme!
Kinky Opera
>>Season One1<<
....ความดำมืดในใจก่อกำเนิด จิตเตลิดเกินห้ามปราบปรามไหว
ก่อกำหนัดพลาดพลั้งไปเมื่อใด ความจัญไรอาจย้อนจรสู่ตัว....
Episode 7: Scheme!
ช่วงบ่ายวันเสาร์ วันเดียวกันนั้น...
“เอี๊ยดดดด...”
เสียงเบรคของรถแทกซี่ดังขึ้นที่หน้าหมู่บ้านสุดหรูใจกลางเมือง หมู่บ้านของต่อนั่นเอง
“นี่ครับ....ไม่ต้องทอน” แทกซี่รับเงินจากเด็กชายอย่างดีอกดีใจ
โยก้าวลงมาจากรถแทกซี่ด้วยใจตุ้มๆ ต่อมๆ หวังว่าจะปฏิบัติภาระกิจให้ลุล่วงไปได้อย่างราบรื่น
“อ้าว.....ว่าไงครับคุณหนูโย วันนี้มาหาคุณต่อเหรอครับ” รปภ.หน้าหมู่บ้านทักขึ้นมา พร้อมกับทำท่าตะเบ๊ะด้วยความคุ้นเคย
“ครับ....พี่” โยยิ้มให้ แล้วรีบเดินตรงเข้าไปที่คลับเฮาส์ทันที...........
....................................................................
“แฮ่ก......แฮ่ก......แฮ่ก......”
ต่อหอบอย่างรุนแรงเพราะฝึกลอยตัวและตีขาในน้ำโดยใช้แผ่นโฟมช่วยพยุงตัว โดยเอกให้ต่อฝึกอยู่นานเกือบ 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว
“บ่ายสองห้าสิบห้า งั้นวันนี้พอแค่นี้ก่อนละกันครับ”
เอกบอกขณะที่นาฬิกาบนฝาผนังบอกเวลาว่าใกล้บ่ายสามโมงแล้ว
“พี่ขอเตือนไว้ก่อนนะครับว่าวันนี้น้องต่ออาจจะปวดตามกล้ามเนื้ออย่างมาก แต่พี่อยากให้วันพรุ่งนี้เนี่ย ให้น้องต่อมาออกกำลังตามปกติ กล้ามเนื้อจะได้ชิน แล้วมันจะหายเจ็บเร็วขึ้น หรือที่เค้าเรียกว่าต้องมา “ซ้ำ” อ่ะครับ”
เอกอธิบาย ส่วนต่อก็พยักหน้าเข้าใจ
“ป่ะ งั้นเราขึ้นกันเถอะ....”
เอกพูดพลางชี้ไปยังบันไดที่อยู่ตรงมุมสระ
ต่อเดินอย่างช้าๆ ในน้ำจนมาถึงบันได ตามติดๆ มาด้วยเอก ต่อจับราวบันไดแล้วพยุงตัวขึ้นจากสระ แต่ด้วยความที่อยู่ในน้ำเกือบ 2 ชั่วโมง กล้ามเนื้อจึงปรับตัวให้เข้ากับในน้ำที่แรงโน้มถ่วงต่ำ เมื่อมาเจอแรงโน้มถ่วงแบบปกติ กล้ามเนื้อจึงยังไม่ชิน ทำให้ต่อรู้สึกตัวหนักกว่าปกติจึงเสียหลักลื่นหล่นลงไปในน้ำอีกครั้ง
“ระวังครับ! น้องต่อ”
เอกพูดขึ้นในขณะที่เอามือและร่างมาช่วยพยุงต่อไว้ จึงช่วยไม่ได้ที่ส่วนหน้าของเอกจะเสียดสีกับหลังของต่ออย่างจัง
........ทำไมตัวถึงได้ขาวอย่างนี้นะ........
เอกมองด้านหลังของต่อพลางคิดในใจ
.........ทำไมเด็กสมัยนี้มันโตเร็วจัง!..........
เอกมองสำรวจไปเรื่อย ตั้งแต่หัวทุยๆ ที่ตัดผมรองทรง ต้นคอที่ขาว แผ่นหลัง รวมถึงมองผ่านลงไปใต้น้ำ แก้มก้นของต่อในกางเกงว่ายน้ำสีน้ำเงิน ที่เริ่มมีเนื้อมีหนัง น่า.......... ตอนนี้ควยของเอกแข็งเต็มที่อยู่ในกางเกงว่ายน้ำแล้ว!
“ขอโทษนะครับ” ต่อหันหน้ามาขอโทษเมื่อรู้ว่าเมื่อกี่นี้ล้มใส่เอกแรงเหมือนกัน
“ไม่เป็นไรครับ......อ่ะ ระวังนะ...”
เอกบอก พลางช่วยดันให้ต่อขึ้นบันไดไปจนได้
..................................................................
โยเดินอย่างลุกลี้ลุกลนเข้ามาในคลับเฮ้าส์ พลางมองหาต่อกับครูสอนว่ายน้ำ
...............อยู่ไหนหว่า.............
โยคิดในใจ พลางมองไปทางสระก็เห็นคนอยู่ 2 คน หนึ่งในนั้นคือต่อนั่นเอง
“ป่ะ งั้นเราขึ้นกันเถอะ....” เสียงครูสอนว่ายน้ำดังขึ้น
..........ซวยแล้ว มันเรียนเสร็จแล้วนี่หว่า เอาไงดีวะ..........
โยเห็นทางสว่างทันทีเมื่อมองไปด้านซ้ายแล้วเห็นประตูติดป้ายว่า “MEN” โยรีบวิ่งแล้วเปิดประตูเข้าไป แล้ววิ่งเข้าไปหลบที่ห้องอาบน้ำห้องแรก!
.......................................................................
“เดี๋ยวน้องต่อล่วงหน้าไปก่อนละกันครับ เดี๋ยวพี่ตามไป” เอกบอก
“อ่อ ครับ” ต่อหยิบสัมภาระและผ้าเช็ดตัวเดินไปทางห้องน้ำ
...........โถ่เว้ย! กู โด่อีกแล้ว........
ที่เอกไม่อยากขึ้นจากน้ำตอนนี้ก็เพราะว่า คราวนี้เป็นฝ่ายเอกที่ควยโด่จนแทบจะทะลักออกมานอกกางเกงว่ายน้ำอยู่แล้ว
..........เด็ก โว้ย เด็ก!....ท่องไว้.........
แม้ใจจะไม่อยากคิด แต่ในหัวของเอกตอนนี้เต็มไปด้วยภาพร่างกายของต่อเวียนวนไปมา..........
...............................................................
ต่อเดินเข้าห้องน้ำมาอย่างสบายอารมณ์ที่เรียนเสร็จซะที ตามกล้ามเนื้อมีอาการปวดเล็กน้อย พลางคิดว่าพรุ่งนี้จะมาออกกำลังกายซ้ำด้วยการวิ่งกับเล่นบาส
..............มีคนอยู่ด้วยเหรอวะ..........
ต่อคิดในใจเมื่อเห็นประตูห้องอาบน้ำ 1 ใน 2 ห้องปิดอยู่ แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะคิดว่าคงมีคนมาว่ายน้ำเหมือนกัน ต่อเดินเข้าไปยังห้องอาบน้ำข้างๆ แล้วก็ลงมืออาบน้ำทันที
เอกเดินนุ่งผ้าเช็ดตัวเข้ามาในห้องน้ำพอดี พลางมองหาต่อ เมื่อได้ยินเสียงน้ำจากฝักบัวก็รู้ว่าต่ออยู่ในห้องอาบน้ำนั่นเอง.....แต่...อีกห้องนึงไม่ว่าง!
เอกจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว......ความรู้สึกที่มันอัดแน่นอยู่ข้างในนี้ มันต้องการการระบายออก!.....เอกจึงเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องส้วมอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องอาบน้ำมันแล้ว!
เอกเดินออกมาในชุดปกติ ชุดว่ายน้ำและผ้าเช็ดตัวถูกใส่ไว้ในถุงพลาสติกอย่างดี
“ต่อครับ พี่ฝากชุดว่ายน้ำกับผ้าเช็ดตัวให้พี่หมิงด้วยนะครับ พี่วางไว้ตรงอ่างล้างหน้านะ!”
เอกตะโกนแข่งกับเสียงน้ำจากฝักบัว
“ครับ” ต่อตะโกนตอบ
“งั้นพี่กลับก่อนนะ พอดีพี่มีธุระ...” เอกตะโกน
“ครับ” ต่อตอบเหมือนเดิม
เอกไม่รอช้าเดินออกมาจากคลับเฮ้าส์ แล้วรีบขึ้นแทกซี่กลับห้องพักทันที!
“แอ๊ดด...” ต่อเปิดประตูเดินออกมาหยิบถุงพลาสติกที่เอกวางไว้แล้วกลับเข้าไปอาบน้ำต่อ เพราะกลัวว่าจะลืม
“ซ่า........” ตอนนี้มีแต่ความเงียบกับเสียงน้ำจากฝักบัวเท่านั้น
ต่ออาบน้ำไป ฟอกสบู่ไป ฟอกจนมาถึงส่วนกลางของลำตัว จึงเหมือนไปเปิดสวิตช์ในหัวให้คิดถึงตอนที่เอกเปลี่ยนเสื้ออีกครั้ง ทำให้ควยของต่อเริ่มพองขึ้นมาอีกครั้ง!
........โด่ อีกแล้ว......เอาไงดีวะ! ....เอาออกซะเลยมั้ย......
ต่อคิดในใจ......
“แอ๊ดด...” เสียงประตูห้องน้ำเปิดออก พร้อมกับเสียงเด็กประมาณ 5-6 ขวบ เจี้ยวจ้าว
“ป๊า ป๊า....น้องคุนจะว่ายน้ำให้ป๊าดู” เสียงเด็กพูดอย่างตื่นเต้น
“ค้าบๆ” เสียงหนุ่มใหญ่ ท่าทางจะเป็นพ่อพูดขึ้น
“ป๊า. ป๊า....น้องคิดก็จะว่ายน้ำให้ป๊าดูเหมือนกัน” เด็กอีกคนพูดขึ้นบ้าง
“ค้าบๆ ป๊ารู้แล้ว ทั้งสองคนฉี่ให้เสร็จนะ ห้ามฉี่ในสระนะ....”
เมื่อสามพ่อลูกทำธระเสร็จแล้วก็เดินออกไปจากห้องน้ำ เหลือไว้แต่เพียงความเงียบ ตอนนี้ต่อปิดฝักบัวแล้ว
“..................”
ความเงียบบังเกิดขึ้นในห้องน้ำ ต่อคิดว่าคงไม่มีใครอยู่แล้ว ยิ่งใกล้ห้าโมงเย็น คนยิ่งจะเยอะ ต่อเหลือบมองถุงของเอกก็ตัดสินใจได้ในทันที
ต่อหยิบกางเกงว่ายน้ำสีดำของเอกออกมาจากถุง ตอนนี้ควยของต่อตุงอยู่ในกางเกงว่ายน้ำสีน้ำเงิน
.........กางเกงว่ายน้ำของพี่เอก.........
ต่อคิดในใจพลางงัดควยของตัวเองโผล่มาทางขากางเกงด้านข้าง! แล้วจึงเริ่มบรรเลงด้วยมือข้างขวาทันที ในขณะที่มือด้านซ้ายกำกางเกงว่ายน้ำของเอกไว้แน่น......
“ขลิก ขลิก ขลิก....” ต่อเริ่มชักควยของตัวเองเข้าออก แต่ไม่แรงมาก เพราะหัวของต่อนั้นยังไม่เปิด ต่อพยายามรูดหนังหุ้มลงมาให้ได้มากที่สุด แต่ก็พบกับความเจ็บ จึงล้มเลิก และชักไปทั้งที่หัวไม่เปิด
“ขลิก ขลิก ขลิก....” ตอนนี้ความเงี่ยนเข้าครอบงำต่อ น้ำเงี่ยนไหลเยิ้มออกมาที่ปลายควย
ต่อนึกถึงรูปร่างของพี่เอก.........
มัดกล้ามของพี่เอก..........
กล้ามท้องของพี่เอก.......
รอยแดดเผาจนเป็นรอยบิกีนี่ และเป้านูนเด่นของพี่เอก!........
และในมือของต่อตอนนี้....กางเกงว่ายน้ำของพี่เอก!.......
“อ่ะห์......”
ต่อครางเบาๆ แอ่นตัวในท่ายืน พร้อมกับพุ่งน้ำเป็นสายออกมาจากลำควย น้ำควยที่เก็บมาเป็นอาทิตย์ของต่อ ในที่สุดก็ได้ระบายออกมาเสียที!
“ปื้ด ปื้ด ปื้ด.......”
น้ำอสุจิของต่อพุ่งแตกออกมาแรงมาก โดยน้ำแรกพุ่งมาจนถึงอก แล้วค่อยๆ ลดระดับลงไป ตอนนี้หน้าอกและหน้าท้องของต่อเลอะทั่วไปด้วยน้ำอสุจิของตัวเอง ต่อเองก็ตกใจเหมือนกัน เพราะปกติไม่ว่าจะเงี่ยนแค่ไหนก็ไม่เคยน้ำแตกได้แรงขนาดนี้
ต่อหยุดคิดเรื่องนี้ไว้ชั่วคราว รีบอาบน้ำทันทีเพราะเดี๋ยวคนจะเริ่มทะยอยมาใช้บรการสระว่ายน้ำแล้ว
เมื่ออาบเสร็จต่อจึงรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดปกติ ไม่ลืมที่จะเอากางเกงว่ายน้ำของพี่เอกใส่ลงไปในถุงตามเดิม แล้วรีบเดินออกไปจากห้องน้ำเพื่อกลับบ้านทันที
อีกฝั่งหนึ่งของห้องอาบน้ำ......โยมองหน้าจอมือถือของตัวเอง พิจารณาภาพที่ตนเองยื่นมือขึ้นไปถ่ายเมื่อกี้นี้ เนื่องจากผนังห้องอาบน้ำสูงกว่าระดับหัวไม่มากนัก ทำให้ได้ภาพนิ่งที่ค่อนข้างชัดเจน เป็นภาพของต่อยืนชักว่าว โดยยังใส่กางเกงว่ายน้ำอยู่ แต่งัดควยออกมาด้านข้าง มือขวากำอยู่รอบควย น้ำแตกพอดี ส่วนใบหน้านั้นแสดงความเสียวกระสันอย่างที่สุด!
โยรอให้ต่อออกไปซักพัก จึงเดินกลับออกมาจากห้องอาบน้ำ แล้วเดินกึ่งวิ่งไปหน้าหมู่บ้านเพื่อเรียกแทกซี่ เป็นเวลาเดียวกันกับที่รถเบนซ์คันใหญ่เลี้ยวเข้ามาที่หน้าประตูหมู่บ้าน
“เอี๊ยดดด....” รถเบนซ์คันใหญ่ที่เข้าหมู่บ้านมาเมื่อกี้นี้จอดลงใกล้ๆ โย พร้อมกับกระจกด้านคนขับเปิดลงมา
“อ้าว! โย...มาหาต่อเหรอลูก” คุณศรีนั่นเอง
คุณศรีเพิ่งกลับมาจากข้างนอก เห็นโยเดินดุ่มๆ ออกมาหน้าหมู่บ้าน จึงนึกว่าโยมาหาต่อ เพราะเป็นเรื่องปกติที่ต่อและเพื่อนๆ จะมาหากันในวันหยุดสุดสัปดาห์
“อ๋อ......เอ่อ......ครับ” โยละล่ำละลักตอบออกไป
“แล้วนี่กลับยังไงลูก ให้น้าไปส่งมั้ย...” คุณศรีถามโย
“มะ...ไม่เป็นไรครับ คนขับรถรออยู่หน้าหมู่บ้านครับ....” โยตอบพร้อมกับยิ้มแหยๆ
“จ้ะ...งั้นเดินทางระวังๆ ด้วยนะจ๊ะ”
คุณศรียิ้มให้ 1 ทีก่อนปิดกระจกและขับรถเข้าบ้านไป โยรีบขึ้นแทกซี่ตรงดิ่งกลับบ้านทันที!
.............................................................
“ต่อ....เป็นไงมั่งลูก เรียนว่ายน้ำวันนี้ ดื้อหรือเปล่า”
คุณศรีเดินสะพายกระเป๋าแชเนลเข้าบ้านมา พร้อมถามลูกชายหัวแก้วหัวแหวน
“ก็ดีครับ” ต่อตอบ ขณะนอนแผ่หมดแรงดูทีวีอยู่บนโซฟาจากอิตาลีในห้องนั่งเล่นชั้น 1
“อ้อ แล้วโยมาหาเหรอลูก....... แม่เจอเมื่อกี้ตรงทางเข้าหมู่บ้านน่ะ” คุณศรีถามแบบไม่ได้ใส่ใจอะไรเพราะถือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่ต่อกลับประหลาดใจมากกว่า
........โยมาหาเหรอวะ!........
ต่อคิดในใจพลางเอื้อมไปหยิบมือถือบนโต๊ะ เพราะตอนไปเรียนว่ายน้ำไม่ได้หยิบไปด้วย
........ก็ไม่มีมิสคอลนี่หว่า......มาหาที่บ้านแล้วไม่เจอมั้ง........
ต่อเลิกคิดเรื่องโยไปแล้ว เพราะตอนนี้ความเหนื่อยจากการเรียนว่ายน้ำและ....ทำให้หนังตาของต่อเริ่มปิดลงทุกที....ทุกที.......
.........................................................................
อีกฟากหนึ่งของกรุงเทพฯ ในห้องเช่าราคาถูก เอกรีบเข้ามาในห้องแล้วปิดประตูดังปัง!
เอกไม่รอช้ารีบถลกกางเกงและกางเกงในลงไปกองที่เท้า แล้วจัดการสำเร็จความใคร่ตนเองทันที ซึ่งภาพในหัวของเอกจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ต่อ........
........................................................................
โยขึ้นบ้านมาถึงห้องตัวเอง ปิดประตูห้องแล้วมานั่งอยู่บนโต๊ะอ่านหนังสือ โยวางมือถือไว้ตรงกลางโต๊ะแล้วเอามือปิดตา
ภาพของเด็ก 4 คน สมัยอนุบาลเจิดจ้าเข้ามาในหัวของโย.............
“นายๆ นายร้องไห้ทำไมอ่ะ?” เด็กชายหน้าตาน่ารักถามเด็กชายโยที่นั่งร้องไห้อยู่
“อาจารย์ให้แบ่งกลุ่มวาดรูป ฮึก ฮึก ...แต่เรายังไม่มีกลุ่ม..ฮึก...” เด็กชายโยตอบคำถามไป ร้องไห้ไป
“ไม่ต้องร้องไห้นะ มาอยู่กลุ่มเราสิ” เด็กชายคนนั้นปลอบโย
“จิงหลอ....ให้เราเข้ากลุ่มด้วยจิงๆนะ...” เด็กชายโยหยุดร้องไห้แล้ว.....
“จิงจิ๊ง จะได้ครบ 4 คนไง คนนี้ชื่อเจมส์นะ ส่วนคนนี้ชื่อเม้ง....”
เด็กชายคนนั้นแนะนำเพื่อนที่อยู่ด้านหลัง เด็ก 2 คนนั้นต่างก็ยิ้มให้โย
“เราชื่อโยนะ แล้วนายชื่ออะไรอ่ะ”
“เราชื่อ “ต่อ” ..... มะ...มาวาดรูปกันเถอะ....”
โยนึกถึงภาพในอดีตตอนรู้จักกับต่อครั้งแรก ต่อเป็นทั้งเพื่อนรัก และเป็นเพื่อนสนิทของโยตลอดมา น้ำตาของโยไหลลงมาอาบแก้มทั้ง 2 ข้าง พลางคิดว่าตัวเองจะเอาตัวรอด หรือจะยอมขายเพื่อนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตั้งแต่เด็ก โยคิดอะไรไม่ออกแล้วในตอนนี้ ได้แต่นั่งร้องไห้อยู่ในห้องคนเดียว..........
“ทำไม่ได้.......กูทำไม่ได้.......ฮือๆๆๆ”
.................................................................................................
จบตอน
Kink Team เขียน


Season One1 : Episode 8: Truth!
Kinky Opera
>>Season One1<<
....ความดำมืดในใจก่อกำเนิด จิตเตลิดเกินห้ามปราบปรามไหว
ก่อกำหนัดพลาดพลั้งไปเมื่อใด ความจัญไรอาจย้อนจรสู่ตัว....
Episode 8: Truth!
Guest Starring: กลุ่มน้องกะเทยตอ-แหล!!!...... , พชร@
“นักเรียน ทำความเคารพ”
เสียงหัวหน้าห้อง ม. 1/1 ดังก้องขึ้นมาทั่วห้อง
“สวัสดีครับ!”
เสียงนักเรียนทั้งห้องดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียง
3 คาบแรกช่วงเช้าของวันนี้เป็นการเรียนการสอนวิชาคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นวิชาที่นักเรียนชอบมาก เพราะในระหว่างเรียนนั้นสามารถแบบเล่นเกมส์ เช็คเมล หรือเล่นเฟสบุคได้.......
“สวัสดีครับ วันนี้ครูจะสอนเรื่องการรับส่งอีเมล รวมถึงการแนบไฟล์นะครับ”
อาจารย์ผู้ชายค่อนข้างมีอายุอธิบายให้นักเรียนฟังถึงขั้นตอน และกระบวนการต่างๆ ตั้งแต่การสมัครฟรีอีเมล การเขียนข้อความ รวมถึงการแนบไฟล์เอกสาร เผื่อในอนาคตต้องมีการส่งรายงานด้วยเอกสารอิเล็คโทรนิก โรงเรียนที่ต่อเรียนนี้ค่อนข้างทันสมัย เพราะเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเรียนการสอน เป็นของยี่ห้อดัง ตัวเครื่องสีขาวหรู เหมาะสำหรับการใช้งานทุกประเภทรวมถึงงานด้านกราฟฟิกและมัลติมีเดีย
นักเรียนหลายคนตั้งใจฟังมั่ง ไม่ตั้งใจมั่ง เพราะทราบถึงวิธีการดีอยู่แล้ว บางคนถึงกับเรียนพิเศษล่วงหน้าไปถึงการเขียนโปรแกรมแล้วด้วยซ้ำ!
ตลอดการเรียนในภาคเช้านั้น นักเรียนต้องเขียนเอกสารสมมติขึ้นมาแล้วแนบไฟล์ส่งทางอีเมลให้อาจารย์ ซึ่งแต่ละคนก็รีบเร่งให้ทันก่อนไปกินข้าวเที่ยง
โยก็เป็นอีกคนหนึ่งซึ่งมีความรู้เรื่องเทคโนโลยีพอสมควรหลังจากที่ส่งงานอาจารย์เสร็จเรียบร้อยแล้วจึงออกมานั่งรอเพื่อนๆ ที่ระเบียงหน้าห้องพร้อมหยิบมือถือสมาร์ทโฟนขึ้นมา เปิด Yahoo แอพพลิเคชั่น เพื่อส่งภาพของต่อทางอีเมลไปให้มาร์ค
“Send ?”
โยกำลังชั่งใจครั้งสุดท้ายว่าจะส่งดีหรือไม่ โยมองผ่านกระจกหน้าห้องเข้าไปเห็นต่อกับเม้งกำลังสาละวนกับการส่งอีเมลให้ทันเวลา
......ต่อ......
โยคิดในใจ
.......มึงดีกับกูมาตลอดตั้งแต่วันแรกที่เรารู้จักกัน......
.......ตอนนี้กูกำลังจะขายมึงแล้วนะ มึงรู้ตัวมั้ย......
ตอนนี้ต่อส่งอีเมลให้อาจารย์สำเร็จแล้ว....พลางหันมามองโยที่รออยู่หน้าห้องผ่านกระจกหน้าต่าง แล้วยิ้มให้
........ใช่แล้ว.....รอยยิ้มนี้แหละ ตอนที่มึงชวนกูเข้ากลุ่ม......
.
.
โยตัดสินใจไม่ส่งภาพของต่อไปให้มาร์ค เป็นไงก็เป็นกัน ตอนนี้โยไม่สนใจแล้วว่ารูปของตัวเองจะโดนโพสต์ลงอินเตอร์เน็ตหรือไม่! ยังไงโยก็จะไม่หักหลังเพื่อนเด็ดขาด!
“เฮ้ยมึงทำไรวะโย........ส่งอีเมลจีบหญิงหรามึงอ่ะ” เจมส์เข้ามาทางด้านหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
แถมแย่งมือถือไปจากมือของโย
“เฮ้ย ไอ้เจมส์มึงเอามานี่!” โยพยายามแย่งกลับคืนมา
แต่เจมส์เอามืออีกข้างมากันตัวโยไว้ พร้อมชูมือถือขึ้นสูง
“มึงบอกมาก่อนดิวะ มึงจีบหญิงไม่ติดอ่ะดิ เลยเศร้าๆอ่ะ ช่วงนี้...” เจมส์ยังคงเล่นไม่เลิก
“เออๆ....เมิงเอามาได้แล้ว”
โยตอบส่งๆ และหวังว่านิ้วของเจมส์จะไม่ไปแตะโดน touch screen โดยบังเอิญ เจมส์ยังคงแหย่โยไปเรื่อยๆ
“ไอ้เจมส์ กูไม่เล่นนะโว้ย! มึงเอามาได้แล้ว!” เจมส์ไม่ให้แถมทำหน้าทะเล้น
“โยๆ อาจารย์เรียกมึงอ่ะ อาจารย์เปิดไฟล์ของมึงไม่ได้” เพื่อนในห้องเดินออกมาเรียกโย
“มาเร็วๆ มึง อาจารย์บอกว่าถ้าไม่มาใน 5 นาทีจะตัดคะแนนมึง” เพื่อนคนนั้นพูดต่อ
โยถือโอกาสที่เจมส์เผลอแย่งโทรศัพท์คืนมา แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะเจมส์มือไวกว่า โยไม่รู้จะทำอะไรก่อนดีแล้วตอนนี้ระหว่างแย่งโทรศัพท์คืนกับไปหาอาจารย์
“โถ่เว่ย!!! ไอ้เจมส์ มึงอย่ายุ่งกับโทรศัพท์กูนะเว่ย ไม่งั้นมึงกับกูขาดกัน!” โยเลือกที่จะไปหาอาจารย์ก่อน
เป็นเวลาเดียวกับที่ต่อและเม้งเดินออกมาจากห้องพอดี
“อ้าว ไอ้โยไปไหนวะ” เม้งถามเจมส์
“ไปหาอาจารย์ว่ะ เห็นว่าไฟล์มันเปิดไม่ได้” เจมส์ตอบ
“พวกมึงดูดิวะ....ไอ้โยแม่งป๊อดว่ะ จะส่งอีเมลหาหญิงแล้วเสือกไม่กล้าส่งซะงั้น” เจมส์เล่าให้ต่อกับเม้งฟัง
“แล้วมึงไปเสือกไรเค้าวะ” ต่อถาม
“อ้าว กูก็เสือกในฐานะกามเทพสิวะ” เจมส์พูดจบก็เริ่มกดโทรศัพท์ของโยทันที
“Send”
“Sending . . . .”
“บี๊บ” เสียงมือถือดังขึ้นแสดงถึงการประสบความสำเร็จในการส่งอีเมล
“เฮ้ย ไอ้เจมส์ มันไม่เกินไปหน่อยเหรอวะ?” ต่อค้านขึ้นมา
“เออ น่า เดี๋ยวไอ้โยจะต้องขอบใจกู”
เจมส์พูดด้วยความภูมิใจ ในขณะที่โยวิ่งกลับออกมาจากห้องกระหืดกระหอบ
“มึง! แฮ่ก...แฮ่ก.... เอามือถือกูมา!!!” โยพูดไปหอบไป
“เอาไป....... แล้วมึงจะต้องขอบใจกู” เจมส์บอกโย
“หมายความว่าไงวะ” โยใช้เวลาคิดไม่นานก็ประติดประต่อเรื่องได้ทันที ว่าเจมส์ได้แอบส่งอีเมลไปแล้ว
“ไอ้สัดดดเอ้ยย!....” โยกำคอเสื้อเจมส์เตรียมชก
“เฮ้ย ! โย ! มึงเป็นไรวะ!” ต่อกับเม้งช่วยกันจับแขนโยไว้ได้ทันท่วงที
“มึงมีไรก็ค่อยๆ พูดกันดิวะ!” เม้งช่วยพูดอีกแรง
“ไอ้เจมส์ ! ....มึงรู้มั้ยว่ามึงทำอะไรลงไป !!! ” ตอนนี้โยเริ่มน้ำตาคลอแล้ว
เจมส์ยังคงทำหน้างง ไม่รู้เรื่อง.......
.........................................................................................................................
อีกฟากของโรงเรียนหนึ่ง.......
“บี้บ”
“You’ve got 1 e-mail.”
มาร์คกดแอพพลิเคชั่นเพื่อเช็คเมล เมื่อรู้ว่าใครส่งมาก็ยิ้มที่มุมปากทันที!
“กูว่าแล้ว.....ว่าคนอย่างมึงต้องขายเพื่อน!!!”
...........................................................................................................
ทั้ง 4 คนเดินเข้ามาในห้องน้ำชั้น 8 ที่ที่มักจะมาสุมหัวกัน ทั้ง 4 ยังคงไม่ได้กินข้าวเที่ยง เพราะมีความรู้สึกว่าเรื่องของโยต้องมีความสำคัญกว่าอาหารมื้อเที่ยงเป็นแน่!
“ต่อ......กูขอโทษ.......”
โยเอ่ยคำขอโทษต่อ ต่อยังงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเกี่ยวอะไรกับตัวเอง
“มึงมีอะไร มึงเล่ามาให้หมด....” ต่อกำชับโย
โยเริ่มเล่าตั้งแต่ตอนเปิดเรียนที่ได้เจอกับมาร์ค แล้วโดนมาร์คกับพรรคพวกพาไปที่คอนโดแล้วถูกรุมจับแก้ผ้าถ่ายรูปไว้แบล็คเมล โดยโยข้ามรายละเอียดเรื่องอย่างว่าไป
โยเล่าต่อไปว่าเมื่ออาทิตย์ที่แล้วมาร์คมาเจอ แล้วขอให้โยถ่ายรูปเปลือยของต่อให้ได้! ไม่อย่างนั้นมาร์คจะเอารูปของโยเองไปโพสต์ลงอินเตอร์เน็ต! โยสารภาพพร้อมกับร้องไห้น้ำตาอาบแก้มทั้ง 2 ข้าง
ต่อเริ่มเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆ ที่โยเล่ามา รวมถึงเรื่องที่แม่ของต่อถามว่าได้เจอโยหรือเปล่า
“ไอ้โย หรือว่ามึงแอบมาถ่ายรูปกูจิงๆ”
ต่อคิดตามว่าถ้าโยจะถ่ายรูปเปลือยของตัวเอง จะถ่ายได้ตอนไหนบ้าง.......
“เชี่ยเอ้ยยย หรือว่ามึงถ่ายรูปกูตอน.....”
ต่อไม่อยากจะนึกเลยว่าโยจะถ่ายรูปตอนที่ต่อชักว่าวไว้ แต่คงไม่หนักเท่าตอนที่ชักว่าวไปถือกางเกงว่ายน้ำของพี่เอกไป!!!
โยพยักหน้ารับ น้ำตายังคงไหลมาเป็นสาย เม้งกับเจมส์ทำหน้างงเพราะไม่รู้เรื่อง......
ต่อหน้าชาแทบล้มทั้งยืน ไม่นึกว่าเพื่อนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาจะทำกับตัวเองแบบนี้
“เฮ้ย ต่อ กูผิดเองว่ะ ..... กูเป็นคนส่งไปเอง....ไอ้โยมันจะลบทิ้งอยู่แล้ว” เจมส์บอกหน้าจ๋อย
“แต่มันก็ยังมาถ่ายรูปกู มันคิดจะขายเพื่อน!” ต่อว่าโยและเริ่มน้ำตาคลอ
“เฮ้ย กูว่าพวกมึงใจเย็นๆ ก่อนดีกว่าว่ะ”
“ยังไงเรื่องมันก็เกิดขึ้นแล้ว กูว่าเรามาช่วยกันหาทางแก้ดีกว่าว่ะ” เม้งซึ่งเป็นมันสมองของกลุ่มเตือนสติเพื่อน
ต่อหยิบมือถือของโยมาแล้วกดลบรูปของตัวเองทุกรูป
“มีที่อื่นอีกป่าว!” ต่อถาม โยส่ายหน้า
เม้งเริ่มอธิบายแผนการณ์ ตอนนี้ต่อและโยถูกแบล็คเมล เราจะต้องแบล็คเมลกลับ ถ้าใครรู้ข้อมูลอะไรที่เกี่ยวข้องกับมาร์ค ให้รีบมาบอกกลุ่มทันที ทาลกลุ่มจะใช้ข้อมูลที่ได้ไปแลกภาพของต่อกับโยคืนมา
....................................................................................................
สามวันผ่านไป.....
“เป็นไงวะ มีใครได้อะไรมาบ้าง” เม้งถามขึ้นในกลุ่ม ขณะประชุมกันอยู่ที่ห้องน้ำชั้น 8
“มาร์คมันสอบเข้าโรงเรียนได้คะแนนติด 1 ใน 10 แถมยังเป็นนักเรียนดีเด่นว่ะ”
ต่อค้นข้อมูลมาจากเวบไซต์ของโรงเรียนมาร์ค
“โค้ชเรียกมันไปเข้าชมรมตั้งแต่เข้าเรียนเลยว่ะ แถมยังเป็นประธานทั้งชมรมยิมนาสติกกับว่ายน้ำ”
โยบอกจากที่จำได้ตอนลูกน้องมาร์คพูด
“............” เจมส์ไม่ได้พูดอะไร
“ไงวะเจมส์มึงได้อะไรมา....” เม้งถาม
“กู.....ไม่ได้อะไรมาเลยว่ะ” เจมส์ตอบแล้วหัวเราะแฮ่ะๆ
“ไอ้เจมส์เอ้ยยย....มึงนี่หล่ออย่างเดียวป่าววะ” โยว่าเจมส์
“งั้นวันนี้.....มึงต้องใช้ความหล่อเหมือนดาราของมึงให้เป็นประโยชน์แล้วว่ะ” เม้งพูดเหมือนมีแผนอยู่ในหัว
เจมส์ยังคงทำหน้าเหรอหราต่อไป
......................................................................................................................
หลังเลิกเรียน ที่หน้าโรงเรียนของมาร์ค.....
“เฮ้ย! มึงจะให้กูทำจิงๆ เหรอวะ....” เจมส์กระซิบถามย้ำกับเม้งขณะที่หลบอยู่หน้าประตูโรงเรียน
“ก็จิงดิวะ หน้าตามึงมีประโยชน์ก็คราวนี้แหละ!”
เม้งพูดพลางผลักเจมส์ออกมาจากที่ซ่อน แล้วเม้งก็เดินตามมาข้างหลังเจมส์ มาอยู่ข้างหลังกลุ่มกะเทย 4 คน ในชุดพละ ที่กำลังจับกลุ่มกันเม้าก่อนไปซ้อมวอลเล่ย์บอลหลังเลิกเรียน
“ตัวเธอๆ เราถามอะไรหน่อยสิ” เจมส์รวบรวมความกล้าแล้วพูดออกไป ในขณะที่เม้งเดินตามมาสมทบ
“อะไรยะ!” กลุ่มกะเทยหันมาทางต้นเสียงหน้าบอกบุญไม่รับ แต่พอมองที่หน้าเจมส์เท่านั้นก็ต้องเปลี่ยนสีหน้าและน้ำเสียงทันที!!!
“แอร๊ยยย...... ว่าไงคะพ่อรูปหล่อออ.....” คราวนี้กลุ่มกะเทยให้ความสนใจกันทั้งกลุ่ม เพราะนอกจากเจมส์จะหล่อแล้ว เมื่อดูจากเครื่องแบบนักเรียนยังมาจากโรงเรียนใกล้ๆ ที่เด็กส่วนใหญจะ “ไฮโซ” และ “รวย” ด้วย
“เอ่อ ตัวเธอรู้จักมาร์คที่เป็นประธาน.....” เจมส์พูดยังไม่ทันจบ กะเทยคนหนึ่งในกลุ่มก็พูดแทรกขึ้นมา!
“โอ๊ยย.....อีน้องมาร์คน่ะเหรอ.....กูได้กินมาละ!!!”
“ตอ-แหล!!!.....มันกินกันเองเหอะ.... มันจะมาเอากะเทยอย่างแกทำม้ายยย!” กะเทยอีกคนด่าเพื่อนขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“ตอ-แหล!!!.......มึงรู้ได้ไง....” กะเทยคนแรกท้วง
“อ๊าวว!!......ก็กูไปแอบดูพวกมันเอากันที่โรงยิมน่ะสิค๊ะ!” กะเทยคนที่ 2 อธิบาย
“ต่ำ...อีสัตว์ พวกมึงก็ตอแหลดอกทองไปเรื่อยนะ....” กะเทยคนที่ 3 พูดขึ้นมาบ้าง....
“แต่กูว่าอีที่เป็นเลขามาร์คกับในกลุ่มมันอีกคนนึงอ่ะ ท่าทางมันแปลกๆ อยู่นะ เหมือนกูเคยเห็นมันอยู่กับกลุ่มกะเทยแต่งหญิงที่แม็คโดนัลในห้างแถวสยามอ่ะ”
กะเทยคนที่ 3 อธิบายต่อไป ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องเดียวที่ทั้งกลุ่มเห็นพ้องต้องกันว่าเป็นเรื่องจริง! เพราะแต่ละคนก็เห็นมากับตาเหมือนๆ กัน แต่แล้วน้องกะเทยทั้ง 4 คนก็นึกขึ้นมาได้ว่าทำไมจะต้องมาเล่าเรื่องนี้ให้คนแปลกหน้าฟัง!!
“เอ่อ แล้วเธอถามทำไมล่ะ หรือว่าสนใจอีแอบ ไม่สนใจสวยๆ อย่างชั้นบ้างเหรอไงย้า.......”
ตอนนี้กลุ่มกะเทยเริ่มล้อมวงเข้ามาหาเจมส์และเม้ง เม้งรีบฉุดแขนเจมส์วิ่งออกไปจากโรงเรียน เจมส์ไม่ลืมที่จะหันไปยักคิ้ว แล้วทำท่าตะเบ๊ะแบบทหารเพื่อหว่านเสน่ห์เป็นครั้งสุดท้าย..........
เม้งลากเจมส์ออกมาไกลพอสมควร ได้ยินแต่เสียง “แอร๊ยยยยย” ของกะเทยกลุ่มนั้นลอยตามหลังมา
“เป็นไงมึง กูเก่งมั้ยวะ?” เจมส์ถามเม้ง
“เนียนเชียวนะเมิง” เม้งแขวะเจมส์
“มึงกับกูยังต้องทำภาระกิจต่อไปว่ะ” เม้งบอก
“ยังไงวะ?” เจมส์ยังคงงง
“วันเสาร์พรุ่งนี้ ที่ห้างแถวสยาม บอกไอ้โยให้มาด้วย แล้วพรุ่งนี้กูจะอธิบายให้ฟัง” เม้งบอกเจมส์
.................................................................................................
จบตอน
Kink Team เขียน


Season One1 : Episode 9: Predator & Pray!
Kinky Opera
>>Season One1<<
....ความดำมืดในใจก่อกำเนิด จิตเตลิดเกินห้ามปราบปรามไหว
ก่อกำหนัดพลาดพลั้งไปเมื่อใด ความจัญไรอาจย้อนจรสู่ตัว....
Episode 9: Predator & Pray!

เช้าวันเสาร์.....
มาร์คตื่นขึ้นมาบนเตียงในห้องนอนบนคอนโดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา มาร์คเดินมาที่ริมหน้าต่างพบว่าอากาศในวันนี้ขมุกขมัว ซึ่งเป็นปกติธรรมดาของหน้าฝน มาร์คหาวพลางบิดขี้เกียจไปด้วย แต่ก็นึกถึงอีเมลที่โยส่งมาให้เมื่อวานขึ้นมาได้!
มาร์คจึงรีบเดินมาคว้ามือถือที่วางอยู่ข้างเตียงทันที เนื่องจากเมื่อวานนี้มาร์คซ้อมยิมนาสติกอุปกรณ์ประเภทห่วงและบาร์เดี่ยวอย่างหนัก จึงไม่มีเวลาได้ตรวจสอบรูปที่โยส่งมาละเอียดนัก พอกลับมาถึงบ้านมาร์คก็หลับเป็นตาย.......
.......ในที่สุด! การแก้แค้นของเราก็จะสำเร็จซะที.....แล้วต่อก็จะคิดได้..........
มาร์คคิดในใจถึงแผนการณ์ของตัวเอง พลางนึกถึงเรื่องในอดีตของตัวเอง
“แม่.......หนูไม่อยู่......หนูจากลับบ้าน....ฮือๆ”
เด็กชายมาร์คร้องไห้งอแงเมื่อต้องมาเรียนชั้นอนุบาลเป็นวันแรก
“โอ๋ๆ ไม่ร้องไห้นะคะคนเก่ง...... ดูซิเพื่อนหนูเยอะแยะเลย.....เห็นมั้ย หนูจะได้เล่นกับเพื่อนทั้งวันเลยไงคะ....”
แม่ของมาร์คกล่อมให้ลูกของตัวเองยอมเข้าชั้นเรียนวันแรกให้ได้ เป็นวันที่คุณแม่หลายๆ คนต้องปวดหัวเป็นธรรมดา
“น้องมาร์คคะ น้องมาร์คไม่อยากเล่นชิงช้ากับเพื่อนๆ เหรอคะ ดูสิ....โน่นน่ะค่ะ....น่าเล่นออกค่ะ” ครูอนุบาลช่วยพูดเกลี้ยกล่อมอีกแรง
“แต่.......ฮือๆ” เด็กชายมาร์คยังคงงอแง
“พวกเราๆ มาดูนักเรียนใหม่เร็วๆ ดูดิ ดูดิ หน้าเหมือนลูกครึ่งเลย....”
เด็กหลายคนในห้องเรียนต่างทะยอยมาเกาะกระจกหน้าต่างดูมาร์คเหมือนกับเป็นตัวประหลาด ทำให้มาร์คเริ่มเครียดและเกาะแขนแม่แน่นขึ้น !
“นะคะ........เดี๋ยวตอนเย็นแม่ก็มารับแล้ว.........”
“นายๆ เราชื่อต่อนะ นายชื่ออะไรอ่ะ”
เสียงเด็กคนหนึ่งดังแทรกขึ้นมาข้างๆ หูมาร์ค ต่อมายืนข้างๆ มาร์คตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
“เรา......ชื่อ.....มาร์ค....” มาร์คตอบอายๆ
“นายมาอยู่กับเราสิ........มีของเล่นเยอะแยะเลยนะ คุณครูให้เล่นได้ทั้งวันเลย....” ต่อชวนมาร์ค
“จิงหลอ......ให้เราเล่นได้ด้วยหลอ....” ตอนนี้เด็กชายมาร์คตาลุกวาว
“จิงจิ๊ง.....มาสิ”
ต่อดึงมือมาร์คเดินเข้าไปในห้องเรียน ไปที่ของเล่นกองหนึ่ง มาร์คก็เดินตามไปแต่โดยดี โดยไม่หันมาสนใจแม่อีกเลย ตอนนี้คุณแม่ของมาร์คถอนหายใจกับคุณครูอย่างหมดห่วง........
................................................................................................................

ชั้นป. 1/1........
“นักเรียนคะ.....จับกลุ่ม 5 คนค่ะ แล้วมาซ้อมอ่านออกเสียงกับครูที่หน้าชั้น ทีละกลุ่มนะคะ” คุณครูบอกนักเรียน
“ต่อ.....เราอยู่กลุ่มด้วยคนนะ” มาร์คหันมาพูดกับต่อ
“ได้ๆ มาสิ ตอนนี้ยังเหลืออีก 1 คนพอดีเลย” ต่อบอกมาร์ค
“ไม่ได้! กลุ่มเราครบแล้วนะต่อ นี่ไง มีมึง มีกู ไอ้เม้ง ไอ้เจมส์ แล้วก็ ไอ้ป๋อม!!! (ใครเนี่ย?)” โยพูดขึ้นมาแล้วหันมามองหน้ามาร์คอย่างเย็นชา
“อ้าว......งั้น.......” ต่อทำตัวไม่ถูก
“เอ่อ.....งั้นไม่เป็นไร.....เดี๋ยวเราไปอยู่กลุ่มอื่นก็ได้......” มาร์คตอบหน้าเจื่อนๆ
..........................................................................................................
ชั้น ป.4/1
“ต่อ ช่วยเราด้วย.......”
เสียงมาร์คดังขึ้น วิ่งหน้าตาเลิ่กลั่กมาหลบด้านหลังต่อ ตามมาด้วย ไอ้โย ไอ้เจมส์ ไอ้เม้ง และเพื่อนร่วมห้องอีกประมาณ 4-5 คน
“กูจะจับอีตุ๊ดนี่แก้ผ้าว่ะต่อ” โยพูดขึ้น
“ทำไมต้องแกล้งเราด้วย เราเคยไปทำอะไรให้นายโกรธแค้นเหรอไง” มาร์คพูดขึ้นมา
“ทามมายต้องแกล้งเค้าด้วย เค้าเคยไปทามอารายให้เธอโกดเหรองาย” โยล้อเลียนคำพูดของมาร์คอย่างสนุกปาก พร้อมทั้งหันมาทางต่อ
“ว่าไงวะต่อ มึงจะมาช่วยกูจับอีนี่มันแก้ผ้ามั้ย”
“..............” ต่อมองโยแล้วถอนหายใจ
“เอ๊ย! หรือว่ามึงชอบอีนี่วะ” ตอนนี้ทุกคนหันไปสบตากัน ทำนองว่าหรือเรื่องที่ไอ้โยพูดมันจะเป็นความจริง ต่อรู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล ถ้าทุกคนเชื่อเรื่องนี้ ต่อจะถูกอับเปหิจากตำแหน่ง “ราชา” ของกลุ่ม ลงมาอยู่สถานะเดียวกับเด็กคนนี้ทันที ซึ่งเป็นสถานะ “ต่ำสุด” ของห้อง ต่อจึงรีบโพล่งออกไปทันที
“เฮ้ออ............ กูก็แค่ไม่อยากให้มึงแกล้งคนโดยไม่มีเหตุผล แต่มึงจะทำอะไรก็เรื่องของมึงเถอะ ไม่เกี่ยวกับกู” ต่อพูด
มาร์ครู้ทันทีว่าความช่วยเหลือสุดท้ายของตนได้สลายหายไปกับอากาศแล้ว โยและพวกวิ่งกรูกันเข้ามาล็อคตัวมาร์คทันที!
“อ๊าหหหหห์ อย่า ฮือๆ อย่า ฮือๆ.......” เสียงของมาร์คดังไปทั่วห้องเรียน ดูจากสายตาของพวกเด็กเรียนแล้วแต่ละคนอยากจะช่วยมาร์คเหลือเกิน แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งกับการกระทำของหัวโจกของห้อง ต่อพยายามข่มใจหลับตาด้วยความรู้สึกผิด อีกทั้งไม่ต้องการมองเห็นสายตาของพวกเด็กเรียนที่มองมาทางต่อด้วยความตำหนิ.....................
.................................................................................................................
พอมาร์คนึกถึงเรื่องนี้ทีไรก็ปวดหัวจี๊ดขึ้นมาทันที........
.......เป็นเพราะไอ้โย.....ที่ทำให้เราต้องโดนเพื่อนๆ แกล้งล้อเลียนและดูถูกมาตลอด.......
......เป็นเพราะไอ้โย.....ที่ชอบล้อว่าต่อกับเราเป็นแฟนกัน.........
.......เป็นเพราะไอ้โย......ที่ทำให้ต่อออกห่างจากเราไป......
.......มันต้องโดนบ้าง!.........
มาร์คคิดในใจแล้วแสยะยิ้มที่มุมปาก !
...................................................................................................................................
ห้างดังกลางสยาม........
“เฮ้ยเม้ง ! มึงจะบอกแผนของมึงได้ยังวะ....” เจมส์ถามเม้งขณะเดินเข้ามาในห้างที่เย็นฉ่ำ
“เออ......แล้วทำไมกูต้องมาด้วยวะ...” โยถามขึ้นบ้าง
“วันนี้เราจะมาหาเหยื่อว่ะ พวกมึงเตรียมมือถือก็แล้วกัน ปิดเสียงให้เรียบร้อยด้วย !”
เม้งเริ่มสั่งการ ขณะชี้ให้เพื่อนตามมาเพื่อลงบันไดเลื่อนไปที่ชั้น G
“แล้วก็ไอ้โย....ถ้ากูสั่งให้มึงหลบหรือหมอบ ให้มึงรีบทำเลยนะโว้ย!” เม้งสั่งการต่อไป
“กูไม่ใช่หมานะโว้ย.....ว่าแต่มึงจะเฉลยได้ยังวะ ว่าเรากำลังจะไปทำอะไรกัน?” โยถาม
เม้งเลยอธิบายแผนการทั้งหมดของวันนี้ว่าให้แอบถ่ายคลิบหรือรูปของลูกน้องของมาร์คคือ
1. คนที่ทำหน้าที่เหมือนเลขาของมาร์ค และ
2. สมาชิกอีกคนหนึ่งในกลุ่มของมาร์ค
เม้งอธิบายต่อว่าจะใช้รูปหรือคลิบอันนี้ไปแบล็คเมลมาร์คอีกทีหนึ่ง แต่เนื่องจากไม่มีใครเคยเห็นหน้าสมาชิกของกลุ่มมาร์คเลย จึงต้องให้โยช่วยมาดูหน้าให้ แต่พวกนั้นอาจจะจำโยได้ เพราะฉะนั้นคนที่ต้องระวังตัวที่สุดก็คือโยนั่นเอง!
ทั้ง 3 คน ลงบันไดและเดินใกล้ถึงหน้าร้านแม็คโดนัลก็รีบหลบเข้ามุมทันที! เม้งให้คนอื่นหลบอยู่ก่อน มีเพียงตนเองที่ยื่นหน้าออกมาจากที่กำบัง พลางสอดส่ายสายตาไปทั่วร้าน.....
“นั่นไง!!!”
เม้งเจอแล้ว! กลุ่มกะเทย 7-8 คนในชุดไปรเวท กำลังแต่งหน้าและเลือกวิกผมเกาหลีกันอย่างสนุกสนาน!
“โย มึงค่อยๆ ยื่นหน้าออกไปดูนะ ที่ 3 นาฬิกา มีมั้ย?” เม้งกำชับโย
โยยื่นหน้าออกไปแล้วมองดูกะเทยกลุ่มนั้นที่กำลังเม้ากันอย่างออกรสออกชาด ขณะเลือกวิกผมไปด้วย
“ไม่มีเลยว่ะ...” โยกลับเข้ามาแล้วบอกเม้งกับเจมส์
“เป็นไปได้ไงวะ.....ก็กูกับเจมส์ไปสืบมา.....” เม้งยังอธิบายไม่จบก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมาในร้านซะก่อน
“ไฮ้!!!.....เพื่อนสาวววว เป็นไงจ๊ะ วันนี้จะแต่งเป็นใคร....” เม้งรีบดูไปที่ต้นเสียงทันทีก็เห็นว่ามีสมาชิกใหม่เพิ่งมาอีก 2 คน
“แล้วอี 2 คนที่มาใหม่ล่ะวะ” เม้งให้โยยื่นหน้าออกมาดูอีกครั้งหนึ่ง
“เฮ้ย! ใช่เลยว่ะ 2 คนนี้แหละที่อยู่กับไอ้มาร์ค” โยตอบ

เจมส์ไม่รอช้ารีบยกมือถือขึ้นมาถ่ายคลิบไว้ทันที!!! ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้ถูกบันทึกไว้ในมือถือของเจมส์เรียบร้อยแล้ว......
“เอาล่ะ ที่เหลือก็แค่ลุ้นแล้วล่ะ ว่าสิ่งที่มีอยู่ในมือจะช่วยพวกเราได้ป่าว?”
เม้งบอกเพื่อนๆ พลางมองดูคลิบที่อัดมา
“บี๊บ”
“ 1 SMS!” มีข้อความส่งเข้ามาในมือถือของโยพอดี
- หลังเลิกเรียนวันจันทร์มาเจอกูที่โรงยิม -
“เฮ้ยพวกเมิง เอาไงดีวะ” โยถามเพื่อนๆ ด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น
“ก็ไปตามที่มันบอกสิวะ........ต้องวัดดวงหน่อยล่ะ!!” เม้งบอกด้วยสีหน้ามั่นใจ........
....................................................................................................................
ที่สระว่ายน้ำหมู่บ้านของต่อ.....
“พี่เอก ถ้ามีคนอยากแก้แค้นเรา.....เราจะทำไงอ่ะ” ต่อถามเอกขึ้นมาในขณะที่กำลังเรียนว่ายน้ำ
“เราต้องทำยังไง “ครับ!!!” ต่างหาก” เอกสอนให้ต่อพูดเพราะๆ พลางคิดว่าทำไมเด็กพูดกับผู้ใหญ่แบบนี้วะ!!!
“เราต้องทำยังไง “ครับ???”” ต่อพูดเหมือนจะล้อเลียน แต่เอกก็ไม่สนใจ
“แล้วเราไปทำความเดือดร้อนให้เขาไว้หรือเปล่าล่ะ?” เอกถามต่อ
“ก็.........”
“พี่ว่านะ......ถ้าเรารู้ตัวว่าผิด เรากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว สิ่งที่ทำได้ก็คือการขอโทษ แต่ต้องเป็นการขอโทษที่มาจากใจด้วยนะ!!!” เอกอธิบาย
“แล้วเค้าจะยอมเหรอ “ครับ?”” ต่อถามเอก
“อย่างบางเรื่องนะ ทะเลาะกันจะเป็นจะตาย ทั้งๆที่แค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมขอโทษเรื่องก็จบแล้ว ถึงอีกฝ่ายหนึ่งจะไม่ยอม แต่อย่างน้อยเราก็รู้ตัวเองว่าได้พยายามทำทุกวิถีทางแล้ว.....จริงมั้ย?” เอกตอบ
....................................................................................................................................
ในที่สุดวันจันทร์ที่สุดจะระทึกก็มาถึง ทั้ง ต่อ โย เจมส์ และเม้ง ต่างไม่มีกระจิตกระใจจะเรียนหนังสือเลย โดยเฉพาะต่อและโย ที่กำลังคิดว่าถ้ามาร์คเอาภาพเปลือยของตนไปปล่อยในอินเตอร์เน็ตจริงๆ ชีวิตจะเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง.......เพื่อนที่โรงเรียนจะไปเจอภาพเหล่านี้หรือไม่.......เรื่องจะลามไปถึงฝ่ายกิจการนักเรียนหรือไม่......
“อ่ออดดดดด.......” เสียงสัญญาณสิ้นสุดคาบสุดท้ายดังขึ้น
ทุกคนต่างเก็บกระเป๋าเรียบร้อย พลางมองหน้ากันเป็นครั้งสุดท้าย เหมือนว่ากำลังจะไปออกรบ......
...............................................................................................................................
วันนี้ทุกคนเห็นพ้องกันว่าจะใช้บริการรถแทกซี่เพื่อมาที่โรงเรียนของมาร์ค เพราะทุกคนต่างไม่รู้ว่าสงครามในวันนี้จะยืดยาวแค่ไหน
“เอี๊ยดดด...”
เสียงรถแทกซี่จอดที่หน้าโรงเรียนของมาร์ค ทุกคนก้าวลงจากรถด้วยความหวาดหวั่น เมื่อลงมาพร้อมกันแล้วจึงเดินมุ่งหน้าไปที่โรงยิมของโรงเรียน ซึ่งเด่นสะดุดตาและไม่ต้องเสียเวลามองหา
“แอ๊ดดด......” ต่อเป็นคนนำเปิดประตูเข้าไปก่อนคนแรก ตามมาด้วยเม้ง เจมส์ และโยเป็นคนสุดท้าย....
เบื้องหน้าของทั้ง 4 คน คือกลุ่มของนักเรียน 5 คน ที่กำลังซ้อมกีฬาอยู่ตามอุปกรณ์ต่างๆ โดยมาร์คกำลังโหนตัวอยู่บนห่วงคู่ที่ห้อยลงมาจากเพดาน มาร์คเกร็งตัวอยู่บนห่วงโดยร่างกายแนวยาวขนานกับพื้น กล้ามแขนอันใหญ่ของมาร์คเกร็งจนปูดโปน ทันใดนั้นมาร์คก็เหวี่ยงตัวตีลังกากลางอากาศ 3 รอบ แล้วลงมายืนอยู่ที่พื้น โดยไม่เสียสมดุลย์เลยแม้แต่นิดเดียว!!!
“ว่าไง มาแล้วเหรอ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”
มาร์คพูดพลางเดินเข้ามาหากลุ่มของต่อ โดยลูกน้องของมาร์คเองก็ละจากการซ้อมแล้วเดินมาสมทบกับมาร์คด้วย
“มาเข้าเรื่องเลยดีกว่า” เม้งรีบเปิดฉากทันที!
“โห....ไม่ทักทายกันเลยนะ....” มาร์คพูดเชิงตำหนิ
“เรื่องรูปกับคลิบ!!! กูอยากให้ลบมันซะ!” เม้งพูดต่อไปโดยไม่สนใจ
“มาร์ค....กูไม่รู้นะว่าทำไมมึงต้องทำแบบนี้! แต่กูไม่อยากให้เรื่องนี้มันบานปลาย กูขอได้มั้ย..... ลบรูปของกูกับโยเถอะนะ” ต่อพยายามเกลี้ยกล่อมแต่ก็ไม่เป็นผล
“มันจะไม่ง่ายไปหน่อยเหร้อ.....” เลขาของมาร์คพูดขึ้นมา ดูเหมือนจะไม่ยอมรับการต่อรอง
“ใช่! ตอนนี้ถึงทีกูเอาคืนบ้าง! กูจะเอาไปปล่อยในเน็ตแม่งเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า” มาร์คพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
“แต่ถ้าพวกมึงกราบขอโทษที่ตีนกู! บางทีกูอาจจะลองคิดดูใหม่ก็ได้......” มาร์คยื่นข้อเสนอที่ทำร้ายจิตใจสุดๆ
“โดยเฉพาะมึง! ไอ้โย! ไอ้เพื่อนทรยศ! ชอบแกล้งกูดีนักแถมมึงยังทรยศเพื่อนมึงอีก!”
มาร์คหันหน้าไปมองที่โย ตอนนี้โยก้มหน้างุด หลบอยู่หลังต่อ
“พวกเราก็พยายามให้เรื่องนี้มันจบสวยที่สุดแล้วนะ แต่ถ้าไม่อยากให้จบก็คงต้องพูดถึงเรื่อง......งานอดิเรกที่แมคโดนัลแล้วมั้ง?”
เม้งพูดพลางโชว์คลิบในมือถือ ที่เห็นเลขาของมาร์คและเพื่อนอีกคนที่ยืนอยู่ข้างกันนั้น กำลังเลือกใส่วิกผม และขนตาปลอมอย่างสนุกสนาน!!!
เลขามาร์คกับเพื่อนหน้าเสียทันทีอย่างเห็นได้ชัด!!! เม้งเริ่มใจชื้นขึ้นมา ดูเหมือนกลยุทธ์นี้จะได้ผล!!
“กูบอกแล้วใช่มั้ยให้ระวังหน่อย!!!” มาร์คหันไปเอ็ดลูกน้องเบาๆ
“ถ้าคลิบนี้ถูกกระจายไปทั่วโรงเรียน ผลที่ตามมาจะเป็นยังไงนะ? ตำแหน่ง ชื่อเสียง ฐานะ อยากกลับไปเป็นเหมือนสมัยก่อนเหรอ?” เม้งได้ทีจึงขู่มาร์คคืน
มาร์คกัดฟันกรอด...........
“มาร์คพวกกูขอโทษ......พวกกูขอลาออกจาก....”
เพื่อนมาร์คทั้ง 2 คนพูดขึ้นพร้อมกันแต่พูดยังไม่ทันจบ มาร์คก็สวนขึ้นมา
“พวกมึงไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น!!! ฟังนะไอ้เม้ง ไอ้ต่อ ไอ้เจมส์ ไอ้โย นี่คือสิ่งที่พวกกูเป็น กูยอมรับในกันและกัน ยอมรับในสิ่งที่เพื่อนกูเป็น โดยไม่เคยเอาสิ่งเหล่านั้นมาแกล้งหรือล้อให้เป็นปมด้อยสักครั้ง! เอาเลย! พวกมึงปล่อยคลิบไปเลย! กูไม่ทิ้งเพื่อนแน่นอน ถ้าจะต้องออกจากตำแหน่ง หรือฐานะจะตกต่ำก็ตาม กูก็พร้อมจะไปกับเพื่อนของกู!!!”
มาร์คพูดตาแดงก่ำ และกำมือแน่น ส่วนเพื่อนของมาร์คอีกสี่คนมองมาที่มาร์คด้วยความภูมิใจ สมควรแล้วที่ให้มาร์คเป็นหัวหน้ากลุ่ม
ตอนนี้โย เจมส์ และเม้งรู้สึกผิดและละอายตัวเองขึ้นมาทันที! แต่ละคนต่างก็คิดได้ว่าที่เหตุการณ์มันมาถึงขนาดนี้ ก็เพราะไปล้อเล่นกับจิตใจของคนๆ หนึ่ง โดยไม่ได้คิดเลยว่าคนๆ นั้นจะรู้สึกอย่างไร
“แต่ดูเพื่อนมึงสิ!!!” มาร์คพูดพลางหันมามองโย
“เห็นแก่ตัว ชอบเหยียบย่ำคนอื่น แถมยังขายเพื่อนเพื่อเอาตัวรอดอีก!!!” มาร์คตำหนิโยเสียงดัง
“เฮ้ย! ไอ้โยมันไม่ได้เป็นคนส่ง กู.....” เจมส์กำลังจะแก้ตัวให้เพื่อน.....
“พอเถอะไอ้เจมส์!!!” โยโพล่งออกมา
“มาร์ค ฮึกๆ กูขอโทษ กูขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยทำกับมึง ฮึกๆ มึงจะเอารูปของกูไปทำอะไรก็ได้ ฮึกๆ แต่ขอเถอะ......ลบรูปของไอ้ต่อเถอะ มันไม่เกี่ยว ฮึกๆๆ”
ตอนนี้โยลงไปนั่งก้มหัวอยู่แทบเท้าของมาร์คแล้วและร้องไห้
ตอนนี้มาร์คถึงกับอึ้ง!! ไม่คิดว่าโยจะทำถึงขนาดนี้! เพราะภาพของโยในความคิดของมาร์คคือเป็นคนที่เลวและเห็นแก่ตัว
โยอ้อนวอนมาร์คและร้องไห้สะอื้นไป ตอนนี้เจมส์กับเม้งก็ก้มลงข้างๆโย และขอโทษมาร์คเหมือนกัน
“มาร์ค....กูสองคนก็เคยแกล้งมึงเหมือนกัน! พวกกูขอโทษ.......”
“มาร์คกูก็ขอโทษ........ถึงกูจะไม่เคยแกล้งมึง แต่กูก็ไม่เคยช่วยมึงเลย ทั้งๆที่กูอยู่ในฐานะที่จะช่วยได้ กูยังรู้สึกผิดมาจนถึงทุกวันนี้......กูขอโทษมึงจริงๆ”
ต่อก้มลงขอโทษมาร์คข้างๆ เพื่อนด้วย
.........แม้แต่ต่อก็ยังช่วยมัน.....ทำไม!.....ทำไม!......ทีกับเรา......... มาร์คคิดในใจ
“พวกมึงรู้มั้ย!!! ว่ากูต้องทนทุกข์ทรมานอยู่กี่ปี!!! เด็กคนนึงต้องถูกเพื่อนเกือบทั้งห้องแกล้ง ล้อเลียน ทั้งพูดจาดูถูก และไม่มีใครคบ พวกมึงสนุก แต่กูต้องกลับบ้านมานั่งร้องไห้ทุกวัน บางวันกูก็คิด ว่าน่าจะตายๆ ไปซะ!!! จะได้ไม่ต้องทนไปโรงเรียนอีก!!!”
มาร์คพรั่งพรูความในใจออกมาบ้าง มาร์คพูดน้ำตาไหลอาบแก้มทั้ง 2 ข้าง หลังจากระเบิดอารมณ์ออกมาแล้วมาร์คก็ทรุดตัวลงมานั่งหมดแรงอยู่ที่พื้น
“คนที่ดูเหมือนจะเป็นเพื่อนกู........ก็ทิ้งกูไปซะอย่างงั้น!” มาร์คหันมาพูดกับต่อ ที่ตอนนี้ใบหน้าอยู่ระดับเดียวกัน
“มาร์ค กูขอโทษนะ กูรู้ว่ากูกลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้ ถ้ามึงจะให้กูทำอะไรชดใช้ มึงบอกกูมาได้เลย ถ้ามันจะทำให้มึงสบายใจขึ้นได้ กูพร้อมจะทำ!!!” ต่อบอกมาร์คด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“......................” มาร์คเงียบ
“กูก็ด้วย กูเป็นคนเริ่มทุกอย่าง มึงบอกกูมาเถอะ กูพร้อมจะชดใช้ให้ทุกอย่าง” โยพูดขึ้นบ้าง
“......................”
.
.
.
“เฮอะ.....”
มาร์คถอนหายใจพลางหยิบมือถือขึ้นมาลบทั้งรูป ทั้งคลิบของต่อกับโยออกไปจนหมด! จนทั้ง 4 คนอึ้ง! เม้งเห็นอย่างนั้นจึงหยิบมือถือของเจมส์มาลบคลิบที่แอบถ่ายลูกน้องของมาร์คด้วย
“จริงๆ กูก็ไม่ได้จะเอาไปปล่อยในเน็ตหรอก......กูแค่อยากให้พวกมึงแตกคอกัน! อยากให้ไอ้โยมันรับรู้ความรู้สึกของกูบ้าง ว่าเวลาถูกทิ้งอยู่คนเดียวมันจะเป็นยังไง!” มาร์คอธิบาย
“เอ้า....” มาร์คยืนมือถือให้ต่อ เผื่ออยากจะตรวจดูว่าลบจริงหรือไม่
“ไม่เป็นไรหรอก กูเชื่อใจมึง........กูรู้ตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ว่ามึงเป็นคนซื่อสัตย์ คำไหนคำนั้น”
ต่อพูดไปยิ้มไปด้วย
“ฮึฮึ...........”
ดูเหมือนจะเป็นเสียงหัวเราะและรอยยิ้มแรกของมาร์ค หลังจากที่ภาวะบีบคั้นสมัยประถมทำให้มาร์คมีปัญหาด้านการแสดงอารมณ์
“ขอบใจมึงมากนะมาร์ค กูเชื่อมาตลอดว่ามึงยังคงเป็นมาร์คคนเดิม....” ต่อบอกมาร์ค
ต่อลุกขึ้น......พลางยื่นมือมาหามาร์คเพื่อช่วยดึง มาร์คจึงยื่นมือจับตอบ ต่อดึงมาร์คจนลุกขึ้นมา เม้ง เจมส์ และโยก็ลุกขึ้นด้วย
“ตัวโตขึ้นเยอะนี่.......คงไม่ต้องให้ช่วยเหมือนแต่ก่อนแล้วมั้ง....” ต่อแอบแซวมาร์ค มาร์คก็อมยิ้ม
“แต่ว่า.....กูยังไม่จบกับไอ้โยนะ” โยสะดุ้งเฮือก!
“โย.....ในฐานะที่มึงเป็นตัวตั้งตัวตีในการแกล้งกู! ........ มึงต้องมาช่วยงานบ้านที่คอนโดกู 2 เดือนเพื่อเป็นการชดใช้ แต่คราวนี้ไม่มีเรื่องแบล็คเมลเข้ามาเกี่ยวข้อง!!!”
โยนึกถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดที่คอนโดของมาร์คแล้วยังกลัวไม่หาย แต่เอาก็เอาวะ!!! ในเมื่อมาร์คสัญญาแล้ว
“ได้ กูยินดีทำทุกอย่างให้มึงอยู่แล้ว” โยตอบด้วยใจจริง
“จริงๆ ที่กูแกล้งมึงอ่ะ.....” โยกำลังจะอธิบายมาร์คก็พูดขัดขึ้นมาก่อน
“เออ....ช่างเถอะ......เรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว.....เอาเป็นว่าตต่อไปนี้ถ้ามึงชดใช้กูหมด....ก็จบ” มาร์คพูด
“ที่สำคัญตอนนี้ประตูโรงเรียนจะปิดแล้ว พวกมึงรีบออกไปเถอะ ยามมันยิ่งเรื่องมากอยู่....”
ต่อ โย เจมส์ และเม้งขอบใจมาร์คอีกครั้งที่ยอมยกโทษให้ ก่อนเดินกลับออกมาจากโรงเรียนของมาร์คเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้า...... ในระหว่างที่กำลังเดินอยู่บนถนนไม่มีใครพูดอะไรซักคำ ต่อจึงพูดขึ้นมาเพื่อคลายความตึงเครียด.....
“โหย ไอ้โย มึงก็รักเพื่อนเหมือนกันนะเนี่ย.......” ต่อพูดพลางเอื้อมแขนไปกอดคอโย
“จิงด้วยว่ะ มันยอมแลกรูปมันกับรูปไอ้ต่อเชียวนะเว้ย” เม้งพูดขึ้นมา
“โห.......ฮีโร่สุดๆ” เจมส์แซวโยบ้าง ตอนนี้โยยิ้มอายๆ
“กูต้องขอโทษพวกมึงด้วยนะเว้ย เพราะการกระทำของกูแท้ๆ” โยตำหนิตัวเอง
“ไม่ต้องโทษตัวเองหรอกว่ะโย อย่างน้อยเราก็รู้ว่าพวกเรารักกันแค่ไหน ใช่มั้ย!!!” ต่อพูด
“ช่ายยย.....” เจมส์กับเม้งตอบพร้อมกัน
“กูขอบใจพวกมึงมากว่ะ” โยพูดยิ้มๆ
“งั้นมึงก็กลับมาเป็น “ไอ้โยลามก” คนเดิมได้แล้วดิวะ....” ต่อแซวโยกลับ
ทั้ง 4 คนเดินกอดคอหัวเราะกันไปบนถนนอย่างสบายใจ รู้สึกหมดห่วงที่ผ่านพ้นเรื่องต่างๆ มาได้ซะที แต่พอละสายตาจากเพื่อนๆ โยยังคงมีสีหน้ากังวล พลางนึกถึงเรื่องในอดีตสมัยอนุบาล อันแสนนานมาแล้ว............
“พวกเราๆ มาดูนักเรียนใหม่เร็วๆ ดูดิ ดูดิ หน้าเหมือนลูกครึ่งเลย....”
เพื่อนในห้องต่างลุกกรูไปออกันที่หน้าต่างหน้าห้องพลางชี้มือชี้ไม้
“ไหนๆๆ ขอดูด้วย!!” เสียงของเด็กชายโยดังขึ้น น้ำเสียงตื่นเต้นกว่าคนอื่นๆ เด็กชายโยยืดตัวขึ้นเพื่อที่จะมองได้ถนัดๆ พอเห็นเด็กใหม่ที่ยืนกอดแม่แน่น เด็กชายโยก็โพล่งออกมาทันที!!
“โห!!.....น่ารักจัง.....เหมือนตุ๊กตาเล้ยยย!”
“เมิงลงสถานีไหนวะโย” เสียงของต่อดังเข้ามาในหู ทำให้โยกลับมาสู่ความจริงในปัจจุบัน ต่อกำลังจะกดเครื่องซื้อบัตรรถไฟฟ้าให้โย
“เออๆ เดี๋ยวกูทำเองว่ะ....” โยตอบ พลางคิดถึงเรื่องที่จะต้องไปช่วยงานมาร์คที่คอนโดว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง..........
...............................................................................................................
จบตอน
Kink Team เขียน
.


Season One1 : Episode 10: Start Over!
Kinky Opera
>>Season One1<<
....ความดำมืดในใจก่อกำเนิด จิตเตลิดเกินห้ามปราบปรามไหว
ก่อกำหนัดพลาดพลั้งไปเมื่อใด ความจัญไรอาจย้อนจรสู่ตัว....
Episode 10: Start Over!
หากใครจำได้......เวลาขณะเรียนจะผ่านไปช้ามาก.....แต่เวลาสอบมักจะมาเร็วเสมอ!!!
เช่นเดียวกับที่โรงเรียนนี้! เวลาผ่านไปแป๊บเดียวก็มาถึงช่วงสอบมิดเทอมแล้ว ต่อ โย และเจมส์ เดินออกมาจากห้องสอบด้วยอาการเดียวกันคือ อาการมึน!!! ยกเว้นเพียงคนเดียวคือ เม้ง! ที่เดินออกมาอย่างหน้าระรื่น
“เฮ้ย ไอ้เม้ง เดินยิ้มออกมาเชียวนะ......ทำได้เหรอเมิงอ่ะ?” เจมส์ถามเม้งด้วยความสงสัย
“ก็พอได้ว่ะ....” เม้งตอบอมยิ้ม
“กูว่า “พอได้” ของมึงนี่เต็มชัวร์เลยว่ะ เมิงนี่ถ่อมตัวตลอด...” โยออกความเห็น
“กูก็ว่างั้นแหละว่ะ....แม่งอาจารย์ออกแต่ละข้อตรงกับที่พี่เอกเก็งให้เลยว่ะ แต่กูเสือกไม่อ่านชีทสรุปของพี่เค้าเอง.......แม่ง.....ถ้าเห็นคะแนน กูไม่รู้พี่เค้าจะว่าไง ไหนจะแม่กูอีก...” ต่อพูดยืดยาวเพื่อระบายความกังวลให้เพื่อนๆ ฟัง
“มึงก็ต้องโดนทำโทษซิวะ! ...... เพี๊ยะ เพี๊ยะ....” โยพูดพร้อมทำท่าล้อเลียนใช้มือตีไปที่ก้นของต่อ
“โอ๊ยยย ผมขอโทษครับพี่เอก! ต่อไปนี้ผมจะเป็นเด็กดีค๊าบบบ...” โยทำเสียงล้อเลียนต่อ
“ไอ้โย!!! มึงตาย” ต่อไล่เตะก้นโย แต่คราวนี้โยไวกว่าและหนีไปได้ ต่อจึงวิ่งไล่ตามโยไปทางโรงอาหาร เจมส์และเม้งต่างอดหัวเราะกับท่าทางเอาเป็นเอาตายของต่อไม่ได้..........
............................................................................................................................
“............................”
“............................”
.
.
คือความเงียบของเอกและคุณศรีเมื่อเห็นคะแนนสอบมิดเทอมของต่อที่ปริ้นท์ออกมาจากเวบไซต์ของโรงเรียน ในกระดาษมีหลายรายวิชาคะแนนผ่านเกณฑ์ทั้งหมด ยกเว้นวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ซึ่งได้ 13/30 กับ 15/30
“เอ่อ คือ.........” ต่อพยายามนึกคำพูดแก้เก้อกับสถานการณ์นี้ แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก
“ผมต้องขอโทษด้วยครับ แสดงว่าการสอนของผมไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ผมขอลาออกจากการเป็นครูสอนพิเศษครับ” เอกพูดพลางก้มหน้า
คุณศรีหันหน้ามามองต่อ ทำให้ต่อยิ่งรู้สึกผิด เพราะคุณศรีเคยมาสังเกตการสอนของเอกบ้างเป็นบางคราว ก็พบว่าเอกสอนเข้าใจได้ดีทีเดียว โดยเฉพาะชีทสรุปที่เอกทำมาให้ต่อสามารถอ่านเข้าใจตรงประเด็นและจำได้ง่ายด้วยซ้ำ
“เอ่อ......น้องเอกใจเย็นๆ ก่อนนะจ๊ะ พี่ว่าปัญหามันไม่ได้อยู่ที่การสอนของน้องเอกหรอก” คุณศรีอธิบาย เอกฟังแล้วก็ยิ่งรู้สึกแปลกใจ
“เอ้อ....ใช่ครับพี่เอก....คือผมไม่ได้อ่านชีทของพี่เองแหละ”
ต่อรีบเสริม ในใจคิดว่าถ้าพี่เอกลาออกไป ต่อจะหาความสุขเล็กๆน้อยๆ จากการมองร่างกายอันกำยำจากที่ไหน แต่แล้วต่อก็คิดขึ้นมาได้ว่าทำไมถึงต้องมีความสุขกับการมองร่างกายของผู้ชายด้วยหว่า เมื่อได้สติต่อก็กลับมาอยู่กับสถานการณ์ตรงหน้า
“พี่เห็นด้วยนะ...เรื่องที่ “ต่อไม่ได้อ่าน” ชีทของเอกน่ะ” คุณศรีเน้นเสียงแล้วหันมาทำตาค้อนใส่ต่อ ต่อเห็นสายตาแล้วเสียวสันหลังวาบ!
“แต่...ผม.....” เอกพูดไม่ทันจบคุณศรีก็พูดแทรกขึ้นมาซะก่อน
“พี่ว่าเอกลองสอนไปให้จบเทอมนี้ก่อนได้มั้ย พี่ไม่อยากให้เอกเสียกำลังใจเลยนะ พี่ว่าเอกก็สอนได้ดีเชียวแหละ ตอนสอบไฟนอลน้องต่อต้องได้คะแนนมากกว่านี้แน่นอน! ใช่มั้ยจ๊ะน้องต่อ?”
คุณศรีหันมามองต่อแต่สายตานั้นไม่ได้หวานเหมือนน้ำเสียงเลยแม้แต่น้อย ต่อพยักหน้าแล้วกลืนน้ำลาย
“เอ่อ ถ้าพี่ศรีให้โอกาสผม ผมก็จะของลองดูซักตั้งครับ” เอกบอกแต่ไม่ค่อยมีความมั่นใจ
“เอ้อ! แล้วถ้าน้องต่อยังดื้อ และไม่ตั้งใจเรียน พี่อนุญาตให้เอกดุหรือตีได้เลยนะ” คุณศรีบอกเอกด้วยความมั่นใจ
“โหยยยย........แม่อ่ะ......” ต่อรีบค้านทันที
“ไม่รู้ล่ะ.....แม่ปล่อยให้เราเอาแต่ใจมานานแล้วนะ ต่อไปนี้เราต้องเจอแบบนี้มั่งล่ะ” คุณศรีบอกกับต่อ
“นะจ๊ะเอก ช่วยน้องต่อหน่อยนะ ถือว่าพี่ขอ.....” คุณศรีขอร้องเอก
“ก็ได้ครับ” เอกตอบพลางหันมามองหน้าเจ้าตัวดีด้วยความเหนื่อยหน่าย ต่อยังคงทำหน้าไม่รู่ไม่ชี้
....................................................................................................
“โหย....เมิง.....แม่กูเอาจิงว่ะ......ให้พี่เอกตีกูได้ด้วยว่ะ....” เมื่อเอกกลับไปแล้วต่อก็รีบขึ้นมาโทรศัพท์หาโยทันที!
“เห็นมะ!.....กูบอกแล้ว....ฮ่า ฮ่า ฮ่า....” เสียงโยดังขึ้นที่ปลายสาย
“แม่ง.....ไม่ตลกเลยโว่ย! กรรม! กูตูดลายแน่งานนี้” ต่อสาธยาย
“ตูดลายก็ยังดีกว่าตูดบานนะเว้ยยย” โยแซวต่อ
“อ่ายเหรี้ยยย.......มึงชอบจิงนะเรื่องอย่างเงี๊ยะ แล้วมึงจะไปช่วยงานไอ้มาร์คเมื่อไหร่วะ?” ต่อถามโย
“เออว่ะ อาทิตย์หน้าแล้วนี่หว่า! ดีนะที่มันให้กูหยุดพักทำใจก่อนอ่ะ แถมยังต้องสอบมิดเทอมอีก ไม่งั้นกูไม่มีเวลาอ่านหนังสือแน่เลยว่ะ” โยตอบ
“เออ...ก็ดีแล้ว เวลามึงไปช่วยงานก็ทำดีๆล่ะ นึกเข้าไว้ว่าเมิงอ่ะ ทำกับเขาไว้เยอะนะ” ต่อบอกโย
“เออๆ รู้แล้วๆ .........เออ แค่นี้ก่อนนะเว้ย พี่กูเรียกว่ะ....” โยรีบตัดบท
“เออๆ แล้วค่อยคุยกันเว่ยยย...” ต่อวางสายจากโย พลางคิดว่าตัวเองคงต้องตั้งใจเรียนซะแล้ว
..............................................................................................................
เมื่อวันจันทร์ของสัปดาห์เวียนมาบรรจบอีกครั้ง ห้องเรียนก็กลับมามีสีสันแบบปกติ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้บรรบยากาศอึมครึมมาก เพราะทุกคนต่างเคร่งเครียดกับการอ่านหนังสือสอบมิดเทอม
แต่ต่อกลับไม่เป็นเช่นนั้น ต่อกลับเครียดกว่าเดิมเมื่อรู้ว่านอกจากตัวเองแล้ว เพื่อนๆในกลุ่มไม่มีใครได้คะแนนต่ำกว่า 20 ซักคน! ยิ่งไอ้เม้งยิ่งไม่ต้องพูดถึง ได้เต็มตั้ง 3 วิชา ทั้งคณิต วิทย์ อังกฤษ
“โหยยย แม่ง จะเก่งไปไหนวะไอ้เม้ง...” ต่อพูดขึ้นมาด้วยความน้อยใจ
“เฮ้ย ไอ้ต่อ ไม่เป็นไรนะเว่ย สู้ๆ เดี๋ยวกูช่วยติวให้ รับรองสอบไฟนอลมึงเต็มแน่ๆ” เม้งพูดปลอบใจต่อ
“คราวนี้มันไม่เหมือนตอนประถมแล้วนะเว่ย! อาจารย์ออกข้อสอบยากขึ้น แล้วต้องคิดมากขึ้นด้วย ไม่ค่อยมีแล้ว แบบที่จำมาแล้วก็มาตอบๆ อ่ะ” เม้งอธิบาย
ทำให้วันนี้ต่อตั้งใจเรียนขึ้นมามากกว่าทุกครั้งและพยายามทำความเข้าใจสิ่งที่อาจารย์สอน แต่ก็ไม่ลืมที่จะจดตามไปด้วย จนมารู้ตัวอีกทีก็คาบสุดท้ายแล้ว
“อ่อออดดด......”
เสียงสัญญาณของคาบสุดท้ายดังขึ้น ทุกคนรีบเก็บของลงกระเป๋าเพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน
“เอ่อ พวกมึงกูไปคอนโดไอ้มาร์คก่อนนะ” โยพูดขึ้นขณะเดินออกมาทางหน้าตึกเรียนกับเพื่อนๆ
“เออๆ โชคดีว่ะเมิง แน่ใจนะว่าไม่ต้องให้พวกกูไปส่งอ่ะ” เจมส์ถามโยเพื่อความแน่ใจ
“ไม่ต้องเว้ย! กูซะอย่าง.....” โยพูดด้วยความมั่นใจ และในใจก็ไม่อยากให้เพื่อนๆ ตามไปส่งด้วย เพราะจะเป็นวันแรกที่......
“โอเค.....งั้นเจอกันพรุ่งนี้ว่ะ” ทั้งกลุ่มต่างลากันกลับบ้าน
โยเดินมาที่รถของตัวเอง ที่คุณลุงคนขับจอดรออยู่ที่หน้าโรงเรียน
“ลุงครับ ไปส่งผมที่ริเวอร์วิวคอนโดที่อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยานะครับ” โยบอกตำแหน่งคอนโดของมาร์คกับลุง
“อ้าว!! คุณหนูโยจะไปทำอะไรเหรอครับ ไม่กลับบ้านเหรอครับ” ลุงถามด้วยความแปลกใจ
“โหยยย ลุง...เลิกเรียกผมคุณหนูได้แล้ว ผมโตแล้วนะค้าบ” ลุงฟังแล้วก็หัวเราะด้วยความเอ็นดู
“ตั้งแต่วันนี้ไป ผมจะต้องไปทำงานพิเศษครับ แล้วลุงค่อยมารับผมตอน 2 ทุ่มนะครับ”
“อย่างคุณโยไม่เห็นจะต้องทำงานพิเศษเลยครับ เหนื่อยเปล่าๆ” ลุงเข้าใจว่าโยจะไปทำงานพิเศษเพื่อหาเงิน
“หึหึ ลุงคับ งานนี้ผมเต็มใจทำ” โยบอกกับลุงด้วยความมั่นใจ
....................................................................................................................................
หน้าห้องของมาร์ค....
“ติ๊ง...หน่อง....” เสียงกริ่งที่โยกดดังขึ้นภายในห้องชุดจนได้ยินออกมาถึงข้างหน้าประตู
โยยืนถือกระเป๋าจาคอบอยู่ข้างหน้าห้องของมาร์คพลางดูนาฬิกา
.............. 17.00 น. ...............
............. โหยยย เลิกตั้ง 2 ทุ่ม แน่ะ...............
โยสังเกตเห็นเงาของคนทอดออกมาจากช่องด้านล่างของประตู คนๆ นั้นกำลังเดินมาทางประตูนั่นเอง!!
“แกร๊กก” เสียงของกลอนประตูถูกปลดล็อคดังขึ้น!
“แอ๊ดดด......”
ประตูเปิดออก ร่างของมาร์คยืนอยู่หลังประตูโดยนุ่งผ้าเช็ดตัวสีขาวอยู่ผืนเดียว ตามร่างกายรวมถึงเส้นผมมีหยดน้ำเกาะอยู่ประปาย กลิ่นหอมอ่อนๆ ของสบู่และแชมพูโชยมาแตะจมูกของโย ร่างกายของมาร์คล่ำสัน สมส่วนมาก มากเกินเด็กอายุ 13 คงเป็นเพราะได้ฝึกกีฬามาอย่างหนัก แถมยังได้ผิวขาวแบบฝรั่งมาจากแม่ ที่แขนอีกข้างหนึ่งของมาร์คถือผ้าเช็ดตัวผืนเล็กอยู่อีกผืน แขนล่ำๆ นั้นขาวอย่างกับไม่เคยตากแดดมาก่อน ทำให้ตามกล้ามแขนเห็นเส้นเลือดสีเขียวแบบจางๆ ตอนนี้โยกำลังกลืนน้ำลายหลังจากที่ยืนอึ้งมาประมาณ 5 วินาที
“เอ้า.....เข้ามาซิวะ” พอมาร์คพูดขึ้นมาโยจึงได้สติ แล้วเดินตามมาร์คเข้าไปในห้อง
“มึงรอแป๊บนะ....” มาร์คพูดพลางชี้ให้โยนั่งรอที่โซฟาราคาแพง
เมื่อโยนั่งลงที่โซฟา โยก็สังเกตรอบๆ ห้องนั่งเล่นเพราะคราวที่แล้วถูกพาตัวมาอย่างทุลักทุเล และไม่ได้สังเกตอะไรมากนัก ห้องนั่งเล่นถูกตกแต่งด้วยทีวีจอแบนขนาดใหญ่พร้อมเครื่องเสียงชั้นดีอีก 1 ชุด ถัดจากทีวีไปด้านซ้ายจะเจอห้องครัวขนาดย่อมๆ ที่ติดอยู่กับห้องน้ำและระเบียง เมื่อมองไปทางด้านขวาของทีวีจะเจอกับประตูทางเข้าเมื่อกี้นี้ ถัดจากประตูนั้นไปก็เป็นประตูห้องอีก 2 ห้อง ซึ่งห้องหนึ่งปิดไว้ ส่วนอีกห้องประตูเปิดค้าง ทำให้เห็นมาร์คกำลังยืนหันหลังแก้ผ้าอยู่ ตอนนี้โยหันกลับมามองที่ทีวีอีกครั้ง.......
.
.
.........อะไรนะ!!! ไอ้มาร์คแก้ผ้า!!! ..........
โยหันกลับไปมองอีกครั้ง เพราะคิดว่าตัวเองตาฝาดไป แต่ที่ไหนได้ เป็นอย่างนั้นจริงๆ!!! มาร์คยืนอยู่ระหว่างเตียงกับตู้เสื้อผ้า หันหลังเปลือยเปล่า ผ้าเช็ดตัวกองอยู่ที่ปลายเท้า........ ไหล่ของมาร์คใหญ่สมกับที่เป็นนักยิมนาสติก โยรีบมองแล้วเก็บภาพไว้ในหัวโดยอัตโนมัติ
เมื่อมองต่ำลงมามาร์คมีเอวที่คอดและก้นที่กลมกลึงกำลังพอดีๆ ไม่ใหญ่หรือไม่แฟ่บจนเกินไป แถมก้นยังขาวเนียนเหมือนผิวของเด็กไม่มีผิด เวลามาร์คยกขาเพื่อใส่กางเกงจะเห็นกล้ามเนื้อที่ก้นแข็งเกร็งแน่นขึ้นมาเป็นระยะๆ ตอนนี้มาร์คใส่กางเกงบอลสีน้ำเงินเข้มโดยไม่ใส่กางเกงใน! แต่สีของกางเกงบอลก็ตัดกับสีผิวของมาร์คให้ขาวโดดขึ้นมาเป็นอย่างดี
ตอนนี้มาร์คเดินกลับออกมาจากห้องนอนมานั่งดูทีวีอยู่ที่โซฟาข้างๆ โย โยรีบหันหน้ากลับมามองทีวีแล้วทำสีหน้าให้ปรกติมากที่สุด
“ปกติอยู่บ้านกูแต่งตัวอย่างงี้ ไม่ว่ากันนะ...” มาร์คพูดแต่สายตายังคงมองที่ทีวี ซึ่งข่าวช่วงเย็นกำลังมาพอดี ทำให่บรรยากาศค่อนข้างอึดอัด
“เอ่อ.....ไม่เป็นไรว่ะ” โยตอบแต่ตาของโยไม่ได้มองที่ทีวีและหน้าของมาร์ค หากแต่มองที่หน้าท้องอันแบนราบของมาร์คที่กำลังหายใจขึ้น-ลง ขึ้น-ลง เห็นกล้ามเนื้อซิกซ์แพ็คแบบรางๆ เมื่อมองขึ้นมาจะเห็นหัวนมที่แตกพานและมีสีชมพูอ่อนๆ ช่างน่า.........
“แล้วมึงจะให้กูช่วยงานอะไรวะ” โยเรียกสติของตัวเองกลับคืนมาก่อนที่จะคิดลึกไปมากกว่านี้
“งั้นมึงช่วยทำข้าวเย็นให้กูหน่อยละกัน”
“หุงข้าวแล้วก็ทอดไข่ดาว 2 ฟอง แล้วก็เอากับข้าวในตู้เย็นมาอุ่นไมโครเวฟด้วย ของง่ายๆ แค่นี้มึงทำเป็นป่าววะ?”
..........โหยย แม่ง...ดูถูกกูชิบหาย................

ปกติโยอยู่ที่บ้านก็จะหัดทำกับข้าวเองอยู่แล้ว เพราะโยชอบทานข้าวไม่เป็นเวลาเหมือนชาวบ้าน ป๊ากับม้าก็ไม่ว่าอะไร จะไปเรียกคนใช้มาทำให้ก็ขี้เกียจ ก็เลยทำกับข้าวกินเองซะเลย แถมได้เลือกกินแต่ของที่ตัวเองชอบด้วย
“เอ่อ ได้ๆ กูทำเป็น....” โยตอบ
โยใช้เวลาสักครู่ใหญ่เตรียมกับข้าว จนนาฬิกาบอกเวลากือบ 6 โมงเย็นพอดี
“เสร็จแล้วคร้าบ......คุณชายมาร์ค” โยเรียกมาร์คและวางกับข้าวจานสุดท้ายลงบนโต๊ะกินข้าวพอดี
มาร์คเดินมานั่งที่โต๊ะกินข้าว พอเห็นอาหารแล้วก็ยิ้มเล็กน้อย โยเห็นรอยยิ้มของมาร์คก็รู้สึกดีใจขึ้นมาทันที ถึงแม้จะไม่ได้ยิ้มให้ตัวเองก็เถอะ
“เมิงก็ตักข้าวมานั่งกินด้วยกันดิ....” มาร์คบอกโย โยจึงเดินไปตักข้าวใส่จานอีก 1 ใบแล้วเดินกลับมานั่งที่โต๊ะกินข้าว
“เดี๋ยวก่อน!!” มาร์คห้ามขึ้นมาขณะที่โยค้างอยู่ในท่ากำลังจะนั่งเก้าอี้
“มึงมายืนข้างๆ กูดิ๊....” มาร์คพูดและชี้ให้โยมายืนข้างๆ โต๊ะ โยก็มาแต่โดยดีแต่ใบหน้าของโยบ่งบอกถึงความงงสุดขีด
“กูอยากกินของหวานด้วย” มาร์คพูดพลางเลื่อนจานเปล่ามาที่ข้างหน้าของโย
“งั้นกูลงไปซื้อให้ก็ได้ ในตู้เย็นของหมดแล้ว มึงอยากกินอะไรล่ะ” โยบอก
“มึงไม่ต้องลงไป มึงทำตรงนี้แหละ น้ำว่าวมึงอ่ะ!!!” มาร์คพูดด้วยใบหน้าเฉย
............................................................................................................................
“มึงไม่ต้องลงไป มึงทำตรงนี้แหละ น้ำว่าวมึงอ่ะ!!!” มาร์คพูดด้วยใบหน้าเฉย
“ห๊ะ!!!! มึงพูดว่าอะไรนะ!!” โยคิดว่าคงหูฝาดไป
“กู-บอก-ว่า-เอา –น้ำ-ว่าว-มึง-ใส่-จาน” ชัดเจนครับพี่น้อง โยอึ้ง!!
“มึงบ้าไปแล้ว!!!” โยโวยวาย
“ไหนมึงบอกว่ามึงจะทำทุกอย่างให้กูไง” มาร์คแกล้งบอกโยด้วยน้ำเสียงผิดหวัง
.......... ใครจะไปกล้าทำวะ ทุกทีเวลาทำก็อยู่คนเดียว ..........
โยคิดในใจ
“ไม่เห็นต้องอายเลย กูก็เคยเห็นของมึงแล้ว ทีกูยังโดนมึงจับแก้ผ้าต่อหน้าคนอื่นตั้งหลายคน....”
ยิ่งมาร์คยกประเด็นนี้ขึ้นมายิ่งทำให้โยรู้สึกผิดและต้องยอมแพ้
.............โถ่โว้ย!!! ......เอาก็เอาวะ!! ..............
โยจึงถอดเข็มขัด กางเกงนักเรียนสีน้ำเงิน และกางเกงในจนลงมากองที่ปลายเท้า
“ไหนขอกูดูชัดๆ หน่อยซิ”
โยจึงจำใจปลดกระดุมเสื้อนักเรียนด้วย และแหวกเสื้อออกเพื่อให้มาร์คเห็นชัดๆ ตอนนี้โยเม้มปากและหน้าแดงก่ำด้วยความอายสุดๆ
“เอาล่ะ เริ่มทำได้!” มาร์คบอก
“แต่กู.......” โยยังคงลังเลและอาย
“ถ้ามึงอายนัก กูถอดเป็นเพื่อนก็ได้” มาร์คพูดเสร็จก็นั่งเอนหลังและถลกกางเกงบอลมาอยู่ที่หัวเข่า
โยเห็นถึงกับตะลึง นอกจากมาร์คจะไม่อายแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่โยได้เห็นควยของมาร์คแบบจะๆ ควยของมาร์คพองเต็มที่ ตรง สวย ขาว หนังหุ้มเปิดแล้วเหมือนของโยเผยให้เห็นหัวควยสีแดงอมชมพู แถมหมอยก็ขึ้นเยอะจนเกือบเหมือนของผู้ใหญ่ จนโยเห็นแล้วก็ต้องอิจฉา......นอกจากความรู้สึกอิจฉาแล้ว ยังมีอีกความรู้สึกหนึ่งที่ผลักดันให้เลือดของโยสูบฉีดไปทั่วร่าง จนมาค้างเติ่งอยู่ที่ส่วนกลางของลำตัวและเริ่มพองขึ้นๆ ทุกขณะ
..............อะไรวะ!! หมอยมึงขึ้นเยอะขนาดนี้แล้วเหรอวะ ของกูยังไม่ถึงไหนเลย...................
.............แต่อย่างน้อย ควยกูก็ใหญ่กว่าควยมึงล่ะวะ!!........................
..............เอาวะ! ถ้าคนดูไม่อาย คนทำก็ไม่อายโว่ย!!....................
เมื่อคิดเสร็จโยจึงเริ่มเอามือขวากำรอบควยของตัวเองและชักเข้าชักออก มาร์คยังคงนั่งกอดอก ดูการกระทำของโยตาไม่กระพริบ เหมือนเป็นผู้สังเกตการณ์ ตอนนี้โยละความอายเอาไว้ก่อนเพื่อทำภารกิจเบื้องหน้าให้สำเร็จ แถมยังมองร่างเปลือยเปล่าของมาร์คอย่างไม่เกรงใจเช่นกัน เพื่อเป็นการเอาคืนบ้าง
ตอนนี้น้ำใสๆเริ่มไหลออกมาเป็นสายจากหัวควยของโย จนมาร์คต้องทึ่งเพราะโยเป็นคนที่น้ำเงี่ยนเยอะทีเดียว โยเริ่มหายใจแรงขึ้น ชักเร็วขึ้น และเริ่มเอาภาพของมาร์คเข้ามาในหัว
.............ทำไมกล้ามมันแน่นอย่างงี้วะ...............
.............ตูดมึงก็ขาว ควยเอ้ย!....มึงทำกูเงี่ยนรู้มั้ย...............
.............ถ้ากูน้ำแตกแล้วมึงไม่กินน้ำเงี่ยนกูนะ.....กูเอามึงตาย!!........
โยเร่งมือจนเข้าใกล้ถึงจุดสุดยอดเข้าทุกที.........
“หยุด!!!!” มาร์คตะโกนเสียงดังแถมเอามือมาตีที่ก้นโย 1 ที จนโยตกใจ!
“อะไรของมึงวะ!!” โยถามด้วยความตกใจปนสงสัย
“มึงนี่ก็โง่เนาะ!! กูบอกให้ทำอะไรก็บ้าจี้ทำตาม.....” มาร์คพูดพลางดึงกางเกงบอลขึ้นมาใส่ไว้ตามเดิมแล้วลงมือกินข้าว ปล่อยให้โยงง
.........อ้าว ไอ้นี่!! มึงวอนซะแล้ว......
โยคิด แถมไม่รู้จะหาทางออกให้กับความเงี่ยนของตัวเองอย่างไรดี
“มะ ใส่เสื้อผ้าแล้วกินข้าว!” มาร์คพูดเหมือนก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น พลางกินข้าวแล้วดูละครหลังข่าวอย่างสบายใจ
...........ไอ้มาร์คนะไอ้มาร์ค....นี่มึงจะแกล้งกูใช่มั้ย?........
โยคิดในใจพลางติดกระดุมเสื้อ และดึงกางเกงในขึ้นมาใส่ทั้งๆที่ควยยังแข็งอยู่ น้ำเงี่ยนที่เหลือจึงซึมออกมาเป็นดวงๆ ที่กางเกงในอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำให้มาร์คหัวเราะขึ้นมา
โยอายหน้าแดงแต่ก็ใส่กางเกงนักเรียนจนเสร็จ จากนั้นจึงลงมานั่งที่โต๊ะกินข้าว แล้วแล้วกินข้าวไปแบบไม่สบอารมณ์
...................................................................................................................................
“ไอ้โย......นี่กุญแจห้องกู พรุ่งนี้มึงมาถึงก็ทำกับข้าวไว้เลยนะ พวกของสดกูจะใส่ไว้ในตู้เย็นให้”
มาร์คยื่นกุญแจให้โยหลังจากที่โยล้างจานเสร็จแล้ว โยรีบเช็ดมือแล้วรับกุญแจมาจากมาร์ค
“อ้าว ทำไมล่ะ” โยถาม
“พรุ่งนี้กูซ้อมตอนเย็น จะกลับมาประมาณ 6 โมง” มาร์คตอบ
“โอเคๆ เด๋วกูทำไว้ให้” โยรับปากและแอบบคิดไม่ได้ว่ามันเหมือนบทสนทนาของคนเป็นสามีภรรยากัน
“งั้นกูกลับก่อนนะ 2 ทุ่มละ” โยพูดพลางเดินไปหยิบกระเป๋านักเรียนบนโซฟา
“เออๆ มีคนมารับอยู่ใช่ป่ะ” มาร์คถาม พลางเดินมาเปิดประตูให้
“อืมมมม” โยตอบพลางใส่รองเท้าแล้วเดินออกมาหน้าห้อง
“กลับไปมึงก็ไม่ต้องไปทำอะไรนะ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ......” มาร์คพูดเสร็จก็ปิดประตู ทำให้โยนึกถึงเรื่องที่ตัวเองทำค้างไว้ และควยก็เริ่มพองขึ้นมาดันกางเกงนักเรียนจนนูนออกมา โยอายมากจึงเอากระเป๋านักเรียนมาปิดข้างหน้าไว้แล้วลงลิฟท์
“ลุงเร็วๆ เลยนะครับ ผมรีบ” เมื่อก้าวขึ้นมานั่งบนรถแล้วโยก็รีบสั่งลุงทันที!!
“ครับๆ” ลุงรับปากแล้วรีบบึ่งรถกลับบ้านทันที!
........................................................................................................................
ทันทีที่โยมาถึงบ้านก็รีบวิ่งผ่านห้องอาหารขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่พ้นสายตาของป๊ากับม้า
“โยมาทานข้าวก่อนลูก.........”
“กินไปเลยม้า โยกินมาแล้ว.....” โยตะโกนแบบไม่ใส่ใจนัก
“แกร๊ก..” เมื่อขึ้นมาถึงห้องนอนโยรีบล็อคห้องทันที!
ไม่เพียงเท่านั้นโยยังกระโดดขึ้นเตียง นอนหงายแล้วรีบแก้กางเกงนักเรียนออก เพื่อสานต่องานที่ค้างไว้
.............ไอ้มาร์คทำกูได้นะวันนี้.............
...........กูเงี่ยนนะรู้มั้ย!!! ......................
โยคิดพลางชักควยของตัวเองไปด้วย
...........มึง....ไอ้มาร์ค....................
.............มึงต้องโดน................
“อ่ะห์............”
“ปึ๊ด ปึ๊ด ปึ๊ด ปึ๊ด.........................”
เนื่องจากมีความเงี่ยนเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงทำให้โยถึงจุดหมายได้ไม่ยากนัก น้ำว่าวของโยทะลักออกมาราวกับเขื่อนแตก! พุ่งออกมาจนถึงหน้าอกและท้อง เปรอะเปื้อนเต็มเสื้อนักเรียนไปหมด
“แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก........” โยลงทุนลงแรงไปมากจนเหนื่อยหอบ แถมยังโดนใช้แรงงานมาอีกทำให้ตอนนี้โยเหนื่อยจนอยากจะหลับซะแล้ว
..............ขอนอนก่อนละกัน....................
.............การบ้านก็ยังไม่ได้ทำ.................
.............ลอกไอ้เม้ง........พรุ่งนี้.......เช้า.......ละ......กัน...............
.

.

“คร่อก.......ฟี้.......”
..................................................................................................................................
จบตอน
Kink Team เขียน''

Season One1 : Episode 11: Go for it!
Kinky Opera
>>Season One1<<
....ความดำมืดในใจก่อกำเนิด จิตเตลิดเกินห้ามปราบปรามไหว
ก่อกำหนัดพลาดพลั้งไปเมื่อใด ความจัญไรอาจย้อนจรสู่ตัว....
Episode 11: Go for it!
กลางอาทิตย์เป็นอะไรที่น่าเบื่ออย่างที่สุด นอกจากเวลาจะผ่านไปอย่างเชื่องช้าแล้ว อากาศยังร้อนและชื้นเหมือนฝนทำท่าจะตกอีกด้วย เด็กหนุ่มทั้ง 4 คนต่างหาวิธีแก้เซ็งโดยการหลบมายังถิ่นประจำ ก็คือที่ห้องน้ำชั้น 8 นั่นเอง
“ไงวะไอ้โย! ไปชดใช้กรรมที่คอนโดไอ้มาร์ค” เจมส์ถามขึ้นมา ขณะที่ทั้งกลุ่มกำลังเดินเข้ามาในห้องน้ำชั้น 8
“เฮ้อ....ก็ดีว่ะ” โยตอบพร้อมถอนหายใจ
“อะไรวะโย...... ก็ดีแล้วทำไมต้องถอนหายใจด้วยวะ!” เม้งถามด้วยความสงสัย
“ทำมะ?? ...... ถูกไอ้มาร์คจับแก้ผ้าอีกละซิ?” ต่อถามแบบหยอกๆ ดูเหมือนต่อจะติดนิสัยบางส่วนของโยเข้าให้ซะแล้ว
“ไอ้ห่า! ลามกนะมึงอ่ะ” โยรีบตอกกลับ
แต่ในใจก็คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ มันก็แนวๆ แก้ผ้าล่ะวะ แต่มันมีอย่างอื่นเสริมเข้ามาด้วยเนี่ยสิ!!! แต่ตั้งแต่วันนั้นโยก็ไม่ได้เจอเรื่องเซอร์ไพรซ์อีกเลย เพราะมาร์คมัวแต่ยุ่งกับการซ้อมกีฬาทำให้กว่ามาร์คจะกลับก็ปาเข้าไป 6 โมงครึ่งหรือ 1 ทุ่ม พอกลับมามาร์คก็ไม่พูดไม่จามัวแต่กินข้าวด้วยความหิว
“....จะหนาว...เหน็บ...หนาว...เพียง...ไหน...จะ..ฝ่า..ไป.....”
เสียงริงโทนของมือถือโยดังขึ้น! โยมองหมายเลขบนหน้าจอแล้วก็ต้องรีบหันหน้าออกจากวงสนทนาทันที! แถมยังเอามืออีกข้างมาป้องที่ปากอีก ทำให้ทั้ง 3 คนยิ่งสงสัยกับท่าทีของโย
“ฮัลโหล....” โยรับสาย
ตอนนี้ต่อ เม้ง และเจมส์ ค่อยๆ ย่องเข้ามาข้างหลังของโยเพื่อแอบฟังการสนทนา
“เอ้อ...วันนี้กูกลับเร็วนะ” ปลายสายคือมาร์คนั่นเอง!
“เออๆ รู้แล้ว” โยตอบ
.........จะโทรมาบอกแค่เนี้ยะ?......... โยคิดในใจไปด้วย
“เอ่อ......แล้ว.....คนอื่นๆ สบายดีมั้ย?” มาร์คถามตะกุกตะกัก
“อืมม ก็ดี” โยตอบ
..............จะถามทำไมวะ?...............
“เอ้อ งั้นเจอกันที่คอนโดละกัน”
“โอเคร....” โยวางสาย พลางหันหน้ากลับมายังวงสนทนา แต่ก็ต้องตกใจที่เห็นทั้ง 3 คนแอบฟังอยู่ข้างหลังนี่เอง!
“อะไรวะ ต้องมีโทรนัดแนะกันด้วยเว้ยเฮ้ย!!!”
ต่อรีบใช้โอกาสนี้แซวโยทันที หมั่นไส้มันมานานแระ!!
“ยังกะแฟนกันแน่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เจมส์รีบเสริมให้ต่อ
“พวกมึงบ้าป่าววะ!!!” โยพูดพร้อมกับหน้าแดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว!
“เออน่า.... มึงยอมรับมาเหอะ! สมัยนี้เค้าไม่ถือหรอก ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เม้งก็อีกคน สงสัยโยจะสร้างศัตรูไว้เยอะ
“เดี๋ยวเหอะ พวกเมิงงงง...” โยไล่แตะก้นทีละคน แต่ทุกคนก็หลบได้ ทุกคนต่างรู้ว่าแค่แซวโยเล่นๆ ยกเว้นตัวของโยเองซึ่งยังไม่แน่ใจตัวเองมากนัก
........................................................................................................................................
คอนโดมาร์ค.....................
“เออ เข้ามาดิ” มาร์คพูดตอนโยเคาะประตูแล้วใช้กุญแจที่มาร์คให้ไว้ไขเข้ามา
“วันนี้จะให้กระผมทำอะไรครับคุณชาย?” โยถามมาร์คที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่ในชุดนักเรียนกางเกงดำแบบปล่อยชายเสื้อ
“วันนี้มึงล้างห้องน้ำให้กูหน่อยละกัน มันเริ่มสกปรกแล้วว่ะ” มาร์คตอบ
“โหย....งานหนักว่ะวันนี้...” โยอิดออด
“ทำไปเลยมึง......ไม่ต้องมาบ่น” มาร์คใส่เข้าให้
“โน่น...น้ำยาล้างกับแปรง” มาร์คพูดพลางชี้ตำแหน่งให้โยดู
“มึงถอดเสื้อผ้าออกก็ได้นะ เดี๋ยวมันเปื้อน”
“อีกแระ มึงจะมาหลอกอะไรกูอีกวะ?” โยรีบถามด้วยความระแวง
“เฮ้ย คราวนี้ไม่ได้หลอกเว่ย! ระแวงจิงๆนะเมิง ฮ่า ฮ่า ฮ่า” มาร์คพูดพลางหัวเราะ
“อารมณ์ดีจิงนะเมิง เวลาแกล้งกูเนี่ย!” โยพูด
“อ้าว จิงๆ นะเว่ย! หรือเมิงอยากให้ชุดนักเรียนเปื้อน?” มาร์คถาม
“เออๆ”
โยตัดบท พลางถอดเสื้อนักเรียนและตามด้วยกางเกงนักเรียนสีน้ำเงิน
ตอนนี้โยถอดชุดนักเรียนออกหมดจนเหลือแต่กางเกงใน C-IN2 สีขาวเนื้อผ้า Lycra
“C-IN2 กระแดะว่ะ! เป็นเด็กเป็นเล็กใส่ยี่ห้อซะไฮโซ! ข้างในมันเป็นทองเหรอไงวะ” มาร์คแซว
“อ้าว ก็แม่กูซื้อให้หยั่งงี้นี่หว่า!! แล้วมึงจะดูมั้ยล่ะว่าข้างในนี้ทองหรือป่าว?”
โยตอบพลางเดินเข้ามาใกล้ๆ มาร์คแล้วแอ่นให้ดูชัดๆ
มาร์คเหลือบมองแล้วก็ต้องกลืนน้ำลาย เพราะควยของโยเริ่มแข็งจนดันเนื้อผ้า Lycra ที่บางและแนบเนื้อจนเห็นเป็นลำชัดเจน แถมยังเห็นพวงไข่กลมกลึง 2 ข้าง ชนิดที่เรียกว่าเหมือนไม่ได้ใส่อะไรเลยทีเดียว!!!
มาร์คมองอยู่ประมาณ 3 วินาที ไม่รู้จะแก้เก้ออย่างไร จึงเอื้อมมือหวังจะกำที่ไข่ของโย แต่โยหลบทัน
“ฮ่าๆๆ มึงไม่ได้แอ้มกูหรอกเว่ยยย...” โยพูดเสร็จก็เดินเข้าห้องน้ำไป แต่ไม่ได้ปิดประตู
ขณะที่โยทำความสะอาดห้องน้ำมาร์คก็แอบมองโยอีกครั้งแบบเพ่งพิจารณา
..........หุ่นผอมเชี้ยะ มันเอาสารอาหารไปเลี้ยงควยหมดเหรอไงวะ.......
“เอ้อโย เมิงเล่นกีฬาบ้างป่าววะ?” มาร์คตะโกนถามเข้าไปในห้องน้ำ
“ไม่ได้เล่นเลยว่ะ....” โยตอบ
“อ้าว! ไหนเพื่อนกูบอกว่ามึงเป็นนักกีฬาโรงเรียนไงวะ?”
“เออ กูเป็น แต่ก็ไม่ได้ลงแข่งว่ะ พูดง่ายๆ คือกูเป็นเบ๊ว่ะ” โยตอบ
“มึงไม่สังเกตเหรอ? กูถึงทำพวกงานปัดกวาดเช็ดถูเก่งไง”
“อ้อ.....มึงอยู่ชมรมไรล่ะ?” มาร์คถาม
“บาส”
.........หน่วยก้านไม่ให้เล้ย......แถมตัวยังเตี้ยอีก!......
.................................................................................................................................
1 ชม. ผ่านไป.......
“เฮ้ย...มาร์คเสร็จแล้วว่ะ....ไปไหนวะ?” โยออกมาจากห้องน้ำแต่ไม่เห็นมาร์ค
“กูอยู่ในห้อง.....” เสียงของมาร์คแว่วมาไกลๆ
โยเดินโทงๆ เข้าไปหามาร์คโดยที่ยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า
“มานั่งอะไรอยู่บนเตียงวะ?” โยถามเมื่อเห็นมาร์คนั่งอยู่
“ยึดพื้นท่าเตรียม!!” มาร์คสั่งโย
“อะไรของมึงวะ???” โยงงมาก
“กูบอกว่ายึดพื้นท่าเตรียม!!!”
“เพี๊ยะ!!”
มาร์คสั่งโยอีกครั้งพร้อมทั้งหวดไม้ปัดฝุ่นไปที่ก้นของโย
“โอ๊ยย!! กูเจ็บนะเว่ย! มึงเล่นอะไรเนี่ย !!” โยถามด้วยความสงสัย
“ตั้งแต่วันนี้ไปกูจะเป็นโค้ชฝึกให้มึงเอง” มาร์คพูดด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ
“ใครเค้าขอให้มึงทำวะ! ไม่มีซะหน่อย” โยยังคงอิดออด
“แต่มึงต้องทำ ถือว่าเป็นการชดใช้ให้กู! มึงลืมแล้วเรอะ!!” มาร์คเอาไม้ตายมาอ้าง
..........ไอ้ห่า!! เอามาอ้างอีกแระ....กูยิ่งขี้เกียจอยู่...........
โยคิดในใจ
.........เอาวะ....ตามใจมันหน่อยละกัน.......ถือว่าชดใช้กรรมแม่ง..........
“ก็ได้วะ!” โยตอบแล้วลงไปอยู่ในท่าเตรียมบนพื้น
“10 ครั้ง!!! ทวนด้วย!!!” มาร์คบอก
“10 ครั้ง!!” โยทวน
“20 ครั้ง!”
“ไรว้า...” โยท้วง
มาร์คถลึงตาแบบว่าหรือมึงจะเอามากกว่านี้
“20 ครั้ง!” โยทวนแต่ก็ทำหน้าอิดออด
“ปฏิบัติ!!” มาร์คส่งสัญญาณให้เริ่มทำได้
“หนึ่ง”
“สอง”
“สาม”
.
“สี่”
.
.
“ห้า”
.
.
.
“หก”
โยเริ่มนับห่างขึ้นเรื่อยๆ มาร์คเริ่มถอนหายใจ
“เพี๊ยะ!!” มาร์คกระตุ้นด้วยการฟาดไปที่ก้นของโย
“เร็วๆ!!”
“เจ็ด”
“แปด”
ตอนนี้โยเริ่มเหนื่อยอย่างเห็นได้ชัด แขนโยเกร็งจนสั่น แถมเหงื่อยังผุดขึ้นตามใบหน้า หน้าอก และหลัง โยยังคงวิดพื้นไปเรื่อยๆ
“สิบห้า”
.
“สิบหก”
.
.
.
“สิบเจ็ด....แฮ่กๆ”
โยเริ่มไม่ไหวแล้ว เหงื่อกาฬของโยพุดขึ้นเต็มหลัง ที่ผุดขึ้นมาตามใบหน้าและหน้าอกก็ไหลหยดลงพื้นไปหลายหยด
“เพี๊ยะ!” มาร์คลงไม้อีก
“สิบเก้า....แฮ่กๆๆ”
.
.
“ยี่.......สิบ!!.....แฮ่กๆๆๆ”
โยหมดแรงถึงกับลงไปนอนกองบนพื้น
“สำออยจิงนะเมิง ตอนกูซ้อมโค้ชให้กูวิดพื้นเป็นร้อยๆ” มาร์คบอก
.........มิน่าล่ะมึงถึงล่ำถึกอย่างเงี๊ยะ..........
โยคิดในใจ แต่จริงๆ แล้วโยไม่อยากให้มาร์คเห็นข้างหน้าต่างหากว่ามันโด่ขนาดไหน มันเริ่มโด่มาตั้งแต่ตอนมาร์คตีครั้งแรกแล้ว ทำไมวะ????
.........คอยดูนะ.....คืนนี้มึงเสร็จกูแน่!.......ในจินตนาการของกู ฮ่า ฮ่า.......
โยคิดจะแก้แค้นแต่หาทางออกไม่ได้
“เอ้า ใส่เสื้อผ้าซะ!” มาร์คโยนเสื้อกีฬาของตัวเองให้ยืมใส่
“ทำไมอ่ะ??” โยถาม พลางใส่เสื้อผ้าไปด้วย ดีนะที่มาร์คไม่ได้สังเกตเห็นควยของโยกำลังโด่อยู่
“เด๋วลงไปเล่นบาสกับกู”
“ม่ายป๊ายยย ไม่เล่น....” โยส่ายหน้า
“มึง-ต้อง-ไป!” มาร์คพูดเสร็จก็ลากแขนโย โยขัดขืน แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ รู้ๆกันอยู่ว่ามาร์คตัวใหญ่และแข็งแรงกว่าโยขนาดไหน
..........................................................................................................................
พอมาถึงชั้นล่างของคอนโด ส่วนที่เป็นสปอร์ตคลับ มาร์คก็ลากโยเข้าไปในห้องกระจกนิรภัยขนาดใหญ่ ที่มีแป้นบาสอยู่
“มึงเห็นเส้นขีดๆ ที่เค้าวาดไว้บนพื้นป่ะ?” มาร์คพูดพลางชี้ให้โยดู โยพยักหน้า
“มึงไปยืนบนขีดนั้นนะ มึงชู้ตไปเรื่อยๆ ถ้าลงห่วงแล้วมึงก็ขยับไปขีดต่อไปจนครบรอบ เข้าใจมั้ย?”
“อืมมม” โยรับลูกบาสจากมาร์คแล้วไปยืนชู้ตตามที่บอก
........ก็ใช้ได้นี่หว่า.......
มาร์คคิดในใจ
........ชู้ตสิบลงซะแปด.....อย่างงี้มันไม่ธรรมดาแล้ว....ขนาดมือใหม่นะเนี่ย.......
มาร์คเฝ้าดูโยต่อไปจนโยชู้ตเสร็จ ตอนนี้โยเหงื่อท่วมตัวจากการเล่นบาส จนมาร์คยังแอบคิดว่าเวลาโยเล่นกีฬาก็เท่ห์ดีเหมือนกัน
“พรุ่งนี้ก็มาซ้อมอย่างนี้ทุกวันนะ เด๋วกูให้คีย์การ์ดไว้”
“งั้นวันนี้พอแค่นี้แหละ” มาร์คบอก
“ถึงมึงไม่บอก กูก็จะหนีกลับบ้านแล้วล่ะ เหนื่อยสัดๆ” โยตอบไปหอบไป
“มึงกล้าหนีกูเหรอ!” มาร์คพูดหยอกๆ พลางจับที่แขนโย โยสะบัดและแกะเท่าไหร่ก็แกะไม่ออก
“คอยดูนะ...วันไหนกูแข็งแรงกว่ามึง มึงโดนแน่!” โยหมดความพยายาม
“ขอให้มีวันนั้นเหอะ ฮ่าๆๆ” มาร์คปล่อยมือของโย แล้วทั้งสองก็พากันกลับขึ้นคอนโดไป
..........................................................................................................................
ที่บ้านของโย...........
.....ฮ่าๆๆ ไม่ต้องถึงวันนั้นหรอก วันนี้แหละมึงเสร็จกูแน่ ถึงมันจะไม่ใช่เรื่องจริงก็เหอะ........
โยคิดในใจ พลางกดล็อคประตู แล้วถอดกางเกงไป ผิวปากไป แล้วก้าวขึ้นมานอนบนเตียง
......เอาล่ะไอ้มาร์ค มึงพร้อมแล้วใช่มั้ย?....ฮ่าๆๆ.......
โยเริ่มจินตนาการถึงภาพของมาร์คเมื่อวันก่อน ที่ถูกบันทึกไว้ในสมองอย่างแม่นยำ ทำให้โยมีอารมณ์และน้องชายโด่ได้ไม่ยาก
......อูยย.... กูอยากจับควยมึงเหลือเกิน!!!..........
โยกำลังเงี่ยนได้ที่ พลางเอื้อมมือขวามากำรอบควยตัวเองเพื่อเตรียมชักว่าว
“โอ้ยย....” โยร้องด้วยความเจ็บ เป็นความปวดของกล้ามเนื้อที่แขนขวามันปวดแปล๊บขึ้นมา
“อะไรวะ” โยลองเกร็งแขนเพื่อชักอีกรอบ
“โอ๊ยย...”
คราวนี้ปวดมากกว่าเดิม โยเจ็บแขนจนต้องหยุดภาระกิจทันที! สงสัยจะใช้แขนมากไปหน่อยทั้งขัดห้องน้ำ ทั้งวิดพื้น ทั้งชู้ตบาส ไหนจะตอนฉุดกระชากลากถูกับมาร์คอีก
“โถ่เว้ย!! นี่มึงมาขัดขวางกูแม้กระทั่งตอนนี้เชียวเหรอวะ!!!”
โยบ่นด้วยความงุ่นง่าน
“งั้นกูนอนละ!! แม่ง...เซ็ง....”
แล้วโยก็หลับตาลงด้วยความอ่อนเพลียทั้งที่ควยโด่อยู่อย่างนั้น น่าสงสารโยจริงๆ.......
................................................................................................................................................
ที่บ้านของต่อ.......
“การบ้านแม่งยากว่ะ!!!.......”
ต่อทำการบ้านไปบ่นไป เพราะในหัวสมองคิดเลขจนงงหมดแล้ว
“ไงดีวะ.......เอาวะ! โทรหาพี่เอกดีกว่า....”
ว่าแล้วต่อก็ยกมือถือขึ้นมากดหาพี่เอก
“เจ็บยังไงก็ทน......เพราะว่ามันรัก......ทำไมเป็นอย่างนี้.....”
เสียงรอสายดังขึ้น ต่อเพิ่งเคยโทรหาเอกเป็นครั้งแรกหลังจากได้เบอร์มานานแล้ว
......แหมๆ เพลงทันสมัยซะ..........
ต่อคิดในใจ
“สวัสดีครับ.....” เสียงที่ปลายสายดังขึ้น
“ฮัลโหล พี่เอกครับนี่ต่อนะ.....”
“อ้อ......น้องต่อว่าไงครับ......อ่ะ อ่ะ อ่ะ อ่ะ....” นอกจากมีเสียงของเอกแล้วยังมีเสียงดังแว่วมาแต่ไกลด้วย
.........ซวยแล้ว!!! ลืมปิดเสียง!!!........
เอกคิดในใจพลางรีบเอื้อมมือไปปิดเสียงที่คอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็ว
“เสียงไรอ่ะพี่เอก??” ต่อถามด้วยความสงสัย
“อ้อ เปล่าไม่มีอะไร ข้างห้องเค้าทะเลาะกัน” เอกแก้ตัวพัลวัน
“อ่อ มีงี้ด้วย....แล้วพี่ไม่รำคาญบ้างหลอ??”
“ก็พอทนได้ครับ ว่าแต่น้องต่อโทรมามีอะไรครับ??”
“เอ้อ เกือบลืมไปเลย......ผมงงๆกับโจทย์ข้อนี้อ่ะครับ.....”
ต่ออธิบายโจทย์เรื่องเส้นตรงและมุมให้เอกฟัง เอกจดตามและใช้เวลาเพียงครู่เดียวในการแก้โจทย์ หลังจากนั้นจึงอธิบายวิธีคิดให้ต่อฟัง ต่อฟังแล้วก็จดใส่กระดาษตาม
“น้องต่อสงสัยตรงไหนอีกมั้ยครับ?” เอกถามย้ำเมื่อต่อฟังอธิบายจบแล้ว
“น่าจะโอเคแล้วครับพี่เอก ขอโทษด้วยนะครับที่โทรมากวนตอนดึก” ต่อรู้สึกเกรงใจเอกอยู่ไม่น้อย
“ไม่เป็นไรครับ พี่ดีใจมากกว่านะที่น้องต่อสนใจเรียนมากขึ้นน่ะ”
“แน่นะ....งั้นวันหลังผมก็โทรมาถามได้ใช่ป่ะ?” ต่อถาม
“โทรมาเลยครับ พี่ดีใจซะอีก”
...........เฮ้ย พูดอะไรออกไปวะเรา!!.........
เอกคิดในใจ แต่ตอนนี้ต่อกลับหน้าแดงโดยไม่รู้สาเหตุ
“โอเคครับ งั้นเจอกันวันศุกร์นะครับ” ต่อตัดบทเพื่อจะวางสาย
“ครับ เจอกันครับ ฝันดีนะครับ” เอกบอก
“อ่อ...เอ่อ....ครับๆ” ต่อวางสาย
ถ้าใครเห็นใบหน้าของต่อตอนนี้จะทราบว่ามันแดงมาก นอกจากแม่แล้ว ตั้งแต่เกิดมายังงไม่เคยมีใครพูดอย่างนี้กับต่อเลย ความรู้สึกมันเหมือนอย่างกับเป็นแฟนกันแน่ะ
.....สุภาพเชียวนะ....นิสัยจริงๆ จะเป็นยังไงไม่รู้......
ต่อพยายามไม่คิดเข้าข้างตัวเอง
..................................................................................................................................
จบตอน
Kink Team เขียน
.

Season One1 : Episode 12: I dreamed a dream!
Kinky Opera
>>Season One1<<
....ความดำมืดในใจก่อกำเนิด จิตเตลิดเกินห้ามปราบปรามไหว
ก่อกำหนัดพลาดพลั้งไปเมื่อใด ความจัญไรอาจย้อนจรสู่ตัว....
Episode 12: I dreamed a dream!
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนนักเรียนทุกคนตั้งตัวไม่ติด ไม่ทันไรนรกก็กำลังจะมาเยือนอีกครั้ง แถมเป็นนรกที่หนักกว่าเดิม เพราะอีก 2 อาทิตย์ก็จะเป็นการสอบไฟนอลของเทอม 1 แล้ว.........
“ติ้ง.....หน่อง.....”
เสียงกริ่งดังขึ้นที่หน้าห้องของมาร์คตอน 10 โมงเช้าของวันเสาร์ โยรู้สึกดีใจอยู่ลึกๆ ที่มาร์คบอกให้โยมาหาในวันหยุดสุดสัปดาห์อย่างนี้......แต่ก็แอบเซ็งเล็กน้อยที่รู้ว่ากิจกรรมที่จะทำนอกจากอ่านหนังสือกระหนุงกระหนิงกันแล้ว (อันนี้โยคิดไปเอง) คือยังต้องมาซ้อมบาสกับมาร์คด้วย!!!
“มาแล้วคร๊าบๆ” มีเสียงดังขึ้นข้างหลังประตูแต่ไม่คุ้นหูเลย!
“แอ๊ด........” เสียงประตูเปิดออก!
ชายที่อยู่ข้างหลังประตูตัวสูงซัก 170 กว่าๆ ได้ ร่างกายหนา ล่ำ กำยำ ใส่เสื้อยืด รด. กับกางเกงขาสั้น แว้บแรกโยก็ตกใจเหมือนกันว่าใคร? แต่พอดูที่ใบหน้าแล้ว ก็ฟันธงได้ทันทีว่าต้องเป็นพี่ชายของมาร์คแน่นอน!!! หน้าตาของลูกเสี้ยวฝรั่งเศสที่คมเข้มบาดใจสาวแท้และสาวเทียม อีกทั้งผิวขาวผุดผ่องเป็นยองใย พันธุกรรมมันไม่เคยหลอกใครจริงๆ
โยพอทราบมาบ้างว่าพี่ชายของมาร์คนั้นเรียนชั้น ม. 4 ที่โรงเรียนประจำชายล้วนแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงด้านกีฬารักบี้ นานๆ จะแวะมาที่คอนโดหรือกลับบ้านซักครั้ง ไม่นึกเลยว่าวันนี้โยจะได้เจอตัวเป็นๆ แถมโยยังเคลิ้มไปชั่วครู่จนได้ยินเสียงของเจ้าตัวทักขึ้นมา....
“อ้าว มาแล้วเรอะ มาๆๆ” ชายหนุ่มผู้นั้นชวนโยเข้ามาในห้องด้วยมาดแบบนักเลง
“น้องโย ช่ายป่าว?.....” หนุ่มคนนั้นถาม
“ใช่ครับ.......เอ่อ.....พี่.....” โยยังไม่รู้จักชื่อ
“เออ... พี่ชื่อแม็กว่ะ......นั่งๆๆ” แม็กชวนให้โยนั่งที่โซฟา
“พอดีมาร์คมันมีธุระด่วน แต่ไปไม่นานหรอก มันฝากบอกว่าให้นั่งคอยแป๊บนึงเดี๋ยวมันมา”
แม็กอธิบายให้โยฟัง
“เราเป็นเพื่อนของมาร์คเรอะ....เรียนที่เดียวกันใช่มั้ย???” แม็กถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“อ๋อ...คือ...มาร์คเคยเรียนกับผมที่ xxx ก่อนที่เค้าจะย้ายออกมาอ่ะคับ” โยตอบ
“อ้าว.....จิงเด่ะ....” แม็กทำตาโตแล้วทำท่าครุ่นคิด
“เอ่อ พี่ถามทำไมเหรอครับ?” โยเริ่มอยากรู้บ้าง
“ก็ไอ่มาร์คน่ะซิ สมัยอยู่โรงเรียนเก่านะ มันน่ะโดนแกล้งสาระพัด” มาถึงตอนนี้โยสะดุ้งเฮือก!!
“ไอ้เรานะก็เค้นความจริงจากมัน มันก็ไม่ยอมบอกว่าโดนใครแกล้งมา! เอาแต่นั่งร้องไห้อยู่คนเดียว”
โยพูดอะไรไม่ออก ได้แต่พยักหน้าเออออ
“พี่เคยคิดนะว่า จะยกพวกไปสั่งสอนมันซะหน่อย แม่งเสียดายไม่รู้ว่ามันเป็นใคร!!”
โยรีบหลบตาทันที!
“แล้วเราล่ะ? รู้มั้ยว่าไอ้สันดานชั่วคนนั้นมันเป็นใคร? จะกระทืบให้มันเข็ดเลย!!!”
.......อ้าว......งานเข้าไอ้โยแล้วครับพี่น้อง....ก็คนที่นั่งอยู่หน้าลูกพี่นี่ไงค้าบ!..... โยคิด
“เอ่อ ไม่รู้เหมือนกันครับ ผมก็เพิ่งจะมาสนิทกับมาร์คตอนขึ้นม. 1นี่ล่ะครับ”
.......เอาวะ!! โกหกไปก่อน.....ขืนบอกความจริงมีหวังตายคาตีนอยู่ตรงนี้แหละ!......
“พี่นะ ยังเครียดแทนไอ้มาร์คมันเลยว่ะ แต่ก่อนนะ มันน่ะอ่อนแอโคตรๆ”
“ครับๆ”
“ดีนะที่พักหลังๆ มามันเล่นกีฬาบ้าง ตอนนี้มันตัวใหญ่ขึ้นละ พี่ไม่ห่วงมันจะโดนแกล้งแล้วล่ะ”
“ครับๆ”
........น้องพี่ไม่โดนเล่นแล้วล่ะค้าบ.....แต่ผมกะลังโดนน้องพี่เล่นอยู่.......
“แต่สงสัยอยู่อย่างเดียวว่ะ พูดตามตรงนะ.....พี่สงสัยว่ามันจะเป็นเกย์ว่ะ”
“อ้าว...ทำไมล่ะครับ” โยอุทานแล้วทำหน้าสงสัย
“นี่ไงเรารู้จักคนนี้มั้ย พี่แอบขโมยรูปมาจากในห้องของมัน มันมีหลายรูปเลยนะเก็บไว้อย่างดี”
แม็กพูดพลางยื่นรูปใบนึงให้โยดู..........
โยเห็นถึงกับช็อค!!! เพราะรูปใบนั้นคือรูปของต่อ!!! เป็นรูปที่น่าจะแอบถ่ายระหว่างที่ต่อกำลังเดินเข้ามาในซอยเพื่อเข้าโรงเรียนในตอนเช้า แถมเจ้าตัวยังไม่รู้ แถมตอนที่มาร์คแก้แค้นโยก็ให้เอารูปเปลือยของต่อ เออ ทำไมไม่เป็นคนอื่นๆ อย่างไอ้เม้ง ไอ้เจมส์ สิ่งเหล่านี้ผุดขึ้นมาในหัวของโย และยังวนซ้ำไปซ้ำมาเหมือนเครื่องเล่นแผ่นเสียง จนเมื่อมีเสียงของแม็กแทรกเข้ามาในหัว
“ว่าไง....รู้จักมั้ย?”
“อ๋อ....เอ่อ....ก็รู้จักครับ แต่คงไม่มีอะไรมากไปกว่านั้นหรอกครับ” โยตอบหน้าเจื่อนๆ
แม็กฟังคำตอบของโยอย่างพิจารณา
“ก็ไม่รู้นะ...พี่เองก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกเรื่องแบบนี้ สมัยนี้ก็มีให้เห็นกันเยอะ ยิ่งโรงเรียนพี่นะ เหอๆ ไม่อยากจะพูด”
“พี่ก็แค่อยากให้มาทำความรู้จักกันไว้บ้าง ไม่ใช่อะไร”
“............”
“แล้วเราล่ะ เป็นแฟนไอ้มาร์คหรือป่าว?”
.......นี่แหละประเด็น ใช่มั้ยคร้าบ????........
“เอ่อ.......ป่าวคับ.....เราเป็นเพื่อนสนิทกัน”
แม็กมองหน้าโยแบบเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
“แกร๊ก....” มาร์คใช้กุญแจไขประตูเข้ามาพอดี
ภาพที่มาร์คเห็นคือพี่แม็กนั่งอยู่บนโซฟาไขว่ห้าง กอดอก ส่วนโยนั่งเจี๋ยมเจี้ยมก้มหน้างุด แม็กรีบเก็บภาพที่แอบขโมยมาก่อนที่มาร์คจะทันเห็น
“พี่แม็กทำไรอ่ะ?” มาร์คถาม
“เปล๊า!!.......เราก็แค่คุยกันเล่นๆ จริงมั้ยโย?”
......เวลาแก้ตัวเสียงสูงๆ อย่างนี้โกหกชัวร์...........
มาร์คคิดในใจ
“อ่อ...ใช่ครับ แฮ่ๆๆๆ” โยช่วยเสริม
.......ไอ้นี่ก็เหมือนกัน!!........... มาร์คคิดในใจ
“เข้าห้องไปได้แล้วววว.....” มาร์คพูดพลางจับแขนแม็ก ลากเข้าห้องนอนอีกห้องนึง
“เดี๋ยวดิ...ไรว้า....” แม็กทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว แม็กเหมือนถูกมาร์คจับยัดเข้าไปในห้องนอนห้องนั้นในฐานที่มาป่วนไม่เข้าเรื่อง
“ปัง.....”
“อยู่ในห้องน่ะแหละดีแล้ว!!”
เสียงมาร์คปิดประตูและสั่งพี่ชายกลายๆ ถึงจะมีพี่ชายมาดนักเลงขนาดนี้ แต่ตามใจน้องชายชิบหาย
“เอ่อ..... เราเข้าไปในห้องกันเหอะ วันนี้มีตัวป่วนมาว่ะ”
พูดเสร็จมาร์คกับโยก็เดินเข้าห้องนอนของมาร์คไป
“พี่แม็กชวนคุยอะไรบ้างวะ?” มาร์ครีบถามโย
“ก็คุยเรื่องทั่วไป...” โยตอบ
“แน่นะเว่ย?”
“อืมมม”
“งั้นเราเปลี่ยนเสื้อแล้วลงไปเล่นบาสกันเหอะ....”
.....................................................................................................................................................
“ซ่า ซ่า ซ่า.......”
เสียงน้ำกระเซ็นอยู่ภายในสระว่ายน้ำ ในช่วงบ่ายที่คลับเฮ้าส์ในหมู่บ้านของต่อ
ต่อกำลังว่ายน้ำอยู่ในท่าฟรีสไตล์ สลับกับแหงนหน้าขึ้นมาหายใจ จนกระทั่งมือแตะที่ขอบสระการว่ายจึงสิ้นสุดลง....
“เยี่ยมมาก!! น้องต่อ เบื้องต้นโอเคละ เหลือแค่เวลาว่าย ตัวต้องเหยียดตรงนะครับ หลังอย่างอ”
“ครับ แฮ่กๆ พี่เอก แฮ่กๆ...” ต่อยังคงเหนื่อยจากการว่ายน้ำ
“เก่งนะเนี่ยเรา ได้ไป 2 ท่าแล้วนะ ท่ากบกับฟรีสไตล์” เอกบอก
“แล้วเมื่อไหร่ผมจะว่ายได้ครบ 4 ท่าอ่ะ?” ต่อถามเอก
“โหย....ได้ 2 ท่าเนี่ยก็เก่งแล้ว ถ้าอยากเรียนต่อก็ทำคะแนนไฟนอลให้ดีๆ ซิครับ พี่จะได้สอนอีก”
“โหยย เอาคะแนนมาขู่อีกแระ...” ต่ออิดออด
“อ้าว ก็จริงนี่ครับ พี่บอกแล้วไง ถ้าได้คะแนนไม่ดีพี่ก็จะเลิกสอนละ แต่พี่ว่าอย่างน้องต่อทำได้อยู่แล้วล่ะ”
“แต่.....” ต่อยังคงกังวล
......ดูซิ! ตอนมาสอนใหม่ๆ บอกไม่เรียนๆ แต่พอตอนนี้...... เอกคิดในใจ
“เอาน่า อย่าเพิ่งกังวลไป! ป่ะ....เดี๋ยววันนี้พี่พาไปกินไอติม ฉลองซะหน่อย” เอกบอก
“จิงง่ะ!!! ที่ไหนอ่ะคับ” ต่อถาม
“ที่ห้างหน้าปากซอยนี่ไง ใกล้ๆ.....กินได้ป่ะเนี่ย? พี่ไม่มีตังค์พาไปกินร้านไฮโซหรอกนะครับ” เอกพูดยิ้มๆ
“โหยยย กินได้ค้าบ ผมไม่ได้ไฮโซขนาดน้านนน” ต่อตอบ
“โอเค งั้นก็เอาพวกของเก็บไว้ในล็อคเกอร์ก่อน ถือไปแต่กุญแจจะได้ไม่หนัก”
“คับ”
แล้วทั้งสองคนก็ขึ้นจากสระ เพื่อไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อ โดยต่อไม่ลืมที่จะแอบมองด้านหน้าของเอกที่ยิ่งมองเห็นเป็นลำ เนื่องจากผ้าโดนน้ำแล้วมันยิ่งแนบชิดกับเนื้อมากยิ่งขึ้น รวมถึงก้นอันกลมกลึงและมองเห็นกล้ามเนื้ออย่างชัดเจนเวลาเอกก้าวแต่ละก้าว
................................................................................................................................
ที่ร้านไอติม.....
“น้องต่อสั่งได้เลยครับ” เอกบอก
ต่อมองที่เมนูพลางสังเกตบรรยากาศรอบๆ คนที่มากินก็เป็นครอบครัวบ้าง เพื่อนเป็นกลุ่มๆบ้าง แล้วก็มีคู่รักหลายคู่อยู่ตรงแถวมุมๆ ของร้าน
ต่อแอบคิดอยู่เหมือนกันว่ามากินไอติมกัน 2 คนแบบนี้มันเหมือนกับมาออกเดทกันนี่หว่า!!
“งั้นผมเอาอันนี้แล้วกันครับ”
เอกบอกพนักงานพลางชี้ที่บนรูปไอติมบนเมนู
“น้องต่อเลือกได้ยังครับ?”
“ผมเอาอันนี้ครับ” ต่อชี้ที่เมนูบ้าง
เพียงครู่เดียวพนักงานก็เอาไอติมใส่ถ้วยมาเสิร์ฟ
“เมนูที่สั่งได้ครบแล้วนะคะ”
เอกพยักหน้าให้พนักงานแล้วหันมาคุยกับต่อ
“แล้วช่วงนี้คุณพ่อกับคุณแม่ไม่อยู่บ้านเหรอครับ?” เอกชวนคุยสัพเพเหระ
“ไม่คับ ช่วงนี้งานที่โรงงานยุ่งมาก ก็เลยไปอยู่บ้านที่พระรามสองน่ะครับ”
เอกเกือบลืมไปแล้วว่าที่บ้านของต่อทำธุริกจส่งออกอาหารแช่แข็ง มีโรงงานขนาดใหญ่อยู่แถวมหาชัย จึงไม่แปลกใจเลยที่คุณพลและคุณศรีจะไปซื้อบ้านอยู่แถวนั้นเพื่อความสะดวกในการเดินทางไปทำงาน ถ้าเป็นคนรวยซะอย่าง ก็สามารถซื้อความสะดวกได้ง่ายๆ นี่เอง
“แล้วเราอยู่คนเดียวได้เหรอ?” เอกถามด้วยความเป็นห่วง
“ก็มีพี่หมิงอยู่ด้วยครับ ไม่ลำบากเท่าไหร่”
“.....วัน ทู ทรี โฟร์ ไฟว์ ไอ เลิฟยู ซิกซ์ เซเว่น เอท ไนน์ ไอเลิฟยู.....” เสียงมือถือของต่อดังขึ้นขัดจังหวะการสนทนาของทั้งสอง
“น้อต่อหลอคะ พี่หมิงน้า” พี่หมิงโทรมานี่เอง
“ว่าไงครับพี่หมิง”
“พู่นี้พี่จะไปต่อทะเบียโคต่าด้า วานนี้พี่จาไปนอบ้านพี่สาวคือนืง” (พรุ่งนี้พี่จะไปต่อทะเบียนคนต่างด้าว วันนี้พี่จะไปนอนบ้านพี่สาวคืนนึง)
“อ้าวพี่หมิง...ได้ไงอ่ะ...แล้วผมจะอยู่บ้านกับใครอ่ะ”
“โอ๊ยย....โตเปควายแล้ยางจากัวผี” (โอ๊ย...โตเป็นควายแล้วยังจะกลัวผี)
ต่อเป็นคนกลัวผีมาก เพราะตอนเด็กๆคุณพลชอบเปิดหนังผีให้ต่อดู แถมต่อยังกลัวเสียงฟ้าร้องเวลาฝนตกอีกด้วย
“ไม่รู้ล่ะ แล้วเจ้านายพี่สาวพี่เค้าไม่ว่าเหรอ? ไปนอนบ้านเค้าอ่ะ”
“ม่ายเปลาย เค้าจายดี พี่บอกคูแม่ให้แลนะ แต่คูแม่ม่ายว่าง วานี้นอนโคเดียวปายก่อนะ แค่นี้น้า ตางจาโหมะแล้” (ไม่เป็นไร เค้าใจดี พี่บอกคุณแม่ให้แล้วนะ แต่คุณแม่ไม่ว่าง วันนี้นอนคนเดียวไปก่อนนะ แค่นี้นะ ตังค์จะหมดแล้ว)
“ครับๆ” ต่อต้องยอมจำนนแล้ววางสายไป
“มีอะไรอีกล่ะ?” เอกถามเนื่องจากพอจะเดาสถานการณ์ได้อยู่
“ก็พี่หมิงน่ะสิครับ จะไปนอนกับพี่สาว ผมเลยต้องอยู่คนเดียว” ต่ออธิบาย
“กลัวผีเหรอเราอ่ะ?” เอกถามยิ้มๆ
“ป่าว นะคับ ก็แค่.....” ต่อไม่รู้จะโกหกอย่างไรดี เอกได้แต่ขำกับท่าทีของหนุ่มน้อย
“งั้นวันนี้พี่เอกก็นอนบ้านผมซิครับ” ต่อเกิดปิ๊งไอเดีย!
“อ้าว ไหงงั้นล่ะครับ พี่ไม่เกี่ยวนะงานนี้” เอกปฏิเสธพัลวัน ลึกๆก็กลัวใจตัวเองด้วย
“น้า น้า พี่เอก ผมขอร้อง เดี๋ยวผมโทรบอกแม่ให้.........”
ว่าแล้วเจ้าตัวดีก็กดโทรศัพท์หาคุณศรีทันที! เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เอกก็ปฏิเสธไม่ได้อีกแล้ว เมื่อเจอคำขอร้องของคุณศรีเข้าไปอีก ทำให้ต้องจำใจอยู่นอนกับเจ้าตัวแสบในคืนนี้
.........................................................................................................................................
กว่าทั้งสองคนจะกลับมาถึงบ้านก็เกือบค่ำพอดี พี่หมิงทำกับข้าวไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เพียงแค่เอาไปอุ่นในไมโครเวฟก็สามารถทานได้ทันที ทั้งสองคนทานข้าวฝีมือพี่หมิงด้วยความหิว ก่อนจะเดินขึ้นไปที่ห้องของต่อ
“เย้!....วันนี้จะได้นอนกับพี่เอกด้วย”
ต่อตะโกนขณะที่เปิดประตูเข้ามาในห้อง ทันใดนั้นต่อก็วิ่งขึ้นไปนอนบนเตียงทันที!
“ไหนสัญญากับพี่ว่าจะทำการบ้านต่อไงครับ?” เอกทวงถามเพราะเจ้าตัวสัญญาว่าถ้าเอกนอนด้วยจะให้เอกสอนการบ้านต่อ
“โหยยยพี่เอก......เดี๋ยวก็ด้ายยย” ต่อผลัดไปก่อนแถมหยิบการ์ตูนที่อ่านค้างไว้ขึ้นมาอ่าน
“พี่เอกก็มานอนนี่ดิ” เจ้าตัวพูดไปอ่านการ์ตูนไป
เอกเดินมานั่งอยู่ที่ปลายเตียง คืนนี้เอกคงต้องนอนบนเตียงเดียวกับต่อ ดีที่เตียงเป็นแบบคิงไซส์ ไม่งั้นคงต้องนอนเบียดกันแน่ๆ
“โอ๊ยยย เมื่อไหร่แอร์จะเย็นเนี่ย!!!” ต่อเพิ่งจะเปิดแอร์เมื่อกี้นี้ ทำให้ในห้องยังคงร้อนอยู่หน่อยๆ
“ใจเย็นสิครับ เด๋ยวก็....เย็น”
ในขณะที่เอกยังพูดไม่จบต่อก็ถอดเสื้อตัวเองออกเหลือแค่กางเกงขาสั้นตัวเดียวแล้วนอนอ่านการ์ตูนต่อ เอกเริ่มทำตัวไม่ถูก แต่ก็ไม่รู้จะอายไปทำไมเพราะตอนว่ายน้ำก็เห็นเยอะกว่านี้อีก
“พี่เอกมานอนใกล้ๆ ผมสิ ไม่ต้องเกรงใจ” ต่อลุกขึ้นมาลากแขนเอกให้ไปนอนใกล้ๆ
เอกก็ทำตามแต่โดยดีเพราะชักอยากจะเอนหลังบ้างเหมือนกัน ต่อหยิบรีโมททีวีให้เอกเผื่อจะอยากดูทีวี เอกจึงเปิดทีวีดู แต่จิตใจก็เริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว แถมตอนนี้เอกนอนอยู่ใกล้กับต่อมากๆ ตัวของต่อยังหอมกลิ่นของเด็กแบบอ่อนๆ ทำให้เอกเริ่มอารมณ์กระเจิดกระเจิง
ไมพียงแต่เอกเท่านั้น แม้แต่ต่อเองก็ไม่มีสมาธิอ่านการ์ตูนเช่นกัน...
“พี่เอกผมง่วงแล้วอ่ะ” ต่อเริ่มอ้อนเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
“ง่วงก็ไปอาบน้ำซิครับ จะได้นอน” เอกยังไม่ละสายตาจากทีวี
“พี่เอกไปอาบน้ำกะผมนะ” ต่อรีบใช้โอกาสทันที เพราะคืนแบบนี้ไม่ได้หาได้ง่ายๆ
“ฮึ่ย! ใครจะกล้า ไปอาบเลยไป เดี๋ยวพี่ค่อยอาบ”
“โหย พี่เอกอ่ะ” ต่อบ่นแบบไม่สบอารมณ์แต่ก็เดินไปอาบน้ำแต่โดยดี
ต่อเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วถอดกางเกงที่เหลือออกแบบไม่เกรงใจเอกเลย เอกได้แต่มองตาค้างกับภาพเปลือยด้านหลังของต่อและแก้มก้นของต่อที่ขาวเนียน ต่อเดินเข้าไปในห้องน้ำแต่ปิดประคูไม่สนิท เอกแอบมองจากบนเตียงเห็นภาพของต่อแว้บๆ สะท้อนอยู่บนกระจกอ่างล้างหน้า
.......โอย จะพ้นคืนนี้มั้ยวะตู!! ไม่น่ารับปากเล้ยยย.......
เอกคิดในใจ
ตอนนี้ควยเอกแข็งตุงกางเกงแถมมีน้ำเงี่ยนไหลออกมาเปื้อนกางเกงในจนเอกรู้สึกได้ ตอนนี้ต่ออาบน้ำเสร็จแล้วเดินนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวออกมา พลางเดินเข้าไปในตู้เสื้อผ้าแบบวอล์ก-อิน แล้วหยิบผ้าเช็ดตัวอีกผืนกับชุดนอนออกมาให้เอก
“นี่ครับ พี่เอกน่าจะใส่ของพ่อได้นะ” ต่อบอกพลางยื่นชุดนอนให้
เอกรับไปแล้วเตรียมตัวไปอาบน้ำ เอกถอดเสื้อเชิ้ตออกวางพาดไว้กับเก้าอี้แถวหน้าห้องน้ำ จากนั้นจึงพันผ้าเช็ดตัวที่เอว แล้วถอดกางเกงกับกางเกงในออกมาวางพาดที่เก้าอี้ แล้วจึงเดินเข้าห้องน้ำไป
หลังจากเอกล็อคห้องน้ำแล้ว ต่อก็รีบมาสำรวจที่กองเสื้อผ้าของเอกทันที! ต่อเห็นกางเกงในของเอกโผล่ออกมาจากกางเกงยีนส์นิดหน่อย จึงใช้มือแง้มดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น กางเกงในของเอกเป็นกางเกงในรอสโซ่สีน้ำเงินสดแบบที่ผู้ชายบ้านๆ ส่วนใหญ่ชอบใช้ แถมยังมีกลิ่นเหงื่อจากการใส่ตลอดทั้งวัน และที่สำคัญคือตรงส่วนหน้ายังมีรอบเปื้อนของน้ำเงี่ยนแบบสดๆ ใหม่ๆ ต่อเห็นแบบนี้ก็เกิดอารมณ์และควยแข็งขึ้นมาทันที! แต่ก็ทำอะไรไม่ได้.....
เอกอาบน้ำฟอกสบู่ไป พลางคิดว่าจะปลดปล่อยความเงี่ยนของตัวเองอย่างไรดี เอกเริ่มใช้สบู่เหลวแทนสารหล่อลื่นแล้วเริ่มใช้มือชักควยที่แข็งอยู่เข้า-ออก โดยไม่ลืมที่จะเปิดฝักบัวค้างไว้ เพื่อกลบเสียง
เอกชักควยมาระยะหนึ่งจนใกล้จะแตกก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นซะก่อน
“ก็อกๆๆ พี่เอกเสร็จยัง....ผมกลัว”
เสียงของต่อดังขึ้นทำให้เอกต้องค้างกิจกรรมไว้แค่นั้น.....
........ไหนว่าไม่กลัวผีวะ!! โอ้ยย เงี่ยนโว้ย........
เอกคิดในใจ
“เสร็จแล้วครับๆ”
เอกเช็ดตัวแล้วใส่แต่กางเกงนอนเปลือยท่อนบนเดินออกมาจากห้องน้ำ ต่อนอนอยู่บนเตียงใส่บอกเซอร์ตัวเดียวโดยไม่ลืมที่จะจัดกางเกงยีนส์ของเอกให้เข้าที่เข้าทางเหมือนเดิม ตอนนี้แอร์เริ่มเย็นแล้ว เอกจึงตากผ้าเช็ดตัวที่เก้าอี้แล้วขึ้นเตียงห่มผ้าทันที
ต่อซึ่งนอนดูทีวีอยู่ก็มุดเข้ามาห่มผ้าผืนเดียวกันด้วย แล้วต่อก็เอื้อมมือไปที่หัวเตียงเพื่อปิดไฟกลางห้องที่ถูกติดตั้งสวิทช์ไว้แบบโรงแรม ตอนนี้ร่างกายของทั้งคู่ได้สัมผัสกันเบาๆ และเหมือนมีพลังงานบางอย่างไหลผ่านเข้ามาทางผิวที่สัมผัสกัน เป็นความอบอุ่นที่บอกไม่ถูก
“เปรี้ยงงง.......”
เสียงฟ้าร้องดังขึ้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ข้างนอกบ้านฝนกำลังกระหน่ำตกลงมา เป็นปกติของสภาพอากาศในกรุงเทพมหานคร ต่อมารู้ตัวอีกที ตัวเองก็กอดแนบแน่นอยู่กับเอกแล้ว
“ฮ่าๆๆๆ กลัวเสียงฟ้าร้องเหรอครับ?” เอกถามแบบอมยิ้ม
“ป่าวซักหน่อย....” ต่อตอบอายๆ
“แต่เมื่อกี้พี่เห็นใครไม่รู้ กระโจนมากอดพี่แน่นเลยนะ ฮ่าๆๆ”
“มา มานอนใกล้ๆพี่ก็ได้” เอกเสนอ แต่ก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นความคิดที่ดีหรือเปล่า? เพราะเอกกำลังนอนควยโด่อยู่ตอนนี้
ต่อนอนตะแคงชิดกับเอก และกอดแขนเอกไว้แน่นเหมือนจะไม่ให้เอกหนีไปไหน และเจ้าตัวยุ่งก็นอนหลับปุ๋ยไป ส่วนเอกเองก็ง่วงเต็มทีเหมือนกัน
........เฮ้ออ เมื่อไหร่จะถึงพรุ่งนี้เช้านะ.........
เอกได้แต่คิดในใจแล้วก็หลับตามไปอีกคน
...............................................................................................................................................
“อ่ะ อ่ะ อ่ะ.....” ต่ออยู่ในท่าโก่งโค้งบนเตียงร่างกายเปลือยเปล่า รู้สึกจุกเหมือนมีใครกระแทกเข้ามาทางด้านหลัง
“อูยย...น้องต่อครับ ตูดน้องต่อตอดควยพี่มากเลย อูยย....เสียวจังเลยครับ”
ต่ออดทนต่อความจุก หันหลังกลับไปดู เห็นเอกเหงื่อโทรมกาย กล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกายแข็งเกร็งจนเห็นได้ชัดเจน
.....นะ...นี่เรากำลังมีอะไรกับพี่เอกเหรอ????? ตอนไหนวะ????....
ต่อคิดในใจ
“น้องต่อเสียวมั้ยครับ?”
เอกกระซิบที่ข้างหูของต่อ พลางเอามือเอื้อมมาข้างหน้า มากำรอบควยของต่อแถมทั้งชักทั้งบี้ที่หัวควยแดงก่ำ ต่อทั้งจุกทั้งเสียวจนน้ำเงี่ยนใสไหลทะลักออกมาจนชุ่มมือของเอกไปหมด
“อ่ะ อ้า.....” ต่อเผลอร้องด้วยความเสียวออกมา เมื่อก้มลงไปมองควยของตัวเองก็พบหัวควยแดงก่ำกำลังถูกมือของเอกบี้อยู่อย่างเมามัน
ต่อเสียวมากจนใกล้จะแตกแล้ว แต่ก็แอบสงสัยว่าหัวควยของตัวเองยังไม่เปิดนี่นา แล้วทำไม.......
“โอยยย น้องต่อ....พี่ใกล้เสร็จแล้วครับ” เอกบอกพลางเร่งความเร็วในการซอยเข้าออกทำให้ต่อจุกมากกว่าเดิม แต่ความเสียวนั้นกลับยิ่งเพิ่มมากกว่าเป็นทวีคูณ ตอนนี้ต่อเปลี่ยนมาใช้มือซ้ายค้ำตัวเองอยู่บนเตียง แล้วใช้มือขวาชักควยของตัวเองแทน!
“ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ....” เสียงเบาๆ แว่วมาจากไหนก็ไม่รู้ เสียงมันเหมือน.....เหมือน.....นาฬิกาปลุก!!!
ต่อเริ่มมีสติขึ้นมาทันที!
.....เฮ้ย!!! เราอยู่ในฝันเหรอเนี่ย!! เหมือนหนังเรื่อง Inception ชิบหาย.......
“ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ....” เสียงนาฬิกาปลุกตอนนี้เริ่มดังเข้ามาในหัวขึ้นทุกทีๆ
......โอยย ใกล้แตกแล้ว!!! อย่าเพิ่งตื่นนะว้อยยย.......
ต่อเกร็งมือขวาชักควยของตัวเองสุดแรงเกิด
“ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ....”
“พี่เอกครับ! แรงๆเลยครับ!!!” ต่อบอกกับเอกในความฝัน
“ได้เลยครับ” เอกซอยแบบสุดแรงไม่ยั้ง
“อ่ะ อ่ะ อ่ะ อ้า อ้า..................”
.
“ปึ๊ด ปึ๊ด ๆๆ” ในที่สุดทั้งสองก็ถึงฝั่งฝันแบบพร้อมๆ กัน...........
“ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ....” ต่อได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกดังแบบเต็มๆ และตื่นขึ้นมาแบบงัวเงียพร้อมๆ กับเอก ต่อเอื้อมมือไปปิดนาฬิกาปลุกข้างๆ หัวเตียง ต่อยังคงจำความฝันเมื่อกี้นี้ได้เป็นอย่างดี
......เฮ้ยย ซวยแล้ว....
ต่อคิดในใจพลางแอบเปิดผ้าห่มและถลกดูข้างในบ็อกเซอร์
.....ตายห่าแล้ว!! ฝันเปียกนี่หว่า.......
“น้องต่อครับเดี๋ยวพี่ขออาบน้ำก่อนนะครับ” เอกไม่พูดพร่ำทำเพลงรีบเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว
“งั้นผมไปอาบชั้น 2 ครับ” ต่อก็รีบบ้างเหมือนกัน
เมื่อทั้งสองคนอาบน้ำเสร็จแล้วต่างก็เดินถือกางเกงนอนลงมาที่เครื่องซักผ้าที่ชั้น 1 ทันที!
“ฝุ่บ...” ทั้งสองโยนกางเกงนอนลงในเครื่องซักผ้าพร้อมกันแล้วกดปุ่ม “Start”
“เฮ้อ../ เฮ้อ..” ทั้งสองคนถอนหายใจพร้อมกัน
“พี่เอกถอนหายใจทำไมอ่ะ??” ต่อถามยิ้มๆ
“เปล๊า.....ก็รีบซัก จะได้ไม่ลำบากพี่หมิงไงครับ”
ทั้งสองคนตัดสินใจว่าจะไม่พูดถึงเรื่องซักผ้านี่อีก เพราะเดี๋ยวจะเป็นการเปิดประเด็นอีกยาว
“งั้นเดี๋ยวกินข้าวเช้าแล้วพี่กลับเลยนะครับ”
“ครับ” ต่อตอบ
ทั้งสองคนจึงเดินเข้าไปในห้องครัวเพื่อไปหาอะไรกิน.....
..........................................................................................................................................
ต่อเดินมาส่งเอกขึ้นแทกซี่ที่หน้าบ้าน เมื่อส่งเอกขึ้นรถเสร็จก็เดินกลับบ้าน ขณะที่ต่อเหลือบไปเห็นคลับเฮ้าส์ ต่อก็นึกได้ทันที!
“เฮ้ย!....ลืมชุดว่ายน้ำไว้ในล็อกเกอร์นี่หว่า...”
ดีที่ต่อยังเก็บกุญแจล็อกเกอร์ไว้ในกระเป๋าตังค์ ต่อจึงแวะเข้าไปที่คลับเฮ้าส์ซะเลย
“แกร๊ก”
ต่อไขกุญแจล็อกเกอร์แล้วหยิบถุงชุดว่ายน้ำและผ้าเช็ดตัวออกมา นี่ถ้าลืมไว้อีก 1 วันคงเน่าก่อนแน่ๆ
พลันสายตาของต่อก็เหลือบไปเห็นอะไรสีเหลืองๆ แว็บออกมาจากล็อกเกอร์ข้างที่เปิดแง้มๆ ไว้
“อะไรวะ?”
ต่อเอื้อมมือไปเปิดล็อกเกอร์ออกดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น ต่อพบว่าข้างในล็อกเกอร์นั้นมีกางเกงในยี่ห้อเจเพรสสีเหลืองสดวางอยู่ น่าจะเป็นของที่ใช้แล้ว
ต่อใจเต้นตึกๆ พลางมองสำรวจรอบๆ ห้องน้ำ ปรากฏว่าใครอยู่เลยซักคน เงาของความมืดเริ่มเข้าครอบงำต่อว่าจะขโมยกางเกงในตัวนี้เลยหรือไม่? ต่อใช้เวลาคิดไม่นานก็หยิบกางเกงในตัวนี้ใส่ลงถุง แล้วก็เดินออกไปจากห้องน้ำอย่างลุกลี้ลุกลน.....
.
.
.
......โดยหารู้ไม่ว่า มีสายตาอยู่ 1 คู่ที่เห็นต่อกำลังเดินด้วยท่าทางมีพิรุธออกมาจากห้องน้ำ!
..................................................................................................................................
จบตอน
Kink Team เขียน

Kinky Opera
>>Season One1<<
....ความดำมืดในใจก่อกำเนิด จิตเตลิดเกินห้ามปราบปรามไหว
ก่อกำหนัดพลาดพลั้งไปเมื่อใด ความจัญไรอาจย้อนจรสู่ตัว....
Episode 13: Good Bye! – End of Season
“แป๊น! แป๊นนน!!............”
.
.
“บรื้นๆๆ.........ปี๊นนนนนน........”
.
.
ทั้งเสียงแตรรถยนต์และแตรรถมอร์เตอร์ไซต์ดังก้องอยู่ในหูของต่อตลอดเวลา ทำให้ต่อรำคาญมากๆ.........
ต่อรู้สึกตัวเบาๆ เหมือนตัวเองจะบินได้ แต่ก็รู้สึกมึนงงอย่างบอกไม่ถูก ตอนนี้ต่อรู้สึกง่วงมากๆ ....หมดแรง......ต่อนึกไม่ออกว่ามาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร ที่นี่คือที่ไหน พื้นถนนกำลังเอียงอยู่...........เปล่า!! ตัวเราต่างหากที่นอนอยู่!!!
“น้องคะ! น้องคะ!.......น้องเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?”
เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น เขาคือใคร? ผู้หญิงคนนี้ใส่ชุดนักเรียนที่ดูคุ้นเคยดี! โดยเฉพาะทรงผมเปีย 2 ข้างที่ดูเป็นเอกลักษณ์ของโรงเรียนนี้ ไม่สิ! มีเรื่องที่สำคัญกว่านั้น.......เรื่องอะไรน้า?.........ทำไมถึงนึกไม่ออก.....
.
.
.
.......................................................................................................................................
เอกกำลังเดินอยู่ในห้างแถวสยาม เพื่อมาพบปะกับเพื่อนฝูงที่หลังจากจบการศึกษากันแล้วก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย เพิ่งมีโอกาสได้นัดทานข้าวกันก็วันนี้นี่เอง
“เธอจะมีใจรึเปล่า......เธอจะมองมาที่ฉันรึเปล่า......ที่เราเป็นอยู่นั้น....คืออะไร.....”
เสียงมือถือของเอกดังขึ้น! ในขณะที่เอกและกลุ่มเพื่อนกำลังจะเดินเข้าไปในร้านอาหารญี่ปุ่นในห้าง
เอกหยิบมือถือขึ้นมาดูสายเรียกเข้าก็แอบดีใจเล็กน้อยที่เบอร์นั้นเป็นของต่อนั่นเอง! เอกรีบกดรับทันที
“ว่าไงครับ ทำข้อสอบได้มั้ยวันนี้?”
“ฮัลโหลๆ ได้ยินมั้ยคะ...”
เสียงจากปลายสายเป็นเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่คุ้นหูเอกเลย เอกมองที่หน้าจอโทรศัพท์อีกที เบอร์ก็ไม่ผิดนี่นา....
“ขอโทษค่ะ ฟังหนูก่อนนะคะ คือน้องคนนี้เค้าเป็นลมน่ะค่ะ” เอกตั้งใจฟังเพราะมีลางสังหรณ์ว่าต้องมีสิ่งผิดปรกติ
“พอดีเบอร์นี้เป็นเบอร์ที่น้องเค้าโทรออกล่าสุดน่ะค่ะ คุณพอจะมาที่นี่หรือติดต่อผู้ปกครองให้ได้มั้ยคะ?”
“เดี๋ยวผมไปเด๋ยวนี้เลยครับ ไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหนครับ?” เอกถามด้วยความตกใจ
“หนูอยู่ข้างๆ น้องเค้าน่ะค่ะ ที่หน้าโรงเรียน XXX ค่ะ น้องเค้าพูดไม่รู้เรื่องเลยค่ะ”
“งั้นผมรบกวนคุณช่วยอยู่เป็นเพื่อนน้องเค้าก่อนนะครับ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลยครับ!!”
ว่าแล้วเอกก็วางหูโทรศัพท์แล้วหันไปบอกกับเพื่อนๆ ว่าติดธุระด่วนมาก และขอตัวออกมาอย่างรวดเร็ว เพื่อนๆ ของเอกต่างงงเป็นอย่างมากว่าเกิดอะไรขึ้น?
..........................................................................................................................
เอกวิ่งออกมาจากห้างอย่างรวดเร็ว รถบนถนนติดอย่างหนักเนื่องจากวันนี้เป็นวันศุกร์ต้นเดือนด้วย
........ทำไงดีวะ .....ทำไงดีวะ....ใช่แล้ว! ..มอร์เตอร์ไซค์.......
เอกคิดในใจ พลางมองหามอร์เตอร์ไซค์รับจ้าง เมื่อเอกโบกได้ 1 คันจึงรีบกระโดดขึ้นทันที!!
“โรงเรียน XXX ครับ! เหยียบมิดเลยนะครับ!” เอกบอกจุดหมาย
“ได้เลยเพ่...” แล้วมอไซค์ก็บิดเร่งความเร็วออกไปได้ทันใจ
.....................................................................................................................................
เอกมาถึงหน้าโรงเรียนของต่อได้ในเวลาไม่นาน เอกจ่ายเงินมอไซค์ไปเกินจำนวนแบบไม่ต้องทอน เพราะตอนนี้สิ่งสำคัญคือเอกอยากจะรู้ว่าต่อเป็นอย่างไรบ้าง?
เอกมองหาอยู่ซักครู่ก็เห็นนักเรียนหญิงคนหนึ่งกำลังนั่งประคองหัวของต่ออยู่บนตัก และมีคนมุงอยู่อีกประมาณสามคน เอกรีบวิ่งไปที่คนกลุ่มนั้นทันที!!
“ต่อ!ๆ เกิดอะไรขึ้นครับน้อง?” เอกถามด้วยความเป็นกังวลขณะนั่งลงข้างๆ
“หนูก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ เห็นน้องเค้านอนสะลึมสะลืออยู่ตรงนี้อ่ะค่ะ”
“พี่ช่วยดูน้องเค้าแทนหน่อยนะคะ เดี๋ยวหนูโทรเรียกรถพยาบาลให้...”
“ได้ครับๆ” แล้วเอกก็ประคองตัวของต่อมาไว้ที่ตัวเอง มีคนใจดีคนหนึ่งยื่นกระดาษมาให้เอกใช้เป็นพัด
เอกพัดให้ลมโดนหน้าของต่อ จะได้รู้สึกดีขึ้น....
“ฮัลโหล ค่ะ ช่วยส่งรถพยาบาลมาหน่อยได้มั้ยคะ ที่หน้าโรงเรียน XXX ค่ะ”
“ค่ะ...มีเด็กผู้ชายคนนึงนอนเป็นลมอยู่ค่ะ ยังไม่ได้สติเลยค่ะ”
“ค่ะๆ เร็วๆนะคะ” เด็กผู้หญิงคนนั้นวางสายไปแล้วหันมาดูด้วยความเป็นห่วง
“ต่อ! ต่อ! ได้ยินพี่หรือเปล่า?” เอกเรียกต่อให้ได้สติ พลางตบที่แก้มของต่อเบาๆ
“โธ่โว้ย!....เกิดอะไรขึ้นเนี่ย” เอกสบถเบาๆ
“พี่......เอก.......” ดูเหมือนต่อเริ่มได้สติขึ้นมาแล้ว
“โอกกกก อ้วววก” ต่ออาเจียรเลอะเต็มเสื้อของเอก
“ต่อ! ต่อ! ทำใจดีๆ ไว้”
เอกทำอะไรไม่ถูกแล้วตอนนี้ ได้แต่ลูบหลังของต่อแล้วกอดต่อไว้ในอ้อมแขน
เอกได้ยินเสียงรถพยาบาลใกล้เข้ามาทุกทีๆ
.......ต่ออย่าเป็นอะไรนะ.........
เอกคิดในใจ
......................................................................................................................................
5 ชั่วโมงก่อนหน้านี้....
“เฮ้อ.....สอบเสร็จซะทีว่ะ” เจมส์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“เฮ้ยไอ้โย....เมิงเครียดไปป่าววะ?” เม้งเห็นโยเดินออกมาสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่
“ป่าว.....”
จริงๆ แล้วโยไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องสอบเลยซักนิด เป็นเรื่องภาพของต่อที่มาร์คเก็บไว้ต่างหากที่รบกวนจิตใจของโยมาตลอด แต่ดีที่ไม่ถึงกับรบกวนจนอ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง
“แล้วมึงทำได้มั้ยวะไอ้ต่อ?” เม้งถามต่อบ้าง
“ก็ดีขึ้นว่ะ.....แต่กูก็ยังกังวลอยู่ดี” ต่อบอกเม้ง
“เอาน่า.....ถึงไม่ได้ 4 ได้ 3ก็ยังดีวะ” เจมส์ปลอบใจเรื่องเกรด
“แล้วปิดเทอมพวกมึงจะทำไรมั่งวะ” เจมส์ถามเพื่อนๆ
“ไม่รู้ดิ เด๋วกูอาจจะโทรนัดพวกเมิงออกมาเที่ยวนะ ไอ้โยก็ว่างแล้วนิ” เม้งบอก
“เออๆ วันนี้มึงไปชดใช้กรรมวันสุดท้ายแล้วนี่หว่า” ต่อเสริมขึ้นมาทันที
“อืมมมม” แต่โยยังคงตอบแบบเซ็งๆ แต่เพื่อนๆ ก็ไม่ได้สังเกตอะไร เพราะคิดว่าโยคงอ่านหนังสือดึกและอยากกลับไปพักผ่อนเต็มที
..................................................................................................................................
ต่อแยกย้ายกับเพื่อนๆ ตอนบ่าย 3 โมง แล้วเดินออกจากซอยเพียงคนเดียว ต่อเสียบหูฟังเพื่อฟังเพลงจากไอโฟนประจำตัวอย่างสบายอารมณ์ โดยไม่รู้ว่ามีรถตู้ติดฟิล์มสีดำขับตามหลังช้าๆ มาอย่างเงียบๆ
ในขณะที่ต่อเดินหลบป้ายหาเสียง จนต้องเบี่ยงออกมาชิดขอบถนน รถตู้คันนั้นก็รีบขับมาเทียบทันที!!
“ครืด....” เสียงประตูรถตู้เปิดออก
มีแขนสองข้างโผล่มาจากด้านหลังมาล็อกตัวของต่อไว้ แล้วลากขึ้นไปบนรถตู้ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นรวดเร็วมาก ไม่ถึง 5 วินาที ต่อตั้งตัวไม่ติดเมื่อมีมืออีกมือหนึ่งถือผ้าเช็ดหน้า 1ผืน แล้วเอื้อมมาปิดที่จมูกและปากของต่อทันที!!
“อุ๊ฟ อ้วยอ้วย!!” (ช่วยด้วย!!) ต่อทั้งดิ้นทั้งถีบ แต่คนร่างใหญ่ใส่ชุดดำปิดหน้าปิดตา 3 คน ก็มาช่วยกันจับต่อเอาไว้ โดยที่อีกคนยังกดผ้าเช็ดหน้าที่จมูกของต่อไว้แน่น ตอนนี้สติของต่อเริ่มเลือนลางลงทุกที....ทุกที.......
.
.
.
........................................................................................................................................................
........วิ้ง.....วิ้ง......วิ้ง..........
ต่อลืมตาขึ้นในที่แห่งหนึ่งด้วยความมึนงง ต่อกำลังนอนอยู่บนอะไรซักอย่างที่นุ่ม ข้างบนหัวของต่อมีหลอดไฟสาดส่องลงมาราวกับผู้ร้ายในหนังที่กำลังโดนตำรวจสอบสวนอยู่
ต่อเริ่มสำรวจร่างกายของตัวเองพบว่ายังคงอยู่ในชุดนักเรียน กระเป๋าอยู่ไหนก็ไม่รู้ ต่อรู้สึกตึงๆ ที่ปาก แท้จริงแล้วต่อโดนผ้ามัดปิดปากไว้นี่เอง! แถมยังขยับแขนและขาไม่ได้ด้วยเพราะโดนมัดไว้กับเก้าอี้เช่นกัน!!
ต่อพยายามปรับสายตาของตัวเองแล้วเพ่งมองออกไปในความมืด ต่อเห็นกลุ่มคนประมาณ 9 คน นั่งเรียงรายอยู่เป็นแถวหน้ากระดาน ทั้งหมดอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าแต่สวมหน้ากากคาดตาเอาไว้ แต่เมื่อดูจากรูปร่างแล้วน่าจะเป็นคนสูงอายุ เพราะบางคนอ้วนพุงพลุ้ย บางคนก็ผิวหนังเริ่มเหี่ยวหย่อนยาน บางคนกำลังชงเหล้าและบางคนก็สูบซิการ์อยู่ มีเสียงคนเหล่านั้นคุยกันดึงพึมพำอยู่ตลอดเวลา
ตอนนี้มีผู้ชายใส่หน้ากากตัวตลกเดินมาอยู่ข้างๆต่อ แล้วก้มลงทำอะไรซักอย่างกับเก้าอี้ เก้าอี้ตัวนี้คล้ายกับเก้าอี้ของหมอฟัน พอผู้ชายคนนั้นกดปุ่ม พนักเก้าอี้ก็เอนไปด้านหลังทันที ทำให้ต่อต้องเอนไปข้างหลังเช่นกันจนเกือบจะเป็นนอนราบ
“ฮื่อ ฮื่อๆๆ”
ต่อดิ้นรนอีกครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล ผู้ชายที่ใส่หน้ากากตัวตลกหยิบขวดสีชาเล็กๆ มาไว้ในมือ เปิดจุกออก แล้วยื่นมาจ่อที่จมูกของต่อ
ต่อสูดหายใจเข้าไปอย่างช่วยไม่ได้ ทันทีที่สูดเข้าไปร่างกายของต่อก็ร้อนผ่าวไปทีละส่วน เริ่มตั้งแต่ใบหน้า หน้าอก และลามไปถึงส่วนล่าง ไม่เพียงแต่ความรู้สึกร้อนผ่าวเท่านั้น ยังรวมถึงความรู้สึก “เงี่ยน” อีกด้วย
“เอาล่ะครับ บัดนี้ได้เวลาสำหรับผู้มีเกียรติทุกท่านแล้วครับ”
ชายที่สวมหน้ากากก้าวขึ้นบนโพเดียมแล้วทำหน้าที่เหมือนพิธีกร
“เราจะเริ่มการประมูล ณ บัดนี้ เริ่มที่ “การได้สูดกลิ่นกายของวัยรุ่นก่อนครับ”
“เริ่มที่ 1,000 บาท ครับ เพิ่มระดับการประมูลครั้งละ 1,000 บาท”
“เริ่มครับ!”
“2,000 บาท.....เบอร์ 2 ครับ”
“3,000 บาท....เบอร์ 6 ครับ”
ดูเหมือนแต่ละคนจะมีป้ายระบุหมายเลขประจำตัว และแต่ละคนจะยกป้ายของตัวเองขึ้นมาเมื่อต้องการประมูลที่จำนวนเท่านั้น ระดับการประมูลยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“9,000 บาท ที่เบอร์ 8 ครับ....มีใครสู้มั้ยครับ!”
“9,000 บาทครั้งที่ 1”
“9,000 บาทครั้งที่ 2”
“9,000 บาทครั้งที่ 3....ปิดการประมูลครับ!!” มีเสียงปรบมือขึ้นดังกึกก้อง
“เบอร์ 8 ครับ คุณมีเวลา 10 นาทีครับเชิญครับ”
ลุงแก่พุงพลุ้ยเบอร์ 8 รีบก้าวออกมาอย่างรวดเร็ว ลุงคนนั้นก้มหน้ามาซุกไซ้อยู่ที่ซอกคอของต่ออย่างหื่นกระหาย! แถมยังใช้มือแกะกระดุมเสื้อนักเรียนแล้วแผ่ออก หลังจากนั้นจึงซุกหน้าลงไปเลียและสูดดมที่รักแร้ของต่ออย่างกระหายโดยไม่รังเกียจ ต่อรู้สึกจั๊กจี้แต่ก็ปนความรู้สึกเสียวไปด้วย ลุงคนนนั้นทั้งสูดทั้งเลียรักแร้ของต่อทั้ง 2 ข้างโดยไม่ให้เสียเวลาแม้แต่น้อย
“กริ๊งงงงง” เสียงสัญญาณดังขึ้น
“หมดเวลาครับ!” ชายหน้ากากตัวตลกพูดขึ้นมา
“เอาล่ะครับ ต่อไปจะเป็นการประมูลกางเกงในของหนุ่มน้อยคนนี้กันนะครับ”
“เจ้าหน้าที่แกะห่อเลยครับ!”
มีเจ้าหน้าที่อีก 2 คนเดินออกมาสมทบและถอดกางเกงนักเรียนสีน้ำเงินของต่อลงมากองที่ข้อท้า
.......ยะ.....อย่า!!........
ต่อได้แต่คิดในใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย เพราะถูกมัดแขนขาอยู่!! เจ้าหน้าที่ปลดโซ่ที่มัดขาเป็นการชั่วคราวเพื่อดึงกางเกงนักเรียนและกางเกงในออกมา แล้วก็กลับไปล็อกโซ่กับขาเก้าอี้ไว้ใหม่อีกครั้ง
“โอ้....สมกับเป็นนักเรียนจากโรงเรียนไฮโซครับ”
“กางเกงใน Calvin Klein ครับ”
มีเสียงปรบมือดังกึกก้อง บางคนถึงกับทนไม่ไหวเริ่มใช้มือช่วยตัวเองไปซะแล้ว
.......บ้า!....นี่มันบ้ากันไปหมดแล้ว!!!.........
ต่อคิดในใจ
“เอาล่ะครับ เริ่มการประมูลที่ 5,000 บาท เพิ่มระดับการประมูลครั้งละ 5,000 บาท ครับ!!”
“10,000 บาท........ที่เบอร์ 5 ครับ”
การประมูลเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ จนไปจบที่ 80,000 บาท ลุงแก่ ท้วมๆ ผมหงอกเป็นคนได้ไป เมื่อลุงได้กางเกงในไปแล้วก็สูดดมราวกับเจอของวิเศษแล้วเริ่มช่วยตัวเองไปทันที! โดยไม่สนใจคนรอบข้างแม้แต่น้อย
ตอนนี้ต่อนอนเปลือยเปล่าอยู่หน้ากลุ่มคนเหล่านี้ เรื่องที่เกิดขึ้นมันเหมือนฝันร้าย แต่ทำอย่างไรก็ไม่สามารถตื่นได้ซะที หรือว่านี่จะเป็นความจริง? ต่อไม่อยากจะนึกเลยว่าต่อจากนี้ไปจะเกิดอะไรขึ้น!
“เอาล่ะครับ ในที่สุดก็มาถึงช่วงสุดท้ายที่ทุกคนรอคอย.....”
.
.
“การประมูลเพื่อเปิดบริสุทธิ์ข้างหน้าของหนุ่มน้อยคนนี้ครับ!!!”
คราวนี้ทุกคนในห้องไม่เพียงแค่ปรบมือเท่านั้น แต่ยังโห่ร้อง เป่าปาก ด้วยความถูกใจ ยกเว้นตาลุงที่ได้กางเกงในของต่อไป เพราะแกมีโลกส่วนตัวของแกไปซะแล้ว ตอนนี้ต่อรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นเครื่องสังเวยสำหรับพิธีกรรมอุบาทว์
“การประมูลเริ่มต้นที่ 10,000 บาท เพิ่มระดับการประมูลครั้งละ 10,000 บาท ครับ!”
“20,000 บาท” (ทุกคนยกป้าย)
“30,000 บาท” (ทุกคนยกป้าย)
.
.
.
.
“90,000 บาท” (เหลือเบอร์ 1,3,4,9)
“100,000 บาท” (เหลือเบอร์ 1,3,9)
“เราจะขอยกระดับการประมูลขึ้นเป็นครั้งละ 50,000 บาท นะครับ”
“150,000 บาท”
“200,000 บาท”
“250,000 บาท” (เหลือเบอร์ 1 กับ 9)
“300,000 บาท”
“350,000 บาท ครับ เหลือแต่เบอร์ 1 แล้วครับ เบอร์ 9 สู้มั้ยครับ?”
“อ้า! เบอร์ 9 สู้ครับ 400,000 บาท....”
“600,000 บาทครับ!!!” เบอร์ 1 โพล่งออกมาทันที!
“สุดยอดครับ!! เบอร์ 1 ทุ่มที่ 600,000 บาทแล้วครับมีใครสู้มั้ยครับ?”
เบอร์ 9 กัดฟันกรอด......
“600,000 บาท ครั้งที่ 1”
“600,000 บาท ครั้งที่ 2”
“600,000 บาท ครั้งที่ 3”
“เบอร์ 1 คุณได้ไปเลยคร้าบบบ”
ลุงเบอร์ 1 ลุกขึ้นโค้งคำนับให้ทุกๆ คนที่ปรบมือ ส่งเสียงเชียร์เกรียวกราว!
แล้วก็เดินก้าวอาดๆ มาที่ข้างหน้าของต่อ ตอนนี้เจ้าหน้าที่ 2 คนช่วยกันแหกขาของต่อและจับไว้คนละข้าง ลุงเบอร์ 1 นั่งคุกเข่าก้มตัวลงมาข้างหน้าใกล้ๆ กับควยของต่อพอดี ต่อรู้ทันทีว่าตนเองกำลังจะเจอกับอะไร!!!
“อื้อ อื้อ อื้อ.....”
ต่อร้องขอความช่วยเหลือแต่ไม่เป็นผล เพราะโดนมัดและโดนจับไว้อย่างแน่นหนา แถมยังโดนมัดปิดปากไว้อีกด้วย
ลุงเบอร์ 1 เอื้อมมือมาชักที่ควยของต่อ เจ้าหน้าที่อีกคนรู้หน้าที่ดีจึงหยิบขวดสีชาเล็กๆ มาเปิดแล้วให้ต่อดม กลิ่นของมันฉุนแบบแปลกๆ ต่อเริ่มรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วร่างกายอีกครั้ง และยังรู้สึกเงี่ยนเพิ่มเป็นทวีคูณ ตอนนี้ต่อรู้สึกตัวเบาหวิวและหมดเรี่ยวแรงที่จะขัดขืน
หลังจากที่ควยของต่อแข็งเต็มที่แล้ว ลุงคนนั้นก็เริ่มถอกควยของต่อทันที!! ต่อเริ่มรู้สึกเจ็บที่ปลายหนังหุ้มควย
“อื้อ!.....” ต่อร้องคราง
ลุงรู้สึกว่าตัวเองจะทำแรงเกินไปจึงหยุดมือก่อนแล้วกลับมาชักควยให้ต่อ ตอนนี้ลุงคนอื่นๆ จ้องกิจกรรมตรงหน้าอย่างใจจดใจจ่อ แถมทุกคนยังชักควยของตัวเองไปด้วย
คราวนี้ลุงเบอร์ 1 ถอกควยของต่อเป็นครั้งที่ 2 หนังหุ้มปลายร่นลงมาเยอะกว่าเดิมมากจนเกือบพ้นแล้ว
“เอาล่ะครับ เอาใจช่วยน้องเค้าด้วยนะครับ”
คนที่ใส่หน้ากากยังคงส่งเสียงพากย์ตลอดเวลา
คราวนี้ลุงถอกควยของต่อลงมาเป็นครั้งที่ 3 ในที่สุดหัวควยของต่อก็หลุดพ้นออกมาจากหนังหุ้ม เผยให้เห็นหัวควยที่บานแดงก่ำและมีขี้เปียกติดอยู่รอบๆหัวเงี่ยง กลิ่นขี้เปียกเหม็นโชยออกมาแต่ก็ไม่ได้ทำให้ลุงคนนั้นรู้สึกรังเกียจแม้แต่น้อย แถมลุงยังจ้องตาเป็นมัน ทุกคนในห้องต่างโห่ร้องด้วยความยินดี
“อื้อ....”
ต่อรู้สึกแสบที่ปลายหนังหุ้มมาก แต่ก็มีความรู้สึกใหม่เข้ามาแทนที่ ความรู้สึกที่หนังหุ้มได้ถูกปลิ้นออกมาเรียบร้อยแล้ว และความรู้สึกที่หัวควยของตัวเองได้เป็นอิสระ และตอนนี้ต่อก็รู้สึกเงี่ยนมากๆ จนไม่สนแล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นความจริงหรือความฝัน! ขอแค่ใครก็ได้ที่จะมาช่วยปลดปล่อยความเงี่ยนของต่อในตอนนี้ก็พอ
ลุงเบอร์ 1 ค่อยๆ ก้มลงแล้วค่อยๆ ใช้ลิ้นละเลียดลงที่ปลายควยของต่อ ที่น้ำเงี่ยนใสไหลเป็นทางอยู่ที่ปลายหัวควย แล้วค่อยๆ บรรจงครอบปากลงที่ควยของต่อ แล้วใช้ลิ้นกวาด กลืน กินขี้เปียกของต่อลงลำคอไปอย่างไม่รังเกียจ
ความรู้สึกอุ่นๆ จากปากของลุงแทรกผ่านทุกอณูของหัวควยและลำควย เนื่องจากหัวควยของต่อเพิ่งเปิด จึงทำให้ทุกครั้งที่ลุงกวาดลิ้นมาโดนที่หัวควย ต่อจึงเสียวมากๆ ขนาดดิ้นพล่านอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ เหมือนคนชักกระตุกเลยทีเดียว!
ลุงเริ่มขยับหัวเข้าออก โดยปากยังคงดูดครอบควยของต่อไว้แน่น สลับกับใช้ลิ้นดุนที่หัวควยของต่อเป็นระยะๆ และต่อเองก็ชักกระตุกด้วยความเสียวเป็นระยะๆ เช่นกัน
ใช้เวลาเพียงไม่นานต่อก็ใกล้ถึงจุดสุดยอดเต็มที คราวนี้เสียวกว่าทุกๆ ครั้งที่ผ่านมาเพราะต่อโดนใช้ปากเป็นครั้งแรก
“อ่ะ อ่ะ อ่ะ.......” ต่อทั้งดิ้น ทั้งเสียวจนเกือบทนไม่ได้แล้ว ตอนนี้ต่อแหงนหน้าแล้วสูดอากาศให้มากที่สุดเพื่ออดทนต่อความเสียว สังเกตได้จากกล้ามเนื้อหน้าท้องที่แข็งเกร็ง และขยับขึ้นลงด้วยจังหวะที่เร็วจากการสูดหายใจถี่ๆ
“อ๊า..........ห์”
ต่อเกร็งฉีดน้ำรักเข้าปากของลุงเบอร์ 1 ไปเต็มๆ ลุงก็กลืนลงคอไปแถมยังเลียเก็บส่วนที่ไหลย้อยลงมาตามลำควยจนหมดทุกหยาดหยดราวกับเป็นน้ำอมฤทธิ์ที่จะชะลอความแก่ของแกได้
“แฮ่กๆๆๆๆๆๆๆ”
ตอนนี้ต่อนอนหอบอยู่บนเก้าอี้ ลุงเบอร์ 1 ถอนปากของตัวเองออกไปเรียบร้อยแล้ว
ต่อรู้สึกเสียวแบบสุดยอดแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งๆที่เสร็จเรียบร้อยแล้วแต่ควยของต่อก็ยังคงแข็งอยู่อย่างนั้น ไม่มีทีท่าว่าจะอ่อนลงง่ายๆ
ลุงทุกคนเมื่อได้เห็นภาพเสียวกระสันขนาดนั้นก็ได้ช่วยตัวเองจนเสร็จเรียบร้อยไปก่อนหน้านี้แล้วรวมทั้งลุงเบอร์ 1 เองด้วย
“เอาล่ะครับ เรียบร้อยกันหมดทุกคนแล้วนะครับ”
“ขอขอบพระคุณทุกท่านมากครับ สำหรับค่ำคืนนี้.....ราตรีสวัสดิ์ครับ”
ลุงทุกคนต่างเดินแยกย้ายออกไปจากห้องมืดแห่งนี้ ต่อถูกย้ายออกมาอีกห้องหนึ่งที่มีกระจกบานใหญ่รอบด้าน ชายใส่หน้ากากที่ทำหน้าที่พิธีกรถอดเสื้อออกเหลือแต่กางเกงสแลค กำลังเดินเข้ามาใกล้ๆ ทางด้านหลังของต่อซึ่งต่อมองเห็นจากเงาสะท้อนในกระจก ชายใส่หน้ากากเอื้อมมือที่ถือผ้าเช็ดหน้ามาปิดที่จมูกของต่อ
ต่อดิ้นขัดขืนแต่ก็สูดกลิ่นบางอย่างจากผ้าเช็ดหน้าเข้าไป ก่อนที่จะสลบต่อเพ่งมองที่คนร้ายจากเงาสะท้อนในกระจก แต่ไม่เห็นใบหน้าเพราะสวมหน้ากากอยู่ จำได้เพียงแค่รอยสักตัวหนังสือภาษาอังกฤษบางอย่าง......กับเลข 3 หลังจากนั้นต่อก็สลบไป.............
.......................................................................................................................................
3 ทุ่ม, ปัจจุบัน....
เอกเดินไปเดินมาด้วยความกังวลอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน เอกโทรบอกคุณพลกับคุณศรีไปก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งสองคนกำลังอยู่ระหว่างทางมาที่โรงพยาบาล เอกกำชับว่าต่อถึงมือหมอแล้ว ให้ทั้ง 2 คนตั้งสติดีๆ แล้วให้รีบมาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งแถวลุมพินี
ระหว่างที่เอกกำลังเดินไปเดินมาอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาทางห้องฉุกเฉิน เอกมองไปทางต้นเสียงก็พบคุณพลและคุณศรีกึ่งเดินกึ่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหาเอกในทันที!!
“น้องเอก น้องต่อเป็นไงบ้าง??” คุณศรีรีบถามเอกทั้งน้ำตานองหน้า คุณพลเองที่หน้าเสียอยู่ก็อยากรู้เช่นกันกัน
“มีคนไปเจอน้องต่อนอนสลบอยู่หน้าโรงเรียนครับ! ตอนนั้นอาการไม่ดีเลย โชคดีมีพลเมืองดีไปเจอเข้า ตอนนี้ผมขอที่อยู่ติดต่อไว้แล้วครับ เผื่อจะให้เค้ามาเป็นพยานให้” เอกอธิบาย
ตอนนี้มีเสียงฝีเท้าอีกกลุ่มหนึ่งเดินมาทางเอก เป็นเพื่อนๆ ของต่อนั่นเอง ทุกคนยังคงใส่ชุดนักเรียนแต่ใส่รองเท้าแตะ ดูก็รู้ว่าพอทราบข่าวของต่อทุกคนก็รุดหน้ามาที่โรงพยาบาลกันทุกคน โดยเจมส์มากับเม้ง ส่วนโยทิ้งข้าวของไว้ที่คอนโดและมากับมาร์ค
ทั้ง 4 คน อัพเดทเรื่องราวทั้งหมดจากเอก ได้แต่ภาวนาให้ต่อปลอดภัย
“โถ่...ลูกแม่! ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย” คุณศรีร้องไห้หนักกว่าเดิม
“ไม่เป็นไรนะคุณ เจ้าต่อถึงมือหมอแล้ว หมอต้องช่วยสุดความสามารถแน่ๆ” คุณพลปลอบคุณศรี
เอกเองก็ช่วยปลออบด้วยอีกคน และตอนนี้ไฟหน้าห้องฉุกเฉินก็ดับลง พร้อมกับคุณหมอวัยกลางคนที่กำลังเดินออกมาจากห้อง
“ลูกดิฉันเป็นไงมั่งคะคุณหมอ??” คุณศรีและคุณพลรีบปรี่เข้าไปถามทันที!!
“คนไข้ปลอดภัยแล้วครับ!” หมอตอบ
คุณศรีกับคุณพลโล่งอกอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงคนอื่นๆ ด้วย
“แต่ตอนนี้คนไข้ยังมีอาการมึนงงอยู่ครับ ทางเรายังคงให้อยู่ดูอาการในห้องฉุกเฉินไปก่อน 1 คืน หลังจากนั้นเราจะย้ายผู้ป่วยไปที่ห้องพิเศษครับ” หมออธิบาย
“แล้วสาเหตุเกิดจากอะไรครับ?” เอกรีบถามทันที
“ยังสรุปแน่นอนไม่ได้ครับ ต้องรอผลตรวจเลือดวันพรุ่งนี้ก่อน แต่เบื้องต้นคาดว่าน่าจะโดนวางยาบางอย่างที่พวกมิจฉาชีพมักจะใช้กัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพรุ่งนี้ผมดูผลตรวจเลือดแล้วจึงจะสรุปได้ครับ”
“ช่วยหน่อยนะคะคุณหมอ” คุณศรีย้ำ
“แน่นอนครับ! ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อนนะครับ”
แล้วหมอก็เดินจากไป คุณศรียังคงมีสีหน้ากังวลตามประสาแม่ที่ห่วงลูก ทั้งเจมส์ เม้ง และโยต่างอาสาจะมาช่วยดูแลต่อให้ เพราะเข้าใจดีว่าวันธรรมดาคุณพลและคุณศรีต้องทำงาน และทั้งสามคนก็ปิดเทอมแล้วด้วย มีเวลาว่างทั้งวัน
“แม่ขอบใจลูกๆ มากนะจ๊ะ รวมถึงน้องเอกด้วยนะจ๊ะ ถ้าไม่ได้น้องเอกพวกพี่ต้องแย่แน่ๆ เลย”
คุณพลและคุณศรีขอบอกขอบใจเอกเป็นการใหญ่ พวกเด็กๆ แอบสังเกตหน้าตาของเอกเพราะเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก คุณศรีดูสบายใจกว่าตอนแรกขึ้นมาก แล้วทุกคนต่างก็แยกย้ายกันกลับบ้านของตัวเอง
..........................................................................................................................
โยกับมาร์คกลับมาถึงคอนโดเกือบ 4 ทุ่มครึ่ง โยทิ้งของทุกอย่างไว้ที่นี่จึงต้องกลับมาเก็บของก่อน ตอนนี้คุณลุงจอดรถรออยู่ข้างล่าง
“เฮ้อ.......หมดเรื่องซะที”
มาร์คถอนหายใจด้วยความโล่งอกพลางนั่งลงบนโซฟา โยยังคงก้มหน้าก้มตาเก็บของอยู่
“เอ้อ มึงจะไปเฝ้าไอ้ต่อวันไหนอ่ะ ให้กูไปด้วยนะ” มาร์คถาม
“..................” ไม่มีคำตอบจากโย
“เฮ้ยโย เมิงเป็นไรวะ? กูเห็นเมิงซึมๆ มาหลายอาทิตย์แล้วนะ”
“......................”
“ทำมะ?? อยู่กับกูทำให้มึงไม่มีความสุขเหรอ??” มาร์คประชดเมื่อเห็นโยไม่ยอมพูดซักที
“มึงถามตัวเองดีกว่าว่ามึงอยู่กับใครแล้วมีความสุข?” โยเป็นฝ่ายพูดบ้าง แต่พูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“เฮ้ย....เมิงพูดรายวะ กูไม่เห็นเข้าใจ?” มาร์คงง
คราวนี้โยเดินถือกระเป๋ามายืนตรงหน้าของมาร์ค
“มึงชอบไอ้ต่อแล้วมาทำดีกับกูทำไม!” โยเริ่มตาแดงๆ กำมือแน่น ในที่สุดโยก็ตัดสินใจถามออกไป จะได้เคลียร์กันไปซะที!
“มึงเป็นเหี้ยไรวะ! กูก็แค่เป็นห่วงมันเท่านั้นเอง!” มาร์คตอบกลับ
“มึงโกหก! ไม่งั้นมึงจะมีรูปไอ้ต่อเยอะแยะมากมายขนาดนั้นได้ไง??” โยบอก
“นี่มึงแอบค้นของๆ กูเหรอ??” มาร์คถามโย โยไม่ตอบคำถามแต่กลับถามมาร์คแทน
“กูถามมึงจริงๆ เหอะ มึงเคยชอบกูบ้างมั้ย?” โยน้ำตาคลอและรอคำตอบของมาร์คอย่างใจจดใจจ่อ
“กู.........”
.
.
“กูไม่รู้”
มาร์คตอบหน้าเจื่อนๆ อยู่ดีๆ เจอคำถามแบบนี้มาร์คจึงตั้งตัวไม่ติด
“เออ! ขอโทษที่กูเสือกคิดไปเอง กูชดใช้ให้มึงหมดแล้ว ต่อไปนี้ทางใครทางมัน!! นี่เบอร์ของไอ้ต่อ เอาไป!!”
โยวางกระดาษโพสต์อิทที่เขียนเบอร์ของต่อลงบนโต๊ะรับแขก แล้วรีบเดินออกไปจากห้องของมาร์คทันที!
ปล่อยให้มาร์คยืนหน้าเจื่อนอยู่คนเดียวภายในห้องนั้น.........
...................................................................................................................
“ลุง! กลับบ้านด่วนเลยครับ!!”
ลุงคนขับรีบบึ่งรถออกมาจากคอนโดของมาร์คทันที! ขณะอยู่ในรถโยพยายามฝืนกลั้นตัวเองไม่ให้ร้องไห้ เพราะเดี๋ยวลุงจะคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่
ใช้เวลาไม่นานรถของโยก็กลับมาถึงบ้านแถวถนนสุขุมวิท เมื่อรถจอดโยก็รีบหยิบกระเป๋าแล้ววิ่งขึ้นบ้านไปทันที!
โยกดล็อกประตู ความรู้สึกที่อัดอั้นมานานถูกปล่อยออกมาหมดในรูปของน้ำตาเป็นสาย โยเปิดวิทยุไว้เพื่อกลบเสียงร้องไห้ของตน เสียงเปียโนของเพลงดังขึ้น ฟังดูก็รู้ว่าเป็นเพลงอกหักของวงดนตรีเก่าวงหนึ่ง
.
.
“I can see the pain living in your eyes ……..
And I know how hard you try ……..
You deserve to have much more ……….
I can feel your heart and I sympathize ……
And I'll never criticize all you've ever meant to my life ……”
“I don't want to let you down
I don't want to lead you on
i don't want to hold you back
From where you might belong”
“You!…….would never ask me why…..
My heart is so disguised
I just can't live a lie …………. Anymore………….……”
.
.
ตอนนี้โยคิดถึงเรื่องในอดีตอันแสนไกล........เรื่องที่เกิดขึ้นนานมาแล้ว........
“พวกเราๆ มาดูนักเรียนใหม่เร็วๆ ดูดิ ดูดิ หน้าเหมือนลูกครึ่งเลย....”
เพื่อนในห้องต่างลุกกรูไปออกันที่หน้าต่างหน้าห้องพลางชี้มือชี้ไม้
“ไหนๆๆ ขอดูด้วย!!” เสียงของเด็กชายโยดังขึ้น น้ำเสียงตื่นเต้นกว่าคนอื่นๆ เด็กชายโยยืดตัวขึ้นเพื่อที่จะมองได้ถนัดๆ พอเห็นเด็กใหม่ที่ยืนกอดแม่แน่น เด็กชายโยก็โพล่งออกมาทันที!!
“โห!!.....น่ารักจัง.....เหมือนตุ๊กตาเล้ยยย!”
“ไปชวนเค้ามาเล่นด้วยกันสิ!” เด็กคนหนึ่งบอกกับเด็กชายโย
“เอางั้นหลอ??” เด็กชายโยพูดยิ้มๆ
“นายๆ เราชื่อต่อนะ นายชื่ออะไรอ่ะ”
เสียงเด็กคนหนึ่งดังแทรกขึ้นมาข้างๆ หูมาร์ค ต่อมายืนข้างๆ มาร์คตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ทั้งๆ ที่โยกำลังจะไปชวนมาร์คมาเล่นอยู่แล้ว!
“เรา......ชื่อ.....มาร์ค....” มาร์คตอบอายๆ
“นายมาอยู่กับเราสิ........มีของเล่นเยอะแยะเลยนะ คุณครูให้เล่นได้ทั้งวันเลย....” ต่อชวนมาร์ค
“จิงหลอ......ให้เราเล่นได้ด้วยหลอ....” ตอนนี้เด็กชายมาร์คตาลุกวาว
“จิงจิ๊ง.....มาสิ”
.....................................................................................................................................
“นักเรียนคะ เดี๋ยวให้จับคู่กันนะคะ แล้วใช้กระดาษใบนี้วาดรูประบายสีนะคะ ครูอยากได้รูปธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น ป่า ภูเขา หรือทะเล ได้หมดค่ะ” ครูอนุบาลอธิบายให้นักเรียยนทั้งห้องฟัง
โยรีบเดินไปสะกิดมาร์คทันที!
“เอ่อ นายคู่กับเราสิ เรามีดินสอสีเยอะแยะเลยนะ” เด็กชายโยพูดด้วยความยิ้มแย้ม
“อ๋อ ขอโทษด้วยนะ เราคู่กับต่อแล้วแหละ” เด็กชายมาร์คตอบ
....................................................................................................................................
ตอนนี้โยได้แต่ร้องไห้ปล่อยโฮออกมาจนหมด โยคิดทบทวนมาตลอดจึงรู้ตัวเองว่าชอบมาร์คมาตั้งนานแล้ว แต่ไม่อยากยอมรับความจริง จนเมื่อกระทั่งได้รู้ว่ามาร์คเก็บรูปของต่อไว้อย่างดี โยจึงเริ่มเข้าใจจิตใจของตัวเอง แต่ตอนนี้มันก็สายไปเสียแล้ว ตอนนี้โยเจ็บที่กลางอกอย่างมาก.........มันเจ็บปวดที่สุดไม่สามารถหาคำบรรยายได้......ทำไมเราถึงชอบทำร้ายตัวเองให้เจ็บปวด........ทั้งๆที่รู้อยู่แล้ว.........ไม่ว่าจะแต่ก่อน ตอนนี้ หรือตอนไหน....... เราก็ไม่เคยสมหวังเลยสักครั้ง...............
.
.
.
“I would rather hurt myself
Than to ever make you cry
There's nothing left to try…….
.
.
Though it's gonna hurt us both
.
.
There's no other way
.
Than to say …….
.
Goodbye
.
.
.
Good Bye!..........
..................................................................................................................................
จบ Season One1
Kink Team เขียน












































ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขออนุญาดแอดมินนะครับ
ฝากซีรี่ เรื่องเสียวซีรีย์เกย์ รัก กามรมย์
http://www.tunwalai.com/story/238309

เล่าเรื่องเสียวเกย์ รัก กามรมย์
http://www.tunwalai.com/story/234926/

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น