เมื่อสิ้นเสียงประกาศสาวงามคนที่สามผ่านเข้ารอบ ผู้ชมต่างปรบมือเกรียวกราวและรอฟังน้ำเสียงของแต่ละนางในการตอบคำถาม ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้นี้โดยมีพิธีกรคู่ชายหญิงเดินเข้ามา สาวงามทั้งสามต่างยิ้มประชันกันอย่างสุดเหวี่ยง แต่ดูเหมือนจะมีสาวงามคนที่สามนับจากด้านขวาถูกใจผู้ชมมากที่สุด ข้อสำคัญหล่อนเป็นสาวต่างถิ่นที่ข้ามจังหวัดมาประชันโฉม โดยมีสาวตรงกลางเป็นมารเวทีที่มาจากถิ่นกำเนิดเดียวกับหล่อน ที่กำลังยืนยิ้มไม่ยอมหุบเพื่อพิชิตใจกรรมการ
“ เวลาอันระทึกก็มาถึงแล้วนะครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเวลาผมจะให้สาวงามหมายเลขสามเป็นเลือกซองคำถามก่อนนะครับ ” พิธีกรชายยื่นซองให้สาวงามคนแรกเลือก
ซึ่งสาวคนแรกนั้นเป็นสาวงามเจ้าของถิ่น แต่ดูเหมือนผู้คนในตำบลแห่งนี้ไม่ค่อยชอบหน้าหล่อนซะเท่าไร เพราะหน้าของหล่อนพอไปวัดไปวาได้ แต่เหตุไฉนหล่อนจึงผ่านมาถึงรอบชิงผู้คนในท้องถิ่นล้วนไร้ข้อกังขาเพราะรู้ดีว่าหล่อนเข้ามาได้อย่างไร
“ ผมจะอ่านคำถามแล้วนะครับ ถ้าเกิดคุณเป็นลูกสาวนายกรัฐมนตรีคุณจะช่วยผู้เป็นพ่อบริหารงานบ้านเมืองด้านไหนได้บ้างครับ ”
สาวงามท้องถิ่น นามว่ากุลสตรี ฉวีวิไล เบิกตาขึ้นครุ่นคิดชั่วครู่ก่อนเปล่งวาจาออกมา
“ ถ้าเกิดดิฉันเป็นลูกสาวนายกรัฐมนตรี ดิฉันจะติดตามคุณพ่อไปทุกหนทุกแห่งเพื่อโชว์ตัวให้ประชาชนได้รู้ว่ามีลูกสาวสวยค่ะ แล้วก็จะตั้งมูลนิธิเด็กเพื่อรับเลี้ยงเด็กกำพร้า แล้วก็ดิฉันจะช่วยเหลือเด็กทีถูกรังแกจากผู้ใหญ่ แล้วดิฉันจะตั้งโรงเรียนไว้สอนเด็กขาดแคลนทุนทรัพย์และก็เด็กพิการค่ะ ” เมื่อหล่อนพูดจบก็ไหว้อย่างนอบน้อมอีกครั้ง มีเสียงปรบมือหน้าเวทีกลุ่มเดียวเท่านั้น ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่นญาติ ๆหล่อนนั่นเอง
เมื่อสาวงามเจ้าของถิ่นตอบคำถามเสร็จ ผู้ชมด้านหน้าได้แต่เบ้ปากแสยะยิ้ม บ้างก็จับกลุ่มนินทาหล่อนอย่างเป็นเรื่องเป็นราว
“ ปากก็หนา ดั้งก็แฟ่บ ไม่เห็นสวยเลย ” สาวนางหนึ่งที่หน้าตาไม่ได้แตกต่างจากสาวงามหมายเลขสามพูดขี้น
“ ใช่ ที่เข้ารอบเพราะเส้นแน่ๆ ก็เพราะพ่อหล่อนเป็นกำนันนี่ ” สาวที่ยืนข้าง ๆ พูดขึ้นบ้าง
“ มันอยู่แล้ว ตอบคำถามก็แสนจะเชย ทำเป็นคนดี แหมฉันรู้นิสัยของหล่อนดี นางคนนี้ไม่เห็นรักเด็กเลย โอ๊ยไม่อยากจะพูด ”
“ เหรอ แต่ฉันว่าเบอร์ สิบเก้า คนท้ายสุดสวยนะ มาไกลซะด้วยน่าจะได้ ”
“ ฮือ ใช่ ฉันก็ว่าอย่างเธอนั่นแหละ”
ทั้งสองคุยกันกำลังเพลินก็ต้องหยุดชะงักทันที เมื่อพิธีกรสาวเปิดซองอ่านคำถามให้หมายเลขสิบ ที่ยืนอยู่ตรงกลางรอตอบคำถาม
“ คำถามที่สองของหมายเลขสิบแล้วนะคะ ตื่นเต้นเหลือเกินดิฉันก็คาดว่าคุณลีลาวดี พรรณนาลาย ก็คงตื่นเต้นเหมือนกันใช่ไหมคะ”
“ ค่ะ ”หวานสาวงามหมายเลขสิบรับคำ ซึ่งในครั้งนี้หล่อนเปลื่ยนชื่อประกวดใหม่
“ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ดิฉันขออ่านคำถามเลยนะคะ ถ้าเกิดคุณได้ตำแหน่งนางงามจักรวาล คุณจะรณรงค์เพื่อช่วยมนุษยชาติด้านใดบ้างคะ”
สาวงามหมายเลขสิบซึ่งชื่อเล่นว่าหวาน รับไมค์มาจ่อที่ปากแต่ยังไม่ได้พูดอะไร หล่อนได้แต่ยิ้มให้กรรมการที่กำลังจ้องมองหล่อนอย่างจดจ่อ เมื่อหล่อนยิ้มให้ทุกคนเสร็จหล่อนจึงเริ่มพูดขึ้น
“ ถ้าเกิดดิฉันเป็นนางงามจักรวาล ดิฉันจะรณรงค์ให้เกิดสันติภาพ ดิฉันอยากเห็นสันติภาพอยากให้ประชาชนโลกมีความสุข ไม่อยากให้เกิดสงครามเพราะสงครามไม่ใช่ทางแก้ของปัญหาค่ะ” เมื่อหล่อนพูดจบเสียปรบมือพอประมาณ
“ นางงามกับสงครามช่างเข้ากันจริงๆ นะครับ” พิธีกรชายพลั้งเผลอปากพูดไปแบบไม่ทันคิด
“ ก็ใครล่ะทำให้เกิดสงครามถ้าไม่ใช่ผู้ชาย ผู้หญิงอย่างเราต้องหาทางแก้ซิ”
“ ใช่ จริงด้วย ผมขออ่านคำถามซองสุดท้ายของหมายเลขสิบเก้าของคุณศิริวรรณลาเลยก็แล้วกัน ถ้าให้คุณเลือกระหว่างผู้ชายหล่อแต่จนกับผู้ชายรวยแต่ไม่หล่อคุณจะเลือกใคร” พิธีกรชายรีบพูดขี้นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ
สาวงามหมายเลขสิบเก้ายกมือไหว้ท่านผู้ชมที่อยู่หน้าเวที หลังจากนั้นจึงรับไมค์มาแล้วก็พูดทันทีโดยไม่รั้งรอ ไม่เหมือนอย่างสาวงามสองคนก่อนหน้านี้ที่กว่าจะพูดได้ใช้เวลาพักใหญ่ ทั้งที่เป็นคำถามที่แทงใจดำของหญิงสาวยิ่งนัก ไม่ว่าตอบข้อไหนก็จะถูกมองในแง่ไม่ดีทั้งนั้น แต่หล่อนก็ต้องรีบตอบเพื่อจะได้ทำคะแนนทิ้งห่างสาวงามท่านอื่น
“ ผู้ชายรวยแต่ไม่หล่อค่ะ ในชีวิตลูกผู้หญิงคนหนึ่งที่เกิดมาก็อยากได้สามีที่สามารถดูแลเราได้ ถึงเขาจะไม่หล่อแต่ให้เราอยู่ได้อย่างไม่ลำบากและมีความสุข ถ้าเขารักเราและนิสัยดีด้วยถือว่าเราโชคดีมาก ค่ะ ส่วนผู้ชายหล่อไม่ใช่ว่าไม่ดีนะค่ะ ถ้าเขารักเราจริงเขาต้องพิสูจน์ตัวเองว่าเขาสามารถดูแลเราได้ และเรารักเขา ดิฉันก็พร้อมจะอยู่กับเขาได้ค่ะ แต่ถ้าในเวลานี้ขอตอบผู้ชายรวยแต่ไม่หล่อค่ะ” เมื่อหล่อนพูดจบเสียงปรบมือก็ดังเกรียวกราวทันที ดังมากแล้วก็ดังนานดังกว่าสาวงามสองคนแรก
คนดูต่างพูดถึงหล่อนในแง่ต่างๆ มากมาย ส่วนใหญ่จะลงความเห็นกันว่าเธอตอบคำถามดี เพราะถ้าตอบว่าผู้ชายหล่อแต่ไม่รวย เหมือนไม่จริงใจดูหลอกๆ อย่างเห็นได้ชัด แต่หล่อนก็ฉลาดที่จะตอบไปตามกระแสสังคม
ระหว่างรอผลคะแนนสาวงามทั้งสามจึงเดินเข้าไปหลังเวที โดยมีบรรดาพี่เลี้ยงมาประคบประงมอย่างใกล้ชิด ซึ่งสาวงามหมายเลขสามจะถูกเอาใจเป็นพิเศษ พี่เลี้ยงหลายนางต่างพัดหวีมือระวิงแต่หล่อนก็ยังไม่วาย ตวาดพี่เลี้ยงกระเจิงแถมมองสาวงามต่างถิ่นสองนางอย่างดูแคลน
สาวงามเบอร์สิบรู้สึกขุ่นใจการกระทำของสาวงามเจ้าของถิ่น จนเกือบเข้าไปตบแต่ก็ยังดีที่พี่เลี้ยงซึ่งเป็นน้าแท้ๆ ห้ามปรามไว้ ซึ่งผิดกับสาวงามตัวเต็งหมายเลขสิบเก้านามมะปรางซึ่งเป็นชื่อเล่นของหล่อน มีแต่ความนิ่งเฉยไร้การตอบโต้โดยมีพี่เลี้ยงซึ่งเป็นเจ้าของร้านเสริมสวยที่หล่อนทำงานยืนอยู่ข้างๆ
“ มะปรางรู้มั้ยว่าหนูตอบคำถามดีมากเลยนะ เพราะคำถามนี้เป็นคำถามปราบเซียน” พี่เลี้ยงนามราตรีพูดขี้น
“ จริงเหรอคะ แต่กรรมการเขาจะว่าหนูพูดดีหรือเปล่าก็ไม่รู้”
“ แน่นอนอยู่แล้ว น้าเห็นกรรมการหลายท่านทำหน้าพอใจหนูอยู่นะ”
“ ถ้าเป็นจริงอย่างนั้นก็คงจะดีมาก”
“ แน่นอนอยู่แล้ว” เจ๊ราตรีมองมะปรางอย่างเอ็นดู
ในขณะที่เจ๊ราตรีกับมะปรางพูดคุยกันอยู่นั้น พี่เลี้ยงของหวานนางงามเบอร์สิบซึ่งมาจากหมู่บ้านเดียวกันแอบมองมะปรางอยู่ห่าง ๆ ยิ่งเห็นมะปรางชัดๆ สินีพี่เลี้ยงและน้าของหวานหวั่นวิตกยิ่งนัก กลัวหลานสาวตัวเองจะพลาดท่าให้แก่มะปราง ซึ่งสวยคมผิวสีน้ำผึ้งยามขึ้นเวทีช่างงามสง่า ช่างแตกต่างกับหวานหลานสาวตัวเอง ที่ขาวปานหยวกกล้วย พอยามขึ้นเวทีเป็นรองมะปรางอย่างเด่นชัด
“ น้ามองนังมะปรางทำไม” หวานสะกิดแขนผู้เป็นน้าอยู่หลายครั้ง
“ ก็มองดูว่ามันจะสู้เองได้มั้ย”
“ ถ้ากรรมการไม่เข้าข้างมัน หนูได้อยู่แล้ว”
“ มั่นใจอย่างนั้นเชียว”
“ ค่ะ หนูมั่นใจมาก ว่าครั้งนี้ต้องชนะ ” หล่อนเชิดหน้าขึ้น
“ ถ้าเกิดไม่ชนะล่ะ”
“ ทำไมน้าแช่งหนูอย่างนี้ ” หล่อนปราดสายตามองที่น้าสาว
“ ก็พูดเผื่อไว้แค่นั้นเอง”
“ ถ้าเกิดมะปรางมันได้ มันต้องไปนอนกับกรรมการมาแน่นอนเลยค่ะ”
“ ไปว่าเขา” สินีรู้สึกสะอึกกับคำพูดของหวาน ที่กระทบใจหล่อนเพราะครั้งที่หล่อนยังสาวก็ทำเช่นเดียวกับคำพูดของหวาน
“ ไม่ได้ว่าหรอกค่ะ เรื่องจริง หนูรู้กำพืดมันดี ” หล่อนแอบมองมะปรางอย่างหยามเหยียด
“ เลิกพูดได้แล้ว ใกล้เวลาขึ้นเวทีแล้ว รีบๆ เตรียมตัวยิ้มแต่เนิ่น ๆ เถอะ”
“ หนูเบื่อจังไอ้รอยยิ้มที่น้าสอนหนูเนี่ย ให้พูดสิบสี่แล้วค้างไว้ ”
“ เบื่อก็ต้องทน ถ้าอยากได้มงกุฏ”
“ ค่ะ ค่ะ สิบสี่ ”หล่อนพูดแบบประชด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ขออนุญาดแอดมินนะครับ
ฝากซีรี่ เรื่องเสียวซีรีย์เกย์ รัก กามรมย์
http://www.tunwalai.com/story/238309
เล่าเรื่องเสียวเกย์ รัก กามรมย์
http://www.tunwalai.com/story/234926/
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น