วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

หลง

“พี่ต้องการ นะหวาน” ชายหนุ่มหน้าตาคมเข้มอ้อนวอนกับหญิงสาวในชุดนักศึกษาที่นั่งอยู่ข้างๆ “หวานไม่ใช่เด็กอมมือแล้วนะ แล้วพี่ก็ต้องการของจริง ผู้หญิงจริงๆ”
“หวานยอมไม่ได้หรอกค่ะ มันน่าละอาย พ่อกับแม่ของหวานต้องเสียใจแน่ๆ ถ้าหวานทำอย่างนั้น” กมลวรรณรีบสั่นศีรษะปฏิเสธ หญิงสาวคบหาเป็นแฟนธวัชชัยมานานแล้ว เธอเป็นเพื่อนสนิทกับมยุรินทร์น้องสาวของธวัชชัยมาตั้งแต่ยังเป็นนักเรียน จึงมักจะมาหา มยุรินทร์ที่บ้านอยู่เสมอ ด้วยความน่ารัก สดใสของหญิงสาวทำให้ธวัชชัยตัดสินใจจีบเธอจนเป็นแฟนกันตั้งแต่ที่เธอยังเป็น นักเรียน ตอนนี้เขาได้เป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ส่วนกมลวรรณก็เอ็นติดเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกัน

บ้านของธวัชชัยเป็นคฤหาสน์หลังใหญ่ แต่เขาก็เช่าอพาทเมนท์เป็นที่พักอีกแห่งหนึ่งเพื่อความสะดวก เพราะคิดว่าถ้าวันไหนทำงานดึกจะได้ไม่ต้องเสียเวลาขับรถกลับบ้าน แล้วอีกอย่างธวัชชัยก็ต้องการใช้อพาทเมนท์นี้เป็นที่พลอดรักกับสาวๆของเขา ด้วย ธวัชชัยเป็นคนเจ้าชู้ ชอบจีบผู้หญิงทีละสองสามคน แต่อาศัยว่าสับรางเก่งจึงเอาตัวรอดไปได้ตลอด เขาเป็นคนรูปหล่อ มีเสน่ห์ บุคลิกและคารมดี จึงหาสาวๆได้ไม่ยาก แต่กับกมลวรรณแล้วเธอไม่เคยจะยอมใจอ่อนไปกับเขา เด็กสาวยอมให้เขาทำบางอย่าง กอดและจูบกัน... บางครั้งเธอก็ยอมให้เขาถอดเสื้อของเธอออก หรือแม้กระทั่งถอดเสื้อยกทรง แต่เธอก็ไม่ยอมให้เขาถอดอะไรไปมากกว่านี้

“พ่อแม่ของหวานจะไปรู้ได้ยังไง มันเป็นเรื่องธรรมชาตินะ ไม่ใช่เรื่องน่าอายเลย ใครๆเขาก็ทำกันทั้งนั้นแหละ ให้ตายซิหวาน หวานน่าจะดูเพื่อนคนอื่นๆบ้าง...”
“มันยังไม่ถึงเวลาค่ะ”
“แล้วเมื่อไหร่ล่ะ”
“ก็วันที่เราแต่งงานกันไงคะ” เด็กสาวตอบหน้าแดงระเรื่อ
ธวัชชัยหัวเราะลั่น กมลวรรณมองด้วยความสงสัย คิดไม่ถึงว่าเขาจะหัวเราะ ธวัชชัยกระโดดลุกจากเตียง
“ถึงเวลากลับบ้านแล้วหนูน้อย”
กมลวรรณโล่งอก เธอคิดว่าเขาคงละพยายามที่จะพาเธอขึ้นเตียงก่อนแต่งงานไปแล้ว แต่เมื่อเขาไม่ได้มาหาเธอตามนัดในวันถัดมา เธอก็เริ่มเป็นห่วง เธอตามหาเขาอีกสองวันก็ไม่เคยเจอ ไม่เคยเลยที่เขาจะห่างหายจากเธอไปอย่างนี้ ด้วยความว้าวุ่นทำให้เด็กสาวไปหาเขาที่อพาทเมนท์ กมลวรรณหน้าแดงเมื่อเห็นเขายืนขวางประตู เสื้อไม่ได้สวม ซ้ำยังรูดซิบกางเกงไม่เสร็จด้วยซ้ำ

“ทำไมพี่เงียบหายไปล่ะคะ” เธอถามไม่ทันสังเกตว่าหน้าของเขาซีดเผือดไปเล็กน้อยเมื่อเห็นเธอ
“พี่..พี่ มีธุระ” เขาพูดตะกุกตะกัก แล้วก็มีเสียงหัวเราะของผู้หญิง สักครู่หนึ่งผู้หญิงคนนั้นก็เดินออกมา กมลวรรณเห็นเธอเป็นเด็กสาวหน้าตาสวยคม ร่างคลุมด้วยผ้าปูที่นอน เธอกอดธวัชชัยจากด้านหลัง มองกมลวรรณ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงล้อเลียน

“กลับมาที่เตียงเถอะค่ะอาจารย์ เรามีภารกิจที่ต้องสะสางอยู่นะ เดี๋ยวหนูก็เฉาแย่ซิคะ”
กมลวรรณใจหายวาบ หน้าของเธอซีดเผือด ตาจ้องมองเขาเขม็ง
“…ก็พี่มันเป็นผู้ชายนี่” ธวัชชัยก้มหน้าตอบเบาๆ
กมลวรรณกลับบ้านในทันที เธอหยุดเรียนไปสองวัน และเอาแต่ร้องไห้อยู่ตลอดเวลา จนเริ่มทำใจได้ เธอจึงกลับไปเรียนอีกครั้ง แต่สมองยังเต็มไปด้วยความว้าวุ่น และใจลอยอยู่ตลอดเวลา จนเรียนไม่รู้เรื่องเลย

. . . . . . . . . . . . . . .

“หวาน หวาน...”
กมลวรรณสะดุ้ง หันไปมองก็เห็นเด็กสาวในชุดนักศึกษายืนอยู่ข้างๆ
“อ้าว ยุ้ยมาเมื่อไหร่เนี่ย”
“เป็นอะไรไปหวาน ยุ้ยเรียกตั้งหลายครั้งแล้ว... ทำไมใจลอยจังเลย”
“ไม่...ไม่มีอะไร”
“ต้องมีสิ..ต้องมีแน่ๆ หวานไม่เคยใจลอยแบบนี้” ยุ้ยพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง “มีเรื่องกลุ้มใจอะไรก็บอกยุ้ยเถอะ หรือไม่เห็นยุ้ยเป็นเพื่อน”

กมลวรรณจ้องมองเพื่อนสาว เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางที่แสดงถึงความห่วงใยอย่างแท้จริง ทำให้เธอตื้นตันใจ ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมด ยุ้ยนั่งฟังอย่างเงียบๆจนจบ จึงเริ่มพูด
“หวานเลิกคบกับอาจารย์ธวัชชัยเถอะ”
“อะไรนะ”
“ยุ้ยพูดจริงๆนะ”
“ทำไม”
“อาจารย์ธวัชชัยเป็นคนเจ้าชู้ หวานเป็นคนซื่อตามเค้าไม่ทันหรอก หวานไม่เหมาะกับเค้า”
“แต่...แต่นี่เพิ่งครั้งแรกเองนะ เค้าอาจจะพลาดไป”
“ไม่ใช่ครั้งแรกหรอก” ยุ้ยตอบ “เขาจีบไปทั่วแหละ แต่เค้าไม่จีบต่อหน้าหวานเท่านั้นเอง นักศึกษาที่หน้าตาดีน่ะโดนเขาจีบกันทั้งนั้น บางคนก็ยอมนอนกับเขา... หลายคนด้วย”
“ยุ้ยรู้ได้ยังไง”
ยุ้ยถอนหายใจ “เพราะเค้าก็เคยจีบยุ้ยด้วยน่ะซิ แต่ยุ้ยไม่เล่นด้วย เค้าเลยหันไปจีบยัยแนนแทน แม่นั่นน่ะอยากได้เค้าจนตัวสั่น ยุ้ยไม่แปลกใจหรอกที่รู้ว่ายัยแนนนอนกับเค้า”
“แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพี่ชัยจะนอนกับคนอื่นด้วย”
“อย่าคิดเข้าข้างตัวเองหน่อยเลย ลองจีบไปทั่วแบบนี้คนไหนยอมมันก็เอาทั้งนั้นแหละ” ยุ้ยดุ แต่พอเห็นสีหน้าที่ซีดเผือดของเพื่อน เธอก็สงสาร รีบปลอบโยนอย่างนุ่มนวล
“หวานตัดใจเถอะนะ เค้าไม่เหมาะกับหวานจริงๆ คบกันต่อไปมีเต่จะเสียใจ”
“หวานทำไม่ได้หรอกยุ้ย หวานรักเค้ามากจริงๆ หวานต้องตายแน่ๆถ้าต้องเลิกกับเค้า”
“ถ้ายังงั้นยุ้ยจะบอกอะไรให้ ยัยแนนยังไม่เท่าไหร่หรอก ต้องพี่แพมซิน่ากลัว รู้มั๊ยว่าอาจารย์กำลังจีบเค้าอยู่”
“พี่แพมคนไหน หวานไม่เห็นรู้จักเลย” เด็กสาวเอ่ยอย่างงุนงง
“ตายจริง ไม่รู้จักได้ไง เค้าออกจะดัง พี่แพมก็รุ่นพี่ปี4 ไงจะจบอยู่แล้ว สวยสุดๆเลยรู้มั๊ย”
“แล้วหวานไม่สวยหรือ” กมลวรรณถามเสียงเครือ
“เปล่าๆ หวานน่ะสวยอยู่แล้ว แต่สวยน่ารักใสๆแบบเด็กๆน่ะ” ยุ้ยรีบปลอบเมื่อเห็นเพื่อนทำท่าจะร้องไห้ “แต่พี่แพมน่ะสวยแบบเซ็กซี่น่ะ อยากรู้จะพาไปดู”
“ไม่..ไม่ดีกว่า”
“เถอะน่า จะได้รู้จักคู่แข่งไง”

. . . . . . . . . . . . . . .

“เห็นมั๊ย พี่แพมน่ะ สวยอย่างที่ยุ้ยบอกเลยใช่มั๊ย”
กมลวรรณตาแดงก่ำ รู้สึกเสียใจอยากจะร้องไห้เมื่อเห็นธวัชชัยกำลังยืนคุยอยู่กับนักศึกษาสาว รุ่นพี่ เธอเป็นคนสวยมากจริงๆ ทั้งดวงตา จมูก ปากพอเหมาะพอเจาะ ผิวพรรณดี จริงอย่างที่ยุ้ยพูดทุกอย่าง เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ธวัชชัยจะนอกใจเธอจริงๆ
“มาเถอะ ไปทักทายคู่แข่งกันหน่อย” ยุ้ยพูด
“อย่าเลย..กลับดีกว่า” กมลวรรณร้องห้าม แต่ยุ้ยก็ฉุดเพื่อนไปจนได้
ธวัชชัยกำลังยืนคุยอยู่กับแพมอย่างเพลิดเพลิน เขายืนหันหลังให้กับสองสาว จึงไม่รู้ตัวว่ารถไฟกำลังจนชนกันอย่างจังแล้ว
“สวัสดีค่ะอาจารย์” ยุ้ยตะโกนทัก
ธวัชชัยหันกลับมา แล้วก็สะดุ้งเมื่อเห็น กมลวรรณยืนตาแดงก่ำอยู่ตรงหน้า
“อ้าว หวานมาได้ยังไง”
“ก็อาจารย์นัดพวกเราไปกินข้าวไม่ใช่หรือคะ” ยุ้ยแกล้งพูด
“เอ๊ะ” แพมที่จับตามองอยู่อุทานอย่างแปลกใจ “ใครกันคะอาจารย์ ไหนอาจารย์บอกจะไปดูหนังกับแพม ทำไมไปนัดคนอื่นอีก” หญิงสาวเอ่ยอย่างไม่พอใจ ตาคมวาวสำรวจสองสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“เอ้อ..สงสัยคงจะเข้าใจผิดกันน่ะ” ธวัชชัยเหงื่อแตกโซมหน้าสมองวิ่งเร็วจี๋เพื่อหาทางเอาตัวรอด “หวาน ยุ้ยเดี๋ยวเราไปคุยกันทางโน๊นดีมั๊ย” เขาหันกลับไปหาสองสาว
“คุยตรงนี้ก็ได้ค่ะ” ยุ้ยบอก แต่หวานนั้นรีบขัดเพราะทนดูท่าทางกระอักกระอ่วนของเขาไม่ได้
“ยุ้ยเค้าล้อเล่นน่ะค่ะพี่ ไปกันเถอะยุ้ย” พูดพลางฉุดแขนของเพื่อนเบาๆ ยุ้ยทำท่าจะไม่ยอม แต่หวานไม่สนใจหันหลังเดินไปก่อน ทำให้ยุ้ยต้องรีบเดินตามไป

“ใครกันคะอาจารย์ ท่าทางแปลกจัง” แพมถาม
“อ๋อ เพื่อนน้องสาวน่ะครับ” ธวัชชัยตอบอย่างโล่งใจที่รอดจากสถานาการณ์อึดอัดเมื่อครู่มาได้ “รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว ไปดูหนังกันเถอะ เสียเวลามากแล้ว” เขารีบเปลี่ยนเรื่อง แพมนั้นถึงจะสงสัยในตัวสองสาว แต่เมื่อเขาไม่พูดเธอก็ไม่อยากเซ้าซี้ต่อ ยิ้มหวานให้ขณะที่เขาจูงมือเธอไป


. . . . . . . . . . . . . . .
กมลวรรณนอนร้องไห้เกือบทั้งคืน สิ่งที่เธอได้พบเห็นนั้นทำร้ายจิตใจเธออย่างรุนแรง โกรธธวัชชัย โกรธตัวเอง แล้วก็โกรธยุ้ยด้วยที่พาเธอไปเจอเรื่องแบบนี้... แล้วกมลวรรณก็เริ่มใช้ความคิด อาจจะเป็นเพราะความหวงตัวของเธอทำให้เขาเบื่อหน่ายเลยหันไปคบกับสาวอื่น เขาเป็นผู้ชายเลยคิดไม่เหมือนเธอ เมื่อเธอไม่ยอมเขาเลยต้องหาที่ระบาย... แต่ธวัชชัยเป็นของเธอ เธอยอมเสียทุกอย่างเพื่อให้เขาเป็นของเธอคนเดียว ดังนั้น กมลวรรณจึงก็ตัดสินใจที่จะทำบางอย่าง เธอจะให้สิ่งที่เขาต้องการ... เธอเชื่อว่าถ้าเธอให้ เขาจะต้องกลับมา..กลับมาเป็นของเธอคนเดียว...

. . . . . . . . . . . . . . .

ธวัชชัยเต็มไปด้วยความแปลกใจและตื่นเต้น เมื่อกมลวรรณนัดให้เขามาพบเธอ ธวัชชัยกำลังกลุ้มใจเพราะกลัวว่าเด็กสาวจะโกรธและเลิกรากับเขา ถึงธวัชชัยจะมีผู้หญิงอื่น แต่คนที่เขารักที่สุดก็คือกมลวรรณ เธอไม่เหมือนผู้หญิงอื่น กมลวรรณเป็นเด็กน่ารัก สดใส และเรียบร้อย... ผู้หญิงสวยๆเซ็กซี่นั้นมีเกลื่อน แต่ส่วนใหญ่มักจะยอมเขาง่ายๆ แต่กมลวรรณไม่เคยยอม เธอบริสุทธิ์เหมือนเทพธิดา แต่แล้วเมื่อเธอบอกจุดประสงค์การมาทำให้เขาดีใจสุดขีด เพราะเขานึกว่าเธอจะโกรธที่เห็นเขานอกใจกลับกลายเป็นว่าเธอยินดีมอบสิ่งที่ เธอหวงแหนที่สุดให้แทน

ธวัชชัยคว้ามือเธอ ครึ่งลากครึ่งจูงพาเธอตรงไปยังอพาทเมนท์ของเขาทันที เธอไม่เคยสูบบุหรี่ แต่เขาก็สอนให้เธอสูบ กมลวรรณดูตื่นเต้นมาก สีหน้าแดงระเรื่อเต็มไปด้วยความเอียงอาย ตัวของเธอสั่นเหมือนกระต่ายตัวเล็กๆที่หนาวเหน็บอยู่กลางสายฝน ซึ่งสร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้เขาอย่างยิ่ง

เขาถอดชุดนักศึกษาของเธอออกทีละชิ้นอย่างช้าๆ ปากก็เอ่ยชมความงามของเธอไม่หยุด เขาอุ้มร่างบอบบางของเธอไปนอนบนเตียง แล้วก็เริ่มถอดเสื้อผ้าของตัวเอง เธอนอนหลับตาอยู่บนเตียง หายใจหนักๆ หายใจแทบไม่ทันเพราะความตื่นเต้น ในที่สุดเธอก็ลืมตามองเพราะความอยากรู้อยากเห็น กมลวรรณเคยเห็นเขาในแบบเกือบจะเปลือยมาหลายครั้งแล้ว แต่มันเป็นกางเกงอาบน้ำที่เขาสวมเวลาไปว่ายน้ำ ต่างจากตอนนี้... เขาสวมเสื้อผ้าครบชุด และเริ่มถอดมันออกทีละชิ้น เสื้อของเขาก่อน จากนั้นซิบกางเกงก็ถูกรูดลงมา เขาเดินตรงมาหาเธอ

กมลวรรณหายใจระรวย มองคนที่เธอรักในสภาพเปลือยเปล่าทั้งตัว ใจเต้นระทึกด้วยความตื่นเต้น และออกจะกลัวอยู่มาก เธอเคยเห็นสิ่งนี้มาแล้ว แต่มันอยู่ในหนังสือหรือจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งไม่ได้ทำให้เธอตื่นกลัวขนาดนี้ แต่เจ้าสิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นมันต่างไปมาก มันมีชีวิตชีวา และดูเหมือนมันจะจ้องมองเธอด้วย คงเพราะเธอบ่ายเบี่ยงมาตลอด เลยทำให้มันโกรธจนพองตัวเหมือนอาวุธร้าย กมลวรรณกลัวจนใจสั่นหวิว...

..........

หลง #2
..........

มือของเขารั้งศีรษะเธอขึ้นมา แล้วก็จูบที่ริมฝีปาก มืออีกข้างโอบไหล่นวลเนียนนั้นไว้ .. แม้จะมีอาการตื่นกลัว แต่กมลวรรณก็ตอบสนองจูบที่นุ่มนวลของเขา เธอลูบไล้ใบหน้าของเขาเบาๆ ก่อนที่เขาจะผละออก แล้วก้มต่ำลงไป ทรวงอกขาวผ่องลอยอยู่ตรงหน้า วงกลมเล็กๆที่อยู่เหนือทรวงขาวผ่องนั้นเป็นสีชมพูระเรื่องามเปล่งปลั่งอย่าง ถึงที่สุด

“พี่รักหวานเหลือเกิน รักมากจริงๆ” เขาพึมพำ แล้วซุกไซร้ลงไป ลิ้นของเขาโลมไล้ไปมาอยู่บนยอดทรวงนั้น
“โอ..อย่า...อย่าค่ะ” แม้จะเตรียมใจมาแล้ว แต่เธอก็ร้องห้ามตามสัญชาติญาณ แขนของเธอผลักดันอยู่เบาๆที่อกเขา “พี่ชัย อย่า...ได้โปรด...”

ริมฝีปากของเขาบดบังทรวงอกนั้นไว้จนหมดสิ้น มืออีกข้างลูบไล้ไปมาตามเนื้อตัว สัมผัสความนุ่มนวลละเอียดอ่อนอย่างหลงใหล... ลมหายใจของเธอหอบถี่ เมื่อมือของเขาลูบไล้ต่ำลงไปจนถึงปุยขนดกดำที่ท้องน้อย.. และแล้วเธอก็สั่นสะท้านอย่างรุนแรง สะบัดตัวหลุดจากเขา นั่งจับแขนเขาไว้มั่น พยายามผลักไสเขา

“อย่าค่ะ พี่ชัย... อย่า...ได้โปรดเถอะ หวานไม่เคยทำอย่างนี้..หวานทำไม่ได้” เธอร้องเสียงสั่นเครือ น้ำตาคลออยู่ที่เบ้า แล้วก็เริ่มไหลลงมาที่แก้มนวลใส

แขนของเขายังกอดกุมเธออยู่ ตามองลึกไปในดวงตาของเธอด้วยความสงสัย เหมือนจะค้นหาความรู้สึกที่แท้จริงจากภายใน

“ขอโทษค่ะ...” เธอก้มหน้ากระซิบ “หวานทำไม่ได้ หวานรักพี่จริงๆ แต่อย่าทำเลยค่ะ”
เขาปล่อยแขนออกจากเธอช้าๆ
“หวาน...”
“หวานรักพี่ชัยที่สุด...” เธอพูดอย่างเสียใจ น้ำตาไหลพรากไม่หยุด “แต่..มัน...”
“ไม่เป็นไรครับ” เขาบอก ผละจากร่างเธอ “แต่งตัวซิ พี่จะไปส่ง”
เธอลุกขึ้นสวมเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว เขาขยับลุกขึ้นตาม แต่เธอร้องห้าม
“ไม่ต้องส่งหรอกค่ะพี่ หวานกลับเองได้ ...อย่าโกรธหวานเลยนะ”
“ไม่หรอก.. พี่เข้าใจ พี่จะรอจนหวานพร้อม”
“ขอบคุณค่ะ พี่ชัย”

หลังจากเธอกลับออกไปแล้ว ธวัชชัยก็ทรุดตัวนั่งลงบนเตียง ถอนหายใจอย่างเสียดาย
“โง่จริงๆ เลยว่ะเรา” เขาพึมพำ
จริงๆ ด้วยสถานการณ์ตอนนั้นเขาจะบังคับเธอก็ได้ แต่ธวัชชัยรักและทะนุถนอมกมลวรรณเกินกว่าที่จะทำให้เธอต้องชอกช้ำ เขาต้องการที่จะร่วมรักขณะที่เธอยินยอมมากกว่าการบังคับแข็งขืน ช่างมันเถอะ! ปล่อยไปก่อนซักคน ถึงยังไง เขาก็ยังมีผู้หญิงสวยๆอีกหลายคนให้ระบาย ความใคร่...

..........

ฝนตกหนัก ขณะที่สาวแพมก้าวลงจากรถ หลังจากกดรีโมทล็อคประตูเสร็จ ก็หันขวับ ขาที่เรียวสวยก้าวไปตามทางเดิน พื้นนั้นเจิ่งนองไปด้วยน้ำและหลายแห่งเป็นดินโคลน ทำให้เธอต้องบ่นพึมพำขณะที่ก้าวเท้าด้วยความระมัดระวังเพราะกลัวรองเท้าสวยๆ ของเธอจะต้องแปดเปื้อน

“เดี๋ยวค่ะพี่แพม”
หญิงสาวคนหนึ่งร้องตะโกนเรียก แพมหันไปมองก็เห็นนักศึกษาสาวรุ่นน้อง ถือร่มวิ่งเข้ามาอยู่ตรงหน้า
“มีอะไรหรือแนน”
“เรามีเรื่องต้องคุยกันค่ะ”
“เรื่องอะไร ไปคุยข้างในตึกดีกว่ามั๊ง” เธอตอบแล้วหันหลังกลับทำท่าจะเดินต่อ แต่แล้วก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิด เพราะแนนรีบเดินไปขวางทางไว้
“ไม่ค่ะ คุยกันตรงนี้ ต้องคุยให้รู้เรื่อง”
“เรื่องอะไรล่ะ”
“พี่แพมจะแย่งผัวแนนเหรอ”
“อะไรนะ” แพมร้องอย่างตกใจ “แนนพูดอะไร”
“อาจารย์ธวัชชัยไง แนนขอเตือนว่าอย่ายุ่งกับเขา ถ้าไม่อยากเจ็บตัว”
“แนน..เมื่อครู่แนนบอกว่าอาจารย์เป็น...”
“ใช่ อาจารย์ธวัชชัยเป็นผัวแนน แล้วแนนจะไม่ยอมแบ่งกับใครทั้งนั้น ถ้าพี่แพมเข้ามายุ่ง แนนเอาตายแน่”
แพมหน้าร้อนฉ่าด้วยความโกรธ หญิงสาวไม่รู้มาก่อนเลยว่าธวัชชัยจะนอกใจเธอ แต่เธอไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับความหยาบคายของแนนจึงพยายามจะเดินเลี่ยงเธอ ไป
“เดี๋ยวซี่” แนนคว้ามือเธอไว้ “บอกมาซิว่าจะเลิกยุ่งกับอาจารย์”
“ปล่อยนะ” แพมร้องตะโกนแล้วสะบัดมือจนหลุด “จะยุ่งหรือไม่ยุ่งมันก็เป็นสิทธิของพี่ ถ้าเธอคิดว่าอาจารย์รักเธอจริงเธอก็ไปสั่งเค้าซิ” แพมพูดอย่างอารมณ์เสีย แล้วหันหลังเดินโดยไม่สนใจสาวแนนอีก

และแล้ววินาทีนั้น แพมก็รู้สึกเหมือนมีอะไรสักอย่างลอยเข้ามากระทบหลังเข้าแต็มแรง

“พลั่ก!”

โคลน! ฝนตกหนักจนพื้นเจิ่งนองไปด้วยน้ำ และด้วยความโกรธอย่างสุดขีดของแนน ทำให้เธอก้มลงปั้นโคลนจนเป็นก้อนขนาดพอมือ แล้วขว้างออกไปอย่างไม่ยั้งคิด แล้วมันก็โดนเป้าหมายจริงๆเสียด้วย

ผู้หญิงสวย หยิ่ง และรักความสะอาดเป็นชีวิตจิตใจ อย่างแพม พอโดนเอาโคลนขว้างใส่มันน่าอับอายขนาดไหน ทำให้แพมโกรธแค้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แถมยังเห็นแนนก้มลงปั้นอีกก้อนเตรียมจะขว้างใส่ ต่อให้ใจเย็นแค่ไหนก็เกินกว่าจะกลั้น.. แพมทิ้งร่มอย่างไม่ใยดี แล้วเดินกลับมาอย่างจะเอาเรื่อง แต่ก่อนที่จะทำอะไรต่อไป โคลนก้อนที่สองก็ปลิวมาโดนหน้าดังพลั่ก

ไม่ทันป้ายแขนเช็ด ร่างของสาวแนนก็โถมเข้าใส่อย่างไม่ยอมให้ตั้งตัว พอมาถึงแนนก็เหวี่ยงสองมือตะกุยจนโบว์สีขาวที่ผูกรวบเรือนผมไว้ถูกดึงหลุดจน ผมกระจายยุ่งเหยิง ในขณะที่สาวแพมไม่ยอมเสียเปรียบ มืออีกข้างของเธอตอบโต้ด้วยการฉีกกระชากเสื้อนักศึกษาของแนนจนขาดแคว่ก เผยให้เห็นสองเต้าขาวผ่องที่ถูกบราเซียร์สีชมพูห่อหุ้มไว้ก็หลุดทะลักออกมา ปรากฏแก่สายตาของนักศึกษาทั่วไป ที่เริ่มมองดูด้วยความสนใจ ...

ด้วยความอับอาย ทำให้แนนโถมเข้าปล้ำจนล้มลงไปคลุกโคลนกันทั้งคู่ แนนหลับหูหลับตายื่นมือออกมาตะกายบ้าง จังหวะหนึ่งที่สามามารถจับขอบกระโปรงสาวเซ็กซี่ได้ แนนออกแรงกระชากเต็มเหนี่ยวทันที

มีเสียงดังคว้าก จากนั้นกระโปรงซึ่งเลอะไปด้วยโคลนก็หลุดจากร่างผู้เป็นเจ้าของมาอยู่ในมือ ของแนน ตามด้วยเสียงหวีดร้องด้วยความตกใจระคนอับอายจากแพม เมื่อเห็นท่อนล่างของตัวเองมีเพียงชั้นในตัวกระจิริดปิดป้องของรักของสงวน อยู่เพียงชิ้นเดียว อยู่ในห้องหับส่วนตัวก็ไม่เป็นไร แต่นี่อยู่กลางถนนในมหาวิทยาลัย มีสายตาหลายสิบคู่กำลังจ้องเขม็ง แล้วสาวเลิศ เชิด หยิ่งอย่างแพมด้วยจะไม่ให้โกรธ ไม่ให้อับอายขายหน้าได้อย่างไร

คิดได้ดังนั้น ก็โถมเข้าหาสาวน้อยตัวแสบ ปล้ำกระชากจนร่างของสาวแนนเหลือแต่ชั้นในชิ้นล่างเพียงตัวเดียว เป้าหมายต่อไปของเธอก็คืออาภรณ์ชิ้นสุดท้ายนั่นแหละ แถมยังเป็นการโจมตีอย่างแม่นยำเสียด้วย สองมือของแพมคว้าหมับเข้าที่ขอบยืดของมัน กระชากเต็มหนี่ยวด้วยความว่องไว... ดังนั้นก่อนที่แนนจะทันปัดป้อง มันก็เลยหลุดติดมือแพมออกมาแล้ว

สองสาวไม่มีฝ่ายไหนหวีดร้องอีกต่อไป เพราะมัวแต่ตั้งหน้าตั้งตาจะห้ำหั่นกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ส่วนบรรดาหนุ่มสาวนักศึกษาที่หลบฝนอยู่ที่ตึก พากันโห่ร้องด้วยความชอบใจอึงคะนึงทีเดียว.สภาพของแพมสาวสวยตอนนี้ ทรวงอกคู่งามกำลังโยนกระเพื่อมเพราะเจ้าตัวหอบหายใจขรม ที่สำคัญคือเจ้าสัดส่วนที่เคยขาวผุดผาดสะอาดตา กลับถูกดินโคลนเคลือบจนทุเรศสิ้นดี โอ...เกิดมายังไม่เคยมีใครหน้าไหนทำให้เธอต้องอับอายขายหน้าเท่านี้มาก่อน เลย

แนนฉวยโอกาสที่แพมมัวแต่ตะลึงลานเพราะเสียงโห่ฮาจากเพื่อนๆนักศึกษา เหวี่ยงเท้าผ่าหมากเข้าให้จนแพมถึงกับตัวลอยตามหน้าแข้ง ก่อนจะหล่นลงไปเกลือกกลิ้งกับโคลนอีกหน เสร็จแล้วก็โถมลงไปกอดปล้ำกันนัวเนียจนดูไม่ออกแล้วว่าฝ่ายไหนเป็ฯฝ่ายไหน

ทั้งหัวจรดเท้าของหญิงสาวทั้งสองมีแต่โคลนพอกเต็มไปหมด ไม่รู้เหมือนกันว่าผลสุดท้ายใครดิ้นหลุดออกมาจากการกอดปล้ำได้ ทั้งสองฝ่ายจึงกลิ้งหนีไปคนละทาง แล้วรีบลุกพรวดพราดขึ้น ก่อนจะโผเข้าหากันใหม่

จังหวะนั้นแนนอาศัยว่ามีประสบการณ์โชกโชนมากกว่าสาวแพมที่ถูกทะนุถนอมเป็น คุณหนูมาตลอด แทนที่แนนจะโผเข้าปะทะซึ่งๆหน้า ก็กลับแกล้งทำเป็นโผเข้าใส่ แล้วพอจะประชิดติดตัวก็รีบเบี่ยงร่างหลบวูบ แล้วยื่นมือข้างหนึ่งไปตะปบทรวงอกคู่งามของสาวสวยที่เหวี่ยงสะท้อนไปมา แล้วก็ออกแรงบิดเต็มที่

แพมร้องเสียงหลง จุดเล็กๆตรงนั้นไม่เคยถูกมือใครสัมผัสมาก่อน พอโดนบิดโดนดึงแรงอย่างนั้นจะไปมีอะไรเหลือนอกจากความเจ็บปวด เธอพยายามกระเสือกกระสนสะบัดตัวหนี สะบัดจุดเล็กๆนั้นให้เป็นอิสระ แต่ไม่ว่าจะดิ้นรนแค่ไหนมันก็ไม่หลุดซักที หญิงสาวเจ็บจนน้ำตาไหลพราก แต่จะยอมแพ้กลางคันมันก็เสียเชิงหญิง ดังนั้นสาวสวยจึงลดมือลงไปตะครุบหมับที่ดินแดนแสนสงวนของสาวแนนบ้าง

ไม่ตะครุบเปล่า เสี้ยววินาทีเดียวหลังจากตะครุบได้มั่นเหมาะ แพมก็ออกแรงกระชากเหมือนกำลังกระชากหนังหัวใครซักคน และที่สำคัญมันทำท่าจะหลุดติดมือออกมาด้วย!

แนนกรีดร้องโหยหวน แม้สายฝนจะตกออกมาอย่างหนักหน่วง แต่เสียงร้องของเธอดังก้องไปทั่วทำให้คนมามุงดูกันเพิ่มอีก บางคนถึงกับยอมตากฝนเพื่อดูอย่างใกล้ชิด

ถึงจะโดนกระชากอยู่อย่างนั้น แต่แนนก็ไม่ยอมคลายมือจากยอดปทุมถันกระจี๊ดริดบนหน้าอกของแพม มืออีกข้างเริ่มตอบโต้ด้วยการเอื้อมลงไปกระชากกางเกงชั้นใน อาภรณ์ตัวสุดท้ายของแพมจนหลุดคามือออกมา

บรรดานักศึกษาทั้งหลายโห่ร้องเอ็ดอึงยิ่งกว่าคราวแรกเสียอีก เพราะสาวแพมถึงจะแต่งตัวเซ็กซี่แต่ก็รักนวลสงวนตัว ไม่เคยมีใครได้เห็นแม้กระทั่งขาอ่อนมาก่อน ดังนั้นคราวนี้จึงนับเป็นบุญตายิ่งนัก

แพมเผลอด่าออกมาด้วยความโกรธ ก่อนที่ร่างของทั้งสองจะเสียหลักล้มลงไปเกลือกกลิ้งอยู่ในกองโคลนอีกครั้ง ยังไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดยอมลดละ ต่างก็ใช้อาวุธทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น เตะ ตบ กัด ข่วน ต่อสู้กันอย่างถวายหัวทีเดียว

จวบจนมีร่างของใครคนหนึ่งย่างสามขุมเข้ามา

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ” เสียงใสๆ ดังอย่างเฉียบขาดอย่างน่าเกรงขาม แล้วเจ้าของเสียงก็ปรากฏตัวเข้ามา แน่นอนว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะกล้าเข้ามาห้ามปราม นอกจาก ธัญรดา อาจารย์สาวสวยอีกคนของมหาวิทยาลัย

อาจารย์สาวต้องแยกทั้งสองฝ่ายออกจากกันโดยช่วยแกะมือเล็กๆของแนน ออกจากหน้าอกของแพม เสร็จแล้วก็ต้องแกะมือของแพมออกจากดินแดนความสาวของแนนบ้าง กว่าจะทำได้ก็เล่นเอาต้องวุ่นวายมาก แต่ผลสุดท้ายก็ลากคอสองสาวขึ้นมายืนได้สำเร็จ

แต่ถึงแม้จะมีร่างของอาจารย์สาวยืนขวางกั้นอยู่ตรงกลาง แต่ทั้งแพมและแนนก็ยังจ้องหน้ากันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันตั้งท่าจะกระโจนเล่นงานกันใหม่ เพราะยังไม่หายแค้น ช่วงนี้บรรดากองเชียร์ทั้งสองข้างต่างก็ส่งเสียงโห่ฮาอย่างไม่สบอารมณ์ เพราะกำลังดุเดือดเผ็ดมันอยู่แท้ๆ อาจารย์หน้าสวยดันเข้ามาขัดจังหวะเสียฉิบ

เสียงเชียร์ของบรรดาเพื่อนๆ เหมือนเสียงยุให้คู่ต่อสู้ได้ใจยิ่งขึ้น ดังนั้นแม้ ธัญรดา จะพยายามปรามเสียงแข็ง
“อย่านะ ไม่งั้นจะโดนลงโทษสถานหนัก ทั้งคู่น่ะแหละ”
ห้ามไม่ห้ามเปล่า แถมยังเอามือยันอกอวบๆเปรอะโคลนทึ้งสองฝ่าย สถานการณ์ก็เขม็งเกรียวทวีขึ้นถึงขีดสุด

สองสาวปัดมือของอาจารย์สาวออกแล้วก็โถมเข้าหากันอีกครั้ง คราวนี้ในเมื่อมีบุคคลที่สามขวางอยู่ตรงกลาง ก็เลยลากเอาอาจารย์สาวเสียหลักลงไปเกลือกโคลนอีกคน

สภาพการณ์ตอนนี้ก็เลยดูนัวเนียมากขึ้นไปอีก เสียงเฮฮาร้องเชียร์ของนักศึกษาดังขรมขึ้นอีก เพราะขาหกข้างของสามสาวก่ายกระหวัดจนแยกไม่ออก มือทั้งหกก็เหมือนกัน นิ้วแทบทุกนิ้วซุกเข้าไปในทุกซอกมุมเท่าที่จะค้นพบ ต่างกันตรงที่แนนกับแพทกำลังตบตีกัน แต่บางครั้งก็มีลูกหลงไปฝากอาจารย์สาว ข่างฝ่าย ธัญรดา ตอนแรกก็ตั้งใจจะห้ามปรามตามประสาอาจารย์ที่ดี แต่พอมาโดนลูกหลงจากฟากนี้ทีฟากโน้นที ผลสุกท้ายก็ชักโกรธ ฟาดมือกวาดซ้ายป่ายขวาผสมโรงไปอีกคน...

หลง #4
..........
ในขณะที่สามสาวกำลังโรมรันพันตูกันอย่างติดหนึบนั้น ไม่มีใครสังเกตว่า ชายหนุ่มกับชายวังกลางคนสองคนที่ยืนดูอยู่ระยะไกลนั้นกำลังให้ความสนใจกับ ศึกครั้งนี้เป็นพิเศษ หนึ่งในนั้นก็คือ ชาตรี อาจารย์สุดเฮี๊ยบที่บรรดานักศึกษาต่างยำเกรงเป็นพิเศษ ส่วนอึกหนึ่งคือ นายอาด หัวหน้าภารโรงคนสนิทของเขานั่นเอง

“เอาล่ะ ไปเอาตัวนังนั่นมาได้แล้ว” เขาออกคำสั่ง

ผู้ที่ได้รับคำสั่งก็คือนายอาด และก็ยอมทำตามอย่างว่าง่ายเสียด้วย

นายอาด ภารโรงแกล้งทำเป็นวางมาดขรึม ทำเป็นเดินเข้าไปห้ามปรามแพมกับแนน ซึ่งถึงแม้ตอนนี้ไม่มีใครห้าม ทั้งคู่ก็แทบจะยกแขนขาไม่ขึ้นอยู่แล้ว จากนั้นเขาก็ช่วยพยุงอาจารย์ธัญรดา กลับมายังห้องคณบดี ตามสายตานักศึกษาทั่วไปต่างพากันเข้าใจว่า นายอาดมาช่วยลากอาจารย์สาวเพื่อพาไปพักผ่อนอาบน้ำอาบท่าให้สะอาด

แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า หลังจากผลุบหายเข้าไปในประตูห้องคณบดี นายอาดจะจัดการมัดอาจารย์สาวอย่างแน่นหนาแล้ว ทั้งอาจารย์กับภารโรงตัวแสบต่างก็พากันจ้องมองไปที่เรือนร่างงดงามที่ถูก พันธนาการนั้น

อาจารย์ชาตรี กวาดสายตาสำรวจตั้งแต่ใบหน้าไล่ลงมาตามเรือนร่างของอาจารย์สาว ถึงแม้เธอจะยังสวมเสื้อผ้าเต็มยศ แต่ไม่ว่าผู้ชายคนไหน ลองมาพบเห็นธัญรดาในสภาวะที่ถูกพันธนาการอยู่เช่นนี้ รับรองต้องยอมรับว่าเธอเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์น่าลิ้มลองจริงๆ เรียกว่าถ้าจะไปเป็นดาราก็ต้องดังเปรี้ยงปร้างเป็นลูกแมวยั่วสวาทของวงการ ได้เลย หน้าตาแบบนี้ หุ่นแบบนี้ไม่น่ามาเป็นอาจารย์เลยจริงๆ

อาจารย์สาวนั้นถูกมัดแขนขา แถมยังมีผ้าปิดปากทำให้ได้แต่ส่งเสียงร้องอู้อี้ ดวงตาแดงก่ำนั้นเบิกกว้างอย่างตกใจในสภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ร่างถูกมัดให้นอนเหยียดและเชือกขึงตึงจนเจ้าตัวต้องแอ่นหลังขึ้น ทำให้ส่วนอะร้าอร่ามทั้งหลายพุ่งผงาดอย่างท้าทาย ทำให้อาจารย์ชาตรีเต็มไปด้วยอารมณ์คึกคุก เนื้อตัวส่วนนั้นขยับยกระดับงอกเงยขึ้นมาจนเป้ากางเกงโป่งพอง

“เซ็กส์ชิบเป๋งเลยครับอาจารย์” นายอาดพูดเสียงสั่นๆ
“ใช่ ..ทั้งเซ็กส์ทั้งสวย... สวยมาก” ชาตรีรับคำ “ฉันแอบมองมานานแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้”
“ยังไงต้องแบ่งผมบ้างนะครับ”
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้วโว๊ย ไม่ต้องห่วง คืนนี้เราไม่ต้องกลับบ้านกันแล้วนายอาด เอาอีนี่แม่งทั้งคืนนั่นแหละ”
“ถ้างั้นจะรออยู่ทำไมล่ะครับ อาจารย์ เอาเลย ผมอยากจนจะลงแดงตายอยู่แล้ว”

อาจารย์ชาตรีหัวเราะอย่างหื่นๆ เนื้อตัวคันยิบๆ รู้สึกส่วนสำคัญคึกคะนองขึ้นมาจนสุดขีด เดินเข้าไปยืนจังก้าอยู่ตรงหน้าร่างของอาจารย์ธัญรดา

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา อาจารย์หนุ่มปลดตะขอกางเกง รูดซิบออก ก่อนจะทิ้งตัวลงคลุกคลานเข้าไปหา เขากระหยิ่มยิ้มย่องขณะลงมือปลดตะขอกระโปรงของอาจารย์สาว แล้วดึงขอบกระโปรงที่คับติ้วลงจากตะโพกผายของเธอลงมาแต่ดึงมาได้คืบเดียวก็ ติดกับสะโพก แถมอาจารย์สาวยังดิ้นไปมาเตะถีบเป็นพัลวัน เดือดร้อนนายอาดต้องเข้ามาช่วย ชกเปรี้ยงเดียวไปที่ท้องอย่างไม่ปราณี เล่นเอาอาจารย์สาวจุกจนน้ำตาไหลพราก ไม่กล้าดิ้นอีก

“อยู่เฉยๆ จะได้ไม่เจ็บตัว” นายอาดขู่

อาจารย์ชาตรีจับร่างของอาจารย์สาวพลิกคว่ำหน้า จัดการดึงขอบเอวด้านหลังลงไปอีก คราวนี้ค่อยสะดวกในการถอด เพราะไม่กี่อึดใจบั้นท้ายอวบใหญ่ก็ปรากฏแก่สายตา แต่มันยังไม่เห็นเนื้อแท้ๆ เพราะอาจารย์สาวยังสวมเป๊ตติโค๊ตไว้อีกชั้นหนึ่ง ทำให้อาจารย์ชาตรีต้องจัดการดึงมันออกและตามด้วยกางเกงชั้นใน เท่านั้นเอง ความอวบขาวเปล่าเปลือยก็ลอยเด่นอยู่ตรงหน้า เพระไม่มีอะไรจะปิดกั้นไว้อีกแล้ว

“อูยยยยย....สวยเนียนเหลือเกิน” นายอาดอุทาน
“สินค้าคุณภาพ ม.อ.ก.จริงๆเลยโว๊ยยยย..... ขาวอะไรจะขนาดนี้” อาจารย์ชาตรีอุทานขึ้นอย่างดีใจ แววตาเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย บั้นท้ายของอาจารย์ธัญรดามันช่างน่าลูบคลำ ขยำขยี้เสียเหลือเกิน เขาคิดอยู่ในใจแต่ไม่ได้รีบร้อนจะทำอะไร ไหนๆอาจารย์ธัญรดาก็เป็นของตายถูกมัดมือนอนแผ่หราอยู่ตรงนี้ ก็ขอเชยชมให้หนำใจซะก่อนเถอะ เคยเห็นแต่หญิงสาวในชุดเต็มยศ ซึ่งก็สร้างความเสียงกระสันต์จนเหลือจะบรรยายได้ทุกครั้ง เพราะหุ่นอาจารย์สาวมันบ๊ะจิงจา ยั่วยวนเสียเหลือเกิน ยามเดินยามเหินมันกระเพื่อมจนเขาไม่เคยละสายตาไปจากสัดส่วนนั้นได้เลย

อาจารย์ธัญรดาเต็มไปด้วยเสน่ห์ของสาวที่เซ็กซี่แบบสุดๆจริงๆ เขาได้แต่คิดและจินตนาการเรือนร่างของเธอมาช่วยตัวเองหลายครั้งแล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดแม้แต่น้อย เพราะเธอไม่เคยเปิดโอกาสให้ผู้ชายคนไหนจีบเลย ฟงแฟนก็ไม่เห็นจะมี ไม่รู้จะหวงตัวไปถึงไหน จนกระทั่งวันนี้นี่แหละที่นายอาดวิ่งมาบอกเขาเรื่องเด็กนักเรียนตบกัน พอเห็นอาจารย์สาวอยู่ด้วย ทำให้เขาเกิดไอเดียขึ้นมาทันที ภาพที่เห็นมันกระตุ้นอารมณ์จนเขาตัดสินใจว่าเป็นไงเป็นกัน วันนี้ต้องเอาลูกแมวยั่วสวาทตัวนี้ให้ได้

อาจารย์ชาตรีจับร่างเธอพลิกหงายอีกครั้ง ตะลึงลานจ้องมองความสาวความงามที่สว่างโพลนอยู่ตรงหน้า โอ มันช่างงดงามราวกับแพรไหม แถมปิดสนิทขาวปนชมพู สวยอะไรอย่างนี้

อาจารย์ธัญรดาหลับตาหน้าแดงซ่านด้วยความอับอาย น้ำตาไหลพรากลงมาไม่หยุด แต่ในสภาพถูกมัดมือ มัดปาก และยังโดนคุมเชิงโดยผู้ชายสองคนอย่างใกล้ชิดนี้ มันสุดวิสัยที่เธอจะช่วยเหลือตัวเองได้ จึงได้แต่ร่ำไห้สะอื้นอยู่ในลำคออย่างคับแค้นใจ

ในขณะนั้น อาจารย์ชาตรีไม่ยอมดูอยู่เฉยๆ แต่ยังแสดงความสามารย์ออกมาโดยขยี้ขยำอย่างไม่ปราณีปราศรัย เล่นเอาอาจารย์สาวสะดุ้งเฮือกๆแทบตลอดเวลา

จนกระทั่งอารมณ์ตัวเองชักจะตื่นตัวได้ที่แล้ว อาจารย์หนุ่มก็จับร่างสาวสะพรั่งตรงหน้าให้กลับไปพลิกคว่ำตามเดิม แล้วพยายามดันเข่าทั้งสองของอาจารย์ธัญรดาให้ไปคุดคู้แนบอก บั้นท้ายขาวผ่องของอาจารย์สาวก็ถูกยกขึ้นมาอย่างโดดเด่น โดยที่เจ้าตัวไม่เต็มใจแม้แต่น้อย เพราะอาจารย์สาวเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ อับอาย และใจหายวูบวาบ ร้องไห้โฮ เพราะรู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น...

อาจารย์ชาตรีสำรวจกลีบพลูที่ปลิ้นออกมาจนถึงด้านหลังอย่างยั่วยวนใจ ส่วนรูน้อยๆที่อยู่เหนือกลีบพลูนั้นก็ขาวสะอาดน่าหลงใหลยิ่งนัก เขาก้มหน้าซุกลงไป พลางโลมไล้ลิ้นที่ช่องน้อยๆนั้นอย่างไม่รังเกียจ

นายอาด ภารโรงเห็นเจ้านายทำอย่างนั้นก็เสียวจนทนไม่ไหว เขาทรุดตัวไปนั่งข้างๆร่างของอาจารย์สาวที่นั่งสี่ขาโก้งโค้งอยู่นั้น มือสากๆของเขาโอบกอดคว้าหมับเข้าที่ทรวงอกอวบอิ่มของเธอ แล้วบีบขยำอย่างมันส์มือ ใจเต็มไปด้วยความกระหยิ่มยินดียิ่งนัก เพราะฐานะของเขาไม่มีสิทธิที่จะได้ใกล้ชิดหญิงสาวที่มีศักดิ์ฐานะอย่างนี้ อาจารย์ธัญรดานั้นเปรียบเหมือนของสูงสำหรับเขา ได้แต่ชะเง้อดูอยู่ห่างๆ จะถูกเนื้อต้องตัวซักนิดก็ไม่มีโอกาส หากจะมีโอกาสได้พูดคุยบ้าง ก็เป็นแต่เพียง ครับๆ ทำตามคำสั่งของเธอเท่านั้น แต่วันนี้อาจารย์สาวไม่ผิดอะไรกับลูกไก่ในกำมือ จะบีบจะขยำ จะปล้ำ จะหอม ก็ทำได้ตามแต่ใจที่ต้องการ และเธอก็ได้แต่ ค่ะ ค่ะ ทำตามคำสั่งของเขาเท่านั้น โลกมันช่างกลับตาลปัตเสียจริงๆ

อาจารย์ธัญรดาได้แต่ก้มหน้าร้องไห้ด้วยความอดสูใจ ไม่กล้าปิดป้องขัดขืน ปล่อยให้ทั้งอาจารย์หนุ่มกับภารโรงสนุกกับการลวนลามไปตามเนื้อตัวของเธอตาม ความพอใจ

อาจารย์ชาตรีจับร่างของธัญรดาพลิกขึ้น สายตาจ้องเพ่งไปที่หอยของอาจารย์สาว ลูบไล้ไปมาที่พงขนอ่อนนุ่มที่ขึ้นจนรกครึ้มไปหมด
“อื้อฮือ ขนดกจริงๆเลยครับอาจารย์ โกนออกซะหน่อยดีมั๊ย”
อาจารย์ธัญรดาหน้าแดงด้วยความอับอาย ตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตื่นตกใจ รีบสั่นศีรษะอย่างไม่คิดชีวิต อาจารย์หนุ่มหัวเราะอย่างหื่นกระหาย
“ตาลงใช่มั๊ย ถ้างั้นผมทำตาที่อาจารย์ต้องการละกัน อาดโว๊ยไปเอามีดโกน กับครีมโกนหนวดมา”
นายอาดหัวเราะกับไอเดียหัวหน้า รีบวิ่งออกไปแล้วกลับมาพร้อมอุปกรณ์ที่เขาต้องการ

อาจารย์ชาตรีละเลงครีมลงไปที่ปุยขน ลูบไล้ไปมาพร้อมกับสอดนิ้วแหย่เข้าไปในร่องหลืบของเธอไปด้วย ดวงตาก็จับจ้องมองไปที่ใบหน้าขาวใสของหญิงสาว ธัญรดาหลับตาพริ้มน้ำตาไหลนองหน้า แก้มนั้นแดงระเรื่ออย่างยั่วยวนใจยิ่งนัก เขาจับร่างของเธอโดยจัดให้ก้นกลมกลึงของเธอพาดอยู่บนตัก ดังนั้นหอยของอาจารย์สาวจึงลอยแอ่นอยู่ตรงหน้า

“อย่าขยับจิ๋มนะครับ เดี๋ยวโดนมีดบาดไม่รู้ด้วยนะ... อยู่นิ่งๆ”
อาจารย์สาว นอนตัวแข็งในทันที อาจารย์ชาตรีก้มหน้าลงมา แล้วค่อยๆโกนขนเธอออก นายอาดจับตามองด้วยความตื่นเต้น

“เอาละ เรียบร้อยแล้วครับอาจารย์ คราวนี้จิ๋มอาจารย์สวยน่ารักเหมือนกับของเด็กๆแล้ว ชอบมั๊ย”
เขาพูดแล้วเทน้ำทำความสะอาดหอยของอาจารย์สาวจนสะอาด จากนั้นก็วางร่างเธอบนพื้น ขยับไปนั่งอยู่ที่หว่างขาของเธอ มือสองข้างของเขาจับอยู่ที่ต้นขาขาวเนียนของเธอ เขาดึงตัวเธอเข้ามาใกล้ ซุกหน้าลงไปตรงนั้น เธอเกร็งไปทั้งตัวไม่สามารถขยับได้ ลิ้นของชาตรีเริ่มแหวกเข้าไปข้างใน ลิ้นของเขาสะบัดไปมา เข้าๆออกๆ ทุกส่วนของเธอในบริเวณนั้นอย่างชำนาญ

นายอาดก็ไม่รอช้า จัดการกับเสื้อผ้าท่อนบนของเธอปลดเปลื้องจนเปลือยเปล่า แล้วก้มหน้าลงดูดดื่มกับยอดทรวงเม็ดเล็กๆสีชมพู ปากนั้นดูดเม้มไม่ผิดอะไรกับทารกที่ดูดนมแม่เสียงดังจ๊วบๆ ไม่ช้า เม็ดเล็กๆนั้นก็ตั้งชูชันขึ้นมาสู้ลิ้นของเขา มืออีกข้างของเขาก็บีบเคล้นก้อนเนื้อหยุ่นๆนั้นอย่างได้ใจ ก้อนเนื้อที่ทรวงอกของเธอนั้นทั้งเต่งตึง และดีดเด้งสร้างความเพลิดเพลินและเร่งเร้าให้เขาขยำ ขยี้ หนักขึ้น..หนักขึ้น...

อาจารย์สาวโดนรุมปรนเปรอทั้งข้างล่างข้างบนจากสองผู้ชำนาญการ ก็ทำให้เธอต้องปั่นป่วนรัญจวนใจอย่างช่วยไม่ได้ ร่างของเธอบิดไหวไปมาอย่างรัญจวนใจ ปากก็ส่งเสียงครางออกมาอย่างลืมตัว

“เสียวแล้วหรอครับอาจารย์ อยากให้ผมเอาผ้าออกจากปากมั๊ย” อาจารย์ชาตรีถาม

ธัญรดาไม่ตอบ ได้แต่หลับตาพริ้มอยู่อย่างนั้น อาจารย์ชาตรีจึงพยักหน้ากับนายอาด

“ผมจะเอาผ้าออกให้ แต่อาจารย์อย่าร้องนะครับ ถ้าแหกปากร้อง ผมจะชกท้องอาจารย์อีก และจะหนักกว่าเมื่อกี้ด้วย”

นายอาดขู่ แล้วแก้ผ้าที่มัดปากออกให้ อาจารย์ธัญรดาไม่กล้าร้องจริงๆ ได้แต่อ้อนวอนทั้งคู่ด้วยเสียงสั่นเครือ
“อย่าทำหนูเลยค่ะน้าอาด.. อาจารย์ชาตรี... ปล่อยหนูเถอะ .. ปล่อยหนูเถอะค่ะ”

“อ๊ะ เรียกตัวเองว่าหนูด้วย” นายอาดร้องออกมาอย่างกระหยิ่มใจ “ไม่เคยเห็นอาจารย์อ่อนหวานกับผมอย่างนี้มาก่อนเลย น่ารักจริงๆ หวานใจของผม” ว่าแล้วก็ซุกหน้าลงไประดมจูบไปตามหน้าตา ทั้งหน้าผาก แก้ม ใบหู ริมฝีปากไม่พ้นลิ้นสากๆของเขาไปได้เลย เขาระดมจูบจนสาแก่ใจ ความปราถนาที่ซุกซ่อนไว้ถูกระบายออกมาอย่างรุนแรง กลิ่นอันหอมกรุ่นของอาจารย์สาวแทบจะทำให้ภารโรงตัวแสบบ้าตาย

อาจารย์ชาตรีที่ซุกไซร้อยู่ด้านล่าง เริ่มปลดกางเกงของตัวเองปล่อยให้สัดส่วนความเป็นชายของเขาเป็นอิสระ มันผงาดง้ำ พร้อมกับแผ่หัวบานอย่างทระนง อาจารย์หนุ่มจับมันจ่อเข้าไปที่หอยของอาจารย์สาว แล้วจับมันเสียดสีไปตามบริเวณนั้นและซอกขาของเธอไปมา

อาจารย์สาวนอนตัวสั่นระริก ด้วยความกลัวปะปนไปกับความรู้สึกแปลกๆ เธอยังไม่เคยกับความรู้สึกที่ซอกขาของเธอ สิ่งที่เขาแนบถูไถไปมาตามต้นขาของเธอนั้น มันแข็งจริงๆ

“อยู่นิ่งๆ” เขาบอกเธอ “ยกขาขึ้น ทำตัวให้สบาย… มันอาจจะเจ็บนิดหน่อยแต่เพียงครั้งแรก ครั้งเดียวเท่านั้นน่ะ”

นายอาดหัวเราะชอบใจ แต่ธัญรดาตัวสั่น มองเข้าไปในตาของอาจารย์ชาตรี คิ้วเรียวสวยขมวดอย่างหวาดหวั่นสุดขีด

“ดากลัวค่ะ..” เธอเริ่มพูด แต่เขาไม่ได้ฟัง ขยับดันขาของเธอให้ถ่างออกไปอีก อาจารย์ธัญรดาหยุด รู้สึกหวาดหวั่น หลับตาปี๋สั่นสะท้านไปทั้งตัว พร้อมกับเหงื่อที่แตกโทรมเต็มใบหน้า

อาจารย์ชาตรีค่อยๆกดหัวเข้าไปช้าๆ หญิงสาวกรีดร้องโหยหวน
“โอ๊ย เจ็บ เอาออก เอาออกไป๊ โอ๊ยยย”

ผลั่วะ!

ฝ่ามืออันหยาบหนาของนายอาดฟาดเข้าไปที่ใบหน้าเธอ แต่เขายังยั้งไว้ไม่รุนแรงมากนัก ถึงกระนั้นมันก็ทิ้งรอยแดงไว้บนแก้มของเธออย่างชัดเจน

“ผมบอกแล้วไงว่าอย่าแหกปากร้อง” นายอาดตะคอกใส่หน้าเธออย่างเหี้ยมเกรียม

อาจารย์ธัญรดาน้ำตาไหลพรากด้วยความเจ็บปวด กัดฟันกรอดๆ มือกำแน่นจนเล็บจิกลงไปในอุ้งมือ อาจารย์ชาตรีแสยะยิ้มอย่างหื่นๆ เขาดันมันเข้าไปอย่างช้าๆ ใบหน้าที่บิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดแทนที่จะทำให้เขาสงสาร กลับกระตุ้นอารมณ์ปรารถนาให้ลุกโชนมากขึ้นอย่างแปลกประหลาด


เธอนอนตัวเกร็งแข็งทื่อ เจ็บปวดจนร้องอะไรไม่ออก

“ขยับเป็นจังหวะตามผม ตรงนี้ ผมจะแสดงให้ดู”

ด้วยความหวาดกลัวฝ่ามือพิฆาตของนายอาดทำให้เธอจำต้องโยกสะเอวตามที่อาจารย์ ชาตรีสั่ง เธอขยับให้มันเข้าไปตรงจุดที่เขาต้องการ อาจารย์ชาตรี เริ่มส่งเสียง มันเป็นเสียงแปลกประหลาดสำหรับเธอ ธัญรดาบิดกายสั่นไหวเพื่อหลีกหนีความเจ็บปวด แต่เมื่อนึกถึงคำขู่ของนายอาดทำให้ต้องพยายามฝืนใจรับการกระแทกกระทั้นของ อาจารย์ชาตรี ซึ่งสีหน้าท่าทางที่กึ่งขัดขืนกึ่งจำยอมของเธอ ไม่เคยหลุดพ้นไปจากการจับตาสังเกตอยู่ตลอดเวลาของอาจารย์หนุ่ม ซึ่งทำให้เขามีอาอารมณ์ร้อนแรงยิ่งขึ้น

“ทำตัวให้สบาย” เขาปลอบโยนเธอ “ทำตัวให้สบาย”

เขากระแทกแรงขึ้น ถี่ขึ้น ธัญรดารู้สึกตึงแน่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆภายใน เพิ่มอีก เพิ่มขึ้นอีก จนเธอรู้สึกว่ามันแทบจะปริฉีกขาดเสียให้ได้ เธอส่งเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

“เจ็บ... เจ็บค่ะ... โอย...เจ็บเหลือเกิน” เธอร้องออกมาอย่างลืมตัว นายอาดขยับทำท่าจะตบอีก แต่ชาตรีจับมือเขาไว้แล้วสั่นหน้า เขาเริ่มสงสารและไม่อยากให้อาจารย์สาวต้องเจ็บปวดอีก

เขากระแทกกระทั้นอย่างเงียบๆ เหงื่อออกมาตามหน้าผาก เขาใช้แขนสองข้างพยุงตัวไว้ แล้วดันตัวเข้าออก เข้าออก แรงยิ่งขึ้น

เธอเกาะเขาแน่น กัดฟันกรอดๆ อยากจะให้ความเจ็บปวดทรมานนั้นจบสิ้นเสียที แต่เขายังไม่มีทีท่าจะหยุด หากอารมณ์ใคร่ของเขากลับพุ่งสูงขึ้น สูงขึ้น มันเป็นความสุขที่สุดเท่าที่เขาเคยได้รับมา อาจารย์ธัญรดานั้นสาว และบริสุทธิ์จริงๆ หอยของเธอคับตึงแน่นและตอดรัดอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน หน้าสวยๆของเธอที่บิดเบี้ยว ร่างที่บิดเกร็ง นั้นกระตุ้นอารมณ์ใคร่สุดขีด เธอเกาะเขาแน่น เล็บของเธอจมลงไปในเนื้อของเขาอย่างลืมตัว สร้างความตื่นเต้นของเขาอย่างมากมายจริงๆ

“อูยยยย... วิเศษ...ธัญรดา... หีคุณเยี่ยมมาก” อาจารย์ชาตรีพึมพำเสียงสั่น

นายอาดเองก็ร้องครางกับภาพที่เห็น ตาของเขาลุกวาวเมื่อเห็นความตรึงเครียดของเธอไหลออกมาจากร่างกายของเธอผสม ผสานกับสีแดงๆที่เกิดจากการฉีกขาดของเยื่อพรหมจรรย์ เขารู้สึกเสียวสะท้านจนทนดูอยู่ไม่ไหว ต้องปลดกางเกงปล่อยให้ท่อนเอ็นของเขาเป็นอิสระ

ภารโรงตัวแสบขยับไปที่ใบหน้าของธัญรดาแล้วร้อง
“อ้าปาก” เขาตะโกน

ธัญรดาลืมตาขึ้นมามอง สีหน้าเต็มไปด้วยความแตกตื่น นายอาดบีบปากเธออย่างรุนแรง จนเธอต้องยอมอ้าปาก นายอาดจับยัดเข้าไปในทันที

“อื้อฮือ สุดยอดจริงๆ”

เขาร้องอย่างหื่นกระหายแล้วขยับโยกถี่ยิบราวกับว่าปากของเธอเป็นหอย

อาจารย์ธัญรดารู้สึกผะอืด ผะอม คลื่นไส้จนอยากอาเจียน แต่พยายามกลั้นไว้สุดฤทธิ์ อาจารย์สาวเคราะห์ร้ายเหมือนกับตกนรกทั้งเป็น เมื่อโดนรุมกระหน่ำทั้งข้างล่างข้างบนตั้งแต่ครั้งแรกของเธอ น้ำตาไหลพรากออกมาไม่ขาดสาย

อาจารย์ชาตรียังคมปั๊ม กระแทกเข้าไปในร่างกายเธออยู่ หนักขึ้น หนักขึ้น ตาของเขาจ้องมองดูเธออยู่ตลอดเวลา ปากเขาเม้มสนิท แล้วเข้าก็ถึงจุดสุดยอด

“อูยยยย...ยอดเยี่ยมจริงๆ คนสวย” เขาร้องแล้วฟุบลงบนร่างของเธอ

นายอาดภารโรงที่จับตามองดูอยู่ รีบชักของเขาออกจากปากเธอ แล้วขยับเข้ามาแทน

“ตาผมแล้วนะอาจารย์

ทศพลจอดรถตรงหน้าบ้าน แล้วเดินขึ้นบันไดระเบียง เดินตรงไปยังประตูไม้บานคู่ บ้านหลังนี้ถูกสร้างมานานแล้วด้วยฝืมือการออกแบบของสถาปนิกชื่อดัง เขาภูมิใจในบ้านหลังนี้มาก มันทรงความสง่างามและจะตั้งตระหง่านเป็นมรดกตกทอดให้แก่ลูกสาวทั้งสองของเขา

เมื่อเขาเดินไปในห้องโถง ทศก็ได้ยินเสียงพูดคุยมาจากห้องรับแขก เขาจึงเดินมุ่งหน้าไปยังห้องนั้น แขกของเขารวมตัวกันอยู่ ทศกวาดสายตามองหาปริษาก่อน เธอกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวหนึ่งใกล้หน้าต่าง เรือนผมสีดำขลับของเธอต้องแสงอาทิตย์เป็นประกาย แขนขาวผ่องทาบทับอยู่บนหน้าท้อง การได้เห็นเธอทำให้เขารู้สึกรักและหวงแหนทุกครั้ง เธอเป็นสำนึกของความห่วงใยและอาทร ที่อยู่ลึกในจิตใจของเขา

ปริษาส่งยิ้มมาให้ทักทาย ขณะที่ทศพลเดินเข้าไปหาเธอตรงเก้าอี้ แม้ความสนใจของเขาจะมีต่อแขกที่รวมตัวกันอยู่ในห้อง แต่เขาก็ยังเอื้อมไปเกาะกุมมือของภรรยารักไว้ในอุ้งมือของเขา

“ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ผมไม่อยู่ตอนที่พวกคุณมาถึง” เขากล่าวคำขออภัยต่ออาคันตุกะทั้งสี่ ซึ่งมีนักการเมืองรวมอยู่ด้วย
“ไม่มีปัญหาหรอกคุณ เพราะเรามาถึงเร็วกว่าที่คิดไว้มาก” นักการเมืองพูดขึ้น กาลเวลาได้ประทับริ้วรอยบนใบหน้าของเขา แสดงให้เห็นถึงความกร้านโลกมาไม่น้อยกว่าห้าสิบปี
“กิจการเป็นไงบ้างล่ะ? คงจะดีสินะ เห็นจะไม่ต้องช่วยอะไรอีกแล้วมั๊ง” เขาหลิ่วตาให้ทศเหมือนเคยคบคิดทำผิดอะไรกันมา
“ไม่มีแล้วครับ” ทศตอบเสียงเรียบ

ทศเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงมาตั้งแต่ยังหนุ่ม แต่ครั้งหนึ่งเขาเคยตำรวจยัดข้อหาค้ายาเสพติดให้ ทำให้เขาเริ่มรู้ถึงความสำคัญของการมีเส้นสาย เขาจึ่งเริ่มคบหาคนใหญ่คนโตตั้งแต่นายตำรวจ ข้าราชการระดับสูง ไปจนถึงนักการเมือง ซึ่งนอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับธุรกิจของเขาแล้ว ยังช่วยเพิ่มลูกค้าของเขามากขึ้นไปด้วย ตอนนี้เขามีทั้งธุรกิจโรงแรม ที่ดิน และร้านขายอัญมณีอีกหลายแห่ง ชีวิตเขารุ่งเรืองถึงขีดสุด และนักการเมืองคนนี้ให้ความช่วยเหลือมาตลอด

“ทศ ผมขอแนะนำให้รู้จักกับ แอนดี้หน่อยนะ” เขายกแขนโอบไหล่ผู้ที่เขาเอ่ยซึ่งอายุอ่อนกว่ากันนิดหน่อย ทศสังเกตุเห็นหน้าตาเขาเหมือนกับพวกลูกครึ่งไทยฝรั่ง “ผมน่ะอยากให้คุณสองคนรู้จักกันมานานแล้ว คุณแอนดี้เป็นเจ้าของธุรกิจห้างสรรพสินค้าในอเมริกา เขาอาจช่วยขยายตลาดให้คุณได้”

ทศก้าวออกจากข้างตัวปริษาเพื่อสัมผัสมือกับบุรุษผู้สูงวัยกว่า ซึ่งอยู่ในชุดเสื้อผ้าราคาแพง
“ยินดีที่รู้จักครับคุณแอนดี้”
“ด้วยความยินดีครับ” แอนดี้ตอบ “ผมสนใจอัญมณีมาก และอยากจะขอปรึกษาเรื่องการทำธุรกิจร่วมกัน นี่คือทอมหุ้นส่วนของผม” แอนดี้หันมาแนะนำชายทียืนเคียงข้าง
“สวัสดีครับ” น้ำเสียงของทอมนั้นออกสำเนียงแปร่งๆ ทศพลรู้ว่าเขาคงเพิ่งหัดพูดภาษาไทยไม่นาน ทอมหันไปทางปริษา ผงกศรีษะเบาๆอย่างสุภาพ
“ผมยอมรับเลยนะครับว่าผู้หญิงไทยนั้นสวยมาก โดยเฉพาะภรรยาของคุณ”
ปริษาหน้าแดงด้วยความอายที่ถูกชมต่อหน้า
“ผมเห็นด้วยกับคุณ” ทศพลเอ่ยขึ้นอย่างภูมิใจ เขาหันไปสบตาที่เป็นประกายแวววาวของปริษา และเป็นการมองด้วยสายตาของคนที่เป็นเจ้าของ ปริษาสวยสะดุดตามาตั้งแต่สมัยสาวๆแล้ว กาลเวลาไม่ได้ทำให้ความงามของเธอลดลงเลย หากแต่กลับเพิ่มความสง่ามากยิ่งขึ้นด้วยซ้ำ
“คุณทอมโตที่อเมริกาหรือคะ” ปริษาเอ่ยถาม ชักนำการสนทนาให้อยู่ห่างตัวอย่างชาญฉลาด แม้เธอจะรู้สึกปิติในคำชมนั้น
“ครับ..คุณปา” น้ำเสียงของเขานุ่มนวล แล้วหันไปคุยกับทศพลต่อ “ผมอยากให้คุณทศมาร่วมเป็นหุ้นส่วนของเรามาก... จริงๆนะครับ”
“ครับ เรื่องนี้เราน่าจะปรึกษาหารือกันได้” ทศพลเอ่ยตอบ
..........

ในลักษณะที่เพิ่งจะเคลิ้มหลับ ปริษาขยับตัวตื่นขึ้นเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาภายในห้อง เธอยันตัวขึ้นกดสวิทช์ที่หัวเตียง
“ทศ นั่นทศหรือคะ” เธอเอ่ยถามขึ้น ทันทีที่แสงไฟกระจ่างตา ปริษาก็เห็นเขาทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาพอดี เพื่อจะถอดรองเท้าออก
“ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ปาตื่นเลย” เขาวางรองเท้าที่พื้น ดึงชายเสื้อออกจากกกางเกง ความเหน็ดเหนื่อยเผยให้เห็นชัดอยู่ทั่วใบหน้า
“อะไรกันคะ นั่งคุยกันจนถึงตอนนี้เลยหรือ” ปริษาถาม เธอขอตัวกลับมานอนตั้งแต่หัวค่ำแล้ว
“ใช่”
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ”
“ไม่หรอก”
ทศถอนหายใจ ลุกขึ้นเปลื้องเสื้อผ้าออกจากร่างต่อ ปริษาขยับตัวเพื่อที่จะให้เขาใช้หมอนยามที่สอดตัวเข้ามานอนเคียงข้างเธอ แต่ทศไม่ได้ต้องการแค่นั้น เขาสอดแขนเข้าไปใต้ร่างช้อนเธอเข้ามาแนบใกล้ ความอบอุ่นจากเรือนกายซึมแทรกไปทั่วตัวของปริษา และทำให้เธออบอุ่นขึ้นอย่างมาก
“ลูกนอนแล้วหรือ” ศีรษะของเขาเคลื่อนเข้ามาแนบอยู่กับเธอ กระซิบกระซาบอยู่ที่ข้างหู
“ทศคะ ปาอยากจะคุยกับทศเรื่องนี้เหมือนกัน” ปริษาเบือนไปมองหน้าทศพล พยายามระงับใจไม่ให้หวิวไหวไปตามฝ่ามือของเขาที่ลูบไล้ไปมาตามเนื้อตัว
“เรื่องอะไรล่ะปา” เขาถามขณะที่สายตาเลื่อนไปจับอยู่ตรงเนินทรวงที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อนอนเนื้อนุ่ม
“ไม่รู้ว่าอุปทานหรือเปล่า แต่ปารู้สึกว่าหวานแกดูแปลกๆ เหมือนคนมีความทุกข์ใจอะไรซ่อนอยู่น่ะ”
“เหลวไหล ...ปาน่ะคิดมากไป ลูกของเรามีทุกอย่างเพียบพร้อม จะไปมีเรื่องทุกข์ได้ยังไง”
“ไม่นะคะ เมื่อก่อนปาไม่เห็นจะรู้สึกอย่างนี้เลย” ปริษาพูดไม่ทันจบก็ร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้า เมื่อชุดนอนของเธอถูกเขารั้งขึ้นจนถึงเอว ในขณะที่มือของเขาลูบไล้ลงไปที่ใต้ท้องน้อย เธอรู้สึกสั่นสะท้านจนต้องส่งเสียงครางเบาๆออกมา
“หวานน่ะโตแล้วนะปา แล้วเราก็อบรมแกดีด้วย ผมเชื่อว่าแกตัดสินใจอะไรเองได้ ปาน่ะปล่อยๆซะบ้าง ไม่ต้องห่วงอะไรแกมากนักหรอก”
ปลายนิ้วของทศสอดผ่านไปตามผิวละเอียดอ่อนทั้งสองข้างปาดเข้าหาตำแหน่ง กะทัดรัดในความสาวของเธอ ลากพลิกไปมาจนเธอสะดุ้ง ผิวพรรณความสาวของเธอตอดกระชับทักทายนิ้วของเขาอย่างคุ้นเคย ..แต่ถึงแม้การสัมผัสเล้าโลมอย่างชิดใกล้จากสามี จะทำให้อารมณ์ของปริษาปั่นป่วน แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะรุกเร้าเขาเพราะมันเป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับเธอ

“ยิ่งโตเป็นสาวน่ะแหละ ยิ่งต้องระวัง”

ทศกระพริบตาด้วยความประหลาดใจที่เธอยังทนคุยอยู่ได้ทั้งๆที่เขาเล้าโลมขนาด นี้ แต่ความตั้งใจของเขาไม่คลอนแคลน ทศรั้งร่างอวบอิ่มของภรรยาเข้ามาในวงแขน พร้อมกับก้มหน้าลงดูดดื่มความหอมหวานจากซอกคอหอมกรุ่นและกลีบปากนุ่มละมุน
“อะไรกันจ๊ะที่รัก จะให้หวานเป็นลูกแหง่ไปจนโตเลยหรือไง”

ชุดนอนของเธอหลุดลุ่ยลงไป ขณะที่ปลายนิ้วร้อนผ่าวราวเปลวเพลิงของหนุ่มใหญ่ กลับมาวนไล้อย่างแผ่วเบาไปบนยอดทรวงที่ชูชัน ปริษาต้องระงับความปรารถนา บังคับใจตัวเองไม่ให้วอกแวกไปตามน้ำหนักมือของเขาที่เคล้นคลึงบัวงามของเธอ ด้วยความกระสันซ่านนั้น ทำให้ยากเย็นเหลือเกินที่จะดำเนินการสนทนาต่อไป

“ทำไมพ่อของหนูหวานถึงใจร้ายขนาดนี้นะ”
“ หมายความว่าไงจ๊ะแม่ตุ๊กตาน้อย” แม้จะแต่งงานกันมาหลายปี จนลูกสาวโต แต่เขาก็ชอบที่จะเรียกเธอว่าตุ๊กตาน้อยอยู่อย่างนั้น
“ก็ทศเอาแต่ขโมยจูบปา แล้วก็ยุ่งแต่เรื่องงานไม่เคยเอาใจใส่ลูกสาวที่น่าสงสารของเราเลย” ปริษาต่อว่าสามีอย่างขุ่นเคืองแง่งอน
“โธ่ ผู้ชายที่ไหนจะไปอดใจไหว ถ้าลองได้เห็นเมียตัวเองนอนถ่างขายั่วขนาดนี้”
ปริษาหน้าแดงทุบหลังเขาดังพลั่กด้วยความหมั่นไส้
“เอ๊ะ ทศนี่.. ปานอนถ่างขาที่ไหนกันคะ... พูดน่าเกลียด”
ทศพลหัวเราะชอบใจ พลางนึกในใจว่าท่าทางโกรธๆงอนๆของภรรยาเขานั้นงดงามที่สุดในโลก
“ที่รักจ๊ะ ถึงผมจะงานยุ่ง แต่ผมก็พูดคุยกับลูกอยู่ทุกวันนะ และผมก็ไม่เห็นแกจะมีท่าทีทุกข์ใจอะไรอย่างที่ปาพูดเลย ปาน่ะคิดมากไป แต่เอาเถอะผมจะช่วยดูแลแกให้มากขึ้น พอใจรึยังที่รัก”

ปริษาเห็นประกายอบอุ่นในดวงตาของเขา และจับน้ำเสียงที่ผ่อนปรนให้เธอได้เป็นอย่างดี ทำให้อารมณ์รักแผ่ซ่านไปทั่วร่าง
“ขอบคุณค่ะ ปายอมตายเสียดีกว่าที่จะเห็นลูกต้องซึมเศร้าแบบนี้” หญิงสาวกล่าวเสียงเครือ พร้อมกับสอดแขนโอบรอบร่างใหญ่โตของสามีไว้ แล้วซุกหน้าลงกับทรวงอกที่กว้างอบอุ่นนั้น
“มีอะไรอีกหรือเปล่าจ๊ะ บอกมาทีเดียวเลย กระผมจะยอมทำทุกอย่างตามที่เมียสั่ง” ทศยิ้มพราย ขณะก้มหน้าลงเกลือกกับเรือนผมหอมกรุ่นของเธอ ปริษาหัวเราะคิก เบือนหน้ามาสนองจุมพิตดูดดื่มที่ประทับลงมาอย่างเต็มใจ ทศพลบดขยี้ลิ้มรสความหวานบนกลีบนุ่มที่เผยอรับอย่างหิวกระหาย มือแข็งแรงกำบั้นท้ายงอนงาม

“คราวนี้ ทิ้งบทแม่ แล้วมาทำสิ่งที่ภรรยาควรจะทำได้แล้วนะจ๊ะที่รัก” เขากระซิบเสียงอู้อี้ ริมฝีปากอุ่นๆ นุ่มเหมือนกลีบกุหลาบสีชมพูนาบประกบอยู่กับปากเขา ลิ้นของเขาสอดควานเข้าไปในปากของเธอแล้วก็พบว่าเธอตอบสนองด้วยการดูดเม้มริม ฝีปากของเขาในทันที มือของเขาโอบกอดร่างอวบอิ่มได้สัดส่วนและดึงกระชับเข้ามาจนอกอวบหยุ่นของเธอ เบียดอยู่กับอกของเขา

ทศกวาดมือลงไปก็พบว่าปริษานั้นทอดกายแผ่กว้าง ในขณะที่เขาตะโบมลูบไล้ลงไปสู่ส่วนสำคัญของร่างกายเธอ ปริษานั้นร้อนเร่าไปทั้งตัวด้วยไฟพิศวาสที่โหมกระพือขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกเสียวกระสันแผ่ซ่านไปทั่วทุกขุมขน ยินยอมให้ความแข็งขึงของเขาเบียดแทรกเข้าไปไม่ขัดขืน หญิงสาวครางเสียงกระเส่าเมื่อปากร้อนระอุของเขาเคลียซุกไซร้ไปตามซอกคอขาว ผ่อง ก่อนจะอ้าปากงับยอดทรวงสีชมพู

“โอ” ปริษาครวญครางขณะที่มือหนาหนักของเขาคลึงเคล้นอกอวบอีกข้างอย่างเมามัน...

กลิ่นตัวหอมอ่อนๆที่โชยออกมาแตะจมูกเป็นกลิ่นสาวที่ปลุกเร้าอารมณ์ของทศพล ให้คุกรุ่นอย่างรุนแรง อกอวบหยุ่นในอุ้งมือยามที่บีบเคล้นสร้างความพึงพอใจให้เขาอย่างสูงสุด ทศดูดเม้มยอดที่ชูชันของมันอย่างหิวกระหาย ดื่มด่ำเหมือนตะกละตะกลาม พลิกพลิ้วไปมา พร้อมกับดูดเม้มและขบกัดลงไปจากแผ่วเบาแล้วเริ่มแรงขึ้น แรงขึ้น...

สองเต้าอันอวบอิ่มนุ่มนิ่มของปริษาสร้างความเสียวซ่านไปทั่วทุกขุมขนของเขา อย่างน่าอัศจรรย์ ยิ่งเนื้อนมอันอวบหยุ่นบดเบียดกับแก้ม จมูก คางและปากเขามากเท่าไหร่ ทศพลก็แทบจะหยุดหายใจเนื่องมาจากความสุขสุดเสียวที่วูบวาบไปถึงหน้าท้องและ หน้าขาไหลสู่ท่อนเนื้อที่ชูชันแข็งขัน เขาเกลือกกลั้วฟอนเฟ้นกับก้อนเนื้อนุ่มๆทั้งสองข้างเหมือนคนบ้าคลั่ง ปริษาเองก็แหงนหน้าหอบหายใจแรงขึ้น แรงขึ้น ร่างสั่นสะท้านไปทั้งตัว เขาทั้งขยี้ ขยำ อยากจะกลืนกินดูดเน้นให้สาสมตามที่หัวใจเรียกร้อง

“เสียวมั๊ยจ๊ะ ที่รัก” เขากระซิบถาม
“เอ๊ะ พูดทะลึ่งอีกแล้วนะทศ” ปริษาต่อว่าอายๆ แล้วทุบไปที่หลังเขาเบาๆ ทศพลเลยแก้แค้นด้วยการขยำนมหนักขึ้นไปอีกจนหญิงสาวร้องครางออกมาดังๆ

ความอดทนหมดสิ้นไป... เธอต้องการเขาเดี๋ยวนี้ ปริษาโยนเรื่องของลูกสาวออกไปชั่วคราว แล้วหันมาสนองความสุขให้กับสามีอย่างเต็มที่ ทศพลส่งเสียงครวญครางบอกความสุขสมเมื่อเธอยักย้ายส่ายสะโพกยักเยื้องไปตาม จังหวะเพลงรักได้อย่างเหมาะเจาะ มือน้อยๆลูบคลำไปตามจุดต่างๆที่เธอรู้ว่าจะสร้างความหฤหรรษ์ให้กับเขา ปริษารู้ว่าเธอได้แต่งงานให้กับบุรุษที่วิเศษที่สุดในโลก

อารมณ์ความต้องการของปริษารุนแรงจนพุ่งขึ้นสูง ใบหน้ามีเลือดฝาดฉีกขึ้นมาหล่อเลี้ยงจนแดงระเรื่อ ลมหายใจเร่งรัวอย่างไม่เป็นจังหวะ เธอรัดแขนรัดขาของทศพลเหมือนลืมตัว กอดกระหวัดและส่งเสียงร้องครวญคราง ขณะที่ทศวนเวียนจูบซุกไซร้ไปทุกส่วน

ร่างของทศแทบจะจมหายไปกับเรือนกายของปริษา กลิ่นหอมจางๆจากนวลเนื้อเธอทำให้เขามีความรู้สึกอบอุ่นอย่างเป็นสุข แก้มซ้ายของเขาแนบกับเนื้อนมขาวผ่องของเธอ และมิวายจะฟอนเฟ้นดอมดมอย่างไม่รู้เบื่อ ขณะที่เรือนกายอวบขาวของเธอเด้งไปเด้งมา และส่ายไหวเหมือนกับคลื่นที่แระฉอกตัวเป็นจังหวะจะโคน ปริษาขยับสะโพกยกขึ้นเด้งสู้แรงกระแทกของเขาอย่างไม่ยอมแพ้ เลือดในกายของเธอเดือดพล่าน ความสาวของเธอตอดกระชับเป็นช่วงๆ ตาของเธอฉ่ำหวานเป็นประกาย ขณะที่ปากก็ครวญคราง

“อา...วิเศษที่สุดเลยทศ ... ปา ... มีความสุขเหลือเกิน...โอ”
“ผมก็เหมือนกันที่รัก”
ปาริษาแทบจะทนต่อไปไม่ไหวแล้ว บั้นท้ายเธอบดขยี้กับที่นอน เรือนร่างบิดย้ายสะบัดแรงขึ้นเรื่อยๆ
“แรงขึ้นอีกค่ะทศ แรงขึ้นอีก.. ได้โปรด”
“แรงขึ้นอีกหรือปา แรงอีกมั๊ย”
“แรงอีกค่ะ โอ...แรงอีก”
“อา..ปาร้อนเหลือเกิน ที่รัก…”เขาพึมพำเสียงสั่น “....ถ้างั้นให้ปาทำเองเลยดีกว่า”

ทศร้องแล้วเปลี่ยนสลับให้เธอนั่งอยู่ข้างบน ปริษาขยับร่างส่ายสะโพกอย่างไม่ยอมให้เสียจังหวะ ทรวงอกอวบอิ่มของเธอสั่นกระเพื่อมอย่างรุนแรงและยั่วยวนใจเขาจนแทบจะ กระดอนออกจากอก มือของเขาลูบคลำไปตามเรือนร่างของเธอ ลากขึ้นไปจนถึงทรวงอกอวบอิ่มที่กำลังเด้งขึ้นลงอย่างรุนแรง แล้วบีบขยำอย่างมันมือ เธอสะบัดหน้าจนผมกระจาย ปากก็ร้องครวญคราง ปลายเล็บจิกลงบนเนื้อหนังที่ร้อนระอุของเสามี ทศรู้ว่านี่คือสัญญาณที่แสดงว่าภรรยาของเขากำลังจะเดินทางเข้าสู่ห้วงแห่ง ความสุขสุดยอดแล้ว

บัดนี้ปริษารู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองแล้ว ทุกอย่างเลือนหายไปจากจิตใจ เหลือเพียงจังหวะการโหมกระหน่ำของเธอเท่านั้น จังหวะการหอบหายใจของเขา ผสานเข้าเป็นจังหวะเดียวของเธอ ในที่สุดเธอก็กรีดร้องเสียงหลง... อาการกดจิกเล็บนั้นเปลี่ยนไป ปริษากดร่างลงไปแนบสนิทกับเขา ทศพลรู้สึกเหมือนกับร่างกายจะระเบิดออกเป็นเศษเล็กเศษน้อย ราวกับลูกโป่งที่อัดลมโป่งพองจนถึงขีดสุด ลมหายใจร้อนผ่าวของเธอระบายพรวดมาอาบทั่วใบหน้า ขณะที่ละอองแห่งความสุขของเขาแตกทะลักไปทั่วอณาบริเวณของเธออย่างล้ำลึกที่ สุด...

เมื่อลืมตาขึ้น ปริษาก็มีโอกาสเห็นใบหน้าที่เปี่ยมล้นด้วยความสุขของสามีพอดี มันเป็นความสุขที่ตั้งอยู่บนรากฐานของความบริสุทธิ์ นี่คือช่วงเวลาที่ไม่จริตมายาเข้ามาเคลือบคลุม... จากนั้นเธอก็หลับตาพริ้มลงอีกครั้ง กางแขนโอบรัดร่างของเขาอย่างหมดเรี่ยวหมดแรง....

“ซวยชิบเป๋งเลยว่ะเรา” อาจารย์ธวัชชัย บ่นพึมพำขณะที่ขับรถฝ่าการจราจรอันแออัดในเมืองหลวง ทุกอย่างมันกำลังไปได้ดีอยู่แล้วจนกระทั่งมีเรื่องตบกันในมหาวิทยาลัยนี่ แหละ ตอนนี้ชื่อเสียงของเขายับเยินไปทั่วมหาลัย เขาต้องลาพักรัอนเพื่อหลบเรื่องอื้อฉาวนี้... แต่โชคดีที่เขายังมีสาวน้อยเป็นสแปร์พาร์ทอีกหนึ่งคน “กนกวรรณ” สาวสวยเจ้าของร้านอัญมณี เธอช่างสวยงามน่ารักราวกับตุ๊กตา เขาหลงใหลเธอยิ่งนัก เขากำลังจะไปพบเธอแล้วในตอนนี้ เขาอยากจะชวนธอไปเที่ยวพักผ่อนที่ต่างจังหวัด มันจะเป็นการลาพักร้อนที่เพอร์เฟคที่สุด ถ้ามีสาวน้อยอย่างกนกวรรณอยู่เคียงข้าง

ธวัชชัยเดินเข้าไปในร้าน มันมีขนาดไม่ใหญ่นัก หากแต่ถูกตกแต่งอย่างหรูหรามีระดับ พนักงานสาวอสองคนกำลังคุยอยู่กับลูกค้า และชายหนุ่มหน้าตาดีอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้ช่วยของกนกวรรณกำลังนั่งดูเอกสาร อยู่ที่โต๊ะทำงาน มีเพียงพนักงานสาวคนเดียวที่ยืนว่างอยู่ เขาตรงเข้าไปหาในทันที

“แอน”เขาทักพนักงานสาวคนนั้นอย่างคุ้นเคย ” คุณอ้ออยู่มั๊ยครับ”
“อยู่ข้างในห้องค่ะ อาจารย์ “ แอนตอบเสียงหวาน หญิงสาวรู้จักเขาดี เพราะธวัชชัยแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนเจ้านายสาวของเธอบ่อยๆ
“งั้นผมขอเข้าไปนะครับ”
“เชิญค่ะ”
“ขอบคุณครับ”

……

“อ้าว...อาจารย์ มาได้ไงคะ ไม่เห็นโทรมาบอกเลย” หญิงสาวร้องทักเมื่อชายหนุ่มเดินเข้าห้องมา

ธวัชชัยเห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ข้างกนกวรรณ เค้าหน้าออกจะคล้ายๆกันแต่สูงวัยกว่า สัญชาติญานบอกว่าผู้หญิงคนนี้คงจะเป็นพี่สาวของกนกวรรณ โดยไม่รอให้หญิงสาวแนะนำ เขารีบยกมือไหว้เธอก่อนเพื่อแสดงให้เห็นถึงความมีมารยาทอันดี
“สวัสดีครับพี่”
ผู้หญิงคนนั้นหน้าแดงระเรื่อ
“อุ๊ย...” กนกวรรณร้องอุทาน ”พี่อะไรกันคะอาจารย์ นี่คุณแม่ของอ้อนะ”
ธวัชชัยหน้าแดง
“โอ๊ะ ตายจริง ....ขอโทษครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ” ปริษายิ้มให้กับความเปิ่นของเขา พลางกวาดตาสำรวจชายหนุ่ม.. หน้าตาผิวพรรณของเขาดีบอกถึงความมีชาติตระกูล นี่คงจะมาจีบหนูอ้อลูกสาวของคนโตของเธอซินะ แต่ไม่เห็นลูกสาวของเธอเคยพูดถึงเลย ช่างเถอะ!ไว้ถามทีหลัง ตอนนี้เธอไม่มีเวลา
“คุณคงมีธุระจะคุยกับหนูอ้อ”
“ครับ”
“ถ้างั้นก็ตามสบายนะ น้าขอตัวก่อน พอดีมีธุระ”
“ครับคุณน้า ผมต้องขอโทษอีกครั้งครับ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ” พูดจบก็หันไปหากนกวรรณ “แม่ไปก่อนนะอ้อ แล้ววันนี้คงไม่กลับค่ำอีกนะ”
“ค่ะแม่”

พอลับหลังแม่ กนกวรรณก็เชิญเขานั่ง
“จะรับกาแฟก่อนมั๊ยคะอาจารย์”
“ไม่ต้องหรอกครับ จะเที่ยงแล้วด้วย เราไปหาอะไรทานข้างนอกกันดีกว่าครับ”
“ก็ดีค่ะ ท้องร้องยู่พอดี” กนกวรรณยิ้มหวานเอนหลังแล้วทำท่าลูบท้อง ธวัชชัยกลืนน้ำลายเอื๋อก เพราะท่าทางเอนหลังลูบท้องของเธอมันช่างเย้ายวนใจเขาพิกล กนกวรรณไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าผิดปกติของเขา หญิงสาวจัดการเก็บแฟ้มเอกสารจัดวางให้เรียบร้อย ก่อนจะลุกขึ้นหยิบกระเป๋ามาสะพาย
“เรียบร้อยค่ะ ไปกันได้แล้ว”
ธวัชชัยเดินมาเปิดประตูให้ก่อนจะก้าวตามออกไป

“ฉัตร ดูร้านไว้ก่อนนะ อ้อจะออกไปทานข้าวกับเพื่อน” หญิงสาวสั่งกับชายหนุ่มผู้ช่วยของเธอ
“ครับ.. แล้วคุณอ้อจะกลับมาอีกมั๊ยครับ”
“กลับค่ะ ประมาณไม่เกินบ่ายสอง ถ้ามีเรื่องด่วนก็โทรมาละกันนะ”
“ครับ” ฉัตรรับคำ

เขามองร่างของหญิงสาวที่เดินเคียงคู่กับอาจารย์หนุ่มออกไป นัยน์ตาของเขาเป็นประกายฉ่ำหวาน หากแต่เจือด้วยความเศร้า เขาทั้งรักทั้งหลงเจ้านายคนนี้มานานแล้ว แต่ด้วยฐานะที่ต่างกันมากมายทำให้เขาเจียมตัว ถึงฉัตรจะมีตำแหน่งอยู่บ้างในที่นี้ แต่เขาก็เป็นเพียงลูกน้องของเธอ ชายหนุ่มรู้ดีว่าครอบครัวของหญิงสาวนั้นร่ำรวยขนาดไหน กนกวรรณนั้นเหมือนดอกฟ้าที่อยู่สูงสุดเอื้อม ชาตินี้ทั้งชาติเขาคงจะไม่มีโอกาสได้เธอ ดังนั้น เขาจึงได้แต่เก็บซ่อนความรักเอาไว้ในใจ ไม่กล้าแม้แต่จะแสดงอะไรออกมาให้เธอรู้... สำหรับฐานะอย่างเขา ...แค่ได้เห็นได้ใกล้ชิดก็ชื่นใจพอแล้ว

“มองอะไรคะพี่ฉัตร มองไม่วางตาเลยนะ” แอน สาวสวยเอ่ยปากล้อเลียนเมื่อเห็นท่าทีผิดปกติของเขา
“มองอะไรเล่า แอน.. พูดอะไรบ้าๆ” เขาดุ
“แน๊...อย่าทำเส แอนรู้นะ”
“บ้าจัง ทำรู้ดี นั่นไปต้อนรับลูกค้าซิ เข้ามาแล้ว” เขารีบบอกเมื่อเห็นลูกค้าสาวสองคนเข้ามาในร้าน หัวใจของเขาเต้นระทึก รู้สึกหงุดหงิดตัวเองเล็กน้อยที่เผลอแสดงท่าทีผิดสังเกตุให้พนักงานสาวใน ร้านได้เห็น
..........

อาจารย์ชาตรีมองนมเบ้อเริ่มเทิ่มที่ถูกชุดนักศึกษารัดจนเห็นเป็นก้อนกลมๆอย่างอ่อนใจ
‘โอ้โฮ..ทำไมมันช่างใหญ่โตบ๊ะล๊ะก๋าขนาดนี้ แล้วเสื้อมันก็รัดเปรี๊ยะเสียเหลือเกิน แม่คุณเอ๋ย สงสารกระดุมจัง มันคงจะทำงานหนักน่าดู... อื้อฮือ... มันน่าขยำซะจริงๆ’ อาจารย์หนุ่มคิดอย่างมันเขี้ยว ขยับตัวไปมาอย่างอึดอัด

แนนกำลังอยู่ในอารมณ์ฉุนเฉียวสุดขีด จึงไม่ทันสังเกตท่าทีที่ผิดปกติของอาจารย์หนุ่มที่นั่งหื่นอยู่ตรงหน้า
“หมายความว่าไงคะอาจารย์ ทำไมหนูโดนลงโทษคนเดียว แล้วพี่แพมล่ะคะ” เธอโวยวายลั่นห้อง
แต่หามีคำตอบจากอาจารย์หนุ่มไม่ หน้าของเขาแดงก่ำ หอบหายใจแรง และเหงื่อออกโทรมเต็มหน้า นักศึกษาคนนี้หน้าตาคมขำดีเหลือเกิน ผิวก็ขาวจั๊วะ...
“อาจารย์...อาจารย์คะ” เธอเรียกย้ำหลายครั้ง
“หา...ว่าไงนะ”
“หนูสงสัยว่า ทำไมหนูโดนลงโทษคนเดียว ทำไมพี่แพมไม่โดนอะไรเลย” แนนถามย้ำอีกครั้งอย่างหงุดหงิด
“เพราะจากพยานที่เห็นเหตุการณ์ เค้ายืนยันว่าคุณเป็นคนก่อเรื่องก่อนน่ะซิ”
“แต่พี่แพม ก็ทำร้ายร่างกายหนูด้วย อย่างน้อยเธอก็น่าจะต้องโดนทำโทษอะไรบ้าง”
“เรื่องการลงโทษนั้น ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหาร คุณไม่ต้องมาแนะนำ” อาจารย์ชาตรีพูดอย่างไม่พอใจ แต่สายตาไม่เคยละไปจากอกอวบๆที่ดันเสื้อจนแทบทะลักของเด็กสาว
“อ๋อ หนูรู้แล้ว พ่อของพี่แพมเป็นคนให้ทุนสนับสนุนที่นี่ ก็เลยไม่กล้าทำโทษใช่มั๊ยล่ะ”
“อ๊ะ อ๊ะ นี่คุณกำลังกล่าวหาอาจารย์นะ”
“แต่...”
“ไม่ต้องพูดแล้ว ออกไปได้ ไม่งั้นจะโดนทำโทษหนักกว่านี้” เขาตัดบท
แนนกัดฟันกรอดด้วยความเจ็บใจ หญิงสาวหันหลังเดินกระแทกส้นเท้าออกมาอย่างไม่พอใจ

พอประตูปิด อาจารย์ชาตรีก็เลื่อนตัวออกจากโต๊ะ

“ออกมาได้แล้ว”

หญิงสาวคนหนึ่งค่อยๆคลานออกมาจากใต้โต๊ะ เธอก็คือ ธัญรดา อาจารย์สาวเคราะห์ร้ายที่ถูกชาตรีกับภารโรงรุมข่มขืนนั่นเอง หญิงสาวสวมกระโปรงสีดำ เสื้อสีขาวของเธอถูกปลดกระดุมออกทุกเม็ด ทำให้สาบเสื้อแยกออกจากกันตลอดแนวเผยให้เห็นทรวงอกอวบอิ่มขาวผ่องโผล่ออกมา พลอมแพลมอย่างล่อตาล่อใจ กางเกงในของเธอกรอมอยู่ที่ข้อเท้า... นี่ถ้าน้องแนนยังอยู่คงจะต้องตกใจขนาดหนัก เพราะขณะที่เธอกำลังคุยอยู่กับอาจารย์ชาตรีนั้น ธัญรดากำลังใช้ปากช่วยสำเร็จความใคร่ให้เขาอยู่ที่ใต้โต๊ะ

ชาตรีมองหน้าสวยๆที่ผัดแป้งจนขาวนวลของอาจารย์ธัญรดาอย่างชื่นชม ช่างเป็นผู้หญิงที่สวยจริงๆ ผิวพรรณดีอย่างบอกไม่ถูก ไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอจะยอมเขาถึงขนาดนี้ ...ก่อนหน้าเธอยังเป็นผู้หญิงที่ไว้ตัว และดูจะสูงจนเกินเอื้อมสำหรับหนุ่มๆ ใครจะเชื่อว่าตอนนี้อาจารย์คนสวยจะมายืนโชว์วับๆแวมๆอยู่ตรงหน้า แถมทำทุกอย่างตามที่เขาสั่งอีกด้วย โอ...มันเหมือนกับฝันไปจริงๆ

"ไปนั่งบนโต๊ะ.ซิอาจารย์”เขาสั่ง

ธัญรดาลุกไปนั่งอยู่ที่โต๊ะ อาจารย์หนุ่มลุกขึ้นไปนั่งเคียงข้างเธอ มือของเขาโอบกอดเกาะกุมอยู่ที่ไหล่กลมมนของอาจารย์สาว ธัญรดาขยับตัวเล็กน้อย แต่ไม่กล้าขัดขืนอย่างจริงจัง ปล่อยให้เขาลูบคลำเนื้อตัวไปมาอย่างย่ามใจ อาจารย์ชาตรีก้มหน้า ลงไปดูดดื่มความหอมหวานจากปากของเธอ ลิ้นกวาดเข้าไปในริมฝีปากบางสวย มือข้างที่โอบกอดอยู่รัดร่างของเธอให้แนบชิดเข้ามา อาจารย์สาวตัวอ่อนระทวยไปในทันทีเมื่อเขาเริ่มใช้มือข้างหนึ่งขยำทรวงอกที่ อวบอิ่มของเธอ

“อืมมมม... นมอาจารย์ใหญ่เต็มไม้เต็มมือดีเหลือเกิน ..แข็งเป็นไตเลย”

ธัญรดาหน้าแดงซ่านเมื่อได้ยินคำพูดหยาบคายของเขา อาจารย์หนุ่มยังคงพึมพำ พลางคลึงเคล้นอกอวบๆไปมา แต่มันคงไม่สะใจพอ ดังนั้นเขาเลยจับอาจารย์สาวให้เอนหลังพิงไปที่อกของเขา แล้วสอดมือทั้งสองข้างเข้ามาขยำขยี้ก้อนเนื้ออ่อนหยุ่นทั้งสองข้างของเธอ อย่างเมามัน และหนักหน่วง มือเขาบีบบี้คลีงเคล้นไปมา แล้วก็กระชากเสื้อออก จนเต้านมขาวอวบอึ๋มที้งสองก้อนของเธอออกมาเด้งดึ๋งยั่วตาอยู่ข้างนอก อาจารย์ชาตรีหนุ่มนัยน์ตาวาวโรจน์ ร้องครางออกมาอย่างพอใจ มือทั้งคู่ขยำขยี้ก้อนเนื้อแท้ๆของเธออย่างมันส์มือ

“มันส์จริงๆเลย อูยยยย”

เขาพึมพำชมเชย ปากก็บดขยี้ไปตามใบหน้าและพวงแก้มขาวใส เสียงพึมพำเสียงครางประกอบกับการปรนเปรอของเขาทำให้หัวใจของอาจารย์สาวเริ่ม ปั่นป่วนพิกล เธอแหงนหน้ารับการระดมจูบ ขาเรียวสวยทั้งสองข้างขยับหนีบเสียดสีไปมา จนกระโปรงเลิกขึ้นไปเห็นต้นขาอ่อนผ่องละลานตา

อาจารย์หนุ่มทรุดตัวลงก้มหน้าโล้มลิ้นไปที่หัวนมของเธอ เม็ดเล็กสีชมพูนั้นแข็งตัวชูชันขึ้นสู้ขณะที่โดนลิ้นของเขาตวัดไปมา เขาดูดเม้มมันอย่างเอร็ดอร่อย มืออีกข้างก็ขยำขยี้ทรวงอกข้างที่ว่างอยู่คลึงเคล้นไปมาไม่ยอมหยุด ทั้งเต้าซ้ายเต้าขวาโดนขยำจนแทบจะแหลกเละไปกับมือของเขา

“อูยยยย...”

อาจารย์สาวร้องครางเริ่มบิดตัวดิ้นไปมา เขาลุกขึ้นยืนแล้วดึงเธอให้ลุกขึ้นตาม มือของเขาลดลงไปใต้กระโปรง ลูบคลำที่ก้นอวบงามกลมกลึงของเธอแล้วบีบขยำไปมา อาจารย์สาวขาสั่นระริกแทบจะทรงตัวไว้ไม่อยู่จนต้องยื่นมือไปยึดขอบโต๊ะเพื่อ ยันตัวไว้ เขาอ้อมไปนั่งด้านหลัง จับเธอโก้งโค้งแล้วเลิกกระโปรงขึ้นไปกองอยู่ที่เอว มือแหวกแก้มก้นที่เปล่าเปลือยเกลี้ยงเกลาทั้งสองข้างของเธอออก หม้อใบกะทัดรัดทะเล็ดออกมาใต้ก้นกลมอวบวับๆแวมๆเป็นเนื้อนูนโหนก อาจารย์หนุ่มยืนเป้าแข็งตุงจนแทบระเบิดกับภาพที่เห็น เขาเริ่มทำการสำรวจร่องหลืบลึกลับของธัญรดาต่อไปอย่างหื่นกระหาย... เริ่มด้วยนิ้ว.... ก่อนจะฝังหน้าลงโลมลิ้นไปที่รูน้อยๆนั้น พร้อมกับดูดเลียอย่างไม่รังเกียจ

“อุ๊ยย...อาจารย์ อย่าค่ะ...อย่า” ธัญรดาร้องอุทธรณ์ หน้าแดงซ่านด้วยความอาย แต่เขาหาสนใจไม่ ลิ้นนั้นตวัดไปมาอย่างชำนิชำนาญ อาจารย์สาวสะดุ้งเกร็งด้วยความเสียว เธอถึงกับตะปบมือไปจิกหนังศีรษะเขาจนจมูกจมลงไปที่ร่องก้นจนหายใจแทบไม่ออก เขาดูดเลียจนพอใจแล้วจึงจับเธอหันกลับมา

"ถลกกระโปรงขึ้นซิอาจารย์ ผมอยากจะดูหีคุณ"

เขาตั้งใจจะพูดหยาบๆกับเธอ มันช่างสะใจยิ่งนักที่ได้พูดอย่างนี้กับอาจารย์สาวคนสวยอย่างธัญรดา เขาชอบที่จะพูดย่ำยีเธอ เขาชอบที่จะเห็นท่าทางอับอายของเธอ มันช่างกระตุ้นอารมณ์หื่นๆของเขาได้อย่างประหลาด

เลือดสูบฉีดขึ้นไปทั่วใบหน้า จนหน้าขาวๆนั้นแดงระเรื่อ มือน้อยๆของเธอค่อยๆเลิกกระโปรงขึ้นสูง อาจารย์หนุ่มตาลุกวาวกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ถึงจะเคยเห็นมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่มันก็ยังสร้างความตื่นเต้นให้เขาอย่างสุดขีดเหมือนเดิม เขาอยากจะจ้องมองมันอย่างนี้ มองทั้งวันได้อย่างไม่รู้เบื่อ มันช่างสวยงามและเย้ายวนเสียเหลือเกิน..

ความสาวของธัญรดาเปล่าเปลือยเกลี้ยงเกลาด้วยฝีมือการโกนของเขาเอง เขายิ้มอย่างพึงพอใจ จับเธอให้ถ่างขาออกไปอีก
"เข้ามาใกล้ๆ" เขาสั่ง
อาจารย์สาวขยับเท้าเข้ามาทั้งๆที่ยังถ่างขาอยู่อย่างนั้น
"เอาขาวางบนเก้าอี้นี่"

เธอทำตามที่เขาบอก อาจารย์ชาตรียิ้มอย่างพอใจ เขาเอามือตะปบลงไปตรงโคกนูนอย่างแรงจนเธอถึงกับแอ่นก้นไปด้านหลัง

“ชอบมั๊ย” เขาถามขณะที่คลึงเคล้าไปมา อาจารย์สาวก้มหน้าเงียบไม่ยอมตอบ

อาจารย์หนุ่มก้มลงดูดดื่มความหอมหวานจากร่องหลืบของเธออย่างหิวกระหาย มือของเขาแหวกกลีบแคมทั้งสองข้างออก แล้วเอานิ้วเขี่ยไปที่ติ่งเนื้อเล็กๆที่ไวต่อความรู้สึกของเธอ
“อูยยยย.....”
อาจารย์สาวเผลอครางออกมา เพียงการตวัดโลมไล้ไม่กี่ครั้งก็เล่นเอาอาจารย์สาวผู้อ่อนประสบการณ์ตัวอ่อนระทวยแทบจะยืนไม่อยู่

“ขึ้นไปบนโต๊ะดีกว่าอาจารย์ ผมจะได้เลียหีคุณได้ถนัดๆ”

เขาว่าแล้วจับร่างอวบอึ๋มขึ้นไปนั่งบนโต๊ะ พร้อมกับแหกขาอาจารย์สาวออกจากกันจนอ้าซ่า อาจารย์สาวหลับตาปี๋ขณะที่เขาใช้นิ้วเขี่ยไปมาที่ติ่งเนื้อเล็กๆนั้น อาจารย์สาวสั่นสะท้าน สยิวกายออกมาอย่างอดไม่อยู่ หน้าสวยๆใสๆเริ่มบิดเบี้ยวเหยเกผิดรูป มือน้อยๆปัดผมที่เริ่มรุ่ยสลายออกมาปรกหน้า อาจารย์หนุ่มเขี่ยไปมองหน้าเธอไปอย่างหื่นกระหาย

"คุณเซ็กซี่เหลือเกินที่รัก รู้ตัวมั๊ย ว่าคุณน่ะเซ็กส์มากเลย ผมโชคดีจริงๆ"

เขาพึมพำอย่างพึงพอใจ อาจารย์สาวพุดไม่ออก เหงื่อเม็ดเล็กๆผุดพรายเต็มใบหน้านวลใส เธอแหงนหน้าครางออกมาเบาๆขณะที่อาจารย์ชาตรี ก้มหน้าลงไปดูดดื่มน้ำหวานของเธอต่อ แถมมือของเขายังจับขาของเธอให้แบะกว้างออกไปอีกทั้งๆที่มันก็ถ่างจนเกือบจะ เต็มที่อยู่แล้ว

“อืมมมม...หอมมาก... อร่อยมาก ชื่นใจจริงๆ ที่รัก”

เขาละใบหน้าออกจากความสาวเธอ พร้อมกับส่งนิ้วเข้าไปทำหน้าที่แทนลิ้น เขาเขี่ยติ่งเนื้อนั้นสลับกับขยับนิ้วดึงเข้าออกจากช้าๆนุ่มนวล แล้วเร่งสปีดขึ้นอย่างรวดเร็ว เสียงจ๊อบแจ๊บดังขึ้น เพราะน้ำหล่อลื่นของอาจารย์สาวเริ่มหลั่งออกมาเรื่อยๆ พร้อมกับกระฉอกออกมาตามจังหวะนิ้วเขา อาจารย์สาวบิดเกร็งร้องครวญครางลั่นอย่างลืมอาย อาจารย์หนุ่มยิ้มกริ่มจ้อมงมองใบหน้าของเธอตลอดเวลา เขาชอบเห็นหน้าสวยๆยามที่บิดเบี้ยวครวญครางของเธอยิ่งนัก มันช่างยั่วยวนสะใจเขาอย่างบอกไม่ถูก

ในที่สุดเขาก็ลุกขึ้นปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจนเปลือยเปล่า อาจารย์สาวลืมตาปรือขึ้นน้อยๆ พอเห็นสัดส่วนของเขาพองโตแผ่บานอย่างหื่นกระหายเต็มที่ก็หวาดหวั่น แม้เธอจะเคยเห็นเคยโดนมาแล้ว แต่เมื่อมันมาอยู่ตรงหน้าอีกครั้งมัน เธอก็ยังหวาดกลัวอยู่ดี

"ยังกลัวอีกอยู่หรืออาจารย์ เอาน่า โดนเอาบ่อยๆ เดี๋ยวก็ชอบ" อาจารย์หนุ่มพูดยิ้มๆ แล้วเขาก็ทำให้เธอประหลาดใจ ด้วยการลุกขึ้นไปนอนบนโต๊ะ
"มาซิคนสวย... ถ่างขาออกแล้วนั่งมาบนหน้าผมนี่"
"อุ๊ย" อาจารย์สาวอุทานหน้าแดงก่ำด้วยความอาย
"ผมบอกให้มานั่งบนนี้... เร็ว"
"ไม่เอา.. ดาไม่อยากทำ...อย่าให้ดาทำแบบนี้เลยค่ะ" เธออ้อนวอน
"อยากเจ็บตัวรึไง มาเร็ว"
อาจารย์สาวหน้าแดง อิดเอื้อนไปมา แต่ภายใต้การข่มขู่ของเขา ในที่สุดเธอก็ไม่กล้าขัดขืน จำเป็นต้องปีนขึ้นไปบนโต๊ะ แล้วแยกขาออกยืนคร่อมอยู่ตรงศีรษะเขา แต่เธอยืนอยู่นานเหมือนจะลังเล จนอาจารย์หนุ่มเริ่มรำคาญ
"นั่งลงมาซิวะ ชักจะโมโหแล้วนะโว๊ย" เขาตะคอก
นั่นแหละ เธอถึงจะยอมนั่งยองๆ ขยับให้ความสาวของเธอจ่ออยู่ตรงปากของเขา คิ้วเรียวสวยของเธอขมวดแอบค้อนเขาด้วยความไม่พอใจ ข้างฝ่ายอาจารย์หนุ่มพอเห็นความสาวที่ขาวเกลี้ยงเกลาจ่ออยู่ตรงหน้า ก็รีบสอดลิ้นเข้าไปในร่องหลืบของเธออย่างหิวกระหาย เขาตวัดลิ้นควานไปทั่วอณาบริเวณร่องหลืบที่เปียกชุ่มของเธออย่างพอใจ

ธัญรดาขยับก้นไปมาด้วยความเสียวสยิว ทั้งอับอายทั้งเสียวสะท้านปั่นป่วนไปหมดทั้งตัว มือของอาจารย์หนุ่มจับแก้มก้นของเธอแหวกออกแล้วไล้นิ้วไปที่รูน้อยๆที่ ขาวสะอาด ขณะที่ลิ้นยังจู่โจมอย่างชำนิชำนาญไม่หยุด อาจารย์สาวได้แต่นั่งบิดกายไปมาอยู่ตลอดเวลา

สักพักเขาผลักเธอขึ้นแล้วร้องว่า

"พอแล้วอาจารย์ ไปนั่งคล่อมบนควยผมได้แล้ว"

ไม่มีการขัดขืนใดๆ ธัญรดาทำตามที่เขาสั่งอย่างว่าง่าย เขาจับเธอกลับหลังหันหลัง อาจารย์สาวค่อยๆหย่อนก้นลงไป แล้วจับท่อนเนื้อให้จ่อตรงความสาวของเธอ พร้อมกับค่อยๆนั่งลงไป ปล่อยให้มันสอดเข้าไปช้าๆจนสุด มันคับตึงจนเธอรู้สึกแน่นไปหมด เขาเอื้อมมือมาจากด้านหลัง ขยำเต้านมอวบอั๋นของเธออย่างเมามัน

“อย่านั่งเฉยๆ ขยับตัวซิ” เขาสั่ง

อาจารย์สาวเริ่มขยับเขยื้อนขึ้นลงช้าๆ แล้วแรง เร็วขึ้นเรื่อยๆ คราวนี้อาจารย์หนุ่มถึงกับครางลั่นด้วยความเสียว มือขยำบีบเคล้นนมของเธอหนักขึ้นอย่างลืมตัว อาจารย์สาวก้มๆเงยๆ หลับตาปี๋ สะบัดหน้าจนผมกระจาย ปากก็ส่งเสียงครวญครางออกมาตลอดเวลา

“อูยยย...ยอด..ยอดด...คุณควบเก่งมาก...อูยยยย” อาจารย์หนุ่มครางลั่น

เขาดึงร่างเธอให้เอนหลังลง ทำให้เธออยู่ในสภาที่ต้องต้องแอ่นด้านหน้าไว้ ขณะที่ยังขยับขโยกไม่ยอมหยุด เต้านมอวบขาวนั้นสั่นกระเพื่อมอย่างรุนแรง ขาเรียวสวยทั้งสองข้างเกร็งเต็มที่

อาจารย์ชาตรีมองดูลำคอ แลแผ่นหลังที่ขาวผ่องของเธออย่างหลงใหล มันนวลเนียน ละเอียดขาวเป็นประกาย บอกให้รู้ว่าได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีจากเจ้าของ เขาลูบไล้ไปมา พร้อมกับดึงเธอเข้ามาลงสูดดมความหอมกรุ่นจากเนื้อขาวๆที่คอของเธอ หญิงสาวสั่นระริกครวญครางเมื่อเขาขยับเอวส่ายไปมาขณะที่เธอยังขโยกอยู่ มือของอาจารย์หนุ่มสอดกลับเข้ามามาคลึงเคล้นเต้านมเธออีกครั้งอย่างเมามัน

โอ..มันช่างอวบนุ่ม อ่อนหยุ่นเต็มไม้สบายมือดีเหลือเกิน เธอช่างหอมหวานไปทั้งตัว... น่ากินไปทุกส่วนจริงๆ

อาจารย์สาวเริ่มขยับเขยื้อนตัวช้าลงเหมือนกับจะหมดแรง เหงื่อออกโทรมเต็มไปหมดทั้งตัว ดังนั้นอาจารย์หนุ่มจึงเป็นฝ่ายที่ต้องที่ช่วยขยับเขยื้อนเด้งขึ้นแทน เขาาจับเอวของเธอไว้ พร้อมกับกระเด้าขึ้นไปอย่างหนักหน่วง ปากก็สูดร้องครวญครางอย่างสะใจ

หลังจากทำท่านั้นอยู่ได้อีกพักหนึ่ง อาจารย์หนุ่มก็เริ่มจะหมดแรงเพราะต้องออกแรงยกก้นของเธอขึ้นลงตลอดเวลา

“พอก่อนดีกว่าอาจารย์ ผมเมื่อยว่ะ เปลี่ยนท่ามั่งดีกว่า”

เขาว่าแล้วประคองเธอลุกขึ้นลงจากโต๊ะ จับอาจารย์สาวให้หันหลังไปเกาะขอบโต๊ะไว้ ส่วนตัวเขาขยับไปยืนด้านหลัง แล้วสอดเข้าไปในร่องหลืบของเธออีกครั้ง จากนั้นก็เริ่มกระเด้าอย่างหนักหน่วงในทันที

“ซี๊ดดด...อูยยยย....คับชิบเป๋งเลย..หีดีจริงๆ.” อาจารย์หนุ่มกระเด้าไปครวญครางไปอย่างเสียวซ่านในอารมณ์

อาจารย์สาวโดนล่อเข้าไปหลายท่าเล่นเอาตัวอ่อนระทวยไปหมด เสียวจนแทบจะขาดใจ ขาทั้งสองข้างสั่นระริก รู้สึกอ่อนปวกเปียกหมดเรี่ยวแรง อยากจะล้มตัวลงไปนอนกับพื้นอย่างเดียว แต่อาจารย์ชาตรียังไม่หายสนุก เขายึดเอวของเธอไว้ไม่ให้ดิ้นหนีพร้อมกับขยับกระแทกกระทั้นหนักหน่วงขึ้น เรื่อยๆตลอดเวลา

“อูยยย...เสียวมั๊ย..เสียวมั๊ยยย...อาจารย์” เขาพึมพำถามซ้ำไปซ้ำมา
“อูยยย..เสียว..เสียวค่ะ..ซี๊ด...” คราวนี้อาจารย์สาวเผลอตอบเสียงสั่นด้วยความลืมตัว เล่นเอาอาจารย์หนุ่มถีงกับยิ้มหน้าบานด้วยความพอใจ

ขาของอาจารยฺ์สาวขยับไปมาอยู่ตลอดเวลา บางครั้งก็อ่อนระทวยทรุดลงทำท่าจะล้มไปกับพื้น แต่อาจารย์หนุ่มช่วยดึงประคองเธอไว้ แต่เขาไม่เคยหยุดยั้งการขยับเขยื้อนกระแทกกระทั้นนั้นเลย อาจารย์สาวสะบัดหน้าเร่า เหงื่อแตกโทรมเต็มร่าง หน้าแดงก่ำด้วยเลือดที่สูบฉีดขึ้นมาหล่อเลี้ยงเต็มที่ พร้อมกับหอบหายใจแรง

ด้วยความหมดแรง ทำให้อาจารย์สาวก้มหน้าไปแนบกับพื้นกระจกบนโต๊ะ เขากระแทกกระทั้นจนหน้าเธอถูไถไปมา หญิงสาวแทบจะขาดใจตาย หมดแรงที่จะต่อต้าน ขัดขืน ปล่อยให้เขากระแทกกระทั้นอยู่ข้างเดียว

“อูยยย...มันส์...ชอบแรงๆแบบนี้ใช่มั๊ย ...ใช่มั๊ย ... ตอบซิ” เขาถาม
“ค่ะ..ค่ะ...แรง...แรงอีก...อูยยยย...ซี๊ด...” อาจารย์สาวครวญคราง

ชาตรียิ้มกริ่ม มือยึดจับอยู่ที่สะโพกของเธอ ดึงเข้าออกให้ผสานกับจังหวะการกระเด้าของเขา นมของเธอแกว่งไกวไปมา สั่นกระเพื่อมอย่างรุนแรงจนดูเหมือนจะหลุดออกจากเต้าเสียให้ได้ ตอนนี้ธัญรดาได้ถึงจุดสุดยอดไปสองครั้งแล้ว แต่อาจารย์หนุ่มยังไม่มีทีท่าจะเสร็จเลย เขาช่างอึดเหลือเกิน …

จากความเจ็บปวดในตอนแรกกลายมาเป็นความเสียว และจากความเสียวก็เริ่มกลับมาเป็นความเจ็บอีกครั้ง เพราะเธอโดนกระเด้าไม่หยุดอยู่เป็นเวลานาน ตอนนี้เธอทั้งแสบและเจ็บระบมไปหมดแล้ว เธอเริ่มออกอาการดิ้นรนเพื่อให้ร่างเปล่าเปลือยหลุดพ้นจากการกระเด้าอย่าง หนักหน่วงไม่ยอมหยุดของเขา แต่ก็ดูจะเป็นการเพิ่มความสนุกสนานให้กับอีกฝ่ายหนึ่งด้วยซ้ำ

“อาจารย์.... ดาไม่ไหวแล้ว พอเถอะ...ได้โปรด...”
“อุยยยย...พอได้ไง..ผมยังไม่ถึงเลย..แต่....อาจารย์ดิ้นอย่างนี้ก็ดี..ดิ้นเข้าไป ดิ้นเข้าไป..อย่างนี้ผมชอบ..อูยยยย”

อาจารย์สาวเจ็บแสบไปหมดทั้งความสาว ร่ำไห้จนน้ำตานองหน้า ร้องวิงวอนให้เขาหยุด แต่เขากลับกระแทกกระทั้นอย่างรุนแรงหนักหน่วงขึ้น ราวกับว่าเสียงวิงวอนของเธอจะช่วยกระตุ้นอารมณ์หื่นกระหายให้เขาอย่างแปลก ประหลาด

ร่างอวบอั๋นของอาจารย์สาวถูกพลิกคว่ำพลิกหงายอยู่ตลอดเวลา ตัวของเธออ่อนแรงหมดสภาพ เงียบกริบปล่อยให้เขากระหน่ำกระแทกอย่างสะใจ กว่าที่เขาจะเสร็จเธอก็อ่อนระทวยไปหมดทั้งตัว ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะลุกขึ้นแต่งตัว..

มันเป็นเวลาเย็น แสงแดดอ่อนๆสาดผ่านแนวพุ่มไม้เข้ามาในบริเวณริมสระน้ำ ปริษากำลังนอนพักผ่อนอยู่ที่เตียงผ้าใบริมสระน้ำส่วนตัว หญิงสาวสวมนอนหลับพริ้มอย่างสบายใจ

“สวัสดีค่ะ คุณแม่ “ เสียงลูกสาวคนเล็กดังขึ้น “นี่อาจารย์ธวัชชัย อาจารย์ของหนูค่ะ” กมลวรรณแนะนำ เพื่อนชายให้กับเธอ

ปริษาได้ยินเสียงลูกสาวคนเล็กก็ลืมตาหันมามอง แล้วเธอก็สะดุ้งเมื่อเห็นว่าอาจารย์หนุ่มที่กมลวรรณแนะนำนั้นก็คือผู้ชายที่ ไปหากนกวรรณที่ร้านอัญมณีนั่นเอง

ธวัชชัยเองก็ตกใจไม่แพ้กัน แต่กระนั้นก็ไม่ยอมเสียมารยาท รีบยกมือไหว้
“สวัสดีครับ คุณน้า”
“สวัสดีค่ะ” ปริษารับไหว้ คิ้วขมวดมุ่น

ธวัชชัยกลืนน้ำลายเอื๊อก เมื่อพบว่าปริษาอยู่ในชุดว่ายน้ำสีขาวสะอาด ชุดว่ายน้ำนั้นรัดรูป จนเห็นทรวงอกอวบอัดขนาดใหญ่ ช่วงคอของชุดว่ายน้ำนั้นคว้านลึกจนเห็นร่องอกเบียดชิดขาวลออ... เอวของเธอคอดกิ่ว.. ต้นขาอวบใหญ่ขาวนวลเนียน และเหนืออื่นใด ที่ตรงกลางเหนือต้นขานั้นอวบอูมนูนเป็นพลูโหนกนูนอย่างเหลือเชื่อ!

ปริษาไม่ทันสังเกตท่าทีของเขา ด้วยอยู่ในอาการงุนงง... เธอเป็นคนบอกให้กมลวรรณพาเพื่อนชายมาแนะนำเอง แต่หญิงสาวคาดไม่ถึงว่าคนที่มาจีบลูกสาวคนเล็กของเธอ จะเป็นคนเดียวกับที่ไปหาลูกสาวคนโตของเธอ ...นี่เขาจะจีบใครกันแน่

“จะเล่นน้ำกันใช่มั๊ย งั้นก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันก่อนซิ” ปริษาร้องสั่ง เธอยังไม่อยากซักไซ้เขาเรื่องนี้ หญิงสาวไม่อยากให้ลูกสาวต้องเสียใจ

“ค่ะคุณแม่” กมลวรรณรับคำ แล้วหันไปพยักหน้าชวนชายหนุ่มไปเปลี่ยนชุด

..........

“ช่วยผมหน่อยนะหวาน ผมไม่ไหวแล้วจริงๆ” ธวัชชัยระล่ะระลักบอก
กมลวรรณนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขา กางเกงในของชายหนุ่มโป่งพองดันกางเกงอาบน้ำตัวจิ๋วจนเห็นเป็นลำ กมลวรรณอับอายจนหน้าแดงฉาน ตัดพ้อ
“ทำไม.. ทำไมพี่ต้องบังคับให้หวานทำแบบนี้... พี่ไม่รักหวานเลย”
“เปล่า..ไม่ใช่อย่างนั้น... หวานก็รู้ว่าพี่ออกไปอย่างนี้ไม่ได้ หวานต้องช่วยพี่”
“แต่หวาน...หวานไม่เคยทำแบบนี้เลย”
“พี่จะสอนให้ ก่อนอื่นดึงกางเกงอาบน้ำพี่ลงก่อน” เขาสั่ง

กมลวรรณเอื้อมมืออันสั่นเทาเข้าไป ดึงมันลงมา หญิงสาวหลับตาปี๋ ขณะที่มันเด้งดึ๋งออกมาเป็นอิสระ
“อย่าหลับตาสิหวาน ลืมตาขึ้นมามอง หวานต้องทำมันนะ”

เด็กสาวค่อยๆลืมตาช้าๆ มองมันอย่างหวั่นเกรง ไม่เคยเลยที่เธอจะเห็นมันชัดๆอย่างนี้ มันผงาดง้ำอยู่ตรงหน้า หัวบานอย่างน่ากลัว ดวงตากลมโตของเธอระริกด้วยความพรั่นพรึง

ธวัชชัยกำลังอยู่ในอารมณ์กระสันปั่นป่วนเป็นที่สุด เขาไม่อาจบอกให้กมลวรรณรู้ได้ว่าทำไมเขาจึงเกิดอาการอย่างนี้ มันเป็นเพราะแม่ของเด็กสาวเองที่กระตุ้นอารมณ์เขาให้ลุกโชนเหมือนลูกโป่งที่ ถูกอัดลมจนแทบระเบิด...

ผู้หญิงที่เติบโตเต็มวัยใบหน้าหวานพราวเสน่ห์...
ผู้หญิงที่งามสง่า ลำคอระหง ผิวขาวลออตา...
ผู้หญิงหุ่นอวบอัดในชุดว่ายน้ำสีขาว เต้านมล้นหลามจนแทบทะลัก...
โอ...เขาทนไม่ไหวแล้ว...
เขาจำเป็นต้องระบายออก....

“อ้าปากออก แล้วค่อยๆ เลียให้พี่ก่อน ช้าๆ”

กมลวรรณ ฝืนใจยื่นหน้าเข้าไปหามัน แตะเข้าไปที่ผิวของมันก่อน จากนั้นก็ค่อยๆไล้ปลายลิ้นลงไป กลิ่นของมันคาวแตะจมูก เธอรู้สึกคลื่นไส้ในลำคอ ถอนใบหน้าออก หอมหายใจหนักๆ

“พี่คะ หวานจะอาเจียน” กมลวรรณตัดพ้อ ดวงตาแดงก่ำพร้อมจะร้องไห้ออกมาทุกขณะ...


หลง #10
..........

แม้จะโหมกระหน่ำอยู่กับกมลวรรณ แต่จินตนาการของเขาล่องลอยไปถึงแม่ของเธอ “ปริษา” โคกสวาทที่โหนกนูนอยู่ใต้ชุดว่ายน้ำสีขาวนั้นกระจ่างอยู่ในมโนสำนึก อยากรู้จริงๆว่า ความสาวที่ซ่อนอยู่ระหว่างต้นขาขาวผุดผาดนั้นจะงามสะพรั่งอยู่แค่ไหน หัวใจของเขาเต้นโครมครามร้อนระอุไปหมด เขาอยากเห็นมันจริงๆ เขาอยากจะดึงผ้าส่วนนั้นออก แล้วจะเพ่งมองไปทุกซอกทุกมุม จากนั้นก็จะใช้นิ้วลองคะเนความตื้นลึกดู โอ.. ปริษาคนสวย ทำไมคุณจึงเสน่ห์แรงบาดใจเขาได้มากถึงขนาดนี้...

“อูยยยย...คุณน้า...ผมอยากเอาคุณน้าเหลือเกิน ..ใจผมจะขาดอยู่แล้ว...อูยยย..”

ชายหนุ่มแอบเพ้อพร่ำครวญครางอยู่ในใจ เขาอยากจะตะโกนออกมาดังๆด้วยความอัดอั้นตันใจ แต่ก็ทำไม่ได้ด้วยเกรงว่ากมลวรรณจะรู้ว่าเขาคิดไม่ดีกับแม่ของเธอ...

แต่เสน่ห์ของปริษาทำให้เขาหยุดคิดถึงไม่ได้.... ความต้องการในตัวเธอดูจะทวีมากขึ้นเป็นร้อยๆพันๆเท่า โดยเฉพาะในขณะที่กำลังโหมกระหน่ำใส่ปากลูกสาวของเธออยู่แบบนี้!

ธวัชชัยโหมจังหวะเต็มเหนี่ยว ในที่สุดกระแสแห่งความสุขก็โบยบินไป มันพุ่งเข้าไปในปากของเด็กสาวจนเธอสำลัก เขากดศีรษะเธอไว้แน่นไม่ให้เธอคายออก แต่มันล้นทะลักออกมาตามริมฝีปาก ไหลย้อยลงมาตามคาง...

สักพักเขาจึงยอมให้เธอถอนใบหน้าออก…

หญิงสาวรีบลุกขึ้นวิ่งกลับไปในห้องน้ำ เสียงร่ำไห้ เสียงอาเจียนโครกครากดังลั่นออกมา....

..........

ภายในอณาบริเวณลานต้นลีลาวดี หญิงสาวในชุดนักศึกษาคนหนึ่งกำลังเหม่อมองไปที่สระน้ำของมหาวิทยาลัย น้ำตาไหลพรากๆอย่างไม่ขาดสาย บอกให้เห็นถึงอาการเศร้าเสียใจอย่างล้นเหลือ

อาจารย์ธวัชชัย.... เขาเป็นชายคนแรกและคนเดียวของเธอ เธอทั้งรักและภักดีต่อเขา ยอมมอบทั้งกายและใจ แต่เขาไม่ซื่อสัตย์ต่อเธอเลย

ดูเอาเถอะเกิดเรื่องร้ายแรงขนาดนี้ เขาจะโทรมาปลอบโยนซักนิดก็ไม่มี หายหัวไปไหนก็ไม่รู้ ….

ความรักของอาจารย์ธวัชชัยนั้น...
เหมือนพระจันทร์ในน้ำ...
เหมือนหมอกควันในอากาศ..
มองเห็นได้..แต่ไม่อาจไขว่คว้าได้จริง..
ผู้หญิงคนไหนปล่อยใจให้ “หลง”
ก็มีแต่จะเจ็บช้ำใจ....


บัดนี้หญิงสาวได้รู้ซึ้งแล้วว่า เขาไม่ได้รักเธอและห่วงเธอเลย เขาคบกับเธอก็เพียงแค่จะหลอกฟันเท่านั้นเอง หญิงสาวเจ็บใจเหลือเกิน แต่จะโทษใครล่ะ ก็ตัวเองที่โง่เขลาหลงไปกับคำหวานของเขา...

หญิงสาวคิดสะเปะสะปะ โกรธอาจารย์หนุ่ม แล้วเลยไปโกรธถึงรุ่นพี่คู่กัด

พี่แพมก็เหมือนกัน เป็นถึงดาวมหาลัย มีผู้ชายมาให้เลือกตั้งเยอะ ทำไมถึงต้องมาแย่งคนรักของเธอ

โลกนี้มันจะหาคนดีๆซักคนไม่ได้เลยรึไง...

“น้องแนนครับ พี่ขอนั่งด้วยคนนะครับ”
เสียงนุ่มนวลดังขึ้น

“พี่จิ” หญิงสาวอุทาน รีบหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดน้ำตา จากนั้นก็หยิบกระเป๋ามาสะพาย ทำท่าจะลุกขึ้น แต่จิรพนธ์คว้าข้อมือเธอไว้
“เดี๋ยวซิครับ นั่งคุยเป็นเพื่อนพี่ซักครู่ได้มั๊ยครับ”
เสียงของเขานุ่มนวลและแฝงแววเว้าวอน ทำให้เธอยอมที่จะนั่งต่อ
“พี่สงสารแนนเหลือเกิน” เขาเอ่ยขึ้นเบาๆ พลางหันไปมองเธอ

แต่หญิงสาวยังคงเหม่อมองไปที่สระน้ำราวกับอยู่เพียงลำพัง
จิรพนธ์รู้ดีว่าเธอกำลังฟังเขาอยู่
“พี่ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมอาจารย์ธวัชชัยจึงทำแบบนี้กับแนน”

หัวไหล่ของเธอไหวสะท้านเบาๆ ซึ่ง จิรพนธ์สังเกตเห็นอย่างชัดตา ชายหนุ่มรู้ว่าคำพูดของเขาโดนใจเธออย่างแรง

“อาจารย์ไม่ควรทำแบบนี้เลย พี่เจ็บใจแทนแนนเหลือเกิน เขาทำอย่างนี้กับคนที่น่ารักแบบน้องแนนได้ยังไง” เขาพูดย้ำ
หญิงสาวหันมามองหน้าเขา ดวงตาของเธอวาววามและคลอด้วยหยาดน้ำ
“สวยเหลือเกิน” ชายหนุ่มคิดในใจ

“พี่จิคิดอะไรอยู่คะ นี่มันเรื่องส่วนตัวของแนน”
“ก็เพราะพี่จิเป็นห่วงแนนไง” เสียงของเขาจริงจัง จนเธอรู้สึกหวั่นไหว
หญิงสาวหันกลับไปมองสระน้ำอีกครั้ง

“ตัดใจจากอาจารย์เถอะแนน ถ้าแนนไม่หลอกตัวเอง ก็น่าจะรู้ว่าอาจารย์ไม่ได้รักแนนเลย”
หญิงสาวหันขวับมาจ้องหน้าเขา ริมฝีปากของเธอสั่นระริก
“พี่จิจะมาเยาะเย้ยแนนหรือคะ” ดวงตาเธอจ้องหน้าเขาเหมือนจะคาดคั้น
“ตรงกันข้าม พี่ต้องการจะปลอบโยนแนนต่างหากล่ะ”
หญิงสาวหยิบกระเป๋ามาสะพายอีกครั้ง
“นั่งคุยกับพี่เถอะ” เขาวอนอีกครั้ง “ถ้าอยู่คนเดียวจะยิ่งคิดมาก พี่ขอรับรองว่าพี่หวังดีต่อแนนอย่างจริงใจ พี่ทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นแนนเศร้าแบบนี้” เขาหยุดไปชั่วครู่ แล้วกล่าวต่อ “พี่รู้ว่า ตอนนี้ คำพูดอะไรตอนนี้ก็ยากที่จะทำให้แนนหายเศร้า แต่แนนจะต้องตัดใจ หาอะไรทำ จะได้ไม่ต้องคิดวนเวียนอยู่กับเรื่องนี้”
“แต่แนน แนนไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรแล้วพี่จิ แนนทุกข์ใจเหลือเกิน”
ชายหนุ่มแอบยิ้มในใจ ในที่สุดหญิงสาวก็ยอมระบายความในใจกับเขา

“ก็เพราะว่าแนนรักอาจารย์จริงๆไงล่ะ ผู้หญิงก็อย่างนี้เวลารักใครจะรักจริงแบบไม่เหลือใจไว้ให้กับตัวเองเลย”
“แล้วผู้ชายไม่เป็นอย่างนี้หรือคะ”
“ก็แล้วแต่คน.. แต่ที่แน่ๆอาจารย์ธวัชชัยไม่ใช่คนแบบนี้ ไม่งั้นเขาคงไม่รานน้ำใจแนนแน่ๆ”
หญิงสาวขบริมฝีปากตัวเองจนห้อเลือด เธอเห็นด้วยกับจิรพนธ์

“ไอ้แมนมันจะจัดงานปาร์ตี้พรุ่งนี้ พี่อยากจะชวนแนนไปด้วย ไปสนุกเฮฮา ซะบ้าง รับรองว่าเดี๋ยวก็ลืมอาจารย์ได้”
“แต่แนนอยากจะอยู่คนเดียวมากกว่า” หญิงสาวพึมพำ
“แล้วก็เอาแต่ร้องไห้ล่ะซิ” เขาดุเธอเหมือนกับเธอเป็นเด็กๆ “ไม่ได้ พี่จะยอมให้แนนเป็นแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว พรุ่งนี้ พี่จะไปรับแนนตอนเก้าโมงเช้า เราไปเที่ยว ดูหนังอะไรให้สบายก่อน แล้วตอนค่ำก็ไปงานปาร์ตี้กัน” เขาพูด
“ไม่ได้หรอกค่ะ พี่จิ ตอนเช้าแนนมีเรียน ถึงบ่ายสองเลย”
“ก็ได้ ถ้างั้นบ่ายสองพี่ค่อยมารับแนน” เขาพูดเองเออเอง จนหญิงสาวงง
“มาเถอะ ไปทานข้าวกัน แล้วพี่จะไปส่ง” เขายื่นมือมาให้
แนนส่งมือให้เขา ปล่อยให้จิรพนธ์พาเธอไปที่รถ

..............................................

“แนน พี่อยู่นี่” จิรพนธ์ร้องเรียกเมื่อเห็นแนนเดินออกมาจากอาคารเรียน เขามารอเธออยู่สิบกว่านาทีแล้ว
“ขอโทษนะคะพี่จิ แนนออกมาช้าไปหน่อย”
“ไม่เป็นไรครับ พี่เพิ่งมาถึงไม่นาน น้องแนนทานข้าวกลางวันรึยัง”
“ทานแล้วค่ะ”
“งั้นเราไปดูหนังกันก่อนดีกว่า กว่าหนังจะจบก็ใกล้เวลางานพอดี”
“ให้แนนกลับไปเปลี่ยนชุดก่อนดีมั๊ยคะพี่จิ”
“ไม่ต้อง ไม่ต้อง” จิรพนธ์รีบโบกไม้โบกมือห้าม “ชุดนักศึกษาอย่างนี้ดีแล้ว งานปาร์ตี้แบบสบายๆ คนกันเองทั้งนั้น ไม่ต้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เสียเวลา”

จากนั้นจิรพนธ์ก็พาหญิงสาวไปขึ้นรถ ตลอดเวลาชายหนุ่มเทคแคร์เธอเป็นอย่างดี ทำให้แนนลืมความทุกข์ไปชั่วขณะ หญิงสาวรู้สึกซึ้งในน้ำใจเขาเหลือเกิน จิรพนธ์ไม่เพียงแต่จะเป็นชายหนุ่มที่หน้าตาดี แต่เขายังเป็นสุภาพบุรุษ เอาใจเก่ง พูดเพราะ เขาพาเธอไปดูหนัง เสร็จก็ชวนเธอไปเดินช็อปปิ้งที่ห้างแห่งหนึ่งเพื่อฆ่าเวลา และเมื่อเห็นเธอสนใจอะไร เขาก็ซื้อให้โดยที่เธอไม่ได้ร้องขอ หญิงสาวเกรงใจเขายิ่งนัก แต่จิรพนธ์ก็คะยั้นคะยอให้เธอรับไว้จนได้

จิรพนธ์ช่างเป็นชายหนุ่มที่วิเศษเหลือเกิน ต่างกับอาจารย์ธวัชชัยลิบลับ!

..............................................

แล้วเวลางานก็มาถึง จิรพนธ์พาเธอมาที่บ้านหลังหนึ่ง มันเป็นบ้านสองชั้นขนาดใหญ่ มีอณาบริเวณกว้างขวางพอสมควร มีโรงรถสำหรับจอดรถได้ถึงสี่คัน ซึ่งถูกจอดเต็มหมด แถมยังเลยมาจอดบนถนนอีกสามคัน รถแต่ละคันถ้าไม่ใช่สปอร์ท ก็เป็นรถหรูราคาแพงทั้งสิ้น ซึ่งบอกให้รู้ว่าแขกที่มาในงานปาร์ตี้ล้วนแต่เป็นคนมีฐานะดีกันทั้งสิ้น เสียงเพลงในบ้านเปิดดังลั่น จนได้ยินมาถึงข้างนอก

“มาเถอะ” จิรพนธ์ชวนเธอ ในขณะที่กดรีโมทล็อครถเสร็จเรียบร้อย

เขาพาเธอขึ้นบันไดสองสามขั้นมาถึงหน้าประตู

เขาผลักประตูเปิดออก แล้วหันไปยิ้มให้เธอ
“เชิญครับ”

หญิงสาวยิ้มตอบแล้วเข้าไปในห้อง แต่พอสายตากวาดมองเข้าไปเห็นสภาพในห้อง ก็ตกตะลึงพรึงเพริด

สัมผัสแรกที่ได้รับก็คือกลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่อบอวลเต็มไปหมด ภายในห้องมีชายหนุ่มอยู่เกือบสิบคน แต่เธอรู้จักอยู่เพียงสามคนเท่านั้น ทุกคนอยู่ในอากัปกิริยาแตกต่างกัน บางคนกำลังนั่งดูทีวี บางคนกำลังเต้นอย่างสนุกอย่างสุดเหวี่ยง บางคนกำลังนั่งล้อมวงกินเหล้า สูบบุหรี่

ผู้ชายเหล่านั้นบางคนก็แต่งตัวดี...
แต่ก็มีบางคนนั่งเปลือยกายท่อนบน...
ในขณะที่บางคนสวมกางเกงในตัวเดียวเท่านั้น!!!

ทุกคนหันมามองเธอเป็นตาเดียว ก่อนที่เสียงโห่ร้องด้วยความดีใจจะดังจนลั่นห้อง

“มาแล้วหรือครับ น้องแนน”
“น่ารักจังเลย น่ารักที่ซู๊ด”

แนนตกใจแทบสิ้นสติ ขณะกำลังจะหันมาต่อว่าจิรพนธ์ ชายหนุ่มก็ยกเท้าถีบเปรี้ยงไปที่ก้นกลมกลึงจนเธอเซถลาเข้าไปในห้อง

“ว๊ายยยยย”

หญิงสาวกรีดร้องลั่นห้อง ถลาล้มลงไปกระแทกพื้นอย่างรุนแรง

จิรพนธ์ปิดประตูล็อคทันที!

“เฮ้ย ไอ้จิ มึงอย่ารุนแรงกับน้องเค้าซิวะ ไอ้ห่า”
ชายหน้าตาดีร่างใหญ่คนหนึ่งตวาดด่าไอ้จิ แล้วเดินเข้าไปประคองนักศึกษาสาวเคราะห์ร้ายให้ลุกขึ้นจากพื้น
น้องแนนตัวสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว
“พี่..พี่จะทำอะไรแนน”
ชายร่างใหญ่ก้มลงหอมแก้มน้องแนนดังฟอด
“น้องแนนเห็นมั้ยว่าพวกพี่น่ะมีกันแปดคน ถ้าพวกพี่รุมข่มขืนน้องแนนพร้อมกันละก็ เห็นทีน้องแนนไม่หีฉีกก็หีบาน รับรองได้”
“พี่ พี่อย่าทำแนนเลย พี่ๆอยากได้เงินกันใช่มั้ย เดี๋ยวแนนจะหามาให้ ปล่อยแนนไปเถอะ”

ไอ้จิตะโกนว่า
“พี่เอก จะไปเสียเวลาคุยทำไมวะ เอาแม่งไปข่มขืนเลยดีกว่า พวกผมเงี่ยนกันแล้วนะโว้ย”
เสียงฮือฮาเห็นด้วยดังเอะอะไปหมด ไอ้เอกต้องตวาดดังๆ
“มึงเงียบเลยไอ้จิ กูไม่เบิร์ดกระโหลกมึงก็บุญแล้ว หนอยเสือกมาถีบน้องแนนกู”

พูดจบก็หันมาคุยกับน้องแนนซึ่งยืนตัวสั่นไม่หยุด
“เงินของน้องแนนน่ะพี่เอกไม่เอาหรอก พวกพี่มีตังกันทั้งนั้น แล้วยังจะแบ่งให้น้องแนนด้วย ถ้าน้องยอมให้พวกพี่ทั้งแปดคนเย็ด น้องแนนแค่ช่วยเด้ง ช่วยดูดให้พวกพี่ๆเท่านั้นเอง พี่เอกรับปากจะให้พวกมันทำกันแบบนุ่มนวล และจะให้ตังน้องแนนด้วย...”
น้องแนนร้องไห้ พยายามวิงวอนต่อ
“พี่เอก แนนไม่อยากได้ตัง ปล่อยแนนเถอะพี่เอก”
“ปล่อยไม่ได้ พี่ให้น้องเลือกได้สองทางแค่นั้น คือโดนแบบรุนแรง หรือโดนแบบนุ่มนวล คิดดูนะน้องแนน เอ้า พี่รับปาก พี่จะเก็บเงินพวกมันคนละห้าพัน รวมกันก็สี่หมื่น ไม่ใช่น้อยนะน้องแนน น้องแนนก็ไม่ได้ซิงๆซะหน่อย โดนอาจารย์ธวัชชัยเย็ดมาแล้ว นี่น้องแนนได้ตั้งสี่หมื่นแลกกับการโดนพวกเราเย็ดแค่แปดคนนี่คุ้มยิ่งกว่า คุ้มอีกนะน้องแนน”

“พี่เอก...แต่แนนไม่ไหวหรอกแปดคนน่ะ แนนไม่ไหวจริงๆ พี่เอก อย่าทำแนนเลย...”
ไอ้เอกหัวเราะอย่างใจเย็น กล่อมต่อ
“คือน้องแนนโดนเย็ดอยู่แล้วหละ แต่พวกพี่น่ะอยากให้น้องแนนสนุกด้วยมากกว่า ไม่อยากให้น้องแนนต้องเจ็บตัว เอาละพี่จะถามเป็นครั้งสุดท้ายเพราะพวกเพื่อนๆพี่เริ่มหงุดหงิดกํนแล้วเห็น มั้ย”
น้องแนนกวาดตามอง ก็เห็นจริงตามที่ไอ้เอกบอก ใจเต้นโครมคราม เข่าอ่อนแทบทรุดลงกับพื้น รู้ตัวว่ายากที่จะรอดไปได้แล้ว
ไอ้เอกยิ้มกริ่ม
“เลือกมาว่าอยากโดนรุมทีละ8ควย หรือจะให้ความร่วมมือพร้อมกับรับตังสี่หมื่น” ไอ้เอกถามเสียงเฉียบขาด

น้องแนนรู้ว่าสถานการณ์แบบนี้ยังไงก็ไม่รอดพวกมันไปได้ ถ้าพวกมันรุมจริงๆหอยของตัวเองจะต้องพังยับเยิน ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ยอมให้พวกมันเอาแล้วรับตังยังดีกว่า จึงกัดฟันตอบ
“แนน....แนน ยอมก็ได้ค่ะ พี่เอก...พี่เอกรับปากแนนแล้วนะคะว่าจะไม่ทำให้แนนเจ็บ”

เสียงไชโยโห่ร้องดังลั่นห้อง ทั้งแปดคนล้วนแต่เป็นนักศึกษา มีฐานะดีกันทุกคน ไม่มีใครอยากรุมข่มขืนเธอแบบรุนแรง เพราะถ้ามีเรื่องมีราวอาจเสี่ยงกับคุกตารางโดยไม่จำเป็น เมื่อน้องแนนรับปากยอมให้รุมแลกกับเงิน มันก็สวรรค์เท่านั้นเอง... เงินคนละห้าพันสำหรับพวกนี้แล้วถือเป็นแค่เศษเงินเท่านั้น เมื่อแลกกับการได้เย็ดนักศึกษาสาวๆ สดๆ อย่างน้องแนน มันคุ้มยิ่งกว่าไปเอากระหรี่ หรือสาวคาราโอเกะเป็นร้อยๆพันๆเท่า

“น้องแนนสุดยอดเลย”
“ใจถึงจริงๆ”
“น้องแนน น่ารักที่ซู๊ดดดดด”

เสียงชมเชยดังกันเซ็งแซร่ ไอ้เอกรีบปรามให้เงียบลง พร้อมกับออกคำสั่ง
“เอาละ ถ้างั้นเรามาปรึกษากันก่อนโว๊ย เข้าไปพร้อมๆกันน้องแนนตายห่าแน่”
“เอาไงล่ะพี่เอก” ไอ้แมนเจ้าของสถานที่ถาม “เอาไงก็เอาอย่าชักช้า”
“ในฐานะที่กูศึกษาตำราพิชัยสงครามของซุนวูมา กูจะจัดขุมกำลังเอง พวกมึงฟังให้ดี” ไอ้เอกคุย “พวกเราต้องแบ่งเป็นสองผลัดโว๊ย ผลัดละสี่คน ผลัดแรกประกอบไป ไอ้จิ ไอ้แมน ไอ้อ๊อด แล้วก็กู ส่วนผลัดสอง ประกอบไปด้วย ไอ้เต่า ไอ้เบี้ยว ไอ้เหม่ และไอ้วิน”

“อ้าว เฮ้ยพี่เอก งี้ก็ไม่ยุติธรรมซิวะ ผมมันทหารกล้า ต้องอยู่ผลัดแรก เอาไปไว้ผลัดสองได้ไง” ไอ้เต่าโวย
“กูแบ่งยุติธรรมแล้วโว๊ย ไอ้จิเป็นคนพาน้องแนนมา ไอ้แมนเป็นเจ้าของบ้าน ไอ้อ๊อดเป็นคนคิดแผน ส่วนกูเป็นหัวหน้า ไม่ยุติธรรมได้ไงวะ”
ไอ้เต่าอึ้ง
“เอาละมีใครข้องใจกันอีกมั้ย”
ไม่มีใครคัดค้าน เพราะเหตุผลของไอ้เอกฟังขึ้น มันเป็นคนที่ยุติธรรมเสมอจึงได้รับการนับถือจากเพื่อนร่วมก๊วนทุกคน

“ถ้างั้นเริ่มต้นได้ ผลัดหนึ่งแก้ผ้าเตรียมตัวไว้ ผลัดสองจัดเตรียมสนามรบด่วน เดี๋ยวนี้เลย”

ทุกคนทำตามอย่างรวดเร็ว ไอ้จิ ไอ้แมน ไอ้อ๊อดรวมทั้งไอ้เอกพากันถอดเสื้อผ้า ส่วนไอ้เต่า ไอ้เบี้ยว ไอ้เหม่และไอ้วิน จัดการไปยกเตียงขนาดโคตรคิงไซส์มาตั้งไว้กลางห้อง พอทุกอย่างเรียบร้อย ร่างอวบอึ๋มของน้องแนนก็ถูกยกขึ้นไปวางบนเตียง

ไอ้เอกถลาไปที่ร่างของนักศึกษาสาวเคราะห์ร้าย จัดแจงหญิงสาวให้นอนห้อยขามาที่ขอบเตียง พร้อมกับถลกกระโปรงสั้นจู๋ของหญิงสาวขึ้นไป จากนั้นก็ฝังหน้าลงไปซุกไซร้สูดดมอยู่ที่เป้ากกน.ตัวน้อย สีขาว ลายการ์ตูนน่ารัก
“อึ๊ยยย หีน้องแนนหอมจริงๆ” ไอ้เอกร้องออกมาดังๆ
ไอ้สามตัวที่เหลือถลาขึ้นมานั่งบนเตียงตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ทุกคนช่วยกันลูบไล้ คลึงเคล้นไปตามร่างกายของหญิงสาว น้องแนนรู้สึกเหมือนมีมือเป็นสิบๆ ลูบคลำขยำไปทุกๆส่วน ไม่รู้มือใครเป็นมือใคร บางคนก็คลำเบาๆ แต่บางคนก็บีบหน้าอกเธอแรงๆ แถมบางคนหยิกแก้มเธออีก
“โอ๊ยย เบาๆค่ะพี่ เบาๆ แนน เจ็บ” หญิงสาวร้องอุทธรณ์
“เฮ้ยเบาๆหน่อยโว๊ย เดี๋ยวน้องแนนช้ำ” ไอ้วินทหารผลัดสองซึ่งจับตามองด้วยความเงี่ยน ร้องโวยวายขึ้นเพราะกลัวร่างของน้องแนนจะแหลกเหลวไปก่อนที่จะถึงคิวพวกมัน

“น้องแนนนี่นมใหญ่เต็มไม่เต็มมือจัง ขอพี่จิดูให้ชัดๆหน่อยนะ” ไอ้จิว่า
จากนั้นมือทั้งหกข้างก็ช่วยกันปลดกระดุม ดึงโน่นดึงนี่ ไม่นานท่อนบนของหญิงสาวก็เปลือยเปล่าล่อนจ้อน
“โอ้โฮ ดอยอินทนนท์” ไอ้แมนร้องตะโกน
“ไอ้เหี้ย ดอยอินทนนท์ที่ไหนมันจะขาวโพลนขนาดนี้วะ ไอ้แบบนี้มันต้องภูเขาไฟฟูจีโว๊ย 5555” ไอ้จิว่า
ทุกคนหัวเราะชอบใจ ส่วนหญิงสาวเคราะห์ร้ายได้แต่นอนหน้าแดงซ่านใจเต้นโครมคราม จากนั้นก็รู้สึกว่านมของเธอถูกบีบขยำจากไม่รู้กี่มือต่อกี่มือ แก้ม ใบหู ตลอดจนใต้วงแขน ก็ถูกหน้าใครไม่รู้ซุกไซร้เข้ามาเต็มไปหมด หญิงสาวเริ่มรู้สึกปั่นป่วนกระสันรัญจวนอย่างห้ามไม่หยุด ฉุดไม่อยู่
“อืมมม อูยยยยย” น้องแนนร้องครางออกมาเบาๆ
“เสียวแล้วหรือน้องแนน” ไอ้แมนถามเสียงหวาน
หญิงสาวไม่กล้าตอบ หลับตาพริ้มตัวสั่นระริก
“น้องแนน นี่ฮ๊อมหอม ผิวก็ค๊าวขาว ชืนใจพี่จิจริงๆ อูยยยยย” ไอ้จิครวญครางเสียงกระเส่าหลังจากระดมจูบไปที่ซอกรักแร้ “กลิ่นเต่าหอมชื่นใจ”
ไอ้จิร้องออกมาดังๆเรียกเสียงหัวเราะชอบใจจากทุกคนดังลั่นห้อง
“อูยยย นมทั้งใหญ่ทั้งแข็ง มันส์มือชิบเป๋งเลยโว๊ย” ไอ้อ๊อดร้อง
“หิวนมจัง... ขอลูกดูดนมหน่อยนะแม่จ๋า” ไอ้แมนว่า แล้วก้มลงไปดูดเม้มหัวนมของเธออย่างไม่รั้งรอ
“ถ้างั้นลูกอ๊อดขอข้างนี้ละกัน ขอดูดด้วยคนนะจ๊ะ แม่จ๋า” ไอ้อ๊อดว่าเล้วก้มลงไปดูดนมข้างที่ว่างอยู่อย่างรวดเร็ว
“เฮ้ย ไอ้เหี้ย แล้วกูจะลงตรงไหนวะเนี่ย” ไอ้จิบ่นพึมพำเมื่อเห็นโมจิขนาดมหึมาทั้งสองข้างโดนจับจองไปหมดแล้ว เมื่อกวาดตาขึ้นมาเห็นหน้าขาวใสของน้องแนนบิดเบี้ยว ร้องครวญคราง ก็เกิดความเสียวซ่าน ก้มลงไปประกบปากเข้าไปทันที กลิ่นของเธอหอมกรุ่น มันสอดลิ้นเข้าไปแลกน้ำลายกับเธอเป็นพัลวัล จากนั้นก็ดูดลิ้นของเธอแรงๆ
ไอ้เต่าทหารผลัดสอง จ้องมองจนเป้ากางเกงตุงแทบขาด ทนไม่ไหว ค่อยๆย่องเข้ามา จากนั้นก็ทรุดตัวลงนั่งคุกข่า ถอดรองเท้าของเธอออก แล้วก้มลงเลียนิ้วหัวแม่โป้งของเธออย่างไม่รังเกียจรังงอน
“อูยยย หอมขนาดนิ้วเท้ายังหอมเลย”
ไอ้เบี้ยวเห็นไอ้เต่าเป็นทหารผลัดสองแท้ๆแต่ได้รุมหญิงสาวก่อน ก็รู้สึกเสียเปรียบ ดังนั้นรีบเข้าไปหาเท้าที่ยังว่างอยู่อีกข้างของน้องแนน จากนั้นก็เลียนแบบไอ้เต่า ถอดรองเท้าเธอออก แล้วก้มลงหอมไปตามฝ่าเท้าของเธอ สลับกับการดูดนิ้วเสียงดังจ๊วบๆ

ตอนนี้เสียงครวญคราง เสียงพึมพำดังลั่นห้องไปหมด!

หญิงสาวโดนรุมกระหน่ำจากทุกทิศทุกทาง ทำให้สติกระเจิดกระเจิง ปั่นป่วนไปหมดทั้งตัว ร่างบิดสะบัดไปมา ตัวเกร็งกระตุกร่างสั่นระริก ไม่รู้ว่าโดนถอดกางเกงในไปตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แต่ว่าขณะนี้ที่ความสาวของเธอกำลังถูกลิ้นใครไม่รู้ลากไล้ไปมาตามร่องของ เธอขึ้นๆลงๆ
“อูยยย.......... อูยยยยย.......... ซี๊ดดดดดดดดดด......... อูยยยยยยยยยยยยย........ อูยยยยยยยยยยย.........” หญิงสาวร้องครวญครางดังลั่นอย่างไม่อายอีกต่อไปแล้ว
“หีน้องแนนหอมมั๊ย พี่เอก” เสียงไอ้จิถาม
“หอมชิบหายเลยว่ะ แถมตอดลิ้นกูอีก แม่งเด็ดสุดๆ” ไอ้เอกตอบเสียงกระเส่า
“เอาได้แล้วครับ พี่เอก เดี๋ยวผมจะได้เอามั่ง” ไอ้แมนว่า
“เดี๋ยวซิวะ กูอยากกินน้ำของน้องแนนหน่อย อูยยยย น้ำเงี่ยนไหลเต็มเลยน้องแนน” ไอ้เอกคราง พลางเลียเข้าไปแผล่บแผล่บ
“หอมหวานจังเลย หลั่งออกมาเยอะอีก น้องแนน” ไอ้เอกว่า
“เฮ้ย พี่เอก ขอผมบ้างซิ” ไอ้จิว่า
ไอ้เอกถอนใบหน้าออก ปล่อยให้ไอ้จิเข้าไปเลียหอยน้องแนนบ้าง
ไอ้แมนเงยหน้าออกจากนมของน้องแนน พอเห็นปากของเธอว่าง มันก็ขยับเข้าไปหาทันที พร้อมกับจ่อท่อนเนื้อของมันเข้าที่ปากของน้องแนน
นักศึกษาสาวรีบเม้มปากแน่น
“ดูดให้พี่หน่อยนะ น้องแนนคนเก่ง” ไอ้แมนว่าพร้อมกับถูไถไปที่ริมฝีปากบางของเธอ
น้องแนนส่ายหน้า เม้มปากแน่น ไม่กล้าพูดอะไร เพราะกลัวมันจะยัดเข้าปากเธอ หญิงสาวมองเห็นหัวมันบานร่าอย่างน่าหวาดหวั่น แถมยังมีน้ำเหนียวๆไหลยืดลงมาบนริมฝีปากเธออีก ที่สำคัญกลิ่นของมันรุนแรงเหลือเกิน แต่เพราะการถูกรุมคลึงเค้นไปทั้งเนื้อตั้งตัวแบบนี้ มันก็ยากที่เธอจะทนได้ ไม่ช้าเธอก็ต้องอ้าปากส่งเสียงร้องครวญครางออกมาอีกจนได้ เมื่อรู้สึกว่าติ่งเนื้อที่ไวต่อความรู้สึกกำลังถูกลิ้นใครไม่รู้ตวัดเลีย ปลุกเร้าอย่างชำนิชำนาญ
ไอ้แมนได้ทีรีบยัดท่อนเนื้อลงไปทันที
“อ๊อก อ๊อก อ่า อ่า” หญิงสาวร้องครางอู้อี้ พยายามจะดันมันออก แต่มีหรือที่ไอ้แมนจะยอมมันกดหัวลงไปแน่นพร้อมกับร้องว่า
“ดูดให้พี่หน่อยซิครับน้องแนน ดูดหน่อยดรับ อูยยยยยย” มันว่าพร้อมกับค่อยๆสาวเข้าออกช้าๆ

“พอแล้วไอ้จิ ตากูมั่ง” ไอ้เอกดึงไอ้จิออกมา พร้อมกับซุกหน้าเข้าไปแทนที่
ไอ้จิขยับขึ้นไป จับมือของนักศึกษาสาวเคราะห์ร้ายมาที่ท่อนเนื้อของมัน
“ชักว่าวให้พี่หน่อยนะ” มันว่า
หญิงสาวกำลังอยู่ในความกระสันรัญจวน โดนเล้าโลมทั้งมือ ทั้งปาก เคล้าคลึงไปทุกส่วนของร่างกาย ใจแทบจะขาดด้วยความเสียวอยู่แล้ว พอเกาะกุมโดนของไอ้จิเท่านั้นก็ตัวอ่อนระทวยราวกับขี้ผึ้ง ขยับข้อมือรูดไปมาให้มันอย่างลืมตัว
“อูยยย อย่างนั้น น้องแนน อูยยยยยย เสียววว อูยยยยยย” ไอ้จิร้องครวญครางเมื่อหญิงสาวเริ่มขยับข้อมือถี่เร็วยิ่งขึ้น

น้องแนนหนาวสะท้านไปทั้งตัว นี่คือสถาณการณ์ที่เร่าร้อนที่สุดในชีวิตที่หญิงสาวเคยเจอ มันต่างจากการเย็ดกับอาจารย์ธวัชชัยอย่างเทียบไม่ติด ทุกอย่างเหมือนกับความฝัน... จากความตื่นตระหนกหวาดกลัวในครั้งแรกกลายเป็นความกระสันรัญจวนที่เร่าร้อน แผ่ซ่านไปทั้งๆตัว ความรู้สึกความเสียวไหลซึมออกมาไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะเมื่อกำลังโดนใครคนหนึ่งเอานิ้วชักเข้าออกในหอยของเธออยู่แบบนี้ แถมไม่ใช่นิ้วเดียวอีก มันสองสาม สี่ หรือห้านิ้ว เธอก็ไม่อาจจะทราบได้ เพราะตอนนี้สติเธอกระเจิดกระเจิงไปถึงไหนถึงไหนแล้วก็ไม่รู้....

“อูยยย อูยยยยย เร็ว.... เร็ว...อีก อูยยยยย” หญิงสาวร้องครวญครางบิดกายไปมาราวกับโดนทุบหัว

เสียงกระฉอกดังลั่นห้องเมื่อน้ำของเธอกระเซ็นตามนิ้วออกอยู่ตลอดเวลา ยิ่งนานก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆดูมันจะมากมายราวกับจะไม่มีวันหมด ร่างสั่นระริกไปกับความรู้สึกที่ได้รับ ติ่งเนื้อของเธอนั้นเต้นเร่าไปตามแรงกระซวกนั้น โอย เธอจะขาดใจตายอยู่แล้ว....................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขออนุญาดแอดมินนะครับ
ฝากซีรี่ เรื่องเสียวซีรีย์เกย์ รัก กามรมย์
http://www.tunwalai.com/story/238309

เล่าเรื่องเสียวเกย์ รัก กามรมย์
http://www.tunwalai.com/story/234926/

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น