วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ชายหนุ่มเหมือนจะรู้ตัวว่าได้พูดคำรุ่นแรงออกไป หัวใจหวามลึกเมื่อเห็นน้ำตาหล่อน กระนั้นความปากหนัก เจ้าทิฐิก็ทำให้เขาไม่ยอมเอ่ยขอโทษ เพียงก้มลงช้อนร่างบอบบางขึ้น แล้วพาไปยังด้านหลังโขดหินใหญ่ใกล้แปลงปลูกมะลิ ถึงตอนนี้นงนุชก็ไม่อาจขัดขืนใดๆ ได้อีก ด้วยรู้ดีว่าไม่มีประโยชน์ หล่อนรักเขาพอๆ กับเขาต้องการระบายความใคร่กับหล่อน
เหมืองเพชรเริ่มต้นจูบเล้าโล้มหญิงสาวอีกครั้ง ซึ่งหล่อนก็ร่วมมือเป็นอย่างดี ความวาบหวามก่ออารมณ์ร้อนระอุ พอนิ้วสากเกี่ยวแพนตี้สีหวานลง หญิงสาวก็อำนวยความสะดวกให้ จนเตี่ยวผืนน้อยพ้นไปจากรองเท้าส้นสูง และอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มปลดหัวเข็ม ปลดกระดุม รูดซิป ปล่อยท่อนเนื้อแกร่งร้อนให้เป็นอิสระ จากนั้นแขนแข็งแรงก็ช้อนขาเรียวสวยขึ้นพาดไว้บนเอวสอบ ลมหายใจหอบหนักขณะแทรกความต้องการเพื่อหลอมรวม เจ้าของดอกไม้ผวาเฮือกจิบเล็บกับบ่ากว้างเอาไว้แน่น การขยับเคลื่อนเป็นไปอย่างเชื่องช้า กระทั่งธรรมชาติพาสองสิ่งมาบรรจบกัน
“อืมส์ เพชรจ๋า”
“ชูว์!! ใจเย็นๆ ทูนหัว เพชรจะจัดให้เดี๋ยวนี้แหละ”
คำพูดโต้ตอบของทั้งสองเปลี่ยนไป เมื่อความกำหนัดเข้าครอบครอง คลื่นอารมณ์ถั่งโถมระลอกแล้วระลอกเล่า กลีบดอกไม้เบ่งบานไหวระริกตามกระแสคลื่น ยิ่งภมรหนุ่มขยับปลายงวงซอนไซ้ลงลึกเท่าไร เจ้าของช่อดอกไม้ยิ่งครวญคราง ลมหายใจทั้งสองหอบกระเส่า ความหนาวเย็นไม่สามารถทำอะไรได้เลย เมื่อความรุ่มร้อนแผดเผาราวกับเปลวเพลิง
“เพชรจ๋า นุชไม่ไหวแล้ว”
“อีกนิดเดียวคนดี เพชรกำลังจะพานุชไปพบความสุข”
เหมืองเพชรเคลื่อนริมฝีปากไปจูบปิดกั้น เสียงครางของหญิงสาวเอาไว้ โอบกอดพาร่างบอบบางโต้คลื่นไม่นานที่สุดความสุขในแบบชายหญิง ก็ทำให้ทั้งสองเกร็งกระตุกเข้าหากัน ราวสองนาทีต่อมา เสียงแผวพร่าปนหอบก็ดังขึ้น
 “ปล่อยนุชลงเถอะเพชร”  ใบหน้าสากระคายยังซุกไซ้ทรวงอกอวบนุ่ม ซึ่งสายเสื้อเส้นเล็กถูกปลดลงไปกองอยู่หน้าท้องแบนราบ พลางบอกเสียงอู้อี้
“วันนี้ไปนอนในไร่กับเพชรนะ”  คนได้ฟังถึงกับหัวตาร้อนผ่าว
“ปล่อยนุชลงก่อนเถอะนะ นุชขอร้อง”  นงนุชใช้ไม้อ่อน เพราะรู้ดีว่าเขาจะยอมทำตาม คนอย่างเหมืองเพชรถ้ายิ่งดื้อใส่เขายิ่งต้องการเอาชนะ
เมื่อได้รับอิสระหญิงสาวก็รีบจัดการแต่งตัวมือไม้สั่น ระหว่างจัดการกับตัวเองบ้าง เหมืองเพชรก็ถามมาอีกอย่างคนใจร้อน
“ว่าไง นุชยังไม่ตอบเพชรเลย?”  นงนุชถอนหายใจแผ่วเบา
“ช่วงนี้นุชเป็นไปยังไม่ได้”  คำตอบของหญิงสาว ทำให้โทสะชายหนุ่มพุ่งขึ้นทันที เสียงห้วนกระชากถาม
“ทำไม!? หรือเธอคิดจะพาร่างที่พึ่งเสร็จกับฉัน เข้าไปอ่อยนายเหนือต่อ”  จบคำพูดอันหยาบคาย ใบหน้าคมเข้มก็สะบัดไปตามแรงฝ่ามือเรียวเล็ก เสียงสั่นเครือบอกถึงความเจ็บปวดถามขึ้นอย่างเหลืออด
“จะพูดดูถูกกันไปถึงไหน ที่ผ่านมานุชยังเจ็บไม่สมใจเพชรใช่ไหม?”
เหมืองเพชรหันขวับกลับมา ดวงตาเขาลุกโพลงราวกับเปลวไฟ ฝ่ามือแข็งกร้าวรวบจับต้นแขนอ่อนนุ่มทั้งสองข้าง เขย่าจนร่างบอบบางหัวสั่นหัวคลอน พร้อมกับตะคอกเสียงดุดัน
“แล้วจะให้คิดยังไง! แล่นมาหาผู้ชายอื่นถึงบ้าน ทั้งที่ผัวก็ยืนหัวโด่อยู่นี่!!”  นงนุชร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาด้วยความอัดอัน
“เพชรก็รู้ ที่นุชทำไปเพราะไม่มีทางเลือก นุชทรยศต่อพ่อตัวเองไม่ได้”
“เธอจึงแสดงความกตัญญู โดยการใช้ร่างกายแลกกับความต้องการของพ่อเธอสินะ”
“หยุดนะ!!”  นงนุชกรี๊ดเสียงแหลม หยาดน้ำกลบตาขณะจ้องหน้าชายหนุ่มที่ตนรัก ด้วยความรวดร้าวผิดหวัง ทว่าเหมืองเพชรจะใส่ใจก็หาไม่ บีบต้นแขนอ่อนนุ่มจนคนตัวเล็กนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ เคล้นเสียงเยาะทั้งดวงตาดุกร้าว
“หรือไม่จริง! พ่อเธอต้องการที่แถบนี้ไปทำรีสอร์ทจึงใช้เธอเป็นตัวล่อ แต่นายเหนือไม่เคยสนใจ เธอถึงต้องคอยวนเวียนอยู่แบบนี้ยังไงล่ะ!”
“ใช่!! นี่ใช่ไหม คือคำตอบที่นายต้องการจากฉัน”  แล้วหญิงสาวก็ร้องไห้จนตัวสั่น เหมืองเพชรชะงักนิ่งไปเหมือนจะรู้สึกตัว บดกรามเข้าหากันแน่น รับรู้ถึงความเจ็บปวดของอีกฝ่ายไม่ต่างกัน
เมื่อสองปีก่อน พ่อของนงนุชส่งหล่อนมาล่อนายเหนือ เพื่อเจรจาขอซื้อที่ท้ายหมู่บ้านติดทางเข้าไร่ แต่เหนือเมฆไม่ยอม เพราะไม่ต้องการให้อาณาจักรของเขา มีวัตถุก่อสร้างแล้วนำคนภายนอกเข้ามาปะปน เหนือเมฆให้คำตอบไปอย่างดุดัน ไม่สนใจว่าท่านผู้ว่าฯ จะเสนอราคาให้สูงแค่ไหน *‘สิ่งเหล่านี้เข้าไปอยู่ที่ไหน ก็สร้างความฉิบหายวายป่วงให้ที่นั่น!’*
ด้วยเหตุนี้ นายเหนือจึงสั่งให้เหมืองเพชรกันนงนุชออกไป ความที่นงนุชเป็นผู้หญิงสวย และเหมืองเพชรเองก็เป็นคนเจ้าชู้ เมื่อมีเรื่องให้เกี่ยวข้องกัน นงนุชจึงตกเป็นของเขาโดยไม่ตั้งใจ หลังจากนั้นความสัมพันธ์ของเขากับหล่อนก็เริ่มกันมาเรื่อยๆ แต่พ่อหล่อนไม่ชอบเขา ความสัมพันธ์ที่เกิดจึงเป็นไปอย่างลับๆ
ตลาดเวลาคุยกันกับนงนุช เหมืองเพชรหงุดหงิดงุ่นง่าน หล่อนเอาแต่ร้องไห้ปฏิเสธท่าเดียว ว่าเรื่องระหว่างเขากับหล่อนมันไม่มีทางเป็นไปได้ พ่อของหล่อนไม่ยอมรับเขา เห็นเขาเป็นศัตรู เป็นมารขัดผลประโยชน์หมายเลขหนึ่งเลยก็ว่าได้ ถึงกับประกาศลั่นออกมา ถ้าหล่อนเลือกเขาหล่อนก็ไม่ต้องเรียกท่านว่าพ่อ
และครั้งนี้ก็เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ถ้านงนุชมาหานายเหนือแล้วเจอเหมืองเพชรก่อน ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยหล่อนผ่านเข้าไปได้ ทั้งโดยเหตุผลส่วนตัวและหน้าที่ต้องรับผิดชอบ จนแยกไม่ออกว่าอย่างไหนเขาใช้มันขัดขวางหล่อน ซึ่งสิ่งที่ทำก็หนีไม่พ้นเรื่อง อย่างว่า แม้สถานที่จะเหมาะสมหรือไม่คนอย่างเขาก็หาทางจนได้ แล้วหลังจากนั้นคือคำถามและคำตอบเดิมๆ ซึ่งทำให้เหมืองเพชรหงุดหงิดพาลเอากับหล่อน จนต้องกลับออกไปในสภาพน้ำตานองหน้า
“เฮ้ย! เพชร มึงทำเกินไปเปล่าวะ?”  ไตรกาลถามขึ้น เมื่อร่างสูงของเพื่อนเดินฮึดฮัดมาถึงแคร่ที่เพื่อนๆ นั่งอยู่
“อะไร!!?”  คนกำลังหงุดหงิดกระชากเสียงห้วนจัด ไตรกาลเดือดขึ้นบ้าง
“ยังมีหน้ามาถาม ก็นุชไง ทำไมมึงต้องทำกับเธอถึงขนาดนั้นด้วย” “อย่าเอ่ยชื่อผู้หญิงแพศยาคนนั้นให้กูได้ยินอีก!!”  เหมืองเพชรสวนขึ้นเสียงกร้าว ดวงตาลุกโพลงเต็มไปด้วย
โทสะ ฉวยแก้วเหล้าในมือพฤทธิ์สาดพรวดลงคออย่างดุดัน ทั้งหมดเห็นอย่างนั้นถึงกับส่ายหน้า ไม่อยากพูดอะไรให้เป็นการตอกย้ำความรู้สึกของเพื่อนอีก เพราะต่างรู้ตื้นลึกหนาบางของคนทั้งสองดีอยู่ก่อนแล้ว
เหตุการณ์ด้านนอกจะเป็นเช่นไร คนในบ้านไม่อาจรู้ได้ อันเนื่องจากความรู้สึกของทุกคนขณะนี้ เต็มไปด้วยความอัศจรรย์ตื่นเต้น ปลาบปลื้มยินดี และอีกหลายความรู้สึกที่ไม่อาจบรรยายได้ แม้ได้เห็นกับตาพร้อมการแนะนำให้รู้จัก ตั้งแต่นายเหนือพาสาวน้อยเข้ามา กระนั้นยังยากจะเชื่อว่านี่คือความจริงไม่ใช่ความฝัน
 ห้องรับแขกอันโอ่โถงของบ้านเทพเทพา ตั้งแต่เจ้าของบ้าน หัวหน้าคนงานตำแหน่งสำคัญๆ ยันคนรับใช้ในบ้าน  มารวมกันอยู่ในนี้ เพื่อยลโฉนนายหญิงของอาณาจักรอัศวโกวิท จะขาดไปก็แต่สองหนุ่มน้อยซึ่งอยู่โรงเรียนประจำ ร่มแตงนายหญิงของบ้านเทพเทพา นั่งอยู่บนโซฟาชุดตัวเดียวกับพิมพิกา คอยลูบหน้าลูบหลังสาวน้อย กิริยาเต็มไปด้วยความรักใคร่เอ็นดู ราวกับได้ลูกสาวเพิ่มมาอีกคน
“หนูพิมช่วงกลางวันเข้ามาเที่ยวเล่นในหมู่บ้านกับป้านะจ๊ะ?”  พิมพิกาหันมองคุณของหล่อนเหมือนจะขอความเห็น
“งั้นให้กาลเข้าไปรับในไร่มาติวหนังสือที่บ้านใหญ่แล้วกัน”
“ขอบคุณค่ะ”  คนได้รับอนุญาตยิ้มกว้างกอดเอวป้าแตง แนบแก้มลงกับต้นแขนอย่างดีใจ
“ขอบคุณค่ะนายเหนือ แตงจะดูแลหนูพิมให้อย่างดีเลยค่ะ อ๋อ! แล้วสุดใจจะให้พักที่ไหนคะ?”
“บ้านพักคนงานยังมีห้องว่าง ให้สุดใจเข้าพักที่นั่นจะได้มาดูแลพิมง่ายหน่อย”
คุยกันอีกสักพัก เวลาประมาณสองทุ่มกว่า เหนือเมฆจึงพาพิมพิกากลับบ้านไร่ เนื่องจากตอนกลางคืนในชนบทไม่เหมือนในเมือง คนที่นี่จะเข้านอนกันตั้งแต่หัวค่ำ อย่างมากไม่เกินสามทุ่มไฟตามบ้านก็จะปิดหมด ถนนหนทางก็จะมืด อันเป็นวิถีชีวิตอย่างชาวบ้าน ซึ่งเหนือเมฆเห็นว่าสงบสุข ความเจริญไม่จำเป็นต้องได้มาโดยการทำลายธรรมชาติ มันสามารถปรับใช้ด้วยกันได้ หากใครคนใดคนหนึ่งไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวจนเกินไป
ที่นี่เปรียบได้กับโลกอีกใบที่ใครหลายคนไม่เคยรู้ หมู่บ้านห่างไกลจากอำเภอ ไกลจากตัวเมืองก็จริง ทว่าเหนือเมฆจะสนับสนุนการศึกษาของเด็กให้ถึงที่สุด เพราะเขามองว่าการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ ในหมู่บ้านมีโรงเรียนอนุบาล แต่หากลูก หลานใครอายุถึงเกณฑ์เข้าเรียนชั้นประถม นายเหนือจะส่งไปโรงเรียนประจำในเมืองกันหมด วันหยุดทีถึงมีรถไปรับกลับ
 “พิมวางมือแล้วไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวน้ำร้อนจะเย็นหมด”
พิมพิกาตั้งแต่กลับถึงบ้านก็มัวจัดของจัดเสื้อผ้าเข้าตู้ ส่วนเหนือเมฆแวะไปดูลูกม้า ซึ่งได้รับรายงานจากลูกน้องว่าไม่สบายในคอกหลังบ้านขากลับขึ้นมาประจวบกับสุดใจกำลังหิ้วถังน้ำร้อนออกจากห้องครัว จึงสั่งให้ไปพัก โดยมีคนงานขับกระบะมารอรับอยู่ก่อนแล้ว เขาจึงหิ้วถังน้ำร้อนเข้ามาในห้องเอง สาวน้อยแขวนเสื้อตัวสุดท้ายเข้าตู้ ก่อนจะหันไปมองเจ้าของเสียง ก็เห็นในมือใหญ่แข็งแรงหิ้วถังไม้ส่งไอร้อนลอยขึ้น ยืนอยู่กลางห้อง
“ที่นี่ไม่มีน้ำอุ่นเหรอคะ?”
“มี.. แต่ต้องต้มเอา”  ได้ยินคำตอบแบบกำปั้นทุบดิน คนตัวเล็กก็ย่นจมูกพลางค้อนใส่ แล้วเดินไปหาคนตัวใหญ่
“พิมไม่ได้หมายความอย่างนั้นซะหน่อย จะถามว่าที่นี่ไม่ได้ติดน้ำอุ่นเหรอคะ?”  เหนือเมฆเกี่ยวเอวคอดเข้ามาจูบแก้มแดงปลั่งหนักๆ อย่างอดใจไม่ไหว
“ฉันไม่ชอบอาบน้ำอุ่นก็เลยไม่คิดจะติด แต่เดี๋ยวพรุ่งนี้จะให้คนเอามาติดให้”  หญิงสาวเขย่งตัวขึ้นจูบแก้มสากๆ เป็นการขอบคุณ แล้วยิ้มให้จนตาหยี
“สามีของพิมเป็นคนน่ารักที่สุดในโลก”
“ฉะนั้น! จงตอบแทนความน่ารักของผัวด้วยการให้.....ทั้งคืนเลยได้ไหม?”
“บ้า!!”  กำปั้นน้อยๆ ทุบลงบนอกกว้างด้วยความเขินอาย เหนือเมฆโน้มหน้าลงคลอเคลียใบหูเล็กอมชมพูหอมกรุ่น พลางกระซิบเสียงแหบพร่า
“ฉันอยาก....ตอนนี้เลยด้วยซ้ำ คนดีเห็นใจฉัน”
พิมพิกาตัวสั่นระริก เมื่อคนร่างสูงโอบเอวพาเดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยกัน อากาศเย็นจัดเหนือเมฆต้องรีบผสมน้ำอุ่นให้สาวน้อย ขณะหล่อนจัดการกับตัวเองเพื่อเตรียมตัวอาบน้ำ มือเล็กๆ ตวัดม้วนผมยาวเป็นคลื่นขึ้นอย่างคล่องแคล่ว มัดเป็นจุกก่อนจะหยิบหมวกพลาสติกมาสวม หันมองชายหนุ่มก็เห็นเขากำลังใช้มือวัดอุณหภูมิน้ำในกะละมังอยู่
“เสร็จยังคะ?”  เหมือเมฆหันมองสาวน้อย ผละจากกะละมังลุกเดินเข้าไปหา ดวงตาสีเหล็กจ้องดวงหน้างามผุดผ่อง ราวกับจะกลืนกิน มือสากระคายช้อนปลายคางมน โน้มใบหน้าคมเข้มลงแนบชิดคลอเคลีย
“ฉันไม่เคยเห็นใครสวยและน่ารักเท่าพิม”  คนตัวเล็กเขิน แก้มร้อนวูบวาบรู้สึกว่ามันคงเห่อแดง ไม่คิดว่าคนขรึมๆ อย่างเขาจะพูดอะไรแบบนี้ก็เป็น
“ขอบคุณค่ะ”
“ขอบคุณอะไร? ที่ฉันชมว่าสวยหรือที่ผสมน้ำให้อาบ”  ถามพร้อมกับเอาหน้าผากชนหน้าผากกลมนูน ตาคมๆ จ้องตรึงไม่ให้ดวงตากลมโตเฉหลบไปได้ การกระทำของเขาทำให้หล่อนใจสั่น แม้ตัวก็พลอยสั่นไปด้วย
“ว่าไง? ยังไม่ตอบฉันเลย”
“ขะ ขอบคุณที่ผสมน้ำให้พิมอาบค่ะ”
“แล้วที่ฉันชมว่าสวยล่ะ?”
“ก็...”  แพรขนตายาวงอนหลุบต่ำ เขินสุดเขินแทบอยากหายตัวไปจากตรงนั้น ผิวแก้มร้อนผ่าวถูกริมฝีปากบางระคายเส้นหนวดคลอเคลีย เสียงกระซิบเร่งเร้าดังขึ้นมาอีก
“ก็..?”
“ก็ ขอบคุณเหมือนกันค่ะ”  จบคำแผ่วหวาน ก็เป็นการบดจูบอย่างดูดดื่มเรียกร้อง ร่างอ้อนแอ้นถูกอ้อมแขนแข็งแรงรัดแน่นจนเท้าลอยพ้นพื้น กว่าชายหนุ่มจะยอมปล่อย ลมหายใจของสาวน้อยก็ติดขัดขาดช่วง ตามด้วยเสื้อคลุมผ้าขนหนูสีชมพูลายหมีหลุดจากร่างเล็กบาง เผยให้เห็นความเต็มตึงอวบอิ่มกว่าแต่ก่อนได้ชัดเจน ไม่ผิดหวังกับสิ่งที่เขาเฝ้าดูแลมาอย่างถนอม เหนือเมฆก้มลงจูบยอดอกสีชมพูระเรื่ออันแข็งชูชันอย่างแผ่วเบา
“พิมหนาว”  เสียงแผ่วสั่นระริก พาให้ร่างแน่งน้อยเปลือยเปล่าไหวสะท้านตามไปด้วย แขนแข็งแรงช้อนคนตัวเล็กขึ้นอุ้ม หล่อนโอบแขนรอบลำคอแกร่ง ซ่อนหน้ากับแผงอกแน่นตึงด้วยความเขินอาย ขายาวๆ ก้าวอย่างมั่นคง พาสาวน้อยไปวางบนม้านั่งแบบตั่งไม้ใกล้กะละมังอาบน้ำ แล้วยังทำท่าจะตักอาบให้เสียเอง หากเสียงอ่อนหวานไม่ดังขัดขึ้นก่อน
“พิมอาบเองค่ะ”  พร้อมกันดวงหน้าใสกระจ่างก็แหงนมองอย่างอ้อนๆ
“ว้า!! รู้ทันซะงั้น ว่าจะอาบให้เพื่อขอรางวัลซะหน่อย”
“ไม่ต้องเลย คุณชอบขี้โกงเอากับพิมเรื่อย”  หล่อนพ้อแก้มป่องๆ ชายหนุ่มอดใจไม่ไหว ก้มลงหอมเอาหนักๆ อย่างมันเขี้ยว
“ใครบอกว่าฉันชอบขี้โกง ฉันชอบพิมต่างหาก”  พิมพิกานิ่งค้าง รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังฝันแล้วละเมอไปกับสิ่งที่พึ่งได้ยิน มันวนเวียนไปมาซ้ำๆ ทั้งที่เขาก็พูดแค่ครั้งเดียว ฝ่ามือนุ่มเย็นยกขึ้นโอบประคองสองแก้มสาก น้ำตาเอ่อคลอ
ริมฝีปากสั่นระริก พยายามเค้นเสียงถามย้ำเพื่อความแน่ใจ
“คะ คุณบอกว่าชอบพิมจริงๆ เหรอคะ?”  และสิ่งที่ทำให้พิมพิกาตาพร่า น้ำหยดไหลเป็นทางคือริมฝีปากอุ่นๆ โน้มลงจูบหน้าผากนวลผ่อง ตามด้วยน้ำเสียงหนักแน่นยืนยันคำตอบ
“อืม!!”
“ทูนหัว ยอดรักยอดชีวิตของพิม”  ร่างเล็กๆ อันมีผิวนุ่มเย็นโผเข้ากอดร่างสูงใหญ่ ซึ่งอยู่ในเสื้อผ้าครบชุดเอาไว้แน่น เหนือเมฆกอดตอบ ซุกหน้าลงไซ้ซอกคอหอมกรุ่น แล้ววกขึ้นมาจูบซับน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน ก่อนตัดใจบอกเสียงทุ้ม
“รีบอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวจะเย็นซะก่อน”  แพรขนตายาวงอนเปียกชุ่มกระพริบถี่ๆ ไล่หยาดน้ำ มองหน้าสุดที่รักของหล่อนอย่างซึ้งใจ ชายหนุ่มจูบหน้าผากผุดผ่องอีกครั้ง แล้วผละไปจัดการกับตัวเองบ้าง พิมพิกาตักน้ำในกะละมังซึ่งอุ่นได้พอดีอาบ เพราะก่อนหน้านั้นเหนือเมฆผสมให้อุณหภูมิค่อนข้างสูง
พิมพิกาอาบน้ำเสร็จต้องรีบเช็ดตัว หยิบเสื้อคลุมมาสวม ยืนกอดอกแน่นด้วยอาการหนาวสั่น ระหว่างก้มหน้าหด คอห่อร่างในเสื้อคลุมอยู่นั้น หูก็แว่วเสียงน้ำกระทบพื้น ความอยากรู้จึงเงยขึ้นแล้วหันไปมอง ภาพที่เห็นคือแผ่นหลังกว้างของร่างสูงใหญ่เปลือยเปล่า ยืนอาบสายน้ำอันเย็นจัดจากฝักบัวโดยไม่สะทกสะท้าน ความสมบูรณ์ของรูปตัววีเด่นชัด กล้ามเนื้อทุกส่วนกระชับเกร็งแกร่ง ผิวสีน้ำตาลแดงอย่างคนทำงานออกกำลังอยู่กลางแจ้ง และที่เด่นชัดอีกอย่างบนแผ่นหลัง คือรอยสักโบราณรูปพยัคฆ์คู่ ซึ่งเหมือนของจริงราวกับมีชีวิต นับเป็นครั้งแรกที่พิมพิกาได้มีโอกาสสำรวจรูปร่างผู้เป็นสามี โดยเขาเองก็ไม่รู้ตัว ทว่าพอศีรษะได้รูปอันปกคลุมด้วยเส้นผมหยักศกระต้นคอ ขยับเข้าไปใต้สายน้ำ หญิงสาวก็ท้วงอย่างเป็นห่วง
“ทำไมต้องสระผมด้วยล่ะคะ น้ำเย็นออกเดี๋ยวก็ไม่สบาย”  คนร่างสูงใหญ่ทำท่าจะหันกลับ แต่ต้องชะงักด้วยรู้ว่าคนขี้อาย คงไม่ต้องการมองเขาในสภาพนี้นัก
“ฉันทำงานอาบเหงื่อมาทั้งวัน กลัวพิมจะเหม็น”  พิมพิกาหัวเราะคิกกับคำพูดดิบๆ ของคนแข็งกระด้าง หล่อนเลยพูดเย้าไปว่า
“ถึงไม่อาบเหงื่อ พิมก็ไม่เห็นว่าคุณจะตัวหอมสักหน่อย”
“ฉันไม่ชอบทำตัวหอม แต่ฉันชอบหอมตัวพิม”
“บ้า!!”  หล่อนเขินจนความร้อนฉีดขึ้นผิวแก้ม คนหน้าขรึมของหล่อนก็พูดอะไรแบบนี้ได้เน๊าะ
“คำก็บ้า สองคำก็บ้า เดี๋ยวฉันทำบ้าๆ เลยดีไหม”
“ไม่เอ๊า!! พิมออกไปแต่งตัวข้างนอกรอดีกว่า”  แต่ก่อนจะผละไปยังไม่วายร้องเตือน คนที่เงยหน้ารับสายน้ำเย็นจัดอย่างเป็นห่วง
“ รีบอาบนะคะ น้ำเย็นพิมกลัวไม่สบาย”  ชายหนุ่มรับคำในลำคอ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขออนุญาดแอดมินนะครับ
ฝากซีรี่ เรื่องเสียวซีรีย์เกย์ รัก กามรมย์
http://www.tunwalai.com/story/238309

เล่าเรื่องเสียวเกย์ รัก กามรมย์
http://www.tunwalai.com/story/234926/

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น